Red Cliff 2 ( โจโฉแตกทัพเรือ 2 ) ... สามดาว ....
...................ภาคที่แล้วหนังปูรายละเอียดของตัวละครสำคัญ และไม่สำคัญเอาไว้ซะครบครัน แทบจะเรียกได้ว่าเป็นหนังมหากาพย์ที่ลงลึกในส่วนของการแยกแยะตัวละครได้ดีที่สุดเรื่องนึงเลยทีเดียว ซึ่งจริงๆผมเชื่อว่าหนังน่าจะตัดหรือลดบทบาทของตัวละครลงไปได้อีกมาก แต่อย่างว่า ด้วยคำว่า " สามก๊ก " ใหนๆจะทำแล้วถ้าจะไม่เล่าตัวโน้นตัวนี้ หรือไม่พูดถึงคนดังๆที่หลายๆคนเป็นแฟนอยู่ ก็คงจะทำร้ายจิตใจเกินไป ก็เลยไกล่เกลี่ยให้ความสำคัญเกือบๆจะเท่ากันถ้วนหน้า ซึ่งต้องบอกว่ามือเขียนบทเก่งมาก และทำงานหนักมากกว่าจะออกมาลงตัวได้ขนาดนี้ มาถึงภาคสองเนี้ย ต้องบอกว่าภาคที่แล้วมาถึงฉากจบเนี่ยเค้าปูทางมาให้พร้อมเปิดศึกผาแดงกันได้ทันที แต่ไฉน เปิดฉากภาค 2 มาแล้วยังจะเสียเวลาพิรี้พิไรกันไปทำไมไม่ทราบ ?
...................เห็นได้ชัดว่า จอห์น วู ก็ไม่ต่างจากผู้กำกับเอเซียหลายๆคนที่ทำติดจะออกแนวเสียดายของ ยิ่งด้วยความที่ลงทุนลงแรงไปเยอะ จะรวบรัดตัดตอนก็ใช่ที่ ก็เลยเก็บรายละเอียดมาซะเต็มเหนี่ยว คิดว่ามือตัดต่อก็คงไม่ค่อยมีพาวด้วยแหละ หรือเผลอๆ จอห์น วู ตัดต่อเองหรือเปล่า มันถึงได้ออกมายืดจนย้วยขนาดนี้ !! จริงๆแล้วถ้าตัดหนังภาคแรกให้สั้นลงกว่านี้สักหน่อยช่วงอธิบายตัวละคร แล้วไปใส่ฉากรบฉากสำคัญลงไปเลยท้ายของภาคแรก หนังจะกระชับสมบูรณ์แบบกว่าเอามายืดเป็นสองภาคอย่างแน่นอน จริงๆผมเชื่อว่าถ้ารวบจริงๆ สามชั่วโมงนิดๆก็ยังไหว หรือหั่นให้เหลือแต่เนื้อๆ ก็คิดว่าไม่เกิน สามชั่วโมงแน่นอน ซึ่งโดยปกติหนังมหากาพย์ของฮอลลีวู๊ด เค้าก็ทำให้อยู่ในเวลา ในกรอบที่พอเหมาะได้อยู่แล้ว แต่นี่ไม่รู้ว่าอยากโชว์ของ หรือว่านายทุนงก เก็บเงินรอบเดียวกลัวไม่หนำใจ หั่นสองตอนดีกว่า กะว่ารวยสองเด้ง !!
....................หัวใจของหนังภาคนี้ก็อยู่ที่ฉากรบทางน้ำเป็นหลักนั่นแหละครับ แต่กว่าจะถึงฉากสำคัญของเรื่อง หนังก็มัวมาเสียเวลากับการอธิบายตัวละครอีกรอบ ซึ่งก็ซ้ำซ้อนกับภาคแรก หลายๆฉากนี่พูดตรงๆไม่เข้าใจว่าจะใส่ลงมาทำไม อาทิฉากรำดาบ , ฉากกินของหวาน , ฉากเล่นฟุตบอล , ฉากคุณปลื้มวิ่งเล่น , ฉากละเมียดจิบชา ฯลฯ แม้แต่ฉากเจ้าเหว่ย ปลอมตัวเป็นสายลับในแดนข้าศึกนี่ตัดทิ้งไปก็ยังได้ นอกจากจะดูเยิ่นเย้อมากแล้ว ยังทำให้เรื่องราวดูไม่น่าเชื่อถืออีกด้วย ทำซะสงครามยังกะเป็นเรื่องเล่นสนุก !! แม้ตลอดเวลาของหนังอาจจะไม่ถึงกะง่วงเหงาหาวนอนก็ตาม แต่ก็ทำให้ผมแอบรู้สึกว่าเมื่อไหร่มันจะรบกันสักทีหว่า ? ผิดกับภาคแรกที่แม้จะมีฉากรบนิดเดียว แต่บรรยากาศสงคราม ความระทึกของเรื่องราว การชิงไหวชิงพริบของตัวละคร และเสน่ห์ของสามก๊กดูมีมนต์ขลังกว่าภาคสองอย่างเห็นได้ชัด
....................แม้จะติดยืดยาด เยิ่นเย้อไปบ้าง แต่เมื่อเข้าฉากสงครามเต็มตัว หนังมหากาพย์เรื่องนี้ก็ปล่อยทีเด็ดกันได้แบบเต็มที่ แม้ช่วงฉากรบเข้มข้นจะมีแค่ 1 ใน 3 ของเรื่องซึ่งอยู่ตอนท้ายก็ตาม แต่ก็ไม่ทำให้คนดูผิดหวังครับ เพราะนอกจากจะตื่นตา เร้าใจ สนุกสนาน แล้วยังแฝงแง่คิด กลยุทธที่น่าตะลึงเอาไว้เยอะทีเดียว ฉากสงครามโบราณดาดๆแม้จะเห็นมาไม่รู้กี่ครั้งในหนังเรื่องอื่นๆแต่ จอห์น วู ก็ยังพลิกแพลง โชว์ความแปลกใหม่ของการรบได้อย่างน่ามหัศจรรย์ ( อาทิการแปรขบวนทหาร , หรือการบุกเข้าตีป้อมค่าย ฯลฯ )
.....................เสียดายอย่างเดียวก็ตอนจบนี่แหละ คือไม่เข้าใจว่ากุนซือหรือแม่ทัพที่ชาญฉลาดขนาดนั้น ทำไมถึงเลือกที่จะปล่อยเสือเข้าป่า ?? หรือเค้าจะบอกว่า คนฉลาดก็ยังมีวันโง่ๆ แล้วสงครามที่รบกันมาจนตายเป็นแสนนี่ไม่ต้องมีใครรับผิดชอบเลยกระนั้นหรือ ? หรือพวกเค้ากลัวว่าอีกหน่อยบ้านเมืองจะขาดสมดุล ไม่มีใครออกมาท้ารบกันอีก ? ไม่รู้ว่าผู้รักสงบประเทศใหนที่ชนะศึกแล้วกลับปล่อยศัตรูผู้กระหายเลือดให้ลอยนวลออกไปจัดทัพมาตีตัวเองอีก หรือเพราะว่าหนังยึดตามตำราประวัติศาสตร์ที่บอกว่า ประวัติศาสตร์เปลี่ยนแปลงไม่ได้กันแน่หนอ ??
http://www.pandagroup.pantown.com/
แก้ไขเมื่อ 10 ก.พ. 52 20:43:27
Red Cliff 2 ..... ภาคส่วนขยายที่เยิ่นเย้อเกินความจำเป็นหรือเปล่า ??
