Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com


    SPOILER!!! อัศวินรัตติกาล ใน Bleach 345 - The Sloth -

    อาทิตย์นี้มีโอกาสได้อ่านจัมป์เร็วกว่ากำหนด เลยได้มีโอกาสเขียนเร็วกว่าปกติครับ :)

    เห็นชื่อตอนภาษาไทยที่ผมตั้งให้ ลองทายกันเล่นๆ ดูมั้ยครับว่าสภาพปลดปล่อยของอุลคิโอร่าจะเป็นใครหรือตัวอะไร หรือถ้าอยากรอลุ้นเอง ก็ลงไปอ่าน Spoil ข้างล่างกันได้เลยครับ :)








    เปิดตอนมาต่อจากตอนที่แล้วที่อุลคิโอร่าล่ออิจิโกะออกไปสู้กันนอกเขตลาส์ นอเช่เพื่อจะได้ปลดปล่อยดาบ

    ตัดฉากไปทางฝั่งของลูเคียที่กำลังรับมือกับรูดโบน หัวหน้าหน่วยเอ็กซีคิวต์ในสภาพปลดปล่อยดาบอยู่อย่างยากลำบาก แม้ว่าร่างจริงของอีกฝ่ายจะเป็นเพียงต้นไม้โครงกระดูกเคลื่อนไหวแทบไม่ได้ แต่ด้วยความสามารถ "คาลาเวรัส" (กองพันหัวกะโหลก) ที่เปลี่ยนผลหัวกะโหลกบนกิ่งก้านให้กลายเป็นนักรบในชุดอารันคาร์ที่มีศีรษะเป็นหัวกะโหลกได้ตลอดเวลา (แต่ละตัวรูปร่างแบบเดียวกับลูกน้องในหน่วยเอ็กซีคิวต์ของเจ้ารูดโบนเปี๊ยบ...สรุปว่าที่มันหน้าตาเหมือนกันทั้งหน่วยนี่คงเพราะเจ้าคาราบาวมันแปลงเป็นต้นไม้แล้ว spawn ออกมาให้ครบๆ โควต้าสินะ) ก็เล่นเอาลูเคียถึงกับหืดขึ้นคอ แม้ฝีมือของลูเคียจะอยู่ในระดับนักสู้ติดนัมเบอร์ของหน่วยยมทูต แต่ฝูงปีศาจที่เกิดจากผลหัวกะโหลกยิ่งมายิ่งหนุนเนื่อง ชนิดที่ฟันเท่าไหร่แช่แข็งเท่าไหร่ก็ยังงอกออกมาเรื่อยๆ ไม่รู้จบรู้สิ้น จำนวนที่ด้อยกว่าบวกกับความเหนื่อยล้าจากการต่อสู้ติดต่อกันเป็นเวลานาน ก็ทำให้ลูเคียเริ่มรับมือไม่อยู่

    "...ข้าได้รับความสามารถในฐานะเจ้าแห่งการสร้างนี้มาจากท่านไอเซ็น..." เจ้าหัวคาราบาวอวดอ้างสรรพคุณความสามารถตัวเอง "แม้แต่ข้าซึ่งมีความสามารถนี้ก็ยังไม่อาจเทียบชั้นกับเอสปาด้าได้... ฝูงลูกเจี๊ยบอย่างพวกท่านกลับอาจหาญต่อกรกับเอสปาด้า ช่างโง่เง่านัก..."

    ตอนนั้นเองที่กัมปนาทของเสียงระเบิดดังขึ้นจากฟากฟ้า รูดโบนชะงักคำพูดของตนลงเพียงแค่นั้น แล้วเงยหน้าขึ้นมองไปยังยอดบนสุดของปราสาทแห่งรัตติกาล ดวงตาที่โบ๋กลวงของหัวกะโหลกควายนั้นไม่แสดงอารมณ์อะไร มีเพียงกระแสเสียงเท่านั้นที่บ่งบอกถึงความหวาดกลัวและความปีติยินดีในคราเดียวกัน ด้วยรู้ดีว่าอะไรกำลังจะเกิดขึ้น ณ เบื้องบนนั้น

    "...โอ..." เจ้าหัวคาราบาวคราง "...นี่มัน...! ท่านอุลคิโอร่าทำลายเพดานยอดโดมหรือนี่...!"

    ไม่ใช่แค่เจ้ารูดโบนเท่านั้น แม้แต่อิชิดะกับโอริฮิเมะยังอดรนทนไม่ได้ต้องวิ่งออกมายืนดูตรงรูที่เกิดจากการต่อสู้ของอิจิโกะกับอุลคิโอร่า

    เด็กสาวได้แต่พึมพำอย่างเงียบงันถึงผู้ที่เธอเป็นห่วงมากที่สุดในการศึกครั้งนี้ "คุโรซากิคุง...!"



    ตัดฉากไปยังยอดโดมด้านนอกของลาส์ นอเช่ที่อิจิโกะกับอุลคิโอร่ายืนประจันหน้ากันอยู่

    "ภายใต้ขอบเขตแห่งลาส์ นอเช่มีข้อห้ามอยู่ 2 ข้อ" อุลคิโอร่าเอ่ยปากขึ้น "ข้อแรก...ห้ามใช้ "กรังด์ เรย์ ซีโร่" ซึ่งอนุญาตให้ใช้เฉพาะเอสปาด้าเท่านั้นภายใต้โดมของลาส์ นอเช่เด็ดขาด และข้อห้ามที่ 2... ห้ามเอสปาด้าตั้งแต่ลำดับ 4 ขึ้นไปปลดปล่อยดาบฟันวิญญาณภายในโดม... เพราะไม่ว่าอย่างไหน ก็ล้วนทรงพลังจนอาจทำให้ลาส์ นอเช่ถล่มลงมาได้..."

    พูดถึงตรงนี้ เอสปาด้าลำดับ 4 ก็ยกดาบคู่ใจของตนขึ้นชี้หน้าอิจิโกะ แล้วประกาศปลดปล่อยดาบทันที

    "จงพันธนาการ... มูร์ซิเอลาโก้ (เทพมารปีกดำ)"

    สิ้นคำประกาศปลดปล่อยดาบ ก็บังเกิดเสียงคล้ายลูกโป่งอัดน้ำแตกดังโพละ ของเหลวบางอย่างคล้ายหมึกสีเข้มสาดกระจายจากยอดสูง ณ ตำแหน่งที่อุลคิโอร่ายืนอยู่ โปรยปรายลงทั่วยอดโดมในบริเวณนั้นราวฝนห่าใหญ่

    แต่อิจิโกะไม่ได้นำพาต่อสายฝนสีดำนั้นเลย สายตาภายใต้หน้ากากฮอลโลว์นั้นจับจ้องอยู่ที่บางอย่างซึ่งปรากฏอยู่เหนือยอดหอคอยนั้นหลังหยาดฝนสิ้นสาย

    บางอย่างซึ่งคล้ายเงาดำขนาดมหึมา...กางแผ่ออกราวกับจะบดบังจันทร์เสี้ยวเหนือฟากฟ้าจนแทบมิด

    เบื้องหน้าเงาดำทะมึนนั้น คือร่างของเอสปาด้าลำดับ 4 ที่ปลดปล่อยดาบฟันวิญญาณเพื่อคืนสภาพสู่ร่างเดิมของตนแล้ว

    รูปร่างนั้นยังคงลักษณะเดิมของอุลคิโอร่า ซีเฟอร์ เอสปาด้าลำดับ 4 คนเดิมไว้ แต่ชุดที่สวมอยู่เปลี่ยนจากเสื้อแขนยาวกับกางเกงฮากามะสีขาวไปเป็นเสื้อคลุมสีขาวยาวกรอมเท้าลักษณะคล้ายเสื้อคลุมบาทหลวง เศษหน้ากากที่คล้ายหมวกเกราะคลุมศีรษะที่แตกครึ่ง เปลี่ยนไปเป็นหมวกเกราะแบบมีเขางอกยาวกางออกไปสองข้างศีรษะ บนแผ่นหลังมีปีกค้างคาวสีดำขนาดยักษ์งอกออกมา ความยาวของปีกแต่ละข้างคะเนด้วยตาแล้วคงไม่ต่ำกว่า 5 หรือ 6 เมตร

    ปีกมหึมาคู่นี้เอง คือตัวจริงของเงาดำที่ทอดยาวจนแทบบดบังดวงจันทร์

    ท่วงท่าราวกับเทพอสูรลงมาอวตารให้เห็นเบื้องหน้าของอุลคิโอร่า ทำเอาอิจิโกะถึงกับเบิ่งตาค้างมองดูอย่างตะลึงงัน...

    ต่อภาพอันงดงามเฉิดฉายท่ามกลางเงามืดแห่งราตรี...

    และต่อกระแสพลังอันอำมหิตที่อีกฝ่ายปลดปล่อยออกมา...

    "อย่าตัวสั่นสิ" เสียงเย็นชาของเอสปาด้าลำดับ 4 ดังขึ้น ปลุกให้อิจิโกะได้สติกลับมาตั้งท่าพร้อมสู้ในทันใด "อย่าคลายกระบวนท่า อย่าวอกแวก อย่าหวั่นไหวแม้แต่วินาทีเดียว"

    สายตาสองคู่ที่สะท้อนแววต่างกันต่างสบประสานเข้าด้วยกัน คู่หนึ่งจ้องเขม็งเตรียมพร้อมรับกระบวนท่า ส่วนอีกคู่เฉยชาไร้อารมณ์เป็นฝ่ายหาจังหวะออกกระบวนท่า

    แล้วฝ่ายที่จ้องอย่างไร้อารมณ์ก็เข้าโจมตีก่อน...

    รวดเร็วจนสายตามองตามไม่ทัน รวดเร็วจนประสาทหูไม่ได้ยินแม้แต่เสียงลมตัดผ่านปีก รู้ตัวอีกที อุลคิโอร่าก็บินพรวดจากตำแหน่งสูงกว่านับสิบเมตรมาอยู่ตรงหน้าของอิจิโกะแล้ว มือขวาที่ว่างเปล่าเรียกอาวุธคล้ายดาบแสงออกมาแล้วตวัดฟาด คมดาบห่างลำคอของอิจิโกะเพียงไม่ถึงครึ่งฟุต อิจิโกะใจหายวูบ จะฉีกตัวหลบออกก็ไม่ได้ จะเบี่ยงคอหลบก็ไม่ทัน ปฏิกิริยาตอบรับฉับพลันจึงทำหน้าที่แทนสมอง สั่งการให้อิจิโกะใช้ "เขี้ยวจันทราทะลวงสวรรค์" ตวัดสวนดาบของอุลคิโอร่าในชั่วเสี้ยววินาที

    เปรี้ยง!! เสียงดาบพลังวิญญาณสองเล่มปะทะกันดังสนั่นหวั่นไหว แระปะทะก่อให้เกิดคลื่นช็อคขนาดมหึมา แผ่วาบออกไปในอากาศทุกทิศทางเหมือนเครื่องบินเจ็ตออกตัว

    ร่างของอิจิโกะทรุดลงเข่ากระแทกพื้น หน้ากากฮอลโลว์ซีกขวาบนแตกหายไปทั้งแถบ เผยให้เห็นรอยแผลถูกฟันยาวเฟื้อยที่พาดผ่านใบหน้า

    "ตอบโต้กลับด้วยเขี้ยวจันทรางั้นรึ" อัศวินแห่งรัตติกาลเอ่ยปากอย่างเรียบเฉย ขณะหันกลับมาเผชิญหน้ากับอิจิโกะ "ตัดสินใจได้ดี เพราะถ้าไม่ทำแบบนั้น ป่านนี้หัวเจ้าคงกลิ้งอยู่แทบเท้าข้าไปแล้ว"







    "หวั่นใจชำรุด~ มนุษย์ค้างคาว~ หวั่นคนตื่นเช้าจะทำเธอให้เปลี่ยน~"

    ไม่รู้ทำไม เห็นร่างในสภาพปลดปล่อยของดาบอุลในตอนนี้แล้วนึกถึงเพลงนี้ขึ้นมาเลยครับ (แก่ไปรึเปล่านะ ^^;;; ) หวังว่าจะไม่มีคนบ้าจี้ เอาเพลงนี้มาทำมูวี่อนิเมชั่นตัดต่อเข้ากับช็อตเด็ดๆ ของดาบอุลกับโอริฮิเมะนะ (เกิดอุปาทาน เห็นดาบอุลเป็นแบ็ทแมน เห็นอิจิโกะตอนใส่หน้ากากเป็นโจ๊กเกอร์ แล้วเห็นโอริฮิเมะเป็นราเชล ดอวส์ แฟนของแบ็ทแมน แล้วทั้งแก๊งค์ก็มาเล่นมิวสิควิดีโอเพลงมนุษย์ค้างคาวกัน...เลิกคิดดีกว่าแฮะ = =;;; )

    เห็นร่างจริงแกแล้วเข้าใจเลยว่าทำไมดาบแกถึงผิวซีดนัก (ก็แหม เป็นค้างคาวออกหากินกลางคืนไม่ได้เจอแดดนี่นะ ผิวมันก็ต้องซีดเป็นธรรมดา เหอๆๆ) แต่เป็นสภาพปลดปล่อยที่เท่มากๆ เลยล่ะครับ เห็นอิเมจแล้วทำให้นึกถึงแวมไพร์ในเรื่อง Underworld  ภาค 3 นี่เลย โดยเฉพาะชุดคลุมยาวๆ คล้ายชุดบาทหลวงนั่น (คล้ายๆ ตัวที่พ่อนางเอกใส่ให้เห็นในตัวอย่างหนังนั่นแหละ แต่ของเรื่องนั้นเป็นสีดำ แล้วลวดลายก็อลังการกว่านี้ แต่เสื้อคลุมของดาบอุลจะดูเรียบๆ กว่า)

    ตอนหน้าคงได้เห็นความร้ายกาจของมูร์ซิเอลาโก้มากกว่าเก่าแน่ อยากเห็นแฮะว่าจะมีอะไรบ้าง หวังว่าจะไม่มีท่า "ดูดเลือดจนแห้งตาย" นะ... (ถ้ามีสงสัยเอาไปจิ้นวาย + จิ้นอุล x ฮิเมะได้อีกยาว เหอๆๆ)

    แล้วพบกันใหม่ตอนหน้าครับ :)




    เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยท้ายตอน

    คาลาเวรัส (Calaveras) - เป็นภาษาสเปน แปลว่า "กะโหลก" ครับ

    ไม่รู้แฮะว่าเกี่ยวอะไรกับกองพันหัวกะโหลก (หรือจะเกี่ยวกับการขนทัพด้วยเรือ? ลองรอดูต่อไปดีกว่าแฮะ)


    มูร์ซิเอลาโก้ (Murcielago) - เป็นภาษาสเปน แปลว่า "ค้างคาว" ครับ

    นอกจากคำแปลตรงตัวว่าค้างคาวแล้ว มูร์ซิเอลาโก้ยังเป็นชื่อของวัวกระทิงตัวหนึ่งที่ลงสนามสู้วัวกับราฟาเอล โมลิน่า ซานเชซ มาทาดอร์ผู้ถูกขนานนามว่า "นักสู้วัวกระทิงที่เก่งกาจที่สุดในช่วงศตวรรษที่ 19" เมื่อปีค.ศ. 1879 ในการสู้วัวครั้งนั้นกล่าวกันว่ามูร์ซิเอลาโก้ถูกพิคาดอร์ (คนขี่ม้าถือหอกคอยคุ้มกันมาทาดอร์) กระหน่ำแทงถึง 24 ครั้ง แต่ก็ยังยืนหยัดอยู่ได้ไม่ยอมตายง่ายๆ ความทรหดและความกล้าหาญของมัน ทำให้ยอดมาทาดอร์อย่างซานเชซถึงกับทึ่ง และประกาศไว้ชีวิตมูร์ซิเอลาโก้ ภายหลังจากการสู้วัวครั้งนั้น ซานเชซก็มอบมูร์ซิเอลาโก้ให้กับดอน อันโตนิโอ มิวร่า ซึ่งดอน มิวร่าก็จัดการให้มันได้ผสมพันธุ์กับวัวตัวเมียของเขาทั้ง 70 ตัว จนกลายเป็นต้นกำเนิดของวัวกระทิงชั้นเลิศสายพันธุ์มิวร่าที่มีชื่อเสียงมาจนถึงทุกวันนี้

    ความแข็งแกร่งทรหดของมัน ทำให้แม้แต่บริษัทผลิตรถชื่อดังอย่างลัมบอร์กินียังถึงกับเอาชื่อของมันไปตั้งเป็นชื่อรถรุ่นหนึ่งของตัวเองเลยทีเดียว

    รายละเอียดของรถลัมบอร์กินี มูร์ซิเอลาโก้
    http://en.wikipedia.org/wiki/Lamborghini_Murci%C3%A9lago


    EDIT: แก้ชื่อความสามารถของรูดโบนครับ ต้องขออภัยในความผิดพลาดด้วยครับ m[_ _]m

    แก้ไขเมื่อ 11 ก.พ. 52 22:07:08

    แก้ไขเมื่อ 11 ก.พ. 52 21:02:10

    จากคุณ : Drake - [ 11 ก.พ. 52 20:59:03 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com