ความคิดเห็นที่ 68
Same Script - Different Cast
เรื่องเดียวกันแต่ เล่าเป็นหนังคนละม้วน
ได้รับ forward mail มาจากเพื่อนเห็นว่าน่าสนใจและคล้ายกระทู้นี้มาก เหตุการณ์จริง เกิดที่ผึ้งหวานรีสอร์ท กาญจนบุรี เป็นข่าวลงไทยรัฐแล้ว ผมว่าคงจะไม่เป็นไร ขออนุญาตลง ให้เพื่อนๆอ่าน ก่อนที่จะตัดสินคนจากคำพูด คำบอกเล่า คำให้การ
ในหนึ่งเรื่องมักจะมีมุมมากกว่าสองมุมเสมอ ไม่รู้เรียกว่า "ราโชมอน" หรือเปล่า เพราะไม่เคยดู อิ อิ เคยดูแต่ "ดรีม" ของคุโรซาวา เหมือนกัน
ผู้เล่าเรื่องที่หนึ่งครับ จาก forward mail ===========================================
ประสบการณ์เลวร้าย ในรีสอร์ทชื่อดังของเมืองกาญจน์...เรื่องจริงที่อยากเตือนทุกคนไว้..... พวกเราไปพักที่นั่น ในวันที่ 25-27 พ.ค. 2550 ที่ผ่านมา เพราะมีแผนจะไปรับน้องปรากฏว่าในคืนวันเสาร์ที่ 26 เวลาประมาณเที่ยงคืนหลัง จากที่เราทานข้าวแล้วกลับไปยังที่พัก.......โอ้...พระเจ้า....ตกใจสุดขีด....ห้องเรา เปิดได้โดยไม่ต้องไขกุญแจ....ของถูกรื้อค้นกระจุยกระจาย..... แม้แต่กระเป๋าเสื้อผ้า..พวกเรารีบแจ้งไปยังเจ้าของรีสอร์ท เจ้าของรีสอร์ท (ผู้หญิงในรูป)
มาดูๆ.... แต่ก็ทำอะไรไม่ได้และไม่มีคำตอบอะไรให้เรา....เราเองต้องวิ่งเต้นไปแจ้ง ตำรวจดำเนินการเองทุกอย่างตั้งแต่เที่ยงคืนยันเช้า.....โดยไม่เห็นมีใครจากรีสอร์ท จะมารับผิดชอบหรือดูแลเราเลย....พวกกลับมาจาก สภอ. หกโมงครึ่ง ยังไม่ได้นอน เลย...เรารอพบเจ้าของรีสอร์ทยัน 8.00 น. กว่า เพราะเค้าไม่ยอมให้พบอ้างโน้น อ้างนี่.....แต่พวกเรายืนยันขอคุยให้รู้เรื่องว่าจะดำเนินการยังไงกับเรื่องที่เกิดขึ้น เพราะวันนี้เราต้องเดินทางกลับกรุงเทพฯ กันแล้ว...........เค้าเป็นเจ้าของพื้นที่.... สุดท้ายได้พบ และคุยกันในห้องประชุม......(เค้ายอมให้ถ่ายรูปด้วย)
เค้าก็ไม่มีคำตอบบอกว่าจะปรึกษากันก่อน...แล้วตอน 10 โมง เค้าจะมาคุยด้วยใหม่ เธอก็ไม่ติดต่อตามนัด....จนตอนเที่ยง พวกเรามารอพบ ... แต่แห้วอ่ะ....เธอหนีกลับกรุงเทพฯ ไปแล้ว... ทิ้งให้ผู้ชายหยายคายป่าเถื่อนในรูป
คอยจัดการกับพวกเรา...ที่บอกว่าจะตอบเราว่าจะเช็คกับประกันว่ารับผิดชอบแค่ไหน หรือทางรีสอร์ทจะดำเนินการอย่างไรกับเรื่องนี้..ก็จบเค้าบอกให้รอตำรวจอย่างเดียว.... ช่วงเ?้าเค้า...แค่ถ่วงเวลาให้เราเงียบเพราะกลัวว่าแขกคนอื่นจะแตกตื่น...เดี๋ยวเค้าจะเสีย ลูกค้าอ่ะ
พอเราจะพึ่งตำรวจปรึกษาว่า Case นี้ทำอะไรได้มากกว่านี้มั้ย ตำรวจบอกว่า ตำรวจเองก็ดีกว่ายามหน่อยนึง..ทำอะไรไม่ได้มากเพราะทางรีสอร์ทไม่ค่อยให้ ความร่วมมือเท่าไหร่...เพราะไม่มีอำนาจอะไรไปตรวจค้น... การขอหมายค้น...ศาล ต้องมีเหตุให้เชื่อก่อน....ถ้าศาลไม่เชื่อก้อไม่ออกเอกสารให้....อึ้งเลยพวกเรา...... เพื่อนชาวเวียดนามเริ่มโวยวายว่าที่นี่ทำได้เพียงเท่านี้...และไม่คิดจะรับผิดชอบอะไรเลยเหรอนี่ ผู้ชายในรูปโผเข้ามาทำร้ายร่างกาย....โดยการชกต่อยทันที(ถ่ายตอนกำลังเข้ามาพอดี)
บอกว่าพวกเรามาก่อกวนในรีสอร์ทเค้า...และไม่รับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น บอกว่าให้พวกเราออกไป ..ไม่งั้นจะให้ยามมาลากออกไป....เซ็งมากเลย... ของที่หาย 14 รายการ รวม 177,160 บาท
1.. notebook Vio 80,000 2. notebook Acer 40,000 3. กล้อง cannon 5,900 4. มือถือ LG 1,500 5. กระเป๋าถือบอดี้โกรฟ 1,000 6. กระเป๋าถือ 60 7. กล้อง digital Fuji 15,000 8. มือ ถือ Nokia 15,000 9. เครื่อง เล่น mp4 2,000 10. กระเป๋าสตางค์ 200 11. เงินสด 1,500 12. นาฬิกาข้อ มือ TMC 500 13. กระเป๋า สะพาย Adidas 1,000 14. มือถือ Motorola 13,500
ทางรีสอร์ทยังไม่เคยติดต่อมา..แม้แต่จะขอโทษสักคำหรือทำอะไรก็ได้ให้ พวกเรารู้สึกว่าทางรีสอร์ทได้พยายามเต็มที่แล้วนะ...กลับกันฝากคนมาบอกว่า "ถ้าพวกเราฟ้องร้อง..ทางรีสอร์ทจะฟ้องกลับข้อหา..ก่อกวนความสงบในรีสอร์ท" ดูคิดได้เนอะ... แล้วยังบอกอีกนะว่า..... ต่อให้ยกมาทั้ง คมช. ก็ไม่กลัว เพราะพ่อใหญ่(พ่อเค้ามั้ง) สนิทกับคนในวัง... (เกี่ยวกันมั๊ยเนี้ย.....ดึงเบื้องสูงลงต่ำ...นรกจะกินหัว..) คนทำงานบริการแค่ทะเลาะหรือพูดไม่สุภาพกับลูกค้าเค้ายังต้องขออภัย เนี้ย ทำร้ายร่างกาย... ของหาย. แปลก..เจ้าของไม่รู้ร้อนรู้หนาว...ทำเนียน ๆ แล้วกะให้เรื่องมันเงียบไป...จบแบบเจ็บ ๆ .......ขอประนาม ค ===========================================
รูปจาก forward mail ครับ จริงมีรูปที่ ผู้เสียหายถ่ายสภาพห้องไว้อีก มีหลายรูป รูปลูกบิดด้วยครับ แต่รูปสุดท้ายเป็นรูปที่เขาถ่ายจากมือถือ
จากคุณ :
BOSSANOVA
- [
18 ก.พ. 52 01:56:10
]
|
|
|