ความคิดเห็นที่ 1 อันนี้ คือตัวโฆษณาตัวแรก อีกตัวยังหาไม่เจอครับ ลองรับชมดู ใครเห็นด้วย ช่วยโหวตด้วยครับ เผื่อบ.จะคิดอะไรได้บ้าง หลักcsrที่กำลังทำอยู่เนี่ย มันถูกที่ถูกทางแล้วหรือครับ จากคุณ : หลานยายจุล - [ 25 ก.พ. 52 19:31:42 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ได้ยินมาว่าต้นยูคาเดี๋ยวนี้เค้าปรับปรุงสายพันธุ์ใหม่แล้วนะคะ ถ้าปลูกดินจะไม่เสียเหมือนเมื่อก่อน(เคยอ่านในพันทิปนี่แหละค่ะ ไม่รู้จริงมั้ย) แต่ที่รู้ๆ ไม่ชอบที่เรียกว่าต้น AA แทนทีจะบอกว่าต้นยูคา จากคุณ : เจ้าหญิงของเฟิร์ส - [ 25 ก.พ. 52 19:34:02 ]

ความคิดเห็นที่ 3 vote ka จากคุณ : Vishuda - [ 25 ก.พ. 52 19:34:24 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ลองไปตั้งในห้อง.. หว้ากอค่ะ..จะได้ความรู้จริงๆๆ..พ่อเราเคยเข้าไปฟังโครงการนี้ด้วยนะ.. ทางโรงงานจะไปที่หมู่บ้านเลยอ่ะ... แต่พ่อเราบอกไม่คุ้ม... ยังไม่ได้คิดถึงผลทางสิ่งแวดล้อมนะคะ.. อืม..เดี่ยวไม่ดี.. แล้วแต่คนจะคิดนะคะ... ทางบริษัท เค้าก็คิดเรื่องธุรกิจแหละค่ะ.. จากคุณ : nuanapa - [ 25 ก.พ. 52 19:37:40 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ได้มาเหมือนว่า ต้นนี้ ปลูกเเล้วทำลายดิน จริงไม่จริงไม่รู้ เเต่ที่เเน่ๆ โฆษณาเชิญชวนเเบบนี้ ดูเเล้ว รู้สึกแปลกๆมั่กๆ จากคุณ : pikaball - [ 25 ก.พ. 52 19:39:48 ]

ความคิดเห็นที่ 6 มาดู พร้อมกะ โหวต อิอิ จากคุณ : moopu - [ 25 ก.พ. 52 19:44:26 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ที่เรียกว่าต้นกระดาษเพราะเค้าปรับปรุงสายพันธุ์ครับ อาจจะ ใช้สารอาหารในดินน้อยกว่าเดิม แต่ก็ยัง ใช้สารอาหารในดินอยู่ดีแหละครับ แต่ที่เค้าปลูก เค้าปลูกบนคันนา ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นดินร่วน ส่วนดินในนาเป็นดินเหนียว จึงไม่น่าจะมีผลกระทบมากทำไหร่ครับ แก้ไขเมื่อ 25 ก.พ. 52 19:49:03 จากคุณ : นายกระจอกริรักดอกฟ้า - [ 25 ก.พ. 52 19:45:23 ]

ความคิดเห็นที่ 8 โหวตค่ะ จากคุณ : mai-mee - [ 25 ก.พ. 52 19:47:35 ]

ความคิดเห็นที่ 9 โหวตค่ะ เหมือนเราได้FW mail เรื่องนี้มานานแล้ว เรื่องของต้นยูคาลิปตัสที่ปลูกกันเยอะๆ เห็นโฆษณาแล้วหงุดหงิดเหมือนกันค่ะ จากคุณ : BZ_plus - [ 25 ก.พ. 52 19:51:26 ]

ความคิดเห็นที่ 10 โฆษณาก็แค่ชักชวนครับ ไม่ได้เอาปืนจ่อหัวคนให้ปลูก คนดูโทรทัศน์ต้องใช้สมองในการรับฟังข่าวสารครับ แล้วที่เรียกต้นกระดาษเนี่ย มันไม่มีอะไรเลย ก็แค่ "ต้นไม้ที่เอามาทำกระดาษ" จากคุณ : powerconduit - [ 25 ก.พ. 52 19:53:02 ]

ความคิดเห็นที่ 11 คันนา ต้องโปร่งค่ะ ข้าวในนา ไม่ชอบที่ร่มๆน๊า ... จากคุณ : หลานชาวนา (ก ร ะ ต่ า ย ต า ก ล ม) - [ 25 ก.พ. 52 19:54:27 ]

ความคิดเห็นที่ 12 สายพันธุ์ของต้นยูคาที่เอาไปทำกระดาษ ได้ถูกปรับปรุงให้ทำลายดินน้อยกว่าเดิม เพราะว่าเป็นต้นกล้าที่ผ่านเรือนเพราะชำ  มันไม่มีรากแก้ว มีแต่รากฝอยกระจุกนิดนึง เอามาปักลงดิน  แรกๆก็รดน้ำบ้าง พอมันยึดกับดินได้แล้วก็ไม่ต้องดูแลอะไรเลย ประมาณ4-5ปี ตัดไปทำกระดาษได้ ที่บ้านก็เอามาปลูกไว้เยอะเหมือนกัน ในที่รกร้างว่างเปล่า จากคุณ : นารีพิฆาต - [ 25 ก.พ. 52 19:56:47 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ...วันก่อนมีวิทยากรเค้ามาให้ความรู้ครับ เค้าก็บอกเหมือนกันว่า เป็นสายพันธ์ใหม่ สายพันธ์ที่ว่านี่ มันก็คือ รากจะหลั่งลงดินเยอะขึ้นกว่าแต่ก่อน จะไม่ไปแย่งพืชที่รากหลั่งมาไม่ถึง แต่ เค้าบอกว่า ทั้งนี้ทั้งนั้น มันก็ยังคือ ต้นยูคาลิปตัสดีๆนี่แหละครับ โตไว ดูดซึมอาหารได้ดี หากว่าจะรดน้ำครั้งเดียว ปลูกถูกวิธี แต่หากว่า...มันไม่ได้รับการบำรุงดินหล่ะ... ชาวไร่ ชาวนา จะหาเงินที่ไหนมาบำรุงดิน แค่ปุ๋บ เมล็ดพันธ์ข้าวยังหาเงินเลือดตาแทบกระเด็นเลย จากคุณ : หลานยายจุล - [ 25 ก.พ. 52 19:57:02 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ลืมตอบอีกอย่างนึงไป ที่ถามว่าปลูกแล้วรวยมั้ย อย่างที่บอก ไม้ยูคาไม่ต้องการการดูแลเอาใจใส่อะไรเลย คนละแวกเดียวกัน  ปลูกมาหลายปีแล้ว(ก่อนมีกระแสปลูกต้นกระดาษ) ตัดขาย ได้เป็นล้านๆบาท ลงทุนน้อยมาก ปลูกติดๆถี่ๆ  ที่บ้านเราตอนลงต้นกล้าระยะห่างต่อต้นประมาณ1.5-2เมตรเอง แต่ไม่ได้จะมาโฆษณาให้ไปปลูกกันหรอกนะ  ตามที่สวนหรือผืนนา แนะนำว่า เป็นที่รกร้าง ไม่ได้ทำประโยชน์  ริมถนน อะไรแบบนี้นะได้ จากคุณ : นารีพิฆาต - [ 25 ก.พ. 52 20:02:42 ]

ความคิดเห็นที่ 15 มารอลุ้น กระทู้นี้จะไหลตามน้ำหรือไม่ กระทู้นี้จะโดนหาว่าไหลตามน้ำหรือไม่ จากคุณ : นานะ - [ 25 ก.พ. 52 20:02:55 A:61.19.66.37 X: TicketID:051182 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ง่ะ อย่างนี้เราก็ไม่มีข้าวกินสิคะ ถ้าชาวนาไปปลูกต้นนี้กันหมด :( จากคุณ : KP - [ 25 ก.พ. 52 20:04:22 A:58.9.148.214 X: TicketID:204128 ]

ความคิดเห็นที่ 17 จริงแล้วคนที่มีโอกาสได้เรียนมาจะรู้ว่า กระดาษนั้นทำจากต้นยูคาลิปตัสซึ่งทำให้ดินที่ปลูกบริเวณนั้นแห้ง แต่การตลาดใครจะออกมาบอกว่าบอกตรงๆ ว่ามันคือยูคาลิปตัส ก็ต้องมาบอกเป็นชื่ออื่นๆเพื่อผลประโยชน์ครับ จากคุณ : เอ (aeseason) - [ 25 ก.พ. 52 20:05:30 ]

ความคิดเห็นที่ 18 โหวตค่ะ เคยได้ fw mail มาเหมือนกัน จากคุณ : PANNESS - [ 25 ก.พ. 52 20:13:27 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ...เคยเจอในวารสารเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมฉบับหนึ่ง (จำชื่อไม่ได้แล้ว) ก็วิจารณ์เรื่องนี้พอสมควรครับ ว่าแต่...คนดูทีวี เห็นโฆษณา ตาดำๆ แบบนี้ เขาจะรู้รายละเอียด เบื้องลึกเบื้องหลังของเรื่องต้นกระดาษนี้หรือเปล่า??? จากคุณ : ๛tum๛ - [ 25 ก.พ. 52 20:17:48 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ..ได้ยินมาว่า .. .. เค้าบอกมาว่า .. ..ได้ fwm มา .. จะมีไหมที่มีอะไรมายืนยันข้อมูลได้จริงๆมั่งนะ จะได้ไหลตามน้ำไปถูกทาง >.< เอิ๊กๆ จากคุณ : m - [ 25 ก.พ. 52 20:18:01 A:125.25.200.228 X: TicketID:152557 ]

ความคิดเห็นที่ 21 โฆษณาเกินจริงเหรอครับ ไม่มั๊งครับ ก่อนอื่น ต้องเข้าใจก่อนว่า การลงทุนมีความเสี่ยง คน 100 คนทำสิ่งเดียวกัน จะให้ประสบผลสำเร็จทั้ง 100 คนคงไม่ได้ คุ้ม ไม่คุ้ม มันอยู่ที่ปัจจัยส่วนบุคคล การวางแผนที่ดีย่อมมีส่วนช่วยแน่นอน บางคนคุ้ม บางคนไม่คุ้ม เพราะมีปัจจัยส่วนตัวแตกต่างกัน สำหรับผม มันก็ดูเป็นการลงทุนที่น่าสนใจ แต่ก็ต้องอาศัยการศึกษาข้อมูลที่ชัดเจน และแน่นอนว่าจะไปฟังข้อมูลทางดับเบิ้ลเออย่างเดียวก็ไม่ได้ ต้องดูข้อมูลจากหลายๆแห่งมาเปรียบเทียบ จากคุณ : คนดี มีคุณธรรม ค้ำจุนโลก - [ 25 ก.พ. 52 20:20:39 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ยังไงก็ไม่เป็นด้วย ต้นยูคาเราว่าต่อให้พัฒนาสายพันธุ์ แต่ก็ยังไม่น่าจะนิ่งขนาดที่ไม่มีผลกระทบต่อดินเลย เคยเห็นกะตา ดินในไร่ที่ปลูกยูคา จากดินร่วนธรรมดา กลายเป็นดินทรายเห็นๆ ไม่ชอบโฆษณานี้เหมือนกันคะ ถึงแม้คนดูเค้าต้องใช้วิจารณญาณของตัวเองก็เถอะ แต่โฆษณานี้ชวนเชื่อค่อนข้างมากเลย จากคุณ : Daijobudai - [ 25 ก.พ. 52 20:25:04 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ยังไงก็ยังคิดว่าชาวนาก็ควรปลูกข้าวอยู่ดีค่ะ   ชาวสวนก็ปลูกผัก ผลไม้ ยูคาลิปตัสเนี่ยเค้าปลูกในที่ที่ดินมันปลูกอะไรไม่ได้ไม่ใช่เหรอคะ จากคุณ : จินดาจรัสศรี - [ 25 ก.พ. 52 20:28:12 ]

ความคิดเห็นที่ 24 เพื่อนทำงานพัฒนาสายพันธุ์ต้นยูคาอยู่ AA บอกว่า แกไปปลูกมันสัมประหลังดีกว่านะ ถ้าแกจะปลูก ดินบ้านแกต้องแย่อยู่แล้วปลูกไรไม่ได้แล้ว ไม่งั้นปลูกไปดินดีๆ เสียหมดแหละจะบอกให้ จากคุณ : นกบนฟ้า - [ 25 ก.พ. 52 20:30:30 ]

ความคิดเห็นที่ 25 รวยจริง แต่ AA รวยนะ มิใช่คนปลูก ถึงตอนนั้นต้นยูคาลิปตัสโตจริงๆ ก็คงโดนกดราคานั่นแหละ สรุปดีไม่ดี จนหนักว่าเก่าอีก ได้ก็น้อยเสียก็มาก ทำมาหากินอย่างที่เคยทำเถอะดีแล้ว อยู่อย่างพอเพียงดีแล้ว เพราะถ้าละโมภมากลาภมันก็จะหาย จากคุณ : เจ้าชายไม่วิเศษ - [ 25 ก.พ. 52 20:36:16 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ต้นยูคาแบบเก่า คือเขาปลูกกันแล้วพอเวลาโตได้ขนาดก็ตัดขายแต่ลำต้นนะครับ ส่วนรากยังอยู่ในดิน เพราะเห้นว่ารากแก้วยาวมาก ไม่คุ้มกับค่าขุดขึ้นมา ทางโรงงานถึงใช้วิธีแบบนั้นมาตลอด คือตัดเฉพาะลำต้นออกไปขายแล้วก็ปลูกต้นใหม่ลงไปใกล้ๆที่เดิม แต่กับฆโษณาตัวนี้ไม่รู้จริงๆครับ ว่าเป็นแบบต้นดั้งเดิมหรือไม่ เพราะถ้าเป็นเหมือนกันไม่ดีแน่นอนครับรากก็ยังอยู่เหมือนเดิม จากคุณ : คนเมาเอิ๊กๆ - [ 25 ก.พ. 52 20:39:46 ]

ความคิดเห็นที่ 27 มีที่ว่างๆอยู่ตอนแรกสนใจ แต่ตอนนี้ไม่ เพราะ เป็ดกระดาษ... จากคุณ : JenGo_KunG - [ 25 ก.พ. 52 20:42:54 ]

ความคิดเห็นที่ 28 โทษน้า.. "ตงิด" นะคะ ไม่ใช่ "ตะหงิด" ^^ --------------------------------------------------- จากคุณ : Lybeous - [ 25 ก.พ. 52 20:45:28 ]

ความคิดเห็นที่ 29 เรื่องนี้เคยสนทนากันแล้วในห้องหว้ากอ ลองไปค้นกระทู้เก่าๆดู และอยากบอกว่า ไม่มีประโยชน์ที่คุณจะรุมด่าโฆษณาดับเบิ้ลเอ แต่ยังใช้กระดาษกันอย่างฟุ่มเฟือย จากคุณ : Autster - [ 25 ก.พ. 52 21:13:28 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ต้นนี้คือยูคาฯปรับปรุงสายพันธุ์แล้วที่"เคลม"ว่าทำให้ดินไม่เสีย... แต่จริงๆ ก็ยังคงเก่งในการดูดน้ำดูดปุ๋ยอยู่นะครับ ซึ่งมีผลต่อการเจริญของพืชอื่นๆ จากคุณ : buddhi - [ 25 ก.พ. 52 21:17:29 ]

ความคิดเห็นที่ 31 คุณ : Autster ผมไม่ได้ต้องการรุมด่านะครับ แค่บอกว่ามันเป็นยังไง อ้อ แล้วก็มันก็คนละประเด็นกับใช้กระดาษฟุ่มเฟือยด้วย เพราะกระทู้นี้ อยากจะสื่อถึงตัวโฆษณามากกว่า ว่าเขาต้องการตีแผ่อะไร ใครได้ผลประโยชน์ตรงนั้นจริงๆ อย่างยั่งยืน จากคุณ : หลานยายจุล - [ 25 ก.พ. 52 21:18:01 ]

ความคิดเห็นที่ 32 คุณ : Lybeous ขอบคุณครับ^^ จากคุณ : หลานยายจุล - [ 25 ก.พ. 52 21:18:35 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ตามมาช่วยโหวตกระทู้ จากคุณ : NooNok [MiChiYo] - [ 25 ก.พ. 52 21:35:23 ]

ความคิดเห็นที่ 34 เดี๋ยวก็มีคนของ AA ออกมาบอกว่ากระทู้นี้เป็นการปั่น เพื่อทำลายกัน จากทาง SCG อีก คอยดูเถอะ จากคุณ : มุมมองหลายมิติ - [ 25 ก.พ. 52 21:38:15 ]

ความคิดเห็นที่ 35 หลั่ง =/= หยั่ง ความหมายต่างกันมาก เดี๋ยวนี้พิมพ์ผิดบ่อยวุ๊ย การใช้ปุ๋ยในดินของต้นยูคา จะใช้ปุ๋ยในระดับดินลึก การใช้ปุ๋ยในต้นข้าว จะใช้แค่ระดับผิวดิน ที่ต้องให้แก่ต้นข้าวตามระยะเวลา และปริมาณพอดีๆอยู่แล้ว ไม้ยูคามีแนวโน้มราคาจะดีมาก ไม้ยูคา เป็นไม้ที่โตเร็ว จึงดูเหมือนว่าใช้ธาตุอาหารเปลืองด้วย ไม่มียูคา หรือยูคาขาดแคลน กระดาษที่เด็กนักเรียนใช้ ชาวบ้านใช้ ก็ต้องนำเข้าไม้มาอีก ราคาค่ากระดาษสมุดหนังสือก็จะแพงขึ้นอีก เสนอให้รู้กันไว้ พิจารณาเอาเองก็แล้วกัน จากคุณ : ต้นโพธิ์ต้นไทร - [ 25 ก.พ. 52 21:41:45 ]

ความคิดเห็นที่ 36 โธ่กรรม  ที่เถียงๆกันเนี่ย เขาเล่าว่าหมดเลยเหรอ เอางี้ จะเล่าให้ฟัง  บ้านผมทำนา ที่นาประมาณ 30 ไร่ เรามาเข้าใจคำว่าที่นากันก่อน นาแต่ละที่จะมีคันนา ตัดเป็นตาๆ  ที่ต้องมีคันนาเพราะพื้นมันเอียง ถ้าทำนาฝืนเดียว บางที่ก็พาลไม่มีน้ำไป จึงจำต้องมีคันนามาคั่นน้ำไว้ สำหรับชาวนาแล้วคันนาถือว่าสำคัญ เขาจะไม่ปลูกยูคาตรงคันนาที่ทำหน้าที่กั้น น้ำ แต่ใช่ว่าทุกคันนาจะมีหน้าที่กั้นน้ำซะหมด  บางคันนาทำหน้าที่กันเขตนา ของกันและกัน บางคันนาทำไว้เป็นทางเดินเข้านา  ดังนั้นชาวนาจะปลูกต้นยูคาเฉพาะคันนาที่ไม่ ทำหน้าที่กั้นน้ำ   ปล..ชาวนาไม่โง่อย่างที่คุณๆคิด หลายคน อ่านจากนั่นบ้างนี่บ้าง คิดเองบ้าง เขาเล่าให้ฟังบ้าง สิ่งที่คุณรู้อาจจะไม่จริง หรือจริงนิดเดียว คือประมาณ 0.000001% (รู้แค่หนึ่งในล้านของความจริง) คุณเป็นในโฆษณามั๋ย ปลูกยูคาเป็นแถว คุณรู้มั๋ย ต้นนึงมันราคา 150-300 บาท(ถ้าเจ้าไหนซื้อแพงกว่านี้ก็ดี) แต่ละต้น ห่างกัน 50 ซม. - 1 ม.(แล้วแต่ความพอใจของคนปลูก บางคนปลูกเป็นพืดเลยก็มี) 2-3ปี ก็ตัดได้ ปลูกซัก 20-30 ต้นก็ได้ตั้ง 2000-5000 ใครหลายคน ที่เกิดมาทั้งชีวิตไม่เคยจับต้นข้าวอาจจะเป็นห่วงเป็นใยว่าต้นยูคา จะทำให้ดินเสีย  ผมขอเถียงหัวชนฝาเลย ถ้าปลูกตามคันนาเว้นระยะห่าง ต้นละ 2-3 เมตรรับรองไม่มีผลต่อสภาพดิน การปลูกยูคาแล้วทำให้ดินเสีย จะเป็นการปลูกแบบเป็นดงเลย คือที่ตรงนั้นมัน ทำนาไม่ได้ข้าวอยู่แล้ว ทิ้งไว้ก็เสียเปล่า จะทำนาก็ไม่ได้ค่าปุ๋ย ที่แบบนั้นมีเยอะในภาคอีสาน หลายคนจึงหันมาปลูกยูคาเพราะได้ผลผลิต เร็ว และได้เป็นก้อนโดยไม่ต้องลงทุนอะไร  แต่ก็ต้องยอมเสียที่นั้นไป เพราะไม่สามารถปลูกอะไรได้อีกแล้ว มีอีกอย่างที่ตอนนี้แถบอีสานกำลังฮิตกันคือการปลูกยาง  ผมกลับบ้าน ปีใหม่เป็นที่ร้างแต่เก่าก่อนเป็นสวนยางกันหมด  มาแรงกว่าต้นกระดาษเสียอีก ปล.ต้นกระดาษมันก็ยูคายอดแดงนั่นแหละ เป็นพันธุ์ใหม่ ผมไม่ห่วงชาวนาตกเป็นเหยื่อโฆษณาหรอกครับ  ผมห่วงคนที่เป็นห่วงชาวนา ที่ไม่รู้จริงมากกว่าครับ จากคุณ : ttno1 - [ 25 ก.พ. 52 21:43:40 ]

ความคิดเห็นที่ 37 อยากรู้เฉยๆว่า เขาให้ราคายังไงครับ จากคุณ : Depump - [ 25 ก.พ. 52 21:51:10 ]

ความคิดเห็นที่ 38 เดี๋ยวนี้ฟอร์เวิดเมล์จะเชื่อได้สักกี่เปอร์เซ็นต์ จากคุณ : ผ้ายับพับไว้ - [ 25 ก.พ. 52 22:01:43 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ก็คิดเหมือนจขกท.นั่นแหละ เกลียดมันมากๆด้วย บริษัทเนี๊ย.. ไม่ได้เชื่อฟอเวิร์ดเมล์ค่ะ แต่ที่เรียนมา ก็ทราบมาแบบนี้.. เค้าถึงไม่สนับสนุนให้คนไทยปลูกยาคาฯมาแต่ไหนแต่ไรแว้วววว จากคุณ : elin - [ 25 ก.พ. 52 22:08:14 ]

ความคิดเห็นที่ 40 ผมตอบในฐานะผมเป็นชาวนา มันก็อยากจะปลูกหละนะ แต่ว่าวิธีการกำจัดราก มันลำบากครับรากยูคามันจะเลื้อยเข้าไปในนาข้าวทำให้การทำนาครั้งต่อไปลำบากรถไถ คาดนาทำได้ลำบากครับ แต่ผมไม่ชอบใจอย่างมากตรงที่โฆษณาเค้าทำออกมา เอาทอง เอาชาวนา มานี่แหละครับ มันสื่อตรงไปหน่อยว่าชาวนาต้องเห็นแต่เงิน แก่ทอง อย่างอื่นคงคิดไม่เป็นนี่แหละ.. ทีหลังอยากให้ชาวนาได้เงินก็คิดเอาฟางข้าว ไปทำกระดาษสิ แล้วโฆษณาัใครที่ปลูกข้าวพันธุ์ AA ทางบริษัทจะรับซื้อฝางข้าวที้งหมด ผมจะยอมปลูกข้าวสายพันธุ์ AA จากคุณ : ชาวนา ต้องทำนา - [ 25 ก.พ. 52 22:13:20 A:125.25.132.180 X: TicketID:195954 ]

ความคิดเห็นที่ 41 ถ้าดีจริง ทำไมไม่ทำเอง ไม่ก็เช่าที่ชาวนามาปลูกซะ แบบนี้ชาวนาได้แน่นอน ปลูกขึ้นไม่ขึ้นก็ได้ แต่นี้ อวดหรูก่อน พอถึงเวลาแลกเปลี่ยนก็พูดอีกอย่าง ถ้าดีจริง ทำกันทั้งประเทศเลยดีไม๊ ชาวบ้าน ไม่ได้โง่ ได้ยินมาจากในทีวี หวังว่าจะจริง ไม่มีปืนมาจ่อหัวให้เชื่อ แสดงว่ามันมีปืน ในบางสถานการณ์คงต้องเชื่อมัน ถ้าคนไทยรู้จักคิด ให้มากกว่านี้ เราคงเปลี่ยนเป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว แต่ตอนนี้ ยังด้อยพัฒนาอยู่ จากคุณ : wattz21 - [ 25 ก.พ. 52 22:17:20 ]

ความคิดเห็นที่ 42 ตอนแรกก็เข้าใจแบบนั้นเหมือนกันค่ะว่ามันดูดสารอาหาร แต่พอดูรายการโลกมหัศจรรย์ ตอนมารู้จักยูคาลิปตัสกันเถอะ เขาก็บอกว่าไม่มีผลอะไร ลองไปดูสิค่ะ http://hiptv.mcot.net/player/hipPlayer.php?SelectSpeed=256k&id=19640 จากคุณ : เก้าอี้แดง - [ 25 ก.พ. 52 22:38:56 ]

ความคิดเห็นที่ 43 ผมว่าเค้าคงมีเส้นสายกับนักการเมืองซักระดับแหละครับ เห็นทางภาครัฐไม่เคยออกมาห้าม หรือออกมาพูด หรือให้ข้อความมูลความรู้กับประชาชนเลยซักนิด จากคุณ : มะนาวต่างดุ๊ดvPT - [ 25 ก.พ. 52 22:40:08 ]

ความคิดเห็นที่ 44 วันนี้นั่งดูทีวี เจอแอดตัวนี้ ยังบอกกับคนที่บ้านเลยว่า นี่มันต้นยูคา ฯ ทำลายดิน ไม่เห็นบอกข้อเท็จจริงอันนี้ให้ชาวบ้านรู้เลย คนไม่รู้ก็คงไปเชื่อ หวังผลประโยชน์ที่ไม่รู้จะคุ้มกับการที่ดินจะเสื่อมโทรมต่อไปในอนาคตรึเปล่าน่ะเซ่ จากคุณ : Ab Psy ReinDEAR++ - [ 25 ก.พ. 52 23:28:01 ]

ความคิดเห็นที่ 45 เคยอ่านวารสารสารคดีนานแล้ว   เขาก็เถียงกันเรื่องยูคานี่แหละ มุมหนึ่งบ้างก็ว่าทำลายสิ่งแล้วล้อม  มีกรณีศึกษามากมาย อีกมุมก็บอกว่ามันทำลายเฉพาะบางพันธุ์  พันธุ์ที่ไม่ทำลายก็มี (ไม่รู้ใช่พันธุ์ ที่เอามาให้ปลูกหรือเปล่า) และถ้าปลูกน้อย ๆ ห่าง ๆ ไม่มีผลต่อสิ่งแวดล้อม  มีงานวิจัยยืนยันมากมาย... อีกฝ่ายก็บอกว่าเชื่อไม่ได้เพื่อว่าว่างานวิจัยเหล่านั้นล้วนได้ทุนจากบริษัทกระดาษ... กรณีนี้ก็ราโชมอนอีกนั้นแหละครับ    พูดเอาดีใส่ตัวกันทั้งนั้น ส่วนความจริงเป็นยังไง ก็ไม่รู้เหมือนกัน จากคุณ : ole (trufa) - [ 25 ก.พ. 52 23:36:41 ]

ความคิดเห็นที่ 46 ห้องอับดุลเถียงกันมาหลายรอบแล้ว ไม่รู้จะมีใครเก็บกาตู๊เก่าไว้ให้อ่านอีกรอบ ฤ เปล่า จขกท ลองไปตั้งคำถามเดียวกันนี้ในห้องนั้นอีกรอบดูก็ได้ แต่คำตอบที่ได้ บางครั้ง อาจจะตรงกันข้ามกับที่ จขกท ต้องการแบบในห้องนี้ก็ได้นะครับ ........ ว่าแต่ บรรดาพืชที่ปลูกซ้ำซากกันทุกปีนะ คิด ฤ ว่าจะไม่ทำให้ดินพังนะครับ ....... จากคุณ : monsungja - [ 26 ก.พ. 52 00:12:43 ]

ความคิดเห็นที่ 47 อยากรู้เรื่องต้นยูคาฯ ก็ควรศึกษาหาความรู้ให้ดีก่อนที่จะคุยมันส์ปากหรือด่าน้ำลายแตกฟองนะครับ คุณเคยปลูกจริงหรีอยัง?  คุณเคยเห็นพิษของมันจริง ๆ หรือยัง?  คุณเคยรู้จริง ๆ หรือว่ามันทำลายดิน?  ทำลายอย่างไร? ถ้าด่าโดยไม่มีความรู้เลย...คนที่รู้จริงมาอ่านเข้า...ตัวคุณจะดูไม่ฉลาดไปถนัดตา ...ด้วยความเคารพครับ จากคุณ : เฮียแมว - [ 26 ก.พ. 52 00:16:21 ]

ความคิดเห็นที่ 48 fw mail อันนั้นมัน fake ไม่ใช่รึ? จากคุณ : ไอ้วู่ - [ 26 ก.พ. 52 00:30:17 ]

ความคิดเห็นที่ 49 . เคยอ่านมาว่า  เค้าพัฒนาแล้ว ไม่ทำลายดินเหมือนที่ได้ยินมา . . . . . จากคุณ : นิราศสองภพ - [ 26 ก.พ. 52 00:36:20 ]

ความคิดเห็นที่ 50 วิจารณ์ตัวโฆษณาดีกว่า เราว่ามันดูเฟคๆคนที่มาเล่นก็ดูโง่เหมือนให้เค้าหลอกยังไงไม่รู้ -*- จากคุณ : มินเอง - [ 26 ก.พ. 52 01:06:23 ]

ความคิดเห็นที่ 51 โฆษณษา คือการ บอกความจริงไม่หมดครับ   ท่องไว้ๆ..... จากคุณ : ความตายสีชมพู - [ 26 ก.พ. 52 01:27:28 ]

ความคิดเห็นที่ 52 เกียวกับ ยูคามาหลายรอบแล้วเราก็เอามาให้อ่านทุกรอบเลย http://www.nstda.or.th/th/index.php?option=com_content&task=view&id=500&Itemid=66 ยูคาลิปตัส: ไม้เศรษฐกิจของโลก ยูคาลิปตัส เป็นไม้เศรษฐกิจของโลก เป็นวัตถุดิบที่สำคัญในการผลิตเยื่อกระดาษ และเป็นพืชพลังงานที่สำคัญ ส่วนใบและก้านอุดมด้วยน้ำมัน นอกจากนำไปสกัดเป็นน้ำมันยูคาลิปตัสที่มีสรรพคุณทางการแพทย์แล้ว ยังใช้เพื่อการผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพได้อีกด้วย ยิ่งไปกว่านั้น ไม้ยูคาลิปตัสเอง เมื่อเผาแล้วก็ใช้เป็นถ่านได้ด้วยเช่นกัน ไม้ยูคาลิปตัสยังเป็นที่ต้องการอย่างมาก จากข้อมูลของฝ่ายวิจัยธนาคารนครหลวงไทย มูลค่าการส่งออกเยื่อกระดาษของประเทศไทยในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2550 มีมูลค่า 4,234.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 17.5 จากช่วงเดียวกันของปี 2549 สำหรับแนวโน้มของอุตสาหกรรมเยื่อกระดาษในปี 2551 คาดว่าจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 5 เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ยูคาลิปตัส เป็นไม้พื้นเมืองของประเทศออสเตรเลีย มีมากกว่า 700 สายพันธุ์ แต่มีเพียงไม่กี่ชนิดที่เจริญเติบโตได้ดีในประเทศไทย ซึ่งได้มีการปรับปรุงพันธุ์จนเป็นพันธุ์ที่สามารถเจริญเติบโตได้ในสภาพดิน แทบทุกประเภท ตั้งแต่ดินทราย ดินเค็ม ดินเปรี้ยว ทนต่อความแห้งแล้งได้ดี แต่ไม่ทนดินที่มีหินปูนสูง การขยายพันธุ์ต้นยูคาลิปตัสนั้น สามารถทำได้โดยการเพาะเมล็ด การตัดกิ่ง และการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ ข้อดีของยูคาลิปตัส คือ โตเร็ว สามารถใช้ประโยชน์ได้ภายใน 4-5 ปี มีการลงทุนค่อนข้างต่ำ เมื่อเทียบกับไม้โตเร็วชนิดอื่น เจริญเติบโตในพื้นที่ที่มีความอุดมสมบูรณ์ต่ำได้ เมื่ออายุ 3-6 ปี เนื้อไม้มีความเหมาะสมสำหรับผลิตเยื่อกระดาษ การปลูกยูคาลิปตัสในพื้นที่ป่าเสื่อมโทรมจะช่วยรักษาระดับความชื้นในอากาศ สำหรับ การปลูกต้นยูคาลิปตัสในประเทศไทยนั้น มีมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2493 แต่มีการสนับสนุนอย่างจริงจังราวปี 2519 เพื่อเป็นไม้ทดแทนป่าที่ถูกทำลายไป โดยปลูกในอัตรา 1 แสนไร่ต่อปี จากนั้นก็ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในปี 2525 รัฐบาลสนับสนุนการปลูกยูคาลิปตัสเพื่อใช้ประโยชน์ตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและ สังคมแห่งชาติฉบับที่ 5 (2525-2529) แต่ก็ต้องมีอันยุติลง เนื่องจากมีการอ้างถึงผลเสียของการปลูกพืชชนิดนี้มาก โดยข้อเสียของยูคาลิปตัส คือ เป็นพืชที่ใช้น้ำมาก และเนื่องจากพืชชนิดนี้โตเร็ว ทำให้ความชื้นและระดับน้ำใต้ดินลดลงไปอย่างรวดเร็วด้วย ซึ่งจะมีผลกระทบต่อแหล่งน้ำ และพืชข้างเคียง และจากการศึกษาผลกระทบของยูคาลิปตัสกับสิ่งแวดล้อมโดยหน่วยงานต่างๆ ได้ข้อสรุปว่า ยูคาลิปตัส ไม่ได้มีพิษภัยต่อระบบนิเวศ ต่อพืชพรรณ หรือสัตว์ แต่ปัญหาเกิดขึ้นจากระบบการปลูกเป็นเชิงเดี่ยวที่กว้างขวางเกินไป เช่นเดียวกับการปลูกพืชเชิงเดี่ยวชนิดอื่นๆ เช่น ข้าวโพด ไม้สัก หรือมันสำปะหลัง ที่ไม่ได้มีระบบการจัดการบำรุงดินที่ดีก็จะมีผลกระทบกับสิ่งแวดล้อมเช่นเดียวกัน ดังนั้น การปลูกยูคาลิปตัสต้องคัดเลือกสายพันธุ์ให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อม และต้องมีการจัดการที่ถูกต้องเหมาะสมด้วย ใน ระยะหลังนี้ การปลูกบนคันนาเป็นที่ฮือฮากันมาก ประเทศไทยมีการทำนาประมาณ 60 ล้านไร่ แต่ผลผลิตเฉลี่ยข้าวของประเทศไทยยังต่ำกว่าประเทศเพื่อนบ้าน ผลผลิตข้าวต่ำจึงเป็นสาเหตุหนึ่งของปัญหาความยากจน การแก้ปัญหาในส่วนนี้คือ การใช้ประโยชน์จากที่นาให้เต็มที่ โดยเฉพาะคันนาที่ทิ้งร้างว่างเปล่าไว้ น่าจะศึกษาวิจัยกันอย่างจริงจังให้เป็นระบบ เลือกพันธุ์ยูคาลิปตัสให้เหมาะสมกับแต่ละพื้นที่ได้ แต่ต้องมีการจัดการพื้นที่การปลูกด้วย เช่น จะใช้สายพันธุ์อะไรที่มีความทนทานต่อพื้นที่ที่มีน้ำใต้ดินสูง และมีโอกาสน้ำท่วมขัง พันธุ์ที่มีเรือนยอดเล็ก มีลำต้นตรงเพื่อที่จะได้ไม่ไปบังแสงแดดต่อต้นข้าวในนา ในการปลูกพืชผสมจึงควรดูจุดมุ่งหมายว่าต้องการอะไร เพื่อจัดการให้ได้ตามนั้น หากต้องการผลผลิตจากข้าวเป็นหลัก แต่ต้องการรายได้เสริมบ้าง และใช้พื้นที่คันนาให้เกิดประโยชน์สูงสุด ก็ปลูกยูคาลิปตัสเป็นพืชเสริมได้ ยูคาลิปตัส เป็นพืชผสมตัวเองและสามารถผสมข้ามได้ โดยทั่วไปแล้วอัตราการผสมข้ามจะสูง ดังนั้น หากนำเมล็ดที่ไม่ได้รับการควบคุมการผสมไปปลูกอาจได้ต้นพันธุ์ที่แปรปรวนไป จากต้นแม่ได้ การใช้เทคโนโลยีชีวภาพด้านการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อเข้ามาช่วยในการขยายกล้า พันธุ์จากต้นแม่ที่ได้รับการคัดเลือกว่าดีแล้ว จึงเป็นทางออกที่ดี เพราะจะให้กล้าพันธุ์ที่เหมือนต้นแม่ที่ต้องการ แต่เนื่องจากต้นที่ได้จากการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่ออาจมีต้นทุนสูง ดังนั้น การที่จะเพาะพันธุ์ให้ได้ต้นพันธุ์ที่เหมือนต้นแม่ที่ต้องการ จึงมีการนำเอาเทคนิคการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อมาใช้ในการเพิ่มปริมาณต้นพันธุ์ และใช้การปักชำเข้ามาช่วยในการขยายพันธุ์จากต้นพันธุ์จำนวนมากที่ได้จากการ เพาะเลี้ยงเนื้อเยื่ออีกที วิธีการผสมผสานจะทำให้ได้ต้นกล้ายูคาลิปตัสที่มีราคาถูกลง และตรงตามสายพันธุ์แม่ที่ต้องการ นอก จากการใช้เทคนิคด้านการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อแล้ว วิทยาการด้านเทคโนโลยีชีวภาพในสาขาดีเอ็นเอ ยังสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้อย่างมากมายในเรื่องของยูคาลิปตัส การใช้ดีเอ็นเอเครื่องหมายสามารถนำมาทำเอกลักษณ์ทางพันธุกรรมของสายพันธุ์ ยูคาลิปตัสที่ดีได้ เพื่อใช้ในการตรวจสอบคุณภาพของกล้ายูคาลิปตัส นอกจากนั้น ยังสามารถช่วยในการพิสูจน์หลักฐานในคดีความที่มีการลักขโมยพันธุ์ หรือการลักลอบตัดไม้ในพื้นที่ปลูก นอก จากนี้ เทคนิคด้านดีเอ็นเอยังสามารถช่วยในการปรับปรุงพันธุ์ยูคาลิปตัสให้มีลักษณะ ที่ต้องการได้เร็วขึ้นกว่าการปรับปรุงพันธุ์แบบดั้งเดิม เพราะการปรับปรุงพันธุ์แบบดั้งเดิม ต้องเริ่มจากการคัดเลือกพันธุ์พ่อแม่และทำการผสมให้ได้ก่อน จากนั้นก็นำไปทำการปลูกทดสอบเพื่อหาต้นที่มีลักษณะที่ต้องการ ซึ่งอาจใช้เวลาและพื้นที่ปลูกมาก ถ้าหากมีดีเอ็นเอเครื่องหมายที่ควบคุมลักษณะที่ต้องการ เช่น ต้านทานต่อโรค ต้านทานต่อแมลง คุณภาพเนื้อไม้ ลำต้นตรง และการเจริญเติบโตที่รวดเร็ว เราสามารถใช้ดีเอ็นเอเครื่องหมายที่ควบคุมลักษณะดังกล่าวในการคัดเลือกต้น กล้าได้เลย โดยไม่ต้องนำไปปลูกเพื่อคัดเลือกจำนวนหลายพันต้น เพื่อจะเลือกต้นที่ดีเพียงไม่กี่ต้นไว้ทำแม่พันธุ์ นอก จากเทคนิคทั้ง 2 วิธีที่กล่าวมาแล้ว การนำเทคโนโลยีด้านการถ่ายยีนมาช่วยในการพัฒนาพันธุ์ยูคาลิปตัสก็สามารถทำ ได้ ซึ่งในต่างประเทศเทคโนโลยีชีวภาพ ได้ถูกนำมาใช้ในการปรับปรุงพันธุ์ยูคาลิปตัสในหลายๆ ประเทศ และโดยมากการวิจัยและการปรับปรุงพันธุ์ยูคาลิปตัสจะอยู่ในบริษัทเอกชนส่วน มาก เช่น การถ่ายยีนให้มีลิกนินในเนื้อไม้น้อยลง จะทำให้ขั้นตอนฟอกเยื่อกระดาษ (bleaching) ไม่ต้องใช้สารเคมีจำนวนมาก ซึ่งจะช่วยในการลดพลังงานและสารเคมีในกระบวนการผลิตเยื่อกระดาษ และสารมลพิษจากการผลิตเยื่อกระดาษ เป็นต้น เนื่อง จากราคาไม้ยูคาลิปตัสนั้นมีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อยๆ ตามความต้องการของตลาด ดังนั้น หากมีระบบการจัดการที่ดีประกอบกับการใช้เทคโนโลยีร่วมกันอย่างเหมาะสม การปลูกต้นยูคาลิปตัสก็เป็นตัวเลือกหนึ่งที่น่าสนใจของประเทศ ### ผู้เขียน: ศิริพร วัฒนศรีรังกุล ชุลีพร อรุณแสงสุรีย์ ดร. สมวงษ์ ตระกูลรุ่ง           ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ จากคุณ : Mapaw - [ 26 ก.พ. 52 01:40:13 ]

ความคิดเห็นที่ 53 เอาเนี้อหามาให้อ่านก่อนแล้วจะแสดงความคิดเห็นนะคะ เรื่องเกี่ยวกันการเกษตรมันไม่หยุดนิ่งนะคะ มันมีการพัฒนาและวิจัยตลอดเวลาคะ พยายามปรับปรุงให้ได้ผลผลิตมากที่สุด และผลเสียน้อยที่สุด เรื่องต้นยูคาเนี่ย ตามที่วิจัยมา ให้ปลูกตามคันนา เผื่อว่าเกษตรกรคนไหนอยากหารายได้เพิ่มเติม แถมวิจัยว่านาที่ปลูกต้นยูคาไว้เนี่ยยังได้ผลผลิตข้าวเพิ่มขึ้นด้วย แต่ที่โดนด่าเยอะๆเพราะเป็นaa รึเปล่าคะ  แต่ของอย่างนี้ถ้าทำก่อนรวยก่อน เหมือนประมาณว่าaaเห็นงานวิจัยปุ๊บ เอามาขายปั๊บ เปลี่ยนชื่อให้ติดตลาด จากคุณ : Mapaw - [ 26 ก.พ. 52 01:47:28 ]

ความคิดเห็นที่ 54 ไม้ยูคา ถ้าปลูกในที่ๆไม่ได้ใช้ประโยชน์อะไร ไม่มีใครมาดูแล ไม่มีใครมารดน้ำ  และเคยปลูกอะไรก็ไม่ขึ้นเพราะดินไม่ดีอยุ่แล้ว ผมว่าเป็นผลดีมากกว่าผลเสีย หมายถึงในที่ๆมีเจ้าของนะ แต่ปลูกแทนป่าทั่วไปก็คงไม่ดีอันนี้เห็นด้วย   ชาวนา เค้าน่าจะรู้อยู่แล้วว่ามันคือต้นยูคา เค้าอยู่กับต้นไม้มาทั้งชีวิต คงไม่รู้น้อยไปกว่าเราๆหรอก  และเค้าปลุกจำนวนไม่มาก ไม่ใช่ปลูกแทนข้าว เป็นการเสริมรายได้เค้า ผมว่าเค้าไม่ได้ไม่รู้ ถ้าปลุกแล้วดินเสียมีผลเสียมาก คนที่รู้คนแรกคือตัวเค้าเอง   ดินเสียก็มีวิธีบำรุงดินได้  หรือปกคิ ถ้าคุณปลูกไม้ซ้ำๆ เชิงเดี่ยว ปลูกพืชชนิดเดียวนานๆ ดินมันก็เสียอยู่แล้ว ต้องมีการใส่ปุ๋ย หรือบำรุงดินวิธีอื่นๆเสมอๆอยู่แล้ว แก้ไขเมื่อ 26 ก.พ. 52 02:10:39 แก้ไขเมื่อ 26 ก.พ. 52 02:09:33 จากคุณ : seven-elephant - [ 26 ก.พ. 52 02:03:18 ]

ความคิดเห็นที่ 55 อ่านะ....กลายเป็นกระทู้เรื่องต้นยูคาซะล่ะ เราก็ว่าโฆษณาของ ดับเบิ้ลเอ มันก็เว่อร์ จริงๆนั้นล่ะ.... จากคุณ : mochimoo - [ 26 ก.พ. 52 02:31:04 ]

ความคิดเห็นที่ 56 มายืนยันอีกเสียง ถ้าที่ดินที่ไม่ทำอะไรจริงๆ ก็มาปลูกยูคานี่ล่ะค่ะดี เมื่อก่อนบ้านเราติดสถานนีรถไฟ ก็มีคนปลูกยูคานี่แหละ ติดกับต้นไม้อื่นๆ ก็ร่มรื่นดี ไม่เห็นจะแห้งแล้งอย่างที่เขาว่ากันเลย จากคุณ : หวานใจนายโหด - [ 26 ก.พ. 52 03:22:17 ]

ความคิดเห็นที่ 57 ??? people need good income. จากคุณ : ceacar salad - [ 26 ก.พ. 52 05:32:46 ]

ความคิดเห็นที่ 58 เห็นด้วยว่าโฆษณามันอาจจะเกินจริงไปมากแหละค่ะ แต่ว่ามองให้ดีๆแล้วก็เป็นโครงการที่เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง สำหรับเกษตรกรที่มีที่ดินทำกินที่ไม่มีคุณภาพดินเพียงพอแก่การปลูกข้าว หรือไม่ก็คนที่มีที่ดินว่างเปล่าทิ้งไว้เฉยๆ  ไมได้ไปทำไร่ไถนาเอง อย่างที่บ้านนัท  คุณพ่อมีที่ดินเปล่าๆอยู่ประมาณ 30 ไร่ ไม่ได้ไปอยู่ไม่ได้ไปทำอะไรเลยจ้างคนทำนา หรือเรียกอีกอย่างง่ายๆ น่าจะเรียกว่าให้เค้ายืมที่นาทำกินซะมากกว่าเพราะเราเก็บแต่ข้าวสาร ที่เค้าสีแล้ว   ปีละไม่กี่กระสอบ  ไปแวะดูที่ทางที  ก็เอามากระสอบนึง ปีนึงไปไม่ถึง 10 หน   แต่เสียค่าปุ๋ย  ค่าไถกลบ   ค่าใช้จ่ายจิปาถะตั้งเยอะ ได้ไม่คุ้มเสีย   แต่พ่อบอกว่าให้คนอื่นเค้าได้ลืมตาอ้าปากบ้างเถอะ เรามีพอกินพอใช้แล้ว    แค่มีคนคอยดูแลและได้ทำประโยชน์บ้าง ก็ควรค่าแก่ผืนดินแล้ว    ดีกว่าเอารั้วไปกั้นทิ้งไว้เปล่าๆ ถ้าวันนึง  ไม่มีคนมาขอที่ทำนาที่นั่น   นัทก็คงจะเอาต้นกระดาษไปปลูกเหมือนกันค่ะ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น   ก็ต้องปรึกษาผู้รู้ด้วยว่ามีผลกระทบระยะยาวตรงไหนบ้าง สำหรับคนที่มีที่ดินว่างเปล่าไม่มีคนดูแล และไม่ได้คิดจะเก็บที่ไว้ทำการเกษตร  ก็ลองดูค่ะ จากคุณ : your_natty - [ 26 ก.พ. 52 08:22:17 ]

ความคิดเห็นที่ 59 เคยได้รับฟอเวอดเมล ต่อต้าน การปลูกต้นกระดาษ โดยเอาในหลวงมาอ้างด้วย รับไม่ได้ เหมือนกัน จากคุณ : Love@last kiss - [ 26 ก.พ. 52 08:44:59 ]

ความคิดเห็นที่ 60 เอาอีกแล้วครับ โจมตีกันอีกแล้ว "โฆษณา" แทบทุกเรื่อง ก็เกินจริงไม่ใช่หรือครับ โฆษณาครีมไวท์เทนนิ่ง เกินจริงมั้ยครับ? โฆษณาซุปไก่สกัด เกินจริงมั้ยครับ? โฆษณาบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป เกินจริงมั้ยครับ? โฆษณาการชิงโชคต่างๆ เกินจริงมั้ยครับ? โฆษณาผงซักฟอก เกินจริงมั้ยครับ? คุณจะเอาความจริงแบบไหนครับ ธรรมชาติของโฆษณา คือการบอกแต่ด้านดีของสินค้าตัวเองอยู่แล้ว ผมพูดได้เลยว่า "ไม่มี" โฆษณาของสินด้าใดเลย ที่บอกข้อเสียของสินค้าตัวเอง แล้วคุณต้องการอะไรครับ? เรามีหน่วยงานที่คอยดูแลโฆษณาพวกนี้อยู่แล้ว หากคุณมีปัญหากับโฆษณาชิ้นนี้ แจ้งไปครับ หน่วยงานนี้ชื่อว่า สคบ. หรือ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค http://www.ocpb.go.th/ อย่ามองด้านเดียว อย่ามองในแง่ร้ายครับ บางทีที่นี่อาจจะให้คำชี้แจงที่คุณต้องการก็ได้ ปล. ผมไม่ได้คิดไปเองใช่มั้ยครับ ที่ช่วงนี้กระทู้โจมตีบริษัทนี้ มีติดๆกันอย่างผิดปกติ จากคุณ : Sorry_I can't be perfect - [ 26 ก.พ. 52 08:56:25 ]

ความคิดเห็นที่ 61 ได้รับข้อความให้เข้ามาดูกระทู้นี้ครับ ผมไม่ใช่คนของ AA นะครับ แต่จะบอกว่า...ผมปลูกอยู่ 200 ไร่ครับ ไม่ใช่ที่ของผมหรอกครับ เป็นที่ของโรงงานผม ซึ่งอยู๋ต่างจังหวัด และมีที่ว่างเหลือเยอะ เถ้าแก่ให้ผมช่วยดูแลหาอะไรมาทำให้ที่ดินว่างเปล่ามันมีประโยชน์ เพราะถ้าปล่อยว่างไว้จะต้องเสียภาษีที่ดินเยอะ ผมก็เลยติดต่อเอาต้นกระดาษ หรือต้นยูคานี่แหล่ะมาปลูก ปลูกไปสองร้อยไร่ ส่วนอีกร้อยกว่าไร่ติดๆกัน ผมให้คนเอามันสำปะหลังมาลงปลูกโดยโรงงานเก็บค่าเช่า ตอนนี้ผ่านมา 3 ปีแล้ว ต้นกระดาษยูคาก็โตมากแล้ว คาดว่าเร็วๆนี้คงได้ตัดขาย แต่ที่ผมเห็นแน่ๆคือ คนที่เข้ามาเช่าที่ปลูกมันก็ยังได้ผลผลิตดีทุกปีนะครับ ไม่เห็นมีปัญหาเรื่องดินเสียหรืออะไรเลย ไม่รู้ว่าปัญหาจะเกิดในระยะยาวหรือไม่ แต่ตอนนี้ยังไม่เกิดครับ ส่วนเรื่องต้นกระดาษนี่ เห็นทางคนของ AA เค้าบอกว่าเป็นยูคาที่ทางบริษัทเค้าเอามาปรับปรุงพันธุ์ให้มีปริมาณเยื่อเพิ่มขึ้นและจดสิทธิบัตรไว้ในชื่อต้นกระดาษ จริงเท็จยังไงไม่รู้นะครับ ผมฟังเค้ามา แต่ยังไงก็ตามถ้าชาวบ้านที่เป็นเกษตรกรอาชีพจริงๆ มีพืชที่ปลูกอยู่แล้วและชำนาญในการปลูก มีผลผลิตพอเลี้ยงตัวได้ ผมว่าลองคิดดีๆก่อนก็ได้ครับ เพราะไอ้เจ้าต้นกระดาษนี้กว่าจะตัดขายได้ก็หลายปีอยู่ ระหว่างนั้นจะเอาอะไรกินครับ แต่ถ้ามีที่ว่างเหลือใช้ก็ลองปลูกได้ตามสบาย ข้อดีของการปลูกต้นนี้คือมันไม่เหนื่อยครับ ไม่ต้องรดน้ำพรวนดินวุ่นวาย ทิ้งๆไว้หยั่งงั้นแหล่ะ เดี๋ยวมันก็โตของมันเอง เหมาะกับคนที่ไม่ค่อยขยันแบบผม ฮ่าๆๆๆ ทุกวันนี้ไม่ได้ยุ่งอะไรกับมันเลยครับ ทิ้งไว้หยั่งงั้นแหล่ะ นานๆทีก็ให้ลูกน้องสูบน้ำจากบ่อน้ำเสียมารดมันซักที ปล. โหวตให้แล้วนะครับเต้ย จากคุณ : Spinnecker - [ 26 ก.พ. 52 09:25:34 ]

ความคิดเห็นที่ 62 ผมไม่ชอบคนที่เล่นเป็นน้ารวย ดูเฟคแปลกๆ ถ้าจะให้สมจริงน่าจะเอาเกษตกรตัวจริง ปลูกจริง มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ แต่ก็นะ มันอาจเป็นสไตล์โฆษณาของทางAAก็ได้ ที่กะเอาขำขำไว้ก่อน จากคุณ : doraekuk - [ 26 ก.พ. 52 09:30:56 ]

ความคิดเห็นที่ 63 ตามมาดูโฆษณา คนแสดงดู fake ยังไงไม่รู้ จากคุณ : ที่บ้านมีแมวตั้ง 7 ตัว - [ 26 ก.พ. 52 09:41:38 ]

ความคิดเห็นที่ 64 โอ๊ย จะตอบแบบคุณข้างบนพอดีเลย ถ้าพูดในหลักการตลาด โฆษณาตัวนี้ก็เจ๋งนะคะ ทำให้คนจำได้ จำแบรนด์ได้ด้วย จากคุณ : กระต่ายสีส้ม - [ 26 ก.พ. 52 09:54:50 ]

ความคิดเห็นที่ 65 คุณบอกว่า ดูโฆษณาแล้วให้พิจารณา คุณคิดว่าคนบ้านเรามีตรงจุดนั้นมากน้อยแค่ไหนครับ ยิ่งคนต่างจังหวัดด้วยแล้ว เค้าไม่ได้โง่นะครับ แต่เค้าค่อนข้างไว้ใจคนง่าย จากคุณ : SuperTee (itCrazy) - [ 26 ก.พ. 52 10:23:18 ]

ความคิดเห็นที่ 66 บ้านแฟนเรา ที่สุพรรณ มีที่อยู่ประมาณ 300ไร่ ทำบ่อปลา ประมาณ 10 บ่อ มีเซลล์ของ AA นี่แหละ เข้ามาหาพ่อแฟนเรา เสนอให้ปลูกต้นกระดาษอะไรนี่แหละ ตรงคันบ่อปลา อ้างผลตอบแทนอย่างโน้น อย่างนี้ แต่พ่อแฟนเราไม่ปลูกน่ะ เค้าบอกว่าปลูกไปนานๆแล้วดินมันจะเสีย แถมเวลาจะโค่น ก็ต้องถอนรากถอนโคนขึ้นให้หมดเลย คันบ่อก็จะยุบ เราก็ต้องตักดิน มาทำคันบ่อใหม่ พ่อแฟนเราเลยบอกกับเซลล์ไปว่า แค่จับปลา 10 บ่อ นี่ ปีนึงก็กินไม่หมดแล้ว จากคุณ : ลมหนาวกลางสายฝน - [ 26 ก.พ. 52 10:44:55 ]

ความคิดเห็นที่ 67 เกษตรกร เป็นผู้มีรายได้จากการทำเกษตรกรรม รบกวนอ่าน # 14 จากคุณ : หน้าปลาทอง - [ 26 ก.พ. 52 11:05:21 ]

ความคิดเห็นที่ 68 ทราบๆ ข่าวมาเหมือนกัน  เรื่องปลูกต้นกระดาษเนี่ย  แต่ไม่มีความรู้ชัวร์ๆ  ขอโหวตไว้ก่อนก็แล้วกัน ^_^ จากคุณ : DOGHALL - [ 26 ก.พ. 52 11:50:12 ]

ความคิดเห็นที่ 69 ใครคือผู้รู้ที่แท้จริง   เราว่า เรื่องโฆษณา เป็นเรื่องธุรกิจนะ ยังไงก็ fake ทั้งนั้นแหล่ะ หวังผลกันทั้งนั้น จะคิดไรมาก คนจ่ายเงินไม่ใช่เราซักหน่อย ดูแล้วรับไว้พิจารณาก็พอแล้วมั้ง  ส่วนเรื่องดินเสียอะไรเนี่ยะ ที่อ่านๆมาก็ไม่เห็นมีใครรู้จริงซักคน  เค้าทำธุรกิจก็ต้องหวังกำไร ไม่ใช่ตั้งไว้เป็นมูลนิธินะคะ  ถ้าไม่ชอบก็ไม่ต้องใช้ แต่ก็ขอถามหน่อยนะคะว่า กระดาษที่ไหนไม่ได้ทำมาจากเยื่อที่ได้มาจากต้นไม้บ้าง  มองสองมุมน่าจะดีกว่า  เพราะไม่มี "ใครคือผู้รู้ที่แท้จริง" จากคุณ : เรื่องมันซวยเพราะสวยเป็นเหตุ - [ 26 ก.พ. 52 12:16:57 ]

ความคิดเห็นที่ 70 เออคุณ ชาวนาเค้าไม่ได้โง่ขนาดนั้นมั้งค่ะ ดูแล้วมันก็เห็นชัดเจนนะคะว่า เกินจริง ใส่ทองใส่เพรช แล้วกรีดกรายขนาดนั้น เหมือนเค้าตั้งใจให้มันดูเวอร์นั่นแหละ จะว่าไปมันก็ดูขำๆ ดีออก ประเทศไทยมีโฆษณาเป็นล้านที่เกินจริงก็มันขึ้นชื่อว่าโฆษณาน่ะ ส่วนต้นกระดาษนั้น เคยได้ยินมาว่ามันทำลายดินจริง แต่ก็ยังไม่เห็นมีวิจัยออกมาแน่ชัดนะ ...ช่วงนี้เหมือนมีแต่ประเด็น double A ... จากคุณ : ... - [ 26 ก.พ. 52 12:19:51 A:10.29.48.41 X:203.144.139.225 TicketID:200924 ]

ความคิดเห็นที่ 71 เฮ้อ ผมรำคาญ คน แบบ เจ้าของกระทู้ จริงๆ มีการโต้เถียงเรื่องนี้หลายครั้งในบอร์ดแล้วนะครับ ไม่ทราบว่า เคยติดตาม  หรือหาข้อมูล ให้ถ่องแท้ ก่อนโพส หรือ เปล่า ? หรือสักแต่อ่านตาม ตาม Fwd Mail พอรู้ว่าเป็นยูคาลิปตัส แล้วก็ด่าๆๆๆ เพราะเห็นว่าเขากำลังด่าบริษัทAA ข้อมูลมันมีหลายด้านครับ ผมก็เชื่อเพียงแค่ด้านไหนด้านนึง แต่ไม่ออกมาด่าเอาตามกระแสหรอก ควรจะให้ทุกคนได้ รับรู้ข้อมูลทั้งหมดมันเป็นอย่างไร ไม่อย่างนั้นข้าวโพดก็กลายเป็นยิ่งกว่าขยะสิครับ เพราะดูดแร่ธาตุไปหมด พูดตรงๆ นะ ปลูก ยูคาลิปตัส มันให้ข้อเสียน้อยกว่าไอพวกพืช bio-fuel เสียอีก จากคุณ : Firion - [ 26 ก.พ. 52 12:45:43 ]

ความคิดเห็นที่ 72 โฆษณาคือการชวนเชื่อครับ เค้าก็จะใช้วิธีต่างๆเพื่อชักชวนให้คนเชื่อและคล้อยตาม จากคุณ : dayong - [ 26 ก.พ. 52 12:47:15 ]

ความคิดเห็นที่ 73 โฆษณา มันเว่อร์ทั้งนั้นแหละ เห็นด้วยว่าชาวนาไม่ได้โง่ ขนาดพูดอะไรก็ทำตามทั้งหมด   กลัวชาวนา ไม่รู้เหรอว่า ต้นกระดาษคือต้นยูคาลิปตัส  เค้าปลูกต้นไม้มาทั้งชีวิตนะ ไม่รู้เลยเหรอว่าไอ้ที่มาปลูกมันคือต้นอะไร เด็กประถมแถวบ้านผม เห็นใบเห็นต้นก็รู้แล้วว่าเป็นต้นยูคา  ชาวนาสมัยนี้ ถึงจน แต่ไม่ได้โง่ดักดาน ขนาดที่ปลูกต้นไม้ขาย ยังไม่รู้ว่าต้นอะไรหรอก ส่วนเรื่องการเปลี่ยนชื่อ มันจะเปลี่ยนเป้นอะไร ก็เรื่องของเค้า มันเป้นbrand ให้คนติดหูเท่านั้นเอง ป็อกกี้ ผมก็ไม่เรียกว่า ขนมบิสกิตแบบแท่งเคลือบครีมนม เลย์ ก็ไม่เรียกว่า มันฝรั่งทอดกรอบปรุงรส วอลล์เอเชียนดีไลท์ ผมก็ไม่เรียกว่า ไอศกรีมดัดแปลงกะทิและไอศกรีมดัดแปลงกะทิรสเผือกผสมชิ้นเผือก สอดไส้เฝือกบด แก้ไขเมื่อ 26 ก.พ. 52 12:52:49 จากคุณ : xxx (TaizoXXX) - [ 26 ก.พ. 52 12:51:18 ]

ความคิดเห็นที่ 74 ก่อนจะด่า ก่อนจะชม ก่อนจะติ ก่อนจะสนับสนุน ก่อนจะคัดค้าน อ่านบทความ ของ #52 ก่อนน่ะครับ เพราะเป็นบทความของ ศิริพร วัฒนศรีรังกุล ชุลีพร อรุณแสงสุรีย์ ดร. สมวงษ์ ตระกูลรุ่ง จาก ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ และบทความนี้ก็ปรากฏในเวปของ สวทช ด้วย http://www.nstda.or.th/th/index.php?option=com_content&task=view&id=500&Itemid=66 คุณจะยังเชื่อในความเชื่อ ๆเก่า Fwเมล เพื่อนเล่าว่า เค้าเล่ามา หรือเลือกที่จะเชื่อในบทความทางวิชาการ ก็เลือกเอาน่ะครับ แต่สำหรับตัวผม ผมเบื่อมาก กับการที่ฝังหัวกับความเชื่อ ประเภท "เค้าเล่าว่า" มาก ๆ ลองเปิดใจกว้าง ๆรับรู้เทคโนโลยีใหม่ ๆ กันบ้างเถอะครับก่อนที่จะเอาแต่ด่า ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ โดยไม่คิดจะรับฟังอะไรอีกเลย ทุกวันนี้ ประเทศเรากำลังแย่น่ะครับ โรงไฟฟ่าถ่านหิน.... สร้างไม่ได้สภาวะแวดล้อมเสีย โรงไฟฟ้านิวเคลียร์..... สร้างไม่ได้ เด๋วรั่วไหล เด๋วทำลายสิ่งแวดล้อม โรงไฟฟ้าพลังน้ำจากเขื่อน.... สร้างเขื่อนไม่ได้ตัดไม้ทำลายป่า โรงไฟฟ้าแก๊สธรรมชาติ.... ไม่มีแก๊สแล้วต้องไปเอาแก๊สจากพม่า จากมาเลย์มาไม่คุ้มทุน ปลูกต้นไม้ทำกระดาษ.....ปลูกไม่ได้มันทำลายดิน (ทั้ง ๆ ที่เค้าวิจัยกันแล้วว่าปรับปรุงสายพันธุ์แล้ว) อีกไม่นาน เราคงต้องจุดเทียน ใช้กระดานชนวน กลับสู่ชีวิตสมัยปลายกรุงศรีกันให้เป็นที่สนุกสนานแน่นอน แก้ไขเมื่อ 26 ก.พ. 52 13:25:51 จากคุณ : POZZ - [ 26 ก.พ. 52 13:07:16 ]

ความคิดเห็นที่ 75 โทษนะครับ ใครเป็นคนพูดว่า ชาวนาโง่ครับ แล้วอีกอย่าง กระทู้นี้เรามาพูดกันดีๆไม่ได้หรือครับ ทำไม ต้องพูดกันแรงๆด้วย พูดอยู่บนเวปบอรด์แบบนี้ ไม่ต้องประชดประชันกันได้บ้างไหมครับ ด้วยความเคารพ ผมไม่ได้ว่า ชาวนาโง่นะ ขอบคุณครับ แก้ไขเมื่อ 26 ก.พ. 52 13:18:32 จากคุณ : หลานยายจุล - [ 26 ก.พ. 52 13:07:48 ]

ความคิดเห็นที่ 76 แยก ประเด็น นะครับ ถ้าต้นยูคา เนี่ย อันนี้ ทู้เรื่องต้นยูคา . ต้นกระดาษ http://topicstock.pantip.com/wahkor/topicstock/2007/10/X5903616/X5903616.html (เหลือแต่ทู้นี้แหะ) ส่วนเรื่อง โฆษณา ผมว่า เกินจริงทุกเรื่องแหละครับ ปล. #60 ช่วงนี้ก้อแบบนี้แหละครับ หุหุ จะว่าไป ถ้า อีกค่ายเค้า ผลิตกระดาษโดยที่ไม่ได้ใช้ต้นยูคามาทำได้แล้ว จะ มาถล่ม ค่ายที่ใช้ ยูคา ก้อคงไม่แปลกใจครับ หุๆๆ จากคุณ : vn, man - [ 26 ก.พ. 52 13:08:52 ]

ความคิดเห็นที่ 77 รวยจริง รวยรอบเดียว แต่จนไปอีกกี่ปีดีล่ะ จากคุณ : laper - [ 26 ก.พ. 52 13:12:40 ]

ความคิดเห็นที่ 78 นี่แหละ เฉลิมไทยไหลตามน้ำ ราโชมอนมากๆ - - 1. มันคือต้นยูคานี่แหละครับแต่เค้าปรับปรุงสายพันธ์ให้ดีขึ้นจนไม่แย่งสารอาหารข้าวในนา 2. ไม่ว่าต้นไม้อะไรปลูกในที่ดินซ้ำๆเดิมโดยไม่มีการปรับปรุงที่ดิน พื้นดินก็แห้งแล้งทั้งนั้น ต้นยูคาของ AA ก็ไม่เว้นทำให้แห้งแล้งเหมือนกันแต่ก็ไม่ได้แตกต่างจากต้นไม้ชนิดอื่น อันนี้แม้แต่ในพันธ์ทิปห้องหว้ากอก็ได้เคยถกเกียงกันมาไม่รู้จะกี่ครั้งแล้ว 3.ถามว่าปกติคันนาเอาไว้ทำอะไร ส่วนมากก็ไม่ได้ทำอะไรให้เกิดประโยชน์ ถ้าเอาต้นไม้มาปลูก แล้วสามารถแปรกลับไปเป็นเงินได้ไม่ดีกว่าหรือครับ 4.เรื่องโฆษณาเค้าอาจจะทำไม่ถูก แต่อย่าเอาเรื่องอื่นมาปนกันครับ หาข้อมูลให้ดีๆก่อน นะ คนที่ไหลตามน้ำก็เช่นกัน - - สุดท้ายนะ ถาม จขกท.หน่อย ที่ออกมาพูดนี่เคยทำนาป่ะครับ เคยมีที่ดินแล้วปลูกจริงๆปะ จะได้รู้จริงๆกันซะที จากคุณ : ปุ๊บปั๊บ - [ 26 ก.พ. 52 13:17:37 A:192.168.0.17 X:10.29.37.110, 203.144.139.225 TicketID:170723 ]

ความคิดเห็นที่ 79 โฆษณามัน เกินจริงไปครับ ชาวนา ชาวสวน ที่จะรวยเค้าคงไม่มานั่งหวังกับต้นกระดาษเหรอครับ 3 ปีตัดขายได้ที แต่ มันก็ดีตรงเอาที่ว่างเปล่ามาทำประโยช์นถ้าไม่ทำลายดินก็ดี มีใครปลูกมานานหรือยังละครับ พวกปลูกที่เดิมหลายๆรอบ คนพวกนี้คือผู้รู้ตัวจริง ข้อดีอีกอย่างเอาไว้(ให้คนรวยที่ดินเยอะๆ) หลบภาษีที่ดินได้ ^^ จากคุณ : Ask - [ 26 ก.พ. 52 13:19:34 A:58.8.184.153 X: TicketID:006602 ]

ความคิดเห็นที่ 80 อินเตอร์เน็ตความรู้มีเป็นกิโล นั่งดูแต่รูปโป๊ขอให้ยกมือขึ้น จากคุณ : cygnat - [ 26 ก.พ. 52 13:20:08 ]

ความคิดเห็นที่ 81 ผมไม่เคยทำนาครับ^^ แล้วก็ในเมื่อต้นยูคา หรือต้นกระดาษมันไม่ได้ทำลายดินแบบที่ทุกคนกล่าวมา ผมก็รับไว้พิจารณาครับ ด้วยครามเคารพ ขอบคุณครับ จากคุณ : หลานยายจุล - [ 26 ก.พ. 52 13:20:12 ]

ความคิดเห็นที่ 82 คห.74 ผมว่าจุดเทียนก็ดีนะครับ ตั้งแต่ทางด่วนแถวบ้านสร้างเสร็จมา2ปีผมก็แทบจะหาความมืดของท้องฟ้าไม่ได้เลย ดาวสวยๆหายไปหมด ต้นยูคาลิปตัสมีหลายพันธ์ที่ไม่ทำลายดิน อาเราเป็นครูเกษตรบอกมา ช่วยไปศึกษาข้อมูลก่อนด้วย จขกท. จากคุณ : ผีฟรีคิก - [ 26 ก.พ. 52 13:20:24 ]

ความคิดเห็นที่ 83 คห.78 ข้อ 4 ผมหมายถึงเรื่องเป็ดนะ ซึ่งผมก็คิดว่าทำไม่ถูก จากคุณ : ปุ๊บปั๊บ - [ 26 ก.พ. 52 13:21:18 A:10.29.37.110 X:203.144.139.228 TicketID:170723 ]

ความคิดเห็นที่ 84 อีกที ก่อนที่ผมจะออกจากกระทู้นี้ไป ผมตั้งกระทู้นี้ ขึ้นมาไม่ได้ต้องการให้เกิดการแขวะ กัด ประชดประชันด้วยกันเองนะครับ ตั้งขึ้นมา เพื่อแชร์ข้อมูลซึ่งกันและกัน.... ไม่ได้ต้องการที่จะมาทะเลาะกันในกระทู้แบบนี้ ใครมีข้อมูลใหม่ ข้อมูลกีๆ ก็เอามาแชร์กัน รับรู้กัน ข้อไหนผมไม่รู้ ก็ได้รู้ ข้อไหนมีอะไรใหม่ๆ ก็จะได้เข้าใจร่วมกัน ทุกคนเข้ามาแชร์ความรู้ และรับความรู้ มุมมองที่ดีๆออกไป ก็แค่นั้น ขอบคุณครับ จากคุณ : หลานยายจุล - [ 26 ก.พ. 52 13:24:53 ]

ความคิดเห็นที่ 85 ไม่รู้สิ  ผมว่าชาวบ้านที่เป็นเกษตรกรจริงๆ   แกรู้อยู่แล้วล่ะครับว่าไอ้ต้นกระดาษมันก็คือต้นยูคา   แล้วไอ้ต้นยูคามันมีผลเสียอะไรบ้าง  ก็ทราบดีอยู่แล้วเพราะมันเกี่ยวข้องกับความเป็นอยู่เค้าโดยตรง สุดท้าย  เค้าเลือกที่จะปลูกหรือไม่ปลูก  ก็ต้องยอมรับว่า  เค้าได้พิจารณาถี่ถ้วนในระดับนึงแล้วครับ   อาชีพเค้านิ  แหะๆ จากคุณ : ettexo[R] - [ 26 ก.พ. 52 13:28:04 ]

ความคิดเห็นที่ 86 อยากเข้ามา่แชร์ความคิดเห็น ชาวนาจริงๆ เขารู้นะครับ ส่วนใหญ่จะไม่ปลูกหรอก แถวบ้านผมอยุธยา เอาแค่ละแวกบ้าน ไม่เห็นมีใครปลูกแซมตรงคันนาเลยซักต้น ชาวนาไม่ได้โง่นะครับ ฉลาดกว่าพวกใส่สูทบางคนเสียอีก เพียงแต่ว่าโอกาสทางสังคมไม่เท่ากันแค่นั้นเอง จากคุณ : Journalise - [ 26 ก.พ. 52 13:30:24 ]

ความคิดเห็นที่ 87 ข้อความของคุณมันไม่ใช่ลักษณะของการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น อ่านแล้วยังไงมันก็ให้ความรู้สึกว่า คุณตัดสินไปแล้ว จากข้อมูลประเภท "เค้าเล่าว่า" โดยขาดการหาข้อมูลในเชิงอื่นๆ สนับสนุน คนอื่นๆ เค้าถึงไม่เข้าใจในเจตนาที่คุณจะนำเสนอรึเปล่าครับ? จากคุณ : chainy - [ 26 ก.พ. 52 13:42:58 ]

ความคิดเห็นที่ 88 หมายความว่า จขกท ข้อมูลไม่แน่น แล้วพูดปาวๆ สินะคับ ได้ความรู้ จากคุณ : The แมลงปอ - [ 26 ก.พ. 52 13:43:09 ]

ความคิดเห็นที่ 89 คืออยากจะเรียนให้ทราบว่า ปัญหาของต้นยูคาลิปตัสเนี่ย นอกจากจะแย่งอาหารจากพืชปลูกทั่วไปแล้ว มันยังก่อปัญหาอื่นๆในระยะยาวอีกครับ ทั้งทางเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อมด้วยว่าต้นยูคาลิปตัส นอกจากจะแย่งน้ำและแร่ธาตุจากพืชอื่นๆใกล้อย่างมูมมามแล้ว ใบของมันยังมีสารที่ป้องการไม่ให้พืชอื่นเจริญเติบโตได้หรือแม้แต่ทำลายการงอกของเมล็ดพืชได้ด้วยครับ ลองเอาบทความวิชาการนี้ไปอ่านดูครับ http://www.cheapsportwatches.us/downloads/eucalyptus_nonn.pdf เครดิต: คุณนณณ์ ผานิตวงศ์ แห่ง www.siamensis.org ***ไม่ว่าพืชหรือสัตว์ใดๆที่เป็นพันธุ์ต่างถิ่น ย่อมมีผลกระทบกับพันธุ์พืชถิ่นทั้งนั้นครับ แต่จะมาก น้อย ต่างๆกันไป แต่ที่แน่ๆ ยังไงก็ย่อมมีผลกับระบบนิเวศโดยรวมครับ แก้ไขเมื่อ 26 ก.พ. 52 13:48:42 จากคุณ : กวิวัฏ - [ 26 ก.พ. 52 13:43:12 ]

ความคิดเห็นที่ 90 ดีใจที่มาเห็นกระทู้แนะนำนี้ไม่ได้มีคนหลับหูหลับตาด่าเขาไปโดยไม่มีเหตุผล จากคุณ : เสียงจากบ้านนา - [ 26 ก.พ. 52 13:45:46 ]

ความคิดเห็นที่ 91 #84 รอบหน้า หากจะเข้ามาแชร์ความคิดเห็น ระวังหัวกระทู้(คำถาม)ที่เขียนหน่อยนะครับ ^^ จากคุณ : Sorry_I can't be perfect - [ 26 ก.พ. 52 13:48:21 ]

ความคิดเห็นที่ 92 ผมว่าไม่ต้องปลูก ชาวนาก็รวยได้ ถ้าโรงสี มันไม่กดขี่และโกง ชาวนา ดูความแตกต่างระหว่างเจ้าของโรงสี กับ เจ้าของที่นาก็พอ เกี่ยวกันไหมเนี่ย -''- จากคุณ : ปลาโลมา_:P - [ 26 ก.พ. 52 13:51:55 ]

ความคิดเห็นที่ 93 คห. 74 โรงไฟฟ้าถ่านหินส่งผลกระทบต่อสภาวะแวดล้อมจริงๆครับ ไม่ได้ฟังเขาเล่ามาด้วย เพราะผมเคยศึกษางานวิจัยให้บริษัท กระท่อมกุ้ง(นามสมมุติ) สมัยผมจบโทมาใหม่ๆ เพียงแต่จะกระทบมากหรือน้อยนั้น ขึ้นอยู่กับการทำงานของทีมตรวจสอบทั้งวัตถุดิบ ว่ามีปริมาณซัลเฟอร์ปมมามากไหม เป็นถ่านหินประเภทอะไร ระบบเผาไหม้ว่าสมบูรณ์ขนาดไหน รวมถึงระบบบำบัดทั้งน้ำและอากาศ โดยเฉพาะ emission control สำคัญมาก แต่สำคัญมากแค่ไหน เงินก็เบิกทางได้ทุกที จากคุณ : ปลงไม่ตกซะที - [ 26 ก.พ. 52 13:54:18 ]

ความคิดเห็นที่ 94 เราว่าชาวนา ชาวสวนเค้ารู้นะว่าต้นอะไรควรปลูกยังไง เพราะเค้าอยุ่กับการเกษตรย่อมรู้เรื่องพวกนี้ดีอยู่แล้ว ไม่ต้องกลัวว่าต้นยูคาจะไปแย่งที่นาอะไรหรอก ถึงชาวนาจะเรียนไม่สูงแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าชาวนาโง่นะ เฮ้อ จากคุณ : v><v - [ 26 ก.พ. 52 13:57:40 A:58.9.230.56 X: TicketID:195611 ]

ความคิดเห็นที่ 95 เลยลืมเรื่องต้นกระดาษเลย แน่จริงทำ LCA ออกมายันซิครับ AA มีนักวิจัย ทีมวิจัยอยู่แล้วนี่ ปล. ผลงานของนักวิจัย ก็ควรอ่านอย่างตรองด้วยครับ เพราะวิทยาศาสตร์เดินหน้าตลอดเวลา และงานวิจัยบางส่วน ได้รับอิทธิพลจากผู้สนับสนุนงานวิจัยด้วยครับ บางส่วนนะครับ ไม่ใช่ทั้งหมด ไม่ได้ฟังเขามานะครับ ประสบการตรงครับ จากคุณ : ปลงไม่ตกซะที - [ 26 ก.พ. 52 14:02:39 ]

ความคิดเห็นที่ 96 คนเมืองกรุง ก็เถียงกันไป บ้านผม ขายมาจะยี่สิบปีแล้ว ยิ่งตัด ยิ่งแตกยอด จากคุณ : นายโอ้นโต้น - [ 26 ก.พ. 52 14:03:01 ]

ความคิดเห็นที่ 97 เรื่องประชดเสียดสีนี่เลี่ยงไม่ได้จริงๆในเวปบอร์ด เรื่องนี้ในหว้ากอเคยถกกันมาทีหนึ่งแล้ว พอเจอฟอเวิดแมวเลยไม่ได้ใส่ใจอะไร จะว่าไป จขกท. เองก็ใช้เนื้อหาโจมตี AA รุนแรงไปหน่อยจนเหมือนจงใจจะกัด AA อยู่แล้ว บางคนก็เลยใส่ซะละมั้งครับ จากคุณ : Desolation Angel - [ 26 ก.พ. 52 14:31:49 ]

ความคิดเห็นที่ 98 http://www.uka.th.gs/web%2Du/ka/ เว็บนี้น่าสนใจนะครับ... แล้วผมก็เคยได้ยินมาเหมือนกันว่า ในหลวงท่านไม่ส่งเสริมให้ปลูก แต่ผมก็ไม่เคยเห็นเป็นลายลักษณ์อักษรเลย แต่ในเว็บที่ผมอ่านมา ราชินีท่านทรงดำรัสมาอีกแบบนึงนะครับ (ตรงข้ามกันอ่ะ) แล้วนานมาแล้ว ถ้าผมจำไม่ผิด ผมนั่งดูรายการโลกมหัศจรรย์ ช่อง9 มั้ง?? ก็มีประเด็นเรื่องการปลูกยูคาเป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อมหรือไม่? ทาง ผอ.ศูนย์วิจัยป่าไม้ คณะวนศาสตร์ ม.เกษตรศาสตร์ ออกมายืนยันว่า จากการวิจัยไม่มีภัยต่อสิ่งแวดล้อมแน่นอน ใครกว้างขวางลองไปขอเทปรายการดูครับ 555  พี่ชายผมจบเกษตรมา ก็บอกว่า พืชมันกินดินหมดแหล่ะ (หมายถึง ดูดแร่ธาตุ ดูดน้ำจากดิน) แต่เกษตรกรต้องรู้จักวิธีการบำรุงดินให้เป็น มันสำปะหลังนี่จะกินน้ำกินปุ๋ยมากกว่ายูคาเสียอีก... จากคุณ : สงวน (สงวน) - [ 26 ก.พ. 52 15:54:00 ]

ความคิดเห็นที่ 99 จากคห.74 ก็ดูเหมือนประเทศเราจะดูดีนะคะ(ที่ห่วงใยสิ่งแวดล้อมสะขนาดนั้น) แต่ขอโทษไม่รู้จะมองไกลไปไหน ขยะยังทิ้งไม่ลงถังเลย จากคุณ : Cyuurippu* - [ 26 ก.พ. 52 18:03:43 ]

ความคิดเห็นที่ 100 คนที่บอกว่าควรปลูกในที่ดินที่ไม่สามารถปลูกพืชอื่นได้ ทำไมไม่ลองพัฒนาที่ดินตรงนั้นให้สามารถปลูกพืชขึ้นมาได้แทนล่ะ เหมือนที่ในหลวงทรงตรัส บอกว่าให้ปลูกหญ้าแฝกบำรุงดิน อีกไม่นานดินก็จะสามารถเป็นดินที่ดีได้ ยิ่งดินไม่ดี แล้วปลูกยูคา ดินไม่ยิ่งแย่ใหญ่เหรอ ดินไม่ดีก็ควรทำให้ดีไม่ใช่เหรอ ถ้าคิดแบบนี้ต่อไป ประเทศไทยคงจะมีทะเลทรายกับประเทศอื่นบ้างแล้วหล่ะ (เหมือนออสเตรเลียแหล่งของยูคา ที่มีอาณาเขตเป็นทะเลทรายเกือบ ครึ่งเกาะ) จากคุณ : Berry Water (BerryWater) - [ 26 ก.พ. 52 18:04:26 ]

ความคิดเห็นที่ 101 เข้ามายกมือช่วยโหวตกระทู้นี้ด้วยคนอ่ะ ไม่ชอบต้นกระดาษมาก ๆ ทำลายสิ่งแวดล้อมเห็น ๆ จากคุณ : inzagies - [ 26 ก.พ. 52 18:32:04 ]

ความคิดเห็นที่ 102 อยากให้ทุกๆความเห็นอ่านให้ละเอียดก่อนนะครับ "ผลวิจัยสามารถสรุปกันได้แล้วว่ามันไม่ได้ทำลายดินมากไปกว่าต้นไม้ชนิดอื่นเลยนะครับ" - - จากคุณ : ปุ๊บปั๊บ - [ 26 ก.พ. 52 19:11:35 A:10.29.37.110 X:203.144.139.227 TicketID:170723 ]

ความคิดเห็นที่ 103 อยากให้ไปดูที่โรงงานน่ะครับ ผมแวะไปหาเพื่อนแถวนั้นทีไร ท้องฟ้าขมุกขมัวตลอดเลย อยากรู้เรื่องจริงๆ ต้องลองถามชาวบ้านดู ว่าโรงงานอะไรปล่อยมลพิษเยอะที่สุด จากคุณ : journallife - [ 26 ก.พ. 52 19:29:15 ]

ความคิดเห็นที่ 104 ู^ ^ ^ จิ้มไปที่ 101 ค่ะ อ่าน ครบทุก คห. รึยังคะ แก้ไขเมื่อ 26 ก.พ. 52 19:34:23 จากคุณ : ChocoLinz - [ 26 ก.พ. 52 19:33:48 ]

ความคิดเห็นที่ 105 เราจำได้ว่าเราเคยได้ยิน ในหลวง ท่านบอกไว้เหมือนกัน ว่า ต้นยูคาลิปตัส ทำลายดิน ในกรณีที่ปลูกชนิดเดียวหมดทั้งป่า .....การปลูกป่าต้องปลูกให้หลากหลายชนิด...แต่คนที่รณรงค์ปลูกป่า แต่เอายูคาลิปตัสไปปลูกชนิดเดียวไม่ถูกต้อง  มันโตเร็วก็จริง แต่ไม่ดีสำหรับระยะยาว.... ส่วนเรื่องที่เอายูคาลิปตัสมาปลูกในทุ่งนา...อันนั้นไม่เหมาะเป็นอย่างยิ่ง เพราะหลังจากตัดไม้ไปแล้ว..ที่ดินแปลงนั้นจะปลูกพืชชนิดอื่น ไม่ค่อยได้ผล เพราะดินเสื่อมสภาพ เป็นพระราชดำรัสของในหลวงในวันที่ 4 ธันวา แต่จำไม่ได้จริง ๆ ว่าปีไหน แต่เราจำได้ขึ้นใจเลยจริง ๆ ในหลวงทรงกล่าวถึงเรื่องการปลูกป่า จากคุณ : .... (++ชอบจัง..เรื่องนี้++) - [ 26 ก.พ. 52 19:39:46 ]

ความคิดเห็นที่ 106 แปลกดีครับ #100 แล้วถ้าเขาจะปลูกยูคามันผิดตรงไหนไม่ทราบครับ ในเมื่อมันโตไว และให้ผลตอบแทนดีกว่า ในขณะที่การปรับปรุงดินพื้นที่นั้นมีต้นทุน... เมื่อปลูกพืชชนิดอื่นแล้ว อาจจะไม่คุ้มกับทุนที่ใส่ลงไป การปลูกพืชเชิงเดี่ยว มีปัญหาทุกชนิดครับ เพราะพืชแต่ละชนิดต้องการสารอาหารไม่เท่ากัน การใช้หญ้าแฝกบำรุงดิน ที่คุณบอกไม่นานนี่ เท่าไหร่ครับ พอจะบอกเวลาได้ไหม เป็นการลงทุนที่ต่ำครับ แต่ต้องใช้เวลา ซึ่งอาจจะไม่ทันในฤดูเพาะปลูก (เกษตรกรไม่มีเวลารอนานเกิน 1 ฤดูกาลหรอก) แต่หญ้าแฝกช่วยในการรักษาหน้าดิน ทำให้หน้าดินไม่ถูกทำลาย อันนี้เป็นสาเหตุหนึ่งที่เหมาะสมดี ท่าทางจะเสพ FW เมล์จนไม่คิดหาข้อมูลเพิ่มเติมเลยสินะครับ พอออสเตรเลียเป็นแหล่งยูคา เป็นทะเลทรายจำนวนมาก เพราะยูคาแน่ๆ ทึกทักเอาซะเป็นตุเป็นตะเลย หนึ่งในปัญหาที่ทำให้ส่วนใหญ่กลายเป็นทะเลทรายไป ไม่ใช่ ยูคาลิปตัสแน่นอนครับ เพราะ ท้องทุ่งทั้งหมด ไม่ได้ปลูกยูคาเป็นพรืด เป็นป่าดงยูคาลิปตัสอย่างที่คุณคงจะเข้าใจ สาเหตุหนึ่งมาจากการปศุสัตว์ และ สภาพอากาศครับ มันเป็ฯทะเลทรายอยู่แล้วไม่ใช่พึ่งมาเป็น แก้ไขเมื่อ 26 ก.พ. 52 19:41:49 จากคุณ : กระต๊อบน้อย - [ 26 ก.พ. 52 19:41:26 ]

ความคิดเห็นที่ 107 เรื่องต้นยูคานี่เถียงกันมาเป็นสิบๆๆๆ ปีแล้ว แต่ผมก็เห็นว่าก็ยังมีคนปลูกกันอยู่เรื่อยๆ เป็นสิบปีมาแล้วเหมือนกัน เมื่อก่อนฟังแต่ข้อมูลปากเปล่าก็เชื่อว่ามันคงไม่ดีจริงๆ แต่นี่มันเป็นสิบๆ ปีมาแล้ว ผมยังไม่เคยเห็นหลักฐานจะแจ้งเลยว่าปลูกแล้วมันไม่ดี  คนที่บอกว่าไม่ดีไม่เคยมีรูปมาให้ดูเลยว่าดินมันแย่ยังไง ไม่ดียังไง เจ้าของที่ดินที่อยู่ข้างเคียงเป็นยังไง   นักข่าวเวลาทำข่าวก็ไม่เคยไปดูไปถ่ายสถานที่จริงมาให้ดูเลยว่าเป็นยังไง จากคุณ : TingTing - [ 26 ก.พ. 52 19:44:25 ]

ความคิดเห็นที่ 108 เราลองไปปลูกตรงที่น้ำท่วมง่ายๆ ดีมั้ยคะ - -" ถ้าคุณไม่ใช่ชาวนา และไม่อยากปลูกตรงคันนา หรือที่ไหนๆ ที่คิดว่าจะทำให้ลำบากต่อการทำไร่ไถนา เราไปปลูกตรงที่คิดว่า น้ำมันท่วมง่ายๆ หรือที่โล่งๆ ดีกว่ามะ เผื่อว่า ไอ้ตรงที่น้ำท่วมบ่อยๆ จะได้มีต้นไม้ไปดูดน้ำออกไปมั่ง บ้านเราจะได้ไม่มีปัญหาน้ำท่วมบ่อยๆ ไง - - อ่ะ อันนี้ไอเดียส่วนตัวนะคะ ถ้าผิดยังไงก็ขออภัย ปล. เราไม่ค่อยชอบโฆษณาของบริษัทนี้เหมือนกัน มันดูหลอกลวงเกินไป อย่าคิดว่าชาวนาทุกคนมีความรู้เท่ากัน และอย่าคิดว่าชาวนาทุกคนโง่จนไม่รู้อะไรเลยนะ จากคุณ : pae_ya - [ 26 ก.พ. 52 19:48:22 ]

ความคิดเห็นที่ 109 สุดท้ายก็กลายเป็นเรื่อง โอละพ่อ ไปซะละ เฉลิมไทยไหลตามน้ำ บางทีน้ำที่ไหลมา ก็มีท่อนซุงมาด้วย บาดเจ็บสาหัสกันไป จากคุณ : แอคโจนบริเค - [ 26 ก.พ. 52 20:33:04 ]

ความคิดเห็นที่ 110 เคยไปดูงานในพื้นที่โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริแถวอีสาน มีต้นยูคาปลูกเยอะมาก เคยถามเจ้าหน้าที่เหมือนกันว่าทำไมปลูกเยอะ เพราะเคยได้ยินว่ามันจะทำให้ดินเสีย พี่เจ้าหน้าที่คนนั้นเค้าตอบว่า "ที่ดินเสีย เพราะใบมันร่วงเยอะมาก จนปิดหน้าดินจากแสงแดดและอ็อกซิเจน ถ้าในที่ ๆ รกร้างไม่มีคนไปกวาดใบออก ปล่อยให้ทับถมเรื่อย ๆ ดินก็จะเสียในที่สุด" เหตุของดินเสียจริง ๆ จึงไม่ใช่ต้นยูคา ถ้ามีเกษตรกรดูแลพื้นที่หน้าดิน ก็ไม่น่าจะเป็นปัญหา ฉะนั้นถ้าเป็นพื้นที่ ๆ ชาวบ้าน จากคุณ : ดินนา - [ 26 ก.พ. 52 20:53:37 ]

ความคิดเห็นที่ 111 จริง ๆ ครับ แย่จริง ๆ เลย AA เนี่ย ปลูกต้นไม้ทำลายธรรมชาติ เกลียดมาก ๆ เลยครับ ถ้าจะตอบแบบผม อ่านทุก คห. ให้หมดก่อนนะครับ อย่าให้ใครดูถูกน่อว่าชาวเฉลิมไทยอ่านกระทู้แค่ 7 บรรทัด *-* จากคุณ : Meroko - [ 26 ก.พ. 52 20:55:00 ]

ความคิดเห็นที่ 112 เคยรู้มาเหมือนกัน จากคุณ : คนคนหนึ่ง (Peahen) - [ 26 ก.พ. 52 20:56:17 ]

ความคิดเห็นที่ 113 โฆษณา fake หรือ over ก็เป็นเรื่องปกติของโฆษณาชวนเชื่อ เหมือนดูหนังดูละครก็โอเวอร์ไว้ก่อน ถ้าคุณไม่อคติกับเรื่องเป็ดอะไรนั่นนะ คุณจะไม่รู้สึกต่อต้าน อ้างอิง คห. 42 นะ ดูแล้วอยากปลูกขึ้นมาเลย ถ้าขี้เกียจอ่าน คห. 52 ก้อไปดูคลิป คห. 42 เลย จากคุณ : CuoreRossoNeri - [ 26 ก.พ. 52 21:03:30 ]

ความคิดเห็นที่ 114 รู้แต่ว่าเด็กๆ เรียกต้นยูคาว่าต้นกระดาษดับเบิ้ลเอหมดแล้ว ปัจจุบันมีการปรับปรุงพันธ์ยูคาลิปตัสสายพันธ์ใหม่ ไม่ทำลายพืชรอบข้างเหมือนแต่ก่อนจ้า จากคุณ : Tai-mOn - [ 26 ก.พ. 52 21:34:59 ]

ความคิดเห็นที่ 115 ต้นกระดาษ = คำโฆษณา ที่ทำให้คนจำง่ายๆ เข้าใจง่ายๆ ได้มากกว่าคำว่า ต้นยูคาลิปตัส ซึ่งถือว่าคนคิดประสพความสำเร็จ กับชื่อนี้นะ(ในแง่การโฆษณา) เท่าที่รู้มา ยูคาลิปตัส มันไม่ถึงขั้นต้นมฤตยู ทำลายล้างดินให้มันวอดวายไปซะหมด มันไม่ใช่สาเหตุจากต้นของมันอย่างเดียวที่ทำให้เกิดดินเสียดินเสื่อม อีกทั้งการพัฒนาสายพันธุ์อีกด้วย(แต่ยังไม่เคยอ่านพวกresearchของมันหรอกนะ แต่ได้ยินมา) ถ้ามีที่ดินว่างจริง การปลูกก็ดีนะ ให้ผลตอบแทนมากกว่าทิ้งเปล่าๆ แต่อย่างไรก็ดี ควรให้ข้อมูลที่ถูกต้องและupdate ทั้งด้านที่ดี และ ด้านที่ไม่ดี ต่อผู้ที่คิดจะปลูกค่ะ จากคุณ : มะยมมะนาว - [ 26 ก.พ. 52 21:56:16 ]

ความคิดเห็นที่ 116 ต้นยูคาลิปตัส พอเริ่มโต รากจะดูดน้ำและสารอาหารบริเวณรอบ ๆ จนกระทั้งไม่มีพื้นชนิดใดเจริญเติบโตได้เลย เมื่อไม่มีพืช สัตว์ในดินก็หนีหายไปกันหมด เฮ้อ .... จากคุณ : มาตอบแล้วจากไป - [ 26 ก.พ. 52 22:19:47 ]

ความคิดเห็นที่ 117 ยิ่งปลูกเป็นหลายร้อย หลายพันต้น ก็ไม่ต้องนึกถึงสภาพหน้าดินเลย จากคุณ : มาตอบแล้วจากไป - [ 26 ก.พ. 52 22:23:17 ]

ความคิดเห็นที่ 118 โหวตคับ จากคุณ : Gongga_boy - [ 26 ก.พ. 52 22:40:22 ]

ความคิดเห็นที่ 119 ผมเคยได้ Fw Mail บอกว่าในหลวงทรงว่าผู้ที่ปลูกยูคาฯ ด้วย ซึ่งเรื่องการปลูกยูคาฯ นั้น ห้องหว้ากอคุยกันนานแล้วว่ามันไม่มีผลจริง การทำ Fwd Mail แบบนี้ไม่รู้ทำไมเพื่ออะไร คนทำอาจหวังดีก็ได้ หรือหวังไม่ดีก็ได้ แต่มันทำให้คนที่มีความรู้ มีการศึกษากลายเป็นมองว่า... เขียนไปโดนลบแหง - - เหมือนคราวก่อน ตอนเกิดภัยพิบัติในชาติ ก็มี Fwd Mail บอกว่า เพราะในหลวงทรงทำฝนเทียม ชาติเลยปลอดภัย คนที่มีการศึกษา มีความรู้เลยขำกันใหญ่ พาลด่าไปถึงพระองค์ท่านเลยว่าเพ้อเจ้อ พอคนอ่าน Fwd Mail แล้วเชื่อ ไปเล่าให้ฝรั่งฟัง เค้าก็เออออ ทั้งที่ใจจริงคิดว่า เออ... คนไทยมันเหมือนเกาหลีเหนือเข้าไปทุกที ผู้นำเป็นเทวดา เป็นพระเจ้า สั่งฟ้าสั่งฝน ห้ามลมห้ามแดดได้ ทั้งที่จริง ๆ พระองค์ไม่ได้ทรงทำอะไรอวดตัวเลยครับ สิ่งที่พระองค์ทำไป ก็คือดี แต่ไม่ได้แปลว่ามันจะหยุดโลกทั้งใบได้ แต่คนทำ Mail ลูกโซ่นี่เอง ทำให้สิ่งดี ๆ บางอย่างของพระองค์กลายเป็นเรื่องน่าขันไป ซึ่งบางคนอาจส่งต่อ Mail นั้นด้วยความหวังดี รู้สึกดีจริง ๆ ก็ได้ แต่ในระยะยาว ผมว่า Mail ที่เขียนเรื่องพวกนี้เกินจริง หรือว่าเอาพระองค์มาอ้างเพื่อใช้เพื่อเหตุผลส่วนตัว จะสร้างปัญหาต่อไปเรื่อย ๆ นะ จากคุณ : cookiecompany - [ 26 ก.พ. 52 22:41:17 ]

ความคิดเห็นที่ 120 เรื่องข้อมูลของต้นยูคา ส่วนตัวไม่ค่อยรู้เท่าไหร่ แต่เรื่องโฆษณาของ AA มันเกินจริงอ่ะ ไม่ชอบ จากคุณ : หน่วยต่อสู้อากาศยาน - [ 26 ก.พ. 52 22:49:18 ]

ความคิดเห็นที่ 121 ยูคาลิปตัส ไม่ได้มีพิษภัยต่อระบบนิเวศ ต่อพืชพรรณ หรือสัตว์ แต่ปัญหาเกิดขึ้นจากระบบการปลูกเป็นเชิงเดี่ยวที่กว้างขวางเกินไป เช่นเดียวกับการปลูกพืชเชิงเดี่ยวชนิดอื่นๆ เช่น ข้าวโพด ไม้สัก หรือมันสำปะหลัง ที่ไม่ได้มีระบบการจัดการบำรุงดินที่ดีก็จะมีผลกระทบกับสิ่งแวดล้อมเช่น เดียวกัน ไม่ใช่แค่ต้นยูคาหรอกคะที่จะทำระบบนิเวศน์เสียหาย ข้าวโพด อ้อย ทำไร่เลื่อยลอย ทำนา ที่ประโคมใส่ปุ๋ยเท่าไป ยางพารา โรงงานปล่อยกลิ่นเหม็นไปทั่ว แต่ประเด็นคือลองเปิดใจ แล้วลองมองหาข้อดีข้อเสียของแต่ละสิ่งดูนะคะ อย่าเพิ่งอคติ ไป จากคุณ : Mapaw - [ 26 ก.พ. 52 22:49:30 ]

ความคิดเห็นที่ 122 ปล ท่านที่จะตอบกระทู้โปรดอ่านบทความข้างบนด้วยนะคะ หรือจะเอาบทความที่กล่าวถึงข้อเสียมาลงไว้บ้างก็จะดี จะได้รับความรู้ คู่กับการตอบกระทู้ จากคุณ : Mapaw - [ 26 ก.พ. 52 22:51:39 ]

ความคิดเห็นที่ 123 สมัยเด็กๆ เคยเห็นภาพคล้ายๆกับ ใน คห 117 ยังคิดเลยว่า น่ามีบ้านอยู่ในสวนแบบนี้ เพราะดูร่มรื่น แต่ไม่รก พี่งมารู้ว่า ต้นไม้นี้ ส่งผลต่อ ดิน ทำให้ไม่สามารถมี พืชอื่นๆขี้นได้ ถ้าเอาถั่วเขียวไปปลูกระหว่างต้น จะช่วยบำรุงดีนได้หรือเปล่า จากคุณ : กุ้ยเหลียง - [ 26 ก.พ. 52 22:54:39 ]

ความคิดเห็นที่ 124 เอ่อ...ให้ตอบไงดีหละ ผมพอรู้หลายอย่างอยู่นะ เรื่องพันธุ์เค้าค้นคว้าวิจัยพันธุ์ใหม่แล้วนะครับ รากไม่ลึกแล้ว แถมให้เนื้อไม้สูง ผลิตกระดาษดี เรื่องการปลูกในนาข้าว เค้าไม่ได้ให้ปลูกในนานะครับ ปลูกในคันนา เคยเห็นนาหรือเปล่าครับ ตามคันนาจะมีที่ว่าง บางที่จะมีต้นไม้เอาใว้ทำร่มเงา เอาใว้พักหลบแดด จะดีใหมถ้าปลูกแล้วหลบแดดได้ แถมได้เงิน อาจจะมีคนถามต่ออีก แล้วใบหละร่วงลงในนาแล้วจะเป็นพิษ มันร่วงเยอะขนาดนั้นเหรอ เยอะพอจะเป็นพิษเหรอครับ เรื่องการดูดน้ำดูดธาตุอาหาร ทุกท่านรู้จักคำว่า crop removal หรือเปล่าครับ นักเรียนด้านเกษตรทุกคนคงรู้จัก มันคือการนำธาตุอาหารออกจากดินครับ ทุกพืชก็ต้องนำออกทั้งนั้น คุณปลูกข้าวก็ต้องเอาธาตุอาหารออกไป ดินเสื่อมธาตุอาหาร ถ้าไม่ใส่ปุ๋ย ดังนั้นต้นไม้ทุกต้นเหมือนกันครับ ถามว่าระหว่างยูคากะมันสำปะหลัง อะไรทำลายดินมากกว่ากัน ลองไปหาคำตอบดูนะครับ ถ้าได้คำตอบว่าเป็นมันหละครับ หลายๆท่านจะบอกว่าห้ามปลูกมันได้ใหมครับ เพราะทำให้ดินเสีย เฮ้อ...ไม่ได้บอกว่าปลูกแล้วดีครับ แต่อยากให้ลองมองกว้างๆก่อน ปลูกแล้วคุ้มใหม แล้วแต่จะคิดครับ ขอให้มีความสุขในวันที่แสนจะร้อนนะครับ ใครมีกิฟขอด้วนนะครับอิๆๆ จากคุณ : seto16 - [ 26 ก.พ. 52 23:01:04 ]

ความคิดเห็นที่ 125 ดังใหญ่แล้วบริษัทนี้ ... เริ่มเห็นใจ .. . เหมือนกัดไม่ปล่อย เหอ ๆๆ.. อคติไปรึเปล่า ว่า โฆษณา มันเกินจริง เราว่า .. หลาย ๆ โฆษณา ก็เกินจริง ซื้อ มิสทีนมาใช้ ก็ไม่เห็นจะสวยเหมือนอั้ม ซักที อีกอย่างคำว่าต้นกระดาษ .. เป็นเรื่องของการสร้าง Brand รึเปล่า .. เราว่าบริษัทนี้เค้าสร้าง แบรนด์ เก่งนะ เก่งจริง ๆ ..   กระดาษ = AA  ...  อย่างเรา  ถ้าให้คิดชื่อ กระดาษ  brand อื่นยังคิดไม่ออกเลย .. ...  ทำอะไรก็ทำลายสิ่งแวดล้อมไปหมดแหละ นะ ....หายใจออกมายังเป็น CO2 เลย .. จับมือกันฆ่าตัวตายเลยดีมั้ยนะ.. จะได้มีส่วนช่วยลดโลกร้อน ลดการสร้าง CO2 แก้คำผิด แก้ไขเมื่อ 26 ก.พ. 52 23:15:34 แก้ไขเมื่อ 26 ก.พ. 52 23:14:17 แก้ไขเมื่อ 26 ก.พ. 52 23:13:20 จากคุณ : E L P H A B A - [ 26 ก.พ. 52 23:10:39 ]

ความคิดเห็นที่ 126 ขอแนะนำให้มีกระทู้รีวิว การปลูกต้นยูคาที่คันนา จะเป็นประโยชน์มากๆ หุหุ จากคุณ : Mapaw - [ 26 ก.พ. 52 23:20:04 ]

ความคิดเห็นที่ 127 ว่าแต่ จขกท นะ กลับมาอ่านกาตู๊ที่ตัวเองตั้งอีกรอบ ฤ ยังละครับว่า คนอื่นๆ ห้องอื่นๆ เขาคิดกับกาตู๊ที่มาจากความคิดของ จขกท อันนี้ว่ายังไงบ้างครับ จากคุณ : monsungja - [ 26 ก.พ. 52 23:21:19 ]

ความคิดเห็นที่ 128 ไม่ขอตอบ  เบื่อ  นั่งฟัง เขาเล่าว่า จากคุณ : Night_Angel - [ 26 ก.พ. 52 23:24:39 ]

ความคิดเห็นที่ 129 ก็คนที่แสดงโฆษณานี้ ไม่ใช่ ชาวนาจริงๆ หนิคะ เพราะตัวเขาเองก็เล่นเรื่อง นัทกับนัท หนิ เล่นเป็นวินแมงกะไซ หนะ ~ ( ทั้งซอย มีมอไซรับจ้างคันเดียว 555 ) จึงไม่แปลก ที่จะดูเฟค ๆ เพราะเค้าไม่ใช่ชาวไร่ ชาวนาจริง ๆ เอ๊ะ ? หรือเขาอาจจะเคยเป็นก็ได้นะ : ] ส่วนเรื่องต้นยูคา , , , โนคอมเมนท์ เพราะ กระทู้นี้ไม่ใช่กระทู้แรก แล้วก็คงไม่ใช่กระทู้สุดท้ายด้วย -..- แก้ไขเมื่อ 26 ก.พ. 52 23:55:28 จากคุณ : labelle - [ 26 ก.พ. 52 23:54:20 ]

ความคิดเห็นที่ 130 ผมว่าที่เค้ามาลงโฆษณาก็คงจะต้องการวัตถุดิบเพิ่มมั้งครับ เพราะไม่เช่นนั้นคงจะไม่ลงโฆษณา  แต่ที่รวยนั้นก็เวอร์ตามแบบฉบับโฆษณา อีกอย่างบริษัทก็คงไม่สิ้นคิดขนาดคิดว่าชาวบ้านจะไม่รู้กันหรอกว่าต้นยูคามันเป็นยังไง  เค้าคงปรับปรุงพันธุ์แล้วแหละ จากคุณ : HuntRider - [ 27 ก.พ. 52 00:00:47 ]

ความคิดเห็นที่ 131 เรื่องราวของกระดาษ AA ถือเป็นกรณีที่น่าศึกษามาก แต่ก่อนอื่นเราต้องทำความรู้จักก่อนว่า กระดาษ AA มีบริษัท แอ๊ดวานซ์ อะโกร จำกัด (มหาชน) (เป็นที่มาของดับเบิ้ลเอ นั่นแหละ) เป็นเจ้าของ ซึ่งบริษัทนี้เป็นของกลุ่มเกษตรรุ่งเรืองที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับการเกษตรมาอย่างยาวนาน การที่กลุ่มธุรกิจนี้หันมาจับธุรกิจกระดาษ ก็มีเรื่องเล่าอยู่ว่า กิตติ ดำเนินชาญวนิชย์ ผู้ก่อตั้งเกษตรรุ่งเรือง ไม่รู้มาก่อนว่าภรรยาตัวเองได้ลงทุนทำสวนป่าไว้แปลงหนึ่งชื่อ "สวนป่ากิตติ" (เป็นข่าวดังมากเมื่อเกือบๆ 20 ปีก่อนกรณีรุกที่สาธารณะ) ไว้ที่ฉะเชิงเทรา กระทั่งภรรยาเสียชีวิต เขาจึงเข้าไปดูสวนป่า และศึกษาอย่างจริงจัง จนกระทั่งเขาคิดที่จะเปลี่ยนไม้ยูคาลิปตัสมาเป็นวัตถุดิบในการทำเยื่อกระดาษ แทนที่จะนำไปทำเฟอร์นิเจอร์อย่างที่ภรรยาเขาตั้งใจ กิตติได้เดินทางไปทั่วโลก ทั้งออสเตรเลียและอเมริกาใต้ เพื่อศึกษาการปลูกป่ายูคาลิปตัส รองรับอุตสาหกรรมกระดาษ ว่ากันว่าเกษตรรุ่งเรืองใช้เงินถึง 4 พันล้านบาทในการกระโดดเข้าสู่ธุรกิจกระดาษเมื่อปี 2537 พอถึงปี 2538 ก็ระดมทุนในตลาดหุ้น กระทั่งปี 2540 เจอวิกฤตเศรษฐกิจ เจ๊งจนต้องปรับโครงสร้างหนี้กันยกใหญ่ ซึ่งหลังจากนั้นการดำเนินธุรกิจของ AA ก็ค่อยเป็นค่อยไป แต่เต็มไปด้วยกลยุทธ์ทางการตลาดทุกๆ จังหวะก้าว เราต้องยอมรับว่าวันนี้กระดาษ AA กลายเป็นผู้นำในเรื่องกระดาษฟอกขาวของบ้านเรา ครองส่วนแบ่งการตลาดได้ถึง 40% ทำรายได้กว่า 5 พันล้านบาทต่อปี และนับวันจะเติบโตขึ้นเรื่อยๆ แต่การเติบโตนี้ก็ยังเป็นปัญหาอยู่ เพราะวัตถุดิบในการผลิตไม่เพียงพอ ทาง แอ๊ดวานซ์ อะโกร จึงพยายามทุกๆ ทางในการเสาะแสวงหา ครั้นจะนำเข้า ก็แพงเหลือเกิน หากส่งเสริมในประเทศ ก็ยังไม่พอ ทางเดียวที่ทำได้ คือกระตุ้นการเพาะปลูกเพิ่ม แต่ปัญหาก็ยังมีอยู่ และใหญ่เสียด้วย นั่นคือ การยอมรับ คำว่า "ยูคาลิปตัส" เสมือนเป็นพระเจ้าและซาตานในต้นเดียวกัน เถียงกันไม่จบซักทีว่า มีประโยชน์ หรือ มีโทษ มากกว่ากัน ดังนั้นหากแอ๊ดวานซ์ อะโกร จะลงไปลุยขยายพื้นที่ปลูกยูคาลิปตัสอย่างเป็นล่ำเป็นสัน ฝ่ายที่ต่อต้านน่าจะรุมประนามเป็นแน่แท้ เหตุนี้การสร้างแบรนด์ใหม่ให้กับต้นยุคาลิปตัส จึงเกิดขึ้น ด้วยการโหมสร้างการรับรู้ในวงกว้าง ซึ่งใช้งบโฆษณากว่า 200 ล้านบาท ในที่สุดจาก "ยูคาลิปตัส" จึงกลายมาเป็น "ต้นกระดาษ" ได้อย่างแนบเนียน-เหลือเชื่อ จากคุณ : PJW - [ 27 ก.พ. 52 01:11:13 ]

ความคิดเห็นที่ 132 ไม่ถกเรื่องวิทยาศาสตร์ แค่อยากบอกคุณ จขกท ว่า นี่มันไม่ใช่ CSR แต่เป็นการโฆษณาหา Supplier ราคาถูกครับ จากคุณ : Roby - [ 27 ก.พ. 52 02:05:45 ]

ความคิดเห็นที่ 133 รูปภาพจากแปลงที่ปลูกยูคาบนคันนา จะเห็นว่าต้นข้าวยังออกรวงสวยงามเหมือนปกติครับ... ที่จริงยูคาก็เป็นวัตถุดิบในการผลิตกระดาษที่ทั้งแอ๊ดวานซ์อะโกรและซิเมนต์ไทยต้องใช้ทั้งนั้น แต่ทั้งคู่ก็พยายามหลบเลี่ยงคำว่า ยูคาลิปตัส เนื่องจากคนไทยส่วนใหญ่ยังคงมีความเชื่อว่ามันคือ "ไม้ปิศาจ" และกระแสนี้มานานมากกว่า 10 ปีแล้ว ซึ่งถ้ามันไม่ดีจริงป่านนี้คนที่เคยปลูกแรกๆ คงต่อต้านกันรุนแรงแล้วครับ แต่ทุกวันนี้ก็ยังเห็นปลูกกันโครมๆ ตามราชบุรี กาญจนบุรี ตาก ฉะเชิงเทรา ปราจีนบุรี และอีกหลายๆจังหวัดในอีสานครับ ถ้าคนในเมืองในกระทู้ยังอ้างสิ่งที่ตนรู้มาและไม่รู้จักเปิดรับ อยากให้ลองขับรถไปสอบถามเกษตรกรตาม ตจว.ที่เค้าปลูกดูด้วยตนเองครับ อย่ามาโอ้อวดด้วยข้อมูลที่ใช้ความคิดตนเองเป็นใหญ่ครับ (ต้นกระดาษ หรือ ต้นยูคา ที่โฆษณาเป็นการใช้เทคโนโลยีเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อครับ ไม่ใช่พันธุ์ดั้งเดิมคามาลฯจากออสเตรเลีย แต่จะเป็นลูกผสมคามาลฯกับสายพันธุ์ยูโรฯ : ขอบคุณพี่ชายผม ที่เอื้อเฟื้อข้อมูล) http://www.uka.th.gs/web%2Du/ka/ แก้ไขเมื่อ 27 ก.พ. 52 03:00:12 จากคุณ : สงวน (สงวน) - [ 27 ก.พ. 52 02:59:42 ]

ความคิดเห็นที่ 134 รูปแปลงยูคาบนคันนาของชาวบ้านครับ จากคุณ : สงวน - [ 27 ก.พ. 52 03:01:04 ]

ความคิดเห็นที่ 135 ทำไมรูปไม่ขึ้นหว่า จากคุณ : สงวน (สงวน) - [ 27 ก.พ. 52 03:04:59 ]

ความคิดเห็นที่ 136 กระบวนการผลิตกระดาษก็ก่อให้เกิดมลพิษมากๆ ยังไงขอให้ใช้กระดาษแต่ละแผ่นอย่างรอบคอบนะคะ ถ้าใช้ทั้ง 2 ด้านได้ยิ่งดีค่ะ เมื่อเราใช้กระดาษอย่างมีสติ ความต้องการกระดาษในตลาดก็น้อยลง ทำให้ความต้องการวัตถุดิบที่จะเอามาทำกระดาษน้อยลงตามด้วย จะได้ไม่ต้องมาเถียงกันเรื่องโทษของต้นยูคาฯ ไงคะ ถ้าความต้องการน้อย เค้าก็ไม่มาชักชวนให้ช่วยกันปลูกวัตถุดิบของกระดาษกันมากแบบนี้ ช่วยกันคนละไม้ละมือนะคะ ถ้าใช้กระดาษทั้ง 2 ด้านกันคนละแผ่นต่อวัน    100 คนก็ประหยัดกระดาษไปได้ 100 แผ่นต่อวัน   ถ้าทำอย่างนี้ได้ 10 วัน ก็เท่ากับประหยัดไปได้ 1,000 แผ่น หนึ่งรีมมี 500 แผ่น ก็เท่ากับได้ประหยัดกระดาษไปตั้ง 2 รีม(หรือแพ็ค) ไม่น้อยเลยเนอะคะ  ช่วยๆ กันนะคะ   ตอบกระทู้ว่า โฆษณา Double A ได้ดูแค่ภาคแรกเท่านั้นค่ะ ภาคที่ 2 ยังไม่เห็นเพราะช่วงนี้ไม่มีเวลาดูทีวี เลยไม่สามารถแสดงความเห็นในเรื่องโฆษณาภาค 2 ได้ค่ะ จากคุณ : กาก้า ^_^ - [ 27 ก.พ. 52 05:35:43 ]

ความคิดเห็นที่ 137 อยากรู้ว่าไอ้โครงการปลูกต้นนี้บนคันนามันเริ่มมาถึงสามปีแล้วเหรอ ถ้าไม่ถึงสามปีเนี่ยไปฟ้องใครได้บ้างว่าหลอกลวงผู้บริโภคหรือเปล่า จากคุณ : ชินจัง..ชักจะชินแล้ว - [ 27 ก.พ. 52 06:24:24 ]

ความคิดเห็นที่ 138 ผ่านไปแถวสระแก้ว เห็นปลูกกันตูมเลย นึกว่าจะได้กินต้นกระดาษแทนข้าวแล้ว อิอิ...(^.^) จากคุณ : เจ่เจ๊ - [ 27 ก.พ. 52 06:54:03 ]

ความคิดเห็นที่ 139 ต้นไม่เป็นยังไงไม่รู้แต่ไม่ชอบโฆษณา โดยเฉพาะเอาทองมาใส่อวด มีทองเยอะแล้วรวย ตรรกะแปลกๆนะ จากคุณ : Disorder - [ 27 ก.พ. 52 08:25:44 ]

ความคิดเห็นที่ 140 อ่านดูแล้วกัน มันเยอะมากขอรับ กระผมอ่านข้ามๆ ( - -") นักวิชาการสิ่งแวดล้อมน่าจะอ่าน http://www.aciar.gov.au/system/files/sites/aciar/files/node/505/pr111.pdf ส่วนเรื่องการโฆษณาของ "ดับ" เบิ้ลเอขอรับ ชิงชังตั้งแต่แลกเห็น สนับสนุนวัตถุนิยมสุดขั้ว ไม่ชอบขอรับ จากคุณ : ladydunce - [ 27 ก.พ. 52 08:33:38 ]

ความคิดเห็นที่ 141 ข้อมูลทางวิชาการเรื่องต้นกระดาษจะมีการรับรองอย่างไรผมไม่ทราบครับยอมรับว่ายังไม่มีโอกาสศึกษา แต่จาการไปเยี่ยมชาวบ้านในท้องที่ได้เห็นผลกระทบจาการปลูกยูคา(อาจจะเป็นพันธ์ดั้งเดิมก็ได้) น้ำในแหล่งน้ำติดกับต้นยูคาเน่าเสียจนไม่สามารถมีสิ่งมีชีวิตอยู่ได้อันนี้คงฝากให้เพื่อนๆช่วยกันพิจารณาดูครับ จากคุณ : shamaan - [ 27 ก.พ. 52 08:51:06 ]

ความคิดเห็นที่ 142 เราว่ามันก็สองด้านนะคะ aA เค้าเน้นที่จะไม่ตัดไม้ป่า ก็ต้องมาเน้นการปลูกยูคาเพื่อมาทำกระดาษ และด้วยการปรับปรุงสายพันธ์มาจนมั่นใจว่าได้พันธ์ที่ดีพอจะปลูกในสภาพแวดล้อมเมืองไทยได้ ส่วน SCG เน้นรักษาสิ่งแวดล้อมด้วยการไม่ตัดไม้ใหม่ แต่ใช้การ recycle แต่ในกระบวนการ recycle เนี่ย มันต้องมีการกำจัดหมึกอันเก่าออก หรือที่เรียกว่า de-ink ซึ่งก็ก่อให้เกิดมลพิษได้หากไม่มีการกำจัดที่ดีพอ และจะใช้พลังงานมากขึ้นในการทำกระบวนการนี้ อีกทั้งการต้องใส่สารฟอกขาวเพิ่มลงไปอีกค่ะ aA ไม่เห็นด้วยกับแนววคิดนี้ เลยไปเน้นด้านบนแทน ไม่ได้มาบอกว่าใครดี ใครไม่ดีนะ ทุกอย่างมีทั้งด้านดีและไม่ดีทั้งนั้นค่ะ จากคุณ : เต้าฮวยคุณยาย (เต้าฮวยคุณยาย) - [ 27 ก.พ. 52 09:05:57 ]

ความคิดเห็นที่ 143 ถึงความเห็น84ครับ เรื่องโรงไฟฟ้าของถามคนแถวแม่เมาะดูครับ ว่าเจอปัญหาอะไรบ้าง บ้านเราไอ้เรื่องทุจริตมันเยอะครับ บางที่โครงการดีๆ พวกก็โกงซะ ลดคุณภาพอุปกรณ์ที่จะรักษาสิ่งแวดล้อม เพราะต้องจ่ายหัวคิวให้ใครบางคน   ปัญหาเรื่องต้นกระดาษ คงต้องดูกันยาวๆครับ จากคุณ : tammaka12 - [ 27 ก.พ. 52 09:07:14 ]

ความคิดเห็นที่ 144 ผมค่อนข้างชอบแนวความคิดของ aA ครับ  อย่างน้อยก็มีโอกาสที่จะทำให้ชาวนามีรายได้เพิ่มขึ้น และมั่นใจว่ากระดาษที่ผมใช้มาจากต้นไม้ที่เราปลูกเอง ที่น่าเป็นห่วงมากกว่าชาวนาคือวัฒนธรรมที่ไม่รู้จริงแล้วไหลด่าๆกันไปมากกว่า . . . แก้ไขเมื่อ 27 ก.พ. 52 11:09:44 จากคุณ : Hippokib - [ 27 ก.พ. 52 09:48:11 ]

ความคิดเห็นที่ 145 ถ้าตั้งกระทู้ที่หว้ากอ น้ำเสียงของคำตอบจะเป็นอีกแบบหนึ่ง การพูดคุยจะเป็นอีกแบบหนึ่ง ซึ่งอาจทำให้จขกท.ไม่ต้องรู้สึกแย่เท่านี้ ขอแสดงความเสียใจด้วย. จากคุณ : Cryptomnesia - [ 27 ก.พ. 52 09:51:13 ]

ความคิดเห็นที่ 146 นอกเรื่องหน่อยนะคะ พ่อเข้าใจว่าต้อนกระดาษ aa  เนี่ย  คทอต้นไม้ชนิดหนึ่งค่ะ ไม่ใช่ต้นยูคา แป่ววววว!!! คุณได้ทำให้คนดูเข้าใจผิดจริง ๆ ค่ะ จากคุณ : ขำกลิ้งลิงกับหมา - [ 27 ก.พ. 52 09:59:57 ]

ความคิดเห็นที่ 147 เอ่อ รูปที่เอามาลงว่าปลูกยูคาแล้วหญ้าไม่ขึ้น เอาต้นกล้ามาจากไหนครับ จะไปหามาปลูกหน่อย สวนยูคาของผม หญ้ารกชิกหายอ่ะ ปล. คนที่เข้ามาโจมตีเรื่องยูคา ส่วนมากเห็นโวยวายเรื่องเป็ดกระดาษมาก่อนทั้งนั้น แบบนี้ถือว่า Bias รึเปล่าหว่า จากคุณ : Illuminatus - [ 27 ก.พ. 52 10:21:28 ]

ความคิดเห็นที่ 148 ขอย้ำอีกครั้งครับ ก่อนด่า กรุณาอ่านบทความต่อไปนี้ก่อน ยูคาลิปตัส: ไม้เศรษฐกิจของโลก     ยูคาลิปตัส เป็นไม้เศรษฐกิจของโลก เป็นวัตถุดิบที่สำคัญในการผลิตเยื่อกระดาษ และเป็นพืชพลังงานที่สำคัญ ส่วนใบและก้านอุดมด้วยน้ำมัน นอกจากนำไปสกัดเป็นน้ำมันยูคาลิปตัสที่มีสรรพคุณทางการแพทย์แล้ว ยังใช้เพื่อการผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพได้อีกด้วย ยิ่งไปกว่านั้น ไม้ยูคาลิปตัสเอง เมื่อเผาแล้วก็ใช้เป็นถ่านได้ด้วยเช่นกัน ไม้ยูคาลิปตัสยังเป็นที่ต้องการอย่างมาก จากข้อมูลของฝ่ายวิจัยธนาคารนครหลวงไทย มูลค่าการส่งออกเยื่อกระดาษของประเทศไทยในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2550 มีมูลค่า 4,234.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 17.5 จากช่วงเดียวกันของปี 2549 สำหรับแนวโน้มของอุตสาหกรรมเยื่อกระดาษในปี 2551 คาดว่าจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 5 เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ยูคาลิปตัส เป็นไม้พื้นเมืองของประเทศออสเตรเลีย มีมากกว่า 700 สายพันธุ์ แต่มีเพียงไม่กี่ชนิดที่เจริญเติบโตได้ดีในประเทศไทย ซึ่งได้มีการปรับปรุงพันธุ์จนเป็นพันธุ์ที่สามารถเจริญเติบโตได้ในสภาพดินแทบทุกประเภท ตั้งแต่ดินทราย ดินเค็ม ดินเปรี้ยว ทนต่อความแห้งแล้งได้ดี แต่ไม่ทนดินที่มีหินปูนสูง การขยายพันธุ์ต้นยูคาลิปตัสนั้น สามารถทำได้โดยการเพาะเมล็ด การตัดกิ่ง และการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ ข้อดีของยูคาลิปตัส คือ โตเร็ว สามารถใช้ประโยชน์ได้ภายใน 4-5 ปี มีการลงทุนค่อนข้างต่ำ เมื่อเทียบกับไม้โตเร็วชนิดอื่น เจริญเติบโตในพื้นที่ที่มีความอุดมสมบูรณ์ต่ำได้ เมื่ออายุ 3-6 ปี เนื้อไม้มีความเหมาะสมสำหรับผลิตเยื่อกระดาษ การปลูกยูคาลิปตัสในพื้นที่ป่าเสื่อมโทรมจะช่วยรักษาระดับความชื้นในอากาศ สำหรับการปลูกต้นยูคาลิปตัสในประเทศไทยนั้น มีมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2493 แต่มีการสนับสนุนอย่างจริงจังราวปี 2519 เพื่อเป็นไม้ทดแทนป่าที่ถูกทำลายไป โดยปลูกในอัตรา 1 แสนไร่ต่อปี จากนั้นก็ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในปี 2525 รัฐบาลสนับสนุนการปลูกยูคาลิปตัสเพื่อใช้ประโยชน์ตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 5 (2525-2529) แต่ก็ต้องมีอันยุติลง เนื่องจากมีการอ้างถึงผลเสียของการปลูกพืชชนิดนี้มาก โดยข้อเสียของยูคาลิปตัส คือ เป็นพืชที่ใช้น้ำมาก และเนื่องจากพืชชนิดนี้โตเร็ว ทำให้ความชื้นและระดับน้ำใต้ดินลดลงไปอย่างรวดเร็วด้วย ซึ่งจะมีผลกระทบต่อแหล่งน้ำ และพืชข้างเคียง และจากการศึกษาผลกระทบของยูคาลิปตัสกับสิ่งแวดล้อมโดยหน่วยงานต่างๆ ได้ข้อสรุปว่า ยูคาลิปตัสไม่ได้มีพิษภัยต่อระบบนิเวศ ต่อพืชพรรณ หรือสัตว์ แต่ปัญหาเกิดขึ้นจากระบบการปลูกเป็นเชิงเดี่ยวที่กว้างขวางเกินไป เช่นเดียวกับการปลูกพืชเชิงเดี่ยวชนิดอื่นๆ เช่น ข้าวโพด ไม้สัก หรือมันสำปะหลัง ที่ไม่ได้มีระบบการจัดการบำรุงดินที่ดีก็จะมีผลกระทบกับสิ่งแวดล้อมเช่นเดียวกัน ดังนั้น การปลูกยูคาลิปตัสต้องคัดเลือกสายพันธุ์ให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อม และต้องมีการจัดการที่ถูกต้องเหมาะสมด้วย ในระยะหลังนี้ การปลูกบนคันนาเป็นที่ฮือฮากันมาก ประเทศไทยมีการทำนาประมาณ 60 ล้านไร่ แต่ผลผลิตเฉลี่ยข้าวของประเทศไทยยังต่ำกว่าประเทศเพื่อนบ้าน ผลผลิตข้าวต่ำจึงเป็นสาเหตุหนึ่งของปัญหาความยากจน การแก้ปัญหาในส่วนนี้คือ การใช้ประโยชน์จากที่นาให้เต็มที่ โดยเฉพาะคันนาที่ทิ้งร้างว่างเปล่าไว้ น่าจะศึกษาวิจัยกันอย่างจริงจังให้เป็นระบบ เลือกพันธุ์ยูคาลิปตัสให้เหมาะสมกับแต่ละพื้นที่ได้ แต่ต้องมีการจัดการพื้นที่การปลูกด้วย เช่น จะใช้สายพันธุ์อะไรที่มีความทนทานต่อพื้นที่ที่มีน้ำใต้ดินสูง และมีโอกาสน้ำท่วมขัง พันธุ์ที่มีเรือนยอดเล็ก มีลำต้นตรงเพื่อที่จะได้ไม่ไปบังแสงแดดต่อต้นข้าวในนา ในการปลูกพืชผสมจึงควรดูจุดมุ่งหมายว่าต้องการอะไร เพื่อจัดการให้ได้ตามนั้น หากต้องการผลผลิตจากข้าวเป็นหลัก แต่ต้องการรายได้เสริมบ้าง และใช้พื้นที่คันนาให้เกิดประโยชน์สูงสุด ก็ปลูกยูคาลิปตัสเป็นพืชเสริมได้ ยูคาลิปตัสเป็นพืชผสมตัวเองและสามารถผสมข้ามได้ โดยทั่วไปแล้วอัตราการผสมข้ามจะสูง ดังนั้น หากนำเมล็ดที่ไม่ได้รับการควบคุมการผสมไปปลูกอาจได้ต้นพันธุ์ที่แปรปรวนไปจากต้นแม่ได้ การใช้เทคโนโลยีชีวภาพด้านการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อเข้ามาช่วยในการขยายกล้าพันธุ์จากต้นแม่ที่ได้รับการคัดเลือกว่าดีแล้ว จึงเป็นทางออกที่ดี เพราะจะให้กล้าพันธุ์ที่เหมือนต้นแม่ที่ต้องการ แต่เนื่องจากต้นที่ได้จากการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่ออาจมีต้นทุนสูง ดังนั้น การที่จะเพาะพันธุ์ให้ได้ต้นพันธุ์ที่เหมือนต้นแม่ที่ต้องการ จึงมีการนำเอาเทคนิคการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อมาใช้ในการเพิ่มปริมาณต้นพันธุ์ และใช้การปักชำเข้ามาช่วยในการขยายพันธุ์จากต้นพันธุ์จำนวนมากที่ได้จากการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่ออีกที วิธีการผสมผสานจะทำให้ได้ต้นกล้ายูคาลิปตัสที่มีราคาถูกลง และตรงตามสายพันธุ์แม่ที่ต้องการ นอกจากการใช้เทคนิคด้านการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อแล้ว วิทยาการด้านเทคโนโลยีชีวภาพในสาขาดีเอ็นเอ ยังสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้อย่างมากมายในเรื่องของยูคาลิปตัส การใช้ดีเอ็นเอเครื่องหมายสามารถนำมาทำเอกลักษณ์ทางพันธุกรรมของสายพันธุ์ยูคาลิปตัสที่ดีได้ เพื่อใช้ในการตรวจสอบคุณภาพของกล้ายูคาลิปตัส นอกจากนั้น ยังสามารถช่วยในการพิสูจน์หลักฐานในคดีความที่มีการลักขโมยพันธุ์ หรือการลักลอบตัดไม้ในพื้นที่ปลูก นอกจากนี้ เทคนิคด้านดีเอ็นเอยังสามารถช่วยในการปรับปรุงพันธุ์ยูคาลิปตัสให้มีลักษณะที่ต้องการได้เร็วขึ้นกว่าการปรับปรุงพันธุ์แบบดั้งเดิม เพราะการปรับปรุงพันธุ์แบบดั้งเดิม ต้องเริ่มจากการคัดเลือกพันธุ์พ่อแม่และทำการผสมให้ได้ก่อน จากนั้นก็นำไปทำการปลูกทดสอบเพื่อหาต้นที่มีลักษณะที่ต้องการ ซึ่งอาจใช้เวลาและพื้นที่ปลูกมาก ถ้าหากมีดีเอ็นเอเครื่องหมายที่ควบคุมลักษณะที่ต้องการ เช่น ต้านทานต่อโรค ต้านทานต่อแมลง คุณภาพเนื้อไม้ ลำต้นตรง และการเจริญเติบโตที่รวดเร็ว เราสามารถใช้ดีเอ็นเอเครื่องหมายที่ควบคุมลักษณะดังกล่าวในการคัดเลือกต้นกล้าได้เลย โดยไม่ต้องนำไปปลูกเพื่อคัดเลือกจำนวนหลายพันต้น เพื่อจะเลือกต้นที่ดีเพียงไม่กี่ต้นไว้ทำแม่พันธุ์ นอกจากเทคนิคทั้ง 2 วิธีที่กล่าวมาแล้ว การนำเทคโนโลยีด้านการถ่ายยีนมาช่วยในการพัฒนาพันธุ์ยูคาลิปตัสก็สามารถทำได้ ซึ่งในต่างประเทศเทคโนโลยีชีวภาพ ได้ถูกนำมาใช้ในการปรับปรุงพันธุ์ยูคาลิปตัสในหลายๆ ประเทศ และโดยมากการวิจัยและการปรับปรุงพันธุ์ยูคาลิปตัสจะอยู่ในบริษัทเอกชนส่วนมาก เช่น การถ่ายยีนให้มีลิกนินในเนื้อไม้น้อยลง จะทำให้ขั้นตอนฟอกเยื่อกระดาษ (bleaching) ไม่ต้องใช้สารเคมีจำนวนมาก ซึ่งจะช่วยในการลดพลังงานและสารเคมีในกระบวนการผลิตเยื่อกระดาษ และสารมลพิษจากการผลิตเยื่อกระดาษ เป็นต้น เนื่องจากราคาไม้ยูคาลิปตัสนั้นมีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อยๆ ตามความต้องการของตลาด ดังนั้น หากมีระบบการจัดการที่ดีประกอบกับการใช้เทคโนโลยีร่วมกันอย่างเหมาะสม การปลูกต้นยูคาลิปตัสก็เป็นตัวเลือกหนึ่งที่น่าสนใจของประเทศ ###   ผู้เขียน: ศิริพร วัฒนศรีรังกุล ชุลีพร อรุณแสงสุรีย์ ดร. สมวงษ์ ตระกูลรุ่ง           ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ http://www.nstda.or.th/th/index.php?option=com_content&task=view&id=500&Itemid=66 *******ได้โปรดน่ะครับก่อนจะแสดงความเห็นโปรดอ่านข้อมูลก่อนตอบด้วยน่ะครับ******* แก้ไขเมื่อ 27 ก.พ. 52 10:31:24 แก้ไขเมื่อ 27 ก.พ. 52 10:29:49 จากคุณ : POZZ - [ 27 ก.พ. 52 10:28:08 ]

ความคิดเห็นที่ 149 ดูโฆษณาแว่บแรกเรากลับคิดว่า ดีแฮะมีทางเลือกให้เกษตรกรเพิ่มอีกทาง ขอบคุณ AA จริงๆ ส่วนเรื่องที่ว่ามันจะทำลายดินหรือไม่ทำลายเนี่ย ถ้าเกษตรกรคิดจะปลูกจริงๆก็คงติดต่อไปยังเบอร์ที่ท้ายรายการให้ไว้ แล้วทางเ้จ้าหน้าที่เค้าคงจะให้คำแนะนำแหละมั้งครับ เค้าคงไม่บอกให้ปลูกแบบในโฆษณาเป๊ะๆในกรณีที่มันมีผลเสียนะ ส่วนโฆษณาที่เห็นมันเป็นแค่ตัวโฆษณาที่จูงใจผู้ชมอะครับ ก็ดูตลกดี ส่วนนาก็สวยดี ถ้าจะให้คนคิดเค้าไปเลือกถ่ายโลเคชั่นที่ดินแบบรกๆร้างๆก็คงออกมาไม่น่าดูไม่ดึงดูดมั้ง จะกลายเป็นรายการเกษตรกันพอดี ยังไงก็สนับสนุน AA ครับ อย่างน้อยก็ช่วยให้เกษตรกรไทยมีทางเลือกในการประกอบอาชีพมากขึ้น จากคุณ : FinarE - [ 27 ก.พ. 52 10:39:32 ]

ความคิดเห็นที่ 150 เว่อร์ไปมั้ยครับ คนในนี้ก็ไหลตามน้ำกันดีจริง ๆ เห็นอะไรนิดหน่อยที่คิดว่ามันดูดี ก็ทำเป็นโหวต ทำเป็นพ่อพระ แม่พระ ศีลธรรมสูงส่ง เคยศึกษาข้อมูลก่อนจะโพสมั้ยครับ ลองอ่าน คห.148 ก่อนนะครับ จากคุณ : Porepor - [ 27 ก.พ. 52 10:40:38 ]

ความคิดเห็นที่ 151 เดี่ยวจะหาว่ามีแค่บทความเดียว จาก นสพ คมชัดลึก ผลวิจัยยูคาฯพันธุ์"เค58" ต้นใหญ่เหมาะปลูกบนคันนา ประไทยก็เป็นประเทศหนึ่งที่ยูคาลิปตัสเข้ามามีบทบาท ในฐานะไม้เศรษฐกิจที่ทำรายได้ดีให้แก่ประเทศและเกษตรกรอย่างไม่น่าเชื่อ เห็นได้จากผลงานการวิจัยการปลูกยูคาลิปตัสในนาข้าวในพื้นที่นาปีภาคอีสานของ "ดร.บุญวงศ์ ไทยอุตสาห์" อดีตคณบดีคณะวนศาสตร์ ม.เกษตรศาสตร์ ในฐานะหัวหน้าโครงการปลูกไม้โตเร็วเพื่อแก้ปัญหาความยากจนของประชาชนในชนบท ซึ่งเป็นความร่วมมือทางวิชาการระหว่าง สกว.และกลุ่มบริษัท แอ๊ดวานซ์ อะโกร จำกัด (มหาชน) ปรากฏว่าปลูกยูคาลิปตัสบนคันนาทุกๆ ระยะห่าง 30-40 เมตร โดยระยะห่างระหว่างต้น 2-3 เมตร เมื่ออายุ 5 ปี จะได้ไม้อย่างน้อยไร่ละ 3 ตัน ซึ่งจะเป็นการเสริมรายได้ให้แก่ชาวนาได้เป็นอย่างดี   การปลูกยูคาลิปตัสบนคันนาไม่ใช่ของใหม่ เกิดขึ้นครั้งแรกที่ อ.สุวรรณภูมิ จ.ร้อยเอ็ด เมื่อ 21 ปีที่แล้ว ขณะนั้นปลูกเพื่อนำมาใช้ทำฟืน เนื่องจากน้ำมันแพง จากนั้นก็นำมาปลูกที่ อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี และ จ.ฉะเชิงเทรา จึงมีคนพูดกันว่า ยูคาลิปตัสเกิดที่ร้อยเอ็ดแต่มาเติบโตที่ปราจีนฯ แปดริ้ว" ดร.บุญวงศ์กล่าวระหว่างนำคณะสื่อมวลชนเยี่ยมชมแปลงทดลองปลูกไม้ยูคาลิปตัสบนคันนาของสุพจน์ โยงรัมย์ แห่งบ้านหนองกาใน ต.คู้ยายหมี อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา ดร.บุญวงศ์ยอมรับว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นในอดีต ไม่ว่าจะเป็นการเกิดโรคยืนต้นตายระบาดกับสวนป่ายูคาลิปตัสในภาคตะวันตกแถบ จ.ราชบุรี จ.กาญจนบุรี แล้วลามมาสู่ภาคตะวันออก จ.ฉะเชิงเทรา  จ.ปราจีนบุรี และ จ.สระแก้ว ในปี 2540 โดยสายพันธุ์ที่เป็นมากที่สุดเบอร์ เค8 เค54 และ เค55 หรือการตรวจพบแตนฝอยปมระบาดอย่างรุนแรงในปี 2547 อันเนื่องมาจากฐานพันธุกรรม ทำให้เกษตรกรเริ่มไม่มั่นใจในการปลูกไม้ชนิดนี้ "ยอมรับว่าเมื่อก่อนเรื่องสายพันธุ์อาจมีปัญหาอยู่บ้าง แต่หลังจากมีการทำวิจัยได้พบสายพันธุ์ใหม่ๆ หลายตัวไม่ว่าจะเป็น เค7 เค51 เค58 และ เค59 แล้วนำมาทดลองปลูกในแปลงนาของเกษตรกรปรากฏว่าได้ผลดีมาก แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับพื้นที่ปลูกด้วย อย่าง เค58 จะเติบโตได้ดีในพื้นที่ดินเหนียวที่มีความชื้นสูง แต่ถ้า เค51 ต้องเป็นดินทรายและแห้งแล้ง สำหรับ เค58 ถือเป็นพันธุ์ดีที่สุดในขณะนี้ เพราะลำต้นใหญ่ แม้เรือนยอดจะหนาไปหน่อย" ดร.บุญวงศ์เผย ขณะที่สุพจน์ โยงรัมย์ หนึ่งในผู้เข้าร่วมในโครงการทดลองปลูกยูคาลิปตัสบนคันนา กล่าวถึงเหตุผลที่เข้าร่วมโครงการว่า เพราะอยากมีรายได้เสริม และหากผลการวิจัยเป็นไปตามเป้าจะทำให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้นอีกทางหนึ่ง ที่ผ่านมาคันนาก็ไม่ได้ใช้ประโยชน์อะไรอยู่แล้ว "เพิ่งทดลองปลูกครั้งแรกก็อยากลองดู ข้าวก็ได้ตามปกติ แถมมีรายได้จากไม้ยูคาฯ ด้วย ผมมีที่นาอยู่ 29 ไร่เศษ ลงยูคาฯ ไปกว่า 1,000 ต้น ก็ทำตามที่ อ.บุญวงศ์ บอกทุกอย่าง ตอนนี้ปลูกมา 3 ปีกว่าแล้ว เห็นเติบโตดี ไม่เห็นมีปัญหาอะไร การดูแลก็แค่ระยะแรกเท่านั้น จากนั้นก็ไม่ต้องแล้ว ส่วนข้าวก็ได้ผลผลิตตามปกติเฉลี่ยไร่ละ 50-60 ถัง เท่ากับตอนที่ยังไม่ปลูกยูคาฯ" เกษตรกรรายเดิมระบุ การปลูกยูคาฯ บนคันนา โดยใช้สายพันธุ์ให้เหมาะสมกับพื้นที่ จึงนับเป็นอีกทางเลือกของชาวนาไทยที่ต้องการมีรายได้เสริมและใช้พื้นที่คันนาให้เกิดประโยชน์สูงสุดนั่นเอง http://www.komchadluek.net/2008/11/23/x_agi_b001_231733.php?news_id=231733 *************************** เพื่อให้ความเป้นธรรมกับต้นยูคาลิปตัสและบริษัทแอ๊ดวานซ์ อะโกร จำกัด (มหาชน) ขอให้อ่านบทความนี้ด้วยร่ะครับ จะได้รู้ว่า 1.การปลูกยูคาลิปตัสบนคันนามีมากว่า 20 ปีแล้ว ไม่ได้เพิ่งมามี 2.การพัฒนาสายพันธ์ยูคาลิปตัสก็มีเรื่อยมาและมีหน่วยงานของรัฐร่วมดูแลด้วย 3.เกษตรกร ที่ปลูกยูคาลิปตัสบนคันนาก็ออกมายืนยันว่านาข้าวไม่ได้รับผลกระทบ จากคุณ : POZZ - [ 27 ก.พ. 52 10:48:55 ]

ความคิดเห็นที่ 152 นี่ก้คืออีกรูปหนึ่งของการปลูกยูคาลิปตัสบนคันนา ผมนำมาจาก http://learners.in.th/blog/glasses/243546 ดูแล้วกันน่ะครับ ว่าข้าวในนา มันเหี่ยเฉาแห้งตายหรือไม่ ดูจากขนาดต้นยูคาลิปตัสบนคันนาแล้วน่าจะเกิน 1 ปีแล้ว แก้ไขเมื่อ 27 ก.พ. 52 10:52:14 จากคุณ : POZZ - [ 27 ก.พ. 52 10:51:43 ]

ความคิดเห็นที่ 153 คุณ #74 ครับ ผมเป็นคนแม่กลองครับ เป็นคนหนึ่งที่ต้านการสร้างโรงไฟฟ้าพลังความร้อน เชื้อเพลิงถ่านหิน ขนาด 800 เมกะเฮิร์ตซ์ บริเวณชายทะเล หมู่ที่ 9 ต.บางแก้ว อ.เมือง จ.สมุทรสงคราม (ดอนหอยหลอด) โครงการนี้ลงทุนโดยบริษัท ล็อกซ์เล่ย์ จำกัด (มหาชน) และบริษัท แบ็บค็อก แอนด์ บราวน์ จำกัด   นี่คือข้อความส่วนหนึ่งที่ทำไมคนแม่กลองไม่เอาโรงไฟฟ้า " นางบุญยืน สิริธรรม หนึ่งในแกนนำผู้ชุมนุมกล่าวว่า ขึ้นมาพูดในฐานะที่เป็นประชาชน ต.บางแก้ว เป็นที่ตั้งโครงการ และจากที่ฟังการชี้แจงมาทั้งหมดเห็นว่า ผู้วิจัยโครงการศึกษาข้อมูลมาเพื่อเอาใจนายทุนเท่านั้น ไม่สนใจวิถีชีวิตของชาวสมุทรสงคราม หากก่อสร้างโรงไฟฟ้าขึ้นมาจริง ปัญหามลพิษจะแก้ไขอย่างไร รู้จักระบบน้ำของสมุทรสงครามหรือไม่ และการที่อ้างว่าสร้างปล่องควันให้สูงเพื่อลดมลพิษนั้น ความเป็นจริงจะยิ่งกระจายมลพิษให้ไปได้ไกลมากขึ้น จะส่งผลกระทบต่อเกษตรกร และชาวประมงโดยตรง การสร้างโรงไฟฟ้าใช้เงินไม่เท่าไหร่ แต่ปัญหาสิ่งแวดล้อมใช้เงินเท่าไหร่ไม่สามารถกู้กลับมาได้ดังเดิม หากโรงไฟฟ้าถ่านหินดีจริงทำไมไม่มีใครต้องการ คนสมุทรสงครามกำหนดชีวิตมาแล้วว่าจะอยู่แบบพอเพียง ดังนั้นไม่ว่าผลการศึกษาจะออกมาอย่างไร ชาวสมุทรสงครามไม่เอาอย่างแน่นอน ท.พ.มานะชัย ทองยัง ทันตแพทย์ประจำสำนักงานสาธารณสุข จ.สมุทรสงคราม และรองประธานหอการค้า จ.สมุทรสงคราม กล่าวว่า เท่าที่ติดตามข้อมูลมาโดยตลอดมีความเห็นว่า ความพยายามในการก่อสร้างโรงไฟฟ้าในประเทศไทย จุดสำคัญไม่ได้อยู่ที่การผลิตกระแสไฟฟ้า แต่เป็นการทำธุรกิจซื้อขายถ่านหินมากกว่า เนื่องจากทราบมาว่า บริษัทแบ๊บค็อกฯ มีบริษัทแม่เป็นเหมืองถ่านหินขนาดใหญ่ที่ออสเตรเลีย ยังถูกชาวออสเตรเลียต่อต้านเรื่องโรงไฟฟ้าถ่านหิน จนต้องหาทางระบายถ่านหินที่ผลิตได้ โดยไม่สนใจว่าจะเป็นการไปสร้างปัญหาให้ประชาชนในประเทศอื่น และมาตรฐานมลพิษที่ระบุว่าอยู่ต่ำกว่ามาตรฐานสากลมากนั้น เป็นมาตรฐานที่วัดกับเมืองอุตสาหกรรม ไม่ควรนำมาใช้กับจ.สมุทรสงคราม ที่ไม่เคยมีมลพิษมาก่อน ด้านนายสุรจิตร ชิรเวทย์ ที่ปรึกษาหอการค้า จ.สมุทรสงคราม กล่าวว่า ขณะนี้ชาวสมุทรสงครามกำลังต่อสู้กับบริษัทแบ๊บค็อกฯ ยักษ์ใหญ่วงการถ่านหินออสเตรเลีย และบริษัทล็อกซ์เลย์ฯ บริษัทไทยที่มีหัวใจต่างชาติ แม้คนแม่กลองเป็นผู้ที่มีเหตุผล และมีอารมณ์เมื่อมีอะไรที่จะสร้างความเสียหายให้คนแม่กลอง คนแม่กลองต้องการอยู่อย่างอิสระ ถึงใครจะหาว่าเป็นจังหวัดล้าหลัง เป็นเรื่องของคนแม่กลอง เพราะสมุทรสงครามถูกจัดอันดับให้เป็นจังหวัดที่น่าอาศัยมากที่สุดในประเทศไทยมา 2 ปีซ้อน โดยเฉพาะดอนหอยหลอดเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำที่มีความสำคัญระดับนานาชาติ นายสุรจิตรกล่าวต่อว่า ในอ่าวไทยตอนบน หรืออ่าว ก.ไก่ เหลือแม่กลองเพียงแห่งเดียวที่ไม่มีโรงงานอุตสาหกรรม ทุกวันนี้ชาวแม่กลองอยู่กันได้อย่างสบาย มีรายได้จากการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นทุกปี เพราะห่างจากกรุงเทพฯ เพียง 60 กว่ากิโลเมตร แต่ยังไร้มลพิษ และธรรมชาติยังบริสุทธิ์อยู่ ที่สำคัญคนแม่กลองใช้ไฟฟ้ารวมกันเพียง 40 เมกะวัตต์ ดังนั้นการที่อ้างว่ามาสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินขนาด 800 เมกะวัตต์ เพื่อคนแม่กลองจึงเป็นเพียงข้ออ้าง หากก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินในแม่กลองแล้วเกิดปัญหาเรื่องมลพิษ ใครจะเป็นผู้รับผิดชอบ สัตว์เศรษฐกิจที่สร้างชื่อให้คนแม่กลอง คือ ปลาทู หากมีข่าวออกไปว่า ปลาทูแม่กลองมีสารพิษปนเปื้อนจากโรงไฟฟ้า จังหวัดนี้ต้องล่มสลายทันที " ถ้าโรงไฟฟ้าจะไปสร้างแถวบ้านคุณบ้าง คุณยินดีจะใช้ชีวิตร่วมกับมันหรือ ด้วยความเคารพ จากคุณ : FMT - [ 27 ก.พ. 52 10:54:12 ]

ความคิดเห็นที่ 154 ทำ LCA ออกมาซิครับ จะได้รู้กัน ขอติงเรื่องงานวิจัยนะครับนิดนึงนะครับ อันนี้เป็นความเห็นส่วนตัว จากอดีตผู้ช่วยนักวิจัยที่เคยทำงานวิจัยและอ่านงานวิจัยมาพอสมควร (แต่ไม่ได้ทำเรื่องยูคา หรือกระดาษนะครับ ออกตัวไว้ก่อน ผมทำ CT ครับ) สำหรับงานวิจัยใดๆ ถ้ามาจากกลุ่มผู้มีส่วนได้เสียมีส่วนร่วม เช่น ได้รับการสนับสนุนงบวิจัยจากกลุ่มแอ๊ดวานซ์ อะโกร จำกัด (มหาชน) ถึงเป็นหน่วยงานของรัฐ ผมก็ยังมีปุจฉาบางประการอยู่ในใจอยู่ดี แต่ผมอาจคิดมากไปเองก็ได้ เหมือนกับอ่านงานวิจัยเกี่ยวกับผงชูรสที่ไม่เป็นโทษจากทีมงานวิจัยของอายิ จากคุณ : ปลงไม่ตกซะที - [ 27 ก.พ. 52 11:34:24 ]

ความคิดเห็นที่ 155 กระทู้ที่ซีเรียสที่สุดกระทู้หนึ่งของเฉลิมไทยเลยนะเนี่ย ช่วงนี้ aA โดนบ่อยจัง ยังไงก้ขอบคุณความเห็นที่ให้ความรู้นะครับ สนุกดี จากคุณ : สุริยาแก้มป่อง - [ 27 ก.พ. 52 11:37:03 ]

ความคิดเห็นที่ 156 จะบอกว่าโฆษณาของดับเบิ้ลเอดูโอเวอร์ แล้วไอ้โฆษณาเป็ดกระดาษเป็นกระดาษแต่เดินได้ด้วยนี้ไม่เวอร์เหรอคะ มีปัญหารัยมากมั้ย กะ AA อ่ะ หมั่นใส้ไม่ไปเผาโรงงาน:-)เลยอ่ะ จากคุณ : สงสัย - [ 27 ก.พ. 52 11:47:41 A:10.29.12.120 X:203.144.139.229 TicketID:206019 ]

ความคิดเห็นที่ 157 ก็ให้ดับเบิลเอ ออกโฆษณาเชิงให้ความรู้ + ความน่าเืชื่อถือมาใหม่ดิ คนจะได้ตัััดสินใจเลือกถูก จากคุณ : s[l]aY - [ 27 ก.พ. 52 12:00:25 ]

ความคิดเห็นที่ 158 มีโฆษณษตัวไหนบ้างครับ ไม่เกินจริง?? ครีมทาผิวเอย โรลออนเอย ฟาสท์ฟู๊ดเอย ยาแต้มสิว ผงซักฟอก โอ๊ย เยอะแยะ อะไรๆมันก็เกินจริงไปหมดล่ะครับเดี๋ยวนี้ ส่วนเรื่องต้นกระดาษ นั่น ไม่ขอออกความเห้น เพราะไม่มีความรู้ด้านนี้ แต่เขามาดูเพราะคำว่า โฆษณษเกินจริง จากคุณ : whutzy - [ 27 ก.พ. 52 12:04:24 ]

ความคิดเห็นที่ 159 เผอิญเข้าหว้ากอบ่อย เลยไมรุ้สึกอะไรกับโฆษณาต้นกระดาษ ออกขำซะมากกว่า ทำซะเว่อเชียว จากคุณ : เมษาพาเพลิน - [ 27 ก.พ. 52 12:54:19 ]

ความคิดเห็นที่ 160 เอามาฝาก ... ทั้งเรื่องไม่ยูคากะโรงไฟฟ้า .. จากคุณ : operation 24 - [ 27 ก.พ. 52 13:02:30 ]

ความคิดเห็นที่ 161 ขอบอกว่า.....ยินดีครับ ถ้าไม่มีโรงไฟฟ้าแล้วต้องใช้กะลาแทนจานข้าว....... ทุกวันนี้ สมุทรสงครามเป็นจังหวัดที่ไม่มีโรงภาพยนตร์ ไม่มีห้างสรรพสินค้าหรู ไม่มีฟิตเนส คอมเพลกซ์ ตึกหรู ฯ .........มิได้นำพาครับที่ไม่มีสิ่งเหล่านี้ จากคุณ : FMT - [ 27 ก.พ. 52 13:37:28 ]

ความคิดเห็นที่ 162 บ้านแฟนก็ทำนา เห็นบอกว่าเคยปลูกยูคา แล้วทำนาต่อไม่ได้ ดินเสีย เลยเลิกปลูก จากคุณ : Ayook - [ 27 ก.พ. 52 13:41:29 ]