ความคิดเห็นที่ 1 รายชื่อซีรี่ส์ที่รีวิวแล้วครับ 14 sai no haha  (# 21) ANEGO  (# 49) Around 40  (# 28) ASUNARO HAKUSHO [WHITE PAPER]  (# 43) BAMBINO  (# 33) Beautiful life  (# 44) Bloody Monday  (# 11) CHANGE  (# 15) Dragon Zakura  (# 17) Dream again  (# 29) Haken no Hinkaku  (# 63) HANA YORI DANGO 1  (# 58) HANA YORI DANGO 2 (# 70) Hanazakari no Kimitachi e  (# 56) Hokaben [Case Files of a Rookie Lawyer]  (# 54) Honey and Clover  (# 10) Innocent Love  (# 52) Itoshi Kimi E [To the one I love]  (# 45) Itsumo  futari de  [Always the two of us]  (# 51) Kekkon dekinai otoko  (# 20) Kiken na aneki [Dangerous Sister]  (# 8) Long love Letter  (# 24) Maou [The Davil King]  (# 57) Nanase Futatabi  (# 14) Nobuta wo produce  (# 60) Nodame (# 18) One litre of tears (# 66) Operation Love (#23) Osen  (# 41) Ryusei no Kizuna  (# 13) Shibatora  (# 9) Shinigami no Ballad  (# 35) Shukumei (Fate)  (# 3) Team Batista no Eiko  (# 16) Team Medical Dragon 1 [Iryu1]  (# 34) Team Medical Dragon 2 [Iryu2]  (# 48) The Queen of Lunchtime Cuisine  (# 1) Tiger & Dragon  (# 36) Tomorrow  (# 53) Walk My Way (# 67) Yoshitsune  (# 2) แก้ไขเมื่อ 01 มี.ค. 52 22:31:51 แก้ไขเมื่อ 01 มี.ค. 52 22:19:17 จากคุณ : bigwores - [ 1 มี.ค. 52 22:15:14 ]

ความคิดเห็นที่ 2 เขียนไลเออร์เกมแล้วค่ะ แต่ยังไม่ได้ลงคอมเลย จะพยายามลงในอาทิตย์นี้น่ะค่ะ มีอีกหลายเรื่องที่อยากรีวิว (แต่ต้องกลับไปดูหนังอีกรอบก่อน)ยังไงก็ขอจองมุโขะโดโนะ หรือซุปเปอร์สตาร์ถามหารักภาคแรกด้วยค่ะ (ไม่รู้มีคนจองหรือยัง) อาจจะรีวิวให้ช้าหน่อย แต่จะพยายามเขียนค่ะ(ยกมือสนับสนุนกระทู้นี้ด้วยคนค่ะ) จากคุณ : meritiana (Meritiana) - [ 1 มี.ค. 52 22:55:38 ]

ความคิดเห็นที่ 3 วันนี้ขอคุยหน่อยก็แล้วกัน  ธรรมดาป้าจะอยู่ในห้องก้นครัวค่ะ   แต่เผอิญแวะเวียนเข้ามาในบันเทิงแดนซากุระ เห็นกระทู้นี้เข้าก็ลองระลึกถึง J ซีรี่ส์ 10 กว่าเรื่องที่เคยดูมา นึกไม่ถึงว่าจะมีผู้ให้ความสนใจรีวิวมากมายขนาดนี้  และนึกไม่ถึงว่าที่ป้ารีวิวไปจะมีคนอ่าน แต่กลับมีคนอ่านแล้วยังมอบกิ๊ฟให้ด้วย(ไม่นับของ จขกท.)  ป้าจะได้เอาไปคุยที่ก้นครัวว่า ป้าไม่ต้องทำกับข้าวก็ได้กิ๊ฟเยอะเหมือนกัน ป้ามีความเห็นว่าการรีวิวช่วยฝึกปรือเรื่องภาษาได้ดี  ถ้ารีวิวตอนดูจบใหม่ๆ มันจะละเอียด ประมาณว่าความจำยังดี มีอะไรอยากเล่าหมด ที่ป้ารีวิวมา 2 เรื่องนั้นเป็นซีรี่ส์ที่ป้าดูมาเป็นปีแล้ว พอจะจำแนวได้ แต่ป้าต้องเข้าเว็บไปหาชื่อตัวละครมาใช้ในการเขียน นอกจากเป็นกระทู้ที่ช่วยฝึกในเรื่องขีดๆเขียนแล้ว  ยังช่วยกระตุ้นความจำด้วย ป้าคงไม่เป็นอัลไซม์เมอร์แน่ๆ ถ้าได้รีวิวอีก 5 เรื่อง อิ อิ ขอขอบคุณ คุณ bigwores อีกครั้งนะคะ จากคุณ : ป้าอ้วนมาเอง (เหนียวเนื้อ) - [ 1 มี.ค. 52 22:59:21 ]

ความคิดเห็นที่ 4 เห็นด้วยกะคุณป้าอ้วนครับ ( เพิ่งรู้ว่าป้าอ้วนมาจากห้องก้นครัว ห้องโน้นไปทีไรน้ำลายหกทุกที ) เรื่องไหนถ้าผมดูแล้วชอบมากๆ จะมีอารมณ์เขียนครับ และจะเขียนได้ละเอียดด้วยครับ  คุณป้าอ้วนรีวิวเพิ่มได้เลยนะครับ ยังมีซีรี่ส์ญี่ปุ่นดีๆอีกหลายเรื่องรอรีวิวครับ อยากเห็นรีวิว Hero, Pride, Engine, My boss my hero, H2, Orange Days, Galileo, Code Blue และอีกหลายๆเรื่องครับ แก้ไขเมื่อ 01 มี.ค. 52 23:12:14 จากคุณ : bigwores - [ 1 มี.ค. 52 23:07:29 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ..มารีวิว Oh my girl ตามที่บอกไว้ครับ Oh My Girl                        ฮายามิ โมโคมิจิ  แสดงเป็น  ยามาชิตะ โคทาโร่                      โยชิดะ ริโกะ      แสดงเป็น  ซากุระอิ อัน  (อันจัง)                      คาโตะ โรซ่า      แสดงเป็น  ฟูจิ มิเนโกะ เพื่อน ๆ ที่ชอบซีรีย์ญี่ปุ่น หลายคนมักตอบคำถามเวลามีใครถามว่า ซีรีย์ญี่ปุ่นดีอย่างไร ทำไมต้องซีรีย์ญี่ปุ่น ว่า เพราะซีรีย์ญี่ปุ่นมีเนื้อหาที่ประทับใจ ดูแล้วซาบซึ้ง ให้กำลังใจ บางคนชอบตรงที่ไม่มีตัวร้ายตัวอิจฉามาให้รำคาญใจ มีแต่คนที่ขัดแย้งกันทางความคิดเท่านั้น  หลายคนตอบว่าชอบที่ซีรีย์ญี่ปุ่นไม่มีมลพิษ มีแต่สิ่งที่ดี ๆ ให้คนดูเก็บเกี่ยวเอาไปใช้ อาจเป็นเพราะสังคมของเขา พัฒนาความคิดขึ้นไปอีกระดับหนึ่ง ไปสู่แนวคิดที่พวกเขาบันเทิงกับละครที่ให้ความรู้สึกดี ชื่นชมกับละครที่ให้ความหวังกำลังใจ ซาบซึ้งกับความมุ่งมั่นเพียรพยายามของผู้คน  มากกว่าจะมาบันเทิงกับการชิงรักหักสวาท เชือดเฉือนคารมต่อปากต่อคำ หรือมาสนุกความความแง่งอนกุ๊กกิ๊กของพระเอกนางเอก แบบที่เราเห็นจนชินตา พล็อตเรื่องอย่าง  Oh my girl  ที่ว่าด้วยเรื่องของ ยามาชิตะ โคทาโร่ นักเขียนอิสระไส้แห้งของสำนักพิมพ์แห่งหนึ่ง ที่วันดีคืนดี พี่สาวต่างมารดาของตัวเองที่เป็นดาราใหญ่ของวงการ ( ออโซร่า ฮินาโกะ ) ก็มาทิ้งลูกสาว (ซากุระอิ อัน - อันจัง) ที่เป็นดาราเด็กที่กำลังโด่งดัง มาให้โคทาโร่ดูแลซะงั้น เพราะคุณแม่ดาราใหญ่เกิดหนีไปฮอลลีวู๊ดกระทันหันสองเดือน มิหนำซ้ำ เรื่องที่ฮินาโกะกับอันจังเป็นแม่ลูกกัน ก็เป็นความลับที่จะให้คนอื่น (โดยเฉพาะสื่อมวลชน) ล่วงรู้ไม่ได้เด็ดขาด เพราะข่าวเรื่องอันจังเป็นลูกนอกสมรสของฮินาโกะ จะทำลายอนาคตทางการแสดงที่กำลังรุ่งของดาราเด็กคนนี้ แน่นอน โคทาโร่ซึ่งมีเรื่องกินแหนงแคลงใจกับพี่สาว ย่อมไม่เต็มใจรับดูแลอันจัง ได้แต่รับปาก ฟูจิ มิเนโกะ ที่เป็นผู้จัดการส่วนตัว .. ของอันจังไปอย่างเสียไม่ได้ ว่าจะดูแลอันจังให้ในช่วงที่ฮินาโกะไม่อยู่ แต่เวลาเนิ่นนานไป ความรัก ความผูกพัน ของน้าหลาน คู่นี้ก็ได้ก่อตัวขึ้น พร้อม ๆ กับที่มิเนโกะ ซึ่งตอนแรกไม่ถูกชะตากับโคทาโร่ ก็เริ่มมองเขาในแง่ดีมากขึ้น พล็อตแบบนี้ ง่ายมากครับที่ทำเป็นละครซักเรื่อง เอาแนวไหนดีล่ะ ผมนึกออกหลายแนวเลย แนว screwball comedy ดีมั้ย ( screwball comedy ละครตลกแนวแง่งอนของคู่พระนาง ที่เน้นการปะทะคารมเจ็บ ๆ คัน ๆ ) เอาเป็นว่า คู่โคทาโร่ กับ มิเนโกะ ไม่ถูกกันเอามาก ๆ แต่ก็จำเป็นต้องมาอยู่ร่วมกันเพื่อดูแลอันจัง แล้วก็ได้ความน่ารัก ของอันจังนี่แหละประสานใจของสองคนนี้ ทำให้ความรักก่อตัวขึ้นเรื่อย ๆ  แต่ความสนุกของเรื่อง แน่นอนว่าจะต้องอยู่กับ ฉากประเภทกวนกันไปกวนกันมาของสองคนนี้ แง่งอนกันแล้วตอนจบก็แฮปปี้เอนดิ้ง  yeahhhhh หรือเอาแนวซาบซึ้งแบบเรื่อง โรมรำลึก Roman Holiday ดีมั้ย สถานการณ์บีบคั้นให้พระเอกของเรา ซึ่งเป็นนักเขียนที่ ไม่ประสบความสำเร็จ มีความคิดที่จะหลอกอันจัง ให้เผยเรื่องราวส่วนตัวรวมทั้งเรื่องราวความลับของแม่ออกมาให้มาก ๆ เพียงเพื่อตัวเองจะได้อาศัยสกู๊ปเด็ดชิ้นนี้ เป็นบันไดสร้างชื่อเสียงความสำเร็จในการเป็นนักเขียน แต่ท้ายที่สุด พระเอกของเราก็เกิดความรักความผูกพันกับเจ้าตัวเล็กขึ้นมาจริง ๆ  เลยทำให้เปลี่ยนใจ จากที่เริ่มต้น ตั้งใจจะหลอกลวง ก็กลับมาปกป้องหลานในท้ายที่สุด โดยยอมเสียสละความสำเร็จที่กำลังจะได้รับ ถ้าทำออกมารูปนี้ก็ขายความน่ารักของเด็กครับ แนวซาบซึ้งประทับใจเรียกน้ำตา แต่ Oh my girl ไม่ได้นำเสนออย่างที่ผมบอกเอาไว้ครับ ประเด็นขัดแย้งต่าง ๆ ถูกใช้แค่เพียงผิวเผิน เรียกว่าทั้ง ๆ ที่ใช้ได้ ใช้แล้วสนุกเรียกเรตติ้ง แต่จงใจไม่เน้นครับ เพราะสิ่งเหล่านั้นไม่ใช่ประเด็นหลัก ที่คนสร้างคนเขียนบทต้องการนำเสนอ ประเด็นสำคัญที่ Oh my girl ได้นำเสนอก็คือ โคทาโร่ ที่จู่ ๆ ก็กลายมาเป็นคุณพ่อจำเป็น (ที่จริงเป็นคุณน้าผู้ปกครอง) ค่อย ๆ ได้ซึมซับทำความเข้าใจ ถึงภาระหน้าที่ที่ถูกต้องของผู้เป็นพ่อแม่ ได้ใช้ความพยายามเพื่อที่จะเป็นผู้ปกครองที่ดี ว่าจะทำอย่างไรจึงจะเข้าถึงจิตใจของเด็ก ๆ ได้  เรียกว่าเรื่องนี้ เน้นจิตวิทยาในการดูแลเด็ก อย่างนั้นเลยทีเดียว โดยมีสอดแทรกประเด็นอื่นมาบ้าง อย่าง โลกนักแสดงของซากุระอิ อัน และความฝันที่จะเป็นนักเขียนของโคทาโร่ คุณน้ากับคุณหลานเรื่องนี้เค้าน่ารักครับ ซากุระอิ อัน เป็นเด็กที่ดูเหมือนแก่แดดแก่ลม ฉลาดพูด ฉลาดตอบ รู้มาก เพราะเธอเป็นคนทีีมีชื่อเสียง เลยไม่มีใครกล้าขัดใจ ทั้ง ๆ ที่จริงเธอก็เป็นแค่เด็กธรรมดา ๆ คนหนึ่ง เธอเคยบอกโคทาโร่ว่า แม่สอนว่า ดาราคือคนที่ต้องมีจินตนาการ ดังนั้นการใช้ชีวิตต้องไม่ธรรมดา ส่วนโคทาโร่ ก็ไม่เคยเห็นหลานอันจัง เป็นหนทางที่จะทำให้ตนเองมีแต้มต่อในหน้าที่การงาน (ทั้ง ๆ ที่สายงานเกี่ยวพันโดยตรง) มองเห็นเธอเป็นเด็กคนหนึ่ง ที่ต้องการได้รับความรักการดูแลเอาใจใส่เหมือนเด็กทั่ว ๆ ไป โคทาโร่ ดูแลอันจังด้วยใจที่ไม่มีผลประโยชน์ กล้าขัดใจและสั่งสอน ถ้าเห็นว่าสิ่งนั้นจะดีกับตัวของอันจังเอง ซีรีย์เรื่องนี้ เป็นตัวอย่างที่สำคัญของละครที่ "หน้าหนัง" ดูเหมือนจะน้ำเน่า ขายง่าย แต่ก็ได้สอดแทรกสาระไว้ อย่างหนักแน่นจริงจัง อยากให้ละครไทยเป็นแบบนี้บ้าง คือหน้าหนังอาจจะดูตลาด ๆ (จะได้เรียกความสนใจของคนดู และผ่านความเห็นชอบจากสถานีได้ง่าย) แต่เวลานำเสนอจริง ก็ขอว่าให้น้ำหนักกับสิ่งที่เราคิดว่าจะเป็นประโยชน์ต่อสังคม (ส่วนเรื่องที่ไม่จรรโลงจิตใจก็เพลา ๆ กันหน่อย)  ช่วงแรก ๆ อาจจะไม่เนียน แต่หลาย ๆ เรื่องเดี๋ยวก็เนียนเองครับ  ^^ ย่อมดีกว่าละครบางเรื่อง ทำเป็นเหมือนจะขายสาระ แต่เอาเข้าจริงก็ใช้วิธีขายความรุนแรงสะใจ มาเพื่อ เรียกคนดูเรียกเรตติ้งก็แล้วกัน แก้ไขเมื่อ 02 มี.ค. 52 00:07:16 จากคุณ : Mad Bull - [ 1 มี.ค. 52 23:08:11 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ตามติดค่ะ ช่วงนี้ยุ่งๆอยากจะรีวิวงานของเจ๊เรียวโกะหลายเรื่องเชียว อยากเอารีวิวของสมาชิกมาทำเป็น blogหรือ web จังเลย ใส่ชื่อเรื่อง กดไปที่ชื่อรีวิวก็ขึ้นพร้อมภาพประกอบ ขอบคุณ bigworesน่ะคะ ทและขอให้ถึง 100 เรื่อง ทะลุไปทุกเรื่องในแต่ละซีซั่นเลยทีเดียว จากคุณ : เจ้าแก้วพิสดาร ณ เมืองปาย - [ 2 มี.ค. 52 05:09:31 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ติดตามมาเช่นกันค่ะอยากร่วมรีวิวเพิ่มใจจะขาดแต่ช่วงนี้งานยุ่งโคดดดเลยอ่ะ เอาเป็นว่าเป็นกำลังใจให้ทุกๆคนไปก่อนก้อแระกันเน๊อะ!! ขอบคุณ คุณbigwores สำหรับกระทู้ดีๆโดนๆเช่นนี้ ว่างเมื่อไหร่เจอกันแน่55+ แก้ไขเมื่อ 02 มี.ค. 52 22:18:59 จากคุณ : k-jap (อ้อมแขนอันอบอุ่น) - [ 2 มี.ค. 52 08:06:09 ]

ความคิดเห็นที่ 8 คุณ bigwores คะ   งั้นป้าจอง  my boss my hero กับ Utahime ก็แล้วกัน เพราะป้าปลื้ม โทมายะ นางาเสะ  ชอบมากๆเลย  ยิ่งในเรื่อง Utahime ยิ่งชอบ ทั้งๆที่ยังดูไม่จบ จากคุณ : ป้าอ้วนมาเอง (เหนียวเนื้อ) - [ 2 มี.ค. 52 09:42:03 ]

ความคิดเห็นที่ 9 Title (romaji): Ruri no Shima Also known as: Ruri's Island Genre: Human drama Broadcast network: NTV Episodes: 10 Viewership rating: 12.64 Broadcast period: 2005-Apr-16 to 2005-Jun-18 Air time: Saturday 21:00 Theme song: Koko ni Shika Sakanai Hana by Kobukuro Ruri no Shima :: ความหมายของคำว่าบ้าน ละครเรื่องนี้จะว่าไปก็เป็นละครธรรมดาๆ นะ แต่ทำไมดูแล้วถึงได้โดนใจขนาดนี้ นี่แหละหนังแนวถนัดของญี่ปุ่น หนังธรรมดา ที่ไม่มีฉากรักของหนุ่มสาว แต่กลับจี๊ดได้มากถึงมากที่สุด แล้วก็จบลงแบบ Feel Good ถ้าใครดูเรื่องนี้แล้วไม่เสียน้ำตาเลย ก็นับว่าใจแข็งเกินไปแล้ว เกาะฮาโตมิ เป็นแค่เพียงเกาะเล็กๆ ที่ไม่มีสถานีตำรวจ ไม่มีสถานีอนามัย มีความกว้างรอบเกาะแค่ 3.8 กม. มีประชากรไม่ถึง 50 คน เกาะนี้กำลังประสบปัญหาอย่างหนัก เนื่องจากขาดแคลนเด็ก ซึ่งจะส่งผลให้โรงเรียนประถมต้องปิดลงในปีการศึกษาหน้า ชาวบ้านต่างก็หวั่นวิตกมาก เพราะการปิดลงของโรงเรียนประถม จะทำให้ครอบครัวที่มีลูกเล็กๆ ต้องย้ายไปอยู่ที่อื่น เกาะก็จะเหลือแต่คนแก่ อีก 10 หรือ 20 ปี เกาะนี้ก็จะกลายเป็นเกาะร้าง คนที่วิตกมากๆ ก็คือคุณยูโซ ชายชราผู้อาศัยอยู่บนเกาะนี้มานาน เขาถึงกับลักพาตัวหลานของตัวเองมา แต่ก็ถูกลูกสาวจับได้ ในขณะที่คุณยูโซกำลังสิ้นหวัง เขาก็ได้พบกับเด็กหญิงรูริที่กำลังหนีออกจากสถานรับเลี้ยงเด็ก คุณยูโซจึงตัดสินใจขอรับเธอเป็นบุตรบุญธรรม แม่ของรูริก็เต็มใจยกให้ เพราะปกติเธอก็ไม่ค่อยเอาใจใส่ลูกสาวอยู่แล้ว เมื่อรูริมาถึงเกาะ เธอได้รับการต้อนรับอย่างดีจากชาวบ้าน ยกเว้นคุณครูซานาเอะ คุณครูสอนหนังสือเพียงคนเดียวของโรงเรียนประถม ที่มีทีท่าเย็นชากับรูริ ในวันงานเลี้ยงคุณครูซานาเอะตำหนิเรื่องทรงผมของรูริ ทำให้เธออาละวาดกลางฝูงชน และเอาเรือของคุณจิเอะผู้ใหญ่บ้านหนีไป แต่รูริบังคับเรือไม่เป็น ทำให้เรือไปชนคอนกรีต รูริจมน้ำในทันที แต่ก็ได้รับความช่วยเหลือจากคาวาชิมา ชายที่มาถึงเกาะฮาโตมิวันเดียวกับรูริ จากเหตุการณ์ครั้งนั้นคุณยูโซต้องชดใช้ค่าซ่อมเรือจนต้องไปทำงานหนักทั้งๆ ที่อายุเยอะ แต่คุณเมกุมิภรรยาของคุณยูโซก็ยังทำดีกับรูริอย่างมากเสมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทำให้รูริซาบซึ้งใจกับครอบครัวนี้ และยอมใช้ชีวิตอยู่บนเกาะ ในตอนแรก คนบนเกาะก็ยังขยาดกับการอาละวาดของรูริ ช่วงนั้นรูริได้รู้จักกับคุณโชเม ชายที่ติดเหล้าอย่างหนัก แรกๆ รูริกลัวชายผู้นี้ เพราะเขาเอาแต่เรียกหาอิตจัง แต่พอได้ฟังเรื่องของคุณโชเมจากชาวบ้านทำให้เธอสงสาร ประกอบกับได้รู้จักตัวตนที่แท้จริงของคุณโชเม ทำให้เธอรู้สึกว่า อย่างน้อยนอกจากคุณยูโซและภรรยาก็ยังมีคนอื่นที่ดีกับเธออีกเช่นกัน นานวันเข้า พวกชาวบ้าน ต่างก็ลืมเรื่องไม่ดี พวกเขาต่างมองรูริใหม่ ส่วนรูริเอง ก็พยายามที่จะใช้ชีวิตให้เป็นสุข โดยไม่มีใครรู้ตัว พวกชาวบ้านเริ่มรู้สึกว่ารูรินำความสุขมาให้ ทำให้ชาวบ้านที่เคยมีแต่หนุ่มสาวกับคนแก่รู้สึกว่าเกาะนี้สวยงามขึ้น พวกเขาก็อยากที่จะมีความสุขแบบครอบครัวของคุณยูโซ พยายามหาทางให้เด็กมาอยู่บนเกาะนี้มากขึ้น ส่วนรูริเอง ในที่สุดเธอก็ได้รู้ว่า แม้ว่าเกาะนี้จะไม่มีความสมบูรณ์ทางวัตถุนิยม แต่ก็มีธรรมชาติอันงดงาม มีหาดทราย และเหนือสิ่งอื่นใด ที่นี่มีสิ่งที่รูริเฝ้าหามานาน ก็คือความรักและการได้เป็นคนสำคัญ นี่ก็คือบ้านแท้จริงของรูริ... เรื่องราวข้างบนเป็นเรื่องราวคร่าวๆ ในแต่ละตอน รูริก็ต้องเผชิญกับสถานการณ์ต่างๆ บนเกาะนี้ บางเรื่องก็น่าประทับใจ บางเรื่องก็เสียน้ำตา เรื่องราวต่างๆ หล่อหลอมให้รูริมีจิตใจที่อ่อนโยน และโตเป็นผู้ใหญ่อย่างที่เธอเองก็ไม่รู้ตัว เกาะของรูริ ยังสอนให้รู้อีกว่า บางที เงินทองก็ไม่ใช่สิ่งที่สำคัญที่สุด แต่สิ่งที่สำคัญไปกว่านั้น คือความรัก ความเข้าใจ และการให้อภัยต่างหาก ช่างเป็นละครที่มีทั้งรอยยิ้มและน้ำตา แต่จบลงด้วยความประทับใจแบบอิ่มเอมจริงๆ แก้ไขเมื่อ 02 มี.ค. 52 10:44:31 จากคุณ : แพร (bookofpear) - [ 2 มี.ค. 52 10:42:36 ]

ความคิดเห็นที่ 10 มาลองรีวิวด้วยคนครับ เขียนไม่ค่อยเก่งแต่จะพยายามครับ (เอามาจากบล็อก) Title (romaji): Yamato Nadeshiko Also known as: Perfect Woman Episodes: 11 Genre: Romance Viewership: 26.1 Broadcast network: Fuji TV Broadcast period: 2000-Oct-09 to 2000-Dec-31 Air time: Monday 21:00 Theme song: Everything by MISIA Similar dramas: My Fair Lady (SBS, 2003) เรื่องนี้เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับ จินโนะ ซากุระโกะ แอร์โฮสเตสสาวสวย ผู้มีความเชื่อว่า "เงิน" นี่แหละที่จะประทานความสุขให้กับคนได้ เนื่องจากอดีตของเธอคือสาวน้อยผู้ยากจน ทำให้เธอดิ้นรนเพื่อไม่ให้กลับไปใช้ชีวิตแบบเดิมอีก ดังนั้นหนทางที่ง่ายที่สุดสำหรับเธอในการหาเงินจำนวนมากพอที่จะทำให้เธอสบายไปทั้งชีวิตก็คือ การได้แต่งงานกับผู้ชายที่รวยที่สุด...ผ่านการนัดจับคู่ จนถึงขั้นที่เธอได้รับฉายาว่า "ราชินีนักจับคู่" จน กระทั่งเมื่อเธอได้พบกับ นากาฮาระ โอสึเกะ อดีตนักศึกษาคณิตศาสตร์หัวกะทิ ผู้ตกอับกลับมาเป็นพ่อค้าขายปลา ด้วยความเข้าใจผิดทำให้ซากุระโกะ คิดว่า โอสีเกะ เป็นเจ้าของฟาร์มม้าผู้ร่ำรวย ทำให้เธอกับเขาได้ใกล้ชิดกัน จนกระทั่ง ความจริงที่ว่าโอสึเกะเป็นเพียงพ่อค้าขายปลาปรากฏ ซากุระโกะ จึงสลัดโอสึเกะทิ้งอย่างไม่ใยดี แต่ทว่าโอสึเกะ กลับตกหลุมรักซากุระโกะ เข้าเสียแล้ว... ซากุระโกะจึงกลับมาตายรัง และตอบคำขอแต่งงานของ ฮิงาชิจูโจ ศึคาสะเศรษฐีหนุ่ม ลูกของเจ้าของโรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึึ่ง ที่ครั้งหนึ่งเธอปฏิเสธเขาไป เมื่อตอนที่เข้าใจผิดว่าโอสึเกะว่าเป็นคนที่เหมาะสมกับเธอมากกว่า เรื่องจะเป็นอย่างไรแนะนำให้ไปติดตามชมกันต่อครับ ซีรียส์เรื่องนี้เคยนำมาออกอากาศทางช่อง ITV เมื่อปี 2546 สมัยที่ไอทีวีซีรียส์กำลังบูมมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่ง ณ ตอนที่ออกอากาศ ผมจำได้ว่าเป็นซีรียส์ที่ติดมากๆเรื่องหนึ่ง เพราะเป็นหนังรัก เบาสมอง สำหรับวัยทำงาน อันจริงแล้วชาวปลาดิบเวลาทำซีรียส์แนวรักโรแมนติกก็ทำได้ไม่แพ้ใคร แต่ยังคงสอดแทรกเอกลักษณ์ตามสไตล์ญี่ปุ่นไว้ด้วยครับที่มักสอดแทรกแง่คิดดีๆไว้ในละครให้ผู้ชมได้คิดตามด้วย ครับ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องครอบครัว เพื่อนร่วมงาน ค่าของวัตถุกับค่าของคน สาวๆหลายคนอาจคิดว่าพระเอกไม่หล่อ เลยไม่ดู แต่ว่าลองดูเถอะครับเพราะพระเอกของเราจะหล่อขึ้นมาทันทีเมื่ออยู่กับนางเอกครับ ผมว่าทสึสึมิ ชินอิจิ เหมาะกับบทนี้มากๆครับ แต่ว่าสำหรับหนุ่มๆ ถ้าดูนานาโกะ มัตสึชิม่าจากเรื่องนี้นี่คงเคลิ้มแน่ๆ เพราะท่าทางทุกย่างก้าวของเธอนี่น่ารักน่าหลงมาก ไม่แปลกใจว่าทำไมหนุ่มๆในเรื้่องถึงหลงซะ สุดท้ายของเรื่องนี้คือเพลงประกอบละครครับ ร้อง โดยนักร้องบัลลาด คุณภาพอย่าง MISIA กับเพลง Everything เป็น Main Theme ของเรื่องนี้ครับ รู้สึกว่า Misia จะแต่งเพลงนี้ให้กับเรื่องนี้โดยเฉพาะเลยครับ เพราะมาก จากคุณ : DUIDJK - [ 2 มี.ค. 52 13:41:52 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ^ ^ ชื่นใจมาก ๆ ที่มีหลายคนบอกว่าไม่เคยรีวิว แต่ก็พยายามจะเขียนออกมาให้เพื่อน ๆ ได้อ่าน ดีใจครับ กระทู้รีวิวนี้ พวกเราไม่ได้มาแข่งขันอะไรกัน แต่เป็นการร่วมด้วยช่วยกันเขียน ของเพื่อน ๆ ในห้องซากุระแห่งนี้ .. ยังอยากขอเชิญเพื่อน ๆ อีกหลายคนที่ไม่เคยโพส มามีส่วนร่วมในกระทู้นี้กันเถอะครับ  ^^ จากคุณ : Mad Bull - [ 2 มี.ค. 52 14:19:30 ]

ความคิดเห็นที่ 12 เราว่าพระเอกซึซึมิซังเรื่องเพอร์เฟ๊กต์วูแมนถึงไม่หล่อมาก แต่เท่นะคะ ว่าแล้วก็ได้ฤกษ์รีวิวเรื่องของตัวเองซักที ไลเออร์เกมค่ะ จากคุณ : meritiana (Meritiana) - [ 2 มี.ค. 52 14:24:40 ]

ความคิดเห็นที่ 13 มันอดใจไม่อยู่เจงๆ..เลยขอหนีนายมารีวิวซักครู่ 55+ Title: Summer Snow Episodes: 11 Genre: Romance, human drama Viewership rating: 18.09 Broadcast network: TBS Broadcast period: 2000-Jul-07 to 2000-Sep-15 Air time: Friday 21:00 Theme song: Natsuno Osama by KinKi Kids เพราะจักรยานคันนั้น วันนั้น และเด็กคนนั้น... ทำให้เขาชายหนุ่มเจ้าของร้านซ่อมจักรยานผู้ซึ่งโปรดปรานการดำน้ำยามว่าง ได้พบกับเธอสาวน้อยพนักงานธนาคารผู้มีโรคหัวใจเป็นโรคประจำตัว ทั้งสองจะมาบอกเล่าเรื่องราวของรักแท้ที่เกิดขึ้นท่ามกลางความแตกต่าง ของชีวิตและอุปสรรคขวากหนามอันมากมาย เขามีชีวิตที่ค่อนข้างลำบากเพราะต้องทำมาหาเลี้ยงน้องชายและน้องสาว วัยกำลังเรียนแทนพ่อแม่ที่เสียชีวิตไปแล้วตั้งแต่เล็กๆ ส่วนเธอลูกสาว เพียงคนเดียวของคุณพ่อผู้ซึ่งรัก ห่วง และหวงประดุจไข่ในหิน เมื่อโลกที่แตกต่างของทั้งสองได้มาบรรจบกัน หิมะรักในฤดูร้อนก็เริ่มผลิบาน นัตสึโอะ พี่ชายขี้บ่น พูดมากจนน่ารำคาญแต่เป็นคนที่มองโลกในแง่ดี ยอมรับความจริงและมีรอยยิ้มให้ทุกคนเสมอ เราว่าเฮียซึโยแกเล่นได้เจ๋งสุดๆไปเลยไม่ว่าจะเป็นฉากเปิดตัวพี่ชายหัวฟูที่เพิ่งตื่นนอนแล้วยืนสะลึมสะลือดื่มนม ดูเป็นธรรมชาติมากกกก หรืออีกฉากที่ไปก้มหัวขอร้องพ่อของฮิโรโตะให้ยอมรับหลานที่อยู่ในท้องของชิกะ ดูแล้วประทับใจสุดๆ ยูกิ หญิงสาวที่มีโรคหัวใจเป็นโรคประจำตัว เธอไม่เคยเรียกร้องอะไรนอกจากพยายามที่จะใช้ชีวิตแบบคนปกติธรรมดา และมีชีวิตอยู่ต่อไปวันๆเท่านั้น แต่แล้วเมื่อเธอได้พบกับนัตสึโอะ เธอจึงได้รู้ว่าโลกนี้ยังมีอะไรที่น่าสนใจมากกว่าการมีชีวิตแบบอยู่ไปวันๆ เรียวโกะสวมบทบาทยูกิได้เหมาะสมมาก เพราะบุคลิกของเธอดูเป็นสาวเรียบร้อย อ่อนหวาน บอบบาง น่าทะนุถนอม แต่ในขณะเดียวกันก็แฝงความมุ่งมั่นดื้อรั้นและเด็ดเดี่ยวอยู่ในที จุน น้องชายคนรอง เป็นหนุ่มน้อยที่มีความพิการทางหูเนื่องจากประสบอุบัติเหตุตั้งแต่เด็กๆ จึงทำให้เขาดูเป็นคนเงียบๆและไม่ค่อยพูดค่อยจา แต่จริงๆแล้วเขาเป็นคนร่าเริงสดใสและไม่ได้อับอายกับความพิการของตัวเอง อีกทั้งยังสามารถใช้ชีวิตร่วมกับคนปกติในสังคมได้อย่างมีความสุข โองุริ ชุน เล่นเก่งจนดูเหมือนคนหูพิการและพูดไม่ชัดจริงๆ  ยิ่งเวลาที่ทำหน้าซึมๆเศร้าๆยิ่งทำให้ดูน่าสงสารเป็นยิ่งนัก ชิกะ น้องสาวคนเล็กที่ทำหน้าที่เป็นแม่บ้านให้กับพี่ชายทั้ง2 เป็นเด็กสาวมัธยมที่เชื่อมั่นในตัวเอง รักฮิโรโตะมากจนยอมมีอะไรกับฮิโรโตะ และต่อมาเมื่อเกิดตั้งท้องก็มุ่งมั่นที่ให้เด็กเกิดขึ้นมาแม้จะต้องแลกกับหลายๆอย่างในชีวิตก็ตามที อีกคนที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยก้อคือ ฮิโรโตะ ผู้ชายไม่เอาถ่าน ไม่มีความมั่นใจ ไม่เคยคิดแก้ปัญหาอะไร ใช้ชีวิตล่องลอยไปวันๆ ไม่สนใจการเรียน แถมยังคบเพื่อนเลวอีกต่างหาก ซึบาสะ แสดงได้เนียนมั่กมาก ดูเป็นผู้ชายเหลาะแหละไม่ได้เรื่องและห่วยแตกจริงๆค่ะ ซีรีย์เรื่องนี้อบอวลไปด้วยความรักที่ไม่ได้หวือหวามากมาย แต่ละเมียดละไมและอบอุ่น ซาบซึ้งและกินใจดีค่ะ อีกทั้งในขณะที่ดำเนินเรื่องไปก็ยังสอดแทรกข้อคิดในการดำเนินชีวิตของบรรดาเหล่าตัวละครไว้ย่างแนบเนียนด้วยค่ะ ลองหามาดูกันนะคะ แล้วซีรีย์เรื่องนี้จะทำให้คุณรู้ว่ายิ้มทั้งน้ำตาน่ะเป็นอย่างไร แก้ไขเมื่อ 02 มี.ค. 52 19:32:54 แก้ไขเมื่อ 02 มี.ค. 52 19:18:59 จากคุณ : k-jap (อ้อมแขนอันอบอุ่น) - [ 2 มี.ค. 52 14:47:34 ]

ความคิดเห็นที่ 14 VOICE  (Inochi Naki Mono no Koe) [voices of the dead : เสียงจากศพ] ถ้าใครคิดว่าเรื่องนี้เป็นละครแนวหมอที่ต้องลุ้นระทึก ตื่นเต้น เร้าใจ ชนิดนาทีต่อนาที หรือไม่ก็เป็นแนวชีวิตรันทดหนักๆ ขอบอกไว้เลยค่ะว่า "คุณคิดผิด!!" Title (English): Voice Tagline (romaji): Inochi Naki Mono no Koe Format: Renzoku Genre: Medical, mystery Viewership rating: 14.5 (Kanto) Episodes: 11 Broadcast network: Fuji TV Broadcast period: 2009-Jan-12 to 2009-Mar-23 Air time: Monday 21:00 Theme song: Setsuna by GReeeeN   VOICE เป็นเรื่องราวของนักศึกษาคณะแพทย์ศาสตร์ 5 คน ที่เลือกเรียนด้านนิติเวชศาสตร์ด้วยเหตุผลที่ต่างกัน แต่เมื่อพวกเขามารวมตัวกันแล้ว ก็มีจุดมุ่งหมายเดียวกัน นั่นคือ เพื่อไขปริศนาจากศพที่ไม่อาจจะพูดอะไรได้อีกแล้ว พวกเค้าถือเป็นกระบอกเสียงแทนร่างที่ไร้วิญญาณ เพื่อนำสารไปส่งต่อยังผู้ที่อยู่ข้างหลัง คาจิ ไดกิ (Eita) - เขาใฝ่ฝันจะเรียนเป็นศัลยแพทย์หัวใจ แต่ชื่อของเขากลับไปปรากฏอยู่บนบอร์ดของวิชาสัมมนานิติเวชศาสตร์ เพราะอาจารย์ ซางาว่า ฟูมิฮิโกะ (Tokito Saburo) เป็นคนใส่ชื่อเขาลงไป เพราะมองเห็นสิ่งพิเศษบางอย่างในตัวไดกิ และอาจารย์ก็ดูคนไม่ผิด ไดกิเป็นคนที่มีความสามารถพิเศษในกระบวนการคิดเพื่อเชื่อมโยงเหตุการณ์ต่างๆ และเป็นคนที่ ถ้าติดใจเรื่องอะไรแล้ว ก็จะต้องทำทุกอย่างเพื่อไขความสงสัยนั้นให้กระจ่างให้ได้ จนสามารถนำพาข้อความจากผู้ที่ตายไปแล้ว ไปส่งถึงผู้ที่ยังมีชีวิตอยู่ได้ อิชิมัตสึ เรียวสุเกะ (Ikuta Toma) - เรียวสุเกะเป็นเพื่อนสนิทของไดกิ และเป็นทายาทของโรงพยาบาลเอกชนยักษ์ใหญ่ อีกทั้งยังเป็นผู้ที่ถูกหมายมั่นว่าจะต้องมารับช่วงต่อโรงพยาบาลต่อจากพ่อของเขา เรียวสุเกะทำงานพิเศษอยู่ในโรงพยาบาล แต่ต้องถูกแรงกดดันต่างๆมากมาย โดยเฉพาะจากพ่อของเขา ที่พยายามจะส่งเขาไปเรียนวิชาแพทย์กับศาสตราจารย์ผู้มีชื่อเสียง แต่เขาตัดสินใจเลือกที่จะเรียนด้านนิติเวชศาสตร์ เพราะกลัวที่จะต้องรับผิดชอบชีวิตคน อีกทั้งยังต้องการแสดงให้พ่อเห็นว่า เขาสามารถยืนหยัดด้วยตัวเองได้ แต่เขาก็ยังถูกสบประมาทว่าคงไม่สามารถเรียนด้านนิติเวชได้ เขาจึงต้องพยายามพิสูจน์ตัวเองให้ทุกคนได้เห็น คุโบอากิ คานาโกะ (Ishihara Satomi) - เพื่อนๆเรียกเธอสั้นๆว่า "อากิ" อากิเป็นนักศึกษาตัวอย่างของคณะแพทย์ศาสตร์ ที่อาจารย์ส่วนใหญ่มองว่าเธอควรจะเลือกเรียนในสาขาที่เป็นที่นิยม แต่เธอกลับไม่ฟังคำแนะนำของอาจารย์ทั้งหลาย และเลือกเรียนด้านนิติเวชศาสตร์ เพราะแม่ของเธอเสียไปตั้งแต่ยังเด็ก แล้วเธอก็สงสัยในสาเหตุการตายของแม่มาโดยตลอด เธอจึงเลือกเรียนนิติเวชศาสตร์ เพื่อที่ว่า.. เธออาจจะสามารถค้นหาสาเหตุการตายที่แท้จริงของแม่เธอได้ ฮาเนอิ อากิระ (Sato Tomohito) - หนุ่มมาดเข้มที่ในอดีตเคยอยู่แก๊งค์เด็กเกเรมาก่อน แต่เกิดเหตุการณ์ที่คู่กรณีของเขาตายทั้งๆที่ยังไม่ได้ต่อสู้กัน เขาถูกตำรวจปรักปรำว่าเป็นคนผิด แต่เพราะผลการชันสูตรทางนิติเวช ที่พิสูจน์ว่าผู้ตาย ตายด้วยโรคประจำตัว จึงทำให้เขาพ้นผิด เขาจึงตัดสินใจเลือกมาเรียนด้านนิติเวชศาสตร์ บุคลิกภายนอกของฮาเนอิที่ดูแข็งกร้าว แต่เมื่อใดที่เขาต้องมายืนอยู่หน้าศพเพื่อทำการชันสูตร เขามักจะตกม้าตายเพราะอาการคลื่นไส้อาเจียนเสมอๆ ซึ่งมันช่างตรงข้ามกับบุคลิกของเขาเหลือเกิน คิริฮาตะ เทปเป (Endo Yuya) - หนุ่มผู้เรียบร้อย จนถูกฮาเนอิข่มอยู่ตลอด และมักจะถูกเพื่อนๆในกลุ่มแกล้งเสมอๆ พ่อของเทปเปเป็นทันตแพทย์ แต่เขากลับเลือกเรียนด้านนิติเวช เพราะได้แรงบันดาลใจมาจากซีรี่ส์เรื่องดัง CSI เทปเปมักจะเป็นคนที่ถูกเพื่อนๆใช้ให้ทำนั่นทำนี่ตลอด แถมยังใช้ห้องพักของเทปเปเป็นที่สังสรรค์ของกลุ่ม แต่เมื่อใดก็ตามที่เกิดคดีต่างๆ เขาก็มักจะเข้าไปขอความช่วยเหลือจากอาจารย์ในห้องแล็บ และทำงานหรือไปหาสิ่งที่อาจารย์ต้องการมาให้ เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนการผลการทดสอบในห้องแล็บ ทั้ง 5 คนจะช่วยกันวิเคราะห์เคสของศพจากเหตุการณ์ต่างๆ แต่โดยหลักแล้ว พวกเขาจะช่วยกันค้นหาความต้องการของผู้ตาย ว่าผู้ตายต้องการจะทำอะไร? ต้องการจะฝากอะไรถึงใคร? และต้องการที่ทำของบางอย่างเพื่อใคร? ก่อนที่ตัวเองจะตาย ถ้าพูดให้ง่ายๆก็คือ พวกเขาทั้ง 5 คือ ... "คนที่จะช่วยปรับความเข้าใจระหว่างผู้ที่ตายไปแล้วกับผู้ที่ยังมีชีวิตอยู่" เสน่ห์ของเรื่องนี้อีกอย่างก็คือ ฉากที่ทั้ง 5 คนมาอยู่รวมกันนอกห้องเรียน เป็นบรรยากาศที่สดใสมากๆ เพราะพวกเขามักจะไปสังสรรค์กัน ถกเถียงกัน แกล้งกัน และกลายเป็นฉากฮาๆของเรื่องที่โดดเด่นเลยค่ะ ดูฉากแบบนี้ทีไร เราต้องหลุดหัวเราะออกมาทุกทีค่ะ ^^ แต่ก็มีสิ่งนึงที่เราต้องเสียไปแทบจะทุกตอนที่ได้ดูก็คือ "น้ำตา" แต่เป็นน้ำตาของความซาบซึ้งใจและอิ่มใจค่ะ ถ้ามองแค่นี้ อาจจะมองว่ามันเหมือนไม่มีอะไร แต่ถ้าได้ดูแล้วจะต้องอึ้งและทึ่ง เพราะเราแทบจะไม่สามารถเดาตอนจบของแต่ละตอนได้เลย หลายๆตอนที่เราดูแล้ว ต้องอุทานเลยว่า "คนเขียนบทคิดได้ยังไงเนี่ย?" มีหลายสิ่งหลายอย่างที่เรานึกไม่ถึง หรือไม่ทันนึก หรือเหนือความคาดหมายจริงๆ จนถึง ณ วันนี้ เรื่องนี้ยังไม่จบสมบูรณ์ค่ะ เพราะวันนี้เพิ่งจะฉายตอนที่ 8 เองค่ะ แต่แนะนำว่าเรื่องนี้เป็นละครดีๆอีกเรื่องที่ไม่ควรพลาดค่ะ เขียนไปเขียนมา ดูเหมือนจะออกแนว "หน้าม้า" ยังไงก็ไม่รู้ อิอิ ไหนๆก็ไหนๆละ เอาคลิปโปรโมทก่อนฉายจริงมาแถมให้ละกันนะคะ :D 090112 Mezamashi TV - Voice (Thaisub) http://www.mediafire.com/download.php?1zzzodnzrcm แก้ไข : วันฉายและเรตติ้ง เพราะฉายจบแล้วค่ะ :) แก้ไขเมื่อ 02 เม.ย. 52 15:45:21 แก้ไขเมื่อ 09 มี.ค. 52 10:07:20 แก้ไขเมื่อ 03 มี.ค. 52 00:21:14 แก้ไขเมื่อ 03 มี.ค. 52 00:15:11 แก้ไขเมื่อ 02 มี.ค. 52 23:58:05 จากคุณ : ตุ๊กตาไขลาน - [ 2 มี.ค. 52 14:55:13 ]

ความคิดเห็นที่ 15 อยากเห็น HERO PRIDE ENGINE  เหรอค่ะ งั้นเดี๊ยนจอง HERO ไว้ก่อนแล้วกันค่ะ จริง ๆ PRIDE มีรีวิวไว้สองรูปแบบ แต่กลัวว่าจะสปอยด์น่ะสิ - -'' จากคุณ : kimurafreek - [ 2 มี.ค. 52 14:57:41 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ชื่อ: ไลเออร์ เกม เกมกลคนช่างลวง  จำนวนตอน : สิบเอ็ดตอน  ช่องที่ฉาย :  ฟูจิ ทีวี  ระยะเวลาที่ฉาย : 14 เมษายน 2007- 23 มิถุนายน 2007  เวลาที่ฉาย : ทุกวันเสาร์ ห้าทุ่มตรง  รายชื่อนักแสดง :โชตะ มัตสึดะ เอริกะ โทดะ คินยะ คิตาโอจิ คาซูมะ ซูซูกิ ซากาโมโต้ มาโกโตะ มิชิโกะ คิชิเสะ เรื่องย่อ: "  คุณจะทำอย่างไร เมื่ออยู่ๆก็ได้รับเงินจำนวนหนึ่งร้อยล้านเยนฟรีๆ แต่ในขณะเดียวกัน ก็ต้องเข้าไปพัวพันกับเกมอันตรายที่คุณมีสิทธิ์เป็นหนี้หนึ่งร้อยล้านเยน โดยที่ไม่มีทางหลุดพ้นออกจากเกม" คันซากิ นาโอะ นักศึกษาธรรมดาๆ ผู้ถือคติ "มนุษย์ทุกคนควรมีความซื่อสัตย์" ที่มีจิตใจที่ซื่อบริสุทธิ์ และมักจะโดนหลอกง่ายเป็นประจำ เป็นอุปนิสัยประจำตัว ถึงแม้ว่านิสัยเช่นนี้มักจะสร้างความรำคาญให้แก่ผู้อื่นเสมอ แต่เธอก็ไม่เดือดร้อนและดำรงชีวิตอย่างเรียบง่ายตามลำพัง วันหนึ่ง นาโอะได้รับพัสดุวางอยู่หน้าห้องพัก ข้างในกล่องมีเงินจำนวนหนึ่งร้อยล้านเยอน วีดีโอเก่าๆหนึ่งม้วน พร้อมทั้งจดหมายหนึ่งฉบับจากองค์กรแอลจีทีซึ่งเป็นองค์กรเจ้าของเงินและเป็นองค์กรที่มีอิทธิพลสูง สิ่งของทั้งสามอย่างทำให้นาโอะต้องร่วมเล่นเกมไลเออร์เกมหรือเกมกลคนช่างลวงอย่างไม่ตั้งใจและไม่สามารถที่จะถอนตัวได้ กติกาของเกมก็คือ รอบแรกจะมีผู้เล่นสองคน แต่ละคนจะมีเงินคนละร้อยล้านเยน ซึ่งทั้งสองฝ่ายต้องทำวิธีไหนก็ได้ที่จะช่วงชิงเงินของอีกฝ่ายมาเป็นของตนให้ได้ภายในสามสิบวันและในขณะเดียวกันต้องไม่สูญเสียเงินของตนด้วย เมื่อครบกำหนด ทางองค์กรจะส่งคนมาเก็บเงิน โดยจะแบ่งเงินครึ่งหนึ่งให้แก่ผู้ชนะ ส่วนผู้แพ้ต้องตกเป็นหนึ้ชดใช้เงินให้แก่องค์กรจำนวนหนึ่งร้อยล้านเยนโดยไม่มีทางเลือก ด้วยความใสซื่อของนาโอะ ทำให้เธอถูกคู่ต่อสู้หลอกชิงเงินไปได้และมีโอกาสที่จะตกเป็นหนี้หนึ่งร้อยล้านเยน ทำให้เธอกลุ้มใจมาก ต่อมามีคนแนะนำให้เธอไปขอความช่วยเหลือจากอดีตนักต้มตุ๋นบุคลิกลึกลับที่เพิ่งออกจากคุกนามว่าอากิยาม่า ชินอิจิ ตอนแรกอากิยาม่าปฎิเสธที่จะช่วย แต่เมื่อเห็นนิสัยที่ถูกหลอกง่ายของนาโอะ ทำให้เขาเปลี่ยนใจ ตอนแรกอากิยาม่าต้องการเพียงจะช่วยให้นาโอะหลุดออกจากเกมในรอบแรกเท่านั้น แต่ต่อมาเมื่อนาโอะถูกหลอกให้เข้าไปร่วมในเกมรอบที่สองอีกครั้ง ทำให้อากิยาม่าพบว่าเกมอันตรายเกมนี้มีเบื้องหลังที่ซับซ้อนและมีเงื่อนงำ เขาจึงตั้งใจที่จะสืบหาคนที่บงการอยู่เบื้องหลังด้วยตัวเอง จากคุณ : meritiana (Meritiana) - [ 2 มี.ค. 52 15:03:12 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ขอคั่นอีกนิด ขอจองเบียคุยะโคด้วยค่ะ (จองมาสองเรื่องแล้ว จะทยอยพิมพ์ค่ะ ) เอ้ามีต่อ สำหรับโครงเรื่องนะคะ โครงเรื่องนี้จะออกแนวจิตวิทยา คือจะเน้นไปทางสะท้อนนิสัยที่ไม่ดีของจิตใจมนุษย์ผ่านทางตัวละครส่วนใหญ่ที่ร่วมเล่นเกมโดยอาศัยกติกาของเกมดึงเอาด้านมืดของมนุษย์ที่เป็นผู้เล่นเกมออกมา โดยเอาเงินร้อยล้านมาเป็นตัวล่อค่ะ ลักษณะนี้จะเห็นได้ในตัวละครตัวอื่นๆที่เป็นผู้เล่นเกมซึ่งส่วนใหญ่ล้วนแล้วแต่มีด้านมืดด้านต่างๆอยู่ในตัว ที่เห็นได้ชัดคือ ความโลภ ความเห็นแก่ตัว ความไม่มีน้ำใจ เจ้าเล่ห์ การโกหกหลอกลวง ทำทุกอย่างเพื่อเอาตัวเองให้รอดและ ทำได้ทุกอย่างเพื่อสิ่งที่ตัวเองต้องการโดยไม่คำนึงถึงว่าจะมีใครเดือดร้อนหรือไม่ เนื่องจากเนื้อเรื่องหลักเกี่ยวกับการเล่นเกมอันตรายที่ผู้เล่นต้องทำทุกอย่างเพื่อเอาตัวเองให้รอดและไม่เป็นผู้แพ้ ดังนั้นเนื้อเรื่องจะอยู่ในเกมและเต็มไปด้วยการหักเหลี่ยมเฉือนคม การชิงไหวชิงพริบตลอด ทั้งกับผู้เล่นด้วยกันเอง และทั้งกับองค์กรผู้คิดเกม ทำให้เรื่องนี้ออกมาในแนวตื่นเต้น ลุ้นระทึก และใช้สมองร่วมลุ้นไปกับพระเอกและนางเอกตลอด จะไม่มีฉากโรแมนติกหรือหวานแหววเลย แต่จะมีฉากฮาเล็กๆน้อยๆซึ่งมักจะมาจากความซื่อบื้อของคันซากิ นาโอะเป็นหลักแทรกอยู่บ้างเล็กน้อยเท่านั้น จากคุณ : meritiana (Meritiana) - [ 2 มี.ค. 52 15:23:37 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ส่วนตัวละครที่ปรากฎอยู่ในเรื่อง ล้วนแล้วแต่ทำหน้าที่ของตัวเองได้ดีเยี่ยมทุกคน โดยเฉพาะเจ้าเห็ดสด(ขออภัยที่ดันจำชื่อไม่ได้ แฮ่ะ)เจ้าเห็ดสดจูเนียร์วาตารุ (สองคนนี้แค่เห็นทรงผมก็อมยิ้มแล้ว)หรือแม้แต่ตัวละครที่โผล่มาทีหลังอย่างโยโกยะ ผู้มีอดีตพัวพันกับพระเอก แต่ตัวละครสำคัญที่เรียกได้ว่าเป็นตัวดำเนินเรื่องมีอยู่สองคนด้วยกัน(เรียกว่าออกด้วยกันทุกฉาก)มีอยู่สองคนค่ะ คนแรกคือคันซากิ นาโอะ ทีรับบทโดยเอริกะ โทดะจัง เรื่องนี้ตัวละครที่เธอเล่นเป็นสาวซื่อบื้อ จิตใจดีมีน้ำใจเป็นแม่พระสุดๆ แถมโดนหลอกง่ายมากๆ ได้อย่างสมบทบาท เรียกว่าโดนหลอกมันอยู่คนเดียวทั้งเรื่อง (ด้วยความซื่อบื้อทำให้บางคนอาจทนดูไม่จบ เพราะทนหมั่นไส้ไม่ไหว)แต่ถึงแม้ว่าครึ่งแรกของเรื่องนาโอะจังจะเป็นสาวซื่อจนเซ่อ แต่พอมาครึ่งหลัง เธอก็เผยความเด็ดเดี่ยวที่แอบซ่อนอยู่ในตัวออกมา และเนื่องจากจุดประสงค์ในการเล่นเกมนี้แตกต่างจากผู้เล่นคนอื่นๆและอากิยาม่า ชินอิจิ ทำให้เธอเป็นผู้เดียวเท่านั้นที่สามารถรู้ความลับของเกมในขณะที่คนอื่นๆนึกไม่ถึง ส่วนอากิยาม่า ชินอิจิ อีกหนึ่งตัวละครหลักของเรื่อง รับบทโดยโชตะ มัตสึดะ นักแสดงดาวรุ่งมาแรงของญี่ปุ่น อาจจะเป็นเพราะสายเลือดนักแสดงทีสืบทอดมาทางสายเลือดทำให้เขาสามารถแสดงบทนี้ได้อย่างดีไม่แพ้เอริกะ โทดะ จนเรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งผลงานมาสเตอร์พีซทางจอแก้วบทหนึ่งที่ทำให้เขาเป็นที่ประทับใจของแฟนซีรี่ส์ชาวไทย โชตะ สามารถถ่ายทอดบทอดีตนักต้มตุ๋นผู้มีอดีตอันเจ็บปวดซ่อนอยู่ภายใต้บุคลิกที่น้ำนิ่งไหลลึก เงียบขรึม ช่างสังเกต ฉลาดรู้ทันคนผ่านทางสีหน้าที่เย็นชา แววตาที่ลึกลับ และรอยยิ้มมุมปากที่มีเลศนัย(เรียกว่ายิ้มทีไรเป็นเรื่องเมื่อนั้น คือต้องมีคนตกเป็นเหยื่อหมอนี่ทุกที)ได้อย่างดีเยี่ยม จนทำให้ผู้ชม(เราเอง)รู้สึกว่าหมอนี่เป็นคนน่ากลัวและอันตรายมากทีเดียว จะว่าไปแล้วลักษณะนิสัยของตัวละครเอกทั้งสองเป็นนิสัยที่ออกจะตรงกันข้ามและไม่เหมือนกันเลย แต่ถ้าพิจารณาดูให้ดีๆ จุดนี้จะเป็นจุดที่เติมเต็มข้อบกพร่องของอีกฝ่ายได้อย่างสมบูรณ์ และถึงแม้ว่าเรื่องนี้จะไม่มีฉากโรแมนติกและไม่มีคำพูดที่แสดงถึงความรักหวานแหวว(ใครจะมีอารมณ์เนี่ย แค่เล่นเกมก็เอาตัวไม่รอดแล้ววววว)โดยตรง แต่ดูจากรอยยิ้มที่เปลี่ยนไปของอากิยาม่ารวมถึงรอยยิ้มเขินๆของนาโอะตอนท้ายเรื่องก็บ่งบอกได้ว่าทั้งคู่มีความผูกพันและความรู้สึกดีๆให้กันซ่อนอยู่มานานแล้ว จริงๆอยากเขียนต่อ แต่รู้สึกว่ามันชักยาว สำหรับคนที่ไม่เคยดูลองไปหาดูละกันค่ะ  (ตอนจบยาวสามชั่วโมงค่ะ)สำหรับเรา เรื่องนี้ให้คะแนนเต็มร้อยค่ะ จากคุณ : meritiana (Meritiana) - [ 2 มี.ค. 52 16:00:20 ]

ความคิดเห็นที่ 19 Code Blue (Doctor Heli Kinkyuu Kyumei)    * Title (English): Code Blue    * Format: Renzoku    * Genre: Medical drama    * Viewership rating: 15.6 (Kanto)    * Episodes: 11    * Broadcast network: Fuji TV    * Broadcast period: 2008-Jul-03 to 2008-Sep-12    * Air time: Thursday 22:00    * Theme song: HANABI by Mr.Children ซีรี่ส์แนวหมอๆอีกเรื่องที่ขอแนะนำครับ เรื่องราวของหน่วยแพทย์ฉุกเฉินประจำเครื่องเฮลิคอปเตอร์ ปฎิบัติการรักษา ปฐมพยาบาลและเคลื่อนย้ายผู้ป่วยมายังโรงพยาบาล  ซึ่งต้องอาศัยทั้งความเชี่ยวชาญ การตัดสินใจ ประสบการณ์ การแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า ด้วยเครื่องมือและเวลาที่จำกัด รวมทั้งจิตใจที่เข้มแข็งทนแต่แรงกดดัน จึงจะทำหน้าที่ดอกเตอร์เฮลิได้.... ตัวละครในเรื่อง ไอซาวะ โคซากุ(ยามาชิตะ โมโมชิสะ) หมอฝึกหัดที่มีบุคลิกเย็นชา เงียบขรึม กล้าตัดสินใจและมีฝีมือที่สุดในหมอฝึกหัด 4 คน ชิราอิชิ เมกุมิ (อารางาค ยูอิ)   ชิ ราอิชิ ลูกสาวของศ.ชิราอิชิ แห่งม.แพทย์เมอิโฮ ไม่มั่นใจในตัวเอง เก่งทฤษฎีและการท่องจำ ฮิยามะ มิโฮโกะ (เอริกะ โทดะ) หมอฝึกหัดที่พูดจาขวานผ่าซาก แต่เป็นคนจริงใจ ซาเอจิมะ ฮารุกะ (ฮิกะ มานามิ ) พยาบาล(สาวสวย)ประจำเฮลิคอปเตอร์ ตอนแรกๆไม่ชอบกลุ่มหมอฝึกหัด แต่หลังจากทำงานและเรียนรู้นิสัยใจคอก็ยอมรับและทำงานร่วมกันได้.... ฟูจิคาวะ คาซุโอะ(อาซาริ โยซุเกะ) หมอฝึกหัดที่ทักษะและความสามารถอ่อนด้อยที่สุด เป็นคนร่าเริงและมีความพยายาม แต่บางครั้งก็น่ารำคาญ หากเทียบกับซีรี่ส์ Iryu ที่เน้นด้านฝีมือการผ่าตัดของหมอซานาดะ หรือการรักษาโรคยากๆ Code Blue นั้นเน้นความเป็นดราม่าทางการแพทย์ซะมากกว่า ในแต่ละตอนจะมีเหตุการณ์ต่างๆเข้ามาเป็นบททดสอบคุณหมอฝึกหัดทั้ง 4 คน บางตอนก็เป็นอุบัติเหตุใหญ่ๆ เล็กๆบ้าง บางตอนเป็นโรคประหลาดๆ Code Blue เป็นซีรีส์แนวหมอๆที่ดูสนุกได้ทุกอารมณ์ ซึ้ง ดราม่า ตื่นเต้น บางตอนทำให้น้ำตาซึม บางตอนให้ความหวังในการมีชีวิต คุณค่าของชีวิต ความล้มเหลว และการให้อภัย.... เรื่องนี้รวมไอดอลดังๆมากันหมด ทั้งยามะพี(กะทรงผมที่ประหลาดดี) งักกี้ หนูเอริกะ รวมทั้งนางพยาบาลก็น่ารักมากๆ ผมชอบนักแสดงที่เล่นเป็นหมอคุโรดะ ที่เปรียบเสมือนอาจารย์ใหญ่ของหมอฝึกหัดทั้ง 4 คน แกเล่นดีมากๆ ยิ่งตอนท้ายๆ ยิ่งเทพ   เพลงประกอบอย่าง Hanabi เพราะมากๆ ใครที่ชอบซีรี่ส์แนวหมอ อาชีพ หรือดราม่า+ตื่นเต้น ห้ามพลาดเรื่องนี้ครับ การันตี ขอยกเป็นซีรี่ส์ในดวงใจอีกเรื่องเลยครับ แก้ไขเมื่อ 02 มี.ค. 52 19:51:09 แก้ไขเมื่อ 02 มี.ค. 52 19:48:09 จากคุณ : bigwores - [ 2 มี.ค. 52 19:00:47 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ขอตัวไปตามเพื่อนคนนึง ที่ชอบเรื่อง Bara no nai hanaya มารีวิวนะครับ คิดว่าถ้าเค้าว่าง เค้าเหมาะที่จะรีวิวเรื่องนี้ที่สุดครับ เพราะเป็นแฟนพันธ์ุแท้ ... ยังไงก็ตาม ถ้าเค้าไม่สะดวก ผมจะมารีวิวเองครับ ขอจองเรื่องนี้นะครับ จากคุณ : Mad Bull - [ 2 มี.ค. 52 19:24:07 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ปูเสื่อรอรีวิวร้านดอกไม้ครับ เรื่องนี้หนูชิซุกุทำให้ผมน้ำตาไหลพรากเลยครับ เป็นซีรี่ส์ที่ประทับใจจริงๆ จากคุณ : bigwores - [ 2 มี.ค. 52 20:00:30 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ที่จริงอยากช่วยรีวิวค่ะ แต่ว่าห่างจากวงการซีรี่ย์ไปนานเหมือนกัน เพราะช่วงนี้ยุ่งๆ แถมมีเรื่องไม่ใคร่จะสบายใจนัก มีอะไรให้คิดเยอะ เลยไม่มีเวลาว่างดูซีรี่ย์เท่าไหร่ ล่าสุดก็ดู code blue ไปได้สองตอน หมั่นไส้พระเอกเกินจะเยียวยา เลยพักไว้ก่อน ทำใจได้เมื่อไหร่จะกลับไปดู ก็เลยมีลืมๆเรื่องที่ดูไปแล้วบ้าง ที่จำได้เค้าก็รีวิวไปแล้วบ้าง จองไปแล้วบ้าง ยังไงขอเป็นผู้ดูที่ดีแล้วกันค่ะ มาช่วยให้กำลังใจ อิอิ แก้ไขข้อความ เอ่อ ตอนนี้นึกได้ 1 เรื่องที่ยังไม่มีใครรีวิว และยังจำเนื้อเรื่องได้อยู่ แต่ไม่รู้ว่าจะรีวิวดีรึเปล่า? เพราะเนื้อเรื่องก็นะ น้ำเน่าเข้าขั้นอยู่ เอาเป็นว่าจองไว้ก่อนละกันค่ะ ถ้ามีคนคิดว่ารีวิวเรื่องนี้ก็ดี ก็จะกลับมารีวิวให้ค่ะ ^_^ กรรม -*- ลืมบอกชื่อเรื่อง just one love ของคาเมะค่ะ อิอิ แก้ไขเมื่อ 02 มี.ค. 52 20:59:00 แก้ไขเมื่อ 02 มี.ค. 52 20:58:02 แก้ไขเมื่อ 02 มี.ค. 52 20:57:32 จากคุณ : น้ำพริกกินกะปลาทู - [ 2 มี.ค. 52 20:54:31 ]

ความคิดเห็นที่ 23 เรื่องที่คุณน้ำพริกฯบอกถึง คงเป็นเรื่อง Tatta hitotsu no koi หรือ Just one love สินะครับ ... จำได้ว่าเคยอ่านกระทู้ที่คุณน้ำพริกฯ รีวิวเรื่องนี้ไว้ อ่านสนุกได้รสชาติจริง ๆ จะรออ่านนะครับ  ^^ แก้ไขเมื่อ 02 มี.ค. 52 23:10:15 จากคุณ : Mad Bull - [ 2 มี.ค. 52 21:03:18 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ฝากถึงคุณMad Bull ถ้าไม่ลำบากจนเกินไปนักช่วยรีวิวเรื่อง Moto Kare ให้หน่อยเถอะค่ะ เพราะเราดูนานแล้วและชอบเรื่องนี้มาก เลยอยากดันให้หลายๆคนได้ดู แต่ช่วงนี้เราไม่สามารถจริงๆค่ะ งานเยอะเหลือเกินทั้งราษฎ์ทั้งหลวงรุมเร้าซะเจียนบ้า อีกอย่างเราเคยอ่านเจอว่าคุณMad Bull ก็ชอบซีรียเรื่องนี้เช่นกัน ที่สำคัญเราเชื่อว่ามุมมองของคุณต้องเยี่ยมแน่ๆ แล้วจะรออ่านนะคะ ขอบคุณไว้ล่วงหน้าเลยค่ะ 55+ ขอกันแบบด้านๆเลยเน๊อะ!! แก้ไขเมื่อ 02 มี.ค. 52 22:24:26 จากคุณ : k-jap (อ้อมแขนอันอบอุ่น) - [ 2 มี.ค. 52 21:40:12 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ขออกตัวก่อนนะคะว่าเป็นการรีวิวครั้งแรก (จริงๆ) อาจจะไม่ดี แต่มาจากใจรักซีรี่ย์เรื่องนี้ ************************************* คุณเชื่อในความรักหรือไม่ คุณรู้สึกว่าความรักอยู่รอบๆตัวเราหรือเปล่า คุณรู้หรือไม่ว่าอานุภาพของความรักนั้นยิ่งใหญ่เพียงใด คุณสามารถหาคำตอบได้จากซีรี่ย์แห่งรักเรื่องนี้   Bara no nai Hanaya "ร้านดอกไม้ไร้กุหลาบ" ชิโอมิ เอย์จิ (Katori Shingo) ชายคนขายดอกไม้ที่ทุกคนทราบแต่เพียงว่า  เป็นพ่อม่ายลูกติดที่เลี้ยงลูกสาวมาคนเดียวหลังจากภรรยาตายไป ดูผิวเผินเหมือนกับว่าเขาเป็นชายหนุ่มที่ดูเรื่อยๆทำมาหากินเลี้ยงลูกไปวันๆ ตามแบบชีวิตที่เรียบง่าย เป็นคนอ่อนน้อมถ่อมตน เสียสละ ชอบช่วยเหลือคน มักจะยอมให้คนอื่นเอาเปรียบอยู่เสมอ น้อยคนนักที่จะรู้ว่าเค้าผ่านสิ่งเลวร้ายและความเจ็บปวดมามากเพียงใด ชิราโตะ มิโอะ (Takeuchi Yuko) พยาบาลสาวสวยเจ้าอารมณ์ที่ต้องแกล้งตาบอดเพื่อมาหลอกและปอกลอกเอย์จิ ตามคำสั่งจากอันไซ  ผู้อำนวยการโรงพยาบาล   แลกกับการที่อันไซจะรักษาเนื้องอกในสมองของพ่อเธอ   พ่อที่ห่างหายไปจากชีวิตเธอตั้งแต่เด็ก  พ่อที่เธอรับรู้มาว่าเป็นพ่อที่ไม่ได้เรื่อง  ความสัมพันธ์ระหว่างเธอและพ่อจึงไม่สู้ดีนัก ชิโอมิ ชิซุกุ (Yagi Yuki) ลูกสาววัย 8 ปี ของเอย์จิ กำพร้าแม่ตั้งแต่เกิด เป็นเด็กน่ารัก เจ้าความคิด ความคิดของเธอโตเกินเด็กอายุ 8 ขวบ เป็นที่รักของเพื่อนๆ และคุณครู คุโด นาโอยะ (Matsuda Shota) หนุ่มต่างจังหวัดที่มาแสวงหาชีวิตใหม่ที่ดีขึ้น โดยเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยเอกชน ใช้ชีวิตหรูหรา และถูกผู้หญิงหลอกจนเป็นหนี้มาเฟีย  ต้องมารับจ้างอันไซเป็นมาเป็นตัวช่วยมิโอะหลอกเอย์จิ โอโนะ ยูกิ (Shaku Yumiko) คุณครูประจำชั้นของชิซุกุ สนิทสนมกับครอบครัวเอย์จิ  และกลายมาเป็นเพื่อนสนิทของมิโอะ ชิโจ เคงโง (Terajima Susumu) เจ้าของร้านกาแฟตรงข้ามร้านดอกไม้  อดีตตำรวจเพื่อนผู้แสนดีที่ให้ความช่วยเหลือและเป็นที่ปรึกษาของเอย์จิเสมอ ฮิชิดะ เคย์โกะ (Ikeuchi Junko) คุณป้าใจดีที่สอนเรื่องราวเกี่ยวกับดอกไม้ให้กับเอย์จิ อันไซ เทรุโอะ (Miura Tomokazu) ผู้อำนวยการโรงพยาบาล  ผู้มีความแค้นต่อเอย์จิ เขาคิดว่าเอย์จิเป็นต้นเหตุให้ลูกสาวของเขาเสียชีวิต เขาจึงต้องการทำทุกวิถีทางเพื่อทำลายชีวิตของเอย์จิ รูริ เทรุโอะ (Motokariya Yuika) ลูกสาวของอันไซ  สาวน้อยที่มีความเชื่อว่า ความรักของเธอสามารถเปลี่ยน ชุน ที่รักใครไม่เป็นให้มารักเธอได้   ถึงแม้ว่าเธอจะต้องรอคอยนานแค่ไหน...แต่เสียดาย ชีวิตของเธอนั้นสั้นนัก คามิยามา ชุน (Tamayama Tetsuji) เพื่อนรักของเอย์จิตั้งแต่เด็ก ประสบชะตากรรมในวัยเด็กเช่นเดียวกับเอย์จิ แต่เขาเลือกที่จะดำเนินชีวิตตรงกันข้ามกับเอย์จิอย่างสิ้นเชิง   เขาคือพ่อที่แท้จริงของชิซุกุ ลูกที่เขาไม่เคยสนใจและไม่เคยรับรู้ ************************************************** เรื่องย่อ...(สปอยส์ล้วนๆ) เรื่องเกิดจากความแค้นของอันไซที่ต้องสูญเสียรูริลูกสาวของตนไป จึงต้องการแก้แค้นเอย์จิ โดยส่งมิโอะที่แกล้งทำเป็นตาบอดมาหลอกให้รักและช่วยเหลือต่างๆนานาแม้กระทั่งขายร้านดอกไม้เพื่อจะออกค่าใช้จ่ายในการผ่าตัดตาให้ นอกจากนี้อันไซยังส่งนาโอยะ มาเป็นผู้ช่วยมิโอะหลอกเอย์จิด้วย ไม่เพียงแต่เอย์จิจะตกหลุมรักมิโอะ มิโอะเองก็ตกหลุมรักเอย์จิด้วย และเธอก็ได้รับรู้ว่าเอย์จิมิได้เลวอย่างที่อันไซเข้าใจ เธอจึงคิดที่จะบอกความจริงกับเอย์จิ แต่เธอก็ทำไม่ได้เพราะอาการของพ่อเธอทรุดลงและอันไซเท่านั้นที่จะรักษาพ่อเธอได้เธอจึงจำใจต้องหลอกเขาต่อไป ความลับไม่มีในโลกในที่สุดเอย์จิก็รู้ว่ามิโอะหลอกเขา แต่เพราะความรัก เขาจึงให้อภัยและยอมรับเธอ ความรักของทั้งคู่ต้องอยู่ในสภาวะกดดัน   อันไซได้พบกับชิซุกุเขาก็หลงรักหลานสาวตัวน้อยอยากอุปการะ เขาให้ทนายมาดำเนินการกับเอย์จิ อ้างว่าเอย์จิไม่มีความสามารถที่จะเลี้ยงดูชิซุกุได้ต่อไป ทุกคนประหลาดใจที่เอย์จิก็ไม่ได้อ้างสิทธิความเป็นพ่อ แถมยกลูกสาวให้อันไซที่เป็นคุณตาดูแลอย่างไม่บิดพริ้ว คนที่รู้เหตุผลคนแรกก็คือมิโอะเพราะเธอพบว่าความจริงแล้วเอย์จิไม่ใช่พ่อแท้ๆของชิซุกุ เหตุการณ์ซับซ้อนขึ้นเรื่อยๆ  นาโอยะถูกเจ้าหนี้ไล่ล่าจนต้องมาฉกเงินที่เอย์จิขายร้านดอกไม้มาให้มิโอะไป อันไซไม่สามารถผ่าตัดพ่อมิโอะได้ตามสัญญา ชุนพ่อแท้ๆของชิซุกุกลับมาทำงานที่โรงพยาบาลของอันไซ  และเมื่อความจริงทุกอย่างต้องถูกเปิดเผย ชะตากรรมของแต่ละคนจะเป็นอย่างไร ************************************** เนื้อเรื่องอาจจะดูว่าเป็นซีรี่ย์รักธรรมดาๆ   แต่ความละเมียดละไมของบทพูด นิยาม การอ้างอิง เทคนิคการเล่าเรื่องโดยผ่านวิดีโอของรูริ รวมถึง  gimmick เล็กๆที่หยอดไว้ในแต่ละฉากแต่ละตอน   สามารถนำมาร้อยเรียงเกี่ยวข้องสอดคล้องกันอย่างสวยงาม ซาบซึ้ง และขมวดจบได้สมบูรณ์ ตามสไตล์ของคนเขียนบทมือฉมัง Nojima Shinji   เหตุการณ์ทุกอย่างเป็นเหตุเป็นผลกัน เติมช่องว่างที่ขาดหายไป ตัวละครทุกตัวมีจุดต่อเชื่อม มีการเรียนรู้จากกันละกัน มีพัฒนาการของตัวละครรวมถึงความสัมพันธ์ ความเข้าใจกัน ตัวอย่างเช่น - ชิซุกุเป็นคนทำให้ชีวิตเอย์จิมีความหมายรู้ว่าต้องอยู่เพื่ออะไร - เอย์จิที่ถูกพ่อแม่ทำร้ายก็เลือกที่จะให้อภัยและช่วยเหลือผู้คนอื่นๆไม่ได้เลือกที่จะต่อต้านเหมือนชุน - รูริจังที่รักชุนอย่างไม่มีเงื่อนไข หวังเพียงว่าซักวันเค้าจะกลับมาหาเธอกับลูก - มิโอะที่แทบไม่เคยได้เจอพ่อ ก็เลือกที่จะดูแลพ่อยามพ่อที่ไม่มีใคร  ซึ่งเธอเรียนรู้ได้จากความรักระหว่างเอย์จิ-ชิซุกุ - ความผูกพันที่เกื้อกูลกันแบบลูกผู้ชายระหว่างเอย์จิ กับ ชิโจ (Marter) - ความรัก ความนับถือ ที่นาโอยะมีต่อ เอย์จิ ทั้งๆที่เขาเองก็มิได้หวังดีกับเอย์จิตั้งแต่แรก ฯลฯ ทุกตัวละครมีความสำคัญ ขาดใครไปแทบไม่ได้เลย ทุกคนได้เรียนรู้จากกันและกันตลอดเวลา การกำกับภาพก็ทำได้อย่างมีชั้นเชิง ใช้การเล่าเรื่องถึงความผูกพันระหว่างเอย์จิกับลูกสาวกำพร้าแม่ตั้งแต่เกิดมาตลอด 8 ปี โดยถ่ายทอดผ่านภาพเพียง 6 นาที แม้ไม่มีบทบรรยาย แต่ก็ทำให้รู้ว่าพ่อลูกคู่นี้ผูกพันและรักกันมากเพียงใด  ภาพสวยชวนฝันทีเดียว   โปรดักชั่นก็สุดสุด แถมเพลงประกอบเพราะมาก ********************************* แก่นแท้ของเรื่องสอนให้เรารู้ว่าการให้ความรัก ความเข้าใจ การให้อภัย การมีน้ำใจ และการให้โอกาสต่อเพื่อนมนุษย์ โดยไม่หวังอะไรตอบแทนนั้นสำคัญนัก   ซึ่งเป็นสอนให้คนเราคิดแบบ Positive Thinking ถ้าเรามีความรักให้แก่กันไม่ว่าจะรักแบบคนรัก รักเคารพต่อบุพการี รักแบบเพื่อน รักลูก หรือว่ารักแบบไหนๆก็ตาม อุปสรรคขวากหนามที่ขวางกันเราไว้ไม่ว่ามันจะหนักหนาสาหัสอย่างไร ความรักจะช่วยให้เราผ่านพ้นมันได้ ความเข้าใจในเพื่อนมนุษย์ ยอมรับในความต่าง เข้าใจในความเป็นตัวตนของกันละกัน ให้อภัยและให้โอกาสคนที่หลงผิดแล้วยอมกลับตัวเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆสำหรับโลกใบนี้ ************************************************************** มีน้องที่รักฝากข้อความนี้มาร่วมโพสท์ในความคิดเห็นนี้ค่ะ เคยมีคนพูดว่าไม่เชื่อในรักแท้ เคยมีคนพูดว่าคนที่ไม่เชื่อในรักแท้ เพราะคนๆนั้นยังไม่เคยเจอ มันเป็นที่สงสัยว่าผีมีในโลกรึเปล่า บางคนไม่เคยเห็นกลับเชื่อว่ามี บางคนไม่เคยเห็นเลยไม่คิดว่าจะมี บางคน.. เพราะไม่เคยเห็น แต่ก็เป็นประเภทไม่เชื่อแต่อย่าลบหลู่ บางคนเคยเห็นผี แน่ล่ะ แบบนั้นเค้าต้องเชื่อว่ามี แต่บางคนที่เคยเห็น ก็ยังไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่านั่นคือผี คนดี.. คุณอาจจะไม่เคยเห็น คุณเลยไม่เชื่อว่ามีอยู่ในโลก คนดี.. อาจจะอยู่ใกล้คุณเกินไป คุณเลยไม่ทันมองเห็นเค้า คนเลว.. เลวจนไม่รู้ว่าจะเลวยังไงได้อีก มีอยู่จริง คุณสามารถเชื่อได้ว่ามี ถามว่าข่าวคนดี.. ปกติแล้วขายได้รึเปล่า? คนดีแบบบ้านๆอย่างคนขายดอกไม้ อาจจะมีอยู่ที่ใดที่หนึ่งบนโลกใบนี้ อย่าเพิ่งมีอคติที่ว่า คนดีแบบนี้ไม่มีในโลกเพียงเพราะคุณยังไม่เคยได้สัมผัสด้วยตัวเอง แก้ไขเมื่อ 03 มี.ค. 52 22:13:47 แก้ไขเมื่อ 03 มี.ค. 52 22:12:31 แก้ไขเมื่อ 03 มี.ค. 52 22:10:47 แก้ไขเมื่อ 03 มี.ค. 52 22:09:52 จากคุณ : Radiogirl - [ 2 มี.ค. 52 21:42:25 ]

ความคิดเห็นที่ 26 สวัสดีค่ะทุกๆคน ตามมาทู้ใหม่แล้วค่ะ^^ รีวิวไม่ค่อยเก่งเท่าไหร่เพราะพึ่งเริ่มรีวิวทู้นี้ในภาค1ค่ะ แต่ก็จะมาช่วยรีวิวต่อไปนะคะ~~ ตอนแรกว่าจะรีวิวCode Blue แต่คุณbigworesรีวิวให้แล้ว อิอิ เลยเปลี่ยนมารีวิวคุณหมอคนนี้แทนค่ะ "คุณหมอโกโต้" (ช่วงนี้ดู+รีวิวแต่ซีรี่ส์หมอแฮะ 555+) "Dr. Koto Shinryojo ~ คลีนิกคุณหมอโกโต้" นำแสดงโดย : Yoshioka Hidetaka , Shibasaki Kou , Kakei Toshio ,  Kobayashi Kaoru , Tokito Saburo , Otsuka Nene , Izumiya Shigeru , Sengoku Noriko เรื่องนี้ได้ดูช่วงที่กำลังบ้าซีรี่ส์หมอพอดี (ดูต่อจากหมอริว) เรื่องนี้เปิดเรื่องมาก็เห็นหมอคนหนึ่ง(ฮิเดทากะ)ที่ดูธรรมดาๆ (หมอกะโปโลตามชื่อหนังสือการ์ตูนเลยทีเดียว 555+) กำลังนั่งเมาเรืออย่างเอาเป็นเอาตาย ดูแล้วคนละลุคกับหมอริวยิ่งนัก หมอคนนี้ได้ย้ายตนเองมาเป็นหมอประจำเกาะเล็กๆแห่งนี้ด้วยเหตุผลส่วนตัวบางอย่างที่ไม่มีใครในหมู่บ้านล่วงรู้ ยกเว้นพ่อของพยาบาลสาวอายากะที่เป็นคนพาหมอคนนี้มา นอกจากนั้นทีมแพทย์ที่นี่นั้นยังไม่มี! มีแต่พยาบาลสาวอายากะ(โคว์จัง)ที่เป็นคนที่นี่เลยไม่ทิ้งที่นี่ไปไหน หมอโกโต้จึงเอาคุณวาดะ(โทชิโอะ)ที่ชอบถ่ายรูป แต่ไม่ได้รู้เรื่องการแพทย์ใดๆมาเป็นผู้ช่วย และคลีนิกเล็กๆที่นี่ก็ได้เริ่มต้นขึ้น เนื้อเรื่องเป็นแนวคุณหมอใจดี ตอนแรกนึกว่าจะเป็นหมออายุรกรรมธรรมดาๆ แต่กลับกลายเป็นผ่าตัดเหมือนกันแฮะ แต่กว่าที่คุณหมอใจดีคนนี้จะทำให้ผู้คนในเกาะเชื่อใจได้ก็มีอุปสรรคต่างๆมากมาย เพราะว่าคนในเกาะได้ฝังใจไปแล้วว่าหมอที่มาอยู่เกาะแต่ละคนนั้นต้องเป็นหมอห่วยที่ไม่มีใครเอา เพราะว่าคนก่อนๆที่ผ่านมาก็เป็นอย่างนี้ทั้งนั้น แต่ในที่สุดก็เป็นหมอที่ใจดีของทุกๆคนได้สำเร็จ (โดยเฉพาะเด็กๆ^^) แต่ว่ามันความเชื่อใจเหล่านั้นก็กลับมาสั่นคลอนอีกครั้ง!! เรื่องนี้น่ารักน่าประทับใจ มีเคสต่างๆมากมายที่ทั้งตื่นเต้นและสามารถเรียกน้ำตาคนดูไปกับความซึ้งใจ วิวก็สวย เพลงก็เพราะ ชาวบ้านที่นี่ก็น่ารักมาก เห็นถึงความอบอุ่นของคนในเกาะ ชอบเด็กน้อยทาเคฮิโระกับผองเพื่อนมากๆ รวมไปถึงคุณฮาระ(พ่อของทาเคฮิโระ เป็นคุณหมอหัวหน้าของชิกิในTo the one I love) มาริโกะ(หมอสาวนานามิจากอิริว) หัวหน้าชาวประมงสุดฮา(พ่อของชิกิในTo the one I love) คุณป้าหมอตำแย ฯลฯ ถึงจะเป็นเรื่องที่ค่อนข้างเก่าแล้วภาคแรกเมื่อปี2003 ต่อด้วยsp ภาค2ปี2006 แต่เนื้อเรื่องก็ยังน่าติดตามและน่าสนใจอย่างแน่นอน~~ (แต่ว่ายังไม่ได้ดูspกับภาค2เลย ไม่แน่ใจว่ามีซับไทยรึเปล่า หาไม่เจอเลยค่ะ อยากดูเหมือนกัน >__< อย่าลืมดูซีรี่ส์หมอๆเรื่องนี้อีกเรื่องนะคะ@^^@ จากคุณ : Satohara Miki - [ 2 มี.ค. 52 22:17:45 ]

ความคิดเห็นที่ 27 Sasaki Fusai no Jingi Naki Tatakai Genre: Comedy, romance, law Episodes: 10 Viewership ratings: 10.9 (Kanto) Broadcast network: TBS Theme song: Sono Mama by SMAP แสดงนำโดย Inagaki Goro และ Koyuki ถ้าคุณตั้งใจจะใช้ชีวิตกับใครสักคน คุณจะแน่ใจในเรื่องนั้นเมื่อไร เป็นไปได้ไหมว่า.. คุณประทับใจในคำพูดของเขา ซาซากิ โนริมิจิ ได้แต่คิดว่า... เขาช่างโชคร้ายที่สุด เขาถูกไล่ออกจากงาน ขนาดไปกินอาหารก็ยังรสชาติห่วยแตก ตอนนั้นเองที่เขาได้มาพบกับเธอ.. "ขอแค่มีมายองเนสกับซอส อะไรก็อร่อยขึ้นได้" เขาจึงแต่งงานกับเธอ และเขาก็คิดว่าตัวเองเป็นผู้ชายที่โชคดีที่สุด แต่จากนั้นไม่นาน.. เขาก็เริ่มคิดได้ว่า ไม่หรอก นั่นต่างหากคือความโชคร้ายที่แท้จริง .."ขอแค่มีมายองเนสกับซอส อะไรก็อร่อยขึ้นได้".. เพียงประโยคเดียวของเธอ.. ประโยคที่ทำให้ ซาซากิ โนริมิจิ ตกลงปลงใจที่จะใช้ชีวิตร่วมกับเธอ "เธอช่างเป็นหญิงที่มองโลกในแง่ดีอะไรอย่างนี้นะ" "เธอจะต้องเป็นภรรยาที่ดีได้แน่ๆ" แต่ทว่า... การใช้ชีวิตร่วมกันไม่เหมือนการคบกัน บ้านช่องไม่เคยเก็บกวาด จานชามไม่คิดจะล้าง ขนาดซีดีเธอยังใส่ลงกล่องของมันไม่ได้เลย ความซกมกของเธอเนี่ย ระดับน้องๆโนดาเมะเลยทีเดียว ซาซากิ ริทซึโกะ ฉลาด เจ้าเล่ห์ และเรื่อยเฉื่อยเป็นที่สุด บางครั้งก็โกหกได้หน้าตาเฉย ซาซากิ โนริมิจิ เจ้าระเบียบ ซื่อตรง และไม่อภัยให้กับความชั่วร้ายทั้งปวงแม้กระทั่งการโกหก เขาอดทนและพยายามรอว่าเมื่อไรที่เธอจะปรับปรุงตัว เมื่อไรที่เธอจะเป็นภรรยาแสนดีเหมือนภรรยาคนอื่น แต่ไม่หรอก ไม่เลย เธอไม่คิดจะเปลี่ยนแปลง และนั่น จากปัญหาเล็กๆน้อยๆ ลุกลามสู่ปัญหาที่ใหญ่ขึ้น จนกลายเป็นสงครามการหย่าในตำนาน ทำไมถึงเป็นตำนาน? นั่นก็เพราะว่าทั้งคู่ต่างก็เป็นทนายความน่ะสิครับ คุณพอจะนึกภาพคู่สามีภรรยายืนว่าความแก้ต่างให้ตัวเองออกไหมครับ ไม่คิดว่ามันน่าสนใจเหรอครับ? ^________^ อ๊ะ แต่อย่านึกว่าจะเป็นละครดราม่าสุดเครียดนะครับ เพราะมันมาแปลกกว่านั้น ละครเรื่องนี้ทำได้อย่างลงตัว ฮา เศร้า ซึ้ง ประทับใจ มันมีครบทุกรสเลยล่ะ วิธีการเล่าเรื่องและมุมมองของละครก็น่าสนใจครับ พอจะดูเป็นละครคลายเครียดได้ และเป็นละครที่ควรดูอย่างยิ่งสำหรับคู่ที่กำลังมีปัญหาระหองระแหงกัน ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม คุณอาจจะกำลังเบื่อคู่ของตัวเอง หรืออาจจะคิดจบชีวิตคู่ของตัวเอง ขอให้ได้คิดสักนิดว่า ทำไมเวลานั้นคุณถึงตัดสินใจตกลงใช้ชีวิตกับเขา กรุณานึกถึงความรู้สึกแรกที่คุณแน่ใจในตัวคนๆนั้นของคุณ เพราะการแต่งงานเป็นแค่จุดเริ่มต้น ไม่ใช่บทสรุปนะครับ (รีวิวเรื่องแรกและเรื่องสุดท้าย... ไม่เอาอีกแล้วววว  เหนื่อยจัง 555 เวลาต้องใช้สมองเนี่ยมันลำบากจริงๆครับ โง่เป็นปกติวิสัยก้แบบนี้ล่ะน๊า..) ป.ล. ฝากคุณ จขกท. ทำกระทู้รีวิวหนังด้วยก็ดีนะครับ หนังญี่ปุ่นที่น่าสนใจก็มีหลายเรื่องเลยนะครับ แก้ไขเมื่อ 04 มี.ค. 52 01:09:40 แก้ไขเมื่อ 04 มี.ค. 52 01:06:25 จากคุณ : ninoshingo - [ 2 มี.ค. 52 22:26:51 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ยินดีครับ คุณอ้อมแขนอันอบอุ่น พอดีเลย หลังจากที่คุณ Radiogirl รับปากมาช่วยรีวิวเรื่อง Bara no nai hanaya ให้แล้ว กำลังคิดอยู่เลยครับว่าจะรีวิวเรื่องไหนต่อดี งั้นจะทำตามที่คุณอ้อมแขนอันอบอุ่นแนะนำนะครับ ... จะขอมาช่วยดันซีรีย์ Moto Kare ของที่รัก เรียวโกะ ฮิโรสุเอะ ซักหน่อยครับ แก้ไขเมื่อ 02 มี.ค. 52 23:06:27 จากคุณ : Mad Bull - [ 2 มี.ค. 52 22:50:09 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ว่าจะเข้ามารีวิวหมอโกโต้อยู่เหมือนกัน เพราะเพิ่งได้ดูจบไป ปรากฏว่าคุณ Satohara Miki เขียนไปแล้ว ชอบเหมือนกันเลยคะ ทั้งวิว ทั้งเพลง ทั้งบรรยากาศ ดูแล้วเย็นใจดีจัง แล้วก็กำลังหาsp กับภาค2อยู่เหมือนกันคะ แต่ยังไม่เห็นที่ไหนเลย ............. อยากจะเขียนถึง Yasashi Jikan แต่ยังไม่กล้าจะจอง เพราะไม่เคยเขียนรีวิวหนังเลย ... กลัวทำได้ไม่ดี ... แล้วก็อาจจะเขียนได้ช้ามากด้วย ถ้ายังไงจะไปแอบเขียน ... เสร็จเมื่อไหร่ ถ้ายังไม่มีใครเขียนถึง จะมาโพสต์นะคะ จากคุณ : sunny (sunny be good) - [ 2 มี.ค. 52 23:23:21 ]

ความคิดเห็นที่ 30 Wakamono no subete/Stay Gold สุดแต่ใจจะใฝ่หา Episodes: 10 Viewership ratings: 16.21 Broadcast network: Fuji TV Broadcast period: 1994-Oct-19 to 1994-Dec-21 Air time: Wednesday 21:00 Theme song: Tomorrow Never Knows by Mr.Children เรื่องนี้เพิ่งจะดูจบเมื่อวานนี้เองค่ะ ดูจบแล้วรู้สึกชอบและประทับใจ ขอมารีวิวเรื่องนี้ละกันนะคะ เป็นมือใหม่ หัดรีวิวค่ะ เรื่องนี้เป็นละครที่เล่าเรื่องชีวิตของหนุ่มสาว 6 คน ที่คำว่าเพื่อนนั้นมีความหมายมากมายต่อชีวิต เท็ตสึโอะ แสดงโดย Hagiwara Masato ลูกชายเจ้าของอู่ซ่อมรถ ที่พ่อแม่เสียชีวิต ทำให้ไม่ได้เรียนต่อ เพราะต้องมาดูแลกิจการต่อจากพ่อ และยังต้องดูแลน้องสาวที่มีอาการช็อคจากการที่พ่อแม่เสียชีวิต ทำให้กลัวผู้คนและโลกภายนอก เท็ตสึโอะเป็นคนที่เข้าใจความรู้สึกของผู้อื่น ช่วยเหลือเพื่อนโดยไม่คิดถึงความเหน็ดเหนื่อยของตนเอง เพื่อนๆ มักจะมารวมตัวกันที่อู่ของเท็ตสึโอะอยู่เสมอ ทาเคชิ แสดงโดย Kimura Takuya เด็กหนุ่มที่เติบโตมากับครอบครัวที่แตกแยก พ่อแม่ทิ้งไปตั้งแต่เด็ก ทาเคชิโทษตัวเองว่า เป็นคนที่ทำให้มาโมรุ เพื่อนในกลุ่ม ต้องได้รับบาดเจ็บสาหัส และนอนเป็นเจ้าชายนิทรา หลังเกิดเหตุ ทาเคชิหายไป และไม่ยอมติดต่อกับเพื่อนคนไหน  เขาทำงานอย่างหนัก กลางวันรับจ้างล้างจานที่ร้านราเม็ง กลางคืนทำงานในสถานบันเทิง เพื่อที่จะหาเงินมาช่วยค่ารักษามาโมรุ และเพราะการเอาชีวิตตนเองมายึดติดกับชีวิตของมาโมรุ ทำให้ชีวิตของทาเคชิต้องเจ็บปวด เคย์สุเกะ แสดงโดย Takeda Shinji ผู้ที่มีความใฝ่ฝันที่จะเป็นหมอ เคย์สุเกะใช้ความพยายามสอบมา 4 ปี แต่ก็ยังไม่สามารถสอบเข้าเรียนแพทย์ตามที่ตั้งใจไว้ได้ เคย์สุเกะหลอกคนอื่นๆ รวมถึงผู้หญิงที่เขาชอบว่าเขากำลังเรียนอยู่ในคณะแพทย์  และเมื่อความจริงปรากฏ เขาได้รับเสียงหัวเราะเยาะเย้ยจากคนรอบข้าง แต่เขาไม่เคยท้อถอย และมีความตั้งใจที่จะเข้าเรียนแพทย์ให้ได้ คาโอรุ แสดงโดย Suzuki Anju สาวสวย เรียนร้อยประจำกลุ่ม เคยคบหากับทาเคชิ แต่แพราะทาเคชิหายไป จึงไม่ได้ติดต่อกันอีก  ต่อมาได้คบหากับเจ้านายผู้ร่ำรวยในบริษัทที่ทำงานอยู่ และเตรียมตัวที่จะแต่งงานในไม่ช้า แต่ชีวิตกลับพลิกผัน เมื่อเจ้านายคิดว่า คาโอรุต้องการแต่งงานเพื่อยกระดับฐานะครอบครัวของตนเอง โครงการแต่งงานพังทลาย  คาโอรุลาออกจากงาน กลับไปบ้าน และคิดทบทวนกับทางเดินชีวิตของตนเอง เรียวโกะ แสดงโดย Fukatsu Eri สาวผู้ใฝฝันจะเป็นนักแสดงละครเวที พยายามไต่เต้าจากบทตัวประกอบตัวเล็กๆ จนได้รับโอกาสที่จะได้เล่นบทสำคัญ แต่รียวโกะกลับต้องทิ้งโอกาสนั้น เพราะเธอตั้งท้องกับผู้ชายในคณะละครเดียวกัน ซึ่งเลิกคบกันไปแล้ว เรียวโกะมีความตั้งใจที่จะเลี้ยงดูลูกด้วยตัวเธอเองเพียงคนเดียว มาโมรุ แสดงโดย Inohara Yoshihiko  ผู้นอนเป็นเจ้าชายนิทรามาตลอด 2 ปี เป็นคนที่เพื่อนๆ ในกลุ่ม มักจะมาเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นในชีวิตของตนเองให้ฟังอยู่เสมอ ละครเรื่องนี้ชี้ให้เห็นว่า ทุกชีวิตมีความแตกต่าง ทุกชีวิตอยู่ได้ด้วยกำลังใจ  ในวัยหนุ่มสาว เพื่อนเป็นสิ่งที่มีอิทธิพลต่อชีวิตมากที่สุด ความจริงใจ ความเข้าใจ และกำลังใจที่ได้จากเพื่อนในยามที่ผิดหวัง โศกเศร้า  และท้อแท้ เป็นสิ่งที่จะช่วยให้ชีวิตก้าวต่อไปได้อย่างมั่นใจ (แต่ตอนจบมี surprise ending) เป็นละครที่ดูแล้วให้ความประทับใจเรื่องนึงค่ะ Theme song ของเรื่องนี้เพราะมาก เหมาะกับเนื้อหาของละครมากๆ ด้วย Tomorrow never knows (Mr.children) เวลาที่ฉันมองไม่เห็นทาง ไม่อาจก้าวต่อไปได้ ฉันมองไปรอบๆ ผู้คนผ่านมาและจากไป บนถนนแห่งความเปลี่ยนแปลง หนทางก้าวไปข้างหน้า ไม่มีอะไรได้มาโดยไม่เสียอะไร วันนี้โลกก็ยังคงหมุนเช่นเดิม ในความมืดมน เธอส่งมือมาให้ฉัน เธออาจอยากมีชีวิตอยู่เพื่อใครสักคน ไม่มีใครรู้วันพรุ่งนี้ บนเส้นทางอันยาวไกล อาจมีการเดินที่ล้ำเส้นไปบ้าง แต่ก็เพื่อความฝัน ไม่มีใครรู้วันพรุ่งนี้ จากคุณ : TKandOV - [ 3 มี.ค. 52 01:12:58 ]

ความคิดเห็นที่ 31 UNFAIR Format: Renzoku Genre: Action, mystery Episodes: 11 Viewership ratings: 15.39 (Kanto) Broadcast network: Fuji TV Broadcast period: 2006-Jan-10 to 2006-Mar-21 Air time: Tuesday 22:00 Theme songs: Ending theme: Faith by Yuna Ito Insert song: I'm A Survivor by Destiny's Child อีกหนึ่งซีรีย์ซับซ้อน ซ่อนเงื่อน.... กฎตาต่อตา ฟันต่อฟัน อาจจะเป็นกฎที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมายในสายตาของผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ บรรดาสื่อมวลชน หรือประชาชนทั่วไป แต่สำหรับ นัตสึมิ  ยูกิฮิระ (เรียวโกะ ชิโนฮาร่า) ผู้ร้ายทุกคนต้องได้รับการลงโทษ ดังนั้น ทุกครั้งที่มีเหตุการณ์คนร้ายจับตัวประกัน นัตสึมิจึงไม่ลังเลที่จะกระทำการอันเป็นการเสี่ยงต่อชีวิตตัวประกัน นัตสึมิกลายเป็นเบอร์หนึ่งของหน่วยปราปปรามอาชญกรรมและด้วยความเที่ยงตรงและไม่สนใครทำให้เธอไม่ค่อยลงรอยกับเพื่อนร่วมงานและหัวหน้ามากนัก ด้วยสาเหตที่พ่อถูกฆ่าตาย ขณะเป็นตำรวจ ทำให้นัตสึมิตัดสินใจเดินตามรอยพ่อ เพื่อตามหาคนร้ายที่ฆ่าพ่อ เธอเป็นตำรวจที่มีความมุ่งมั่น ทำงานฉายเดี่ยว และไม่ลังเลที่จะตัดสินใจ ถูกมองว่าเป็นคนไร้มนุษยสัมพันธ์ และเป็นผู้หญิงเย็นชา 5 ปีก่อน นัตสึมิได้ทำการวิสามัญคนร้ายที่เป็นเด็กอายุไม่ถึง 17ปี ทำให้สื่อมวลชนและสังคมตราหน้าเธอว่าเป็นฆาตรกรในเครื่องแบบ เหตุการณ์ครั้งนั้น ส่งผลทำให้เธอต้องหย่าขาดจากสามี ที่เป็นนักข่าวหนังสือพิมพ์ดัง และทำให้มิโอะลูกสาวเพียงคนเดียวของเธอพูดไม่ได้ 5 ปีต่อมา นัตสึมิเข้าชาร์จคนร้ายที่จี้จับตัวประกัน ทำให้ตัวประกันเกิดภาวะช็อค ทางต้นสังกัดจึงตัดสินใจให้เธอมีคู่หู เพื่อคอยตักเตือนการทำงาน อันโด (เอตะ) คือคู่หูคนใหม่ที่นัตสึมิจำต้องทำงานร่วมกัน ต่อมาไม่นานเกิดคดีฆาตรกรรมชายวัยกลางคนและเด็กสาวกลางสวนสาธารณะ และในเวลานั้นเอง นิยายเรื่องหนึ่งได้ถูกส่งต่อๆไป นิยายเรื่องดังกล่าวบอกวิธีการตาย และสาเหตุ  ทุกครั้งที่นิยายแนวฆาตรกรรมเรื่องนี้ถูกส่งไป จะเกิดเหตุการณ์ตามนั้นขึ้นมา นัตสึมิไม่รู้เลยว่าคดีฆาตรกรรมที่เกิดขึ้นครั้งนี้ จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงของชีวิตเธอ มันเกี่ยวพันไปถึงลูกสาว อดีตสามี เพื่อนร่วมงาน เจ้านาย และทุกๆคนที่อยู่รอบตัวเธอ พร้อมๆกับปริศนาที่คั่นหนังสือที่เขียนว่า Unfair na no dare ka ?ใครกันแน่ที่อยุติธรรม Unfair ซีรี่ย์แนวสืบสวนสอบสวนเรื่องหนึ่งที่ได้รับความนิยมสูงในปี 2006 และทำให้ชิโนฮาร่า เรียวโกะ ได้รับรางวัลนักแสดงนำยอดเยี่ยมอันดับหนึ่งในซีซั่นนี้ ประกบกับ เอตะ ในบทตำรวจหนุ่มมือใหม่ผู้ที่ต้องรับมือกับคู่หู เรื่องนี้เป็นหนึ่งในผลงานของเจ๊เรียวโกะที่เราดูแบบไม่วางเลย ด้วยความเท่และความสวย (เรื่องนี้เจ๊แกออกจากผอม ต่างกับ anego  กับ haken) สิ่งที่โดดเด่นของเรื่องคือการเขียนบทที่ทำให้คนดูไม่อาจตัดสินใจลงไปได้ว่าใครคือคนที่หักหลัง ใครคือฆาตรกร และใครคือผู้อยู่เบื้องหลังทั้งหมด ตัวละครทุกตัวล้วนมีด้านมืดของตัวเอง อยู่ที่ใครจะแสดงออกมาเร็วหรือช้า คน 4 คนที่เป็นเพื่อนร่วมงานและเป็นคนที่นัตสึมิไว้วางใจที่สุด คือ อันโด คู่หูหนุ่ม ที่มีความอ่อนโยน เก่ง ฉลาดและรอบคอบ มาซายะ เจ้าหน้าที่กองปราบแผนกพิสูจน์หลักฐานที่มีบุคลิกค่อนข้างเกิน จนไม่มีใครคบหา อันนะ เจ้าหน้าที่ตำรวจที่มีความเชี่ยวชาญเรื่องคอมพิวเตอร์และการแกะรอย  และยาสุโมโต้ นายตำรวจที่เป็นอดีตเพื่อนร่วมงานของพ่อเธอ แต่ทั้ง 4 คน ล้วนแต่มีพฤติกรรมที่น่าสงสัย นอกจากนี้แล้ว สิ่งที่พิเศษของเรื่องนี้ คือ ทุกคดีที่เกิดขึ้น ล้วนมีความข้องเกี่ยวกัน ตั้งแต่คดีแรกสุดของยูกิฮิระ จนไปถึงคดีสุดท้าย บทละครทำให้เกิดการเชื่อมต่อ ตัวละครทุกตัว ถูกวางบทบาทให้เป็นผู้ร้าย และเป็นผู้ต้องสงสัย การเฉลยมาซึ่งฆาตรกรคนหนึ่ง ไม่ใช่คำตอบของคดีทั้งหมด เพราะในเรื่องยังมีการหักหลังอันซับซ้อนและสุดยอดจะยากเดา  คนๆหนึ่งอาจเป็นได้ทั้งคนดีและคนร้าย สุดท้ายดูซีรีย์จบก็ยังหาปลายทางแสงสว่างไม่เจอ แนะนำให้ต่อด้วย sp และ the movie ที่สำคัญเพลง Faith ของ Ito Yuna เพราะมากๆค่ะ อย่าลืมหามาฟังน่ะ จากคุณ : เจ้าแก้วพิสดาร ณ เมืองปาย - [ 3 มี.ค. 52 02:54:14 ]

ความคิดเห็นที่ 32 News no Onna(Anchor Woman) Also known as: Newswoman / Channel 2 Genre: Human drama Episodes: 11 Broadcast network: Fuji TV Broadcast period: 1998-Jan-07 to 1998-Mar-18 Theme song: Sanpomichi by Judy and Mary อาโซ ทามากิ(Honami Suzuki) ใฝ่ฝันจะเป็นผู้ประกาศข่าวตั้งแต่เด็ก จนกระทั่งอายุ 30 เธอได้เป็นผู้ประกาศข่าวภาคค่ำ ของสถานีโทรทัศน์ช่อง 2 อย่างสมใจ วันที่เธอเข้ารับตำแหน่ง เป็นวันเดียวกับการเลี้ยงฉลองสมรสของเธอกับ คุโดะ (Masahiko Nishimura) ศาตรจารย์ด้านการเมือง ในงานแต่งงานครั้งนั้น ทามากิ ได้รู้จัก คุโบตะ (Kyozo Nagatsuka) ทนายและเพื่อนสนิทของคุโดะ และคุโดะ ริว (Hideaki Takizawa) ลูกชายวัย 15 ปี ของเขาที่เกิดจากภรรยาคนก่อน ทามากิ เริ่มวันแรกของชีวิตการแต่งงานและวันแรกของการเป็นผู้ประกาศ ข่าวแรกที่เธอต้องอ่านในวันนั้นกลับเป็นข่าวอุบัติเหตุที่คร่าชีวิตชายหญิงคู่หนึ่ง ชื่อของผู้เสียชีวิตทำให้ทามากิถึงกับหยุดการอ่านข่าว เพราะมันคือชื่อของคุโดะและภรรยาเก่า เหล่าโปรดิวเซอร์และทีมงานที่ตามลุ้นการทำงานวันแรกต่างหยุดชะงัก และไม่กี่วินาที ทามากิก็ตั้งสติและอ่านข่าวดังกล่าวจนจบ การเสียชีวิตของคุโดะ สร้างความเศร้าเสียใจให้กับทามากิ คุโบตะทนายความได้เข้ามาจัดการเรื่องของคุโดะ รวมถึงมอบสมบัติที่มีชีวิตเพียงสิ่งเดียวให้กับทามากิ นั่นคือริว เด็กหนุ่มผู้เสียทั้งพ่อและแม่ในอุบัติเหตุ คุโบตะอ้างว่าญาติเพียงคนเดียวของริวคือน้า ที่ทำงานอยู่แอฟริกาและยังไม่สามารถติดต่อให้มารับริวไปดูแลได้ ทามากิไม่อาจปฏิเสธริวได้เลย เธอนึกถึงคำพูดของคุโดะที่ว่า ทามากิและริวมีบางอย่างที่เหมือนกัน และเพราะความเหมือนกันของทั้งคู่ ทำให้ในระยะแรกของการร่วมบ้านกัน แทบจะกลายเป็นน้ำกับน้ำมัน ไม่มีวันเข้ากันได้ สำหรับริวแล้ว ทามากิคือผู้หญิงใจน้ำแข็ง วันแรกที่ทามากิอ่านข่าว ริวนั่งอยู่หน้าจอ เค้าไม่เข้าใจว่าทำไมภรรยาใหม่ของพ่อถึงสามารถอ่านข่าวการเสียชีวิตของพ่อได้อย่างหน้าตาเฉย ริวอยู่ในวัยต่อต้าน เค้าเป็นคนมีโลกส่วนตัวสูง เชื่อมั่น และชอบที่จะบินเดี่ยว กีฬาฮอกกี้น้ำแข็งที่เขาเล่นอยู่ ไม่ได้ช่วยสร้างมิตรภาพหรือความสัมพันธ์ของเขาและเพื่อนร่วมทีมเลย ทามากิต้องยอมรับว่านอกจากเธอรับริวมาอยู่ร่วมคอนโดเดียวกัน ทุกๆเย็นเธอต้องต้อนรับคุโบตะ ทนายความแสนพูดมาก มาพร้อมกับเมนูอาหารเชื่อมความสัมพันธ์ของแม่เลี้ยงและลูกเลี้ยง (รวมไปถึงความสัมพันธ์ของตัวเอง?) นอกจากสมรภูมิที่บ้านกับเด็กอายุ 15แล้ว ที่ทำงานสถานีช่อง 2 ก็เป็นสมรภูมิที่ร้อนแรงไม่แพ้กัน เก้าอี้ผู้ประกาศของเธอพร้อมจะถูกแทนที่จาก โฮชิโนะ ผู้รายการข่าวพยากรอากาศ และทุกการทำงานของเธอต้องขึ้นอยู่กับคนโดะ ผู้อำนวยการสถานี ที่ทำทุกอย่างเพื่อเรตติ้ง แต่ทามากิยังมีอากิโยชิ โปรดิวเซอร์ข่าวที่พร้อมอยู่ข้างทามากิ ในวันที่ทามากิเริ่มละลายน้ำแข็งในใจและเปิดรับการมาอยู่ของริว การเข้ากันของทั้งคู่เริ่มเห็นชัด อาการปากแข็งเพราะความเป็นห่วงกันและกันเริ่มจางหาย กลับเป็นเวลาเดียวที่น้า ญาติเพียงคนเดียวได้กลับมาญี่ปุ่นและเตรียมจะรับริวไปอยู่ด้วยที่อเมริกา Anchor Woman หรือนักข่าวสาวเหล็ก ซีรีย์ยุคเจซีรีย์เบ่งบานของช่องไอทีวี ซีรีย์เรื่องนี้แทบจะเป็นซีรีย์เรื่องท้ายๆของนักแสดงสาว โฮะนามิ ซูซูกิ และเป็นซีรีย์เรื่องแรกๆของทักกี้ (ยังละอ่อนอยู่) ไอดอลที่มีชื่อที่สุดในยุคนั้นของบ้านเรา ทามากิ คือผู้หญิงที่มีความสุขในวัย 30 เธอได้งานที่รัก เธอเข้าพิธีวิวาห์กับพ่อม่ายที่แสนจะสมบูรณ์ แต่ด้วยเวลาไม่ถึง 24 ชม. เธอกับสูญเสียสามีไป และสิ่งที่ได้กลับมาคือเด็กหนุ่มแววตาดื้อรั้น ตัวแทนของสามี ที่เธอจำต้องรับภาระเลี้ยงดูเขาชั่วคราวเพื่อรอญาติคนเดียวมารับไปดูแล ริว เด็กหนุ่มที่สูญเสียครอบครัว การเข้ามาอยู่กับภรรยาใหม่ของพ่อ ไม่ใช่แค่การทวงสิทธิ์ครึ่งหนึ่งของคอนโดแน่ๆ แต่มันคือภาวะจำยอมเช่นกัน เพราะน้า ญาติเพียงคนเดียวยังทำวิจัยเรื่องเสื้อผ้าของชนเผ่าที่แอฟริกา การเข้ามาอยู่ร่วมกันของน้ำและน้ำมัน ความขัดแย้งตั้งแต่เรื่องเล็กๆน้อยๆไปถึงเรื่องใหญ่ การปิดบังไม่แสดงความรู้สึก โดยมีมือที่ 3 ที่ไม่รู้จะคอยยุแยงหรือสมานฉันท์ของทนายโสดที่พยายามยัดเยียดตัวเองเข้ามาร่วมกับครอบครัวนี้คอยดูแล มีหลายฉากทีเดียวที่ได้เปรียบเทียบตัวทามากิและริว ริวไม่ได้รับการยอมรับจากเพื่อนร่วมทีมเพราะเขาไม่เคยส่งลูกให้เพื่อนในการทำประตู เลือกที่จะโดดเด่นอยู่คนเดียว เช่นเดียวกับทามากิ เธอมักทำงานคนเดียวและรำคาญพนักงานรุ่นน้อง เธอไม่เคยใส่ใจและให้ความสำคัญกับเพื่อนร่วมงานที่ไม่มีประโยชน์กับเธอ แตกต่างกับคุโบตะทนายความที่มักปลีกเวลาไปช่วยสังคมอยู่เสมอ บทของทนายคุโบตะคือ สีสันของเรื่อง ฉากที่น่ารักและฮาคือ ฉากที่เสื้อของริวขาดและเขาพยายามจะเย็บมันให้ได้ ทามากิที่เฝ้าดูถึงกับยิ้มเยาะ และเมื่อถึงคราวตัวเองเธอก็ทำไม่ได้ และแน่นอนคนที่นั่งเย็บไปอบรมทั้งสองไปไม่พ้นทนายคุโบตะ555 เช่นเดียวกับฉากหม้อไฟสามัคคี นอกจากจะเน้นไปที่ความสัมพันธ์ของครอบครัว ซีรีย์ได้เพิ่มเนื้อหาที่หนักเข้ามากับการทำงานในหน้าที่ผู้ประกาศข่าว เก้าอี้ที่ไม่มั่นคง การที่คนในองค์กรต้องทำร้ายองค์กรเพื่อความถูกต้อง ภาพแรกเราจะเห็นป้ายโฆษณาของผู้ประกาศคนเก่าถูกเลื่อนไปเก็บและแทนที่ด้วยป้ายโฆษณาของทามากิ เช่นเกียวกัน ฉากนี้ย้อนกลับมาอีกครั้ง เมื่อทามากิตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งที่เธอฝันมาตลอดป้านโฆษณาของเธอก็ไม่จำเป็นอีกต่อไป คนขับรถและรถประจำตำแหน่งหันไปรับใช้คนใหม่ ถึงจะเป็นซีรีย์เก่าเก็บ แต่นี่ก็เป็นหนึ่งในต้นฉบับซีรีย์แบบญี่ปุ่นๆ พระเอกไม่จำเป็นต้องหล่อเทพ จะเป็นไรไป ถ้าพระเอกก็แค่ทนายความวัยกลางวันที่แสนจะพูดมาก จุกจิก จู้จี้ ขี้บ่นเหมือนคุณพ่อ แต่เป็นคนที่เข้าใจชีวิตดีที่สุด ความสัมพันธ์ที่แรกๆแสนจะขรุขระ แต่จบลงที่ความเข้าใจอันดี ความถูกต้องของการทำงาน การเป็นแกะดำในที่ทำงาน  การต่อสู้เพื่อตำแหน่ง การมีอยู่ของธุรกิจ สิ่งเหล่านี้ มันคือรูปแบบของซีรีย์ญี่ปุ่นดีๆนี่เอง แก้ไขเมื่อ 03 มี.ค. 52 04:36:05 จากคุณ : เจ้าแก้วพิสดาร ณ เมืองปาย - [ 3 มี.ค. 52 04:17:04 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ซีีรี่ย์ Zettai Kareshi หรือ Absolute Boyfriend เรื่อง นี้ดัดแปลงมาจากการ์ตูนเรื่อง Zettai Kareshi เขียนโดน Watase Yuu ชื่อภาษาไทยคือ "ขอคู่ใจ ใครสักคน" พิมพ์โดยสำนักพิมพ์บงกช เรื่องนี้มีหกเล่มครับ ในซีรีย์ เนื้อเรื่องหลักๆจะเหมือนกัน ตัวละครหลักๆก็อยู่ครบ แต่พื้นเพเรื่องจะต่างกัน เรื่องนี้มีพระเอกสองคน คนหนึ่งคือตัวหุ่นยนต์ที่เป็นแฟนของนางเอก บทนี้เล่นโดยฮายามิ โมโนมิชิซึ่งเล่นในเรืองโตเกียวทาวเวอร์กับเรื่องมายเกริล์ พระรองเล่นโดยมิซูชิม่า ฮิโร หลายคนคงรู้จักคนนี้กับบทของรุ่นพี่นันบะของหอสองจากเรื่องฮานะคิมิ เรื่องย่อ ในซีรีย์จะเป็นเรื่องของผู้ใหญ่ เกิดขึ้นกับสาวออฟฟิส (ไอซาว่า ริโกะ) อยากมีบอยเฟรนด์ แต่หาไม่ได้ บริษัทผลิตหุ่นยนต์เลยเอาหุ่นตัวหนึ่งมาให้ลองใช้ (ริโกะตั้งชื่อให้ว่า Night หรือ ไนโตะในเรื่อง) เรื่องวุ่นๆหลายอย่างเกิดขึ้น ซึ่งก็น่ารักและเฮฮา (ช่วงแรกๆของซีรีย์นี้สนุก ไม่ค่อยมีเศร้า แต่หลังๆมีสิทธิ์ตาปริบๆน้ำ โดยเฉพาะตอนสุดท้าย) หลังจากผ่านช่วงทดลองใช้แล้ว นางเอกก็ตัดสินใจซื้อหุ่นนี้ในราคา 100 ล้านเยน โดยผ่อนจ่ายเป็นเวลา 70 ปี!!! แต่แล้ว หัวหน้าไม่เอาถ่านของนางเอกก็เริ่มสนใจนางเอก แล้วรักสามเศร้าก็เริ่มขึ้น พระรองนี้ (อาซาโมโต้ โซจิ) เป็นลูกชายเจ้าของบริษัทร้านขนมหวาน ซึ่งวันๆก็ไม่ค่อยสนใจทำงาน ทำตัวเป็นเพลย์บอย ชอบคุยกับสาวๆ พ่อ (ประธานบริษัท) พี่ (รองประธาน) ก็เอื่อม แต่ก็เพราะโซจิเป็นลูกประธาน ก็เลยได้ตำแหน่งเป็นหัวหน้าฝ่ายพัฒนาขนมหวาน เพราะการดำเนินเรื่องเกี่ยวกับของหวาน ทำให้เรื่องมันดูซอฟ ไม่ค่อยเครียด (แต่ผมอยากกินขนมพวกนั้นจริงๆ ยิ่งดูก็ยิ่งอยากกิน) โซจิติดใจขนมซูครีมที่นางเอกทำ พยายามจะเสนอบริษัทให้ขายในร้าน แต่ก็โดนตอกกลับมาเพราะหน้าตาขนมไม่ชวนกิน โซจิก็ไม่ย่อท้อ ตะลุยเสนอขายให้กับนอกบริษัท ทำให้นางเอกเริ่มให้ว่า พระรองก็มีความตั้งใจเหมือนกัน พอนางเอกกับพระรองใกล้ชิดกันมากขึ้น ก็เริ่มมีใจให้กัน แต่ต่างคนก็เก็บความรู้สึกไว้ โซจิเห็นไนโตะตามริโกะต่อยๆ ก็ไม่กล้าจะจีบริโกะ ถึงริโกะจะปฏิเสธกับคนรอบข้างหลายครั้งว่าไนโตะไม่ใช่บอยเฟรนด์ก็ไม่มีใคร เชื่อ เรื่องก็ดำเินินกุ๊กกิ๊กไปเรื่อยๆ มีการหึงกันบ้าง ป้ายสีกันบ้าง คนรักเก่ากลับมาบ้าง แล้วก็มีการแข่งทำขนมกัน ผู้ชนะจะมีโอกาสไปศึกษาต่อการทำขนมกับเกจิอาจารย์ที่ฝรั่งเศส ริโกะกลับโซจิก็ร่วมมือกันผ่านรอบแรกไปได้ แต่ไม่ผ่านรอบสุดท้ายเลยอดไป ถึงตอนนี้เองที่โซจิกล้าสารภาพรักต่อริโกะซึ่งริโกะก็ยอมรับว่าแอบชอบโซจิมา อยู่พักหนึ่งแล้ว โดยไม่รู้ว่าไนโตะแอบได้ยิน ไนโตะเจ็บแปล่บในหัวใจ ไนโตะเป็นหุ่น ไม่มีความรู้สึกหรอก แต่พอเห็นริโกะไปสนใจคนอื่น วงจรในตัวเหมือนจะช็อต อาการ malfunction นี้เหมือนจะมาๆไปๆ โนโตะเองก็จำไม่ได้เหมือนกันว่าทำอะไรลงไป เพราะมีคนสละสิทธิ์ ทำให้โซจิกับริโกะมีโอกาสไปเรียนต่อที่ฝรั่งเศส ไนโตะก็สนับสนุนให้ริโกะไปโดยบอกว่าจะรอกว่าริโกะจะกลับมา  แต่แล้ว malfunction นี้ก็เริ่มส่งผลให้ไนโตะมีอาการตัวร้อน เหมือนระบบระบายความร้อนจะเสีย ริโกะให้บริษัทเอาไนโตะไปซ่อม แต่บริษัทกลับเห็นไนโตะเป็นของชำรุด ตั้งใจจะรีฟอร์แมท ริโกะรีบมาช่วย แต่ถึงอยากจะรีฟอร์แมท บริษัทก็ทำไม่สำเร็จ ระบบในตัวไนโตะไม่ยอมรับคำสั่งนี้ เรื่องนี้ทำให้ริโกะตัดสินไม่ไปฝรั่งเศส (เลือกไนโตะแล้วนั้นเอง)  โดยไม่ได้ตั้งใจ โซจิก็รู้ว่าไนโตะเป็นหุ่นแต่ไม่ได้บอกใคร แล้วโซจิก็ยอมรับที่ริโกะเลือกไนโตะจึงตัดสินใจไปฝรั่งเศสคนเดียว ในวันเลี้ยงแฟร์เวล โซจิมีโอกาสพูดกับไนโตะสองคน โซจิขอให้ไนโตะดูแลริโกะ ไนโตะไม่ได้ตอบรับ แต่บอกว่าเขาเชื่อว่าโซจิก็รักริโกะเท่าที่ที่เขารักเหมือนกัน ไนโตะบอกลาโซจิ (ไนโตะรู้ตัวเวลาเขาเหลือน้อยเต็มทีแล้ว) คืนนั้น หลังจากที่ส่งริโกะเข้านอนแล้ว ไนโตะไปพบกับนามิคิริผู้เป็นผู้สร้างเขาขึ้นมา ไนโตะขอบคุณนามิคิริที่สร้างเขาขึ้นมา แล้วไนโตะก็ชัทดาวน์ นามิคิริเอาขอความสุดท้ายที่ไนโตะฝากไว้มาให้ริโกะ ริโกะรับไม่ได้ที่ไนโตะจากไป ขอความที่ไนโตะฝากไว้คือขอให้ริโกะไปฝรั่งเศส ไนโตะก็ได้ฝากจดหมายถึงโซจิเหมือนกัน ในจดหมายนั้นไนโตะขอให้โซจิอยู่ข้างกายริโกะเมื่อเธอร้องไห้ แล้วก็ขอให้โซจิเดินไปร่วมกันกับริโกะ ไนโตะจะกลับมาอีกหรือไม่ ต้องดูต่อในภาค SP ซึ่งจะออกฉายปีนี้ละครับ ความเห็นส่วนตัว เรื่องนี้มีทีวีเรทติ้งไม่สูง แต่ในอินเทอเนท ความนิยมถล่มทลาย (ผมว่าเป็นรองแค่เรื่อง Hana Kimi) อย่ากลัวว่าจบเศร้า  น่าเสียดายมากกว่าที่คุณไม่ได้ดูเรื่องนี้ เรื่องนี้จะว่าจบดีก็ดี จะว่าเศร้าก็เศร้า แต่ผมพอใจกับการจบแบบนี้ (ผมชอบตอนจบนี้มากกว่าในการ์ตูน) ไม่ต้องมีเรื่องต่อ ผมว่ามันสมบูรณ์แล้ว  สำหรับคนเซนซิทีฟ เตรียมร้องไห้ตอนจบได้เลย  (หลายคนร้องจริง  ผมก็เกือบไปเหมือนกัน) คนเขียนบทเรื่องนี้ซ่อนอะไรไว้หลายอย่าง ให้คนดูกลับไปคิด การที่เห็นผู้อื่นมีความสุข เราก็มีความสุข การเป็นผู้ให้เหมือนให้แต่ฝ่ายเดียว ก็ถือเป็นความรักอย่างหนึ่ง ในเรื่องนี้ พระเอกบอกรักนางเอกตลอดเวลา แต่นางเอกไม่เคยบอกรักพระเอกเลย (ให้สังเกตดู) สิ่งที่พระเอกพอใจที่สุดคือการทำให้นางเอกมีความสุข  เมื่อต้องจากไป ก็ยังฝากฝังให้พระรองต่อ ไม่ได้ขอให้พระรองเป็นบอยเฟรนด์ ไม่ได้ขอให้พระรองทำหน้าที่แทน การที่บทเขียนมาอย่างนี้ ผมเชื่อว่า นั่นเป็นเพราะ พระเอกเชื่ออยู่ตลอดว่าตนคือ Perfect boyfriend ของนางเอก ทั้งในอดีต ปัจจุบัน และอนาคต ไม่มีใครมาเป็นได้ดีกว่า พระเอกไม่สามารถอยู่กับนางเอกได้ ทั้งๆที่ไม่อยากทำให้นางเอกเสียใจแต่ก็ต้องจากไป จึงฝากฝั่งนางเอกใว้กับพระรองแต่ไม่ได้ขอให้มาเป็นแฟนแทน วิกกีครับ http://wiki.d-addicts.com/Zettai_Kareshi แก้ไขข้อความ Special Thanks to คุณ circlegriff ครับ หากระทู้เก่าของผมเจอด้วย ผมก็เลยเอารีวิวอันที่ผมเขียนไว้ตอนแรกมาแปะในนี้แทน เวอร์ชันแรกดีกว่าเยอะเลยครับ แก้ไขเมื่อ 04 มี.ค. 52 11:42:29 แก้ไขเมื่อ 04 มี.ค. 52 11:39:43 แก้ไขเมื่อ 03 มี.ค. 52 12:35:17 จากคุณ : Freedom and Justice - [ 3 มี.ค. 52 12:25:35 ]

ความคิดเห็นที่ 34 เดี๋ยวพรุ่งนี้มา review Hotaru no Hikari ให้ค่ะ ตอนนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนการผลิตอยู่ ^____^ จากคุณ : peaceplease (peaceplease) - [ 3 มี.ค. 52 13:07:48 ]

ความคิดเห็นที่ 35 กระทู้นี้ดีมากๆ ค่ะ เห็นด้วยกับคุณป้าอ้วนว่าเป็นกระทู้ฝึกการเขียนได้ดีทีเดียว คิดว่าต้องทะลุร้อยเรื่องแน่ๆ ส่วนตัวเราตอนนี้กำลังร่างมุโขะโดโนะภาคแรกอยู่ค่ะ ทำได้แค่ภาคแรก เพราะภาคสองเคยดูแล้วแต่ไม่มีในครอบครอง ยังไงใครจะช่วยรีวิวภาคสองด้วยก็ได้นะคะ คราวนี้เราจะมาสรุปลิสต์คนจองหนังค่ะ เราเอง(เมอริเทียน่า)ค่ะจอง เรื่อง มุโขะโดโนะหรือซุปเปอร์สตาร์ถามหารักภาคแรก เบียคุยะโคหรือมิดไนท์ซันเจอร์นี่ย์ ต่อไปจะเป็นฟูโกะเคจิหรือคุณนายสายสืบภาคแรกค่ะ(อยากรีวิวร้านดอกไม้เหมือนกันแต่มีคนทำแล้ว)ขอโทษที่จองหลายเรื่อง(ใจคอหล่อนจะไม่แบ่งให้ใครเลยเหรอ )แฮ่ะ คือเราคงเขียนได้แค่อาทิตย์ละเรื่องน่ะค่ะ คุณป้าอ้วนมาเอง จองเรื่อง มายบอสมายฮีโร่กับอุตะฮิเมะค่ะ คุณคิมุระฟรีคจองเรื่องฮีโร่ค่ะ คุณน้ำพริกกินกะปลาทู จองจัสท์วันเลิฟค่ะ คุณเรดิโอเกิร์ล จองเรื่องร้านดอกไม้ไร้กุหลาบ บาระ โนะ ไน ฮานายะค่ะ คุณนิโนะชินโง จองเรื่องซาซากิ ฟูไซ โนะ จินงิ นากิ ทาทาไค คุณแมดบุล จองเรื่องโมโตคาเระค่ะแล้วก็โอ้ มายเกิร์ลด้วย (เรื่องหลังนี่ไม่แน่ใจว่าเขียนหรือยัง เพราะเราดูแต่รายชื่อที่คนจองค่ะ) คุณซันนี่บีกู้ด จองเรื่องยาซาชิจิคัน คุณพีซพลีสจองโฮตารุ โนะ ฮิคาริค่ะ ขอบคุณสำหรับกิฟท์ที่ให้นะคะ (ดีใจมั่กๆ) จากคุณ : meritiana (Meritiana) - [ 3 มี.ค. 52 13:17:56 ]

ความคิดเห็นที่ 36 วันนี้สอบเสร็จแล้วค่ะ   เศร้าใจกับเกรดที่ต้องได้รับจังT T เลยขอรีวิวเรื่องโทนมืดๆแล้วกัน(ไม่เห็นจะเกี่ยวเลย) Million  Stars   Falling  from  the  sky (2002) (เรต18+ เนื่องด้วยฉากความรุนแรงและเลิฟซีนเยอะ) CAST Akashiya Sanma as Dojima  Kanzo           Kimura Takuya as  Katase  Ryo               Fukatsu Eri as Dojima Yuko                                                 Igawa Haruka as Nishihara Miwa                                           Shibasaki Kou as Mizashita Yuki                             Morishita Aiko as Sugita Kotoko คุณตำรวจโดจิมะ  คันโซ  ตำรวจท่าทางสบายๆชอบกินอุด้งในที่ทำงาน  กำลังสืบคดีฆาตกรรมนักศึกษา ที่ดูเหมือนจะเป็นการฆ่าตัวตาย  ทีมงานหาหลักฐานไม่ได้ และกำลังสรุปว่ามันเป็นการฆ่าตัวตาย แต่เค้าไม่เชื่ออย่างนั้น    คันโซอยู่กับยูโกะ  น้องสาวอายุ 28 แล้วแต่ยังไม่มีแฟน เธอเป็นผู้หญิงที่ใสซื่อ  และค่อนข้างยังทำตัวเป็นเด็กๆ เพราะอยู่กับพี่ชายที่อายุห่างกันมากมาตลอด วันนึงคันโซกับยูโกะ  ไปงานวันเกิดมิวะลูกสาวเศรษฐี เพื่อนสนิทของยูโกะ บนเรือสำราญ ในวันนั้นทั้งสามคนได้เจอกับ  คาตาเสะ  ริว  ชายหนุ่มลึกลับที่มาทำงานครัวในงาน  เค้ามีความทรงจำชั่วพริบตา (เหมือนเมกุในนักสืบคิว)  ริวทะเลาะกับคู่หมั้นของมิวะในงาน  มิวะเองก็หลงรักริว   และเรื่องทุกอย่างก็เริ่มขึ้น  มันเป็นเหตุบังเอิญหรือความตั้งใจ? เป็นเรื่องแนวสืบสวนที่ค่อนข้างเครียดค่ะ  แต่การผูกปมในแต่ละตอนทำให้น่าติดตามมาก เรื่องนี้ให้ความสำคัญกับรายละเอียดเล็กน้อยที่เราไม่ค่อยใส่ใจ  แต่มันกลับเป็นกุญแจสำคัญในตอน พอดูจบไปบางตอนก็ “อ่าวเฮ้ย!” หรือ “ จริงๆด้วย”  ทำให้เราต้องคอยคิดตามตลอดค่ะ แถมบางตอนยังจบแบบหักมุม แบบว่า “ทำอย่างงี้จริงๆเลยหรอ?” เราชอบทุกฉากที่คุณตำรวจคุยกับริว  สองตัวละครที่มีจิตวิทยาสูงมากๆ เวลาคุยกัน แม้ว่าบทสนทนาจะแสนธรรมดามากๆ  แต่แฝงความเครียดไว้  และดูเหมือนจะคอยคุมเชิงซึ่งกันอยู่เสมอ การใช้เซนส์ของตำรวจที่สนใจเรื่องเล็กน้อย  และความเป็นคนจริงจังจริงใจ  ของคันโซ ตัวละครนี้เราชอบมากๆเลยค่ะ  ชอบกว่าบทของป๋าทาคุกับเจ๊เอริซะอีก การจบหักมุมได้ตรงคอนเซ็ปกับชื่อเรื่องและเพลงประกอบมากๆค่ะ ต้องดูเอง  แม้จะเครียดๆบ้างแต่ลุ้นและน่าติดตามค่ะ  เรื่องนี้ไม่ทำให้ผิดหวัง แก้ไขเมื่อ 04 มี.ค. 52 13:45:23 แก้ไขเมื่อ 03 มี.ค. 52 14:40:25 แก้ไขเมื่อ 03 มี.ค. 52 14:33:14 จากคุณ : momo lawleit - [ 3 มี.ค. 52 14:31:30 ]

ความคิดเห็นที่ 37 สงสัยคืนนี้ป้าต้องปล่อย my boss my hero ออกไปก่อน  จองนานๆไม่เหมาะ จากคุณ : ป้าอ้วนมาเอง (เหนียวเนื้อ) - [ 3 มี.ค. 52 15:28:44 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ึ#33 อันนี้ยังเข้าได้ค่ะคุณ Freedom and Justice ^^ http://72.14.235.132/search?q=cache:9x7-lvAN2u4J:www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A7415867/A7415867.html+www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A7415867/A7415867.html&hl=th&ct=clnk&cd=1&gl=th แก้ไขเมื่อ 03 มี.ค. 52 15:52:00 แก้ไขเมื่อ 03 มี.ค. 52 15:51:17 จากคุณ : circlegriff - [ 3 มี.ค. 52 15:43:24 ]

ความคิดเห็นที่ 39 มาแปะให้แล้วนะคะ ^o^ Kurosagi (The Black Swindler) หรือ "คุโรซากิ ปล้นอัจฉริยะ" ในชื่อภาษาไทย อีกหนึ่งซี่รี่ย์ที่สร้างจากการ์ตูนดังของทางญี่ปุ่น นำแสดงโดย ยามะพี - Yamashita Tomohisa (News) รับบท Kurosagi มากิจัง - Horikita Maki รับบท Yoshikawa Tsurara ซี่รี่ย์เปิดตัวทุกตอนด้วยอนิเมชั่นที่เล่าถึงโลกแห่งนักต้มตุ๋นที่มีนักต้มตุ๋นอยู่ 3 ประเภทด้วยกันคือ ชิโรซากิ (กระสาขาว) พวกที่ต้มตุ๋นเงินคนอื่น อากะซากิ (กระสาแดง) พวกที่ใช้อารมณ์ความรู้สึก ปั่นหัวเพื่อหลอกใช้ และชิโรซากิ (กระสาดำ) นักต้มตุ๋นที่ต้มตุ๋นเหล่าชิโรซากิและอากะซากิอีกที เพื่อหลอกเอาเงินจากนักต้มตุ๋นเหล่านั้นกลับคืนไปให้เหยื่อ หมายเหตุ : คำว่า "ซากิ" เป็นคำพ้องเสียงในภาษาญี่ปุ่นแปลได้ทั้งนักต้มตุ๋น หรือนกกระสา ส่วนคำอื่นมาจากสี ชิโร=สีขาว, อากะ=สีแดง, คุโร=สีดำ เรื่องราวเกี่ยวกับ "Kurosaki" ชายหนุ่มที่สูญเสียครอบครัวตนเองไปเนื่องจากพ่อของเค้าหลงกลให้กับชิโรซากิ จนทำให้ครอบครัวล้มละลายและหาทางออกด้วยการสังหารหมู่ครอบครัวของตนเอง แต่ก็ยังมีพระเอกของเรารอดมาได้ ด้วยความชิงชังเค้าจึงผันตัวเองมาเป็น "Kurosagi" (ตามเนื้อเรื่อง นามสกุลของพระเอกเขียนคล้าย ๆ กันกับนักต้มตุ๋นหรือกระสาดำ) อาศัยข้อมูลจากแหล่งข่าวที่แข็งแกร่งของเหล่านักต้มตุ๋น ที่เปิดเป็นร้านอาหารบังหน้า สืบหาข้อมูลของของเหยื่อด้วยการปลอมตัวสารพัดรูปแบบ ชิงไหวชิงพริบ และชั้นเชิงในการต้มตุ๋น คุโรซากิต้องพยายามที่จะไม่ให้เหล่านักต้มตุ๋นเหล่านั้นจับไต๋ได้ และยังต้องคอยหลบคุณตำรวจไม่ให้จับตัวได้อีกต่างหาก จนท้ายที่สุด เมื่อพระเอกรู้ความจริงเกี่ยวกับคนที่ทำให้ตนเองต้องสูญเสียครอบครัวไป สุดท้ายเค้าจะตัดสินใจยังไงก็ลองตามดูเอานะ ซี่รี่ย์มีทั้งหมด 11 ตอน + มูฟวี่อีก 1 แนะนำให้ดูทั้งคู่เพราะมูฟวี่เป็นบทสรุปของซี่รี่ย์ล่ะ ^O^ แก้ไขเมื่อ 04 มี.ค. 52 11:46:27 จากคุณ : circlegriff - [ 3 มี.ค. 52 15:50:10 ]

ความคิดเห็นที่ 40 มาตามคำเรียกร้องอันระงม(ของใคร?)แล้วค่ะ ^^" รีวิวของเราขอไม่เป็นทางการมากนะคะ รีวิวตามใจฉันนี่แหละ 55+ Title (romaji): Tatta Hitotsu no Koi Also known as: Just One Love / Love of my Life Format: Renzoku Genre: Drama, romance Episodes: 10 Viewership rating: 11.61 Broadcast network: NTV Broadcast period: 2006-Oct-14 to 2006-Dec-16 Air time: Saturday 21:00 Theme song: Bokura no Machi de by KAT-TUN รายชื่อนักแสดง Kamenashi Kazuya as Kanzaki Hiroto Ayase Haruka as Tsukioka Nao Tanaka Koki as Kusano Ko Hiraoka Yuta as Ozawa Ayuta Toda Erika as Motomiya Yuko Kaname Jun as Tsukioka Tatsuya (Nao's brother) Saito Ryusei as Kanzaki Ren (Hiroto's brother) Zaitsu Kazuo as Tsukioka Yasuhiko (Nao's father) Tanaka Yoshiko as Tsukioka Mitsuko (Nao's mother) Yo Kimiko as Kanzaki Akiko (Hiroto's mother) Oshima Yoko (works in Hiroto's factory) Taguchi Hiromasa (works in Hiroto's factory) เนื้อเรื่องบอกเล่าถึงเรื่องราวความรักต่างชนชั้น ระหว่างดอกฟ้าผู้สูงศักดิ์คุณหนูมหาวิทยาลัยชื่อดัง กับหนุ่มเจ้าของโรงงานเล็กๆที่จะเจ๊งแหล่มิเจ๊งแหล่ ที่มีอุปสรรคมากมาย  ซึ่งก็ตามธรรมชาติของละครแนวนี้อ่ะค่ะ ที่มักจะมีกากีดกันจากครอบครัวของฝ่ายที่สูงศักดิ์กว่า จะไม่พูดถึงเนื้อเรื่องมากนะคะ เพราะก็ทั่วๆไปของแนว เมโลดราม่า หรือละครน้ำเน่าน่ะแหละค่ะ  แต่จุดที่อยากนำเสนอคือสิ่งที่ละครเรื่องนี้บอกเราเกี่ยวกับความรักที่น่าจะนำมาปรับใช้ได้ดี ความรักไม่ใช่ทุกสิ่งในชีวิต และมันจะมีค่าก็ต่อเมื่อคุณ "รัก" ให้เป็น เนื้อเรื่องแรกๆเหมือนจะฟูมฟายค่ะ ปูเรื่องมาให้ดูเป็นแนวแบบหนังรันทดๆของเกาหลีอ่ะค่ะ  พวกที่ต้องมีใครป่วยตายหรือโดนกีดกันจนตายไปด้วยกัน หรือหนีไปลำบากด้วยกันอะไรประมาณนั้น ถ้าคนที่ไม่ชอบแนวน้ำเน่า 8 ตอนแรกจะน่าเบื่อมาก เรานั่งดูงี้ จิกกัดได้ทุกเม็ด ประมาณว่าไม่คิดว่าจะได้ดูละครญี่ปุ่นที่เน่าโค่ดดดดดดดดขนาดนี้มาก่อน เกือบปิดไม่ดูล่ะ ดีที่พระเอกที่รักรั้งไว้ และนางเอกที่น่ารักเกินจะทนไม่ดูได้ แถมด้วยฉากที่สวยงาม มุมกล้องที่แฝงความโรแมนติกไว้ บทพูดของข้างกินความลึกซึ้ง และเพลงบรรเลงที่ทำให้เนื้อเรื่องดูโรแมนติกขึ้นอีก ทำให้เราทนดูต่อจนจบ สองตอนสุดท้ายค่ะ ที่เราอยากนำเสนอมากๆ ถ้าบอกความประทับใจในสองตอนสุดท้ายมันก็จะเป็นการสปอยล์ไปซะหมดอ่ะเนอะ งั้นบอกเล่าคร่าวๆแล้วกันค่ะ ว่า... สองตอนสุดท้ายเป็นบทสรุปในเรื่องของความรัก ในแนวทางซีรี่ย์ญี่ปุ่นเลยค่ะ เวลาคือบทพิสูจน์ เวลาคือสิ่งที่ช่วยบำบัดจิตใจ ความรักที่ไม่ได้มีแค่คนสองคน ชีวิตไม่จำเป็นต้องมีแค่ความรักแบบหนุ่มสาว ละครเรื่องนี้เราอยากให้พวกที่กำลังคลุ้มคลั่งเพราะความรัก เค้าไม่รักเรา เราจะต้องตาย จะฆ่าตัวตายเพื่อให้เค้าหันมามอง หรือ ถ้ารักกันไม่ได้ก็จะตายตามกันไป หรืออะไรก็แล้วแต่ที่ทำให้ฟูมฟายมากมายเกี่ยกับความรักได้ดูค่ะ ดูแล้วถ้าได้หยุดคิดตามแบบที่ละครเรื่องนี้ตั้งใจจะบอก คงทำให้คิดได้บ้าง คำเตือน          - อย่าดูถ้าคุณหวังจะให้เรื่องนี้เป็นแนวน้ำเน่าที่เคยดู          - อย่าดูถ้าคุณไม่ชอบแนวน้ำเน่าเอามากๆ เพราะมันก็เน่าจริงๆน่ะแหละ          - อย่าดูถ้าคุณอยากดูพระเอกหุ่นล่ำๆ ตัวสูงๆ หน้าหล่อใสเด้ง เพราะเรื่องนี้มีแต่พระเอกหน้าโทรม เพราะทำงานอยู่ในโรงงานที่มีคนงานแค่สามคน(รวมเจ้าตัวด้วย) และตัวเตี้ยที่บางทีถ้านางเอกใส่ส้นสูงก็จะเตี้ยกว่านางเอกทันที และผอมแห้งยิ่งกว่ากุ้งแห้ง ^^"          -  อย่าหวังว่าจะดูได้หลายๆรอบเหมือนซีรี่ย์ญี่ปุ่นอื่น เพราะขนาดเราคิดว่ามันสนุกและมีความหมายอะไรแฝงไว้เยอะ แต่ดูแค่สองรอบก็เอียนเต็มทน ^^" แต่แนะนำให้ดูถ้าคุณอยากดูละครน้ำเน่าในอีกแบบนึงที่มีอะไรให้คิดมากมาย และนางเอกน่ารักมากกกกกกก สุดท้ายแปะเพลงประกอบค่ะ เพลงนี้ฟังในเรื่องเศร้าอย่างบอกไม่ถูกค่ะ รู้สึกเศร้าจนเปิดข้ามทุกที แต่พอรู้ว่าคาเมะชอบเพลงนี้ก็เลยไปหาฟังใหม่ ปรากฏว่าชอบมากกกกกกกซะงั้น เป็นเพลงที่ kat-tun ร้องแบบขาดสมาชิกไป 1 คนค่ะ แต่ก็เพราะนะ ลองฟังดูค่ะ หมายเหตุ เป็นเวอร์ชั่นจากในเรื่องเลยนะคะ เป็นตอนจบของตอนแรก ก็จะติดเนื้อเรื่องตอนแรกมานิดหน่อย แต่เวอร์ชั่นในละครดูโรแมนติกดีอ่ะ โดยเฉพาะช่วงตอนหลังๆ มีด้ายแดงมาด้วย โรแมนติกมากกกก ^^" แก้ไขเมื่อ 04 มี.ค. 52 06:08:22 จากคุณ : น้ำพริกกินกะปลาทู - [ 3 มี.ค. 52 19:39:01 ]

ความคิดเห็นที่ 41 ณ reply นี้ จอง ENGINE ไว้ก่อนละกันนะคะ .. .. .. ^^~* เป็นอีกเรื่องที่ดูแล้วรู้สึกรักมาก ๆ ( เี่กี่ยวกับการแข่งรถ/ครอบครัว&เด็ก ) ขอเวลาไปซึมซับอีกรอบก่อน จะเอาการบ้านมาส่งภายในอาทิตย์นี้ค่ะ   ดูทาคุยะ แล้วคิดถึงพี่สาว ( พี่สาวเปน 1ในสาวกทาคุยะอ่ะค่ะ ) พอดีตอนนี้เค้าอยุ่ Jap. เลยเลือกเรื่องนี้มารีวิวซะเรยยยย ^^ = = = = = = = = = = = = = ย่อง ๆ มาส่งการบ้านค่ะ ZZZ ZZ ZZZZZZ.. .. .. E n g i n e ขออนุญาต แบ่งเป็น 4 part นะคะเพื่อสะดวกในการทำความรุ้จัก ^^ ไม่ต้องตกใจกับตัวละครเยอะนะคะ เพื่อนผู้ชม ดูไปเรื่อย ๆ จะแอบตกหลุม รักแบบไม่รุ้ตัว.. .. .. Kimura Takuya >> คันซากิ จิโร่ นักแข่งรถ ตำแหน่ง F2 ( มือสอง ถ้ามือ1 เรียก F1 ) มีความเป็นเด็กอยู่ในตัวมาก มั่นใจในตัวเอง มุ่งมั่นเดินตามฝัน พร้อมชนกับปัญหา ... Koyuki >> คุณครูโทโมมิ จบจากมหาวิทยาลัยแต่เลือกที่จะเป็นคุณครูในบ้านเด็กกำพร้า ตรงไปตรงมากับ การแก้ไขปัญหา ( ซื่อตรงกับการเป็นครูนักวิชาการ ) เห็นอกเห็นใจ เข้าใจผู้อื่น ... Harada Yoshio >> โอโต้ซังทาเคชิ ( คุณพ่อจิโร่ ) น่ารักกับเด็ก ๆ เสมอ ... Matsushita Yuki >> โอนี่จังชิฮิโระ ( พี่สาวจิโร่ ) เชื่อในตัวจิโร่ ... Sakai Masato >> เกนิชิโระ ครูนักวิชาการชาย ผู้ที่อยู่ติดกับความถูก/ผิด ... Takashima Reiko >> คุณแม่ครัวไอโกะ เข้าใจผู้อื่น ใจดี ทำอาหารอร่อย ... Izumiya Shigeru >> โค้ช ชินซาขุ ; ในทีมเรียกว่าตัวประหลาด หวังดีกับจิโร่ ?~ Okamoto Aya >> ทามากิ ( กิ๊กเก่าจิโร่ ) ; เย็นชา แต่แอบห่วงจิโร่มาก ๆ ... Aoki Shinsuke >> ฮิโรโตะ ( ตัวอิจฉา ?~ ) ; แย่ ๆ ๆ ทำกับจิโร่ /O\ Ueno Juri >> มิซาเอะ ครอบครัวเป็นหนี้สิน ถูกพ่อและแม่ทิ้ง , ลึก ๆ เป็นคนขี้เหงามาก ไม่เปิดใจกับใคร Kaho >> ยูกิเอะ มีปัญหากับบุคลิกภาพ ขี้อาย ไม่กล้าแสดงออก , แต่จริงใจกับทุกคน ติดตุ๊กตาหมี Toda Erika >> ฮารูมิ พ่อแม่หย่ากัน เลยทำให้มีความฝันอยากแต่งงาน มีครอบครัวที่อบอุ่น Ohira Natsumi >> นาโอะ พ่อป่วย แม่ต้องทำงานหนัก , ชอบการแสดงออก มีฝันอยากเป็นนักร้องนักแสดง Ishida Houshi >> ไดสุเกะ ครอบครัวเป็นหมอ พ่อและแม่มองว่าเป็นตัวสร้างปัญหาให้ครอบครัว , ถูกมองว่า ชอบใช้ความรุนแรง ไม่ไว้ใจใคร Nakajima Yuto >> ชุนเฮย์ ถูกทิ้งและย้ายไปอยู่กับครอบครัวบุญธรรมมาแล้วหลายครั้ง , เป็นเด็กฉลาด ชอบ ทายปัญหา เจอจิโร่คนแรกของเรื่อง Arioka Daiki >> ทารุ และ Sato Miku >> อาโออิ เป็นพี่ชายน้องสาวที่น่ารักมาก ๆ , คนน้องมักมีลางบอกเหตุ ช่างพูดช่างเจรจา Kosugi Moichiro >> โมริโอะ พ่อไม่มีงานทำ , เป็นเด็กอ้วนที่ชอบกินมายองเนส มีท่าหลี่ตามองขำขำ น่ารักดี Hirota Ryouhei >> อากิระ พูดฉะฉานแต่ชอบพูดโกหกเพราะเห็นว่าเรื่องจริงมันน่าเบื่อ ฝันอยากเป็นทนาย Komuro Yuta >> ชุนตะ พ่อแม่ฆ่าตัวตาย , เป็นเด็กน้อยน่ารัก นั่งติดกับจิโร่เวลาหม่ำข้าวกัน Oka Mayu >> นานาเอะ พ่อแม่ยังเป็นนร. , จะร้องไห้ถ้าไม่อุ้มหรือป๋าบน อยู่ติดกับพ่อของจิโร่ตลอดเวลา Theme Song ' I Can See Clearly Now by Jimmy Cliff ' ีรางวัลการันตี 45th Television Academy Awards: Best Supporting Actress: Koyuki คนมักพูดว่าครอบครัวคือสมบัติ เพราะเป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่คนเรามี แต่สำหรับคนที่ ไม่มีครอบครัวตั้งแต่แรกล่ะ ??~? จิโร่ เติบโตจากครอบครัวคันซากิ บ้านเกิดของเขา โดยมีพ่อและพี่สาวคอยดูแล ฝันที่จิโร่ทำอยู่คือการได้เป็นนักแข่งรถ ได้แชมป์จากญี่ปุ่นทำสัญญาไปเป็นนัก แข่งที่ยุโรป ลำดับ F2  แต่จิโร่ไปมีเรื่องกับนักแข่ง F1 ถึงขั้นถูกไล่ออก เป็นเหตุ ให้เขาต้องกลับญี่ปุ่น .. .. .. กลับมายังบ้านเกิดซึ่งได้แปลสภาพเป็นบ้าน ( อุปถัมภ์ ) เด็กกำพร้าไปแล้ว ??~? เมื่อจิโร่ต้องกลับมาเจอกับเด็ก ๆ เค้าซึ่งบอกกับตัวเองว่าไม่ชอบเด็กเลย แต่กลับ ต้องมาอาศัยอยุ่ในบ้านเดียวกับเด็กทั้งหมด 12 คนในบ้านคาเซะโนะโอกะ ( + รับ หน้าที่เป็นโชเฟอร์ขับรถไปส่งเด็ก ๆ ไปรร. ) เขาต้องรับมือกับเด็กในครอบครัวนี้ พร้อม ๆ กับยังไม่หมดหวังในการกลับไปแข่งรถที่เขารัก จากทีมเก่าญี่ปุ่น เค้าจะรับมืออย่างไร ??~? ปัญหาการมาจากต่างที่ ต่างครอบครัวของบ้านคาเซะโนะโอกะแห่งนี้มีมาตลอด แต่ทุกครั้งพอเริ่มจะมีปัญหากันเมื่อไหร่ มักจะไปข้องแวะกับจิโร่ และต้ัองรับบท แก้ไขโดยที่ไม่ตั้งใจ ( ปัญหาลุล่วงด้วยดี ) ทุกครั้ง , แปลกที่แรก ๆ เด็กทั้ง 12 คน ไม่ยอมเปิดใจให้ใครเลย กลับมาวอแว ข้องแวะกับจิโร่ทุกคน ^^ น่าจะเป็นเพราะจิโร่ เป็นผู้ใหญ่ที่มีความเป็นเด็กอยู่ในตัวมาก ๆ ทำให้เด็ก ๆ รู้สึก เหมือนเป็นเพื่อน สบายใจ พร้อมจะเข้าหามากกว่าคุณครูโทโมมิ หรือผุ้้ใหญ่คน อื่น ๆ ในบ้านก็ได้ ^^ ข้อตกลงเดียวในการอยู่ร่วมกันในครอบครัวใหม่นี้ คือ การต้องอยู่พร้อมหน้า พร้อมตาเวลาทานอาหารค่ำ .. .. .. ไม่ว่าเกิดปัญหาอะไรก็ตาม ยังไงทุกคนต้องช่วยกันคลี่คลายให้ผ่านพ้นไปได้ , เพื่อที่จะรอเวลาทานอาหารร่วมกัน ^^ ปัญหาใหญ่ที่สุดของบ้านอุปถัมภ์เด็กกำพร้าแห่งนี้คือ คนในชุมชนต่อต้านไม่ให้ เช่าที่แห่งนี้ต่อ !!! เนื่องจากเข้าใจว่ามีเหตุการณ์เด็กในบ้านเกเร ก่อความรุนแรง ทั้งพ่อ พี่สาว คุณแม่ครัว ครูผู้ชาย และคุณครูโทโมมิ ต้องทำงานอย่างหนักเพื่อ อธิบายให้พวกคนกลุ่มนี้เข้าใจให้ได้ พร้อมกันนั้นจิโร่เองต้องการเงินรางวัลมา เพื่อกอบกู้สถานะของบ้าน นักแข่งถ้าไม่เรียนรู้ที่จะขับ/แข่งเพื่อคนอื่น ก็จะไม่เข้มแข็ง จนอาจพลาดบาดเจ็บสาหัสได้ นี่คือเหตุผลของโค้ชที่ให้โอกาสจิโร่ลงแข่งอีกครั้ง หลังจากการกลับมาของเขา เพื่อขอเข้าร่วมทีม โดยแรกโค้ชให้จิโร่เป็นเพียงทีมดูแล/ช่างเครื่องของรถแข่ง เท่านั้น ( น่าจะเพื่อตัวของจิโร่เอง ให้รู้การทำงานของรถแข่ง ) ' ฮัลโหล ฮัลโหล คุณเต่า ในโลกใบนี้ ไม่มีใครจะัเร็วเท่าคุณ ทำไมคุณถึงเร็วนัก ' ปิดท้ายด้วยเพลงประจำตัวจิโร่จะร้องเมื่อจะเข้าถึงเส้นชัยนะคะ ^^ อยากให้เพื่อน ๆ ช่วยลุ้นไปกับการฝึกของจิโร่เพื่อการแข่งขัน REGULUS CUP!!! ภารกิจระหว่างจิโร่ กับเด็ก ๆ กับการคลี่คลายทีละปัญหาของเด็กแต่ละคน !!! แถมนิดว่า มีฉากกุ๊กกิ๊กระหว่างจิโร่กับครูโทโมมิ 3 ช้อท !!! แน่ะอยากดูแล้วใช่ม๊า ^^ :: เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย ( สิ่งที่ได้จากเรื่อง ) / คอมเม้นต์สำหรับเรื่องนี้ :: ความฝัน-ความมุ่งมั่น-การไม่ยอมหนีปัญหาของจิโร่ สำหรับจิโร่แล้วการหนี ถือว่าแพ้ .. .. .. ความจริงใจ ซื่อสัตย์ในหน้าที่ของครูโทโมมิ ท้ายสุดก็เอาชนะจิตใจเด็ก ๆ ได้ , รวมทั้งเด็กโตอย่งาจิโร่ด้วย eiei .. .. .. หาสิ่งที่ตัวเราเองรัก และมีความสุขที่จะทำ นั่นคือสำคัญที่สุดที่คุณจะทำออกมา แล้วได้ดี จากจิโร่ที่เปิดใจกับครูโทโมมิ .. .. .. ครอบครัวคือปราการด่านสำคัญ ที่จะทำให้เราก้าวไปข้างหน้าได้ .. .. .. ' ขอบคุณและขอโทษ ' รู้สึกและพูดให้ติดเป็นนิสัย เพราะมันช่วยคลี่คลายสถาน การณ์ได้ .. .. .. ~ รี่ว่าสิ่งที่ทำให้จิโร่ชนะใจเด็กแต่ละคนได้ ไม่ใช่เพราะพี่จิโร่ซังไม่ยอมโตนะ แต่เป็นเพราะความเป็นเด็กที่อยุ่ในตัวจิโร่ต่างหาก ที่ทำให้เด็กเข้าหา และค่อย ๆ เปิดใจ , เด็กมักจะต้องการความรู้สึกเป็นพวกเดียวกันเสมอ .. .. .. ~ การค่อย ๆ เป็นพวกเดียวกันแต่ละตอนก็ทำให้จิโร่ได้เรียนรู้ แลกเปลี่ยนมุมมอง ของตัวเองกับเด็ก ในขณะที่ผู้ใหญ่ทุกคนในเรื่องรักและพยายามที่จะเข้าใจ จน มองข้ามช้อท ห่วงไปถึงอนาคตของเด็ก / แต่ของจิโร่ไม่ใช่ มองปัญหาด้วยมุม เดียวกัน จุดนี้น่าจะเป็นข้อได้เปรียบของเขาเข้าถึงเด็กได้ .. .. .. ~ รี่รุ้สึกดีกับประเพณี วัฒนธรรมของญี่ปุ่นอีกอย่าง คือ ก่อนออกไปจากบ้านหรือ กลับมาถึงบ้านเค้ามักจะเอ่ย ' ไปแล้วนะครับหรือกลับมาแล้วคร้าบบ Okaeri ^^? ' + อีกคำคือก่อนหม่ำข้าวด้วย _/\_ ' ทานแล้วนะคร้าบบบบ ' .. .. .. ~ อ้อ สำหรับ >> เต่า << ที่เป็นโลโก้ส่วนตัวของจิโร่ แอบเดาเองค่ะว่าน่าจะมา จากเต่ากับกระต่ายในนิทาน ... สุดท้ายแล้วเต่าชนะกระต่าย .. .. .. ดูซีรีย์ครอบครัวที่มีทาคุยะ เป็นคนถ่ายทอดผ่านเด็ก ๆ ( เด็กในโลกนี้น่ารักทุกคน นะคะ อ้อ ! หมายถึงเด็กจิตใจดีนะคะ ) ไม่ต้องเร้าใจแต่ดูแล้วรู้สึกว่าเป็นซีรีย์เล็ก แต่สวยงาม ดูแล้วน้ำตาแอบไหลแต่ก็อบอุ่นหัวใจ happy นะคะ ^^/ แล้วคุณจะ engine เหมือนอย่างที่รี่รักค่ะ คอนเฟิร์ม ^^~* แก้ไขเมื่อ 06 มี.ค. 52 02:28:01 จากคุณ : Sary - [ 3 มี.ค. 52 21:24:31 ]

ความคิดเห็นที่ 42 คงไม่เปลืองพท.กระทู้มาก .. .. .. ขอบอกความในใจนิดค่ะ .. .. .. ปกติดูแล้วก็อ่าน ๆ ที่เพื่อน ๆ รีวิวไว้ซะมากกว่า ครั้งแรกที่ลองรีวิวเช่นกัน ยังไม่มีโอกาส + เวลาอ่าน ( ให้ give ) รีวิวทุกเรื่องเลย .. .. .. อ่านเฉพาะเรื่องที่ตัวเองเคยดูไปแล้ว ห้องนี้รีวิวกันสนุกมาก ๆ .. .. .. เด๋วมีเวลาต้องอ่านเรื่องที่อยากดูซะหน่อยแล้ว ^^~* ถ่ายทอดเก่งไม่พอ ต้องขยันด้วย .. .. .. รีวิวรับถ้วยกันเลย eiei ( รีวิวกันอย่างเทพพพพ .. .. .. จริง ๆ ค่ะ ) จากคุณ : Sary - [ 3 มี.ค. 52 21:32:56 ]

ความคิดเห็นที่ 43 My Boss My Hero ซีรี่ส์ที่จะพาคุณฮา เมื่อเจ้าพ่อยากูซ่าต้องย้อนศรกลับไปเป็นนักเรียน ม.ปลาย ////////////////////////////////////////////////////////////////////////////// มาคิโอะ ซากากิ หนุ่มวัย 27 ชอบกินพุดดิ้งเป็นชีวิตจิตใจ รู้ตัวดีว่าพ่อของเขาเป็นยากูซ่า....หัวหน้าแก๊งเขี้ยวคมแห่งคันโต..... และเขาต้องเป็นผู้สืบทอดตำแหน่งนี้ต่อจากบิดา ในตำแหน่งว่าที่หัวหน้าแก๊งเขี้ยวคมแห่งคันโต มาคิโอะไม่มีข้อบกพร่องใดๆ เรื่องใช้กำลัง ชกต่อย ตีรันฟันแทง มาคิโอะเก่งเป็นที่ 1 ไม่มีใครทาบได้ พื้นที่ที่เขาดูแลไม่มีใครกล้าแหยม ทำให้ได้ใจลูกน้องไปทุกคน ยินดีที่จะนับถือเขาเป็นลูกพี่ใหญ่ ทั้งๆที่เหล่าลูกน้องรู้ดีว่าสติปัญญาทางหนังสือหนังหาของเขามีเพียงแค่หางอึ่ง เรียนก็ไม่จบชั้นมัธยม ทุกวันมาคิโอะทำหน้าที่เสมือนหัวหน้าแก๊งเขี้ยวคมอย่างมีความสุข มีลูกน้องล้อมหน้าล้อมหลัง ไม่ว่าจะอยากได้อะไรลูกน้องเป็นต้องหามาให้ลูกพี่ได้สมดังใจนึก ไม่เคยนึกว่าความทุกข์จะมาเยือน และแล้ววันหนึ่งคราวเคราะห์ของมาคิโอะก็มาถึง เมื่อพ่อของเขาเรียกไปบอกว่า ก่อนที่จะขึ้นครองตำแหน่งหัวหน้าแก๊งเขี้ยวคมคนต่อไป เขาต้องกลับไปเรียนหนังสือให้จบ ม.ปลายก่อน มาคิโอะแม้ว่าจะทั้งเกลียดทั้งกลัวการเรียนหนังสืออย่างไร ก็ไม่สามารถขัดขืนคำสั่งของพ่อได้ จึงต้องกลับไปเรียนหนังสืออีกครั้ง ที่โรงเรียนเซนต์เอกเนส ที่เซนต์เอกเนส มาคิโอะเข้าไปเรียนในห้อง 3A ซึ่งมีคุณครูมินามิ เป็นครูประจำชั้น เจ้าพ่อขาใหญ่อึดอัดมากที่ต้องบอกใครๆในชั้นเรียนว่าอายุ 17 ปี และต้องมานั่งเรียนร่วมกับพวกเด็กน้อยไม่เอาไหนในสายตาของเขา ช่วงแรกของการย้อนวัยมาเป็นนักเรียน ม.ปลาย มาคิโอะเกือบจะทำความแตกหลายครั้งเพราะความประพฤติแปลกๆของเขา แต่เขากลับมีซากุระโคจิ เพื่อนร่วมชั้นคนนึงเข้ามาดูแลทักทาย ซากุระโคจิได้สอนชีวิตความเป็นอยู่ในเซนต์แอกเนสแก่มาคิโอะ และบอกว่าที่โรงอาหารมีพุดดิ้งเจ้าอร่อยที่สุดในญี่ปุ่นขาย แต่นักเรียนห้อง 3A ไม่มีวันซื้อได้ทัน เพราะห้องเรียนอยูไกล พอมาคิโอะ เจ้าพ่อบ้าพุดดิ้งได้รู้เช่นนั้น ก็รู้สึกอยากกินพุดดิ้งของเซนต์เอกเนสเป็นอย่างมาก จึงได้ร่วมมือกับซากุระโคจิด้วยวิธีที่แสนลุ้นแสนฮา เพื่อจะชิงพุดดิ้งมาให้ได้ซักถ้วยนึง จากวีรกรรมชิงพุดดิ้งและพฤติกรรมในห้องเรียน ทำให้มาคิโอะค่อยๆเป็นที่สนใจของครูมินามิ รวมทั้งเพื่อนร่วมห้อง ในนั้นมีสาวน้อยฮิคาริที่ให้ความสนใจมาคิโอะเป็นพิเศษ ความรักแบบวัยรุ่นที่เกิดขึ้นในตัวมาคิโอะ การปรับตัวให้เข้ากับโรงเรียนของยากูซ่าขาโจ๋ว รวมทั้งการปรับตัวให้เข้ากับเด็ก ม.ปลาย ของหนุ่มผู้พ้นวัยเรียนไปแล้ว มีทั้งปัญหา มีทั้งลุ้น มีทั้งฮา ทำให้คนดูทั้งซึ้งทั้งหัวเราะได้ตลอดเรื่อง มาคิโอะ เจ้าพ่อสมองขี้เลื่อย จะเรียนหนังสือจนจบชั้น ม.ปลาย เพื่อไปนั่งแท่นหัวหน้าแก๊งเขี้ยวคมแห่งคันโตได้หรือไม่ หรือจะมีอุปสรรคอะไรมาขัดขวางการเรียนของเขา ต้องไปหา My Boss My Hero มาดูกันเอง นอกจาก โทโมยะ นางาเสะ ที่รับบท ซากากิ มาคิโอะ ได้อย่างน่ารักเป็นที่สุดแล้ว ตัวละครทุกตัวใน My Boss My Hero ก็มีเสน่ห์ ทำให้ซีรี่ส์ลื่นไหล ฮาไม่หยุด และประทับใจ อย่างที่ไม่เคยเห็นในซีรี่ส์เรื่องอื่น . จากคุณ : ป้าอ้วนมาเอง (เหนียวเนื้อ) - [ 3 มี.ค. 52 22:32:46 ]

ความคิดเห็นที่ 44 เพิ่มรูปค่ะ . จากคุณ : ป้าอ้วนมาเอง (เหนียวเนื้อ) - [ 3 มี.ค. 52 22:33:43 ]

ความคิดเห็นที่ 45 ขอปักป้ายจองไว้สองเรื่องนะค้า LIFE กับ Attention Please ค่ะ (อยากจองอีกแต่เดี๋ยวไม่ได้รีวิวให้แล้วจะยุ่ง 555+) จากคุณ : Pan-Nyo - [ 3 มี.ค. 52 23:47:18 ]

ความคิดเห็นที่ 46 รีวิว โมโต คาเระ ตามคำแนะนำของ คุณอ้อมแขนอันอบอุ่น ครับ ================================================================= Moto Kare :  My Ex-Boyfriend     โดโมโตะ สึโยชิ  แสดงเป็น  โทจิ     ฮิโรสุเอะ เรียวโกะ  แสดงเป็น  มาโกโตะ     อุจิยามะ รินะ    แสดงเป็น  นาโอะ Moto Kare เป็นละครเรื่องนึงที่พล็อตเรื่องดูเหมือนว่าจะมีกลิ่นโชยมานิด ๆ แต่เอาเข้าจริงพอได้สัมผัสแล้ว ละครที่ว่าด้วยเรื่องราวของ ชายหนุ่มผู้กำลังมีรักใหม่ แต่ต้องมาว้าวุ่นใจเพราะการกลับมาของแฟนเก่า เรื่องนี้  กลับถ่ายทอดและเดินเรื่องได้อย่างแนบเนียน มีจังหวะจะโคน จนคนดูอดที่จะมาเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดไม่ได้  เรามาดูเรื่องย่อกันก่อนครับ เรื่องย่อ : โทจิ ทำงานอยู่ในแผนกอาหารของห้างสรรพสินค้าโตเกียว โทจิเริ่มคบกับ นาโอะ สาวพนักงานประจำลิฟท์ของห้างเดียวกัน มาได้ระยะหนึ่งแล้ว  ถึงแม้การงานของโทจิจะกดดันและมีอุปสรรค แต่เขาก็ประคับประคองสิ่งต่าง ๆ ไปได้ด้วยดี แต่การมาถึงของ มาโกโตะ สาวสวยจากบริษัทโฆษณา ที่ถูกส่งมาดูแลการโปรโมทกิจกรรมของแผนกอาหาร ทำให้สถานการณ์เปลี่ยนไป เพราะมาโกโตะ คือแฟนเก่าของโทจิ ที่เคยคบกันสมัยเรียนมหาวิทยาลัย ในขณะที่มาโกโตะดูเหมือนยังมีใจให้โทจิ โทจิก็รู้สึกกระอัก กระอ่วนใจที่ต้องมาทำงานร่วมกับแฟนเก่า ทั้ง ๆ ที่ตอนนี้ก็กำลังคบหากับนาโอะอยู่ มิหนำซ้ำ ตัวโทจิเองก็ยังสับสนว่า ตัวเองยังมี เยื่อใยให้กับมาโกโตะอยู่หรือไม่ การโปรโมตกิจกรรมอาหารผ่านไปด้วยดี มาโกโตะเผยกับโทจิว่า อยากจะกลับมาคืนดีกัน ในขณะที่นาโอะ ก็มาล่วงรู้ถึงความรักความหลัง ของทั้งสองคน แล้วก็ไม่ยอมที่จะเสียโทจิไปง่าย ๆ โทจิจะตัดสินใจกับความรักครั้งนี้อย่างไร และเขาจะเลือกใคร พล็อตหลัก ๆ ก็มีแค่นี้ แล้วยังมีพล็อตรองคือความรักของอีกคู่หนึ่ง ระหว่างชิโตเสะ หนุ่มใหญ่ขายเกี๊ยวนึ่งในห้าง กับ ฮิโรเอะ สาวน้อย ใส่แว่นหน้าตาจืด ที่ฝ่ายชายชอบดูถูกตัวเองว่าอ้วน อายุมาก คงไม่มีใครมารักจริง กับฝ่ายหญิงที่ถึงจะอายุน้อยกว่าสิบกว่าปี แต่ก็ กล้ารักกล้าแสดงออก เรียกว่าถึงจะเด็กกว่า แต่ถ้าเรื่องความรักเธอเป็นผู้นำ ตัวละครฝ่ายหญิงในเรื่องนี้ มีจุดยืนในความรักชัดเจนทุกคน ในขณะที่ฝ่ายชายกลับกลัว ๆ กล้า ๆ ลังเลใจอยู่เสมอ มาโกโตะ สาวบริษัทโฆษณาแฟนเก่าของโทจิ เป็นคนสวยทำงานเก่งและมีความมั่นใจในตัวเอง หลายปีก่อนเธอเคยเลิกรากับโทจิ เพียงเพราะ เธอให้ความสำคัญกับการงานมากกว่า แต่ตอนนี้เธอรู้แล้วว่า หัวใจเธอเรียกร้องสิ่งใด ทำให้มาโกโตะมีความชัดเจนในความรัก เธอรู้สึกได้ว่า โทจิก็ยังมีเยื่อใยให้กับเธอ ดังนั้นเธอจึงไม่อยากเสียใจ และเสียโทจิอีกเป็นครั้งที่สอง นาโอะ พนักงานประจำลิฟท์แฟนใหม่ของโทจิ เธอเป็นคนสวย และทุ่มเทหัวใจให้กับโทจิ แต่ก็มักจะต้องพ่ายแพ้ให้กับการงานของเขาเสมอ ๆ เธออึดอัดใจกับการที่โทจิมักจะให้ความสำคัญกับการงานมากกว่า  และการมาของมาโกโตะ ก็ยิ่งทำให้เรื่องแย่ลง เพราะลึก ๆ ในใจแล้ว นาโอะรู้สึกเสมอว่า ตัวเองด้อยกว่าแฟนเก่าของโทจิคนนั้น โทจิ พนักงานแผนกอาหารของห้าง เป็นคนทำงานดีมีความรับผิดชอบ และมีความตั้งใจในการทำงานสูง โทจิบอกกับตัวเองว่า ให้ทำสิ่งที่ ถูกต้องทั้งเรื่องการงานและความรัก เขาพยายามจะให้ทั้งสองสิ่งเดินหน้าไปได้ด้วยดี แต่แท้จริงแล้วโทจิขาดความชัดเจนในเรื่องความรัก และสิ่งนี้กำลังทำร้ายคนทั้งสามคน เรื่องราวค่อย ๆ ดำเนินไป ในลักษณะที่โทจิ ก็พยายามจะจำกัดความสัมพันธ์ของตัวเองกับมาโกโตะ ให้เป็นเพียงผู้ร่วมงานเท่านั้น แต่ในความจริงกลับทำไม่ได้เพราะหัวใจที่ยังเรียกร้องอยู่ โทจิยังไม่สามารถทิ้งสายห้อยโทรศัพท์ ที่มาโกโตะซื้อให้เป็นคู่กัน ตั้งแต่ สมัยยังคบกันอยู่ไปได้ มาโกโตะค่อย ๆ ก้าวเข้ามาในใจของโทจิอย่างเดิมโดยที่โทจิไม่รู้ตัว แม้จะพยายามปากแข็งก็ตาม   บทสรุปของเรื่องนี้ คิดว่าคงทำให้คนดูทุกคนพอใจไม่ได้ หลายคนคงบอกว่าจบไม่ตรงใจ แต่เรื่องราวของความรักหากเกิดเรื่องอย่างนี้ขึ้น ก็ย่อมมีฝ่ายที่ผิดหวังและสมหวังอยู่เสมอ ความรักไม่ใช่เรื่องที่จะมาตัดสินได้ว่า ต้องเป็นอย่างนั้นอย่างนี้จึงจะถูกต้อง ละครรักกลิ่นโชยเรื่องนี้ ได้บรรยากาศในการทำงานของแผนกอาหารมาช่วยได้มาก เรารู้สึกได้ว่า การทำงานลงลึกถึงรายละเอียดสมจริง ดูเป็นการทำงานจริง ๆ ไม่หลอก นี่ถ้าเป็นละครบ้านเราคงให้แค่ตัวละครมาพูด ๆๆ ว่า งานหนักงานยุ่งอย่างนี้ ๆๆ แต่ไม่รู้เลยว่ายุ่งเป็นอย่างไร เรื่องนี้มีตอนนึงที่ ความสัมพันธ์ของโทจิกับนาโอะสั่นคลอน เพราะโทจิลาพักร้อนไปเที่ยวกับนาโอะไม่ได้สักที พอจะลาได้ ก็มีอันต้อง มีงานมาแทรกทุกครั้ง ตรงนี้ทำให้เห็นได้ชัดเลยว่า คนของเขามีความตั้งใจทำงานกันอย่างสูง ไม่แน่แปลกใจเลยที่ธุรกิจของคนญี่ปุ่น จะประสบความสำเร็จอย่างที่เราเห็นทุกวันนี้ พี่เปา โดโมโตะ สึโยชิ เรื่องนี้ได้สีหน้าเรียบ ๆ เฉย ๆ มาแสดงความกระอักกระอ่วนตลอดทั้งเรื่อง ในขณะที่ เรียวโกะ ฮิโรสุเอะ กับ อุจิยามะ รินะ ... เชือดเฉือนกันในบทแฟนเก่าและแฟนใหม่ ร้ายใส่กันได้แบบไม่ต้องตีตบด่าแบบละครบางประเทศ น่าดูครับ จากคุณ : Mad Bull - [ 3 มี.ค. 52 23:56:34 ]

ความคิดเห็นที่ 47 ^ ^ ^ ^ คห. 43 คุณป้าอ้วนมาเองคะ ชอบเรื่องนี้ (my boss my hero) มากๆเหมือนกันค่ะ ฮาสุดๆ พอดูจบปุ๊ปรีบไปหา pudding มากินทันที แล้วตอนนี้ก็กลายเป็นของโปรดประจำตัวไปแล้วค่ะ ล่าสุดเนี่ยก็ทำ pudding มะม่วงกินเอง ^___^ เห็นป้าอ้วน บอกว่าปกติเข้าห้องก้นครัว ถ้ามีอะไร peace หลังไมค์ไปปรึกษาได้มั้ยคะ เพราะทำอาหารไม่ค่อยเก่งน่ะค่ะ แต่กำลังพยายามอยู่ค่ะ แอบนอกเรื่องอีกแล้วชั้น แก้ไขเมื่อ 04 มี.ค. 52 00:11:15 จากคุณ : peaceplease (peaceplease) - [ 4 มี.ค. 52 00:08:58 ]

ความคิดเห็นที่ 48 อ่านรีวิวของเพื่อนๆ เพลินเลยค่ะ รีวิวกันเยี่ยมมากๆเลยค่ะ สำนวนลึกซึ้ง   และน่าติดตามมากๆเลยค่ะ ชอบจัง ขอบคุณเพื่อนๆ และคุณ bigwores มากเลยค่ะ มาขอลองรีวิวดูมั่งนะคะ ไม่ค่อยเก่ง แต่จะพยายามค่ะ โอ๊ทส์ เอาเรื่องที่ดูจบเร็วๆนี้ละกันค่ะ Seigi no Mikata http://forums.popcornfor2.com/index.php?showtopic=64575 Format: Renzoku Genre: Comedy Episodes: 10 Broadcast network: NTV Broadcast period: 2008-Jul-09 to 2008-Sept-10 Air time: Wednesday 22:00 Theme song: Honto wa ne by Okumura Hatsune เรื่องราวของพี่สาวและน้องสาวคู่นึง โดยคุณพี่สาว Nakata Makiko (Yamada Yu)   และน้องสาว Nakata Yoko (Shida Mirai) ทั้งสองคนมีลักษณะนิสัยและบุคลิกที่ต่างกันอย่างสุดๆ พี่สาว มากิโกะ เป็นคนสวย เลิศ สง่างาม จบจากมหาวิทยาลัยดัง ทำงานอยู่ในกระทรวง สุดแสนจะเพอร์เฟ็คไปหมด แต่เธอมีด้านมืดอย่างที่สุด คือ มั่นใจในตัวเองมาก เอาแต่ใจอย่างร้ายกาจ จนครอบครัว เพื่อนร่วมงานต้องยอมให้ เปรียบเหมือนกับเจ้าหญิงดีๆนี่เอง แต่ที่ร้ายกว่านั้นคนที่ต้องคอยรับใช้เป็นทาสผู้แสนซื่อ ก็คือ น้องสาว โยโกะจัง ที่ถูกใช้-แกล้งสารพัด อย่างเลี่ยงไม่ได้ เธอต้องคอยวิ่งวุ่นซื้อนั่นซื้อนี่ ทำตามความปรารถนาของพี่สาวทุกอย่างแบบรันทด แต่ในใจ เธอเห็นพี่สาวเป็นปีศาจตัวร้ายที่สุด (โดยระบายความเครียดลงในบล็อคทุกวัน) แถมที่ร้ายกว่านั้น  มากิโกะ มีโชคสุดๆ เธอมักมาพร้อมกับความเฮงแบบเทวดายังต้องเข้าข้าง ไม่ว่าเธอจะทำอะไร มันมักจะกลับกลายเป็นเรื่องดีอย่างเหลือเชื่อ กลายเป็นไปช่วยเหลือคนอื่นไปซะงั้น จนผุ้คนขนานนามให้ว่า พันธมิตรแห่งความยุติธรรม ภายใต้ความเอือมระอาของน้องสาวผุ้รู้ตัวจริง แต่ไหนแต่ไร เวลาที่พี่สาวเธอปิ๊งปั๊งแอบรักใครขึ้นมา ความซวยก็ตกลงโดนน้องสาวอย่างจังๆ ต้องคอยทำตัวเป็นนักสืบสโตกเกอร์หาข้อมูลอย่างละเอียดยิบ อย่างเช่น ครั้งนึงที่พี่สาวเธอไปตกหลุกรักซูโม่ น้องสาวก็ซวยต้องไปเรียนซูโม่ซะงั้น จนกระทั่ง ปลัดหนุ่มรูปหล่อแสนดี ย้ายเข้ามาใหม่ ไปเข้าตาโดนใจมากิโกะเข้าจังๆๆ ซึ่งจะเป็นเหยื่อรายต่อไปของมากิโกะนั่นเอง  น้องสาวก็ตกที่นั่งลำบากงานเข้าอีกแล้ว ต้องไปคอยตามสืบ ทำนุ่นนี่ แต่วันนึงเธอปิ๊งไอเดียขึ้นมาว่า ถ้าพี่สาวแต่งงาน เธอจะเป็นอิสระ !! เลยฮึดทุ่มจนทำให้ความรักของพี่สาวสำเร็จจนได้ เฮ้อ~  แต่...ยังไม่จบแฮปปี้เอนดิ้งนะ เพราะมากิโกะทำตัว 2 บุคลิก เธอจะแอ๊บแบ๊ว แสนดีต่อหน้าแฟนและครอบครัวแฟนได้ตลอดรอดฝั่งหรือไม่ ซ้ำร้าย น้องสาวผู้ซึ่งกะแผนผิดพลาดก็ยังคงต้องวิ่งวุ่นเป็นทาสให้พี่สาวต่อไป ทำให้เกิดเรื่องวุ่นๆตลกร้าย ตามมาอีกมากมาย... **เรื่องนี้เป็นซีรี่ย์ตลกขำขันฮาๆ ดูได้เรื่อยๆไม่เบื่อค่ะ สร้างมาจากการ์ตูน   ซึ่งเป็นแนวที่เราชอบด้วย  คลาดเครียดดีค่ะ เหมาะกับยุคเศรษฐกิจแบบนี้ งานหนัก เหนื่อยล้า (เกี่ยวกันมั๊ยนี่ 555) สาระ อาจจะมีไม่มาก เพราะตัวเรื่องเน้นโปกฮา แต่ก็ยังแอบแฝงข้อคิดคำพูดดีๆ อยู่เรื่อยๆ ตามสไตล์ซีรีย์ญี่ปุ่นที่เราชอบ ฉากครอบครัวนากาตะ ถึงจะมีความสัมพันธ์พี่สาวแปลกๆไปบ้าง แต่ก็อบอุ่นมากๆ ดูแล้วเข้าถึง ได้บรรยากาศของครอบครัว   บ้านเล็กๆ คุณพ่อคุณแม่น่ารักเป็นกันเอง อิ่มเอมดีค่ะ ชิดะจัง น้องสาว เล่นได้ฮารั่วมากๆ ทำหน้าได้บ๊องๆ เหมือนในการ์ตูน แบบไม่ห่วงสวยเลยทีเดียว แต่ก็ัยังน่ารักอยู่ดีค่ะ หลงรักน้องเลย เล่นได้สมบทมากๆ ยามาดะ ยู คุณพี่สาวก็เล่นได้ หมั่นไส้สุดๆ จะว่าฮาๆก็ฮา จิตก็จิต ถึงจะร้าย แต่ก็เกลียดไม่ลงค่ะ เป็นตัวละครที่แปลกและสร้างสีสันดี คุณปลัดหนุ่ม (Mukai Osamu) เล่นได้คุณชายมากๆ วิ้งออร่าจับสุดๆค่ะ  สุขุมนุ่มลึกดี เป็นชายในฝันเลยทีเดียว แอบหลงรักไปเลยค่ะ นอกจากนั้น ยังมีรักกุ๊กกิ๊กเด็กๆใสๆ ระหว่างคู่น้องด้วยค่ะ ริคุ (Hongo Kanata) เด็กหนุ่ม เพื่อนร่วม รร. ที่เรียกโยโกะว่า คุมาโกะ (เพราะอะไรต้องติดตามค่ะ หึหึ) ที่บังเอิญอยู่คอนโดเดียวกับคุณปลัดหวานใจพี่สาว ทำให้รู้เรื่องราว  คอยพูดคุย เหย้าแหย่คุมาโกะ บางทีก็ตกกะไดต้องช่วยปฏิบัติภารกิจไปด้วย น่ารักดีค่ะ ตอนสุดท้าย ซึ้งมากค่ะ โดยเฉพาะประโยคเด็ดที่โยโกะพูด แอบเรียกน้ำตา ซึ้งไม่ใช่น้อย ความสัมพันธ์ของพี่สาวกับน้องสาวคุ่นี้ถึงจะซับซ้อนยุ่งเหยิง แต่ก็ลึกซึ้งน่ารัก รักกันดีค่ะ (ต้องแอบคิดเข้าข้างตัวเอง 555+) ซีรี่ย์เรื่องนี้ เหมาะสำหรับดูแบบไม่คิดมาก ดูแบบฮาๆๆ เบาๆๆ ได้ยิ้มแก้เครียด   แนวเว่อเกินจริงออกการ์ตูนนิดนึงค่ะ ดูแล้วแฮปปี้สบายใจดีค่ะ รีวิวไม่ค่อยเก่ง สำนวนแหม่งๆนิดนึง แหะๆ แต่รู้สึกสนุกดีค่ะ แอบอยากลองอีกเรื่องนึง Yamada Taro  ถ้ายังไม่มีคนรีวิว ถึงตอนนั้น ขอลองรีวิวดูนะคะ ^v^ ตอนนี้ขอไปดูทบทวนในปึ้กอีกครั้งนึงก่อนค่่ะ //แก้ไขคำผิดค่ะ พิมผิดเยอะเลย >__< แก้ไขเมื่อ 04 มี.ค. 52 00:56:03 แก้ไขเมื่อ 04 มี.ค. 52 00:54:00 แก้ไขเมื่อ 04 มี.ค. 52 00:51:56 จากคุณ : โมกุจัง - [ 4 มี.ค. 52 00:47:45 ]

ความคิดเห็นที่ 49 Hotaru no Hikari Cast Ayase Haruka  เป็น  Amemiya Hotaru Fujiki Naohito เป็น Takano Seiichi (Buchou) Genre   Romance, comedy Synopsis เรื่องนี้สร้างมาจากการ์ตูนชื่อเดียวกันค่ะ Hotaru no Hikari ชื่อการ์ตูนภาคภาษาไทยว่า โฮตารุ ด้วยแสงแห่งรัก ชื่อของนางเอกชื่อ Hotaru ซึ่งแปลว่าหิ่งห้อย และละครเรื่องนี้ก็ฉายในช่วง summer “เมื่อตอนเด็กๆฉันได้ไปเที่ยวบ้านคุณย่า คุณย่าบอกว่าหิ่งห้อยจะอยู่ได้ในที่ๆมีน้ำและธรรมชาติที่เหมาะสม ฉันจับหิ่งห้อยไว้ในมือ แล้วเฝ้ามองแสงของมันที่สว่างขึ้นในมือฉัน จนกระทั่งแสงนั้นค่อยๆหายไป” นี่คือประโยคเปิดเรื่องของ Hotaru เรื่องนี้เล่าถึงนางเอก Hotaru (Ayase Haruka) สาว OL (office lady) วัย 20++ ที่ห่างเหินจากความรักมานาน รักการนอนเกลือกกลิ้งอยู่กับบ้าน นุ่งกางเกงวอร์ม และปล่อยให้บ้านรกมากกว่าจะไปปาร์ตี้ ซึ่งเรียกว่า himono onna หรือสาวปลาแห้งนั่นเอง ชีวิต Hotaru ก็คงจะเป็นอย่างงี้ไปเรื่อยๆ ถ้าไม่บังเอิญมีสองหนุ่มมาเกี่ยวพันกับเธอ หนุ่มแรกก็คือ Takano Buchou (Fujiki Naohito) หนุ่มหล่อผู้จัดการบริษัท interior design สุดเนี้ยบ ที่เธอทำงานอยู่ เขาต้องมาเกี่ยวพันกับเธอโดยไม่ได้ตั้งใจ เมื่อเขาตัดสินใจแยกกันอยู่กับภรรยา และตั้งใจจะย้ายมาอยู่บ้านพ่อแม่ แต่เมื่อมาถึงบ้านเขาก็ต้องตกใจเมื่อพบว่าบ้านรกสุดฤทธิ์ แถมยังถูกลูกน้องสาวในบริษัทมาจับจองไว้อีก หนุ่มคนที่สองคือ Teshima Makoto หนุ่ม designer รุ่นน้องเนื้อหอม ที่เพิ่งกลับมาจากอังกฤษ จู่ๆเขาก็แอบมา kiss  Hotaru ขณะที่เธอหลับอยู่ และทำให้หัวใจเธอหวั่นไหว เรื่องนี้ก็ดำเนินไปโดยที่ Buchou ยอมรับให้ Hotaru อยู่บ้านเดียวกันได้ โดยมีกฎการอยู่ร่วมกันที่เค้าเป็นคนตั้งขึ้น ระหว่างที่อยู่ร่วมบ้านกัน Buchou ก็ถูกดึงตัวมาเป็นที่ปรึกษาด้านความรักให้กับ Hotaru โดยไม่รู้ตัว เค้าต้องทั้งให้คำปรึกษา ให้กำลังใจ รวมทั้งให้ยืมไหล่ ในหลายๆครั้งที่ Hotaru ต้องเผชิญกับปัญหาด้านความรัก สุดท้ายแล้ว Hotaru จะเลือกอะไร ระหว่างความรักที่ทำให้หัวใจเต้นกับหนุ่มที่เธอใฝ่ฝันอย่าง Teshima Makoto หรือ ความรักที่เราสามารถเป็นตัวของตัวเราเอง และรู้สึกสบายใจทุกครั้งทีอยู่ด้วยอย่าง Buchou ต้องติดตามค่ะ My comment                      สำหรับซีรีส์นี้เราขอเรียกว่า feel-good series ค่ะ เพราะดูทีไร ไม่ว่าหัวใจจะเหี่ยวเฉา ซึมเซา ก็จะรู้สึกสดชื่น สดใส สบาย เหมือนแสงหิ่งห้อยในฤดูร้อน ทุกฉากที่ Hotaru คุยกับ Buchou ที่ระเบียงก็จะรู้สึกอบอุ่นหัวใจ ถ้าผู้ชายที่ดูเรื่องนี้ก็คงตกหลุมรัก Hotaru ส่วนผู้หญิงก็คงเผลอใจให้ Buchou อย่างไม่ต้องสงสัยค่ะ ทั้ง อายาเสะ กับ นาโอะ มี chemistry ที่เข้ากันมากๆ ชอบมากในหลายๆฉากๆในเรื่องนี้ค่ะ “ ฮือๆๆๆๆ บุโจว ขอยืมไหล่หน่อยได้มั้ย ” เป็นฉากนึงในเรื่องนี้ที่ Hotaru รู้สึกว่าเธอท้อหมดแรงแล้ว แต่เธอก็ยังมีไหล่ของบุโจวเป็นที่พักพิง หรือตอนที่บุโจวพูดกับภรรยาเก่าถึงเหตุผลที่ Hotaru ทำบ้านรกว่า   “การที่เธอทำบ้านรก เป็นเพราะมันคือการ relax ของเธอ เมื่อเธอ focus เรื่องใดเรื่องหนึ่งแล้ว เธอจะลืมเรื่องอื่นๆไปทั้งหมด ยิ่งเธอทำบ้านรกมากเท่าไหร่ ยิ่งแสดงให้เห็นถึงว่าเมื่อยู่นอกบ้านเธอตั้งใจกับงานที่ทำมากแค่นั้น”  (ซึ้งมากมายเลย เกือบลืมตัวนึกว่าตัวเองเป็น Hotaru ไป ^____^) ทำให้ตอนนึง Hotaru ถึงกับพูดออกมาว่า ดีใจมากเลยที่ บุโจว หายป่วย เพราะสำหรับเธอแล้ว บุโจว ไม่ใช่แค่หัวหน้า หรือ คนที่บังเอิญมาอยู่บ้านเดียวกัน แต่บุโจวเป็นมากกว่านั้น บุโจวคือคนสำคัญสำหรับเธอ แต่สำหรับบุโจวแล้วไม่ง่ายเลยที่เค้าจะแสดงความรู้สึกออกมา เพราะเค้ารับรู้ถึงความรัก และ ความพยายามที่ Hotaru มีให้กับ makoto ทุกครั้งที่มีโอกาสจะพูดอะไรซึ้งๆ เค้าก็แกล้งพูดเรื่องอื่นไปซะงั้น ทั้งที่อยากพูดว่า please don’t forget me กลับพูดไม่ได้ อยากพูดว่า I love you the way you are ก็พูดได้ไม่เต็มที่ สุดท้ายแล้วเค้าก็พูดได้แค่ว่า สำหรับเค้าแล้ว Hotaru คือผู้หญิงของมาโคโตะ เค้าไม่เคยลืมแม้ซักนาทีที่อยู่ร่วมบ้านกับ Hotaru ในโลกนี้จะมีใครซักคนที่รับเราได้อย่างที่เราเป็น ทั้งในส่วนที่ดี และ ไม่ดีของเรา จะมีกีคนที่พูดว่า I love you the way you are แล้วทำได้อย่างงั้นจริงๆ  ถ้าได้พบคนๆนั้นแล้ว ถือว่าโชคดีเป็นที่สุดค่ะ ดูจบแล้วอยากมีใครซักคนมานั่งคุยด้วยที่ระเบียงบ้าน รับฟังเรา กินแตงโม นั่งดูหิ่งห้อย แล้วก็ ฟังเสียงกระดิ่งที่โดนลมพัดไปด้วยกัน แก้ไขเมื่อ 04 มี.ค. 52 07:22:57 จากคุณ : peaceplease (peaceplease) - [ 4 มี.ค. 52 07:16:33 ]

ความคิดเห็นที่ 50 MV Yokogao ของ Aiko  OST. Hotaru no hikari ค่ะ จากคุณ : peaceplease (peaceplease) - [ 4 มี.ค. 52 07:37:45 ]

ความคิดเห็นที่ 51 ^ ^ ^ คุณ peaceplease คะ  ป้าเป็นคนอารมณ์ดี  ดู my boss my hero เข้าไปฮากระจาย แถมแนะให้คนอื่นดูกันอีก มีอะไรเกี่ยวกับกับข้าวกับปลา ถ้าไม่ยากนักป้าก็คงพอจะตอบได้ แต่ห้ามถามเรื่องเบเกอรี่ เข้าไปที่ก้นครัวบ่อยๆ จะได้เคล็ดดีๆ  ที่ก้นครัวทำกับข้าวเก่งกันทุกคนค่ะ มีเคล็ดลับของแต่ละคนมาแชร์กัน เข้าก้นครัวบ่อยๆแล้วจะทำกับข้าวเก่ง ป้าอยากเอารีวิวกับรูปมารวมอยู่ใน คห. เดียวกันจังเลย  เสียดายเมื่อคืนกดพลาดไปหน่อย จากคุณ : ป้าอ้วนมาเอง (เหนียวเนื้อ) - [ 4 มี.ค. 52 10:15:08 ]

ความคิดเห็นที่ 52 รู้สึกผิดยังงัยไม่รู้ค่ะ.. ละอายใจ มาอ่านอย่างเดียว ไม่ได้รีวิว เหมือนเพื่อนๆช่วยกันทำรายงานกันขยันขันแข็ง ส่วนเรานิ่งๆเนียนๆซะ อ่านอย่างเดียว ฮือ.. T_T คือเราดูซีรีย์มาไม่เยอะเท่าไหร่ เรื่องที่ดูแล้ว เพื่อนๆก็รีวิวไปหมดแล้ว ขอโทษคุณbigwores  ด้วยนะคะที่ไม่มีส่วนร่วม เอาเป็นว่าขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนที่รีวิวนะคะ ขอบคุณค่ะ จากคุณ : วัตถุ22ให้ความหวานแทนน้ำตาล - [ 4 มี.ค. 52 12:34:29 ]

ความคิดเห็นที่ 53 Title (romaji): Kazoku Title (English): Family Tagline (English): ~Absence of the Wife, Existence of the Husband~ Genre: Family / Human drama Episodes: 8 Viewership ratings: 11.85(Kanto) Broadcast network: TV Asahi Broadcast period: 2006-Oct-20 to 2006-Dec-8 Air time: Friday 21:00 Theme song: "Everything" by EXILE ซีรีย์เรื่องนี้เป็นซีรีย์ของนักแสดงคนโปรดที่สุดของเรา คือพ่อหนุ่ม ยูทากะ ทาเคโนะอูจิ ที่โด่งดังจาก Beach boys และ With love ที่เลือกเรื่องนี้มารีวิว เพราะห้องซากุระ ไม่ค่อยมีใครพูดถึง เลยคิดว่าคงไม่มีใครเลือกมารีวิวแน่เลย ^__^ Takenouchi Yutaka แสดงเป็น Kamikawa Ryohei Watari Tetsuya แสดงเป็น Saeki Shinichiro Uto Shuusei แสดงเป็น Kamikawa Yuto Ishida Yuriko แสดงเป็น Kamikawa Satomi Gekidan Hitori แสดงเป็น Tsukuno Hitoshi Kimura Tae แสดงเป็น Kinoshita Miho คามิคาว่า เรียวเฮย์ (ยูทากะ ทาเคโนะอูจิ) วัย 35 ที่ทำงานในบริษัทต่างชาติ และมีชีวิตครอบครัวที่มีความสุขดีกับภรรยา (ซาโตมิ) และลูกชาย (ยูโตะ) อายุ 5 ขวบ วันหนึ่งเขาก็ตัดสินใจเปลี่ยนงาน และยื่นใบลาออก เพราะบริษัทที่ทำอยู่ต้องการปลดพนักงานออก และเขาก็มีหน้าที่ไปแจ้งและยื่นใบให้ออก กับพนักงานเหล่านั้น ทำให้เขารู้สึกไม่ดี แต่ก็ต้องทำเพราะเป็นงาน หนึ่งในคนที่ถูกไล่ออกเป็นรุ่นน้องที่สนิทกับเรียวเฮย์ (ซึคุโน ฮิโตชิ)  เรียวเฮย์เลยพยายามหางานใหม่ให้ฮิโตชิ ในวันที่ยูโตะต้องแสดงเปียโน เรียวเฮย์ก็พาฮิโตชิไปสัมภาษณ์งานทำให้มาดูการแสดงของลูกไม่ทัน ทำให้ความอดทนของภรรยา (ซาโตมิ) ที่ต้องออกจากงานสถาปนิกที่ตัวเองรักมาเป็นแม่บ้านเพราะความรัก แต่กลับถูกสามีทอดทิ้งและทำแต่งงาน และตัดสินใจทุกอย่างโดยไม่มีการปรึกษาภรรยา ด้วยเรียวเฮย์มีชีวิตที่ยากจน พ่อเสียชีวิตแต่เด็ก แล้วแม่ก็เสียชีวิตตอนเป็นวัยรุ่น ทำให้มีความคิดว่าการทำงานหนักหาเงินให้ได้เยอะ คือการทำให้ความครัวมีความสุข แต่กลับลืมคิดถึงความรู้สึกของสมาชิกในครอบครัว ดังนั้นซาโตมิ ก็พายูโตะหนีออกจากบ้านไปอยู่อพาร์ทเมนต์ และกลับไปทำงานเป็นสถาปนิก แต่ยูโตะหนีแม่กลับมาอยู่บ้านกับพ่อ เพราะคิดตามประสาเด็กว่าถ้าตัวเองกลับมาบ้าน แม่จะตามกลับมา ในที่สุดเรียวเฮย์ก็ต้องดูแลทุกอย่างในบ้านลำพัง ทั้งๆ ที่ไม่เคยทำมาก่อน ทั้งทำอาหารกล่องให้ลูกไปโรงเรียน และดูแลบ้าน ทั้งนี้ เรียวเฮย์ ได้รับความช่วยเหลือจาก เพื่อนวัย 61 ของยูโตะ คือชินจัง หรือชินอิจิโร อาสาสมัครช่วยดูแลเด็กในโรงเรียนอนุบาลที่ยูโตะเรียนอยู่ ชินอิจิ ก็เป็นหนึ่งในพนักงานที่เรียวเฮย์ยื่นใบลาออกให้ ภรรยาของชินอิจิเสียชีวิตด้วยโรคร้ายหลังจากนั้น และอาศัยอยู่ลำพัง จึงมาเป็นอาสาสมัครช่วยโรงเรียนอนุบาลที่ภรรยาเคยทำอยู่ การอยู่ตามลำพังกับลูก ทำให้เรียวเฮย์ต้องเปลี่ยนงานหลายงาน และต้องทำงานที่สามารถมีเวลาดูลูกได้เต็มที่ ถึงกลับไปยืนขายผลิตภัณฑ์อาหารในซุปเปอร์มาร์เกต ระหว่างนี้ความสัมพันธ์ระหว่างพ่อลูกก็ดีมาก และยิ่งไปกว่านั้นการทำงานบ้านทุกอย่างและดูแลลูกทำให้เรียวเฮย์เข้าใจความรู้สึกของภรรยามากขึ้น และพยายามจะขอกลับไปคืนดี แต่ซาโตมิที่มองเห็นแต่ความบกพร่องของสามี และอยู่กับความอดทนในชีวิตแต่งงานมาตลอด ก็ไม่ยอมและให้เพื่อนที่เป็นทนายความ (ชิโอริ) ดำเนินเรื่องฟ้องหย่า หลังจากดึงดันกันไปมา ในที่สุดเรียวเฮย์ก็ยอมหย่าให้เพราะอยากให้ฮิโตมิไปเริ่มชีวิตตามที่ต้องการ   เรียวเฮย์ได้รับเสนอให้ย้ายไปอยู่สาขาที่ต่างประเทศ เพราะผลิตภัณฑ์ของบริษัทติดตลาดต่างประเทศ ในขณะตกลงจะยอมเซ็นต์ใบหย่าให้ภรรยา ทั้งคู่ตกลงกันพายูโตะไปเที่ยวสวนสนุก ทำให้ซาโตมิรู้ตัวเองว่ายังรักเรียวเฮย์อยู่ ซาโตมิไปตรวจงานที่ไซด์งาน และตกจากอาคารลงมาทำให้ต้องผ่าตัด เรียวเฮย์ต้องยืดเวลาการเดินทางออกไป เพื่ออยู่ดูแลลูก หลังจากซาโตมิหายดีแล้วก็ตัดสินใจว่าจะให้โอกาสเรียวเฮย์อีกครั้ง ซีรีย์เรื่องนี้มีแค่ 8 ตอนจบ เป็นซีรีย์ครอบครัวที่ควรจะดู เพราะได้แง่คิดในหลายๆ ด้าน ที่ซีรีย์ญี่ปุ่นไม่เคยทำให้ผิดหวังในแง่ - ความสัมพันธ์ในครอบครัว - ทำให้เรียนรู้ว่าเงินไม่ใช่ทุกอย่างของชีวิตคู่ ชีวิตคู่ที่ดีต้องการเวลาที่ให้แก่กันและกัน การรับฟังความเห็นของกันและกัน การมีส่วนร่วมกับกิจกรรมทั้งในบ้านและนอกบ้าน - ความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อน - ความช่วยเหลือของเพื่อนๆ  เช่น ชิโอริไม่เคยเจอเรียวเฮย์ เพราะไปเรียนอยู่ต่างประเทศตอนที่สองคนนี้คบกัน เคยได้ยินแต่เพื่อนเล่าความไม่ดีของสามีให้ฟังก็พลอยไม่ชอบเรียวเฮย์ แต่พอได้เห็นความเปลี่ยนแปลงของเรียวเฮย์ที่รักและเอาใจใส่ลูกและครอบครัวทำให้ชิโอริหันมาพยายามช่วยเพื่อนให้คืนดีกัน หรือฮิโตชิ ที่มาเลี้ยงยูโตะให้ที่บ้านในเวลาที่เรียวเฮย์เลิกงานค่ำ และชินอิจิ ที่ช่วยเหลือเรียวเฮย์และยูโตะแก้ปัญหากับการใช้ชีวิตประจำวัน - ความสัมพันธ์ระหว่างพ่อตากับลูกเขย พ่อตาของเรียวเฮย์ ไม่เคยพูดกับลูกเขยเป็น 7-8 ปี ตอนวันแต่งงานก็เรียกชื่อเรียวเฮย์ผิด ทำให้ความสัมพันธ์ไม่ค่อยดี ผู้ชายญี่ปุ่นนี่ปากหนักกันจริงๆ เลย อยากจะพูดฝากฝังให้ลูกเขยดูแลลูกสาวก็อาย รอจนลูกโตแล้วถึงจะกล้าเอ่ยปาก ความเห็นส่วนตัวอีกอย่างคือ ดาราเด็กของญี่ปุ่น แสดงได้สุดยอดจริงๆ ทั้งที่ดูแล้วประทับใจมากก็เห็นจะเป็น Uto Shuusei (Kazoku), Hinata Nanami (Hotman), Yoshida Riko (Shinigami no Ballad,Oh my girl,Mei-chan no Shitsuji), Yagi Yuki (Bara no nai Hanaya) แก้ไขเมื่อ 04 มี.ค. 52 13:39:07 จากคุณ : four seasons in one day - [ 4 มี.ค. 52 12:53:53 ]

ความคิดเห็นที่ 54 ลืมโพสรูป ค่ะ เครดิต บ้านข้าวโพดนะคะ จากคุณ : four seasons in one day - [ 4 มี.ค. 52 13:01:53 ]

ความคิดเห็นที่ 55 ดูๆแล้ว ไม่เห็นมีใครจองเรื่อง ROOKIES เลย ของจองเขียนได้ไหมค่ะ ประทับใจมากมาย ขอ 1 pound of gospel อีกซักเรื่องนะค่ะ ชอบน้องเมะจากเรื่องนี้มากมายอ่ะ แก้ไขเมื่อ 04 มี.ค. 52 13:31:22 จากคุณ : cassecou - [ 4 มี.ค. 52 13:29:03 ]

ความคิดเห็นที่ 56 เพื่อน ๆ หลายคนที่ออกตัวว่าไม่เคยเขียนรีวิว ผมอ่านแล้วประทับใจหลายรีวิวเลยนะครับ เขียนได้น่าอ่านมาก ตอนนี้มีคนเข้ามามีส่วนร่วมกันมาก น่าดีใจครับ ความหวังที่จะมีกระทู้รีวิวภาคสามภาคสี่และภาคต่อ ๆ ไป ก็มีมากขึ้นด้วย .. ขอจองรีวิวอีกซักเรื่องนะครับ ของน้องงักกี้ 7 วันของป๊ะป๋ากับลูกสาว Papa to musume no nanokakan  ขอเวลาซักสองวันครับ จากคุณ : Mad Bull - [ 4 มี.ค. 52 14:55:31 ]

ความคิดเห็นที่ 57 เราจอง jotei the empress นะครับ จากคุณ : jotei - [ 4 มี.ค. 52 15:40:49 A:58.8.110.7 X: TicketID:206970 ]

ความคิดเห็นที่ 58 เริ่มล่ะ เิริ่มอ่านไม่ทัน เยอะแยะมากมายจริง ๆ ^o^ จากคุณ : circlegriff - [ 4 มี.ค. 52 15:42:05 ]

ความคิดเห็นที่ 59 คราวที่แล้วรีบลงลิสต์กระทู้ที่ลงชื่อจองไปหน่อย (กระทู้ที่สามสิบห้าค่ะ)ไม่ได้เช็คอีกรอบ ปรากฎว่าปล่อยไก่ เพราะบางเรื่องลงแล้ว คราวนี้ขอมาอัพเดทอีกรอบ(รวมกระทู้ที่จองเพิ่มนะคะ) เช็คจากอันเก่า มีหลายเรื่องเลยที่เพื่อนๆเข้ามารีวิวแล้ว แต่บางเรื่องยังไม่ได้ลง(โดยเฉพาะของข้าพเจ้าเอง เหอๆ กำลังร่างค่ะ) อันนี้คือที่จองไว้นะคะ (รวมของเก่าที่ยังไม่ได้ลงรีวิวด้วย) Papa to musume no narokakon by Khun Madbull Rookies by Khun Cassecou Yamada Taro by Khun Mokuchan Life and Attention please by Khun Pan -Nyo Engine by Khun Sary Fugoh Keigi part one ,Byakuyako and Mukodono Part one by Meritiana Utahime by Khun ป้าอ้วนมาเอง Hero by Khun Kimurafreek Yasashijikan by Khun Sunny be good ส่วนเรื่องที่เพื่อนๆจองและลงรีวิวไว้แล้วได้แก่ Sasaki Fusai no Jingi Naki by Khun Ninoshingo Oh my girl by Khun Madbull(สองเรื่องนี้เราไม่ทันเห็นค่ะคราวที่แล้ว) Liar Game byMeritiana Bara no nai Hanaya by Khun Radiogirl Just one love by Khun น้ำพริกกินกะปลาทู My boss my hero by คุณป้าอ้วนมาเอง Motokare or My ex boy friend by khun Madbull Hotaru no Hikari by Khun peace please kurosagi by khun circle griff คาดว่าพอมาเปิดกระทู้ดูอีกทีอาทิตย์หน้า คงมีคนมาจองและลงรีวิวเพิ่มแน่ๆ เนื่องจากเพื่อนๆช่วยกันรีวิวหนังเยอะมาก ยังไงเพื่อความชัวร์ลองเช็คดูหนังที่จองอีกทีนะคะ เราเองยังไม่ได้มีโอกาสอ่านงานที่เพื่อนๆเขียนอย่างละเอียดเลย ได้แต่เปิดผ่านๆ เท่าที่เห็นมีหลายเรื่องที่น่าสนใจค่ะ จากคุณ : meritiana (Meritiana) - [ 4 มี.ค. 52 16:18:54 ]

ความคิดเห็นที่ 60 Title (English): ROOKIES Format: Renzoku Genre: Sports drama Episodes: 11 Viewership rating: 14.8 (Kanto) Broadcast network: TBS Broadcast period: 2008-Apr-19 to 2008-Jul-26 Air time: Saturday 20:00 Theme song: Kiseki by GreeeeN Rookies เป็นละครที่มาจากมังงะชื่อเดียวกัน ในฉบับมังงะมีทั้งหมด 23 เล่มเป็นของอาจารย์ Morita Masanori เนื้อหาในละครค่อนข้างจะเหมือนกับมังงะค่ะ แต่มีตัดตัวละครบางตัวไป แต่ก็ไม่ได้ทำให้ละครสนุกน้อยลงค่ะ เค้าเอาเนื้อหาที่ตัดไปแล้วไปไว้ในหนังที่จะออกฉายช่วง Spring ปีนี้ค่ะ เรื่องย่อคร่าวๆนะค่ะ .. แปลมาตรงๆจาก wiki ล่ะ XD เผอิญไม่สามารถสรุปให้สั้นได้ถ้าเป็นเวอร์ชั่นตัวเอง 55   คาวาโต้ โคชิอิ เป็นอาจารย์วรรณคดีญี่ปุ่นคนใหม่ของรร.ฟูตาโกะทามะกาว่า รร.มัธยมที่มีชื่อเสียงไม่ดีนักเนื่องมาจากชมรมเบสบอลที่เต็มไปด้วยนักเรียน/นักเลงและแถมถูกห้ามแข่งเป็นเวลาหนึ่งปีเนื่องจากไปก่อเหตุชกต่อยทีมคู่แข่งในสนามระหว่างการแข่งขัน  คาวาโต้ได้รับมอบหมายจากอาจารย์ใหญ่ให้มาเป็นอาจารย์ที่ปรึกษาชมรมที่นักเรียนที่เหลืออยู่สนใจแต่เรื่อง ผู้หญิง เหล้ายาปลาปิ้ง ประมาณนั้น 55 และทำอะไรไม่เป็นโล้เป็นพาย แต่ด้วยความมุ่งมั่น คำแนะนำและการเคี่ยวเข็ญของคาวาโต้ พวกนักเรียนที่เหลือก็ค้นพบความฝันที่จะไปสู่โคชิเอ็งหรือทัวร์นาเม้นท์การแข่งขันเบสบอลรร.มัธยม แต่หนทางสู่โคชิเอ็งก็ไม่ได้ราบรื่นเลย มีอุปสรรคมากมายที่รออยู่ให้คนดูรอลุ้น ละครเรื่องนี้พูดถึงความฝัน การไล่ตามความฝัน มิตรภาพ และการไม่ยอมแพ้ รวมทั้งการไม่ดูถูกความฝันของคนอื่นค่ะ เป็น Sport Drama ที่ทำออกมาได้ดีมากและสามารถทำให้คนที่ไม่เคยดูเบสบอลหรือคิดว่าน่าเบื่อ เค้าทำให้สามารถเข้าใจง่ายและสนุกกับเรื่องได้ค่ะ แม้ว่าเนื้อหาหลักจะเกี่ยวข้องกับเบสบอลแต่จริงๆคือดราม่า ดูได้ไม่เบื่อค่ะ เรื่องนี้อาจจะดูเหมือนเรื่อง Gokusen ในแง่ที่เป็นเรื่องของอาจารย์ที่ทำทุกอย่างเพื่อนนักเรียน เพราะพระเอกทำทุกอย่างเพื่อให้ลูกศิษย์ทำตามความฝัน แต่เรื่องRookiesออกจะดูจริงจัง(หรือโหด)มากกว่าเพราะตัวละครหลักเป็นผู้ชายทั้งหมด มีผู้หญิงที่เป็นผจกชมรมคนเดียว นักแสดงที่เล่นเป็นนักเรียนก็ทำให้เชื่อได้ว่าเป็นนักเลงจริงๆ เข้าถึงบทบาทกันไปหมดทุกคน .. เค้าเข้าใจหาคนที่มีลักษณะเหมือนตัวการ์ตูนได้ดีค่ะ ตัวละครหลักๆก็มีอาจารย์คาวาโต้ อานิยะเอสตัวเก่งของทีม กัปตันมิโคชิบะ คนหลังนี่นึกไม่ถึงว่าแสดงเป็นมาซูมิเรื่องโนดาเมะมาก่อนเลยล่ะ เป็นซีรีย์ที่ดีมาก เราเสียน้ำตาให้ละครเรื่องนี้ทุกตอน แว๊บนึงนึกว่าตัวเองดูหนังเศร้า 55 แต่จริงๆนี่ไม่ใช่เลย มันซึ้ง มันประทับใจมากกว่า ทั้งเรื่องครู นักเรียน มิตรภาพ … บทเขียนดี นักแสดงก็แสดงดี เพลงก็เข้ากับหนังได้ดี มีตลกแทรกอยู่ด้วย ส่วนเพลง ending track เพราะมากมายและความหมายดีมากๆค่ะ แนะนำค่ะ เพลงนี้มียอดขาย Singles อันดับ 4 ของ Oricon Chart ปีที่แล้วด้วยค่ะ เรื่องนี้มีรางวัลรับประกันเพียบค่ะจาก 58th Television Drama Academy Awards ที่ได้ก็ไล่มาตั้งแต่มี Best Drama, Best Actor (Sato Ryuta as Kawato Koichi), Best Supporting Actor(Ichihara Hayato as Aniya Keiichi), Best Theme Song (Kiseki ของวง GReeeeN), Special Awards (Nikogaku Nine) และ 13th Asian Television Awards: Highly Commended in the Best Drama Series Category แก้ไขเมื่อ 04 มี.ค. 52 18:03:53 แก้ไขเมื่อ 04 มี.ค. 52 16:27:01 จากคุณ : cassecou - [ 4 มี.ค. 52 16:25:32 ]

ความคิดเห็นที่ 61 ลืมรูปค่ะ credit มาจาก http://www.tbs.co.jp/rookies08/ ค่ะ จากคุณ : cassecou - [ 4 มี.ค. 52 16:28:38 ]

ความคิดเห็นที่ 62 ข้อความจากป้าอ้วน  ผู้จอง Utahime   ...........ถ้าให้คอยซัก 2 อาทิตย์จะนานไปมั้ยคะ ยังดูไม่จบเลย เพราะมันกำลังเข้าถึงตอนกดดันคนดู  ป้ายังตัดใจหยิบมาดูต่อไม่ไหว ท่านใดดูจบแล้ว และต้องการรีวิวเรื่องนี้ ไม่ต้องเกรงใจ  ป้ายินดีค่ะ จากคุณ : ป้าอ้วนมาเอง (เหนียวเนื้อ) - [ 4 มี.ค. 52 20:20:09 ]

ความคิดเห็นที่ 63 น้อง คห.27 ฝากให้ จขกท.ลองพิจารณาดูนะครับ " ป.ล. ฝากคุณ จขกท. ทำกระทู้รีวิวหนังด้วยก็ดีนะครับ หนังญี่ปุ่นที่น่าสนใจก็มีหลายเรื่องเลยนะครับ " น่าสนใจนะครับข้อเสนอนี้ เพื่อน ๆ และคุณ bigwore เห็นด้วยมั้ยครับ จากคุณ : Mad Bull - [ 4 มี.ค. 52 22:56:39 ]

ความคิดเห็นที่ 64 (วัตถุ22ฯขอรีวิวบ้าง ... สารภาพเลยว่าเพิ่งเข้าใจความหมายของคำว่ารีวิวเมื่อไม่นานมานี้เองเพราะฉนั้นมือใหม่หัดรีวิวจริงๆค่ะ55+) Drama Details Title: With love Written By : Ban Kazuhiko จำนวนตอน : 12 ประเภท : Romance ออกอากาศ: 1998-04-14 to 1998-06-30 TV Station: Fuji TV Viewership: 23.6% นักแสดง : Takenouchi Yutaka  เป็น  Hasegawa Takashi Tanaka Misato         เป็น  Murakami Amane Oikawa Mitsuhiro    เป็น  Yoshida Haruhiko Fujiwara Norika        เป็น  Imai Kaori Soundtrack and Theme Songs Destiny [My Little Lover] Once in a Blue Moon [Hasegawa Takashi] ถ้าพูดถึงซีรีย์รักโรแมนติกเกี่ยวกับการแอบรักใครสักคนผ่านทางอินเตอร์เนท ..เราเชื่อว่า with love น่าจะเป็นเรื่องแรกๆที่หลายๆคนนึกถึง เพราะซีรีย์เรื่องนี้ถ่ายทอดเรื่องราวเกี่ยวกับคนเหงาสองคน ที่หลงรักในตัวอักษรของกันและกัน แอบส่งความรู้สึกดีๆผ่านมาทางหน้าจอคอมพิวเตอร์ ส่งความรัก...ผ่านมาทางออนไลน์ ... Hasegawa Takashi ชายหนุ่มนักดนตรีที่ยังเจ็บปวดเพราะความรักในอดีต ส่งผลให้เค้าเป็นเหมือนหนุ่มเพลย์บอยที่ดูเหมือนจะเย็นชาและไร้หัวใจ  คบหรือควงหญิงสาวแบบสนองความต้องการทางร่างกายแต่ไม่ใช่ความสัมพันธ์ทางจิตใจ Murakami Amane หญิงสาวพนักงานธนาคาร ที่มีชีวิตแสนจะ..ราบเรียบ เรียบง่าย ธรรมดา แบบที่หญิงสาวชาวบ้านควรจะเป็น (ชวนให้นึกถึง ตัวละครไทย “เรียม” ในนส.ไม่จำกัดนามสกุล ที่เป็นสาวพนักงานกินเงินเดือน พักเที่ยงสั่งข้าวกะเพราไก่ไข่ดาวสุกๆ ประมาณนั้น) แต่นางเอกคนนี้นี่เรียบยิ่งกว่า จืดสนิทยิ่งกว่า - -“ ทั้งสองได้รู้จักกันโดยบังเอิญจากที่ Takashiส่งอีเมลไปผิด เพลง Once in a Blue Moonที่ส่งไปนั้น..ทำให้หัวใจของAmaneที่เคยชินกับความเหงา กลับสัมผัสได้ถึงความอบอุ่น อ่อนโยน อย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน และอีเมลปริศนาฉบับนี้เป็นจุดเริ่มต้นความสัมพันธ์ของทั้งสอง ในโลกออนไลน์ของทั้งสอง มีเพียงชื่อที่ถูกอุปโลกน์ขึ้นมา ความสัมพันธ์ของคุณฮาตะ ( Hasegawa Takashi)  และ ตุ๊กตาไล่ฝน (Murakami Amane) ค่อยๆเริ่มต้นขึ้นทีละเล็กทีละน้อย ถึงแม้ชื่อสมมติของทั้งสองจะเป็นการปิดบังตัวตนที่แท้จริง แต่ตัวอักษรที่ถ่ายทอดออกมา กลับมาจากความรู้สึกจริงๆ   ถ้อยคำแห่งกำลังใจ ตัวหนังสือที่เปรียบเสมือนตัวแทนของอีกฝ่าย มันทำให้หัวใจสองดวงที่อยู่ในโลกของความเหงา และเกือบจะหมดศรัทธาในความรัก กลับมามีชีวิต มีกำลังใจ มีความหมายขึ้นอีกครั้ง ซีรีย์เรื่องนี้สำหรับเราเอง ถือว่าเป็นซีรีย์ในดวงใจเลยค่ะ ส่วนที่ชอบที่สุดของเรื่องคือ ความรู้สึกการรอ... รอ ..รออีเมลจากอีกฝ่าย มันช่างรู้สึกเหมือนเรากำลังคอยการติดต่อจากใครคนหนึ่งที่เรา(คิดว่า) เค้าคนนั้นเป็นคนที่ –ใช่ รึเปล่า อีกทั้งบรรยากาศในเรื่องมันก็ทำให้คนดูรู้สึกตามด้วย ถ้อยคำแต่ละประโยค แต่ละบรรทัด อ่านแล้วมันทำให้หัวใจพองโต เยียวยารักษา และเติมเต็มแรงบันดาลใจ ได้มากมายเหลือเกินค่ะ เดือนเมษายนที่กำลังจะถึงนี้ซีรีย์นี้ก็จะครบ 11 ปีพอดี อาจจะเก่าไปซักหน่อย แต่ซีรีย์เรื่องนี้ขอแนะนำให้คนชอบหนังรักแบบไม่เลี่ยน รักแบบมีลุ้น และค่อยๆซึมซับเปิดรับความรู้สึก--รัก แบบละเลียดทีละนิดๆค่ะ --ดูเรื่องนี้แล้วก็อดคิดไม่ได้ว่า..ล๊อกอินต่างๆที่เราเห็นในห้องนี้ บางทีเราอาจจะเคยเดินสวนกันไปมาไม่รู้กี่ครั้งแล้วก็ได้นะคะ จากคุณ : วัตถุ22ให้ความหวานแทนน้ำตาล - [ 4 มี.ค. 52 23:25:33 ]

ความคิดเห็นที่ 65 มือใหม่หัดรีวิวค่า ผิดพลาดก็ขออภับ เพราะดูมาแล้วก็นานใช่ได้เลย อื่ม... Title: Attention Please Genre: Comedy Broadcast network: Fuji TV นักแสดง Ueto Aya as Misaki Yoko Nishikido Ryo as Nakahara Shota Maya Miki as Mikami Tamaki Aibu Saki as Wakamura Yayoi Uehara Misa as Hirota Saori Koizumi Kotaro as Tsutsumi Shuusuke Kohinata Fumiyo as Sakurada Shinya Otsuka Chihiro as Sekiyama Yuki Nanase Natsumi as Kinoshita Asami Otomo Minami as Higashino Haruka Fueki Yuko as Asou Kaoru เรื่องราวของสาวห้าวจัด มิซากิ โยโกะ ซึ่งเติบโตมากับบรรดาพี่น้องผู้ชายล้วน บ้าจี้ไปกับคำพูดเพื่อนที่ตัวเองแอบชอบที่บอกว่า “ถ้าเธอใส่ชุดเครื่องแบบเคบิน แอทเทนแดนท์ ก็คงดูดีนะ” ก็เลยไปสมัครเป็นแอร์โฮสเตสของ JAL ซะเลย แถมดันสอบผ่านอีกต่างหาก แต่ด้วยความนิสัยสุดโต่งของมิซากินั้น ทำให้คนในคลาสไม่ค่อยชอบเธอเท่าไหร่ แถมยังโดนอาจารย์มิคามิเพ่งเล่ง คอยดุอยู่เสมอ แต่มิซากิก็ไม่ตระหนักถึงสายตาหรือความไม่ชอบใจของคนรอบข้างเลยสักนิด แต่ถึงกระนั้นก็ยังมีเพื่อนอยู่รอบตัวเธอหลายคน ทั้งเพื่อนสนิท วาคามุระ ยาโยอิ กับ เซกิยามะ ยูกิ เพื่อนร่วมชั้นของมิซากิ  เท็ตสึมิผู้ช่วยนักบินหน้าม่อ ที่ต้องการเพียงแค่สวมเครื่องแบบกัปตันให้ดูโก้เก๋และดึงดูดสาวๆ รวมถึง นากาฮาระ โชตะ วิศวกรเครื่องบินพูดน้อย ที่ใฝ่ฝันว่าอยากจะเป็นนักบินแต่ก็เป็นไม่ได้เพราะปัญหาทางสายตา มิซากิ ฝึกไปเล่นไป แถมยังไม่คิดจะสำนึกอีกว่า เคบินแอทเทนแดนท์ดีๆเค้าเป็นอย่างไร จนกระทั่งได้เห็นการทำงานของทีมวิศวกรในโรงจอดเครื่องบินกำลังค้นหาปากกาเพียงแท่งเดียวที่ทีมงานโทรทัศน์ทิ้งไว้ ทำให้มิซากิตระหนักได้ถึงความลำบากหนักหนาของการทำงานบริการ และมีความตั้งใจจริงที่จะเป็นเคบินแอดเทนแดนท์ที่ดีให้ได้...... ไฮไลท์เรื่องนี้อยู่ที่พัฒนาการของจิตใจมิซากิค่ะ จากที่เล่นๆ ดูถูกอาชีพนี้มาตลอดก็เปลี่ยนแนวคิด เปลี่ยนมุมมองใหม่ซะ แม้ว่ายังจะคงไว้ซึ่งนิวัยสุดโต่งอยู่ก็ตาม แต่หลายๆฉากในเรื่องนี้ทำให้เราประทับใจมากถึงมากที่สุด และไม่ใช่แค่มิซากิคนเดียวที่คิดจริงจัง ผู้ช่วยนักบินเท็ตสึมิที่เห็นความพยายามของมิซากินั่นก็คิดจะเปลี่ยนแปลงตัวเองเช่นกัน ในทางกลับกันนิสัยของมิซากิ(ที่ใครๆก็ไม่ชอบ)ก็เปลี่ยนมุมมองของเพื่อนร่วมชั้นเช่นกัน ซีนรักๆ หวานๆเรื่องนี้ไม่ค่อยมีค่ะ อ้าว (ก็เค้าเน้นการฝึกหัดเป็นหลัก) แต่จะหวานก็แอบๆหวานหน่อย ช่างเครื่องโชตะคนเงียบๆพูดน้อย คอยสังเกตและแอบเป็นห่วงมิซากิอยู่เงียบๆ และพยายามหาวิธีทำให้มิซากิสบายใจอยู่เสมอ (แต่ทำไมเดินหนีนางเอกบ่อยจัง 555+)และก็มียาโยอิจังที่ชอบช่างโชตะ พยายามหาทางใกล้ชิดผ่านมิซากิ แต่ปัญหารักวุ่นๆจะเป็นยังไงก็ลองไปดูเองนะคะ อิอิ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่หลายคนอาจจะไม่ชอบเพราะหลายฉากมันดูเมคเกินและการแสดงของอายะ(ฮา) แต่เป็นเรื่องอันดับต้นๆในดวงใจเราเลยค่ะ (เพราะเราเรียนสายงานบริการด้วยละมั้ง) ได้เห็นเค้าทำงานกันของจริง ที่สำคัญเปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับงานบริการไปเลยค่ะ โดยรวมดูแล้วขำก๊ากใช้ได้ค่ะ จะซึ้งก็ซึ้งไปเลย เอาเป็นหนังดูแก้เครียดได้ดีนักแล...... แก้ไขเมื่อ 05 มี.ค. 52 00:07:57 จากคุณ : Pan-Nyo - [ 5 มี.ค. 52 00:05:58 ]

ความคิดเห็นที่ 66 เขียนกันอ่านสนุกและมีเสน่ห์ชวนให้ติดตามมากค่ะ แต่ละเรื่องของแต่ละคนบ่งบอกถึงความประทับใจ ไม่ใช่แค่เล่าเรื่องย่อแต่เหมือนกลั่นเอาความประทับใจออกมาด้วย อ่านแล้วทำให้เกิดกิเลสอยากดูหลายเรื่องเลยจริงๆค่ะ จากคุณ : Stay alivE - [ 5 มี.ค. 52 00:18:26 ]

ความคิดเห็นที่ 67 ออกตัวก่อนหนึ่งเอี๊ยดสสสส์ ว่าซีรีย์เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เดี๊ยนดูนานแล้วและดูหลายรอบ แต่ณ.ปัจจุบันแผ่นหายค่าคุ๊ณผู้โช้มมม ฉะนั้นรีวิววันนี้จึงทั้งรีด ทั้งบีบ ทั้งเค้น ทั้งคั้น และกลั่นออกมาจากความทรงจำ+อากู๋(google)ซะเป็นส่วนใหญ่ ก้อใจมันอยากรีวิวอ่ะนะ ดังนั้น หากมีข้อผิดพลาดประการใดเดี๊ยนก้อกราบขออำภัยท่านทั้งหลายไว้ณ.ที่นี้ด้วยนะค๊า ไม่ทงไม่ทำมันแระงาน หึหึ /////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////// Love Revolution ซีรีย์ที่ทำให้อิช้านทั้งรักและหลง นาโอะ แบบหัวปักหัวปำ Title (English): Love Revolution Format: Renzoku Genre: Romance Episodes: 12 Viewership ratings: 17.3 Broadcast network: Fuji TV Broadcast period: 2001-Apr-09 to 2001-Jun-25 Air time: Monday 21:00 Theme songs: Opening theme: Kiss of Life by Hirai Ken Insert theme: Way to love by Karasawa Miho เรื่องย่อ คุณหมอ เคียวโกะ หญิงสาววัย32ปี ผู้ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างมากมายในด้านหน้าที่การงาน แต่กลับล้มเหลวอย่างไม่เป็นท่าในเรื่องของความรัก ด้วยความที่เธอเป็นคนฉลาด สวย เก่ง เพอร์เฟ็ค จึงทำให้ไม่มีใครกล้าเข้าหาเพียงเพราะคิดเอาเองว่าผู้หญิงอย่างเธอคงไม่ต้องการ"ผู้ชาย"ในชีวิต แต่ใครจะรู้ล่ะว่าลึกๆแล้ว เธอกลับเป็นคนที่อยากมีความรักมากที่สุด วันหนึ่งเมื่อเธอมีโอกาสได้ไปโบสถ์ เซนต์วาเลนไทน์ ในกรุงโรมกับ มาริโกะ เพื่อนสาวแอร์โอสเตส ทั้งสองคนต่างก็อธิษฐานขอความรัก และที่หน้าโบสถ์นั้นเองก้อมีหญิงชราคนหนึ่งได้ทำนายว่า เธอจะได้เจอกับผู้ชายที่จู่ๆก็โผล่มามีความรักให้เธออย่างสุดซึ้งและได้นั่งรถม้าแต่งงานในกรุงโรม...(ฮูยยย โรแมนติค) เมื่อกลับถึงโตเกียว เรื่องราวก็ซับซ้อนมากขึ้นเมื่อชายหนุ่มเจ้าของร้านอาหารอิตาเลี่ยนชื่อดังในโตเกียว ที่คุณหมอ เคียวโกะ เคยช่วยชีวิตไว้เมื่อตอนอยู่บนเครื่องบินได้แนะนำให้รู้จักเพื่อนของเขา ซึ่งเป็นเลขาสมาชิกสภานิติบัญญัติและหนุ่มน้อยบาร์เทนเดอร์ที่หลงใหลในการแสดงละครเวที ส่วนอีกหนุ่มที่เธอบังเอิญได้เจอก็คือนักข่าวเจ้าเล่ห์ที่สามารถทำได้ทุกอย่างและพยายามทุกวิถีทาง เพื่อให้ได้มาซึ่งสกู๊ปข่าวที่ตนเองทำ แม้กระทั่งการ"จูบ" คุณหมอ เคียวโกะ ผู้ซึ่งเป็นเพียงคนแปลกหน้า กลางโรงพยาบาลเพียงเพื่อต้องการรู้ข่าวเกี่ยวกับการเข้าโรงพยาบาลของสมาชิกสภานิติบัญญัติคนหนึ่งเท่านั้น ว้าวๆๆๆ..จู่ๆก็มีผู้ชายเข้ามาตั้ง 4 คนแน่ะ แล้วหนุ่มคนไหนจะเป็นผู้ชายตามคำนายกันล่ะเนี่ย... เนื้อหาของซีรีย์เรื่องนี้ออกจะเป็นแนวผู้ใหญ่มากๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการงานหรือเรื่องความสัมพันธ์ฉันท์คนรัก แต่เนื้อเรื่องและบทพูดหลายตอนที่ฟังแล้วจี๊ดจับใจแบบว่าใช่เลย  เออ...จริงแฮะ โดนว่ะ..เต็มๆ!!! โดยเฉพาะตอนที่ว่า "ความรักก็เหมือนกับการรอแท็กซี่ เวลาที่คอยหรือมองหามันก็ไม่มาซักที ไม่ใช่ว่าเพราะไม่มี แต่เป็นเพราะไม่มีรถว่างต่างหาก ปล่อยให้คนที่รออยู่ร้อนใจ ทั้งที่รอมาตั้งนานแต่ก็ไม่มีว่างซักคัน ในเมื่อไม่มา...ก็คือไม่มา ตอนที่ถอดใจจะคิดเดินกลับ...จู่ๆ...ก็มีรถว่างหลายคันมาจอดอยู่ตรงหน้า" อันนี้จำแม่นเพราะโดนกะตัวเองเข้าอย่างจัง(ตอนที่สมมุติว่าตัวเองเป็นนางเอกของเรื่องนี้ 55+เพ้อเจ้ออีกแระดั๊น) Esumi Makiko เป็นคุณหมอ Asaoka Kyoko  หญิงสาววัย32 ผู้เฝ้ารอความรักอย่างใจจดใจจ่อ Lucky in Game, Unlucky in Love ดูจะเป็นคำที่ใช้ได้ดีกับชีวิตของคุณหมอเคียวโกะคนนี้ เพราะในขณะที่การงานของเธอก้าวหน้าและรุ่งโรจน์ ตัวเธอกลับอับโชคในเรื่องของความรัก แต่ต่อมาเมื่อความรักของเธอกำลังจะไปได้สวย เธอก้อกลับต้องมานั่งเลือกอีกครั้งว่างานกับความรักอะไรมันสำคัญกว่ากัน (ถ้าเป็นดั๊น..ดั๊นเลือกฟามร๊ากกก เพราะจะตามไปนั่งเฝ้าคุณสึกะมันทั้งวันทั้งคืนล่ะงานนี้) Fujiki Naohito เป็น Suga Eiichiro นักข่าวหนุ่มหล่อ เก่ง ฉลาด อ่านยาก มีเสน่ห์ที่แฝงไปด้วยอันตราย ที่สำคัญ คุณสึกะ เป็นคนที่ยอมทำทุกอย่างและทุกทางเพื่อให้ได้มาซึ่งสกู๊ปข่าวที่รวดเร็วและเหนือกว่าคนอื่น บทนี้นาโอะเล่นได้เป็นธรรมชาติมากๆ เทใจให้ไปหมดหน้าตักเลยค่ะ ดูสุภาพปนร้ายนิดๆ เจ้าเล่ห์หน่อยๆ แถมกวนน้อยๆ...อีกต่างหาก แต่ทว่า พอHeยิ้มทีไร(แม้จะย่นจางๆ)ใจมันจะละลายให้ได้ซะทู๊กทีสิน่ะ อะไรมันจะมีเสน่ห์เกินห้ามใจขนาดนั้นฮ๊า นาโอะคุงงง (อวยกันล้วนๆ) ยอมรับทั้งตัวและหัวใจเลยค่ะว่าคาแร็คเตอร์ของคุณสึกะในเรื่องนี้ เหมาะกับนาโอะเป็นที่สุด (โอ้..พระเจ้าจอร์ช Heเล่นได้ยอดมั่กมาก) Yonekura Ryoko เป็น Endo Mariko ม่ายสาวแอร์โฮสเตทเพื่อนซี้ของเคียวโกะ หลงรักยาบุกิข้างเดียว มาริโกะเป็นผู้มีประสบการณ์ด้านความรักขนาดที่เคยแต่งและหย่ามาแล้ว เธอเป็นคนที่คอยให้คำปรึกษาดีๆแก่เคียวโกะ ชนิดที่ฟังแล้วแบบว่า..เออ!!นี่แหละ ใช่เลย เพื่อนซี้ในฝันแบบที่ช้านอยากจะมี เจ๊เรียวโกะสวยมากค่ะเรื่องนี้สวยกว่านางเอกซะอีกแน่ะ Oshio Manabu เป็น Yabuki Mamoru หนุ่มน้อยบาร์เทนเดอร์ผู้หลงใหลในการแสดงละครเวทีและหลงรักคุณหมอเคียวโกะ แต่ทว่า..คุณหมอคนสวยกลับมองเขาเป็นเพียงแค่น้องชายที่น่ารักคนนึงเท่านั้น ส่วนคนที่หลงรักเขากลับกลายเป็นมาริโกะแทน อะไรมันจะอีรุงตุงนังกันขนาดนี้ เนี่ย(เหนื่อยนะเฟ้ย!!!) มานาบุ หล่อค่ะแต่เป็นหล่อแบบเซอร์ๆและทำหน้าที่ได้ดีกับบทที่ได้รับ ดูแล้วเป็นผู้ชายขี้ตื้อซะจนน่ารำคาญและน่าสงสารในบางครั้ง ถึงแม้จะหลงรักคุณหมอแต่ก้ออดใจไม่ให้ไปมีอะไรเพื่อนคุณหมอไม่ได้(มันน่าทุเรศนะ รู้มั๊ย) สรุปได้ว่า ไม่ว่าแผ่นจะอยู่หรือจะหายซีรีย์เรื่องนี้ก็ไม่เคยตายไปจากความทรงจำของอิช้าน ว่าแล้วก็E-mailไปสั่งซื้อชุดใหม่กันดีกั่วค่าพี่น้อง ขอแถมอีกจึ๋งนึง เพลงประกอบละครเรื่องนี้เพราะมากมายโดยเฉพาะเพลง Kiss of Life ที่ร้องโดย Hirai Ken เพราะจับจิตจับใจซะเหลือเกินค่ะ แก้ไขเมื่อ 05 มี.ค. 52 02:30:56 จากคุณ : k-jap (อ้อมแขนอันอบอุ่น) - [ 5 มี.ค. 52 02:12:18 ]

ความคิดเห็นที่ 68 Yasashii Jikan (ช่วงเวลาแห่งไออุ่น) เทราโอะ  อากิระ   เป็น วาคุอิ ยูกิจิ นิโนมิยะ คาสึนาริ เป็น วาคุอิ ทาคุโร่ นางาซาว่า มาซามิ เป็น มินากาว่า อาสึสะ โย คิมิโกะ เป็น คุโจ โทโมโกะ โอทาเกะ ชิโนบุ เป็น วาคุอิ เมกุมิ เรื่องราวของวาคุอิ ยูกิจิ ชายผู้เสียเมกุมิ ภรรยาไปเพราะอุบัติเหตุทางรถยนต์ที่ทาคุโร่ ลูกชายคนเดียวของเขาเป็นคนขับ จากที่เคยทำงานบริษัทใหญ่โตอยู่ต่างประเทศ เมื่อเสียภรรยาไป เขากลับเลือกที่จะทิ้งทุกอย่างไว้ข้างหลัง รวมถึงลูกชายของเขา แล้วกลับไปเปิดร้านกาแฟที่บ้านเกิดของภรรยา เนื้อเรื่องเริ่มต้นหลังจากอุบัติเหตุผ่านไปเป็นเวลานับปี ยูกิจิกลายมาเป็นมาสเตอร์ที่ลึกลับของร้านกาแฟ Forest Clock ... เพราะถึงเขาจะพบปะลูกค้ามากมาย พูดคุย และรับฟังเรื่องราวของผู้คนที่ผ่านเข้ามา แต่เขากลับไม่เคยเล่าเรื่องส่วนตัวของตนเองให้ใครได้รับรู้เลย มีเพียงคุโจ โทโมโกะ เพื่อนสนิทของเมกุมิเพียงคนเดียวเท่านั้นที่รู้เรื่องทุกอย่าง ... และสิ่งที่โทโมโกะรู้อีกอย่าง คือ ทาคุโร่ได้มาทำงานเป็นลูกมือของคนทำเครื่องปั้นดินเผาที่เมืองใกล้ๆที่เธอเป็นคนฝากให้เองกับมืออีกด้วย แต่ด้วยความคิดที่ว่าตนเป็นสาเหตุให้แม่ต้องตาย ทำให้พ่อต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยว ทาคุโร่จึงไม่กล้าไปพบหน้าพ่อ ..... ความน่าประทับใจของเรื่องนี้ อยู่ที่ภาพที่สวยแบบเหงาๆ และการดำเนินเรื่องที่ไม่เร่งรัด จัดจ้าน ไม่ต้องการตัวละครที่เป็น “ผู้ร้าย”ใดๆ ... แต่สีสันของเรื่องนอกเหนือจากคอยลุ้นเล็กๆว่าพ่อกับลูกจะได้เจอกันเมื่อไหร่ คือเรื่องราวของบรรดาลูกค้าของ forest clock ที่มีทั้งชาวเมืองที่แวะเวียนมาทุกวัน และนักท่องเที่ยวที่ผ่านมาบ้างเป็นครั้งคราว ... ที่นั่งหน้าเคาน์เตอร์ของร้าน เหมือนเป็นที่พบปะ เป็นที่ระบาย เป็นแหล่งข่าว ของบรรดาขาประจำ โดยมีมาสเตอร์ผู้เงียบขรึม แต่ก็สุภาพ ใจดี คอยรับฟังและให้ความเห็น คาแรคเตอร์ของมาสเตอร์ในเรื่องนี้ ต่างกับคุณคันบายาชิใน change เป็นอย่างมาก ... แต่พอดีว่าเราไม่เคยดูเรื่องอื่นๆที่เขาเล่นนอกจากสองเรื่องนี้ ก็เลยบอกไม่ได้ว่าคุณภาพการแสดงของเขามากน้อยกว่าเรื่องอื่นๆยังไง ... เอาเป็นว่า ดู change หมั่นไส้,เกลียดคุณคันบายาชิแค่ไหน ดูเรื่องนี้ก็สงสารมาสเตอร์ไปอีกเท่าตัว ส่วนนิโนะ กับคาแรคเตอร์เด็กที่เคยมีปัญหา กลับตัวแล้ว แต่ยังคงเก็บกดความรู้สึกผิดเอาไว้ตลอดเวลา แบบทาคุโร่นี้คงจะเรียกได้ว่าเป็นแนวถนัดของเขาอยู่แล้ว ... ในฉากที่สองพ่อลูกพบกัน ... ไม่มีอะไรตื่นตา หวือหวา ... มีแค่ตัวละครสองตัว ... พูดระบายความรู้สึกที่เก็บมานานให้อีกคนได้รับรู้ ... พอได้นักแสดงที่เล่นได้ “ถึง” ไม่เล่นน้อยไป หรือพยายามเค้นอารมณ์จนเกินพอดี จึงทำให้เป็นฉากที่น่าประทับใจได้ง่ายๆ ..... ที่ขาดไม่ได้อีกอย่าง คือเพลงประกอบ ที่ฟังเมื่อไหร่ ก็ยังเพราะทุกครั้ง ..... สุดท้าย อันนี้ส่วนตัวมาก ... ด้วยความที่เป็นคนชอบกินกาแฟสดอยู่แล้ว หลังจากที่ดูเรื่องนี้จบ เราถึงกับต้องไปหาที่บดกาแฟหมุนด้วยมือแบบที่ร้านforest clock มาไว้ติดบ้านกันเลยทีเดียว ..... ........................................................ ลองเขียนเป็นครั้งแรกคะ ... หวังว่าจะทำให้คนที่ยังไม่เคยดู อยากดูเรื่องนี้ขึ้นมาบ้าง ถ้าใครอ่านแล้วกลายเป็นว่า ไม่ดูดีกว่า ... ก็สมมติว่ายังไม่เคยอ่านแล้วกันนะคะ จากคุณ : sunny be good - [ 5 มี.ค. 52 02:18:42 ]

ความคิดเห็นที่ 69 มึนตาจริงๆ โหย...ถ้าไม่รักกันจริงคงไม่รีวิวให้กันถล่มทลายแบบนี้ เชื่อว่าสุดสัปดาห์ยอดคงขึ้นได้เปิดบ้านใหม่แน่ๆ ขอจอง Crying out Love, in the Centre of the World กำลังนึกถึงชื่อภาษาไทยของenglish patient ในความทรงจำ ความรักอยู่ได้ชั่วนิรันดร์ จากคุณ : เจ้าแก้วพิสดาร ณ เมืองปาย - [ 5 มี.ค. 52 04:31:34 ]

ความคิดเห็นที่ 70 ตอบคุณ mad bull กระทู้รีวิวหนังก็น่าทำครับ เดี๋ยวผมจัดให้ ขอเย็นๆนี้ครับ ผมขอจอง Love Letter ครับ หนังรักที่สุดในดวงใจ จากคุณ : bigwores - [ 5 มี.ค. 52 07:19:33 ]

ความคิดเห็นที่ 71 ขอจอง  Ikebukuro West Gate Park (IWGP) ไว้อีกเรื่องนะคะ จากคุณ : four seasons in one day - [ 5 มี.ค. 52 08:38:44 ]

ความคิดเห็นที่ 72 Last friend มีใครจองรึยังคะ.. แบบไม่น่าเชื่อว่าเรื่องนี้ จะพลาดสายตาเซียนรีวิวท่านอื่นๆไปได้ ตาลายอ่ะค่ะ เยอะจัด ถ้าไม่มีเราจองนะ ^^ จากคุณ : วัตถุ22ให้ความหวานแทนน้ำตาล - [ 5 มี.ค. 52 09:11:52 ]

ความคิดเห็นที่ 73 เขียนแล้วติดใจ ... แอบเอามาลงอีกเรื่อง ... ไม่มีจะมีใครรู้จักเรื่องนี้กันบ้างรึเปล่า ... ไม่เห็นใครพูดถึงเลย .................................................. เรื่อง Yan Papa (Young Father) ออกอากาศ 9 ตุลาคม – 11 ธันวาคม 2002 จำนวนตอน 10 นากาเสะ โทโมยะ เป็น มาบูจิ ยูซากุ คาโต้ ไอ เป็น โคบายาชิ ริสะ โกโตะ มากิ เป็น คาซาม่า คาโอรุโกะ อิชิดะ มิคุ เป็น คาซาม่า ซากุระโกะ โทมาชิโนะ คาสึมะ เป็น คาซาม่า จุนโนะสุเกะ โคเทกาว่า ยูโกะ เป็น คาซาม่า รูริโกะ (รายละเอียดจาก jdorama.com) ต้องสารภาพว่าดูเรื่องนี้เมื่อหลายปีมาแล้วจากวีซีดีที่ยืมเพื่อนมา ดังนั้น การเขียนรีวิวถึงในครั้งนี้ จึงมาจากความทรงจำล้วนๆ ... รายละเอียดต่างๆก็เลยขาดหายไปซะเยอะ ... จำได้แต่อารมณ์ตอนที่ดู บวกกับข้อมูลเบื้องต้นจาก jdorama.com เท่านั้น ตอนต้นของเรื่อง ยูซากุ(โทโมยะ) เป็นลูกมือของ อาจารย์รูริโกะ นักเขียนการ์ตูนที่มีชื่อเสียง แล้วสองคนก็รัก และแต่งงานกัน ... แต่อาจารย์รูริโกะกลับประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตไม่นานหลังจากนั้น (หรืออาจจะในวันแต่ง อันนี้จำไม่ได้จริงๆ)  ทิ้งให้ยูซากุเป็นผู้ดูแลลูกๆของเธอทั้งสามคน ยูซากุที่อายุเพียง 25 ปี ต้องมาทำหน้าที่ “พ่อ” ให้เด็กทั้งสามคน สามวัย คนโตอยู่ม.ปลาย ,คนที่สองม.ต้น และคนเล็กอนุบาล ... ปัญหาแรกที่ต้องเจอ คือไม่ได้รับการยอมรับจากเด็กๆ ... แต่เขาก็พยายามทำทุกอย่างเพื่อให้เด็กๆเชื่อใจ ... ในแต่ละตอน จะเห็นยูซากุคอยช่วย “ลูกๆ” ของเขาแก้ปัญหาส่วนตัว จนเด็กๆเริ่มยอมรับ ... และตัวเขาเองก็ต้องทำความฝันของตัวเอง คือการเป็นนักเขียนการ์ตูนให้ได้ ความน่ารักของเรื่องนี้ที่เราจำได้ดี คือตัวการ์ตูนที่ยูซากุเขียน (เป็นอนิเมะนะคะ ไม่ใช่มังหงะ) เป็นตัวอัศวินที่เดินทางไปช่วยเจ้าหญิง ... ในแต่ละตอนที่เกิดเรื่องต่างๆ ก็จะมีการ์ตูนนี้แทรกอยู่เหมือนจะเปรียบเทียบตัวยูซากุกับอัศวินในการ์ตูนของเขาเอง และตัวผู้ร้ายที่อัศวินต้องฝ่าฟัน กับปัญหาของยูซากุ .... เรื่องนี้อาจจะไม่ใช่เรื่องที่เนื้อเรื่องเข้มข้นอะไร ... แต่ที่เราชอบ คือตัวยูซากุ ที่พยายามทำทุกอย่าง เพื่อคนที่รัก ... ในตอนแรก เขาไม่ได้ทำเพราะรักเด็กๆ แต่รักแม่ที่จากไปแล้วของเด็กทั้งสามมากกว่า ... เมื่อเวลาผ่านไป  ทำให้ยูซากุผูกพันกับเด็กทั้งสามมากขึ้นทุกที ... แม้แต่ตัวเด็กๆที่ตอนแรกพากันต่อต้านยูซากุ ก็ค่อยๆเปลี่ยนมาเชื่อใจ และไว้ใจเขาเพิ่มขึ้นทีละน้อย .......................................... พอนึกถึงเรื่องนี้ขึ้นมา ก็ลองไปหาดูว่ามีใครขายบ้างรึเปล่า ... แต่หาไม่ได้เลย ... เสียดายจัง จากคุณ : sunny (sunny be good) - [ 5 มี.ค. 52 12:33:52 ]

ความคิดเห็นที่ 74 ^ ^ ^ อ่านแล้วก็อยากดูค่ะ แต่ชื่อเรื่องเพิ่งเคยได้ยินเหมือนกัน ยังไงจะลองพยายามตามหามาดูค่ะ ^^ จากคุณ : circlegriff - [ 5 มี.ค. 52 13:30:11 ]

ความคิดเห็นที่ 75 ตอนนี้ผมดูซีรีย์ Yasha อยู่ มาครึ่งทางแล้วแต่ยังไม่ค่อยโดนเท่าไร ถ้าอาทิตย์หน้ายังไม่มีคนมารีวิวเรื่องนี้ ผมจะมารีวิวให้ครับ จากคุณ : Freedom and Justice - [ 5 มี.ค. 52 14:20:39 ]

ความคิดเห็นที่ 76 รีวิวจานด่วน(ประมาณว่าออกแนวเผากันเลยเชียวค่ะ) HERO -- ความหมายที่แท้จริงของ HERO บทโดย --   Fukuda Yasushi, Ootake Ken , Hata Takehiko, Tanabe Mitsuru กำกับโดย -- Sawada Kensaku, Suzuki Masayuki, Hirano Shin, Kamon Ikuo เรตติ้งเฉลี่ย -- 34.03 % เวลาฉาย  -- getsu9 2001-Jan-08 to 2001-Mar-19 ฤดูหนาวปี 2001 ฟูจิทีวีเลือกใช้บริการ คิมุระ ทาคุยะ เข้าสู้ศึกละครประจำฤดูโดยเลือกช่วงเวลานาทีทองอย่าง getsu9 ให้ช่วยดูแล ซึ่งละคร getsu9 หรือ วันจันทร์สามทุ่มนั้นเป็นที่ทราบกันว่าคือ "ไม้เด็ด" ของสถานีฟูจิทีวีเป็นเวลายาวนาน เป็นเหมือนตำนานเล่าขานความสำเร็จของสถานี ละครฤดูหนาวในปีนั้นจึงที่น่าจับตามองอย่างยิ่ง เพราะ ฟูจิทีวีระดมสรรพกำลังทั้งทีมเขียนบท ทีมกำกับ ทีมนักแสดงที่มีชื่อเสียงเข้าเรียกเรตติ้งอย่างเต็มที่และหวังผล ซึ่ง HERO ก็ได้ทำหน้าที่ได้อย่างเต็มความสามารถ และ เต็มเม็ดเต็มหน่วย ทั้งการเติมเต็มความหวังของสถานี และ การจุดประกายแนวคิดให้กับสังคม HERO เป็นเรื่องราวของอัยการจากบ้านนอกคนหนึ่งที่ได้รับคำสั่งย้ายมาทำงานมาสำนักงานอัยการกลางโตเกียว สำนักงานที่มีเกียรติ และ ทรงภูมิ เต็มไปด้วยชนชั้นหัวกะทิ ใช้สมอง และ ความคิด หน้าตาเนื้อตัวเรียบกริบสูทสีดำสนิท สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่เราเห็นจนเจนตาสำหรับผู้ที่ทำงานสายกฎหมาย ภาพลักษณ์ และ สติปัญญา มีความสำคัญ และ ส่งเสริมความน่าเชื่อถือได้พอ ๆ กันค่ะ วันที่อัยการชื่อแปลก คุริว โคเฮย์ ก้าวเข้ามาในสำนักงาน เจ้าถิ่นแต่ละคนก็มีความคิดในใจต่อสมาชิกหน้าใหม่แตกต่างกันออกไป ซึ่งส่วนใหญ่ก็ประมาณดูถูกดูแคลน เนื่องจากรูปลักษณ์ภายนอก รวมทั้งประวัติการศึกษาที่ไม่เข้าขั้น และก็แค่นั้นค่ะ คนใหม่เข้ามาก็ตื่นเต้นกันแป๊บนึง แล้วทุกอย่างก็กลับสู่สภาพปกติในเวลาไม่นาน ต่างคนต่างอยู่ และ ใส่ใจแค่เรื่องของตัวเอง ซึ่งก็เป็นบรรยากาศของ office ธรรมดา แต่ทว่า ... เมื่อประสบพบเจอความไม่เหมือนใคร และ ไม่มีใครเหมือนของคุริวในหลาย ๆ เรื่องแล้ว สำนักงานอัยการกลางโตเดียวที่เดินเรียบเรื่อยเหมือนนาฬิกาเที่ยงตรงกลับเปลี่ยนไปเหมือนนั่งรถไฟเหาะตีลังกายังไงยังงั้น(ฮา) จากงานนั่งโต๊ะที่เหล่าอัยการเคยชิน เมื่อคุริวเข้ามางานอัยการกลายเป็นการค้นหาความจริงเพื่อเป็นกระบอกเสียงให้ผู้เสียหาย เรื่องเล็กน้อยที่เคยมองข้ามกลับกลายเป็นรายละเอียดที่ไม่ยอมให้หลุดรอดสายตา สิ่งใดที่ทำได้เพื่อค้นหาความจริงก็จะทำเพื่อรักษาความยุติธรรมที่เคยได้ปฏิญาณไว้ตามจรรยาสาขาอาชีพ จากความเรียบเรื่อยเบื่อหน่าย สำนักงานแห่งนี้เหมือนมี "ไฟ" ลุกโชนขึ้นมาอีกครั้ง แต่ถ้าใครหวังเห็นความร่วมแรงร่วมใจกันเต็มที่แบบพลังมิตรภาพคงคิดผิดถนัดค่ะ เพราะ HERO นั้นได้จำลองวิถีการทำงานใน office มาให้เราเห็น ดังนั้นในรเะหว่างที่กระบวนการได้เริ่มเปลี่ยนแปลงเหมือนที่กล่าวไว้ข้างต้นก็จะผสานการกัดจิกเสียดสี ตบหัวลูบหลัง ติฉินนินทาพอเหมาะพอประมาณ ระหว่างบุคคลากรในสำนักงาน แถมด้วย affair ต้องห้ามซักนิดหน่อยพอหอมปากหอมคอ (ซึ่งสำหรับคิมุแล้วฮามาก) นอกจากเรื่องหน้าที่การทำงานตามสาขาอาชีพอัยการซึ่งเป็นประเด็นหลักของเรื่องแล้ว  HERO ยังสอดแทรกประเด็นอื่น ๆ ที่เกี่ยวกับการทำงานทั่วไปไว้อีกหลาย ๆ อย่าง ซึ่งต้องมีไว้อย่างพอดี เป็นต้นว่า การไม่ดูถูกการงานอาชีพที่ทำ  ความซื่อสัตย์ ความขยันขันแข็ง  โดยจะนำไปเป็นพล็อตรองในละครแต่ละตอน ส่วนใครหมายใจเรื่องอารมณ์รัก จะมีแต่ประมาณรักนะแต่ไม่แสดงออกค่ะ อย่างไรก็ดี ลองสังเกตสัญลักษณ์ต่าง ๆ ในละครเรื่องนี้ให้ดี เพราะ บางทีก็มีสิ่งอื่นแทนคำว่ารักได้มากกว่าลมปากค่ะ ท้ายสุด และ สุดท้าย อัยการคุริว และ ผองเพื่อน ณ สำนักงานอัยการกลางโตเกียว ได้แสดงให้เราเห็นว่า คำว่า HERO หาใช่การเป็นมนุษย์แปลงร่าง ไม่ได้ต้องมาจากดาว M78 ไม่ต้องมีพลังพิเศษอันใด ไม่...แม้การจบจากมหาลัยดัง เมื่อใดคน(ไม่ว่าวัยใด)รู้จักหน้าที่ของตัวเอง ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด แม้หน้าที่นั้นจะดูเล็กน้อยแค่ไหน   เพราะ สิ่งเหล่านี้จะเป็นฟันเฟืองที่ทำให้สังคมของเราก้าวต่อไปอย่างมั่นคง และ สมบูรณ์ ใคร ๆ ก็เป็น HERO ได้ ขอเพียงลงมือทำค่ะ แก้ไขเมื่อ 05 มี.ค. 52 19:08:35 แก้ไขเมื่อ 05 มี.ค. 52 16:58:37 จากคุณ : kimurafreek - [ 5 มี.ค. 52 16:46:29 ]

ความคิดเห็นที่ 77 LIFE Title (English): LIFE Format: Renzoku Genre: School drama Episodes: 11 Viewership ratings: 12.2(Kanto) Broadcast network: Fuji TV Broadcast period: 2007-Jun-30 to 2007-Sep-15 (ep5 Aug-4) Air time: Saturday 23:00 Theme song: LIFE by Nakashima Mika ละครวัยรุ่นสุดมันส์ สร้างมาจากชื่อเรื่องเดียวกับมังหงะสุดฮิตของอ.เคย์โกะ ซึเอโนบุ เรื่องราวของสาวน้อย ม.ต้น ชีบะ อายุมุ (คิตาโนะ คิอิ) เด็กผู้หญิงธรรมดาๆ มีนิสัยมักจะตามใจเพื่อนเสมอเพราะว่ากลัวจะไม่ได้การยอมรับจากเพื่อน อายุมุสอบเข้า ม.ปลายโรงเรียนเดียวกับชีจังเพื่อนสนิท แต่อายุมุสอบติดคนเดียว ชีจังเลยโกรธมากตัดความเป็นเพื่อนทันที อายุมุเสียใจมาก กลับบ้านมาจึงตัดผมตัวเองอย่างบ้าคลั่ง (ลดความรุนแรงจากในมังหงะที่เป็นการกรีดข้อมือ) พอขึ้นชั้นม.ปลายในโรงเรียนใหม่ ด้วยความที่อายุมุเป็นคนเงียบๆจืดๆ เลยหาเพื่อนไม่ได้ แต่ก็มี อันไซ มานามิ (ฟุคุดะ ซากิ) เป็นคนแรกที่เข้ามาคุยกับเธอ ไม่นานนักสองคนนี้จึงกลายมาเป็นเพื่อนสนิทกัน มานามิเป็นคนน่ารัก คนดังของชั้นเรียนใครก็อยากจะเป็นเพื่อนด้วย มีแฟนชื่อ ซาโกะ คาซึมิ (โฮโซดะ โยชิฮิโกะ) หนุ่มหล่อหัวกะทิของโรงเรียน ที่ใครก็ว่าทั้งคู่เหมาะสมกัน อายุมุเอาใจช่วยให้มานามิและซาโกะไปกันได้ด้วยดี คอยรับฟังปัญหาของมานามิยามทุกข์ใจ   ในห้องเรียนของอายุมุ มีเพื่อนร่วมชั้นคนหนึ่งชื่อ ฮาโตริ มิกิ (เซกิ เมกุมิ) เป็นคนสวยและผลการเรียนดีเยี่ยม แต่ไม่ค่อยเข้าเรียนเท่าไหร่ พวกมานามิไม่ชอบคนๆนี้เอามากๆ เลยหาทางแกล้งโน่นแกล้งนี่สารพัด อายุมุเองก็ต้องอยู่ข้างมานามิเพราะว่ากลัวโดนเพื่อนๆในกลุ่มเกลียด ทั้งๆที่ใจจริงไม่อยากทำเลย เพราะตัวจริงของฮาโตริเป็นคนดีมาก มานามิซึ่งดูออกว่าอายุมุไม่เห็นด้วยเลยคอยแกล้งอายุมุไปด้วย (แต่ยังไม่แรงเท่าไหร่ เบาะๆแค่ให้ล้างจานแทน) มิตรภาพของอายุมุและมานามิเริ่มแตกหัก เมื่อมีครั้งนึงที่มานามิทะเลาะกับซาโกะแล้วพยายามจะฆ่าตัวตาย แต่อายุมุไปช่วยทัน มานามิเลยโกรธอายุมุแล้วต่อว่าอย่างแรง เรื่องเริ่มบานปลายขึ้นเมื่ออายุมุพยายามจะให้ซาโกะคืนดีกับมานามิ แต่กลายเป็นว่าอายุมุได้รู้ตัวจริงของซาโกะว่าเป็นโรคจิตขั้นรุนแรงขัดกับภายนอกอย่างหนัก แถมอายุมุยังโดนลูกหลงจากความโรคจิตของซาโกะไปด้วย แล้วยิ่งไปกว่านั้น อายุมุเองที่ผลการเรียนไม่ค่อยจะดีนัก คุณแม่เลยหาอาจารย์สอนพิเศษให้แต่อาจารย์ที่ว่านั่นก็คือซาโกะ อายุมุยิ่งกลัวหนักเข้าไปใหญ่ พยายามจะขอเลิกเรียน แต่คุณแม่ก็ไม่ยอมฟังเธอเลย การแกล้งอายุมุของกลุ่มมานามิเริ่มต้นขึ้นเมื่อ มีคนเห็นซาโกะกับอายุมุพบกันตามลำพังกับตา (จำไม่ได้เหมือนกันว่าใครไปบ้านใคร) กลุ่มมานามิแกล้งอายุมุสารพัด ทั้งให้กลืนเข็ม (ตามเพลงคำสัญญาที่บอกว่าใครผิดสัญญาต้องกลื่นเข็มพันเล่ม) ฉีกสมุด โยนโต๊ะ ขังในห้องน้ำ และอีกสารพัดจะทำ แถมยังชักชวนให้เพื่อนแกล้งอายุมุกันทั้งห้อง อาจารย์โทดะ ที่ปรึกษาของห้องก็ทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นกับการแกล้งเพราะไม่ค่อยชอบอายุมุอยู่แล้ว มีแต่อาจารย์ฮิราโอกะเท่านั้น ที่เชื่อและช่วยแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง ทว่าพอใกล้จะสืบสาวหาสาเหตุได้แล้ว อ.ฮิราโอกะอันเป็นต้องโดนเด้งออกจากโรงเรียนไปด้วยฝืมือของพ่อมานามิ ใช่ว่าอายุมุจะอยู่ตัวคนเดียว แต่ก็ยังมีฮาโตริคอยอยู่เคียงข้างและให้กำลังใจ รวมถึง โซโนดะ ยูกิ (โฮโจ ทาคาฮิโระ) เพื่อนร่วมชั้นที่เห็นการกลั่นแกล้งมาตลอด และตัวเองก็เคยเป็นคนโดนรังแกมาแล้วเช่นกัน ค่อยๆเห็นความพยายามที่จะสู้กับกลุ่มหัวโจกประจำห้องอย่างมานามิเลยอยากจะช่วยเหลือ มานามิก็ยังไม่เลิกรา ตามรังควาญไม่เลิก ทำทุกๆอย่างทั้งเรื่องร้ายแรงอย่างไปนอนกับนักเลงแฟนใหม่แล้วให้นักเลงที่ว่านั่นเอาตัวอายุมุกับเพื่อน(ไม่แน่ใจว่าเป็นฮาโตริหรือโซโนดะ) ไปขังไว้ในตึกร้างและจุดไฟเผาตึกนั้น ครั้นดีที่อายุมุรอดมาได้..... และก็พยายามต่อสู้กับพวกมานามิต่อไป รวมถึงอาจารย์โทดะที่แอบมีความสัมพันธ์ลับๆกับซาโกะ และซาโกะก็คอยเป่าหูอ.ด้วย จนเพื่อนกลุ่มของมานามิเริ่มไม่เห็นด้วย บางคนก็ชิงลาออกไปเสียก่อนเพราะกลัวมานามิแกล้งเสียเองอย่าง ฮิโรเซะ (โฮชิอิ นานาเสะ) เพื่อนในกลุ่มคนแรกที่โดนมานามิเล่นงานมาก่อนหน้าอายุมุ แล้วพยายามจะกระโดดตึกตายเพราะจะหนีปัญหา โดนมานามิบังคับให้รับผิดว่าเป็นหัวโจกในการแกล้งอายุมุ เพื่อนๆในห้องเองหลายคนเริ่มจะไม่คล้อยตามมานามิซะแล้ว........ เอาแค่นี้ก่อนเดี๋ยวจบเรื่อง 5555+ เรื่องนี้ก็ดูมานานแล้วเช่นกัน ผิดพลาดขออภัยนะคะ ถ้าใครอ่านมังหงะมาแล้วถ้าจะดูอีกก็คิดว่าไม่ผิดหวังค่ะ (ตอนนี้ก็ยังไม่จบอยู่ดี อยู่เล่ม 19 ของญี่ปุ่น เมื่อหร่ายจะออกเล่มใหม่ค้า T^T) แต่เนื้อเรื่องในละครก็ต้องรวบรัดเป็นธรรมดาล่ะเนอะ ขอบอกว่ามันส์มากเรื่องนี้ ดูไม่มีสต๊อป 555+  ตัวละครทุกตัวเล่นดีทีเดียว โดยเฉพาะมานามิ (รับบทโดยซากิจัง) ได้รับรางวัลนักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยมจากเรื่องนี้แหละ มีอีกคนก็ซาโกะคุงที่เล่นได้จิตมาก จิตกว่าต้นฉบับอีก เหอๆๆๆๆ อย่างที่บอกว่าเนื้อเรื่องลดความรุนแรงจากหนังสือไปบ้าง แต่ไม่ลดความมันส์แน่นอน!!! ความประทับใจจากเรื่องนี้บอกได้ไม่หมดค่ะ เพราะมันเยอะมาก ถ้าใครเพิ่งผ่านช่วงเวลาวัยรุ่นหรือเป็นวัยรุ่นอยู่ก็จะอินเรื่องนี้มากๆ (แบบเรา) อายุมุอยากได้การยอมรับจากเพื่อนๆ เลยต้องทำสิ่งที่ตัวเองไม่อยากทำ ความกดดันหลายๆอย่างของบ้านซาโกะจนลูกชายออกมาเพี้ยนผิดกับภายนอก มิตรภาพระหว่างอายุมุกับฮาโตรินี่แน่นแฟ้นเกินกว่าคำว่าเพื่อน การมีจุดยืนเป็นตัวของตัวเอง ที่สำคัญ อยากให้อาจารย์โรงเรียนมัธยมดูมากถึงมากที่สุด เพราะการถูกรังแกจากเพื่อนนั้น ถึงผู้ใหญ่จะมองว่าเป็นเรื่องเล็ก แก้ไขปัญหาได้ง่าย ช่างมันอะไรแบบนี้ แต่มันเป็นเรื่องใหญ่สำหรับเด็กวัยรุ่น การถูกใครซักคน (หรือหลายๆคน) ไม่ต้องการเป็นเรื่องเจ็บปวดที่สุดค่ะ เรื่องนี้แนะนำค่า!!! เพลงประกอบก็เพราะด้วย LIFE โดย นากาชิมะ มิกะ อ้อ.... เรื่องนี้มีฉากรุนแรงปานกลางถึงมากที่สุด ไม่เหมาะให้เด็กๆดูนะคะ จากคุณ : Pan-Nyo - [ 5 มี.ค. 52 17:15:26 ]

ความคิดเห็นที่ 78 สัปดาห์ก่อนเห็นข่าวคดีบนสะพานพระราม 8  แล้วเอาอ.ภาคฟิสิกส์ที่จุฬามาอธิบาย เลยนึกถึงเรื่องนี้   ยังไม่มีใครรีวิวเลย  ขอลองนะคะ Galileo Main Casts Shibasaki     Kou   as    Utsumi   Kaoru Fukuyama   Masaharu  as   Yukawa  Manabu Kitamura    Kazuki    as    Kusanagi  Shunpei Shinagawa    Hiroshi   as    Yuge   Shiro Watanabe     Ikkei    as    Kuribayashi   Hiromi Maya      Miki   as   Jonouchi    Sakurako อุทสึมิ  คาโอรุ  เป็นตำรวจหญิงมือใหม่ที่พึ่งย้ายจากแผนกจราจรมาอยู่แผนกสืบสวน เธอต้องทำงานร่วมกับยูเกะ  ตำรวจรุ่นพี่ที่ยังแขยงศพอยู่  และคุณหมอโจโนะอุจิ  แพทย์นิติเวชที่ดู มีความสุขกับการทำงานกับศพของเธอเสมอ อุทสึมิเจอกับคดีที่อยู่ๆหัวผู้ตายก็ลุกเป็นไฟแล้วเสียชีวิต   ไม่มีหลักฐานชัดเจนว่าทำไมมันถึงเกิดขึ้น   เธอเป็นตำรวจไฟแรงที่ต้องการจะสืบหาความจริงให้ได้  แต่คดีก็ยากเหลือเกิน เธอจึงไปหรึกษา  คุซานางิ  จุนเป  ตำรวจรุ่นพี่ที่เป็นนักสืบชื่อดัง   คุซานางิ  แนะนำให้คาโอรุไปหาเพื่อนเก่าสมัยมหาลัยของเขา  ที่ห้องแล็ปที่ 13 ม.เทโตะ เพื่อนของคุซานางิ คือ  อาจารย์ยุคาว่า  มานาบุ  อาจารย์สอนฟิสิกส์ในมหาลัย   เขาออกจะเป็นคน ที่ดูแปลกๆ  จนได้ฉายาว่า กาลิเลโอเพี้ยน     อุทสึมิพยายามขอร้องแต่อาจารย์ก็ไม่ค่อยสนใจ แต่เมื่อได้รู้รายละเอียดของคดี  ก็ทำให้สัญชาตญาณนักวิทยาศาสตร์ของเขาตื่นขึ้น   “น่าสนุกมาก”  เหตุผลที่ช่วยเหลือของอาจารย์แค่เพียงอยากรู้ว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร และความเชื่อของเขาคือมันเป็นวิทยาศาสตร์ที่พิสูจน์ได้เท่านั้น  ซึ่งต่างกับความเชื่อของอุทสึมิโดยสิ้นเชิง แล้วทั้ง 2 ก็กลายเป็นคู่หูจำเป็นในการสืบคดีที่อธิบายได้ยากทั้งหลาย   เรื่องนี้เป็นแนวสืบสวนที่อธิบายด้วยวิทยาศาสตร์  ที่ทำได้น่าสนใจมากค่ะ บางเรื่องก็เป็นวิทยาศาสตร์ที่สามารถเข้าใจได้ง่ายๆ   เป็นแนวสืบสวนที่ไม่เครียด   นอกจากคดีต่างๆในเรื่องและทริกจะน่าสนใจแล้ว การแสดงของตัวเอกทั้งคู่ก็เข้ากันได้ดีมากค่ะ  อย่างที่หลายๆคนบอก  เคมีในตัวยุคาว่ากับอุทสึมิ เป็นอะไรที่ทำให้เรื่องน่าสนใจขึ้น  ความเป็นคนแปลกๆของอาจารย์ก็ทำให้ดูไปยิ้มไป ในเรื่องที่ดัดแปลงให้มีบทอุทึมิแทนคุซานางิ  แต่ก็ทำให้เรื่องสนุกขึ้น  และคนดูคอยลุ้นอยู่ลึกๆ ถึงแม้ว่าต้องเชื่อหลักฐานการพิสูจน์ทางวิทย์แค่ไหน แต่เรื่องนี้ก็ไม่เคยทิ้งเซนส์ของตำรวจ(เช่นเคย) แถมด้วยแขกรับเชิญดังๆแทบทุกตอนค่ะ  ทั้ง  ป๋าชินโง สแมป, โฮริกิตะ   มากิ,  ฮิโรสุเอะ  เรียวโกะ, ฟุคาดะ    เคียวโกะ,คาราซาวะ  โทชิอากิ(น้าเคนจิ  ใน 20 cent Boy) ฯลฯ ดูไปเรื่อยๆจนจบ  รู้สึกว่า  ใจหายจัง 10 ตอนเอง จบซะแล้ว  ^ ^ แก้ไขเมื่อ 05 มี.ค. 52 19:12:37 แก้ไขเมื่อ 05 มี.ค. 52 17:46:13 แก้ไขเมื่อ 05 มี.ค. 52 17:43:53 แก้ไขเมื่อ 05 มี.ค. 52 17:42:55 แก้ไขเมื่อ 05 มี.ค. 52 17:40:47 จากคุณ : momo lawleit - [ 5 มี.ค. 52 17:39:22 ]

ความคิดเห็นที่ 79 สอบเสร็จแล้วค่า!! มารีวิวต่อ อิอิ "Densha Otoko ~ แชตรักหนุ่มรถไฟ" นำแสดงโดย : Ito Atsushi , Ito Misaki แถมอีกหนึ่งคน Oguri Shun อิอิ เรื่องนี้ดูตอนที่ไอทีวีเอามาฉายค่ะ ตอนแรกก็ว่าคงจะไม่ดู (เลือกหน้าตาพระเอกว่างั้น 5555) แต่ว่าหน้านางเอกสวยมากกกก พอดูตอนแรกเท่านั้นแหละก็ติดเลย แนวดอกฟ้ากับหมาวัดเวอร์ชั่นญี่ปุ่นดีๆนี่เอง ยามาดะเป็นหนุ่มโอตาคุสุดๆ แต่ดันไปปิ๊งสาวงามปานนางฟ้าซาโอริ หรือ คุณเออร์เมสที่ยามาดะและชาวเว็บบอร์ดเรียก ทั้งสองมาพบกันบนรถไฟฟ้า ซึ่งยามาดะมาช่วยซาโอริกำลังโดนชายขี้เมาลวนลาม เธอจึงส่งของมาขอบคุณเป็นชุดเครื่องแก้วยี่ห้อเออร์เมส และนั่นจึงกลายเป็นนามแฝงของเธอ ยามาดะตกหลุมรักและประทับใจในตัวซาโอริเข้าอย่างจัง จึงเข้าไปคุยกับเพื่อนๆในเว็บบอร์ดห้องคนโสดเพื่อขอคำแนะนำต่างๆ กระทู้หนุ่มรถไฟกลายเป็นกระทู้ฮอตในทันที ทุกๆคนพยายามเอาใจช่วยยามาดะอย่างมาก เรื่องนี้จะเห็นความน่ารักของเพื่อนๆในเว็บบอร์ด (เห็นความน่ารักแล้วนึกถึงชาวพันทิปเลย โดยเฉพาะห้องซากุระ อิอิ) บางตอนก็ซึ้งมากกกก แล้วก็ชอบรูปที่หนุ่มชุนพิมพ์เป็นรูปภาพให้กำลังใจยามาดะ จะเห็นปัญหาชีวิตของคนอื่นๆในเว็บบอร์ดแห่งนี้ และกำลังใจที่แต่ละคนมอบให้แก่กัน นี่คือสิ่งที่ชอบที่สุดจากซีรี่ส์เรื่องนี้เลยล่ะค่ะ เนื้อเรื่องจะเห็นปัญหาที่เข้ามาเรื่อยๆ คอยมาขัดขวางความรักของยามาดะ (ทั้งๆที่อุปสรรคในความต่างของทั้งสองก็เยอะอยู่แล้ว) และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือถ้าซาโอริรู้ว่ายามาดะเอาเรื่องส่วนตัวระหว่างเธอกับยามาดะมาเล่าทางเน็ตจะเกิดอะไรขึ้น?? เรื่องราวฮาๆ น่ารักๆ ระหว่างสาวดอกฟ้ากับหนุ่มโอตาคุ และความสัมพันธ์ของชาวโลกไซเบอร์จะน่ารัก น่าประทับใจขนาดไหน อย่าลืมลองดูกันนะคะ ปล.พระเอกเป็นโอตาคุได้เนียนมากๆ ส่วนมิซากิก็สวยได้ใจ!! ดิทๆ แก้คำผิดค่ะ แก้ไขเมื่อ 06 มี.ค. 52 11:46:44 แก้ไขเมื่อ 05 มี.ค. 52 21:12:59 จากคุณ : Satohara Miki - [ 5 มี.ค. 52 21:09:36 ]

ความคิดเห็นที่ 80 ^^ ^^ สอบเสร็จแล้วด้วยคนครับ + จบแล้ว ดีใจมาก ตอนแรกว่าจะมารีวิว Densha Otoko เหมือนกัน เรื่องนี้ประทับใจส่วนตัวเพราะอิโต้ มิซากิ สวยมากๆ แก้ไขเมื่อ 05 มี.ค. 52 21:41:49 จากคุณ : DUIDJK - [ 5 มี.ค. 52 21:40:59 ]

ความคิดเห็นที่ 81 TOKYO TOWER: MOM, ME and sometimes DAD Title (romaji): Tokyo Tower Tagline (romaji): Okan to Boku to, tokidoki, Oton Tagline (English): Mom and Me, and Sometimes Dad Genre: Family, drama Broadcast network: Fuji TV "โตเกียว" เมืองหลวงของญี่ปุ่น สถานที่อันเป็นศูนย์รวมของความฝันของชาวต่างจังหวัด (ประมาณกรุงเทพบ้านเรา) ผู้คนมากมายต่างต้องการเข้ามาอาศัยในโตเกียวเพื่อเติมเต็มความฝันของตัวเอง โดยมี "โตเกียวทาวเวอร์" ตั้งอยู่ ณ ใจกลางกรุง ซึ่งเป็นสัญลักษณ์สำคัญของเมืองที่ไม่เคยหลับ อย่างกรุงโตเกียว แต่ ภาพฝันที่หลายๆคนเคยหวังไว้ว่าจากการมาที่โตเกียวนั้น กลับต้องพังทลายลง เนื่องจากความแตกต่างกันในการใช้ชีวิต, สังคม และการแข่งขันเพื่อเอาตัวให้รอด ผู้ที่เคยมีฝันแต่ไปไม่ถึงฝั่งในโตเกียว เรียกได้ว่า เป็น "ผู้ที่ถูกโตเกียวหักหลัง" อย่างเช่นเดียวกับพ่อของนาคากาวะ มาซายะ ผู้ได้แต่ใช้ชัวิตสำมะเลเทเมา จนกระทั่งผู้เป็นแม่ได้หอบผ้าหอบผ่อนพาลูกของตัวเองกลับไปใช้ชีวิตในบ้าน เกิดที่คิวชู จุดเริ่มต้นของเรื่องเริ่มที่คิวชูนี่เอง ตลอดเวลา 18 ปี นาคากาวะ มาซายะ หรือ มาคุง (แสดงโดย Hayami Mokomichi) อาศัยอยู่กับ แม่ของเขา (แสดงโดย Baisho Mitsuko) ใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายตามวิถีชีวิตของคนท้องถิ่น เมื่ออายุเขาครบ 18 การตัดสินใจครั้งสำคัญของเขาก็เริ่มเมื่อเขาสอบเอ็นทรานซ์ติดในมหาวิทยาลัย ศิลปะที่กรุงโตเกียว และเป็นครั้งแรกของเขาที่ต้องอยู่ห่างกับแม่ ทั้งๆที่เขาเคยรู้สึกรำคาญแม่ของเขามาตลอดเวลา การมาโตเกียว เป็นเหมือนการใช้ชีวิตด้วยตัวเองของเขาครั้งแรก และเป็นการสร้างอนาคตและเติมเต็มความฝันที่เขาเคยวางเอาไว้ ทั้งๆ ที่ในใจของผู้เป็นแม่นั้นไม่อยากห่างจากลูกไปไหน แต่ก็ต้องยอมรับว่าลูกของตัวเองนั้นเริ่มเติบโตไปอีกขั้น และควรออกไปใช้ชีวิตด้วยตัวเองได้แล้ว โดยก่อนไปผู้เป็นแม่ได้เขียนจดหมายไว้ให้ลูก และสอดเงินไว้อีก 10,000 เยน เป็นค่าขนม แต่ แล้ว การใช้ชีวิตที่โตเกียวนั้นมันไม่ใช่เรื่องง่ายกว่าที่มาคุงเคยคิด... ค่าครองชีพที่สูงมาก, การปรับตัวเข้าหาสังคม หรือการเรียน ทุกอย่างเป็นสิ่งที่มาคุงไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะเป็นแบบนี้ เขากลับผลาญเงินที่แม่ให้มาโดยใช้ชีวิตไปเพียงวันๆ เพื่อไม่ให้ใครมองเขาว่าเขากลายเป็นคนขี้แพ้ ที่ถูกโตเกียวหักหลังเหมือนกับพ่อของเขา... โดย หารู้ไม่เลยว่า เงินที่แม่ของเขานั้นหาไม่ได้นั้น ต้องมาจากหยาดเหงื่อแรงงานและความลำบากมากมายเพียงใด เพื่อนำมาส่งลูกเรียน ... ทั้งหมดนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของซีรียส์เรื่องนี้ "โตเกียว ทาวเวอร์ : แม่, ผม และพ่อในบางเวลา" มาจากหนังสือนิยายขายดี ที่เขียนโดย ลิลลี่ แฟรงค์กี้ เรื่องนี้ ดูไปโดยที่ไม่ได้คาดหวังมากเท่าไหร่ เพราะเคยดู Movie มาก่อน แต่ก็ไม่ได้รู้สึกประทับใจกับ Movie มากนัก พอลองเอาฉบับซีรียส์มาดูรู้สึกว่าชอบกว่ามาก เพราะมีรายละเอียดหลายๆจุดที่ Movie ไม่มี ความสัมพันธ์ระหว่างแม่กับลูกดูผูกพันกันมากๆ สุดท้ายโตเกียวทาวเวอร์กลายเป็นอีกเรื่องหนึ่งทีประทับใจมากๆ แถมแม่ในเรื่องนี่นิสัยเหมือนแม่หลายๆคนแน่ๆ เ่ช่น เอาพลาสติกมาห่อรีโมท -_-" เป็นต้น และแอบเห็นด้วยกับคำพูดที่ว่า "แม่ จะเป็นสิ่งมีชีวิตที่น่ารำคาญเวลาอยู่ใกล้ แต่ถ้าอยู่ไกลก็จะคิดถึง" ดังนั้นเรื่องนี้อาจจับใจผู้ชมได้ง่ายๆ เพราะอย่างน้อยทุกคนเกิดก็ต้องมีแม่และพ่อ ไม่ว่าตอนนี้พ่อกับแม่จะอยู่ด้วยกัน หรือไม่ได้อยู่ด้วยกันแต่ครอบครัว สุดท้ายแ้ล้วก็ทิ้งกันไม่ขาดอยู่ดี ประทับใจมากครับ สุดท้าย เพลงประกอบเรื่องนี้ Tsubomi - Kobukuro เพราะมากจริงๆ มาได้ยินอีกทีในเรื่อง Oh! My Girl มีฉากที่นักเรียนเล่นดนตรี เครื่องเป่าอะไรสักอย่าง เป็นเพลงนี้ เลยคิดว่าสงสัยเพลงนี้จะเป็นเพลงระดับตำนานซะแล้ว จากคุณ : DUIDJK - [ 5 มี.ค. 52 22:25:08 ]

ความคิดเห็นที่ 82 ลบครับ กดผิด แก้ไขเมื่อ 05 มี.ค. 52 22:31:18 จากคุณ : DUIDJK - [ 5 มี.ค. 52 22:27:59 ]

ความคิดเห็นที่ 83 ^ ^ ^ เห็นชื่อเรื่อง Tokyo Tower ทีไร ภาพจากหนังเรื่อง Tokyo Tower ที่ Okada Junichi แสดงแว๊บขึ้นมาทุกทีเลย  ^___^ จากคุณ : four seasons in one day - [ 6 มี.ค. 52 08:51:56 ]

ความคิดเห็นที่ 84 เข้ามาขอจอง review เรื่อง Big Wing แล้วกันนะคะ จากคุณ : peaceplease (peaceplease) - [ 6 มี.ค. 52 09:05:00 ]

ความคิดเห็นที่ 85 ขอชื่นชมคุณbigwores สำหรับกระทู้นี้ และชื่นชมทุกท่านที่รีวิวซีรีย์ด้วยคะ เขียนได้ดี น่าอ่านทุกท่านเลยค่ะ ขอบคุณคะ ขอปรบมือให้จริง ๆ จากคุณ : Tikkiko - [ 6 มี.ค. 52 09:19:57 ]

ความคิดเห็นที่ 86 ยังไม่เห็นมีใครรีวิวเรื่องนี้ แล้วก็แอบจองไว้แล้วด้วย ขอเอามาลงเลยนะค่ะ ใครอยากดูซีรีย์ตลกๆ เรื่องนี้ห้ามพลาดค่ะ ขำมากมาย =================== 1-Pound gospel หรือ 1 Pound no Fukuin # Format: Renzoku # Genre: Romance, comedy # Episodes: 9 # Viewership ratings: 10.6 (Kanto) # Broadcast network: NTV # Broadcast period: 2008-Jan-12 to 2008-Mar-08 # Air time: Saturday 21:00 # Theme song: LIPS by KAT-TUN เรื่องย่อ "ฮาทานากะ โคซากุ (เป็นนักชกคนเก่งของสำนักมวยมูไคดะ เค้าชกเก่ง มากแต่ทว่า เขาไม่สามารถควบคุมความอยากอาหารได้ เขากินๆๆๆ ทำให้น้ำหนัก เพิ่ม ก็เลยถูกบังคับให้ต้องแข่งในมวยรุ่นใหญ่กว่า ทำให้ผลออกมาแย่ ซิสเตอร์แองเจล่า เป็นแม่ชีฝึกหัด ตกหลุมรัก โคซากุ เธอคอยให้กำลังใจเขา และทำทุกอย่างที่คิดว่าจะลดน้ำหนักโคซากุได้ เธอรู้ว่าโคซากุรักเธอและ เธอก็ดูเหมือนจะรักเขาเช่นกัน(แม้เธอจะไม่ยอมรับมัน) แต่ทว่า...นางชี...ไม่สมควรจะมีความรัก แล้วรักของเขาทั้งสองจะสมหวังได้อย่างไร....." คำโปรยละครเรื่องนี้เอามาจากพ่อค้าที่เราไปได้แผ่นเรื่องนี้มา 55  เรื่องนี้มีแค่ 9 ตอนเท่านั้นเองค่ะ มาจากมังงะที่มีชื่อไทยว่า"ฤทธิ์หมัดเสือหิว" เป็นผลงานของอาจารย์ Rumiko Takahashi ที่เขียนเรื่อง Ranma 1/2 ที่ทุกคนน่าจะรู้จักกันดีค่ะ ซีรีย์เรื่องนี้สนุกใช้ได้ ตลกและนักแสดงแสดงได้น่ารักมากมาย อย่างคาเมะเล่นได้ตลก หุ่นอาจจะดูไม่เหมือนนักมวยเท่าไหร่ แต่ก็ดูเอาสนุก คลายเครียดได้ดีเลยค่ะ  แบบว่ายิ่งดูยิ่งขำ เรื่องนี้เป็นแบบแนวโรแมนติกคอมมิดี้ เนื้อเรื่องออกจะแหวกแนวเล็กๆ เพราะพระเอกไปหลงรักแม่ชี .. อย่างที่รู้นะค่ะ แม่ชีมีแต่พระเจ้าเท่านั้น เรื่องผู้ชายไม่ใช่ของคู่กัน อิอิ ตอนที่ดูเราพยายามจะคิดให้เหมือนหนังเรื่อง Sound of Music แต่ก็ไม่เหมือนหรอกเพราะนางเอกนี่เป็นนางชีจิงๆ ไม่ใช่แบบว่าอยู่ในคอนแวนต์แบบอินเทริน์ พยายามมองข้ามเรื่องความไม่เหมาะสมไป เพราะเป็นเรื่องแต่ง ก็ดูเอาขำๆ มันๆ น่ารักๆ คาเมะถือว่าแสดงได้ดีเลยแหละ เราดูไปหลายรอบเลยล่ะ ดูกี่ทีก็ขำ XD แก้ไขเมื่อ 06 มี.ค. 52 11:58:27 จากคุณ : cassecou - [ 6 มี.ค. 52 11:55:22 ]

ความคิดเห็นที่ 87 ลืมโพสต์รูปจนได้ credit จาก http://wiki.d-addicts.com/1_Pound_no_Fukuin จากคุณ : cassecou - [ 6 มี.ค. 52 11:57:55 ]

ความคิดเห็นที่ 88 คุณ bigwore ครับ.. ได้เวลาภาคสามหรือยังครับ จากคุณ : Mad Bull - [ 6 มี.ค. 52 17:14:31 ]

ความคิดเห็นที่ 89 โอเคครับ จัดไปภาค 3 จากคุณ : bigwores - [ 6 มี.ค. 52 19:35:16 ]

ความคิดเห็นที่ 90 ขอแตกกระทู้ครับ ภาค 3 กระทู้เก่ายาวพอสมควรแล้ว เพื่อความสะดวกในการอ่านรีวิว จากคุณ : bigwores - [ 6 มี.ค. 52 19:37:28 ]

ความคิดเห็นที่ 91 ไม่รู้ว่าเข้ามาช้าเกินไปรึเปล่า ชอบReview Zettai Kareshi ของคุณ Freedom and Justice มากกกค่ะ ^^ เพิ่งดูเรื่องนี้จบไปตอนช่วงสงกรานต์ เพิ่งรู้นะว่าจะมีSPด้วย ไม่พลาดแน่ ๆ ค่ะ บ่อน้ำตาแตกไปเรียบร้อยสำหรับตอนจบ แต่ก็พอใจตอนจบแบบนี้มากกว่าในการ์ตูนค่ะ (ดูการ์ตูนก่อน แล้วชอบมากกกก เลยตามดูซีรี่ย์ด้วย อิอิ) จากคุณ : Cee++Junno (ceejunno) - [ 23 เม.ย. 52 15:47:16 ]