ความคิดเห็นที่ 1 รายชื่อซีรี่ส์ที่รีวิวภาค 1 รายชื่อซีรี่ส์ที่รีวิวโดยสมาชิกห้องซากุระ 14 sai no haha  (# 21) ANEGO  (# 49) Around 40  (# 28) ASUNARO HAKUSHO [WHITE PAPER]  (# 43) BAMBINO  (# 33) Beautiful life  (# 44) Bloody Monday  (# 11) CHANGE  (# 15) Dragon Zakura  (# 17) Dream again  (# 29) Haken no Hinkaku  (# 63) HANA YORI DANGO 1  (# 58) HANA YORI DANGO 2 (# 70) Hanazakari no Kimitachi e  (# 56) Hokaben [Case Files of a Rookie Lawyer]  (# 54) Honey and Clover  (# 10) Innocent Love  (# 52) Itoshi Kimi E [To the one I love]  (# 45) Itsumo  futari de  [Always the two of us]  (# 51) Kekkon dekinai otoko  (# 20) Kiken na aneki [Dangerous Sister]  (# 8) Long love Letter  (# 24) Maou [The Davil King]  (# 57) Nanase Futatabi  (# 14) Nobuta wo produce  (# 60) Nodame (# 18) One litre of tears (# 66) Operation Love (#23) Osen  (# 41) Ryusei no Kizuna  (# 13) Shibatora  (# 9) Shinigami no Ballad  (# 35) Shukumei (Fate)  (# 3) Team Batista no Eiko  (# 16) Team Medical Dragon 1 [Iryu1]  (# 34) Team Medical Dragon 2 [Iryu2]  (# 48) The Queen of Lunchtime Cuisine  (# 1) Tiger & Dragon  (# 36) Tomorrow  (# 53) Walk My Way (# 67) Yoshitsune  (# 2) http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A7551794/A7551794.html รายชื่อซีรี่ส์ที่รีวิวภาค 2 1-Pound gospel(#86) Attention Please (#65) Code Blue(#19) Densha Otoko ~ แชตรักหนุ่มรถไฟ(#79) Dr. Koto Shinryojo(#26) Family (Kazoku) (#53) Galileo(#78) HERO(#76) Hotaru no Hikari(#49) Just One Love / Love of my Life (#40) Liar Game(#16) Life (#77) Love Revolution(#67) Million  Stars   Falling  from  the  sky(#36) Moto Kare :  My Ex-Boyfriend(#46) My Boss My Hero (#43) News no Onna(Anchor Woman)(#32) Oh my girl (#5) Perfect Woman (#10) ROOKIES (#60) Ruri's Island (#9) Seigi no Mikata (#48) Summer Snow (#13) Tokyo Tower(#81) UNFAIR(#31) VOICE(#14) Wakamono no subete/Stay Gold(#30) With love (#64) Yan Papa (Young Father) (#73) Yasashii Jikan (ช่วงเวลาแห่งไออุ่น)(#68) Zettai Kareshi (Absolute Boyfriend) (#33) http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A7580678/A7580678.html แก้ไขเมื่อ 06 มี.ค. 52 19:50:08 แก้ไขเมื่อ 06 มี.ค. 52 19:48:14 จากคุณ : bigwores - [ 6 มี.ค. 52 19:37:55 ]

ความคิดเห็นที่ 2 Title (romaji): Ganbatte Ikimasshoi Title (English): Give It All Genre: Sports, Romance Episodes: 10 Cast : Suzuki Anne as Shinomura Etsuko (Etsune) Nishikido Ryo as Sekino Hiroyuki (Bu) Uchi Hiroki as Nakata Saburo (ep1-2) Taguchi Junnosuke as Nakata Saburo (ep4~10) Aibu Saki as Yano Rie (Ri) Iwasa Mayuko as Kikuchi Taeko (Dakko) Satsukawa Aimi as Nakazaki Atsuko (Hime) Fujimoto Shizuka as Nakaura Mayumi (Imocchi) Ikeuchi Hiroyuki as Ono Ken Ishida Yuriko as Ono Hitomi ข้อมูลจาก dramawiki ค่ะ เรื่องเริ่มต้นขึ้นที่โรงเรียนมัธยมมัตสึยาม่า เอ็ตสึโกะเด็กสาวแสนจะธรรมดา ไม่มีอะไรโดดเด่น ทั้งเรื่องเรียน และเรื่องอื่น ๆ เมื่อเทียบกับพี่สาวคนเก่ง ผู้เป็นที่รักของพ่อ และครอบครัว จุดเปลี่ยนในชีวิตของเธอ คือวันที่เธอตัดสินใจหนีออกจากบ้าน และในวันนั้น เธอก็ได้รู้จักกีฬาพายเรือ แต่เมื่อเธอได้เข้ามาเรียนในโรงเรียนมัธยมมัตสึยาม่า เธอกลับต้องผิดหวังเมื่อพบว่าที่นี่ไม่มีชมรมพายเรือหญิง งานในชมรมของเธอจึงเป็นได้แค่ผู้จัดการ แต่เธอก็ไม่ละความพยายาม เธอจึงออกประกาศหาสมาชิกตั้งชมรมพายเรือหญิง และนั้นก็เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของเรื่องราวต่าง ๆ มากมาย ทั้งสุข และทุกข์ปะปนกันไป รวมทั้งมีการสอดแทรกคำคม การให้กำลังใจอยู่ในเนื้อเรื่องอยู่เสมอ สมกับชื่อเรื่อง ซูซุกิ อันจัง  สำหรับเรื่องนี้เธอสวมบทเป็นเด็กธรรมดา ที่แสนจะธรรมดาได้ดี ถึงแม้เธอจะหน้าอวบอูมไปบ้าง  สิวข้างแก้มเธอจะแดงเด่นชัดไปนิด แต่พอเวลาเธอแสดงถึงพลังแห่งความพยายามแล้ว เราเห็นแสงระยิบระยับจากเธอ นิชิกิโด เรียว บูเป็นเพื่อนสนิทของเอ็ตสึโกะมาตั้งแต่เด็ก เพราะบ้านอยู่ใกล้กัน และบูนี่ล่ะ ที่คอยเป็นกำลังใจให้เอ็ตสึโกะเสมอ ถึงแม้ว่าคำพูดให้กำลังใจของบู จะฟังแล้วไม่ค่อยเหมือนการให้กำลังใจซักเท่าไหร่ แต่บูก็มักจะมีคำคม ๆ มาพูดกระแทกใจเอ็ตสึโกะเสมอ สำหรับเราแล้วเรื่องนี้เรียวเล่นได้น่ารัก น่าหยิกมาก ๆ ถึงแม้จะบทไม่มากนัก แต่เราชอบการแสดงสีหน้าของเรียวเรื่องนี้มาก ที่จะอดเสียดายไม่ได้ ก็คือบทของนากาตะ ซาบุโร่ เด็กหนุ่มที่ไม่ว่าอะไรก็ทำได้สำเร็จลงโดยง่าย จึง การเปลี่ยนตัวกระทันหัน ทำให้ตัวละครดูไม่ค่อยต่อเนื่องกันเท่าไหร่ ฮิโรกิ อุจิ แสดงเป็นนากาตะ ในรูปแบบของหนุ่มมาดมั่น เย่อหยิ่ง มีเสน่ห์ และออกจะเฉยชากับคนรอบข้าง ทากุจิ จุนโนะสุเกะเอง ในสองตอนแรกที่ได้แสดง (ตอน 4 กับ 5) เขาก็พยายามแสดงให้เป็นไปในแนวทางที่ฮิโรกิเคยแสดง แต่หลังจากสองตอนนั้นแล้ว นากาตะของเขาดูอ่อนโยนขึ้น ซึ่งเข้ากับการแสดงของเขามากกว่า แต่ก็ไม่ได้ทำให้รสชาดของละครเสียไป เรื่องนี้เป็นอีกเรื่องที่ประทับใจ ประทับใจทั้งเรื่องความฝัน ความพยายาม และมิตรภาพ รวมไปถึงความสัมพันธ์ของคนในครอบครัวอีก เป็นซีรี่ย์ที่เรียบ ๆ เรื่อย ๆ แต่ก็น่าประทับใจค่ะ ถ้าใครชอบดูเรื่องมิตรภาพ เรื่องเพื่อน น่าจะชอบกันนะคะ สิ่งที่ชอบอีกอย่างของเรื่องนี้ก็คือ Theme song: Kirakira by Aiko เราชอบไอโกะอยู่แล้ว และเพลงนี้ก็ติดหูดี ฟังแป๊บเดียวก็ฮัม ๆ ตามได้แล้ว ชอบมาก ๆ ค่ะ >< ให้อารมณ์ท้องฟ้า ทะเล แล้วก็มิตรภาพมาก ๆค่ะ แก้ไขเมื่อ 07 มี.ค. 52 05:33:31 จากคุณ : แพม* - [ 7 มี.ค. 52 05:23:02 ]

ความคิดเห็นที่ 3 **รีวิวสองเรื่องติดเลย เพราะรอคนอื่นๆ มารีวิว แต่ไม่มีสองเรื่องนี้ซักที เลยแอบไปปั่นมาแปะอ่ะค่ะ  รีวิวไม่เก่งนะคะ** ชื่อเรื่อง ::Ushi ni Negai wa: Love & Farm ชื่อ Eng :: Wish Upon a Cow: Love & Farm นักแสดง :: Tamayama Tetsuji เป็น Takashimizu Takashi Koide Keisuke เป็น Mano Tohei Nakata Atsuhiko เป็น Wakamatsu Ryuta Aibu Saki เป็น Fujii Ayaka Karina เป็น Suenaga Mihoko Toda Erika เป็น Chiba Kazumi :: ซีรี่ย์ดูสบาย วิวสวยมากกกกกกกกกก >< ชอบตั้งแต่โหลดมาดูแล้ว เลยซื้อแบบมีซับมาดูอีกรอบ 555 เป็น เรื่องราวของนักศึกษาฝึกงานของคณะเกษตร 6 คน ที่แตกต่างกันโดยวิ้นเชิง ถูกส่งไปฝึกงานที่เมืองเล็ก ๆ ในฮอกไกโด จากที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน แถมช่วงแรก ๆ ก็เหมือนจะไม่ค่อยถูกกันเสียด้วยซ้ำ (บางคนนะ) แต่ก็กลับกลายมาเป็น เพื่อนที่ดีต่อกัน แต่ทุกคนก็ได้ต่อสู้เพื่อรักษาเมืองเล็ก ๆ นี้ไว้ แอบมีเรื่องความรักเข้ามา พอเป็นน้ำตาลให้เรื่องหวาน ๆ นิดหน่อย เนื้อเรื่องออกจะเรียบ ๆ เรื่อย ๆ แต่ก็แปลกที่เราอาจจะชอบแนวอย่างนี้เสียละมั้ง แต่ถึงจะบอกว่าเรียบ ๆ เรื่อย ๆ แต่ก็สามารถเรียกน้ำตาจากเราได้อยู่ดี นั่งดูไป อยากไปฮอกไกโด ไปอยู่ในทุ่งกว้าง ๆ กับวัวกับม้า อากาศคงดีมาก ๆ แน่ อยากกินโยเกิร์ตสด ฝีมือโทดะ >< พระเอก เท็ตสึจิ หล่อมากกกกกกก แต่กรุณาอย่ายิ้ม 555 แต่ทึ่งกับการแสดงของเคสุเกะ ที่ไม่ว่าเค้าจะแสดงเรื่องไหน เขาก็ทำให้เราเชื่อว่าเขาเป็นคน ๆ นั้นในเรื่องได้จริง ๆ ถ้าใครอยากดูเรื่องเกี่ยวกับครอบครัว เพื่อน ความพยายาม ความรัก และสามัคคี แถมด้วยวิวสวย ๆ ลองดูเรื่องนี้นะคะ จากคุณ : แพม* - [ 7 มี.ค. 52 05:32:07 ]

ความคิดเห็นที่ 4 Crying out Love, in the Centre of the World Title (romaji): Sekai no Chuushin de, Ai wo Sakebu Genre: Romance, Human drama Episodes: 11, 1 Special Viewership ratings: 15.9 Broadcast network: TBS Broadcast period: 2004-Jul-02 to 2004-Sep-10 Air time: Friday 22:00-22:54 Theme song: Katachi Aru Mono by Shibasaki Kou ในวัย 34 ปี ซากุทาโร่ มัตสึโมโต้(Ogata Naoto) ใช้ชีวิตด้วยความหดหู่และเศร้าหมอง  เขาพกขวดเล็กๆบรรจุเถ้าอัฐิของใครคนหนึ่งไว้ตลอดเวลา เพื่อหวังว่าวันหนึ่งที่จากไปอัฐิของเขาจะรวมกับอัฐของคนๆนั้น ถึงจะเป็นคนเก็บตัวเพียงไร ซากุก็ได้รับไมตรีจาก โคบายาชิ อากิ แม่ม่ายลูก 1 ที่คอยดูแลและห่วงใย และเขายังเข้ากับเด็กชายตัวน้อยได้อย่างดี แต่ซากุไม่อาจรับไมตรีนั้นได้ เพราะแผลในใจของเขา กระทั่งวันหนึ่งเขาได้รับจดหมายจากครูประจำชั้นว่าจะมีการทุบตึกเรียน ซากุจึงได้เดินทางกลับบ้านเกิด พร้อมย้อนนึกถึงความทรงจำที่เขาเฝ้าคิดถึงในอดีต ในวัย 17 ปี ซากุ(Yamada Takayuki) เป็นนักเรียนม.ปลายที่ใช้ชีวิตอย่างสนุกสนานกับเพื่อนรักในหมู่บ้านเล็กๆริมทะเล ในงานศพของอาจารย์ท่านหนึ่ง  ฮิโรเสะ อากิ  (Ayase Haruka) นักเรียนดีเด่นเป็นตัวแทนของนักเรียนกล่าวไว้อาลัย ท่ามกลางละอองฝนที่เริ่มตกลงมาหนาเม็ด นักเรียนต่างวิ่งหนีหาที่หลบฝน แต่อากิยังคงยืนอ่านคำไว้อาลัยต่อไป ซากุก้าวเข้าไปกางร่มให้เธอ นับเป็นจุดเริ่มความสัมพันธ์ของเขาและเธอ ความรักในวัยหนุ่มสาวเริ่มต้นขึ้น ทั้งคู่ฟังรายการวิทยุเดียวกัน บอกผ่านความในใจผ่านเทปคาสเซ็สส์ ใช้ชีวิตแบบคู่รักทั่วไป แม้พ่อของอากิจะไม่เห็นด้วยที่จะให้ลูกสาวมีความรักในวัยเรียน อากิเป็นลูกสาวคนเดียวมีพ่อที่ค่อนข้างเข้มงวด และแม่ที่ไม่สามารถคัดค้านอะไรได้แม้เธอจะสนับสนุนความรักของลูกสาว สำหรับความรักของซากุได้รับอิทธิพลจากปู่ของเขาที่มักจะเล่าเรื่องความรักครั้งแรกในช่วงสงครามก่อนที่จะมาแต่งงานย่าของซากุ มันเป็นความรักที่มิอาจลืมได้อีกรักหนึ่ง อากิ เริ่มมีอาการไม่สบาย เธอหยุดการวิ่งซึ่งเป็นกีฬาที่เธอโปรดปราน ซากุได้นัดกับอากิไปเที่ยวเกาะแห่งหนึ่งกันในช่วงวันหยุด ทั้งสองค้างคืนบนเกาะใช้เวลาร่วมกัน สร้างความทรงจำที่สนุกสนาน อากิและซากุได้หัวเราะดังๆออกมา ก่อนที่อากิจะพบว่าเธอกำลังป่วยด้วยโรคลูคีเมีย ชีวิตที่สดใสในวัย 17 ของอากิได้หยุดลง สิ่งเดียวที่รอเธออยู่คือความตาย เธอย้ายไปอยู่โรงพยาบาลและรับการบำบัด  ในระยะแรกพ่อของอากิได้กีดกันซากุ แต่เพราะความรักและความตั้งใจ ซากุได้รับการยอมรับ เขามาอยู่ที่โรงพยาบาลเป็นเพื่อนเธอ เฝ้าปลอบใจ พูดคุยและให้สัญญาว่าวันหนึ่งทั้งสองจะแต่งงานกัน แต่อาการของอากิมีแต่ทรุดลงเรื่อยๆ ซากุได้ตัดสินใจทำความฝันของเธอให้เป็นจริง ทั้งคู่สวมชุดแต่งงานและถ่ายรูปโดยมีเพื่อนและครอบครัวร่วมอยู่ การรักษาของอากิยังคงดำเนินต่อไป แม้รูปลักษณ์ของอากิจะเปลี่ยนไป แต่ซากุก็ยังให้กำลังใจและปลอบโยน เขาพยายามทำความฝันครั้งสุดท้ายโดยการพาเธอไปยังสถานที่อันศักดิ์สิทธิ์ อูลูลู ดินแดนเทือกเขาสีแดงของออสเตรเลีย  ที่ชาวอะบอริจินส์เชื่อว่าเป็นจุดศูนย์กลางของโลก อากิหมดลมหายใจไปในอ้อมแขน ซากุและพ่อแม่ของอากินำเถ้ากระดูกของเธอไปโปรยปรายยังอูลูลู  ทั้งพ่อและแม่ผู้สูญเสียลูกสาวโปรยปรายเถ้ากระดูกไปกับสายลมด้วยความรัก แต่ซากุกลับแอบเก็บมันไว้และพกมันติดตัวกระทั่งปัจจุบันเช่นเดียวกับเทปคาสเซ็สส์ที่อากิบันทึกความรู้สึกของเธอให้กับซากุ อากิจะรู้มั้ยว่าความรักของทั้งคู่เปรียบเหมือนพันธนาการชีวิตของซากุไว้ Crying out Love, in the Centre of the World หรือ อยากกู่ร้อง บอกรัก...ให้ก้องโลก เป็นซีรีย์เรียกน้ำตา บอกเล่าเรื่องราวสลับระหว่างอดีตและปัจจุบัน 17 ปีที่ชายคนหนึ่งเฝ้าเก็บความรักของเขาไว้ในหัวใจ เฝ้ากักขังใจตัวเองไว้ไม่เปิดรับใครอื่น กระทั่งเกือบจะสูญเสียความรักไปอีกครั้งกับหญิงสาวที่ชื่อเดียวกัน ตอนที่ดูเรื่องนี้จบ ความรู้สึกที่เกิดขึ้นอย่างแรงคือ สงสาร ไม่ใช่สงสารตัวซากุ แต่สงสารพ่อและแม่มากกว่า เพราะว่าที่สุดแล้วซากุได้ปล่อยอากิให้ลอยไปตามลม และปล่อยให้หัวใจเปิดรับคนใหม่ เขาพร้อมจะมีชีวิตใหม่ สร้างครอบครัวใหม่ แต่กับพ่อแม่ผู้สูญเสีย ทำได้เพียงนั่งกินข้าวเหงาๆกันสองคนบนเขื่อนที่ลูกสาวชอบมานั่ง ความเหงาของคนแก่ 2 คน มันกระแทกใจอย่างแรงจริงๆ ยอมรับว่าฉากกินข้าวบนสันเขื่อนทำให้น้ำตาซึมได้ ซีรีย์เรื่องนี้ ถือเป็นการพบกับครั้งแรกของยามาดะ ทาคายูกิและ อายาเสะ ฮารุกะ แม้จะมีเสียงลอยมาว่าพระเอกหน้าแก่ (555) แต่ยามาดะทำให้เราเชื่อมั่นในความรักของซากุ แม้จะเป็นคนเรื่อยเฉื่อย คิดอะไรได้ช้า ไม่มีความโดดเด่นในโรงเรียน แต่ก็มีความมุ่งมั่นและพยายาม  ถ้าถามถึงความเชื่อ จะมีใครเชื่อบ้างว่าความรักแบบซากุมันมีจริงด้วยหรือ เด็กหนุ่มคนหนึ่งจะยอมฝังตัวเองไว้กับอดีตนานได้มากขนาดนี้เชียวเหรอ มีชีวิตอยู่กับของ 2 สิ่ง อัฐิกระดูกกับเทปคาสเซ็ตต์เท่านั้นหรือ  แต่หากใครคนนั้นคืออากิ เด็กสาวที่เปรียบเสมือนจูเลียต สวย เก่ง ทำอะไรก็ดูดี มันก็ไม่น่าแปลกที่ซากุจะจมปลักกับอดีต ความรักของทั้งคู่ใช้เวลาไม่นาน ไม่ได้ซาบซึ้ง โรแมนติก ไม่ได้หวานเชื่อม แต่ใช้ความเข้าใจ เล่าความรู้สึก ความฝัน ผ่านสถานที่งดงามของเมืองริมทะเลแห่งนี้ นอกจากตัวละครเด่น 2 คน ตัวละครตัวอื่นก็มีอิทธิพล ที่ให้รักของซากุและอากิ ยืนนาน ครอบครัว เป็นสิ่งสำคัญของชีวิต ครอบครัวซากุคือครอบครัวที่ประกอบไปด้วย พ่อ แม่ น้องสาวและปู่ ทั้งยังมีเพื่อนซี้คบหาตั้งแต่เด็ก ต่างเข้าใจกันและกัน  มีคนขายทาโกยากิเป็นเพื่อน (ห่างๆ) มีปู่เป็นแรงผลักดันทางความคิดที่สำคัญ ส่วนอากิ บ้านเธอค่อนข้างมีฐานะ ใช้ชีวิตเหมือนคุณหนู พ่อที่ขีดเส้นทางเดินไว้ให้ แม่ที่ไม่มีปากเสียง อากิพยายามยิ้มรับอาการป่วยแม้มันจะทำใจได้ยาก  เธอใช้ชีวิตในห้องปลอดเชื้อ  พยายามทำตัวให้รื่นเริงเวลาเพื่อนมาเยี่ยม และบางครั้งเธอต้องเป็นคนปลอบใจและคอยให้กำลังใจซากุด้วยซ้ำ เพราะความแข็งแกร่งด้านจิตใจนี่เอง ในความเห็นส่วนตัว ตัวละครที่ดึงดูดเรานอกจากยามาดะ ทาคายูกิ คงเป็นมิอูระ โทโมคาซุ ผู้รับบทพ่อของอากิ พ่อที่เข้มงวด ตั้งความหวังไว้กับลูกสาวคนเดียว ไม่ใช่ไม่รักลูกสาว แต่เพราะรักมากเกินไปต่างหาก ท้ายสุดเขาเป็นส่วนหนึ่งในการปลดปล่อยความรู้สึกของซากุ คำขอบใจและคำกล่าวที่ว่า เธอทำดีที่สุดแล้ว ขอบใจที่รักลูกสาวชั้นได้มากขนาดนี้เปรียบเหมือนกุญแจไขล็อคใจของซากุ  ถึงเวลาที่เขาควรจะมีชีวิตใหม่ พ่อของอากิได้มอบสมุดเล่มหนึ่งซึ่งอากิได้เขียนความในใจถึงซาคุโดยที่เธอไม่มีโอกาสมอบให้เขาก่อนที่เธอจะจากไป ซาคุเปิดอ่านสมุดเล่มนั้นโดยตลอด โดยมีใจความตอนท้ายว่า..“ หากวันหนึ่งเธอมองไปแล้วไม่เห็นฉัน .. อย่าตกใจ เพราะฉันไม่ได้หายไปไหน .. ฉันอยู่ในตัวของเธอไง เธอจึงมองไม่เห็นฉัน.. ขาของเธอคือ ขาของฉัน.. ตัวของเธอคือ ตัวของฉัน.. ไม่ว่าจะที่ไหนฉันอยู่กับเธอเสมอ.. พยายามต่อไปนะ ซากุ ” ได้ดูเรื่องนี้แล้ว จะเชื่อว่า ในความทรงจำ ความรักอยู่ได้ชั่วนิรันดร์ (จริงๆ) เกร็ดภาพยนตร์ sekai no chuushin de, ai o sakebu เป็นนวนิยายขายดีที่สุดของญี่ปุ่น Ayase Haruka  ได้ถูกคัดเลือกจากผู้ที่เข้ารับการคัดเลือกทั้งหมด 723 คน เพื่อมารับบทอากิและเธอลงทุนโกนศีรษะจริง ๆ ทำตัวเองให้ผอม เพื่อให้สมจริงกับบทอากินางเอกของเรื่องที่เป็นโรคลูคิเมีย และเพราะความสำเร็จของCrying out Love, in the Centre of the World ทำให้นักแสดงนำทั้ง 2 คนและทีมงาน คนเขียนบท ได้กลับมาพบกันอีกครั้งในซีรีย์ดรามายอดเยี่ยม Byakuyako - พระอาทิตย์เที่ยงคืน นอกจากนี้ยัง คว้ารางวัลมากมายจาก Television Acadamy Awards ครั้งที่ 42  ทั้งละครดีเด่น/นักแสดงนำชาย/นำหญิง/เพลงประกอบ ฯลฯ จากคุณ : เจ้าแก้วพิสดาร ณ เมืองปาย - [ 7 มี.ค. 52 09:59:26 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ขออนุญาตย้ายไป Rep ล่างนะครับ แก้ไขเมื่อ 07 มี.ค. 52 15:11:55 จากคุณ : ที่จุดหมาย ยังมีสายรุ้ง - [ 7 มี.ค. 52 15:09:16 ]

ความคิดเห็นที่ 6 เพิ่งกลับมาจากญี่ปุ่นครับแฮะๆ เรื่องหลักๆก็มีคน Review ไปหมดแล้วงั้นจะหาเรื่องที่ยังไม่มีคน Review ถึงแต่ผมชอบก็ละกันนะครับ Majo No Jouken (Forbidden Love) รักต้องห้าม Title (romaji): Majo no Jouken Also known as: Witch's requirement / Forbidden love Genre: Romance Episodes: 11 Viewership ratings: 29.5% Broadcast network: TBS Broadcast period: 1999-Apr-08 to 1999-Jun-17 Theme Song: First Love by Utada Hikaru Producer: Yagi Yasuo Director: Nanba Kazuhiro, Doi Hiroyasu Script : Yukawa Kazuhiro นำโดยนักแสดงชื่อดัง มัตสึชิม่า นานาโกะ และ ทักกี้ ทากิซาว่า ฮิเดอากิ เป็นซีรี่ส์ที่ค่อนข้างดัง และ แรง !!!! เพราะเป็นเนื้อหาของรักต้องห้ามที่สังคมไม่ยอมรับ และคงไม่มีวันได้ฉายในฟรีทีวีเมืองไทยเป็นแน่แท้ (ซึ่งก็แปลกดี เพราะก็เป็นเรื่องที่สังคมไม่ยอมรับอยู่แล้ว แต่ฉายที่ญี่ปุ่นได้แต่นึกภาพตอนฉายในฟรีทีวีเมืองไทยไม่ออกเลยจริงๆ สงสัยเพราะคนไทยเรามีวิจารณญาณน้อยล่ะมั้ง ) เรื่องย่อแบบไม่สปอย เป็นเรื่องเกี่ยวกับมิจิ ฮิโรเสะ อาจารย์สอนวิชาคณิตศาสตร์ในโรงเรียนมัธยมซึ่งมีคู่หมั้นอยู่แล้วและกำลังจะแต่งงานกัน แต่ก็ได้ไปพบกับ ฮิคารุ คุโระซาว่า โดยบังเอิญ ซึ่งต่อมาได้รับรู้ต่อมาว่า ฮิคารุ เป็นเด็กนักเรียนใหม่ที่เพิ่งย้ายเข้ามาในห้องซึ่งมิจิเป็นครูประจำชั้น ความกดดันทางสังคมทำให้ทั้งสองคนเริ่มมีความรู้สึกดีๆ ให้แก่กันจนก่อตัวเป็นความรักต่างวัย และเป็นรักต้องห้ามในสังคมระหว่างอาจารย์กับลูกศิษย์ จนเกิดปัญหาขึ้นหลายอย่างกับคนรอบข้างของทั้งคู่ มิจิต้องละทิ้งทุกอย่างทั้งคู่หมั้น ครอบครัว และหน้าที่การงาน และยังถูกตราหน้าจากสังคมมากมาย [วิจารณ์ด้วยความเห็นส่วนตัว] เรื่องนี้เป็นซีรี่ส์เกี่ยวกับความรัก แต่ว่า !!!!! เป็นความรักต้องห้ามที่แสนจะบีบคั้นหัวใจคนดู คนดูจะดูด้วยความรู้สึกขัดแย้งในใจตลอดเวลาว่าสิ่งที่เห็นนี่มันเป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้วหรือ ? จะเชียร์พระเอกกับนางเอกดีไหม ? บทก็แสนที่จะกดดัน และทำให้ต้องอุทานออกมาว่า แรง !!!!!!! หลายครั้ง เพราะหลายฉากในเรื่องนี้มันช่าง แรง !!!!!!! เสียจริงๆ ละครออกแนวเครียด มืดมน กดดัน แต่ก็มีเรื่องรักๆ ให้ชุ่มชื่นหัวใจทุกระยะ ได้ยินเพลง First Love ของฮิกกี้มานาน แต่ก็ไม่เคยรู้สึกว่ามันเพราะขนาดนี้ จนมาฟังเพลงนี้ในเรื่องนี้  เป็นอีกครั้งที่ผมรู้สึกว่าความสามารถทั้งการร้องและการแต่งเพลงของฮิกกี้มันเลยระดับเอเชียไปแล้ว จะว่าไปความดังของฮิกกี้ เรื่องนี้ก็มีส่วนช่วยอยู่เหมือนกันนะ เพราะเรื่องนี้ดัง เพลงก็เลยดังตามไปด้วย สิ่งที่ชอบ บทที่กดดัน มุมกล้องและการจัดแสงที่ยอดเยี่ยม การแสดงระดับเทพของตัวละคร เป็นการสื่อถึงความรักต้องห้ามที่ไม่มีใครกล้านำเสนอออกมาตรงๆ และความ แรง !!!!!!! ของภาพและบท ซึ่งบางอย่างเล่นเอาสะดุ้งเลยทีเดียว สิ่งที่ไม่ชอบ ความไม่สมเหตุสมผลในบางจุด และจุดเริ่มต้นของความรักของอาจารย์สาว ดูจนจบก็ยังงงๆว่า อะไรที่ทำให้อาจารย์หลงรักลูกศิษย์ตนเองได้ขนาดนี้ แต่มันก็สมเหตุสมผล ตรงที่ความรักมันไม่จำเป็นต้องมีเหตุผลนี่แหล่ะ งงไหม อิอิ สรุป เป็นซีรี่ส์รักๆที่ค่อนข้างเครียด และลุ้นมีอารมณ์ร่วมไปกับตัวละครตลอดเวลา เกิดความขัดแย้งในใจแต่ก็ให้ข้อสรุปที่ดี ใครที่เป็นคอซีรี่ส์แนวเครียดๆ แต่มีฉากกุ๊กกิ๊กมีความรักที่ชุ่มฉ่ำ ฉากอาจจะดูหม่นๆไปซักนิด แต่เทคนิคการใช้แสง และมุมกล้องทำได้ดีมากๆ รวมกับฝีมือการแสดงระดับเทพของนักแสดงทั้งตัวหลักและตัวประกอบทุกคน แนะนำให้ดูครับเรื่องนี้ แต่ก็แนะนำว่าควรจะอายุ 18 ขึ้นไปนะครับ เพราะเรื่องนี้มัน  แรง !!!!!!! จริงๆครับ ปิดท้ายด้วย dorama trailer จากเว็บข้าวโพคครับ อาจเป็นรักต้องห้าม แต่เพราะเขา เธอถึงเชื่อมั่น ไม่ว่าเธอจะต้องสูญเสียทุกอย่างหรือไม่... ครูสาว และนักเรียนหนุ่ม ความรักของพวกเขาถูกสังคมในโรงเรียนและสื่อโจมตี ชื่อเสียงของเธอพังยับเยิน นี่คือเรื่องราวของ "การไล่ล่าแม่มดยุคใหม่" และคู่รักที่กล้าค้นหาความสุข... ปล.ว่าจะตั้งกระทู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ที่ลงรายละเอียดและการวิเคราะห์ขึ้นไปอีก ตอนนี้เขียนคร่าวๆก่อนละกันครับ จากคุณ : ที่จุดหมาย ยังมีสายรุ้ง - [ 7 มี.ค. 52 15:12:21 ]

ความคิดเห็นที่ 7 To Heart พลังรัก Title (romaji): Koishite Shinitai Also known as: To Heart Genre: Romance Episodes: 12 Broadcast network: TBS Broadcast period: 1999-Jul-02 to 1999-Sep-17 Theme song: To Heart by KinKi Kids / Life by Des'ree (opening) เป็นเรื่องเกี่ยวกับโทโกะ มิอุระ(Fukada  Kyoko )สาวน้อยที่ไปหลงรักนักมวย (Domoto Tsuyoshi วง KinKi Kids) เป็นเรื่องรักกุ๊กกิ๊กๆ ที่น่ารักดูแล้วสดชื่น แต่ก็มีเศร้าเป็นบางเวลาครับ มีเรื่องราวของชีวิตนักมวยเป็นเรื่องรอง ที่ต้องฝึกซ้อม จำกัดอาหาร และพบปัญหาการบาดเจ็บ ซึ่งแม้จะมีอุปสรรคมากแค่ไหนแต่ด้วยพลังแห่งรักก็ทำให้พวกเขาฟันฟ่ามาได้ เรื่องนี้ลงตัวมากทั้งเนื้อเรื่องและเพลงประกอบ ดูแล้วรู้สึกสดใสดี Fukada Kyoko ในช่วงนั้นก็น่ารักมากๆซะด้วย จัดเป็นซีรี่ส์ที่ค่อนข้างน้ำเน่า แต่ก็ยังเห็นเงาจันทร์ [วิจารณ์ด้วยความเห็นส่วนตัว] เรื่องราวน้ำเน่า พ่อแง่:-)อน ตัวร้ายกลับใจ การเข้าใจผิด ตัวละครป่วย เรื่องนี้มีครบเลยทีเดียว แต่ผมชอบอ่ะ ดูแล้วไม่เครียดและทุกครั้งที่ได้ยินเพลงก็จะรู้สึกดีทุกครั้งเลย สิ่งที่ชอบ เนื้อเรื่องที่สดใส น่ารักดูแล้วผ่อนคลาย และอยากมีความรักมั่ง เพลงประกอบเพราะ และเคียวโกะน่ารักสุดๆ ดูเรื่องนี้แล้วมองโลกเป็นสีชมพู มองทองฟ้าเป็นสีฟ้าใสเลยทีเดียว สิ่งที่ไม่ชอบ บางฉากก็น้ำเน่าและ เนื้อเรื่องเป็นไปตามสูตรที่เดาได้ แต่ก็ทดแทนด้วยบรรยากาศและความน่ารักของเนื้อเรื่อง สรุป สำหรับคนชอบซีรี่ส์รักๆที่แอบน้ำเน่าเล็กๆ แต่สนุก ก็เรื่องนี้ครับ จัดเป็นยอดซีรี่ส์ในความทรงจำของผมเลยทีเดียว ปล. เอา2เรื่องก่อนนะครับ ว่างๆมาช่วยเขียนใหม่ จากคุณ : ที่จุดหมาย ยังมีสายรุ้ง - [ 7 มี.ค. 52 15:46:10 ]

ความคิดเห็นที่ 8 JOTEI  สงครามของเพศหญิง Title (romaji): Jotei Also known as: Empress Format: Renzoku Episodes: 10 Viewership ratings: 11.6 (Kanto) Broadcast network: TV Asahi Broadcast period: 2007-Jul-13 to 2007-Sep-14 Air time: Friday 21:00-21:54 Theme song: Kanata by Nanamusica             เรื่องย่อ     เรื่องราว ของสาว น้อยผู้ น่าสงสาร อายากะ เธอ อยู่กับแม่เพียงลำพัง แม่ของเธอเปิดคลับ แต่ถูกคนตราหน้าว่าน่ารังเกียจ เป็นซ่อง เป็นโสเภณีบ้างล่ะ หลายครั้งที่ถูกยากูซ่า เข้าพังร้าน อายากะกับแม่  มีฐานะยากจนต่ำต้อย เพื่อนชายที่แอบชอบอายากะ หมายจะปล้ำเธอที่ชั้นเรียน แม่จะมีคนมาพบเห็นแต่ เพราะฐานะที่แตกต่างกัน กับกลายเป็นว่า อายากะ เป็นฝ่ายให้ท่า ผู้ชาย ครอบครัวของ ฝ่ายชายเอาเงินฟาดหัวอายากะ  แต่อายะกะ ไม่ยอมรับเงินนั้น ทั้งยังบอกด้วยว่า สักวัน ชั้นจะทำให้พวกคุณต้องก้มหัวให้เธอ อายากะ กลับมาก็พบว่าแม่ของเธอป่วยมาก ก่อนที่แม่ของเธอจะจากไปได้บอกว่าพ่อของอายากะ ยังมีชีวิตอยู่ และได้จากไป อายากะผู้สูญสิ้นทุกอย่าง จึงตัดสินใจว่า ต่อไป ชั้นจะต้องอยู่เหนือใครๆ และแก้แค้น พวกเศรษฐีผู้ลากมากดี ที่ดูถูกเธอและแก้แค้นพ่อของเธอเอง ที่ทิ้งแม่ของเธอทำให้แม่และเธอต้องลำบาก  อายากะ จึงเดินทางไป ตามฝันที่ยิ่งใหญ่ที่โอซากะ  เธอ ต้องการ ที่จะเป็น   THE EMPRESS ......................................................................................................  วิจารณ์  jotei ...................................................................................................... เนื้อหาหลักของserie เรื่องนี้ มิใช่เรื่องของการแก้แค้นเพียงอย่างเดียว ถ้าจะมาหวังว่า เรื่องนี้ นางเอกและนางร้ายจะมาท้าตบกัน แลกตบกันแล้วลากกันไปห้องโน้นห้องนี้ ถือว่าคิดผิด เพราะคนประเทศนี้ตบไม่เก่งสักเท่าไหร่ ตบกันคนละทีแล้วจบ เอาแบบพอเป็นพิธี แต่เรื่องนี้มีแปลกนิดนิดนางร้ายกัดปากนางเอกด้วย เออ ที่คล้ายก็มีแบบสาดน้ำกรดด้วยครับ มันส์จริงๆ! ...............    การเกิดเป็นหญิง ฐานะทางสังคมไม่ว่าจะกี่ยุคกี่สมัย ก็ไม่สามารถทัดเทียมชายได้ ยิ่งเกิดมายากจนยิ่งโดนดูถูกดูแคลน เหตุผลนี้ไม่ว่าประเทศโลกไหนผู้หญิงก็ยังต้องพบเจอ Tachibana Ayaka   ทาจิบาน่า อายากะ นางเอก กับความมุ่งมั่น ที่จะต้องเป็น ราชินี แห่งยามค่ำคืน เพื่อที่จะให้สังคมยอมรับและให้คนที่ดูถูกเธอและแม่ยอมรับในตัวเธอ ..............   นางเอกของเรื่อง อายากะ เธอมิได้โชคดีนักถ้าเทียบกับนางเอกละครไทย มิใช่ว่า เธอตัดสินใจกรีดอายไลเนอร์ ตวัดขึ้นมิได้แปลว่าเธอจะกลายเป็นคนใหม่พร้อมฟาดฟันกับทุกคนซะเมื่อไหร่  บททดสอบของสาวน้อยช่างมากมาย จนทำให้เราต้องลุ้นไปกับเธอ กับชีวิตเริ่มต้นแห่งการเป็น hostess การที่เธอจะพบชายที่คิดว่าจะเป็น คนดี Date Naoto นาโอโตะ พระเอกของเรื่อง สุดท้ายหากกลายเป็นยากูซ่าที่จะพาเธอไปขายตลาดมืด แต่แล้ว ความมุ่งมั่นของเธอ ก็ทำให้ยากูว่ากลับใจมาเป็น แรงหนุนสำคัญให้ก้าวที่จะเป็น  the empress .......................   อายากะยังต้องเจอกับแรงริษยาของผู้หญิงที่ทำอาชีพเดียวกัน เรียกได้ว่า มีแต่ขวากหนามโชคดีที่เธอยังพบเพื่อนแท้มิกิ ที่คอยช่วยเหลือเธอ หนทางของเธอช่างยาวไกล จุดเปลี่ยนของเธออยู่ที่ เธอพบแขกคนสำคัญ ปีศาจแดนใต้ กับการแลกกับ ความสาวของเธอกับแรงสนับสนุนของปีศาจแดนใต้ ! และนักเขียนหนุ่ม Osawa Kengoที่หลงรักอายะกะเพราะความจริงใจของเธอ ............................   อายากะยังต้องพบกับแบบทดสอบมากมาย การดูถูกและกลั่นแกล้งของอดีตเพื่อนโรงเรียนเดียวกันกับเธอ Hojo Rina สาวไฮโซที่เกลียดอายากะเพราะแฟนคู่หมั้นของเธอไปชอบ สาวต่ำต้อยอย่างอายากะมากกว่าเธอ และที่สำคัญที่สุดเธอ พ่อของเธอ Yuuichiro ที่เป็นถึงนายกรัฐมนตรี มีชีวิตที่สวยงามแต่กลับทอดทิ้งเธอกับแม่ให้อยู่อย่างยากลำบากเธอจะแก้แค้นพ่อของเธอได้มั้ย! ทั้งแรงผลักดันและแรงกดดันมากมายเหลือคณานับจน จะทำให้เธอ กลายเป็น The empress ได้หรือไม่! น่าติดตามมากๆๆ!!! ........................... สุดท้าย    เราจะได้เห็นการเชือดเชือนกันของเหล่าตัวละครมากมาย ที่เล่นกันได้ดีไม่มีที่ติ เนื้อหาที่น่าลุ้นทุกฉากทุกตอน ว่านางเอกของเราจะแก้ไขปัญหาต่างๆได้หรือไม่  ที่สำคัญที่สุด อายากะ นางเอกของเรื่องหลายคนอาจจะเห็นว่าทำไมโชคช่วยเธอดีเหลือเกินมีคนช่วยตลอด แต่มันก็สะท้อนว่า นางเอกเป็นคนดี มีน้ำใจ รู้จักช่วยเหลือเผื่อแผ่คนอื่นอยู่เสมอ ทำดีย่อมได้ดี เช่นการแบกยายแก่คนหนึ่งไปโรงพยาบาล ทั้งที่เธอเป็นผู้หญิงตัวเล็กๆคนหนึ่ง อายากะอาจไม่ใช่นางเอกที่ใครจะอยากเป็นเพราะบททดสอบเธอไม่ง่ายและดูโหดร้ายเกินกว่านางเอกละครหลังข่าวทั่วๆไป เธอไม่เป็นแม่พระตลอดเวลาเพราะเธอมีอารมณ์โกรธเกลียดเหมือนคนจริงๆ แต่เธอก็มีมีน้ำใจนักกีฬ า และความกล้าหาญไม่กลัวใคร เธอไม่มีทางยอมแพ้อะไรง่าย เพราะแค่คำว่าเธอเป็น   “ผู้หญิง” สมแล้วที่เธอเป็น JOTEI : THE EMPRESS .. แล้วคุณจะรักราชินี แห่ง กินซ่า คนนี้ ทาจิบาน่า อายะ .................................................................. แก้ไขเมื่อ 09 มี.ค. 52 23:58:30 แก้ไขเมื่อ 09 มี.ค. 52 23:56:22 แก้ไขเมื่อ 09 มี.ค. 52 23:53:05 แก้ไขเมื่อ 08 มี.ค. 52 22:51:35 แก้ไขเมื่อ 08 มี.ค. 52 22:49:38 จากคุณ : jotei (Jotei) - [ 7 มี.ค. 52 20:32:39 ]

ความคิดเห็นที่ 9 Tokyo Cinderella Story - รักนั้นนิรันดร Title (romaji): Imoto Yo Tagline: Tokyo Cinderella Story Also known as: Sister of Mine (NGN) Format: Renzoku Genre: Romance Episodes: 10 Viewership ratings: 24.6 Broadcast network: Fuji TV Broadcast period: 1994-Oct17 to 1994-Dec-19 Theme song: Meguri ai by Chage & Aska http://wiki.d-addicts.com/Imoto_Yo มัตซูอิ ยูคิโกะ (Emi Wakui) สาวบ้านนอกที่เดินทางเข้ามาทำงานในโตเกียว ด้วยความใฝ่ฝันว่าชีวิตของเธอจะได้พบเจอแต่ความสุข และในวันนึง เมื่อเธอมารับ มัตซูอิ คิคูโอะ (Goro Kishitani) พี่ชายของเธอที่สถานีรถไฟ และได้พบกับ ทาคางิ มาซาชิ (Toshiaki Karasawa) หนุ่มรูปหล่อทายาทตระกูลทาคางิ ซึ่งเข้าใจผิดคิดว่า คิคูโอะเป็นคนขับรถที่ทางบริษัทส่งมารับ ในขณะนั้นฝนกำลังตก ยูคิโกะจึงมอบร่มสีแดงของเธอให้มาซาชิใช้ ซึ่งร่มคันนี้ก็ถือเป็นจุดเริ่มต้นเรื่องราวต่างๆระหว่างเธอและมาซาชิ ยูคิโกะได้มีโอกาสพบกับมาซาชิอีก และเธอก็ค่อยๆหลงรักมาซาชิมากขึ้นเรื่อยๆ แต่มาซาชิ ถูกพ่อบังคับให้แต่งงานด้วยเหตุผลทางธุรกิจ แต่ในใจของมาซาชิกลับมีแต่แฟนเก่าของเขาอยู่เต็มหัวใจ เพียงแต่เขาต้องเสียใจเมื่อแฟนเก่ากำลังจะไปแต่งงานกับชายอื่น ยูคิโกะได้พบกับมาซาชิบ่อยครั้ง จนเธอเป็นฝ่ายบอกความในใจให้มาซาชิได้รับรู้ แม้มาซาชิจะไม่มีคำตอบใดๆให้เธอ แต่เธอก็ยอมเป็นฝ่ายที่จะรักมาซาชิข้างเดียว มาซาชิที่ได้พบกับยูคิโกะบ่อยขึ้น ทำให้ตัวเองเริ่งหลงรักยูคิโกะโดยไม่รู้ตัว และเพราะความที่ตนเองไม่รู้ตัวว่าได้เริ่มหลงรักยูคิโกะเข้าแล้ว จึงทำให้เกิดอุปสรรคความรักของเขาและยูคิโกะอย่างมากมาย มาซาชิก็ถูกคัดค้านจากครอบครัว รวมไปถึงคนรักเก่าที่คิดจะหันกลับมาหา ทำให้เขาเกิดความลังเล ยูคิโกะก็ถูกคิคูโอะขัดขวางเพราะความเป็นห่วง เขาไม่ไว้ใจมาซาชิ และกลัวว่าน้องสาวจะถูกหลอก อีกทั้งเหตุผลด้านครอบครัวที่ทั้งคู่มีฐานะต่างกันราวฟ้ากับเหว แต่เพราะความรักที่ยูคิโกะมีให้มาซาชิมีมากล้นเหลือเกิน ทำให้คิคูโอะต้องยอมถอยและเปลี่ยนมาคอยเป็นกำลังใจเคียงข้างยูคิโกะ แต่กว่ามาซาชิจะรู้ตัวว่าคนที่ตนรัก แท้จริงแล้วคือใคร มันก็เกือบจะสายเกินไป ... เรื่องราวความรักระหว่างหนุ่มสาว ความรักระหว่างพี่น้อง ความรักของครอบครัว และการเสียสละเพื่อคนที่รัก สร้างความประทับใจให้เราอย่างมาก เรื่องนี้ไม่ใช่ละครญี่ปุ่นเรื่องแรกที่เราได้ดู แต่เรื่องนี้เป็นละครญี่ปุ่นอันดับ 1 ในใจเรามาตลอด ตั้งแต่วันแรกที่ได้ดู จนถึง ณ วันนี้ อันดับของเรื่องนี้ในใจเราก็ไม่เคยเปลี่ยนแปลงค่ะ ^^ นอกจากนั้น เพลงประกอบยังเป็นผลงานของ Chage & Aska (เจ้าของเพลง Say Yes) ซึ่งถ้าใครทันดูละครญี่ปุ่นสมัยที่ฉายช่อง 3 ตอนบ่ายๆ เชื่อว่าจะต้องคุ้นกับเพลงประกอบของเรื่องนี้อย่างแน่นอนค่ะ ^^ จากคุณ : ตุ๊กตาไขลาน - [ 8 มี.ค. 52 00:55:13 ]

ความคิดเห็นที่ 10 Brother Beat Episodes: 11 Viewership ratings: 13.53 Broadcast network: TBS Broadcast period: 2005-Oct-13 to 2005-Dec-22 CAST Tanaka Misako as Sakurai Harue Tamayama Tetsuji as Sakurai Tatsuya Kuninaka Ryoko as Tamura Chisato Hayami Mokomichi as Sakurai Riku Nakao Akiyoshi as Sakurai Junpei Namase Katsuhisa Noguchi Hideki Asami Reina as Kudo Ai บ้านซากุระอิที่เคยเปิดเป็นร้านซักรีด  เมื่อสูญเสียพ่อไปเนื่องจากอุบัติเหตุทำให้ร้านต้องปิด และแม่ต้องเลี้ยงลูกชายเล็กๆ3คนด้วยตัวคนเดียว  แต่ก็เป็นครอบครัวอลวน ที่บางอย่าง อาจจะแปลกไปบ้างแต่ทุกคนก็รักกันดี ซากุระอิ   ฮารุเอะ คุณแม่ที่ยังชอบทำตัวเหมือนเด็กๆ  อาจจะเพราะยังไม่แก่มาก  สนิทกับลูกเหมือนเป็นเพื่อนกัน จนลูกๆไม่ค่อยจะเรียกแม่ แต่เรียกชื่อแม่แทน  ไม่ค่อยชอบทำงานบ้าน  แต่ออกไปทำงานพิเศษ ที่ซุปเปอร์มาเก็ตที่เพื่อนสมัยม.ปลายเป็นผู้จัดการ ซากุระอิ   ทัตสึยะ ลูกชายคนโต   ทำงานเป็นพนักงานบริษัท  เป็นหลักของครอบครัวในการหาเงิน   เป็นคนจริงจัง  ขยันทำงาน  ทำหน้าที่แทนพ่อเพราะพ่อสั่งเสียไว้ให้ดูแลแม่กับน้อง เพราะเป็นพี่คนโต   เลยต้องทำท่าซีเรียส ขึงขังเสมอ  เป็นคนซักผ้าตากผ้าให้ที่บ้าน ซากุระอิ   ริคุ ลูกคนกลาง  ทำงานพิเศษเป็นครูสอนว่ายน้ำให้เด็กๆ  เป็นคนง่ายๆสบายๆ  แต่ออกจะท่าทางไม่เอาไหน ชอบเที่ยวเล่น  ออกจะเจ้าชู้  แต่จริงๆแล้วก็รักครอบครัว ซากุระอิ    จุนเป ลูกคนเล็ก  ยังเรียนเป็นผู้บริบาลฝึกหัด  เป็นคนซื่อๆ  ใจดี  เป็นห่วงคนอื่นตลอดเวลา เป็นคนดูแลงานบ้านส่วนใหญ่ ผูกขาดทั้งทำความสะอาด  ทำอาหาร  และคุมบัญชีใช้จ่าย   เรื่องราวหลักเกี่ยวกับครอบครัว  เรื่องที่เกิดขึ้นทั่วๆไป  แต่ก็ยังมีตลกแทรกอยู่ รวมถึงเรื่องวามรักของพี่น้องแต่ละคู่  ก็เลยกลายเป็นทั้งแนวครอบครัว  และโรแมนติดคอมเมดี้ไปด้วย โดยรวมเรื่องก็เกี่ยวกับความสัมพันธ์ของคนในบ้าน  แม้ว่าจะไม่มีพ่อ  แต่ว่าทุกคนรักกัน ครอบครัวก็สมบูรณ์ได้  ถึงบทบาทหน้าที่ของคนในบ้านนี้จะแตกต่างจากครอบครัวทั่วไป แต่ก็เป็นครอบครัวที่อบอุ่น  มีความจริงใจเชื่อใจกัน ทุกฉากที่นั่งคุยกันบนโต๊ะอาหาร มันให้ความรู้สึกกันเองและดูอบอุ่น  เรื่องของสมาชิกในครอบครัว เป็นเรื่องของทุกคน  ไม่มีความลับต่อกัน  มีปัญหาก็ช่วยกันแก้   เรื่องนี้พี่น้องทะเลาะกันบ่อยมาก  ตีกันแทบทุกตอน เพราะอาจจะเลี้ยงลูกแบบแมนๆไปหน่อย หรือเป็นปกติของบ้านลูกชายล้วน??  แต่ถึงจะทะเลาะกันก็ไม่ได้เป็นเรื่องยาวนานใหญ่โต เลยได้ข้อคิดว่า พี่น้องทะเลาะกันเป็นเรื่องธรรมดา (เนอะ) และบ้านที่มีความสุขที่สุด  ก็คือ  บ้านที่มีครอบครัวของเราอยู่ด้วยกัน  (ดูจบแล้วไม่อยากกลับกทม.เลย T T) ความจริงเรื่องนี้เราก็เคยดูตั้งแต่ตอนฉายไอทีวีค่ะ  แล้วก็ชอบเลยซื้อมาดูอีกรอบ พี่เทตเรื่องนี้  ทั้งฮา ทั้งน่ารักเลยค่ะ (เราชอบลุคนี้มากกว่า แบบแบดบอยนะ ^ ^)   แอบเห็น มิตซึชิมะ  ฮิโระเล่นเป็นเพื่อนครูสอนว่ายน้ำของโมโคด้วย   ใครที่ชอบแนวครอบครัว ดูสบายๆ  ดูไปยิ้มไป ให้ข้อคิด  สำหรับเรื่องนี้ก็สนุกใช้ได้เลยค่ะ แก้ไขเมื่อ 08 มี.ค. 52 20:39:40 แก้ไขเมื่อ 08 มี.ค. 52 16:48:27 แก้ไขเมื่อ 08 มี.ค. 52 16:46:49 จากคุณ : momo lawleit - [ 8 มี.ค. 52 10:59:00 ]

ความคิดเห็นที่ 11 รีวิวไม่เก่ง แต่อยากรีวิวเรื่องนี้ค่ะ เป็นละครที่ชอบมากๆๆ เรื่องนึงค่ะ Karei naru Ichizoku (เลือดล้างตระกูล) Episodes: 10 Viewership ratings: 23.9 Broadcast network: TBS Broadcast period: 2007-Jan-14 to 2007-Mar-18 Air time: Sunday 21:00 Theme songs: -Main theme: Main Theme, performed by the Philharmonia Orchestra and conducted by Hattori Takayuki -Insert theme: Desperado by the Eagles ละครเรื่องนี้สร้างขึ้นเพื่อฉลองครบรอบ 55 ปีของช่อง TBS  สร้างจากบทประพันธ์เลื่องชื่อของ ยามาซากิ โตโยโกะ เป็นเรื่องรายย้อนยุคสมัยหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ก่อนที่ญี่ปุ่นจะขึ้นมาเป็นประเทศที่อยู่ในระดับแถวหน้าของโลก ในสมัยนั้นต่างชาตเรียกร้องให้ญี่ปุ่นเปิดเสรีทางการเงิน กระทรวงการคลังของญี่ปุ่นจึงมีนโยบายควบรวมธนาคารระดับเล็กเพื่อให้ธุรกิจธนาคารของญี่ปุ่นคงอยู่ได้   มันเปียว ไดสุเกะ ผู้นำของตระกูลมันเปียวและประธานธนาคารฮั่นซิน ผู้ทำทุกวิถีทางในการรักษาธนาคารของตนไว้ไม่ให้ถูกรวมเข้ากับธนาคารอื่น มันเปียว เทปเป ลูกชายคนโตของตระกูลมันเปียว ผู้บริหารของโรงงานแปรรูปเหล็กของตระกูล เรียนจบวิศวะมาจากอเมริกา เป็นคนที่มีความสามารถมากๆ จนเป็นที่ยอมรับของชาติตะวันตก เทปเปมีความฝันที่จะพาญี่ปุ่นเป็นประเทศมหาอำนาจด้วยการสร้างเหล็กที่มีคุณภาพขึ้นมาใช้ในโลกอุตสาหกรรม ดูจากภายนอก ครอบครัวมันเปียวเป็นครอบครัวที่ดูมีความสุขและมีพร้อมในทุกๆ สิ่ง แต่ภายในกลับไม่เป็นเช่นนั้น โชคชะตาช่างเล่นตลก มีเหตุการณ์บางอย่างเกิดขึ้นในตระกูลมันเปียว เป็นผลให้ไดสุเกะมีความเกลียดชังเทปเปเป็นอย่างมาก เทปเปเองก็พยายามหาเหตุผลว่า ทำไม พ่อของเขาจึงเกลียดเขามากขนาดนั้น ละครเรื่องนี้เป็นโศกนาฏกรรมที่สมบูรณ์แบบของมนุษย์ การเกลียดคนที่เรารัก เป็นความรู้สึกที่แสนจะทรมานเป็นที่สุด การเชือนเฉือนบทบาทระหว่าง 2 นักแสดง คิมูระ ทาคุยะ ผู้รับบท มันเปียว เทปเป และ คิตาโอจิ คินยะ ผู้รับบท มันเปียว ไดสุเกะ ทำให้ละครน่าติดตามเป็นอย่างมาก และนักแสดงทั้งสองก็แสดงได้ยอดเยี่ยมจริงๆ ตัวละครเด่นอีกคนคือ ไอโกะ แสดงโดย ซุซุกิ เคียวกะ ภรรยาลับของไดสุเกะ เป็นผู้ที่เข้ามาบงการในหลายๆ เรื่องของครอบครัวมันเปียว เธอแสดงได้ยอดเยี่ยมเช่นเดียวกัน แถมท้ายว่า ฉากของละครเรื่องนี้อลังการและสมจริงสุดๆ สมกับเป็นละครฟอร์มใหญ่จริงๆ   รางวัลที่ได้รับ 52nd Television Drama Academy Awards: Best Actor (Kimura Takuya) 2nd Seoul Drama Awards: Best Actor (2007) (Kimura Takuya) 52nd Television Drama Academy Awards: Best Supporting Actor (Kitaoji Kinya) 52nd Television Drama Academy Awards: Best Supporting Actress (Suzuki Kyoka) 52nd Television Drama Academy Awards: Special Award (Art Staff) 10th Nikkan Sports Drama Grand Prix (Jan-Mar 07): Best Supporting Actress (Suzuki Kyoka) บางข้อความแอบจำที่ท่านอื่นๆ เคยเขียนถึงเรื่องนี้ ขออภัยมากๆ ค่ะ ที่จำไม่ได้ว่ามาจาก web ไหนบ้าง ต้องขอขอบคุณเจ้าของข้อความด้วยนะคะ จากคุณ : TKandOV - [ 8 มี.ค. 52 11:08:46 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ขอจอง Big Wing ด้วยค่ะ จากคุณ : peaceplease (peaceplease) - [ 8 มี.ค. 52 12:32:25 ]

ความคิดเห็นที่ 13 Big Wing Genre: Occupational Theme song : Graceful world by Every little thing Cast Uchida Yuki   เป็น Yoshikawa Kumiko Kashiwabara Takashi เป็น  Kuriyama  Takeshi Synopsis                  เรื่องนี้สร้างมาจากการ์ตูนชื่อเดียวกันซึ่งเป็นการ์ตูนที่ได้รับความนิยมอย่างมากในญี่ปุ่น  เล่าเรื่องชีวิตของอาชีพ ground attendant ณ สนามบินฮาเนดะ ที่เรียกว่า Big wing ผ่านทางนางเอกคือ Yoshikawa Kumiko Kumiko (Uchida Yuki) เป็นน้องใหม่เพิ่งเข้ามาทำงานที่สนามบินฮาเนดะ แค่เพียงแค่เข้ามาทำงานวันแรกเท่านั้น kumiko ก็สามารถสร้างความปั่นป่วนให้ Big wing ไปทั้งแผนก ตั้งแต่หัวหน้ากราวนด์ หัวหน้าแผนกหนุ่มหล่อ อายุน้อยอย่าง Kuriyama ( Kashiwabara Takashi) ในขณะที่ผู้จัดการใหญ่ของ Big wing เป็นเพียงคนเดียวที่มองเห็น และให้โอกาสเธอ จากพฤติกรรมของ Kumiko ทำให้ Kuriyama ต้องสั่งให้หัวหน้ากราวนด์คอยดูแลเธออย่างใกล้ชิด รวมทั้งเค้าเองก็คอยตามติดพฤติกรรมเธอแทบจะทุกฝีก้าว แต่สุดท้ายแล้วแทนที่ Kumiko จะเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อให้เข้ากับระเบียบของ Big wing ในทางตรงข้าม ทุกคนใน Big wing กลับถูกดึงดูด ด้วยรอยยิ้ม ความจริงใจ ชอบช่วยเหลือคน และ ความรักในอาชีพกราวนด์ของเธอ และ ทำให้ทั้ง Big wing เปลี่ยนแปลงไป My comment              หลังจากดูเรื่องนี้จบ ซีรีส์เรื่องนี้ก็กลายเป็นซีรีส์ในดวงใจไปอีกเรื่องนึงไปแล้วค่ะ เราขอจัดอยู่ในกลุ่ม heart- warming series ถ้าใครชอบ Hotaru no Hikari ก็น่าจะชอบเรื่องนี้นะคะ เพราะว่าดูไป ยิ้มไป โลกสดใส หัวใจอบอุ่น เรื่องนี้ style การดำเนินเรื่องเป็นแบบจบเป็นตอนๆ ในแต่ละตอนก็จะเป็นสถานการณ์ของ Big wing ในแต่ละวันที่นางเอกเจอะเจอ และเข้าไปช่วยแก้ไขปัญหา ใครที่ไม่ค่อยมีเวลากลัวดู series แล้วติดพัน ไม่ได้หลับไม่ได้นอน ก็แนะนำให้ดูเรื่องนี้ได้ค่ะ แต่ว่านะ พอดูแล้ว มันก็จะอยากดูตอนต่อไปๆเอง เรื่องนี้พระเอกหล่อ นางเอกน่ารัก นักแสดงร่วมคนอื่นๆก็หน้าตาดีค่ะ เรียกว่าถ้าอยากดูซีรีส์ที่มีคนหน้าตาดี เรื่องนี้ก็มีพร้อมค่ะ เราประทับใจบทนางเอกในเรื่องนี้มากเลยค่ะ รอยยิ้มเธอช่างสดใส พลอยให้คนรอบข้างรู้สึกอบอุ่นและมีความสุข ชอบแนวคิดของนางเอกมากค่ะ เธอบอกว่า ตื่นเช้ามาแปรงฟัน กินข้าว อาบน้ำ และมาทำงาน ไม่ว่าเธอจะทำอะไรก็รู้สึกมีความสุขตลอดเวลา ซึ่งเหล่านี้ก็ทำให้เธอสร้างความประทับใจให้กับทุกคนที่มารับบริการจากเธอค่ะ ดูเรื่องนี้ทำให้นึกถึงโอวาทที่ท่านอาจารย์อาวุโสเคยให้ไว้ตอนเรียนจบค่ะ ท่านบอกว่าเมื่อจบออกไปทำงานอาจจะมีบางคนได้ทำในสิ่งที่รัก แต่สิ่งสำคัญกว่านั้นคือ การรักในสิ่งที่ทำ ซึ่งนางเอกเรื่องนี้เธอก็รักในสิ่งที่ทำ ทำให้การให้บริการของเธอมาจากใจ (แอบอยากให้กราวนด์การบินไทยได้ดูเรื่องนี้บ้างค่ะ เผื่อจะเกิดการเปลี่ยนแปลงมั่ง แอบหวังเล็กๆ ^0^) สำหรับพระเอกเรื่องนี้เนี่ย kassy หล่อโดดเด้งโดนใจมากค่ะ ถ้าใครเป็นแฟน kassy ก็ highly recommended เป็นอย่างยิ่งค่ะ บท kassy เรื่องนี้น่ารักดีค่ะ โดยเฉพาะตอนตะโกนดุนางเอก Yoshikawa หรือ ตอนยิ้มเนี่ย โอ๊ย จะละลาย (ชักจะเพ้อเจ้อมากไปแล้วเรา) แอบเสียดายไปนิดว่าฉาก sweet พระเอก นางเอกไม่ค่อยมี (คล้ายๆ Hotaru no hikari) ทั้งที่คู่นี้ chemistry เข้ากันได้ดีทีเดียว  หลุดมาฉากนึงเราก็ยิ้มแก้มปริทีนึงค่ะ เสียดายข้อที่สองคือ จบเร็วไปนิด ยังอยากดูต่ออยู่เลยอะ T T เสียดายข้อที่สามคือ เสียดายแทนเพื่อนๆที่ยังไม่ได้ดูค่ะ 555 อีกนิดนึงในแต่ละตอน จะมีบทสรุปเป็นข้อคิดดีๆ ตามสไตล์ซีรีส์ญี่ปุ่นที่หลายๆอันก็โดนมากค่ะ อย่างเช่น มีตอนนึงบอกว่า เราไม่ควรปิดประตูตัวเองติดอยู่กับอดีต ถ้าเราไม่เปิดประตูความสุขจะมาหาเราได้อย่างไร Ps. ซีรีส์นี้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ทำงานด้านบริการค่ะ อยากให้ได้ดู หรือ คนที่รู้สึกเหนื่อย หรือ ท้อจากการทำงาน ก็จะเป็นกำลังใจที่ดีมากเลยค่ะ เราไม่สามารถเปลี่ยนแปลงคนอื่นได้ สิ่งที่เราทำได้ก็คือเปลี่ยนแปลงตัวเองค่ะ ดูจบแล้วก็รู้สึกว่ารักในสิ่งที่ทำมากขึ้นกว่าเดิมค่ะ (เดิมก็รักอยู่แล้วนะคะ) และ ตั้งใจจะทำให้ดีที่สุดค่ะ แก้ไขเมื่อ 08 มี.ค. 52 16:08:16 จากคุณ : peaceplease (peaceplease) - [ 8 มี.ค. 52 13:56:45 ]

ความคิดเห็นที่ 14 Ice World  ย้อนรอยรัก..ย้อนรอยร้าย Title (romaji): Koori no Sekai Title (English): Inanimate World / Ice World Genre: Mystery, romance, suspense Episodes: 11 Viewership rating: 19.0 Broadcast network: Fuji TV Broadcast period: 1999-Oct-11 to 1999-Dec-20 Theme song: Diamond Dust by Himuro Kyosuke Insert song: Just Walk Away by Celine Dion เป็นซีรีย์แนวลึกลับ ซับซ้อน ซ่อนเงื่อน แค่ฉากเปิดเรื่องก้อแทบทำเอาเราหัวใจวายซะเลี้ยววว สาเหตุก็มิใช่อะไรแค่พี่เฮียยูทากะของเรา(แอบมั่วววว)ถูกทำร้ายแล้วกำลังจมลงไปใต้ทะเลลึก โอแม่เจ้า...เปิดฉากมาพระเอกก็กำลังจะตายซะแล้วหรือนี่ ??? ไม่ย๊อม ไม่ยอม จากนั้นก็เป็นการเล่าเรื่องย้อนกลับไปก่อนเกิดเหตุ เอกิ นักสืบประกันภัยหนุ่มอนาคตไกลแห่งบริษัทประกัน Rose Life เกิดสับสนเกี่ยวกับการคำนวน "ชีวิตคน" ให้เป็นเงิน สืบเนื่องมาจากเหตุการณ์ ที่แม่บังเกิดเกล้าทำร้ายลูกสาวของตัวเองเพียงเพื่อหวังเงินประกันเท่านั้น หลายวันต่อมา โซโนเอะ อาจารย์สาวของโรงเรียนสตรีเกิดเสียชีวิตขณะเดินทางกลับที่พัก ในขั้นแรก ทุกคนคิดว่าเป็นเพียงอุบัติเหตุ แต่ทางสถานีตำรวจได้ส่งรายงานมาว่า การตายของ โซโนเอะ เป็นการฆาตรกรรมและฆาตกรก็ยังลอยนวลอยู่ในโรงเรียน ทำให้สถานการณ์เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว และจากเหตุการณ์นี้เองทำให้ เอกิ ได้พบ โทโกะ อาจารย์ธรณีวิทยาสาวสวย แต่มีอดีตที่แสนเศร้า และเมื่อ เอกิ ได้ลงมือสืบสวนเรื่องนี้เขาก็กลับตกหลุมรักเธอ ทั้งๆที่ก็ยังสงสัยว่า โทโกะ อาจจะต้องมีส่วนรับผิดชอบกับการตายของ โซโนเอะ และใครอีกหลายๆคน  เมื่อยิ่งสืบไป เอกิ ก็ยิ่งได้พบเรื่องราวที่แปลกประหลาดเพิ่มมากขึ้น เพราะในช่วงเวลาเพียงแค่ไม่กี่ปีได้มีชายหนุ่มที่เป็นคู่หมั้นของ โชโกะ เสียชีวิตถึง 3 คน และทุกคนก็ทำประกันชีวิตมอบสิทธิประโยชน์ให้กับเธอทั้งสิ้น แต่ที่น่าแปลกก็คือ ทุกคนกลับยกเลิกการประกันก่อนตายเพียงไม่กี่วัน ดังนั้น เอกิ จึงตัดสินใจยอมเป็นเหยื่อรายที่ 4 เพื่อที่จะหาความจริงให้ได้ และเรื่องราวจะเป็นไงต่อไป เขาจะตายเป็นรายที่ 4 หรือไม่ ม่ายบอกค่ะไปลุ้นกันเอาเองในซีรีย์นะคะ Yutaka Takenouchi เป็น Eiki Hirokawa นักสืบหนุ่มของบริษัทประกันภัย ที่ในตอนแรกก็ปักใจเชื่อว่า โชโกะ มีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของ โซโนเอะ และหลายๆคน จึงพยามเข้าใกล้โชโกะเพื่อค้นหาหลักฐานผูกมัดความผิดแต่ไปๆมาๆ ก็กลับหลงรักโชโกะจนได้ ยูทากะ หล่อและเท่ห์มากมายค่ะ แม้จะแอบเหม็นขี้หน้านิดๆที่ทิ้งแฟนเก่าแบบไร้เหตุผลสิ้นดี แต่ถ้าแฟนใหม่น่าหลงใหลอย่างพี่เจ๊ย์นานาโกะ เป็นเรา เราก็ทิ้งแฟนเก่าว่ะ 55+ Nanako Matsushima เป็น Egi Touko อาจารย์สาวสวยผู้แสนเย็นชาเพราะปมบางอย่างในอดีต นานาโกะ สามารถถ่ายทอดอารมณ์นิ่งและเยือกเย็นจนเป็นน้ำแข็งได้เป็นอย่างดีจริงๆค่ะ อีกทั้งเธอยังดูมีเสน่ห์ลึกลับน่าค้นหาแต่ในขณะเดียวกันก็ดูมีความเศร้าและน่าสงสารแอบซ่อนอยู่ ทั้งเรื่องเราว่าเธอเป็นคนที่น่าสงสารและน่าเห็นใจที่สุด  เพียงเพราะ"ความรัก"ที่เห็นแก่ตัว ของผู้ชายบางคนทำให้ชีวิตเธอแทบพังพินาศ อย่างไม่เป็นท่า Nakamura Toru เป็น Ujou Takeshi นายตำรวจฝ่ายสืบสวน ผู้ซึ่งมีความสัมพันธ์ค่อนข้างเย็นชา และแปลกประหลาดกับภรรยา เขาเป็นคนที่เชื่อว่าการตายของโซโนเอะไม่ใช่อุบัติเหตุ อีกทั้งยังเป็นคนที่ต้องการจะทำคดีนี้เพื่อให้ตัวเองได้กลับเข้าสู่กรมตำรวจ นากามุระ เล่นได้เย็นชาและเห็นแก่ตัวดีแท้ดูตอนแรกๆไม่ค่อยโดนใจเท่าไหร่ แต่ดูๆไป เจ้ยยย!!มัยหล่อขึ้น(เรื่อยๆ)ฟระ แถมยังเป็นผู้ชายที่มีรักมั่นคงอีกต่างหาก (ชอบบบบบ) Uchida Yuki เป็น Shono Tsukiko   แฟนสาวของ เอกิ เธอทำงานเป็นตำรวจจราจรหญิง แต่ต่อมาได้รับคำสั่งให้ทำงานร่วมกับกลุ่มสืบสวน เธอเป็นห่วงความปลอดภัยของ เอกิ เป็นอย่างมาก หลังจากที่รู้ว่าเขาตกหลุมรัก โทโกะ เราว่าทั้งเรื่อง ซึกิโกะ เป็นคนที่ซวยที่สุดค่ะอยู่ดีๆก็ถูกซิวแฟนไป..ซะงั้น อูจิดะ น่ารักดีค่ะเรื่องนี้ แต่น่าเสียดายที่ต้องมาประกบกับนานาโกะเลยทำให้ถูกกลบรัศมีซะแทบมิด เพลงประกอบละครเพราะโคดดด(อีกแล้ว) ชื่อเพลง Diamond dust ร้องโดย Himuro Kyosuke ค่ะ สรุปได้ว่าใครที่ชอบซีรีย์สืบสวน ลึกลับ ตื่นเต้น ห้ามพลาดเรื่องนี้ด้วยปะการทั้งปวงค่ะ ฟันธง!!! ตอนเฉลยตัวคนร้ายทำเอาเราแทบต๊กเก้าอี้ และกล้าเอาหัววุ้นๆของตัวเองเป็นประกันเลยค่ะว่าซีรีย์เรื่องนี้ จะไม่มีใครคาดเดาเรื่องราวความจริงทั้งหมดได้ (ยกเว้นแอบดูตอนจบก่อน)จนกว่าจะถึงตอนสุดท้าย .... ส่วนตัวแล้วเราชอบเรื่องนี้มากที่สุดในบรรดาซีรีย์แนวนี้ค่ะ ลึกลับ ซับซ้อน ลงตัวทั้งเนื้อหาและนักแสดง ดูแล้วรู้สึกได้เลยค่ะว่านี่แหละซีรีย์แนวสืบสวนในฝันที่ฉันเฝ้ารอมาตลอดชีวิต (ว่าเข้าไปนั่น เหอๆ) มามะ..มาร่วมลุ้นและตกหลุมรัก เอกิ&โชโกะ ด้วยกันเถอะค่ะ ฮิ้วววว แก้ไขเมื่อ 08 มี.ค. 52 19:38:24 จากคุณ : k-jap (อ้อมแขนอันอบอุ่น) - [ 8 มี.ค. 52 14:25:19 ]

ความคิดเห็นที่ 15 Title (romaji): Celeb to Binbo Taro Also known as: Celeb & Poor Format: Renzoku Genre: Romance, comedy Episodes: 11 Viewership ratings: 13.1 (Kanto) Broadcast network: Fuji TV Broadcast period: 2008-Oct-14 to 2008-Dec-23 Air time: Tuesday 21:00 Theme songs: Ending theme: Kimagure Romantic by Ikimono-gakari Insert theme: Hero by Safarii -------------------------------------------------------- สาวไฮโซกับนายกระจอก ความรักต่างชนชั้นเป็นพลอคเรื่องที่ได้รับความนิยมมาโดยตลอด ไม่ว่าจะไทย เกาหลี ญี่ปุ่น จีน(เมกาก็ไม่เว้น) อิอิ ... เป็นเรื่องราว ความรักต่างชนชั้นที่มองผิวเผินอาจจะเหมือนละครรักโรแมนติกน้ำเน่า ทั่วๆไป แต่! เรื่องนี้ไม่ได้เน้นไปที่ความรักของพระเอก-นางเอกเพียง อย่างเดียว ยังมีเหล่าเพื่อนบ้านจอมวุ่น แม่เลี้ยงใจร้ายและตัวละคร อีกมากมายที่มาช่วยกันสร้างสีสัน ที่สำคัญมีคอมเมดี้ฮาๆที่ทำให้คุณขำ จนปวดท้อง ยิ่งไปกว่านั้นแฟชั่น เสื้อผ้า หน้าผม เรื่องนี้ คงถูกใจ คุณผู้หญิงแฟชั่นนิสต้าไม่มากก็น้อย เพราะชุดที่อายะจังใส่ในเรื่องนี้ สวยๆทุกชุด ขอบอกว่าดูค่ชุดอย่างเดียวก็คุ้มมากๆแล้วค่า ;) - มิตาโซโนะ อลิซ (แสดงโดย อายะ อุเอโตะ) สาวสวย เริ่ด หรูไฮโซอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ เป็นลูกเจ้าของ บริษัทใหญ่รวยล้นฟ้า อลิสมีบริษัทเสื้อผ้าของตัวเอง ชีวิตของเธอ ราบรื่นมาโดยตลอด แต่มาสะดุดเอากับเรื่องความรักที่ไม่สมหวัง - ซาโต้ ทาโร่ (แสดงโดย ยูซึเกะ คามิจิ ) พ่อหม้ายยาจกขนานแท้ มีลูกติดกับภรรยาเก่าที่เสียชีวิต 3 คน ไม่มีอาชีพแน่นอน หาเช้ากินค่ำ อาศัยอยู่ในเขตเล็กๆในโตเกียว รายล้อมตัวเขาเต็มไปด้วยเพื่อนบ้านที่น่ารักของเขา??? -------------------------------------------------------- เนื่อเรื่องย่อ โชคชะตา หรือความบังเอิญทำให้ อลิส เซเลบสุดเปรี้ยวจี๊ด กับ ทาโร่ คนงานชั่วคราวในไซต์ก่อสร้างได้มาเจอกัน การพบกัน ครั้งแรกของเขาทั้งคู่ก็ไม่ธรรมดาซะแล้ว หลังจากนั้นด้วยความ บังเอิญ(อีกแล้ว)ทำให้เขาต้องเข้ามาเป็นพนักงานขับรถของอลิส เรื่องราววุ่นๆปนซึ้งจึงได้เกิดขึ้น อุปสรรคมากมายที่ผ่านเข้ามาใน ชีวิตของคนทั้งสอง ไม่ว่าจะเป็น โกโทดะ แฟนเก่าของอลิส ที่หายหน้าไปจากเธอถึง 5 ปี ได้กลับมาและมาขอโอกาสอลิสอีก ครั้งหนึ่ง แม่เลี้ยงมากิโกะที่มาในมาดแม่เลี้ยงใจร้ายคอยหาเรื่องให้ อลิสปวดหัวอยู่ตลอดเวลา ปัญหาต่างๆของอลิสและทาโร่ ได้รับการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ซึ่งนับวันก็กลายเป็นความผูกพันขึ้นมาทีละนิด อลิสได้เห็นทาโร่ใน มุมที่เป็นคนอบอุ่น รักครอบครัว รักเพื่อน และห่วงใยคนรอบข้าง อยู่เสมอ ตัวทาโร่เองก็สัมผัสได้ความน่ารัก ความสดใสที่คอยเติม เต็มหัวใจของเขาให้พองโตอีกครั้งหนึ่ง มาร่วมลุ้นว่าความรักของคน ทั้งสองจะป็นไปได้หรือไม่ จะผ่านเรื่องราวประหลาดๆมาได้อย่างไร ใน Celeb to Binbo Taro -------------------------------------------------------- อยากบอกหน่อยว่า ก่อนดูเรื่องนี้ ไม่ค่อยปลื้มอายะซักเท่าไหร่ เลยค่ะ ดูละครของเธอมาบ้าง attention please, hokaben ไม่ค่อย ประทับใจเท่าไหร่เลยค่ะ แต่มาตายรังที่เรื่องนี้ ขอบอกว่าตกหลุมรัก อายะอย่างจังเลยค่ะ เธอเล่นได้น่ารักมากๆ บทนี้เหมาะกับเธอจริงๆค่ะ ส่วนพระเอก เคยเห็นแว๊บๆใน music station และก็เคยเห็นเล่นเรื่อง ROOKIE เป็นตัวโกงด้วย ที่สำคัญเล่นเป็นเด็กม.ปลาย อิอิ มาช๊อค กับเรื่องนี้ กลายเป็นคุณพ่อ30ยังแจ๋วซะงั้น แถมบทบาทก็โอเว่อแอคติ้ง มากๆค่ะ ตลกดีๆ โดยรวม เรื่องนี้เเป็นโรแมนติกคอมเมดี้ ที่น่าดูเรื่องนึงค่ะ รู้สึก เหมือนไม่ได้ดูละครตลกๆสนุกๆมานาน ( ซีซั่นนี้มีแต่เครียดๆ สืบสวนๆ และคุณหมอผ่าตัด ซึ่งก็ชอบเกือบทุกเรื่อง อิอิ ) เลยอยากมารีวิวเรื่อง นี้บ้าง เป็นเรื่องแรกเลยค่ะ อยากแนะนำให้ลองหามาดูกัน ขำๆสนุกๆค่ะ เพลงประกอบก็เพราะ ดูได้ทั้งครอบครัว เด็กดูได้ ผู้ใหญ่ดูดี ไม่มีพิษภัย แถมมีข้อคิดดีแฝงด้วยค่ะ ไม่ผิดหวังแน่นอนจ้า :) จากคุณ : zonoko - [ 8 มี.ค. 52 14:51:17 A:58.9.49.252 X: TicketID:190723 ]

ความคิดเห็นที่ 16 มาช้าหน่อยนะครับ สองสามวันนี้มีงานเข้า แต่อยากรีวิวเรื่องนี้ครับ ======================================================= Papa to musume no nanokakan  เจ็ดวันของป๊ะป๋ากับลูกสาว : สลับร่างสร้างความเข้าใจ      ยูอิ อารางาคิ  แสดงเป็น  คาวาฮาระ โคเมะ      ทาจิ ฮิโรชิ    แสดงเป็น  คาวาฮาระ เคียวอิจิโร่ ช่องว่างระหว่างวัย บางครั้งถ้าไม่พูดจาทำความเข้าใจกันให้ดี ก็จะทำให้เกิดช่องว่างที่กว้างมาก ๆ เป็นช่องว่างของทั้งความคิด มุมมอง ประสบการณ์ ทำให้ต่างฝ่ายต่างหวาดระแวงซึ่งกันและกัน ถ้าความไม่เข้าใจกันนั้นสะสมมากขึ้นเรื่อย ๆ ก็จะกลายเป็นความหมางเมินกันไปได้ในที่สุด ผู้ใหญ่ก็ว่าเด็ก (วัยรุ่น) ว่า ให้ความสำคัญกับเพื่อนมากเกิน ติดแช็ต ติดโทรศัพท์ ไม่ตั้งใจเรียนเอาแต่สนใจเรื่องไม่เป็นเรื่อง เด็กอาจไม่ชอบผู้ใหญ่เพราะทำตัวเคร่งเครียด ชอบคอยจับผิด มองโลกในแง่ร้าย หลายครั้งเวลาเกิดช่องว่างระหว่างวัย ไม่ฝ่ายไหนก็ฝ่ายไหน อาจจะต้องมีบ้างซักครั้ง ที่เคยคิดบ้างว่า..   "ไม่ลองมาเป็นตัวเราดูบ้างสิ" ความคิดแบบนี้แหละ ที่เป็นคอนเซปต์ของหนังละครแนว "สลับร่าง" ที่เราคุ้นเคยกันดี มีทั้งผู้ชายสลับร่างกับผู้หญิง เก่าหน่อยก็หนังสันติสุข จินตรา "หวานมันส์ฉันคือเธอ" ที่เพิ่งผ่านตากันไปก็ละคร "เล่ห์ลับสลับร่าง" คราวนี้ ดอม สลับร่างกับ เชอร์รี่ เข็มอัปสร แม่สลับร่างกับลูก มีทั้งหนังฝรั่งหนังญี่ปุ่น Freaky Friday เจมี่ ลี เคอร์ติส สลับร่างกับ ลินเซย์ โลแฮน ของญี่ปุ่นก็ Himitsu หนังซึ้งของ เรียวโกะ ฮิโรสุเอะ เรื่องนั้น ใกล้กับเรื่อง papa to musume มาอีกนิด ก็เป็นละครไทย "คุณยายสายเดี่ยว" คราวนี้คุณยายนกสินจัย มาสลับร่างกับหลานสาวจอมเปรี้ยว เรื่องเจ็ดวันของป๊ะป๋ากับลูกสาว ก็มาในแนวคล้าย ๆ กัน โคเมะ (ยูอิ อารางาคิ) เป็นเด็กสาวมอปลายที่ติดเพื่อน ไม่ค่อยสนใจพ่อ คิดว่าพ่อชอบทำตัวเครียด น่าเบื่อ เลยไม่ค่อยอยากพูดคุย อยากจะเสวนากับพ่อซักเท่าไหร่ อยู่มาวันหนึ่งสองพ่อลูกเดินทางไปเยี่ยมคุณยายที่ต่างจังหวัด ขากลับขึ้นรถไฟแล้วประสบอุบัติเหตุ ทำให้ทั้งสองคนสลับร่างกัน เรื่องวุ่น ๆ ก็เลยตามมา คุณพ่อต้องไปเรียนหนังสือ ต้องหัดแชททางโทรศัพท์ ต้องไปออกเดทกับรุ่นพี่ที่ลูกสาวแอบปิ๊ง ต้องเรียนรู้ว่า เวลาขึ้นบันไดเลื่อนต้องหัดเอากระเป๋าปิดก้น (ฮา) ส่วนคุณลูก ก็ต้องไปทำงานที่บริษัทแทนพ่อ ต้องเผชิญหน้าผู้ร่วมงานของพ่อที่มีปัญหาสารพัด (ขนาดคุณพ่อต้องทำแผนภูมิให้เลยว่าใครเป็นใคร) แถมยังต้องเสนอโปรเจ็คท์ให้ท่านประธานบริษัทอีก !! ตอนท้ายเรื่อง พ่อกับลูกสาวก็สามารถกลับคืนร่างกันได้ โคเมะได้เรียนรู้ว่า พ่อของตนเป็นคนที่น่าเคารพน่าคบหา ... มีความรับผิดชอบสูงและรักครอบครัวเป็นอย่างมาก ส่วนคุณพ่อก็ได้เรียนรู้ว่า ชีวิตวัยรุ่นนั้นไม่ง่าย หลายเรื่องที่เคยหวาดระแวง ทั้งเรื่องคบเพื่อนและเรื่องความรัก เอาเข้าจริงก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร แถมข้อสอบของเด็กมัธยมสมัยนี้ ก็ไม่ใช่อะไรที่ผู้ใหญ่จะทำได้ง่าย ๆ ด้วยนะ (ฮา) เป็นละครสั้น ๆ แค่เจ็ดตอน ที่สนุกสนานแถมจี๊ดโดนใจ ดูแล้วหยุดไม่ได้ต้องดูไปแบบนันสต็อป เหมาะที่คุณลูก ๆ จะหยิบมาให้คุณพ่อคุณแม่ มาดูด้วยกันตอนปิดเทอมเป็นยิ่งนัก  ^^ จากคุณ : Mad Bull - [ 9 มี.ค. 52 12:10:29 ]

ความคิดเห็นที่ 17 มารีวิวที่ค้างไว้ มุโขะโดโนะ หรือ มายฮัสแบนด์ หรือซุปเปอร์สตาร์ถามหารักค่ะ จากคุณ : meritiana (Meritiana) - [ 9 มี.ค. 52 16:13:27 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ชื่อเรื่อง:  มุโขะโดโนะ หรือ มายฮัสแบนด์ หรือซุปเปอร์สตาร์ถามหารัก ฉายทาง:  ฟูจิทีวี ทุกวันพฤหัสบดี เวลาสี่ทุ่ม เริ้มตั้งแต่ 1-4-2001 ถึง 30- 6-2001 ดารานักแสดง: โทโมยะ นางาเสะ รับบท ยูอิจิโร่ ซากุราบะ ยูโกะ ทาเคอุจิ รับบท ซากุระ อาราอิ ซึงคุ รับบท ทาคุโร่ โคมิเนะ หรือทัชจัง ยาสุโนริ ดานตะ รับบท โอโตฮิโกะ ฮาโกซากิ เคน อุทซึอิ รับบท มาสุมิ อาราอิ คุมิโกะ อากิโยชิ รับบท คาเอเดะ ทาคุยามะ มาซากิ ไอบะ รับบท เรียว ทาคุยามะ ซูซูกิ อันจู รับบท อาซึสะ อาราอิ ริวโนสุเกะ คามิกิ รับบท ซึโตมุ อาราอิ เรียวโกะ ชิโนฮาระ รับบท ซาซึกิ อาราอิ ฮิโรโนบุ โนมุระ รับบท มาซากิ ยาจิม่า เรื่องย่อ : ยูอิจิโร่ ซากุราบะ เป็นเด็กกำพร้าซึ่งอาศัยอยู่กับแม่เพียงสองคน ต่อมาไม่นาน แม่ที่ทำงานหนักเพื่อเลี้ยงดูเขาได้เสียชีวิต เขาจึงได้ย้ายไปอาศัยอยู่กับเพื่อนรุ่นพี่คือ ทาคุโร่ โคมิเนะ สิบปีต่อมา ยูอิจิโร่ได้กลายเป็นนักแต่งเพลง นักร้องดาวรุ่งมาแรง โดยมีโคมิเนะเป็นต้นสังกัด และฮาโคซากิเป็นผู้จัดการส่วนตัว  มีเพียงแค่คนใกล้ชิดสองคนนี้เท่านั้น ที่รู้ว่าภายใต้ภาพพจน์หล่อเท่ เย็นชา ขรึม พูดน้อยซึ่งเป็นภาพพจน์ของซุปเปอร์สตาร์ของยูอิจิโร่นั้น ยังมีบุคลิกที่แท้จริงของชายหนุ่มผู้นี้ซ่อนอยู่ ซึ่งก็คือความขี้เล่น อารมณ์ดี ช่างยิ้ม ติงต๊อง แต่แฝงไว้ด้วยความจริงใจ มีน้ำใจ คิดถึงแต่คนอื่นก่อนเสมอ ต่อมา ยูอิจิโร่ ได้พบกับซากุระ อาราอิ ผู้ซึ่งเป็นลูกสาวคนเล็กของครอบครัวอาราอิ  และได้คบหาเป็นแฟนกัน เนื่องจากยูอิจิโร่เป็นลูกคนเดียวและเป็นเด็กกำพร้า ดังนั้น เขาจึงมีควาใฝ่ฝันตั้งแต่เด็กว่าจะสร้างครอบครัวที่อบอุ่นที่สุดในโลกกับคนที่เขารัก ซึงซากุระก็เข้าใจจุดนี้ดี ตลอดเวลาที่ทั้งสองคบกันเป็นไปอย่างลับๆ ในที่สุด ทั้งคู่ก็ได้ตัดสินใจแต่งงานกัน โดยโคมิเนะก็อนุญาต แต่มีข้อแม้ว่าต้องเก็บเรื่องนี้ให้เป็นความลับที่สุด เนื่องจากกฎเหล็กของไอดอลมีอยู่ว่าห้ามมีแฟน มิฉะนั้นจะเสื่อมความนิยมเพราะแฟนๆรับไม่ได้ ยูอิจิโร่จึงได้ไปขอพบครอบครัวอาราอิ ซึ่งประกอบไปด้วย คุณพ่อม่ายมาสุมิครูสอนการเขียนพู่กัน คาเอเดะพี่สาวคนโตพนักงานบริษัทผู้มีนิสัยร่าเริง แต่กำลังแยกกันอยู่กับสามี เรียวลูกชายของคาเอเดะผู้รักความเป็นส่วนตัว อาซึสะพี่สาวคนที่สองนักวิทยาศาสตร์ผู้มีนิสัยกลัวผู้ชาย ซึโตมุเด็กหลอดแก้วลุกชายของอาซึสะ และซาซึกิพี่สาวคนที่สามสาวมั่นผู้จัดการรายการวิทยุ ตอนแรกพ่อของซากุระไม่อยากยกลูกสาวให้ เนื่องจากมีความรู้สึกว่าทั้งคู่มีชีวิตที่แตกต่าง รวมถึงพี่น้องก็ไม่ค่อ่ยยอมรับ แต่เมื่อรับรู้ถึงความจริงใจของชายหนุ่มจึงได้เปลี่ยนใจ และเพื่อเก็บความลับนี้ไว้  ทั้งฮาโกซากิผู้จัดการ และ ซาซึกิจึงให้ยูอิจิโร่จึงตัดสินใจแต่งงานเข้าบ้านอาราอิ และกลายเป็นยูอิจิโร่ อาราอิ โดยที่ชายหนุ่มก็ดีใจและเต็มใจมาก เนื่องจากประทับใจครอบครัวของแฟนสาว  ซึ่งมีทุกสิ่งที่เขาไม่เคยมีและอยากมี นั่นก็คือบรรยากาศของการเป็นครอบครัว เมื่อยูอิจิโร่ได้เข้ามาเป็นสมาชิกใหม่ของบ้านอาราอิ เขาได้พยายามทำทุกอย่างเพื่อให้ทางครอบครัวของภรรยายอมรับ(ซึ่งในสายตาของสมาชิกบางคนออกเป็นแนววุ่นวาย)เขาได้เข้าไปมีส่วนร่วมและรับรู้กับปัญหาของคนในครอบครัวอาราอิทุกคนและพยายามช่วยแก้ไข หรือให้กำลังใจด้วยความจริงใจ ทำให้บ้านอาราอิเริ่มประทับใจเขาโดยไม่รู้ตัว ซึ่งเป็นที่แน่นอนว่าทุกอย่างถูกเก็บความลับสุดยอด โดยที่หารู้ไม่ว่า มาซากิ ยาจิม่าซึ่งเป็นพี่ชายคนเดียวของซากุระ ซึงในอดีตได้มีเรื่องกับครอบครัวและได้ออกจากบ้านไปและมีอาชีพเป็นนักข่าวได้สืบเรื่องนี้อย่างลับๆ และพยายามเปิดเผยความลับหลายครั้ง แต่ยูอิจิโร่ก็เอาตัวรอดไปได้ แต่อย่างไรก็ตาม เรื่องซุปเปอร์สตาร์หนุ่มแอบแต่งงานก็ไม่เป็นความลับอีกต่อไป เมื่อเรื่องราวถูกเปิดเผยต่อสาธารณชนทำให้ชายหนุ่มตกป็นข่าวโด่งดัง ยูอิจิโร่จึงตัดสินใจที่จะแถลงข่าว แต่เขาก็พบว่ามาซากิได้ทำข่าวของซึโตมุที่กำลังป่วยหนักเช่นกัน ทำให้ยูอิจิโร่ไม่พอใจมาก เนื่องจากมีความรุ้สึกว่ามาซากิกำลังทำลายครอบครัวที่เขารัก จึงได้บุกไปทำร้ายมาซากิ ทำให้เขากลายเป็นข่าวเสียหายเพิ่มขึ้น เช่นเดียวกับทุกคนในบ้านอาราอิก็เดือดร้อนเพราะตกเป็นเป้าของนักข่าว ยูอิจิโร่จะมีทางแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้อย่างไร ติดตามได้ในซีรี่ส์ค่ะ จากคุณ : meritiana (Meritiana) - [ 9 มี.ค. 52 16:59:52 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ลักษณะโครงเรื่องและความเห็นส่วนตัว: ซี่รี่ส์เรื่องนี้จะเป็นแนวคอมเมดี้ค่ะ  แต่ก็มีความอบอุ่นของครอบครัวแฝงอยู่จะเน้นไปทางความสัมพันธ์ของคนในครอบครัวเป็นหลัก ซึ่งถึงแม้แต่ละคนจะมีปัญหา อาจจะเป็นปัญหาส่วนตัวของแต่ละคนบ้าง หรืออาจจะมีการทะเลาะเบาะแว้งกันบ้าง แต่นั่นก็คือความผูกพันของคนในครอบครัว พูดง่ายๆก็คือธีมของเรื่องให้ความสำคัญของครอบครัวเป็นหลัก โดยผ่านทางความฝันของยูอิจิโร่ที่อยากสร้างครอบครัวที่อบอุ่นที่สุดในโลก อย่าทำร้ายความรู้สึก หรือทรยศต่อคนในครอบครัว ตรงนี้เห็นได้จากที่มาซากิเปิดเผยข่าวของซึโตมุที่กำลังป่วยหนัก ทำให้สมาชิกบ้านอาราอิเป็นทุกข์หนักเพิ่มขึ้นจากเดิมที่กำลังกลุ้มใจอยู่ซึ่งในสายตาของยูอิจิโร่นั้นเป็นสิ่งที่ให้อภ้ยไม่ได้ เพราะเป็นการทำร้ายจิตใจของคนในครอบครัว อันนี้เป็นตัวอย่างหนึ่งของการทำร้ายครอบครัวค่ะ ในสายตาของเรา หลังจากที่ดูซี่รี่สืเรื่องนี้จบลง มีความรู้สึกเรื่องนี้อินเทรนด์ยังไงไม่รู้ อาจจะเพราะกระแสเรื่องเมียหลวงกำลังดังก็ได้ จะว่าไปการนอกใจนี่ก็เป็นการทำร้ายครอบครัวอย่างหนึ่งเหมือนกัน ถ้าผู้ชายหลายๆคนคิดได้เหมือนยูอิจิโร่ก็ดีไม่น้อย คงลดปัญหาการหย่าร้างลงได้เยอะเลย นอกจากเนื่อเรื่องที่สนุกสนานและธีมของเรื่องที่น่าประทับใจแล้ว เรื่องนี้ยังมีประโยคดีๆที่ให้ข้อคิดตามแบบแบบของซี่รี่ส์ญี่ปุ่นอยู่หลายประโยค เช่น "ห้ามทรยศต่อครอบครัว " " " ถ้าไม่อดทน ความฝันก็จะไม่เป็นจริง " "คนที่มีกึ๋นไม่มีอะไรที่ทำไม่ได้" เป็นต้น สำหรับดารานักแสดงแล้ว โทโมยะ นางาเสะ เป็นพระเอกคนหนึ่งที่เราประทับใจในฝีมือการแสดงมาก เรื่องนี้เรียกได้ว่า บทค่อนข้างตรงกับชีวิตจริงของเขา ที่ก็เป็นดารานักร้องเหมือนกัน และนิสัยของยุอิจิโร่ก็อารมณ์ดียิ้มเก่งเหมือนกับนิสัยของโทโมยะด้วย(ยืนยันจากดาราที่ร่วมงานในเรื่องมายบอสมายฮีโร่อย่างงักกี้ที่เคยบอกว่า นางาเสะซังเป็นผู้ใหญ่หัวใจเด็กค่ะ) บทของยูอิจิโร่ในเรื่องนี้เป็นชายหนุ่มที่มีสองบุคลิกในตัวที่แตกต่างกัน แต่โทโมยะก็แยกความแตกต่างกันได้อย่างชัดเจน ส่วนยูโกะ ทาเคอุจิ ตอนเล่นเรืองนี้ยังเป็นสาวเอ๊าะ ที่แตกต่างกับปัจจุบันลิบลับ(แหงละ ตอนนี้เป็นคุณแม่แล้วนี่นา)ติงต๊อง อารมณ์ดี แต่อ่อนนอกแข็งใน เรียกว่าทั้งโทโมยะ และยูโกะ ต่างก็ถ่ายทอดความน่ารักของคู่รักได้อย่างแนบเนียนและเข้าขา เรียกได้ว่าการแสดงร่วมกันของคู่นี้เป็นสาเหตุส่วนหนึ่งที่ทำให้เรื่องนี้โด่งดัง ในขณะเดียวกัน คนอื่นก็แสดงได้ดีเช่นกันค่ะ เรื่องนี้มีภาคสองด้วย ซึ่งโครงเรื่องก็ใกล้เคียงกับภาคแรก แต่มีการเปลี่ยนตัวแสดงเป็นส่วนใหญ่ภาคสองนี่นางเอกเปลี่ยนเป็นโนริโกะ ซาไก ไอดอลรุ่นพี่ของโทโมยะ ซึ่งจะอายุมากกว่าแถมมีลุกติด ทำให้ฝ่ายหญิงเป็นผู้ใหญ่กว่าภาคแรกที่ทั้งพระเอกนางเอกจะออกต๊องๆ (แต่ยุอิจิโร่ยังต๊องเหมือนเดิมค่ะ)ยังไงถ้าจะมีคนมารีวิวภาคสองก็ยินดีค่ะ จากคุณ : meritiana (Meritiana) - [ 9 มี.ค. 52 17:38:07 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ซากุระบะ ยูอิจิโร่ เป็นคาแรคเตอร์ที่ผมนิยมชมชอบที่สุดครับ ... ขอบคุณคุณ meritiana ที่มารีวิวเรื่องนี้ให้อ่านครับ ขอภาคสองด้วยนะครับถ้าพอจะมีเวลาเีขียน จากคุณ : Mad Bull - [ 9 มี.ค. 52 17:50:08 ]

ความคิดเห็นที่ 21 เข้ามาอัพเดทซีรีส์ที่จองและซี่รี่ส์จองและลงแล้วนะคะ จากกระทู้ที่แล้ว ที่เราอัพเดทไว้ ของภาคสอง ต่อไปนี้เป็นรายชื่อซีรี่ส์ที่จองและรีวิวแล้วค่ะ Papa to musume no nanokakon Rookies Yamada Taro Life Attention please Hero Yasashi Jikan Love and Farm Mukodono one Crying out of Love from the center of the world Big wing Mukodono part one One pound gospel Jotei Engine (เรื่องนี้ลงแล้วค่ะคุณBigwores อยู่ในกระทู้รีวิวภาคสองค่ะ แต่ในหัวข้อภาคสามไม่มีค่ะ) กระทู้ที่จองแล้วแต่ยังไม่ได้รีวิว Yamada Taro Fugoh Keiji one by Meritiana Byakuyakou by Meritiana IWGP by khun Four season in one day Last Friend by khunวัต:-)ี่สิบสองให้ความหวานแทนน้ำตาล Yasha by Khun Freedom and Justice ถ้าตกหล่นขออภัยค่ะ ขอบคุณสำหรับคำชมและรูปนะคะคุณMad bull จริงๆแล้วมุโขะโดโนะทั้งสองภาคเราเคยได้ดูจากไอทีวีแล้ว แต่ที่มีเก็บไว้แค่ภาคเดียวเท่านั้นคือภาคแรกค่ะ สำหรับภาคสองตอนแรกที่ไม่ได้รีวิวเพราะไม่มีเก็บไว้ เลยอาจจะรีวิวไม่ค่อยถูก แต่เท่าที่พอจำได้นะคะ (ใครจะรีวิวเพิ่มเติมก็ได้ค่ะ) จากคุณ : meritiana (Meritiana) - [ 9 มี.ค. 52 23:10:36 ]

ความคิดเห็นที่ 22 มุโขะโดโนะภาคสอง หรือ มุโขะโดโนะ 2003หรือซุปเปอร์สตาร์ถามหารักภาคสอง อย่างที่บอกไปคราวที่แล้วก็คือภาคนี้มีการเปลี่ยนแปลงตัวละครเป็นส่วนใหญ่ อย่างนางเอกและครอบครัวใหม่(ครอบครัวอิชิฮาร่า)เป็นต้น ยกเว้นบางคนอย่างโทโมยะ นางาเสะ ที่รับบทยูอิจิโร่ กับซึงคุ ซึ่งรับบทประธานโคมิเนะ(รายนี้ก็รับบทใกล้เคียงชีวิตจริงเหมือนกัน ซึงคุอดีตเป็นนักร้อง ปัจจุบันเป็นโปรดิวเซอร์ของค่ายเฮลโหลโปรเจ็คท์) ส่วนเรียวโกะ ชิโนฮาร่าก็กลับมาเล่นเหมือนกันค่ะ แต่รายนี้ก็เปลี่ยนบทเป็นสมาชิกในครอบครัวอิชิฮาร่าค่ะ นอกจากนั้นก็มีดาราอื่นเข้ามาร่วมด้วยช่วยเล่นบางตอน อย่างอากิระ อากาซากะ อดีตไอดอลค่ายจอหน์นี่ รุ่นพี่โทโมยะ แต่ปัจจุบันออกจากวงการไปแล้ว ก็มาเล่นเป็นตัวร้ายค่ะ รู้สึกจะเป็นตอนท้ายๆ ส่วนโครงเรื่องก็คล้ายๆของเดิมอ่ะค่ะ เน้นไปทางความสัมพันธ์ของคนในครอบครัว แต่ที่ไม่เหมือนเดิมก็อย่างเช่น บทของนางเอกที่ตอนแรกไม่รู้ว่าพระเอกคือใครจนกระทั่งแต่งงาน(แต่ในภาคแรกรู้ตั้งแต่ต้น)หรืออย่างในภาคนี้ก็เพิ่มคนที่หลงรักพระเอกเข้ามา เป็นดาราที่เล่นหนังหรือละครด้วยกันกับยูอิจิโร่น่ะค่ะ  แบบว่าบทน่าจะซับซ้อนมากขึ้น สำหรับเรา เราว่าภาคนี้ถ้าเทียบกับภาคแรก รู้สึกว่าคนจะชอบภาคแรกมากกว่าค่ะ (รวมถึงเราด้วย)ไม่ใช่ไม่สนุกหรือไม่ดี แต่ภาคแรกอาจจะสดกว่า มีเสน่ห์กว่า โดยเฉพาะคู่พระเอกนางเอกเข้าขากันมากกว่า แต่คิดว่าคนที่ชอบภาคสองก็มีค่ะ ทั้งหมดนี้เป็นรีวิวภาคสองเท่าที่จำได้นะคะ จากคุณ : meritiana (Meritiana) - [ 9 มี.ค. 52 23:25:51 ]

ความคิดเห็นที่ 23 เย้ review jotei จบแล้ว นึกว่าจะเขียนไม่ได้ซะแล้ว จากคุณ : Jotei - [ 10 มี.ค. 52 00:01:26 ]

ความคิดเห็นที่ 24 แฮะๆ ผมยังดูYasha ไม่จบเลยครับ ผมว่ามันไม่ค่อยมันส์เท่าไร ดูมาครึ่งซีรีย์แล้วยังรู้สึกว่าไม่ค่อยไปไหนเลยครับ ผมยินดีครับถ้ามีคนอื่นสนใจจะรีวิวเรื่องยาช่านี้ นี่ผมกะจะไปดูเรื่อง Puzzle แล้วละครับ ขออภัยด้วยครับถ้ามีคนรออยู่ จากคุณ : Freedom and Justice - [ 10 มี.ค. 52 13:13:29 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ต้องขอโืทษทุกคนมากๆๆเลยนะึคะ ช่วงนี้ยุ่งมากๆๆเลย ฮือๆ วุ่นวายมาก คิดถึงซีรีย์ญี่ปุ่น อยากนอนดูหนังจังค่ะๆๆ Yamada Taro ตอนนี้ยังนึกการเขียนไม่ออกเลยอ่ะค่ะ ขอโืทษค่าา ระหว่างนี้ ถ้ามีท่านไหนสนใจจะรีวิวก่อน รีวิวได้ ยินดีเลยค่ะ ต้องขอโทษอย่างมากด้วยนะคะ >__< จากคุณ : โมกุจัง - [ 11 มี.ค. 52 00:02:11 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ขออภัยหายไปนานนนนนนนน ภาระกิจยุ่งเหยิงจริงๆค่ะ T_T มารีวิวตามที่รับปากไว้แล้วค่ะ ________________________________________________ Title (English): Last Friends Genre: Friendship, human drama, gay/lesbian Episodes: 11 Viewership rating: 17.7 (Kanto) Broadcast network: Fuji TV Broadcast period: 2008-Apr-10 to 2008-Jun-19 Air time: Thursday 22:00 Theme song: Prisoner Of Love by Utada Hikaru Cast Nagasawa Masami as Aida Michiru Ueno Juri as Kishimoto Ruka Eita as Mizushima Takeru Nishikido Ryo as Oikawa Sosuke Mizukawa Asami as Takigawa Eri Yamazaki Shigenori as Ogura Tomohiko Screenwriter: Asano Taeko  Awards 1st Tokyo Drama Awards: Best Youth Drama 1st Tokyo Drama Awards: Best Actress - Ueno Juri 57th Television Drama Academy Awards: Best Drama 57th Television Drama Academy Awards: Best Supporting Actress: Ueno Juri 57th Television Drama Academy Awards: Best Supporting Actor: Nishikido Ryo 57thTelevision Drama Academy Awards: Best Director: Kato Hiromasa, Nishisaka Mizuki, Endo Mitsutaka 57th Television Drama Academy Awards: Best Script: Asano Taeko 57th Television Drama Academy Awards: Best Theme Song 12th Nikkan Sports Drama Grand Prix (Spring 2008): Best Supporting Actor: Nishikido Ryo 12th Nikkan Sports Drama Grand Prix (Spring 2008):Best Supporting Actress: Ueno Juri พอได้ยินชื่อเรื่อง last friends บวกกับเห็นภาพซีรีย์เรื่องนี้  เห็นรายชื่อนักแสดงเชื่อว่าอีกหลายคนคงคิดเหมือนเราที่ว่า **เรื่องนี้ต้องดู** เพราะนอกจากจะมีนักแสดงดึงดูดอย่าง Masami Nagasawa, Nishikido Ryo, Ueno Juri , Eita,Mizukawa Asami (ซึ่งขนนักแสดงหลักจากเรื่องโนดาเมะมาถึง 3 ยังงัยก็ยิ่งไม่พลาดอยู่แล้ว) แล้วพอได้ดูจริงๆก็ อืมมม์..เข้มข้นกว่าที่คิด รุนแรงกว่าที่คาด  สมการรอคอยจริงๆ มิชิรุ (Masami Nagasawa) ช่างเสริมสวยที่เพิ่งตัดสินใจย้ายเข้าไปอยู่กับแฟนหนุ่ม โซสึเกะ(Nishikido Ryo) ข้าราชการในหน่วยงานคุ้มครองเด็ก ที่ดูภายนอกเป็นคนอ่อนโยนมากๆ  แต่เมื่ออยู่ด้วยกันไม่นาน โซสึเกะก็เปิดเผยอีกหนึ่งตัวตนที่ซ่อนอยู่ คือเป็นคนชอบใช้ความรุนแรงภายในครอบครัว (domestic violence) ระหว่างนั้นมิชิรุได้บังเอิญพบเพื่อนสนิท สมัยเรียน รุกะ (Ueno Juri) สาวนักแข่งมอเตอร์ไซด์มาดทอมที่แอบรักมิชิรุมาตลอด โดยที่มิชิรุไม่ระแคะระคายหรือรู้ตัวเลยสักนิด หลังจากที่ไม่ได้พบกันมานานถึง 4 ปี ทั้งสองดีใจมาก และได้ทิ้งเบอร์โทรศัพท์เพื่อติดต่อหากันอีก โซสึเกะแอบดูมือถือของมิชิรุ และพบข้อความ ที่รุกะส่งมา เขาเกิดอาการหึงหวงและควบคุมตัวเองไม่ได้ ทำร้ายมิชิรุ และสั่งห้ามไม่ให้มิชิรุติดต่อกับรุกะหรือแม้แต่ตัดผมให้ลูกค้าผู้ชาย โซสึเกะวางข้อจำกัด และบังคับให้มิชิรุอยู่ในโลกของเขาเท่านั้น ”มิชิรุ..เธอเป็นของฉันคนเดียว เรามามีชีวิตของเรากันเถอะ” นั่นคือความรักในรูปแบบของโซสึเกะ ที่เขาหยิบยื่น และยัดเยียดให้กับมิชิรุ รุกะอาศัยอยู่ในบ้านที่เรียกว่า แชร์เฮาส์ ซึ่งประกอบไปด้วย เอริ(Mizukawa Asami) แอร์โฮสเตสคนสวยมองโลกในแง่ดี ที่(พยายาม)ยิ้ม และไม่คิดมากกับปัญหาจุกจิกทุกเรื่องในชีวิต โอกุริน (Yamazaki Shigenori) หนุ่มพนักงานสายการบินที่รู้อยู่เต็มอกว่าภรรยามีชู้ แต่ก็ไม่เด็ดขาดพอที่จะขอหย่า และยังแอบมาเป็นกิ๊กกับเอริ ใช้เอริเป็นที่พึ่งพึงใจยามตัวเองอ่อนแออีกด้วย (ซึ่งเอริก็ยินยอมแต่โดยดี) และหนุ่มอ่อนโยนทาเครุ (Eita)ช่างแต่งหน้าทำผมกองถ่าย  ที่มีปมอดีตฝังใจ(ถูกพี่สาวล่วงละเมิดทางเพศในวัยเด็ก) รุกะเองก็มีความลับที่ไม่สามารถบอกใครได้ที่ว่าเธอ ต้องการจะศัลยกรรมแปลงเพศ แต่ละคนแบกปัญหาของตัวเองไว้ แต่ทุกคนก็อยู่ร่วมกันในแชร์เฮาส์ ...ซี่งเป็นบ้านที่แชร์ไปถึงความห่วงใย ความผูกพัน ให้บ้านนี้เป็นบ้านที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรักและความอบอุ่นแห่งมิตรภาพ เมื่อรุกะรู้ว่ามิชิรุถูกแฟนหนุ่มทำร้ายร่างกาย รุกะจึงชวนมิชิรุย้ายมาอยู่ที่แชร์เฮาส์ด้วยกัน โซสึเกะจึงเกลียดรุกะมากๆ “นังนั่นมันไม่ใช่ผู้หญิง สายตาแบบนั้น มันเป็นสายตาของผู้ชายชัดๆ ” โซสึเกะคอยวนเวียนอยู่ใกล้ๆและรอโอกาสใช้ทุกวิธีเพื่อแย่งมิชิรุกลับมาเป็นของเขาคนเดียว ขณะที่รุกะคอยปกป้องมิชิรุ ทาเครุเองก็แอบรักรุกะถึงเขาจะรู้อยู่เต็มอกว่าไม่มีทางที่รุกะจะหันมาชอบผู้ชายได้ แต่เขาก็ยินยอมที่จะรักรุกะแบบนี้ต่อไป “ถ้าเธอจะปกป้องมิชิรุ ฉันก็จะคอยปกป้องเธอเอง..”   ความสัมพันธ์ของแต่ละคน ค่อยๆพัวพันกันยุ่งเหยิงขึ้นเมื่อมิชิรุเองพยายามตัดใจจากโซสึเกะ และอยากจะเริ่มรักใครซักคนอีกครั้ง โดยอยากให้ทาเครุเป็นคนๆนั้น รักสามสี่เส้าจึงเกิดขึ้นจนถึงขั้นรุนแรงจนเป็นโศกนาฎกรรม หรือแฮปปี้เอนดิ้งอย่างไร เรื่องนี้ทำให้คนดูอย่างเราต้องติดตามแบบใจจดใจจ่อ พลาดไม่ได้เลยซักตอน ยิ่งดนตรีประกอบที่ใส่มาในช่วงคาแรกเตอร์ของโซสึเกะ มันช่างหลอนบีบจิตคนดูได้มากมายจริงๆ และที่พลาดไม่ได้เพลง Theme song: Prisoner Of Love by Utada Hikaru เพลงนี้มันใช่เลย.. ฉันเกิดมาเพื่อสิ่งนี้ สร้างสรรค์มาสำหรับเรื่องนี้จริงๆค่ะ รางวัลต่างๆคงจะรับประกันผลงานการแสดงของ Ueno Juri และ Nishikido Ryo ได้ดี (สำหรับผลงานของจูริที่เราชอบ บทของรุกะในเรื่องนี้มาคู่กับโนดาเมะเลยทีเดียว) น้องจูริแสดงเป็นทอมได้เท่ห์มากๆ นิสัยก็แมนสุดๆ ดูเธอคือรุกะจริงๆ เธอไม่ใช่จูริ เธอไม่ใช่โนดาเมะ แต่เธอคือรุกะ 55+ ส่วนน้องเรียวที่ไม่เคยอยู่ในสายตาเราเลย แต่เรื่องนี้แสดงได้จิตมากๆ เอาเป็นว่าซีนไหนที่มีโซสึเกะ เขาจะเหมือนมีรังสีอำมหิตบางอย่างแผ่ซ่านไปทั่วซีนจริงๆ (55+อีกรอบ) อีกอย่าง..เรายังชอบคำที่เล่นกับคาแรกเตอร์ของตัวละครหลักในเรื่อง ไม่ว่าจะเป็น Love             ความรักของมิชิรุ Liberation     การปลดปล่อยให้เป็นอิสระของรุกะ agony           ความปวดร้าวทรมานของทาเครุ solitude        ความโดดเดี่ยวของเอริ และ.. contradictory  สิ่งที่ขัดแย้งตรงกันข้ามในบุคลิกของโซสึเกะ ปล. ถ้าเราตีความหมายผิดพลาดก็ขออภัยด้วยนะคะ ภาษาไทยอ่อนมาก ภาษาอังกฤษไม่ได้เลย สำหรับเราแล้ว Last Friends ถือเป็นซีรีย์ที่สะท้อนแง่มุมของความรัก ในรูปแบบต่างๆ ความรักที่ไม่จำกัดเพศ แต่เน้นไปที่..เมื่อเรารัก เราทำสิ่งใดเพื่อความรัก เพื่อคนที่เรารักมีความสุขได้บ้าง หรือเพียงแค่อาศัยคำว่า เก็บเกี่ยวความสุขอย่างเห็นแก่ตัว ซีรีย์เรื่องนี้จะทำให้เรามองความรักได้หลากหลายขึ้นและได้เห็นจริงๆกับคำพูดที่เคยได้ยินมานานว่า.. “ความรักที่แท้จริง ไม่ต้องการ ไม่คาดหวังอะไรอื่นเลย นอกจาก..การเห็นคนที่เรารักมีความสุข..ก็เพียงพอแล้ว” แก้ไขเมื่อ 14 มี.ค. 52 22:55:07 จากคุณ : วัตถุ22ให้ความหวานแทนน้ำตาล - [ 14 มี.ค. 52 22:39:48 ]

ความคิดเห็นที่ 27 จริงๆแล้วเรายังชอบประโยคท้ายๆของเรื่องแต่ไม่กล้าพิมพ์ในนั้น กลัวจะสปอลย์ (แต่คาดว่าส่วนมากก็น่าจะดูกันไปหมดแล้ว)... จึงขออนุญาตยกข้อความมาบางส่วน ___________________________________________________ พวกเราจะกลับมาอยู่ด้วยกันอีก.....เป็นครอบครัว เป็นเพื่อนสนิท เป็นสามีภรรยาและคนรัก ดูเหมือนเราจะเป็นอะไรสักอย่างแต่ที่จริงแล้ว มันไม่ใช่อะไรเลย เราจะรักษาความสุขอันบอบบางนี้ไว้และจะทนุถนอมมันไว้อย่างดีที่สุด เราจะเป็นเพื่อนกันตลอดไป...เป็นเพื่อนที่ไม่มีวันแยกจากกันอีก ......เพื่อนรักเพราะเธอคือเพื่อนคนสุดท้าย.. จากคุณ : วัตถุ22ให้ความหวานแทนน้ำตาล - [ 14 มี.ค. 52 22:46:02 ]

ความคิดเห็นที่ 28 มารีวิวซีรี่ส์ตามที่ดองไว้เหมือนกันค่ะ เบียขุยะโค หรือมิดไนท์ซันเจอร์นี่ จากคุณ : meritiana (Meritiana) - [ 16 มี.ค. 52 14:47:57 ]

ความคิดเห็นที่ 29 Name : Byakuyakou or A midnight  sun's jorney Gender : Romance, Suspense Episodes : 11 Broadcast network: TBS Broadcast time : 12 Jan,2006-23 Mar,2006  on Thursday 21.00 Recognitions: 48 th Television Academy Awards : Best drama 48th Television Academy Awards : Best actor Takayuki Yamada 48th Television Academy Awards : Best supporting actor Tetsuya Takeda 48 th Television Academy Awards :Best supporting actress Haruka Ayase Cast : Yuukit Isumikawa /Takayuki Yamada as Ryoji Kirihara Mayuko Fukada/ Haruka Ayase as Yukiho Nishimoto (Karizawa) Tetsuya Takeda as Junzo Sasagaki Takashi Kashiwabara as Kazunari Shinozuka Atsuro Watabe as Izomu Matsuura จากคุณ : meritiana (Meritiana) - [ 16 มี.ค. 52 15:13:05 ]

ความคิดเห็นที่ 30 เรื่องย่อ: เรียวจิ คิริฮาระ เด็กชายจิตใจดี อาศัยอยู่กับครอบครัวที่ไม่อบอุ่นนักอยู่ในบ้านที่เป็นสถานที่รับจำนำ พ่อของเรียวจิเอาแต่ทำงาน ส่วนแม่ก็แอบมีชู้กับพนักงานในร้าน ทำให้เรียวจิกลายเป็นเด็กที่ไม่มีความสุขนัก ต่อมาเขาได้พบกับยูกิโฮะ นิชิโมโตะ ในห้องสมุดที่เขาไปเป็นประจำ ยูกิโฮะเป็นเด็กกำพร้าผู้มีบุคลิกเงียบขรึมและเก็บกด เธออาศัยอยู่กับแม่ที่ติดเหล้าและมีหนี้สินแต่เพียงลำพัง ด้วยความที่เด็กทั้งสองมีวัยไล่เลี่ยและเป็นเด็กที่มีปัญหาเหมือนกัน ทำให้ทั้งสองสนิทสนมกันอย่างรวดเร็ว ต่างก็ยึดถืออีกฝ่ายเป็นดั่งดวงอาทิตย์ที่เข้ามาในชีวิตและกลายเป็นรักแรกของกันและกัน แต่ต่อมา เมื่อพ่อของเรียวจิพบว่าทั้งคู่เป็นเพื่อนสนิทกัน เขาได้สั่งห้ามลูกชายมิให้คบกับยูกิโฮะ เช่นเดียวกับยูกิโฮะที่พยายามหลบหน้าเรียวจิโดยไม่มีเหตุผล แต่ต่อมาไม่นาน เรียวจิก็ได้ค้นพบคำตอบ นั่นคือ แม่ของยูกิโฮะได้บังคับให้ลูกสาวกลายเป็นโสเภณีเด็ก และลูกค้าที่ยูกิโฮะต้องไปขายตัวเพื่อนำเงินมาใช้หนี้คือพ่อของเรียวจินั่นเอง ด้วยความโกรธที่พ่อของตนเองพูดจาดูถูกคนที่ตัวเองรัก ทำให้เรียวจิพลั้งมือฆ่าพ่อของเขาเสียชีวิตต่อหน้าเพื่อนสาวโดยไม่ได้ตั้งใจ เหตุการณ์นี้ทำให้เด็กทั้งสองตกใจมาก แต่เพื่อปกป้องเพื่อนที่มีอยู่คนเดียว ยูกิโฮะจึงตัดสินใจรับเป็นฆาตกรแทนเรียวจิและพยายามทำลายหลักฐานต่างๆที่อาจสาวมาถึงตัว และเพื่อปกปิดความลับ ทั้งคู่จึงมีข้อตกลงกันว่าต่างฝ่ายจะทำเป็นไม่รู้จักซึ่งกันและกัน และจะไม่เล่าเรื่องนี้ให้ใครฟัง แม้แต่บรรณารักษ์ที่ทำงานที่ห้องสมุดที่เป็นผู้ใหญ่ที่เด็กทั้งสองไว้ใจก็ตาม ต่อมาไม่นาน ก็มีคนพบศพของคิริฮาระผู้พ่อ นายตำรวจซาซางากิและโคกะ ตำรวจรุ่นน้อง ได้เข้ามาสืบสวนคดีนี้ ทั้งคู่ได้สอบปากคำบุคคลที่คาดว่ามีส่วนเกี่ยวข้อง รวมถึงเรียวจิ แต่เด็กชายก็เอาตัวรอดไปได้ด้วยความช่วยเหลือของมัตสึอุระ ชู้ของแม่ซึ่งแอบเห็นเรียวจิซักเสื้อที่เปื้อนเลือดและปะติดปะต่อเหตุการณ์ได้ ส่วนยูกิโฮะนั้น ทางตำรวจสืบรู้ว่าฟูมิโยะ ผู้เป็นแม่ได้เป็นลูกค้าโรงรับจำนำของคิริฮาระ และได้นัดเธอมาสอบปากคำ ด้วยความที่กลัวความลับจะถูกเปิดเผย ทำให้ยูกิโฮะได้ตัดสินใจที่จะฆ่าแม่ของตัวเองและฆ่าตัวตายตามด้วยการเปิดแก๊สในบ้าน ฟูมิโยะเสียชีวิตแต่ตำรวจสามารถช่วยชีวิตผู้เป็นลูกสาวไว้ได้และได้พบอาวุธที่ใช้ฆ่าคิริฮาระอยู่ในบ้านด้วยคือกรรไกร หลังจากที่ยูกิโฮะฟื้น เธอได้ให้การเท็จกับตำรวจว่ากรรไกรนั้นเป็นของแม่ของเธอ(ซึ่งอันที่จริงแล้วเป็นกรรไกรของเรียวจิ)นั่นเท่ากับเป็นการให้ร้ายแม่ตัวเองว่าเป็นฆาตกรนั่นเอง ทำให้เธอตกอยู่ในฐานะลูกฆาตกร ส่วนเรียวจิตกอยู่ในฐานะลูกของผู้เสียชีวิต      และถึงแม้ว่าซาซางากิจะพบว่าคดีนี้มีพิรุธที่น่าสงสัยหลายอย่าง แต่เขาก็ไม่สามารถที่จะทำอะไรได้ เพราะตัวเขาเองก็ถูกย้ายไปสืบสวนคดีอื่น  หลังจากที่เรื่องราวจบลง ยูกิโฮะไม่สามารถที่จะอาศัยอยู่ที่เมืองนี้ต่อไปได้ เธอจึงตัดสินใจไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่อื่น ก่อนจากเธอได้ตกลงกับเรียวจิไว้ว่า ต่อไปนี้ทั้งคู่จะกลายเป็นเพียงคนแปลกหน้าต่อกันเท่านั้น เจ็ดปีผ่านไป ยูกิโฮะได้กลายเป็นลูกสาวบุญธรรมของคาราซาวะ เจ้าของโรงเรียนสอนจัดดอกไม้ ซึ่งรับเธอมาจากสถานสงเคราะห์เด็กกำพร้าอีกต่อ ในขณะที่แม่ของเรียวจิได้ปิดร้านรับจำนำและทำกิจการบาร์ ส่วนตัวของเรียวจิไปอยู่กับมัตสึอุระ ทุกสิ่งทุกอย่างดูเหมือนจะกลายเป็นอดีตที่ไม่มีใครจดจำได้ แต่ต่อมายูกิโฮะถูกเพื่อนร่วมชั้นซึ่งริษยาเธอกลั่นแกล้งโดยนำเรื่องราวที่เธอเป็นลูกฆาตกรมาเปิดเผย ส่วนเรียวจิถูกเพื่อนสมัยเด็กนำรูปถ่ายที่จะเป็นหลักฐานมัดตัวเขามาแบล็คเมล์ เป็นเวลาเดียวกับที่เรียวจิพบว่านายตำรวจซาซางากิได้กลับมาเยือนเมืองนี้อีกครั้ง เพื่อทำการรื้อฟื้นคดีขึ้นมาใหม่ ขณะที่ทุกสิ่งทุกอย่างกำลังประดังประเดเข้ามา ทั้งยูกิโฮะและเรียวจิได้พบกันโดยบังเอิญ ทั้งคู่ได้ร่วมกันหาทางแก้ไข ตอนแรกเรียวจิตั้งใจจะไปมอบตัว แต่เพื่อนสาวของเขาไม่ยอม โดยอ้างถึงสัญญาที่ทั้งคู่จำเป็นต้องกลายเป็นคนแปลกหน้าของกันและกันว่าเพื่อในอนาคตทั้งสองจะได้สามารถใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน ด้วยเหตุผลนี้ ทั้งยูกิโฮะและเรียวจิจำเป็นต้องทำทุกอย่างเพื่อรักษาความลับในอดีตไว้ และเพื่อไม่ให้ความลับถูกเปิดเผย ทั้งคู่จึงต้องทำร้ายทุกคนที่มีแนวโน้มว่าจะรู้ความลับนี้เพื่อเอาตัวรอด.................... จากคุณ : meritiana (Meritiana) - [ 16 มี.ค. 52 16:10:18 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ชื่อเรื่อง ลักษณะการดำเนินเรื่องและอื่นๆ ชื่อเรื่อง: A Midnight Sun Journey หรือแปลเป็นไทยได้ว่า การเดินทางภายใต้พระอาทิตย์เที่ยงคืนซึ่งเป็นชื่อเรื่องภาษาอังกฤษนั้น เป็นชื่อเรื่องที่ต้องแตกต่างจากชื่อเรื่องอื่นๆ ตรงที่ในขณะที่ชื่อเรื่องบางเรื่องจะบ่งบอกตรงๆเช่น ไลเออร์เกม หมายถึงเกมแห่งการโกหกซึ่งพระเอกนางเอกต้องเล่น ส่วนมายฮัสแบนด์ของมุโขะโดโนะ หมายถึงยูอิจิโร่ ซากุราบะตัวเอกของเรื่อง แต่สำหรับชื่อเรื่องภาษาอังกฤษของเรื่องเบียขุยะโคนี้ เป็นชื่อที่ต้องอาศัยการตีความ ตามความเข้าใจของเรามีอยู่สองอย่าง อันแรกคือ เนื่องจากทั้งยูกิโฮะและเรียวจิต่างฝ่ายต่างก็เปรียบอีกฝ่ายเป็นกำลังใจของกันและกัน เปรียบได้กับพระอาทิตย์ที่ส่องแสงสว่างในชีวิตของกันและกัน เท่ากับเป็นพระอาทิตย์เชิงเปรียบเปรย ที่มีใช่พระอาทิตย์ที่อยู่บนท้องฟ้าที่ส่องแสงในชีวิตจริง แต่หลังจากเหตุการณ์ที่เรียวจิได้สังหารพ่อของตัวเองไป ทำให้ทั้งคู่ตกอยู่ในความทุกข์ เท่ากับว่าทั้งสองสูญเสียพระอาทิตย์ที่ส่องแสงในความเป็นจริงไปแล้ว นั่นก็คือต่างฝ่ายต่างก็เดินทางอยู่ในความมืดมิดที่ปราศจากแสงสว่าง มีเพียงพระอาทิตย์ปลอมๆที่ทั้งคู่อุปโลกน์ซึ่งกันและกันคอยส่องนำทางอยู่เป็นพระอาทิตย์เที่ยงคืน ซึ่งมันก็ไม่ใช่พระอาทิตย์ทีแท้จริงอยู่ดี ความหมายที่สองคือ ในท้ายที่สุดเมื่อเรียวจิซึ่งเปรียบเหมือนพระอาทิตย์ในชีวิตของฝ่ายยูกิโฮะลาลับไป  เธอจึงจำเป็นต้องเดินทางต่อไปตามลำพังโดยปราศจากแสงสว่างใดๆส่องเข้ามาในชีวิตอีกเลย เพราะไม่มีทั้งพระอาทิตย์ที่แท้จริง(ที่ส่องอยู่บนฟ้า)กับพระอาทิตย์ที่เป็นกำลังใจให้ (เรียวจิ) เป็นเช่นเดียวกับคำพูดของซาซางากิที่เคยพูดก่อนที่ยูกิโฮะในวัยเด็กจะจากเมืองไปว่า " คนที่โกหกเพียงครั้งเดียว ต่อไปก็ต้องโกหกอยู่อีกเรื่อยๆคนแบบนี้จะไม่มีทั้งอนาคตและพระอาทิตย์ที่จะคุ้มหัว"(ทำไมซาซางากิซังถึงทำนายแม่นแบบนี้เนี่ย) ลักษณะการดำเนินเรื่องและแนวเรื่อง: แนวทางของเรื่องเป็นแนวดราม่าที่มีลักษณะสืบสวน สอบสวน ลึกลับซับซ้อนซ่อนเงื่อนผสม ในขณะเดียวกันก็แฝงความแรงแบบที่ไม่สามารถออกอากาศในบ้านเรา(ในแง่ที่ตัวละครเอกต่างฆ่าพ่อและแม่ของตัวเองเพื่อปกป้องอีกฝ่าย)เนื่องจากเสี่ยงต่อการถูกวิพากษ์วิจารณ์ไว้ด้วย นอกจากนั้นยังมีเรื่องโรแมนซ์มาปนด้วยเล็กน้อย คือความรักของพระเอกนางเอก แต่ความรักในที่นี้มิใช่ความรักหวานแหวว แต่เป็นความรักที่เห็นแก่ตัว(ของนางเอก)ความรักที่เสียสละ(ทำได้ทุกอย่างเพื่อเธอ)แต่สุดท้ายก็นำไปสู่ความทุกข์และโศกนาฏกรรมของพระเอก ลักษณะการดำเนินเรื่อง: เรื่องเบียขุยะโคเริ่มต้นในคืนคริสต์มาสอีฟ เมื่อชายหนุ่มในชุดซานตาคลอสถูกแทงได้รับบาดเจ็บสาหัสบนถนน และมีหญิงสาวผู้หนึ่งได้พยายามเดินเข้ามาหา แต่ซานต้าหนุ่มกลับโบกมือไล่ หญิงสาวผู้นั้นจึงได้เดินจากไป ชายหนุ่มได้เล่าเรื่องต่างๆในอดีตผ่านทางความทรงจำครั้งสุดท้ายตั้งแต่เริ่มต้นจวบจนถึงลมหายใจสุดท้าย เมื่อเขาได้เสียชีวิตลง หญิงสาวได้เข้ามาสานต่อเหตุการณ์โดยการให้ปากคำกับตำรวจ และนำไปสู่จุดจบของเรื่อง เท่ากับเรื่องได้ดำเนินจากปัจจุบัน(เหตุการณ์สั้นๆ)ย้อนกลับไปสู่อดีต และกลับมายังปัจจุบันใหม่ เนื่องจากเรื่องนี้เรารีวิวยาว แต่เวลามีจำกัด ดังนั้น ขอแปะไว้ก่อนนะคะ แล้วจะมารีวิวที่เหลือ(ตัวละคร ตอนจบ อื่นๆ)ต่อค่ะ จากคุณ : meritiana (Meritiana) - [ 16 มี.ค. 52 17:06:26 ]

ความคิดเห็นที่ 32 Title (romaji): Erai Tokoro ni Totsuide Shimatta! Title (English): I've Been Married To Hell! / Oh! My Mother in Law! Title (Thai): รักหรรษาวิวาห์นรก Episodes: 9 Cast : Nakama Yukie เป็น Yamamoto Kimiko Tanihara Shosuke เป็น Yamamoto Isojiro Matsuzaka Keiko เป็น Yamamoto Shimako เรื่องราวของ มาคิมูระ คิมิโกะ สาวชาวกรุงผู้มีอาชีพเป็นนักเขียนอิสระให้กับหนังสือนิตยสาร ตกลงปลงใจแต่งงานกับ ยามาโมโตะ โซอิจิโร่ ชายหนุ่มแสนซื่อ (จนบื้อ)ลูกชายคนรองของตระกูลยามาโมโตะ ตระกูลที่มีประเพณีต่าง ๆ มากมาย โดยมี ยามาโมโตะ ชิมิโกะ แม่สามีผู้เพียบพร้อม คอยคาดหวังว่าเธอจะเป็นภรรยาที่แสนดี และเป็นสะใภ้ตระกูลยามาโมโตะอย่างงดงาม แต่ความจริงแล้ว คิมิโกะกลับทำกับข้าวไม่เก่ง และทำอะไรก็ผิดพลาดไปซะหมด เธอหลีกเลี่ยงที่จะเข้าไปอยู่ในบ้านหลังนั้น แต่ดูเหมือนสามีของเธอจะอยากให้เธอสนิทสนม และเข้ากับมารดาของเขาได้ รวมไปถึงเหตุการ์ณต่าง ๆ ที่ทำให้เธอต้องไปอยู่ที่บ้านแห่งนั้น แล้วคิมิโกะจะทนกับประเพณีเก่าแก่  และมารยาทต่าง ๆ  รวมไปถึงแม่สามีที่คอยวุ่นวายกับเธอได้ซักแค่ไหน ความเห็น เรื่องนี้เราไม่ได้ซื้อมาดู แต่ดูจากเคเบิ้ลท้องถิ่นที่บ้าน ซึ่งทางช่องมักจะมีซีรี่ย์เกาหลี ญี่ปุ่นมาฉายสลับไปมาเสมอ และคิดว่าโชคดีชะมัด ที่ได้ดูเรื่องนี้ สำหรับเรื่องนี้ เป็นเรื่องราวสนุกสนาน comedy เกี่ยวกับความสัมพันธ์ของคนในครอบครัว รวมไปถึงการกล่าวถึงประเพณีโบราณของครอบครัว เป็นเรื่องที่ดูได้ทุกเพศทุกวัย  แถมได้แง่คิด ทั้งเรื่องประเพณีต่าง ๆ การวางตัวกับคนในครอบครัว และเรื่องเกี่ยวกับความรู้สึก ความจริงแล้ว หากเป็นเรื่องจริง คงปวดหัวไม่ใช่น้อย ดังที่มีคำกล่าวไว้ว่า มากคนมากความนั่นแหละ ส่วนตัวแล้ว ต้องอุทานคำว่า "อีกแล้วเหรอ" กับผู้ชายคนนี้ Tanihara shosuke  นับไปนับมา ก็เป็นซีรี่ย์เรื่องที่ 7 ที่เราได้ดูซีรี่ย์ที่มีเค้าเล่น เยอะไม่ใช่น้อย สังเกตุว่า ถ้าเรื่องไหน นางเอกเด่น มักจะเป็นเค้าแฮะ เป็นอีกซีรี่ย์นึง ที่ดูสบาย แต่ได้สาระค่ะ แก้ไขเมื่อ 19 มี.ค. 52 12:53:27 จากคุณ : แพม* - [ 18 มี.ค. 52 19:23:16 ]

ความคิดเห็นที่ 33 มาช่วยคุณโมกุจังรีวิวYamada Taroค่ะ เห็นว่าคุณโมกุจังบอกว่ายุ่งๆอยู่ และก็พอดีพึ่งจะได้ดูเรื่องนี้ค่ะ เลยยังฮึดที่จะรีวิว 555+ ไม่รู้ว่าจะเขียนได้ถูกใจคุณโมกุจังรึเปล่านะคะ^^" "Yamada Taro Monogatari ~ เทพบุตรถังแตก" นำแสดงโดย : Ninomiya Kazunari , Sakurai Sho , Tabe Mikako โรงเรียนอิจิโนะมิยะ โรงเรียนสุดหรูของเหล่าลูกคนรวย ที่นี่มีเทพบุตรสุดหล่ออยู่สองคนที่ไม่ว่าจะทำอะไรก็ดูดีไปซะหมด เรียนก็เป็นอันดับ1ของโรงเรียน หล่อ รวย เท่ห์ เพอร์เฟกต์ครบสูตร โดยหนุ่มในความฝันของสาวๆก็คือยามาดะ ทาโร่ (นิโนะ) และ มิมุระ ทาคุยะ (โช) แต่สาวๆหารู้ไม่ว่าความจริงแล้วยามาดะนั้นจน!!!! ครอบครัวของยามาดะอยู่ในบ้านหลังเล็กๆเก่าแก่ อาศัยอยู่กับครอบครัวซึ่งมีแม่และน้องอีก7คน ส่วนพ่อนั้นจะกลับบ้านมาเป็นครั้งคราว และแน่นอนว่าด้วยเหตุนี้ยามาดะจึงเป็นแกนหลักสำคัญของบ้านที่คอยดูแลทุกสิ่งทุกอย่างในบ้านหลังนี้ ภาระหนักเช่นนี้ทำให้ยามาดะต้องทำงานพิเศษหลังเลิกเรียน และต้องรีบกลับบ้านเพื่อดูแลความเรียบร้อยทุกอย่าง แต่ถึงแม้งานเหล่านี้จะหนัก ยามาดะก็ทำด้วยความเต็มใจและมีความสุขที่ได้ทำ มิมูระซึ่งนั่งอยู่หน้ายามาดะในห้องเรียนได้สังเกตหลายๆอย่างในตัวยามาดะที่ดูแปลกๆ และรู้สึกว่าน่าสนใจ จึงได้ตามสืบจนรู้ว่าครอบครัวยามาดะจนแค่ไหน ซึ่งยามาดะเองก็ไม่ได้ปิดบังความจนของตัวเองเลยแม้แต่น้อย มิมูระที่เป็นลูกคนรวยตัวจริงกลับไม่รู้สึกว่าความจนเป็นสิ่งที่น่ารังเกียจ แต่กลับยิ่งทำให้สนใจชีวิตครอบครัวของยามาดะ จนกลายเป็นเพื่อนสนิทที่สุดของยามาดะ เพราะมิมูระเองถึงแม้จะรวยแต่ก็ใช่ว่าจะมีความสุข แต่เมื่อได้เจอยามาดะก็ได้พบว่าความสุขและความสนุกสนานที่ขาดหายไปได้กลับคืนมาอีกครั้ง นอกจากนั้นมิมูระยังคอยช่วยเหลือเป็นที่ปรึกษาของยามาดะเสมอมา จนทำให้ผูกพันกับครอบครัวของยามาดะไปด้วย สาวๆที่รายล้อมรอบตัวเทพบุตรทั้งสอง มีคนหนึ่งที่มีความฝันอันสูงสุดว่าจะต้องแต่งงานกับคนที่ร่ำรวย เพอร์เฟกต์ราวกลับเจ้าชาย เธอก็คืออิเคงามิ (มิคาโกะ) และเธอก็ไปตกหลุมรักยามาดะอย่าถอนตัวไม่ขึ้นโดยที่ไม่รู้ว่าเขานั้นเป็นคนจน!! เธอมีความคิดที่ว่าจะต้องแต่งงานกับคนรวยเท่านั้นเพราะเงินเป็นสิ่งเธอคิดว่าสำคัญที่สุด แต่ความคิดของเธอนั้นกำลังจะค่อยๆเปลี่ยนไปเพราะตัวตนที่แท้จริงของยามาดะ และข้อคิดคมๆจากมิมูระ ชีวิตของยามาดะจะเจอกับอุปสรรคอะไรบ้างและจะผ่านพ้นไปได้อย่างไร  แล้วความรักของอิเคงามิล่ะจะเอายังไงต่อไป ต้องติดตามชมเอาเองนะคะ... เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เฮฮา น่ารัก ซึ้ง ประทับใจ ซึ่งสร้างออกมาในคนละรูปแบบกับซีรี่ส์ไต้หวัน เพราะซีรี่ส์ญี่ปุ่นจะเน้นเรื่องตรอบครัวเป็นส่วนใหญ่ ความประทับใจที่โดดเด่นในความคิดของมิกิคือเรื่องของครอบครัว โดยเฉพาะครอบครัวของยามาดะที่มีวิธีในการดำรงชีวิตให้มีความสุขแม้ว่าจะยากจนก็ตาม จึงทำให้บ้านนี้มีรอยยิ้มอยู่เสมอทุกๆวัน เห็นความรักของยามาดะที่มีต่อน้องและครอบครัว รวมไปถึงความรักของน้องๆที่มีต่อยามาดะเช่นกัน เห็นฉากประทับใจมากมายจนทำให้น้ำตาคลอเลยค่ะ นอกจากนั้นยังเห็นความผูกพัน ห่วงใยระหว่างเพื่อน และครูกับนักเรียน จนทำให้เรื่องนี้เป็นเรื่องหนึ่งที่ดูแล้วประทับใจได้อย่างง่ายดาย เพลงประกอบ"Happiness" โดยหนุ่มๆอาราชิก็สนุกสนาน เหมาะกับเรื่องนี้ที่ทำให้เราได้เห็นว่าความจน-รวยไม่ได้เป็นสิ่งที่ชี้วัดว่าจะทำให้เรามีความสุขหรือไม่ แต่ขึ้นอยู่กับเรามากกว่าว่าเรานั้นรู้สึกอย่างไร นั่นแหละคือความสุข Happiness ที่แท้จริง รับรองว่าจะได้ความสุขและรอยยิ้มจากเรื่องนี้แน่นอนค่ะ^^ (ดิท แก้ไขคำผิด+เพิ่มเติมค่ะ) แก้ไขเมื่อ 19 มี.ค. 52 12:21:32 แก้ไขเมื่อ 19 มี.ค. 52 12:19:55 แก้ไขเมื่อ 19 มี.ค. 52 12:19:23 จากคุณ : Satohara Miki - [ 19 มี.ค. 52 12:08:35 ]

ความคิดเห็นที่ 34 มาอัพเดทซีรี่ส์ค่ะ ต่อจากกระทู้อันล่าสุด มีคนสละสิทธิ์ดังนี้ค่ะ Utahime ของคุณป้าอ้วนมาเอง Yasha ของคุณฟรีด้อม แอนด์ จัสติซ (ถ้าจะเปลี่ยนเป็นรีวิวพัซเซิลแทนก็ดีค่ะ แบบว่าเราก็อยากรู้เรื่องนี้เหมือนกันค่ะ รู้แต่คนเล่นน่ะค่ะ) Yamada Taro ของคุณโมกุ เรื่องนี้คุณซาโตฮาร่ามากิมารีวิวแทนแล้วค่ะ กระทู้ที่จองแล้วมีคนรีวิวแล้วก็มี Last Friend Byakuyakou ขอแปะไว้ก่อนค่ะ แบบว่ายังไม่จบ(อันที่จริงคนดูเรื่องนี้เยอะนะเนี่ยรู้เรื่องกันไปหมดแล้ว แต่เรายังติดลมบนอยู่) กระทู้ที่คนจองแต่ยังไม่รีวิว IwGP ของคุณฟอร์ซีซันอินวันเดย์ ส่วนฟูโกะ เคจิหรือคุณนายสายสืบที่เราจองไว้ ท่าจะอีกนาน ยังไงถ้าที่จะมีคนมาช่วยรีวิวก่อนก็ได้นะคะ จากคุณ : meritiana (Meritiana) - [ 20 มี.ค. 52 14:07:14 ]

ความคิดเห็นที่ 35 มารีวิวช้าไปหน่อย เพราะมัวดู yasuko to kenji ติดอยู่อ่ะคะ่ แหะ แหะ ส่วน hanayome to papa ย้ายไปไว้ คห.40 นะคะ   แก้ไขเมื่อ 29 มี.ค. 52 10:43:34 จากคุณ : แพม* - [ 21 มี.ค. 52 21:42:13 ]

ความคิดเห็นที่ 36 Over Time Viewership: 20.2 Broadcast period: 1999-Jan-04 to 1999-Mar-22 Theme songs: Theme song: Sono Speed de by the brilliant green Insert song: believe by Yamaguchi Yuko Screenwriter : Kitagawa Eriko Cast Sorimachi Takashi เป็น Kaede Soichiro Esumi Makiko เป็น Kasahara Natsuki Kimura Yoshino เป็น Kurata Nazuna Ishida Yuriko เป็น Tsurumachi Fuyumi Shiina Kippei  เป็น Kuga Tatsuhiko Synopsis Can a man and a woman truly be friends without ever falling in love? เป็นไปได้มั้ยที่ผู้ชายและผู้หญิงจะสามารถเป็นเพื่อนกันจริงๆ โดยไม่ตกหลุมรักกัน คำถามนี้ คือเป็นประเด็นหลักของเรื่องนี้นั่นเอง เรื่องนี้ได้ดารานำแสดงแม่เหล็กในยุคนั้นอย่าง Esumi Makiko มาเล่นเป็น Natsuki ช่างทำผม ที่บังเอิญได้พบกับ Kaede Soichiro ช่างภาพหนุ่มที่แสดงโดยดาราหนุ่มผู้โด่งดังจาก GTO อย่าง Sorimachi Takashi ที่ฮอกไกโด และ Soichiro ก็ได้ให้ความช่วยเหลือกับ Natsuki โดยบังเอิญ หลังจากนั้นทั้งคู่ก็ได้พบกันอีกครั้ง ขณะที่ Natsuki ล้มเหลวอย่างไม่เป็นท่าจากการดูตัวของเธอ Soichiro เห็นแล้วก็อดสงสารไม่ได้จึงได้ปลอบใจเธอ ซึ่งเหตุการณ์นั้นก็ทำให้ Natsuki ประทับใจในตัว Soichiro เธอคิดว่าถ้าเธอเจอเขาอีกครังนึงมันจะต้องเป็นบุพเพแหงๆ Natsuki ได้เจอ Soichiro อีกครั้งจริงๆ แต่ทว่า Soichiro กลับกลายเป็นน้องชายของเพื่อนของเธอที่ย้ายมาจากฮอกไกโด และ เข้ามาอยู่ร่วมบ้านกับพี่สาวของเขาที่เธอเองอาศัยอยู่ด้วย ทำให้กลายเป็นการอยู่ร่วมบ้านของ 3 สาววัย 30 (ที่ Soichiro แอบเมาท์ว่า นับอายุรวมกันได้เกือบร้อย เอิ๊กๆ) กับ 1 หนุ่ม ภายใต้ข้อห้ามของพี่สาว Soichiro ว่าห้ามยุ่งกับน้องชายเธอเด็ดขาด ด้วยความที่ Natsuki มีนิสัยห้าวๆ โผงผาง ตรงไปตรงมา ชอบโวยวายคล้ายผู้ชาย ทำให้เธอกับ Soichiro สนิทกันได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ทั้งสองคนก็ยังชอบอะไรคล้ายๆกันอีกด้วย ทั้งคู่สนิทกันเหมือนเพื่อนสนิท หรือ พี่น้องคลานตามกันมา แต่ Nazuna แฟนสาวของ Soichiro กลับไม่คิดเช่นนั้น เธอค่อนข้างระแวง Natsuki เลยทำให้เธอผิดใจกับเขาอยู่บ่อยครั้ง ส่วน Natsuki เองในเวลาใกล้เคียงกันก็ได้พบกับคุณหมอ Kuga ที่เป็นรุ่นพี่ที่เธอเคยปลื้มมาก่อน และ ก็คบกันอยู่เช่นเดียวกัน เรื่องนี้ก็จะดำเนินไปเรื่อยๆ เล่าถึงชีวิตของสามสาว และ soichiro ซึ่งแต่ละคนก็เผชิญปัญหาความรักและการงานในรูปแบบต่างๆ และมีเหตุการณ์ที่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนในความสัมพันธ์ของ Natsuki และ Soichiro ซึ่งสุดท้ายแล้วทั้งคู่จะคงมิตรภาพความเป็นเพื่อนตลอดไป หรือ เปลี่ยนมาคบกันฉันท์คู่รัก ต้องติดตามค่ะ My comment สิ่งที่ประทับใจในเรื่องนี่้ ชอบนิสัยพระเอกคือ Kaede Soichiro ค่ะ ไม่รู้ยังไงเราชอบชื่อ Kaede มากเลย มันฟังเพราะดี นอกจากนี้ So-chang ในเรื่องยังเป็นคนนิสัยอบอุ่นมีน้ำใจ ชอบช่วยเหลือคน คอยอยู่เคียงข้างยามที่เราประสบกับปัญหา คือ ถ้าจะมีเพื่อนแท้เป็นผู้ชายซักคนก็อยากมีแบบ So-chan เนี่ยแหละ ชอบ sound track ค่ะ เพลงเพราะดี ทั้ง Sono speed de แล้วก็ I Believe เลย ชอบที่เอาสัญลักษณ์คือ Tokyo tower มาเล่นในเรื่องนี้ด้วยค่ะ แล้วสิ่งที่ชอบมากที่สุดคือตอนจบค่ะ หลายคนอาจบอกว่าผิดหวังกับตอนจบ แต่เรากลับรู้สึกว่าจุดดีที่สุดของเรื่องนี้ก็คือตอนจบค่ะ และอาจจะเป็นสาเหตุนึงที่ทำให้เรื่องนี้อยู่ในความทรงจำของหลายๆคนด้วย ไม่ว่าคนที่ผิดหวัง หรือ คนที่ชอบตอนจบก็ตาม ระหว่างผู้ชายที่มีความมั่นคงเป็นผู้ใหญ่และจูงมือเราก้าวไปข้างหน้า กับผู้ชายที่เต็มไปด้วยความอบอุ่นเข้าใจและพร้อมจะคอยประคองเราเวลาที่เราล้มอยู่ข้างหลัง เป็นเรื่องที่ตัดสินใจยากเหมือนกัน ถ้าต้องเลือก หลังจากดูจบแล้วก็ฝากคำถามนี้ไว้ในใจเพื่อนๆที่ดูจบแล้วๆกันนะคะ Can a man and a woman truly be friends without ever falling in love? ระหว่างผู้ชายที่มีความมั่นคงเป็นผู้ใหญ่และจูงมือเราก้าวไปข้างหน้า กับผู้ชายที่เต็มไปด้วยความอบอุ่นเข้าใจและพร้อมจะคอยประคองเราเวลาที่เราล้มอยู่ข้างหลัง คุณจะเลือกใคร แก้ไขเมื่อ 23 มี.ค. 52 23:59:35 แก้ไขเมื่อ 23 มี.ค. 52 23:57:22 จากคุณ : peaceplease - [ 23 มี.ค. 52 23:29:10 ]

ความคิดเห็นที่ 37 When I fall in love [Koi ni Ochitara] Episodes: 11 Genre: Romance, business, comedy Broadcast network: Fuji TV Broadcast period: 2005-Apr-14 to 2005-Jun-23 Theme song: Koi ni Ochitara by Crystal Kay Cast Kusanagi Tsuyoshi as Suzuki Shimao Tsutsumi Shinichi as Takayanagi Toru Matsushita Nao as Shirakawa Kaori Yamamoto Koji as Ando Ryuta Tanihara Shosuke as Riku Kamiya Wakui Emi as Kirino Nanami Kimura Yoshino as Suzuki Mariko Suzuki Kosuke as Miyazawa Osamu ซุซุกิ   ชิมาโอะ ผู้ชายธรรมดาที่รับช่วงต่อกิจการร้านทำน๊อตของพ่อ  ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขกับแม่และน้องสาว ชิมาโอะ  จะชอบแนะนำตัวว่าชื่อเค้ามาจากคำว่าเกาะ + ผู้ชาย หลายคนเลยเรียกว่า หนุ่มชาวเกาะ วันนึงเค้าได้รางวัลไปฮาวาย  เขาจึงพาแม่ไปด้วย  ชิมาโอะได้เจอกับชิราคาวะ  คาโอริ ดูเหมือนเค้าจะชอบ คาโอริแต่แรก  คาโอริลืมของไว้  เมื่อชิมาโอะเอาไปด้วยตัวเองก็พบว่าคาโอริเป็นเลขาของทาคายานางิ  โทโอรุ เจ้าของบริษัทฟรอนเทียร์ที่มีบริษัทลูกมากมาย  ประธานทาคายานางิที่ทำตัวอย่างมหาเศรษฐี  และคิดว่าเงินสำคัญที่สุด ทำให้ชิมาโอะทำตัวไม่ถูกแล้วเค้าก็มีความคิดแย้งกับประธานว่า เงินซื้อไม่ได้ทุกอย่าง  ประธานก็คิดว่าความคิดอย่างชิมาโอะไม่มีทางทำให้เค้าเป็นคนรวยได้ ก่อนกลับประธานได้ให้นามบัตรกับชิมาโอะไว้บอกว่า ถ้ามีอะไรให้ไปหาได้   ชิมาโอะคิดว่าเค้าคงไม่จำเป็นต้องใช้มัน   แต่เมื่อกลับมาบ้าน ด้วยความเป็นคนซื่อ แล้วก็ใจดี  ทำให้เขาถูกโกง  ร้านต้องถูกปิด   และแม่ก็ตกใจจนโรคหัวใจกำเริบ ต้องผ่าตัดด่วน ชิมาโอะไม่มีเงินเหลือ  เขารีบวิ่งหาความช่วยเหลือทุกที่แต่ไม่เป็นผล  จนนึกถึงนามบัตรนั้น แต่พอไปที่บริษัทกลับเข้าพบประธานไม่ได้  และสายเกินไปที่จะช่วยแม่แล้ว   ชิมาโอะรู้สึกถึงฐานะของตัวเองว่ากำลังลำบาก   จึงไปสมัครเป็นยามที่บริษัทฟรอนเทียร์  เพื่อจะเข้าพบประธานทาคายานางิ  และจะขอให้สอนวิธีที่จะทำให้เขารวย เรื่องนี้เกี่ยวกับธุรกิจซะส่วนมากค่ะ  การไต่ระดับของชิมาโอะ  ด้วยความคิดของเค้าต่างไปจากประธานอย่างสิ้นเชิง   ฝ่ายประธานคิดจะเล่นสนุกจากความเชื่อของชิมาโอะ  แต่ทั้งสองคนกลับเป็นตัวสะท้อนกันและกัน ให้บทเรียนซึ่งกัน และคนรอบๆข้างด้วย   การทำธุรกิจต้องมีจรรยาบรรณ  คิดถึงผลกำไรอย่างเดียวไม่ได้  ควรจะเลือกทางที่ดีที่สุดที่จะได้ผลดี ทั้งกับตัวองค์กร  พนักงาน  และคู่ค้า  ความรวยของแต่ละคนต่างกัน  นั่นขึ้นกับความรู้สึกพอ แล้วหยุด ความสำเร็จของงานมาจากความรักในงานที่ทำ ความรักและเชื่อใจผู้ร่วมงาน  และความรักแบบอื่นๆ (ตามชื่อเรื่องเลย) แต่ที่ชอบสุดๆของเรื่องนี้คือสัจธรรมค่ะ  ชีวิตมีขึ้นมีลง  เมื่อถึงจุดต่ำสุดแล้วเราควรทำยังไง เงิน  ตายแล้วก็เอาไปด้วยไม่ได้   และการแสดงว่าในตัวคนเราก็มีทั้งแง่ดีแง่ร้าย  อยู่ที่เราจะเลือกเป็นแบบไหน คนเราเปลี่ยนแปลงกันได้  จนบางทีเราอาจจะไม่รู้สึกตัว [ความคิดเห็นส่วนตัวของส่วนตัวอีกที] ดูแล้วทำไมรู้สึกว่าเกมธุรกิจมันเป็นวงจรเสื่อมๆเหมือนการเมืองเลย   หรืออาจเป็นเพราะมีแต่คนทำตาม ทฤษฎีกำไรสูงสุดอย่างเดียว  แต่ธรรมชาติของมนุษย์ก็เห็นแก่ตัวอยู่แล้ว  อันนี้รู้สึกขัดแย้งในตัวเองจัง - -'' เหมือนเลือกไม่ได้ที่บางทีจะต้องทำให้คนอื่นต้องเป็นทุกข์  แต่ถ้ามีคนคิดถึงผลกระทบวงกว้างเยอะๆเหมือน ในละครก็คงจะดี  (แอบกลัวว่าตัวเองจะถูกเปลี่ยนด้วยวงการนี้  ดันเรียนคณะทำนองนี้ซะอีก เหอๆๆ) เรื่องนี้ดูธรรมดาๆแต่สนุกค่ะ   สาระเยอะแต่ไม่เ ครียดเท่าไหร่ แก้ไขเมื่อ 01 เม.ย. 52 18:51:58 แก้ไขเมื่อ 01 เม.ย. 52 18:49:46 แก้ไขเมื่อ 01 เม.ย. 52 18:48:05 จากคุณ : momo lawleit - [ 25 มี.ค. 52 23:12:19 ]

ความคิดเห็นที่ 38 Himitsu no Hanazono Genre: Comedy Episodes: 11 Broadcast network: Fuji TV, KTV Broadcast period: 2007-Jan-09 to 2007-Mar-20 Cast Yumiko Shaku  - Kayo Tsukiyama Masato Sakai - Wataru Kataoka Tetsuhiro Ikeda - Osamu Kataoka Jun Kaname  - Satoshi Kataoka Kanata Hongo - Hinata Kataoka เรื่องนี้เนี่ย เราเอามาดูโดยไม่ได้ตั้งใจ กะว่ามาดูขำๆ เรื่อยๆ จะได้ไม่ติดพันมาก แต่ดูแล้วกลับสนุกเกินคาด ชอบแฮะ ทั้งที่นักแสดงไม่รู้จักซักกะคน พอดูจบก็เลยไปไล่ชื่อนักแสดงดู ปรากฎว่าทุกคนก็รับบทรองในเรื่องอื่นมาทั้งนั้น เอ๊ะ ทำไมงั้น ตอนมาเขียนเนี่ยหละ ถึงพึ่งรู้ว่าเรื่องนี้เป็น kanzai based ของ Fuji TV เรื่องนี้เล่าถึงนางเอกที่ทำงานอยู่นิตยสารแฟชั่น ใครให้ช่วยอะไรก็ช่วยไม่กล้าปฏิเสธ จนต้องทำงาน overnight ในวันเกิดติดกัน 5 ปีซ้อน จนปีที่ 5 เธอก็เลยตัดสินใจจะลาออกซะเลย แค่จะไปบอกหัวหน้า ไม่ทันไรก็ได้รับข่าวดีโดนเลย์ออฟซะงั้น หัวหน้าก็เลยช่วยหางานใหม่ให้ไปทำงานแผนกการ์ตูนผู้หญิงแทน นางเอกทั้งที่ไม่อยากทำซักนิด แต่ก็ไปทำตามนิสัยไม่กล้าปฏิเสธคนของเธอ วันแรกที่ไปถึงก็ได้รับมอบหมายให้ดูแลนักเขียนการ์ตูนชื่อดัง Hanazono Yuriko แล้วเธอก็ได้พบความลับว่าจริงแล้วๆ นักเขียนการ์ตูนตาหวานชื่อดังนี้กลับประกอบด้วย 4 หนุ่ม 4 มุม แถมยังป่วนเธอสุดฤทธิ์จนแทบจะลาออกตั้งแต่วันแรกอีกต่างหาก พี่ชายใหญ่ Wataru เป็นคนสุขุม สุภาพ ใจเย็น ไม่ค่อยพูด โลกส่วนตัวสูง แต่ก็ใจดีกับเธอที่สุดในบ้านแล้ว (คนนี้ในเรื่องชมว่าหล่อ แต่เราว่าดูแก่ไปนิดอะ)   คนที่สอง Osamu  หนุ่มโอตาคุมาเอง บ้าโมเดล แถมทั้งป่วนทั้งเอาแต่ใจสุดๆ แต่มีจุดอ่อนคือจีบผู้หญิงไม่เป็นเลย  คนที่สาม Satoshi  คนนี้เป็นหนุ่มหล่อ เท่ห์ สำอาง เจ้าชู้ ดูน่าสนใจที่สุดในบ้านแล้ว 55 อันนี้ความเห็นเราเอง นางเอกไม่เกี่ยวแม้แต่น้อย  หนุ่มน้อยคนที่ 4 Hinata เพิ่งจบไฮสกูล เป็นหนุ่มน้อย ขี้อาย ไม่ค่อยมั่นใจในตัวเอง โดยเฉพาะเวลาถูกสาวๆรุมกรี๊ด นางเอกหลังจากโดนแกล้งบ่อยเข้า ก็ค่อยๆสนิทสนม  ซึมซับไปช้าๆ กับความน่ารักแบบแปลกๆ ของ 4 หนุ่ม Hanazono Yuriko รวมทั้งความรักระหว่างพี่น้องของ 4 หนุ่มที่ไม่ว่าจะมีปัญหาใดๆเข้ามา พวกเค้าก็จะผ่านพ้นมันไปได้ เพราะทุกคนต่างเป็นห่วงและนึกถึงกันและกัน แต่จริงๆแล้วความลับของ Hanazono Yuriko มีแค่นี้จริงรึป่าว หนุ่มคนไหนใน 4 หนุ่มที่จะมาตกหลุม (รัก) นางเอกของเรา แล้วคนไหนน้าจะได้ใจนางเอกไปครอง ต้องดูกันเองซะแล้วหละค่ะ ดูจบแล้วก็แอบตกใจเล็กน้อย ชีวิตบก.นักเขียนการ์ตูนเนี่ยมันต้องทำขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย  แล้วก็ได้รู้ความรู้สึกของนักเขียนการ์ตูนด้วยแฮะว่าเวลาเรื่องของเค้าถูกเอามาสร้างเป็นหนังหรือละครแล้วเค้ารู้สึกยังไง ที่สำคัญแอบติดใจหนุ่มคนที่ 3 ค่ะ หล่อดี ชอบๆ 55 แอบไปดูว่าเล่นเรื่องอะไรอีกบ้าง อ้าวก็ยังเล่นบทรองอยู่ดีแฮะ สรุปว่าเชียร์ค่ะ ถ้าใครอยากดูซีรีส์ฮากำลังดี สบายๆ มีหนุ่มหล่อเป็นอาหารตา 1 คน คริ คริ  แล้วก็อยากรู้ว่าชีวิตนักเขียนการ์ตูนเป็นยังไง ลองดูนะคะ แก้ไขเมื่อ 27 มี.ค. 52 05:59:04 จากคุณ : peaceplease - [ 27 มี.ค. 52 05:57:33 ]

ความคิดเห็นที่ 39 มาแจมอีกแล้วค่ะ พอดีพึ่งดูจบอีกเรื่อง เป็นเรื่องที่สร้างมานานแล้วล่ะค่ะ ตั้งแต่ปี2001โน่นนนนนนน แต่ความสนุกนี่ยังเต็มที่ ไม่รู้สึกว่าดูหนังเก่าเลยค่ะ แล้วเรื่องนี้เกาหลีก็พึ่งซื้อลิขสิทธิ์ไปทำเมื่อปีที่แล้วนี่เอง เรื่องที่ว่าก็คือ... "Antique ~ หนุ่มขนมหวานกับร้านเก๋า" นำแสดงโดย : Takizawa Hideaki , Shiina Kippei , Fujiki Naohito , Abe Hiroshi , Koyuki เรื่องนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับหนุ่มๆกับร้านขนมเค้ก ซึ่งดูไปคนดูก็หิวไป 555+ โดยสมาชิกของร้านขนมหวานนั้นล้วนมีความหลังที่น่าสนใจ มีเงื่อนงำที่คอยปรากฏให้คนดูกระจางขึ้นเรื่อยๆในแต่ละตอน... ตั้งแต่หนุ่มเจ้าของร้าน หรือ"ลุงหนวด"ที่เอจิเรียก(ชินะ) ที่เป็นคนไม่ชอบกินเค้ก แต่กลับเลือกที่จะเปิดร้านขนมเค้ก เชฟมือ1 "โอโนะ" (นาโอะ) ผู้มีพรสวรรค์ในการทำขนมเค้กมากๆ แต่ทำไมไม่เคยอยู่ร้านไหนได้นานเลย ต้องคอยเปลี่ยนร้านอยู่เสมอๆ นอกจากนั้นยังเป็นคนที่ไม่ชอบผู้หญิงอีกต่างหาก!! นักมวยหนุ่ม "เอจิ" (ทักกี้) ที่หลงใหลในรสชาติของขนมเค้ก เมื่อได้กินเค้กฝีมือโอโนะจึงประทับใจมากๆจนขอฝากตัวเป็นลูกศิษย์ หนุ่มลึกลับ "คาเงะ" (อาเบะ) ที่คอยมานั่งในรถเพื่อเฝ้าร้านแห่งนี้อยู่เสมอ แท้ที่จริงแล้วเขาคือใคร?? ไม่ใช่แค่สมาชิกของร้านเท่านั้นที่มีความสำคัญ แต่ตัวละครทุกตัว ลูกค้าประจำของร้านขนมเค้กแห่งนี้ล้วนมีบทบาทและสร้างสีสันให้กับเรื่องนี้มากๆ ไม่ว่าจะเป็นหนุ่มใหญ่ผู้ชอบกินเค้กใหม่ๆ , สาวไดเอ็ต , หนุ่มน้อยร้านขนมญี่ปุ่น และที่ขาดไม่ได้คือนักข่าวสาวโมโมโกะ(โคยูกิ)ที่ติดตามผลงานเอจิตั้งแต่ตอนที่เป็นนักมวยและกำลังสงสัยว่าเอจิอำลาเวทีมวยแล้วเขาหายไปไหน เธอได้มาพบกับเอจิที่ร้านเค้กแห่งนี้ด้วยความบังเอิญ เธอจึงคิดที่จะทำข่าวเกี่ยวกับเอจิที่ร้านขนมเค้กแห่งนี้... เรื่องนี้อาจจะดูเรื่อยๆ แต่กลับยิงมุขมาให้คนดูได้ฮาอยู่ตลอดเวลา เรียกว่าได้ทุกความรู้สึกจากเรื่องนี้ ทั้งความประทับใจ ซึ้งใจจนน้ำตาคลอ ฮาจนท้องแข็ง หิวขนมเค้ก 555+ อีกทั้งยังน่าติดตาม เพราะว่าเรื่องราวจะค่อยๆคลี่คลายปมปริศนาต่างๆของตัวละครในเรื่องนี้ และแน่นอนว่าจะต้องมีข้อคิดให้กับคนดูตามสไตล์ซีรี่ส์ญี่ปุ่นค่ะ ปล.ถือว่าเป็นการสปอยไม๊เนี่ย? >> เรื่องนี้ไม่วายนะคะ เผื่อใครไม่กล้าดูเพราะกลัวจะเป็นแนวYแบบเกาหลีเอาไปทำ(เห็นมีคนบอกว่าเรื่องนี้เอาไปทำแล้วYอย่างชัดเจน แต่มิกิไม่ได้ดู เลยไม่รู้เหมือนกัน~~) ปล.2 ไม่ได้รีวิวละเอียด เพราะว่ารายละเอียดของเนื้อเรื่องจะค่อยๆเปิดเผยทีละนิดไปทีละตอนของซีรี่ส์ แม้แต่รายละเอียดที่ค่อนข้างจะเป็นรายละเอียดหลักก็ตาม ถ้าบอกรายละเอียดหมดตั้งแต่รีวิวอาจจะไม่สนุกค่ะ เลยให้ไปดูเอาเองนะคะ^^ แก้ไขเมื่อ 27 มี.ค. 52 16:49:40 จากคุณ : Satohara Miki - [ 27 มี.ค. 52 16:40:59 ]

ความคิดเห็นที่ 40 Title (romaji) : Hanayome to Papa Title (English) : Bride and father Title (Thai) : ป๊ะป๊าขา หนูอยากแต่งงาน Episodes : 12 Cast : Ishihara Satomi เป็น Uzaki Aiko Tokito Saburo เป็น  Uzaki Kentaro Taguchi Junnosuke เป็น  Miura Seiji Koizumi Kotaro เป็น  Narumi Shunichi อุซากิ ไอโกะ หญิงสาวอายุ  20 ปีเต็ม เพิ่งจบหมาด ๆ ได้เข้าทำงานกับบริษัทออกแบบเสื้อผ้าชื่อดัง ทุกสิ่งทุกอย่างดูเหมือนจะเป็นไปได้ด้วยดี หากแต่ อุซากิ เคนทาโร่ บิดาของเธอ ผู้ที่ยังคงรู้สึกว่าเธอเป็นเด็กเล็ก ๆ ในปกครองของเขาอยู่เสมอ กลับยังไม่ยอมยกเลิกกฏต่าง ๆ ที่มีในบ้านยามที่เธอยังเป็นเด็ก เธอต้องกลับถึงตรงเวลา เพื่อกลับมาทานข้าวกับพ่อ ห้ามพกโทรศัพท์มือถือ รวมไปถึงความรัก ที่พ่อของเธอไม่ยอมให้เธอมีแฟนเสียที ไอโกะอยากจะหลุดพ้นจากกฏที่ป๊ะป๋าของเธอตั้งเอาไว้ และหนทางเดียวเท่านั้น ที่จะทำได้ นั้นก็คือ หาเจ้าบ่าว เพื่อแต่งงาน และนั่นทำให้ป๊ะป๋าต้องคอยจับตาดูหนุ่ม ๆ รอบกายเธอ นั่นก็คือ นารุมิ เจ้านายของเธอ และ มิอุระ เซย์จิ เพื่อนร่วมงานของเธอนั่นเอง แต่คุณป่ะป๊า ไม่ได้มีความรักให้แค่กับลูกสาวของตัวเองเท่านั้น เด็กหนุ่มที่ดูเป็นเด็กหัวอ่อน และยิ้มง่ายอย่างเซย์จิ ก็กลับมีเรื่องให้คุณป่ะป๊าช่วยเหลืออยู่เหมือนกัน เรื่องนี้เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับครอบครัว ครอบครัวที่มีเพียงพ่อ และลูกสาว สีสันของบ้าน บ่งบอกถึงความเป็นตัวของตัวเองของคุณพ่อได้ดี เพราะฉะนั้น ไม่แปลกเลย ที่คุณพ่อจะเชื่อมั่นในตัวเองสูง และยึดถือความรู้สึกของตนเป็นหลัก กฏภายในบ้าน ความจริงแล้ว ก็สร้างขึ้นเพื่อปกป้องลูกสาวของตนนั่นแหละ ที่สำคัญที่สุด เราชอบเพลงที่พ่อร้องค่ะ  คุณโทคิโตะ ซาบุโร่ เป็นคนแต่งเพลงนี้เอง เพลงชื่อว่า kimi no kaeru basho ขออ้างอิงบล็อคคุณmidori_p ด้วยนะคะ เธอแปลเพลงนี้ออกมาได้เยี่ยมเลยค่ะ  ใครสนใจอ่านเนื้อแปลไป ฟังเพลงไป เชิญเลยนะคะ http://www.bloggang.com/viewblog.php?id=kujahleague&date=12-10-2007&group=2&gblog=3 เวลาคุณมีเรื่องทุกข์ใจ หรือเสียใจ ที่ ๆ คุณนึกถึง คนที่คุณนึกถึง คือใครกันคะ แล้วใครกัน ที่ไม่ว่าเราจะเป็นอย่างไร ไม่ว่าเราจะทำอะไรมา ไม่ว่าล้มลงซักกี่ครั้ง อ้อมแขนของใคร ที่คอยโอบอุ้มให้เราลุกขึ้นได้อีกครั้ง แล้วใครกัน...ที่มีคุณเป็นคนสำคัญสำหรับเขาตลอดเวลา เนื้อเพลงได้บอกสิ่งสำคัญของคำว่าครอบครัวไว้อย่างครบถ้วน และบอกความรู้สึกของคนเป็นพ่อแม่ได้ซาบซึ้งใจเหลือเกินค่ะ สำหรับเรื่องการแสดง  เรายังไม่เคยดูเรื่องเกาะของรูริ แต่เรื่องนี้ก็ทำให้เราได้รู้จักนักแสดงมากฝีมืออย่าง Tokito Saburo และอดที่จะหลงรักการแสดงของเขาไม่ได้  เขาทำให้เรารู้สึกว่า คุณป่ะป๊าเท่ห์จังค่ะ  ส่วน Ishihara Satomiนั้น เธอแสดงออกมาให้ดูเป็นสาวเปิ่นเป๋อ และเป็นลูกสาวที่แอบรั้นลึก ๆ ได้น่ารักค่ะ  แต่ขอไม่นับ 2 ตอนแรกนะ  555   ชายหนุ่มสองคน ต้องยอมรับว่า Koizumi Koutaro นั้นแสดงได้เท่ห์ จนขโมยหัวใจสาว ๆ ไปได้มากโข จนเชื่อได้ว่าต้องมีบางคนแอบลุ้นให้นารุมิคุงเป้ฯแฟนนางเอกแน่ ๆ  แต่เราเป็นแม่ยกของจุนโนะ Taguchi Junnosuke เลยยังไม่โดนขโมยหัวใจไปด้วยค่ะ  สำหรับจุนโนะ  เรื่องนี้เป็นละครเรื่องที่สอง (ไม่นับตอนเด็กมาก ๆ และละครสั้นตอนเดียวจบอย่าง Happy!) เราเห็นพัฒนาการทางการแสดงของเขาค่ะ ถึงแม้บทของเขาจะดูราบเรียบ ดูเป็ฯชายหนุ่มอารมณ์ดี  แต่บทแสดงอารมณ์ เขาก็แสดงได้ดีเลยทีเดียว เรื่องนี้ค่อนข้างโดนใจค่ะ ถึงแม้จะรำคาญเสียงพ่อลูกตะโกนใส่กันในสองตอนแรกของเรื่องอยู่บ้าง แต่หลังจากตอนนั้น ซีรี่ย์เรื่องนี้ก็ทำให้เราอิ่มหัวใจกับความรักของพ่อที่มีต่อลูกสาว นางเอกกำพร้าแม่ จึงมีแต่พ่อที่คอยดูแลมาตั้งแต่เล็ก พ่อ...ก็รู้สึกว่าลูกสาวของเขานั้นเป็นสิ่งล้ำค่าของตน เขาภาคภูมิใจในตัวลูกสาวของเขา อยากเก็บ และรักษาไว้แต่เพียงผู้เดียว โดยที่จริง ๆ แล้วก็รู้ดีว่า ซักวัน ลูกสาวจะต้องแต่งงาน และมีชีวิตของตน แต่ใครจะมาเป็นชายหนุ่มที่ดูแลลูกสาวสุดที่รักต่อจากเขา แต่ในบางเรื่องก็อาจจะดูวุ่นวายเกินไป จนตัวของลูกสาวเองรำคาญ อาจจะมีทะเลาะกันบ้าง อาจจะมีผิดใจกันบ้าง  แต่นี่แหละค่ะ ที่เรียกว่า "ครอบครัว" สำหรับเรา ในฐานะลูกสาว เราอดที่จะยิ้ม อดที่จะซึ้งไปกับความรักของพ่อที่มีต่อลูกไม่ได้สำหรับเรื่องนี้ เป็นซีรี่ย์เรียบ ๆ ที่เปี่ยมไปด้วยความอบอุ่นของคุณป่ะป๊า ไร้พิษภัย ดูได้ทั้งครอบครัวค่ะ จากคุณ : แพม* - [ 29 มี.ค. 52 10:41:36 ]

ความคิดเห็นที่ 41 ก่อนอื่นต้องขอโทษที่จองเรื่อง IWGP ไว้แล้วหายไปนานมากเลย  เอาหละ เข้าเรื่องเลยดีกว่านะคะ Title : Ikebukuro West Gate Park (IWGP) Episodes: 11 + 1 Special Genre: Human drama Viewership rating: 14.86 Theme song: Boukyaku no Sora by SADS ซีรีย์เรื่องนี้ เป็นซีรีย์รวมดาราที่ตอนหลังแยกกันไปดังพอๆ กับ Lunch Queen เลยนะเนี่ย ทั้ง Tomoya, YamaPi (นับเป็น debut ซีรีย์เรื่องแรกของ YamaPi), Yosuke (พระเอก LLL), Kenji (พระเอก Iryu), Satoshi (Lunch queen), Sato (Rookie) แถมยังมี Oguri Shun โผล่มานิดหน่อยในตอนที่ 2 แล้วก็มีดารารุ่นใหญ่ระดับ Hollywood อย่างป๋า Ken Watanabe มาเพิ่มความเข้มข้นเข้าไปอีกต่างหาก อีกทั้งยังได้ Kazuhiro นักบัลเล่ย์หนุ่มหล่อ มาเป็นหัวหน้าแก๊ง Black Angels เลยมีฉากเต้นบัลเล่ย์สวยๆ ให้ดู - Nagase Tomoya as Makoto Majima - Kato Ai as Hikaru - Kubozuka Yosuke as Takashi (King of G-Boys) - Yamashita Tomohisa as Shun Mizuno - Sakaguchi Kenji as Yamai (Doberman) - Yazawa Shin as Chiaki - Koyuki as Matsui Kana - Kitaro as Yoshioka - Watanabe Ken as Yokoyama - Tsumabuki Satoshi as Saitou Fujio - Sato Ryuta as Masa - Oguri Shun as Yoshikazu (ep2) - Nishijima Kazuhiro พูดเรื่องดาราไปซะเยอะ มาเข้าเรื่องกันซะที ซีรีย์เรื่องนี้เป็นชีวิตของเด็กหนุ่มที่อาศัยอยู่ในย่าน Ikebukuro West Gate Park ที่เป็นพื้นที่ที่ขึ้นชื่อในด้านรวมดาวแก๊งวัยรุ่น พระเอกของเรื่องคือมาโกโตะ (โทโมยะ) อาศัยอยู่ในย่านนี้เหมือนกัน มีเพื่อนสนิท คือทาคาชิ (โยสุเกะ) เป็นหัวหน้าแก๊งวัยรุ่น G-Boys ที่ทุกคนในแก๊งเรียกว่า "King" มาโกโตะเป็นคนฉลาด (อาจจะดูไม่ค่อยเหมาะกับบุคลิกของเฮียโทโมยะ ซักเท่าไหร่ อาจเป็นเพราะเราไปดูเรื่อง my boss my hero กับ Mukodono เจอบุคลิกแบบบ้าๆ บอๆ ของเฮียสกัดดาวรุ่งไปก่อน) และไม่ยอมเข้าแก๊งไหนทั้งสิ้น เขาพยายามแก้ปัญหาการตายที่เกิดขึ้นอย่างปริศนาของเพื่อนสาว ในขณะนั้นก็เกิดการตายอย่างปริศนาของเด็กสาวที่ขายบริการ พอสืบๆไป ก็มีเรื่องต่างๆ เข้ามาให้แก้ เรื่องพัวพันไปถึงแก๊งยากุซ่า ที่ ฟุจิโอะ (ซาโตชิ) เพื่อนอีกคนของมาโกโตะ ทำหน้าที่เป็น bodyguard ให้ลูกสาวหัวหน้าแก๊ง แต่ลูกสาวหัวหน้าหายตัวไป ทำให้ฟุจิโอะต้องถูกลงโทษด้วยการตัดนิ้ว ก็มาขอให้มาโกโตะช่วยสืบหาตัวสาวคนนี้ ส่วนยามะพี แสดงเป็น ชุน-คุง เด็กวัยรุ่นขี้เหงา ที่มีพรสวรรค์ในการวาดรูป มาขอติดตามกลุ่มของมาโกโตะ ที่ประกอบไปด้วย มาโกโตะ และมาซะ และฮิการุ (เราไปเจอการ์ตูนเรื่องนี้ที่ห้องสมุดประชาชนของเมือง เลยได้รู้ว่าชุนคุงในในการ์ตูน หน้ากลมๆ ใส่แว่นหนาเชียว ต่างหน้าหวานๆ ของยามะพีลิบเลย อิอิ) ส่วนลุงเคน เป็นหัวหน้าตำรวจในเขตนี้ เพิ่งย้ายมาใหม่ และพยายามจะกวาดล้างแก๊งวัยรุ่นทั้งหลาย เลยพยายามตีสนิทกับมาโกโตะ เพื่อให้ได้ข้อมูลและความช่วยเหลือ ในตอนหลัง ยาไม (เคนจิ) ซึ่งถูก คิง กลั่นแกล้งอยู่เรื่อย และลูก หันไปเข้าแก๊ง "Black Angels" ซึ่งมียากุซ่าหนุนหลัง แต่แก๊ง G-boy เป็นพวกไม่ต้องการใช้ความรุนแรง ถูก Black Angels ทำร้ายอยู่เรื่อย จนเรื่องบาดหมางมากขึ้นทำให้ทั้งสองแก๊งยกพวกตีกัน โดยที่มาโกโตะพยายามจะห้ามเพราะสืบจนรู้มาแล้วว่าเหตุการณ์ความบาดหมางของทั้งสองแก๊งมีผู้อยู่เบื้องหลัง ซึ่งจะเป็นใครหรือเพราะเหตุผลอะไร ต้องไปดูเองนะคะ ^_^ ดูเรื่องนี้แล้วชอบความยียวนกวนประสาทของ King มาก ไม่น่าแปลกใจเลยที่ได้รางวัล นักแสดงสมทบยอดเยี่ยม ซีรีย์เรื่องนี้ กวาดรางวัลแทบจะทุกประเภทเลย - 25th Television Drama Academy Awards: Best Drama - 25th Television Drama Academy Awards: Best cast - 25th Television Drama Academy Awards: Best opening - 25th Television Drama Academy Awards: Best Supporting Actor: Kubozuka Yosuke - 25th Television Drama Academy Awards: Best theme song: "Boukyaku no Sora" by Sads - 25th Television Drama Academy Awards: Best Scriptwriter Kudo Kankuro - 25th Television Drama Academy Awards: Best Director Tsutsumi Yukihiko - 4th Nikkan Sports Drama Grand Prix (2000-01): Best Newcomer Yamashita Tomohisa ความเห็นส่วนตัว - ซีรีย์ญี่ปุ่น มักจะหยิบยกประเด็นปัญหาที่เกิดขึ้นในประเทศเขา มาสร้างให้คนในประเทศได้เห็น ได้ตระหนัก ถึงปัญหา เช่น ปัญหาแก๊งเด็กวัยรุ่นอย่างในเรื่องนี้ หรือปัญหาเด็กนักเรียนถูกเพื่อนแกล้งในโรงเรียน (เห็นได้จากซีรีย์ school drama หลายๆเรื่อง รวมทั้ง Nobuta) - ตอนจบก็หักมุม จนเราคาดไม่ถึงเลย แต่เราก็ชอบหนังที่หักหลังคนดูแบบนี้ มันทำให้จำได้ขึ้นใจดี แก้ไขเมื่อ 05 เม.ย. 52 19:33:52 แก้ไขเมื่อ 03 เม.ย. 52 08:54:18 จากคุณ : four seasons in one day - [ 3 เม.ย. 52 08:51:20 ]

ความคิดเห็นที่ 42 ว่างๆนั่งๆนอนๆดูซีรี่ส์ เลยเอาซีรี่ส์ดังขวัญใจเรื่องนึงมารีวิวซะหน่อย~~ "Gokusen1 ~ ลูกสาวเจ้าพ่อขอเป็นครู" นำแสดงโดย : Nakama Yukie , Matsumoto Jun และคนอื่นๆอีกมากมายที่คงกล่าวไม่หมด ไม่ว่าจะเป็นเหล่าคุณครู เช่น Namase Katsuhisa , Ito Misaki , Nakazawa Yuko หรือนร.ห้อง3-D เช่น Oguri Shun , Waki Tomohiro , Narimiya Hiroki , Ishigaki Yuma สารภาพว่าเรื่องนี้ทำให้ปิ๊งหนุ่มชุนเลยค่ะ >__< (ไม่ใช่และๆ นอกเรื่อง 555+) เนื้อเรื่องก็เป็นเรื่องเกี่ยวกับครูและนร.ที่อาจจะทำให้นึกถึงซีรี่ส์ญี่ปุ่นที่สร้างเกี่ยวกับชีวิตวัยเรียนหลายๆเรื่อง แต่เรื่องนี้ก็มีความโดดเด่นไม่แพ้ใคร ดูแล้วจะรักและประทับใจกับความรักระหว่างนักเรียน-ครู และเพื่อนๆด้วยกัน รวมไปถึงครอบครัวอีกด้วย ยามากุจิ คุมิโกะ(ยูกิเอะ) ลูกหลานเจ้าพ่อรุ่นที่4ที่ผันตัวเองไปเป็นครูเพราะว่าเป็นอาชีพที่ตนเองชอบ เมื่อเข้ามาถึงเธอก็ได้รับหน้าที่เป็นครูประจำชั้นห้อง3-D เด็กที่แสบสุดๆจนโรงเรียนอยากจะไล่ออกเหลือเกินเพราะว่าทำให้ชื่อเสียงของโรงเรียนยิ่งเสื่อมเสีย แน่นอนว่าเธอจะต้องได้รับศึกหนักจากนักเรียนห้องนี้แน่ และก็เป็นอย่างนั้นจริงๆเมื่อเธอได้ก้าวเข้าไปสอนในห้องนี้ครั้งแรกก็ไม่มีใครสนใจเธอเลย แต่ว่าด้วยความมุ่งมั่นและความจริงใจที่มีต่อเธอจึงทำให้ยาคูมิ(ชื่อที่เด็กๆเรียก หรือว่ายันคูมิ เอ..หรือยังคูมิ ประมาณนั้นแหละ ขอเรียกยาคูมินะคะ^^)สามารถเข้าถึงจิตใจและตัวตนของเด็กๆแต่ละคนได้ทีละคนๆ ตัวละครต่างๆในเรื่องล้วนมีปัญหาที่แตกต่างกัน ซึ่งเรื่องนี้จะค่อยๆเปิดปมตัวละครไปทีละตอนตามสไตล์ซีรี่ส์ญีปุ่น แต่ว่าทุกตอนล้วนประทับใจมากๆ และสามารถทำให้น้ำตาคลอไปหลายตอนเลยทีเดียว ซึ่งกว่าจะถึงวันนั้น..วันที่เด็กๆยอมรับครูสาวคนนี้ ก็ต้องผ่านสถานการณ์ต่างๆมากมายที่ยาคูมิต้องใช้ทั้งความคิดและกำลัง(ที่มีเต็มพิกัดจากสายเลือดเจ้าพ่อ 5555) และแน่นอนว่ายาคูมิเองก็ได้สอนและให้ข้อคิดดีๆแก่เด็กๆอยู่เสมอ แต่กว่าเด็กแต่ละคนจะเข้าใจและทำได้ก็เล่นเอาเหนื่อยเหมือนกัน แถมเด็กห้อง3นี่ก็มีเรื่องไม่หยุดไม่หย่อนอีก^^" บางทีเด็กๆไม่ได้ทำผิด แต่ด้วยภาพลักษณ์ของเด็กแสบจึงทำให้พวกเขาโดนยัดเยียดข้อหาต่างๆที่พวกเขาไม่ได้กระทำอยู่เสมอๆ ยาคูมิได้ให้ทั้งความหวัง กำลังใจ และความเชื่อมั่นในตัวลูกศิษย์ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ไหนก็ตาม รวมไปถึงเด็กๆเองที่มีพัฒนาการไปในทางที่ดีตั้งแต่ยาคูมิได้มาเป็นครูประจำชั้น เรื่องประทับใจมากมายจึงเกิดขึ้นกับครูสาวจอมซ่าและเด็กนักเรียนห้อง3-D โดยเฉพาะกลุ่มของซาวาดะ(จุน)ที่เป็นตัวดำเนินเรื่องหลักๆของเรื่องนี้ เรื่องนี้สามารถมอบรอยยิ้มและน้ำตาให้กับคนดูได้ตลอดเรื่องเลยจริงๆค่ะ ประทับใจมากๆกับความรักที่มีให้แก่กันในหลายๆรูปแบบที่เรื่องนี้ได้ถ่ายทอดออกมาได้อย่างลึกซึ้ง รวมไปถึงตอนจบและตอนspecialที่ทำออกมาได้ดีจริงๆ(^^)b ดิทๆ ภาค2-3ขอเวลาไปนอนดูก่อน ถ้าไม่มีใครมารีวิวจะตามมารีวิวต่อให้ค่ะ^^ แก้ไขเมื่อ 06 เม.ย. 52 23:33:11 แก้ไขเมื่อ 06 เม.ย. 52 23:22:13 จากคุณ : Satohara Miki - [ วันจักรี 23:13:59 ]

ความคิดเห็นที่ 43 เข้ามาขอจองรีวิว 2 เรื่องนะจ้า ฺำBeachboys ร้อนนักต้องพักร้อน     และ     Love Genaretion รักนี้เพื่อเธอ เสร็จธุระแล้วจะมาปั่นให้จ้า จากคุณ : Teppei - [ 8 เม.ย. 52 00:16:17 ]

ความคิดเห็นที่ 44 รบกวนหน่อยค่ะ เรื่อง Aishite ruto itte hure ซีรีส์ยอดนิยมอันดับที่ 31 ไม่ทราบว่าใช่เรื่อง เก็บไว้ในความทรงจำ ที่พระเอกเป็นใบ้หรือเปล่าค่ะ รบกวนผู้รุ้ช่วยรีวิวให้ด้วยค่ะ และอยากได้มากเคยดูตอนฉายช่อง 3 ท่านใดทราบว่าจะหาได้ที่ไหนรบกวนบอกดวยนะค่ะขอบคุณค่ะ จากคุณ : นางยักษ์yoo (นางยักษ์yoo) - [ วันเถลิงศก (15) 23:56:59 ]

ความคิดเห็นที่ 45 ตอบคุณ นางยักษ์yoo ใช่แล้วครับเป็นเรื่องเดียวกัน หาซื้อได้ตามเว็บขายหนังละครทั่วไปเลยครับ จากคุณ : DivXviD - [ 16 เม.ย. 52 09:32:52 ]

ความคิดเห็นที่ 46 ขอจองเรื่อง Star no Koi ค่ะ หรือชื่อ star struck หรือ love with a super star http://wiki.d-addicts.com/Star_no_Koi ไม่รู้ว่ามีใครจองหรือยังนะคะ ถ้ามีบอกด้วยค่ะ จากคุณ : Meg&Beck - [ 16 เม.ย. 52 17:26:22 ]

ความคิดเห็นที่ 47 มา Review แล้วค่ะ Star No Koi • Title (romanji): Sutaa no Koi • Also known as: Star Struck / Love with a Super Star • Genre: Renzoku drama • Episodes: 11 • Viewership ratings: 13.8 • Broadcast network: Fuji TV • Broadcast period: 2001-Oct-11 to 2001-Dec-20 • Air time: Friday (ep1), Thursday 22:00 (ep2-11) • Theme song: Stop! In the Name of Love by globe Credit ด้านบนจาก  http://wiki.d-addicts.com/Star_no_Koi โดยรวม: สูตร Cinderella แบบกลับด้านมาเป็นผู้ชาย เหมือน Notting Hill (ต่อไปขอเรียกว่า ‘NH’) เรื่องนี้ เรียกว่าได้แรงบันดาลใจจาก NH คงไม่ผิดนัก (สังเกตจากมีอยู่ 1 ฉากที่“น่าจะ”พยายามสื่ออย่างนั้น ส่วนจะเป็นฉากไหน ลองไปสังเกตกันดูนะคะ) แต่ว่าดูเนื้อเรื่องแล้วก็ไม่ได้นึกถึง NH มากมายนะคะ (อาจเพราะเราดู NH นานแล้วก็เป็นได้) เรื่องนี้ให้พูดจริงๆแล้ว ฝ่ายชายนี่ดูกระจอกยิ่งกว่า NH อีกค่ะ เรื่องย่อ: เรื่องของชาย Salary Man ที่ชื่อ Nakata Sosuke (Kusanagi Tsuyoshi แห่ง SMAP) ผู้เก่งกว่าโนบิตะที่เก่งพันด้ายอย่างเดียวหน่อยนึง คือเขาเก่งอยู่แค่ 2 อย่าง คือ รอบรู้เรื่องแฮมที่ตัวเองขายอยู่ และ ยิงธนูแบบญี่ปุ่น วันหนึ่งเขาก็ได้รู้จักกับซูเปอร์สตาร์สาวสุดร้อนแรง Kirishima Hikaruko (Fujiwara Norika) เรื่องราวความรักแสนชวนฝันก็เริ่มต้นขึ้นจากเก้าอี้เพียงตัวเดียว ... จากนั้นไม่นาน Hikaruko ก็ประกาศต่อหน้าสื่อมวลชนว่าเธอกำลังคบหาและกำลังจะหมั้นกับ Sosuke โดยที่เจ้าตัวยังไม่รู้เรื่องอะไรเลย หลังจากนั้นชีวิตของ Sosuke ก็เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง มีนักข่าวตามรุมทึ้ง และได้ลองรักกับดารา ... เขาจะเลือกทางสายไหนระหว่าง ใช้ชีวิตอยู่บนความจริงอย่างที่ควรจะเป็น? หรือเลือกชีวิตอย่างที่ชายเกือบทุกคนฝันถึง? นักแสดง: 1. Fujiwara Norika – รู้จักเธอครั้งแรกจากภาพยนตร์เรื่อง China Strike Force ที่กัวฟู่เฉิงเป็นพระเอก ตอนนั้นก็รู้สึกว่าหุ่นเธอเหมาะกับการเป็นซูเปอร์สตาร์มาก ... แล้วก็เป็นหุ่นของเธอที่ทำให้บทในเรื่องนี้ดูน่าเชื่อถือว่าเธอเป็นซูเปอร์สตาร์จริงๆ ไม่ได้เป็นแค่ดาราไอด้อลธรรมดา ... บทของเธอเรียกว่าแตกต่างจากเรื่อง Damens Walker (คุณเลขาค้นหารัก) อีกเรื่องที่เราได้ดูเธอเล่นแบบสุดขั้ว (ใน DW เธอเล่นเป็นนางเอก เป็นเลขาที่ไม่มีคนสนใจ low profile มากจนขนาดดูใกล้จบเราค่อยคิดได้ว่าคนนี้คือ โนริกะจังนี่นา) ตัวละคร Hikaruko นี้มีมิติที่ซ้อนอยู่ บางทีเธอก็มีลักษณะเหมือนเป็นตุ๊กตาไม่รับรู้เรื่องราวภายนอก ... ส่วนเรื่องการแสดงในเรื่องนี้เธอแสดงได้ดีทีเดียว จนได้รางวัลจาก Dorama Akademi sho (Fall 2001) ในสาขา Best Actress แล้วก็ Best Dresser 2. Kusanagi Tsuyoshi – ไม่เคยดูเค้าแสดงเลย เคยดูแต่เป็นดารารับเชิญ (แบบขาประจำ) ในรายการ Dotch Cooking Showdown (ศึกตะหลิวผู้พิชิต) คุณเบนซ์ สัจจะ (จาก TV Champion) ให้เสียง Tsuyoshi ไว้แบบออกแนวตุ๊ดเล็กน้อย เราก็ดูเค้าตุ้งติ้งเล็กน้อย รู้ตอนนั้นว่าเค้าเป็น 1 ใน SMAP ... เราไม่เข้าใจที่ผู้สร้างเลือกเค้ามาแสดง (น่าจะเหตุผลจากต้องการเรทติ้งเพราะเค้าดัง) ไม่ใช่ว่าเค้าแสดงไม่ดี หุ่นและหน้าตาเค้าเข้ากับบทนี้มาก แต่ว่าเพราะเค้าดังในญี่ปุ่น ฉะนั้นคนญี่ปุ่นไม่น่าจะอินว่าตัวละครนี้คือ “นายกระจอก” เท่าไหร่ ... ในทางกลับกัน คนไทยที่ไม่ค่อยรู้จักเค้าน่าจะอินกับช่องว่างที่ห่างมากขึ้นของ “ดอกฟ้ากับนายกระจอก” ผู้นี้มากกว่าคนญี่ปุ่น ... เพิ่งจะเคยได้ยินเสียงจริงของเค้า ก็หล่อและมีพลังดึงดูดดี ... เรื่องการแสดงเราค่อนข้างเฉยกับเค้า เรียกว่าพอผ่านสำหรับเรา 3. ในเรื่องมีตัวละครอีกตัวที่น่าสนใจ เป็นทั้งตัวขโมยซีน/ตัวโจ๊ก/และตัวน่ารำคาญในเวลาเดียวกัน คือบท Hyuuga Reiko ดารารุ่นน้องในสังกัดของนางเอกแสดงโดย Anzai Hiroko ดูจาก wiki ผลงานเธอไม่เยอะ แต่ถ้าใครเป็นแฟน Challenger of Fire (ศึกวัดใจสไตล์บูชิโด / เกมฮาท้าดวล) เหมือนเราคงคุ้นหน้าเธอมาก เพราะเธอเป็นดารารับเชิญบ่อย ความรู้สึกส่วนตัว: เรื่องนี้ตอนดู ดูรวดเดียวจบ 9 ชั่วโมงติด เพราะว่าไม่มีอะไรทำ โดยรวมก็ชอบในระดับนึง แต่ 2-3 ตอนหลังเนื้อเรื่องจะเริ่มช้าและไม่ไปไหน แต่ตอนสุดท้ายเราคิดว่าทำให้ได้ลุ้นดีทีเดียว ... ดนตรีประกอบเหมือนดูหนัง Romantic ของฮอลลีวู้ดเลยค่ะ ... เรื่องนี้หลายคนเรียกว่าแนว Romantic Comedy แต่ส่วนตัวเราคิดว่ามันยังขาดองค์ประกอบบางอย่างของแนวนั้น เราเลยเรียกแค่เป็น Romantic เฉยๆ ... เราคิดว่าเรื่องนี้ผู้ชายน่าจะชอบมากกว่าผู้หญิง ด้วยเพราะเป็นพล็อตเรื่องที่ใครก็อิจฉาและอยากเป็นพระเอก ควรดูเรื่องนี้ถ้า: -- คุณชอบหนังรักชวนฝัน ความรักของคน 2 คนที่มาจากโลกที่แตกต่าง -- คุณชอบดารานำทั้งสอง -- คุณชอบเนื้อเรื่องในวงการนักแสดง -- คุณชอบกินแฮม คุณจะได้รู้เรื่องราวของแฮมสุดหรูที่ราคากิโลกรัมละ 90,000 เยน ไม่ควรดูเรื่องนี้ถ้า: -- คุณไม่ชอบหนังรัก -- คุณไม่ชอบเนื้อเรื่องที่ไม่มีเหตุผล ... แค่พล็อตก็ไม่มีเหตุผลแล้วนะคะ ดาราดังจะมารักกับนายกระจอก เป็นไปได้ไง ... เรื่องนี้ยังมีสิ่งที่ไม่สมเหตุผลในหลายจุด ถ้าจะมาจับผิดกันแบบจริงจัง คะแนนความชอบส่วนตัว:  7.8 / 10 คะแนนความน่าติดตาม: - ผู้หญิงชอบหนังรักอาจจะประมาณ 6-7 / 10  ถ้าชอบวงการบันเทิงบวกอีก 1-2 คะแนน - ผู้ชายช่างฝันถึงดาราอาจจะ 8-9 / 10 แก้ไขเมื่อ 27 เม.ย. 52 13:31:59 แก้ไขเมื่อ 17 เม.ย. 52 14:15:34 แก้ไขเมื่อ 17 เม.ย. 52 14:09:26 จากคุณ : Meg&Beck - [ 17 เม.ย. 52 13:52:25 ]

ความคิดเห็นที่ 48 มารีวิวหลังจากห่างหายไปนาน.. รู้สึกว่าช่วงนี้ทู้รีวิวเริ่มเงียบๆและ สงสัยรีวิวกันไปมากแล้วจริงๆ^^ "Kabachitare!" นำแสดงโดย : Fukatsu Eri , Tokiwa Takako , Jinnai Takanori , Yamashita Tomohisa ปี : 2001 เรตติ้ง : 19.3 จำนวนตอน : 11 เนื้อเรื่องเกี่ยวกับกฏหมายตลอดเรื่อง ดูแล้วทั้งสุนกสนาน ฮา และได้ความรูเกี่ยวกับกฏหมายค่ะ เรื่องนี้ไม่ใช่แนวพระเอก-นางเอก มีตัวหลักเป็นผู้หญิง2คนวัย28ที่มีลักษณะต่างกันมากที่บังเอิญมาเจอกัน ซาคาเอดะ จิฮารุ(เอริ) สาวสำนักงานกฏหมายที่มีความเป็นตัวของตัวเองสูง ไหวพริบดี สามารถใช้กฏหมายแก้ปัญหาต่างๆได้อย่างคล่องแคล่ว พูดง่ายๆคือใช้สมองเก่งเหมือนมีคอมพิวเตอร์อยู่ในหัว(โนโซมิเคยพูดไว้) แต่ด้านจิตใจหรือใช้ใจสัมผัสเธอกลับไม่คล่องเอาซะเลย ซึ่งตรงกันข้ามกับพนักงานเสิร์ฟสาวโนโซมิ(ทาคาโกะ)ที่เป็นคนเชื่อใจคนอยู่เสมอ และตัดสินอะไรด้วยจิตใจ ทั้งสองคนมาพบกันในสถานการณ์ที่ซาคาเอดะมาช่วยโนโซมิที่ถูกหลอกไปขาย เมื่อช่วยสำเร็จเธอก็ไม่มีค่าจ้าง เลยต้องมาทำงานพิเศษชดเชยที่สำนักงานของโอโนะ(จินไน)ที่ซาคาเอดะทำอยู่ ทำให้ทั้งสองสนิทกันมากขึ้น และได้เติมเต็มสิ่งที่ขาดหายไปของทั้ง2คน ซาคาเอดะก็รู้จักการประนีประนอม ใช้จิตใจให้เป็น ส่วนโนโซมิก็รู้จักการใช้กฏหมายในสถานการณ์ต่างๆ เนื้อเรื่องนอกจากจะเห็นการใช้กฏหมายกับคดีต่างๆ ยังเห็นความสัมพันธ์ระหว่างคนในที่ทำงาน ความรักหนุ่มสาวที่2สาววัย28ใฝ่ฝัน(อยากแต่งงาน) ความรักระหว่างพี่น้อง(โนโซมิและยูตะ[ยามะพี]) และยังได้คำคมต่างๆมากมาย ที่ชอบสุดๆก็คือคำที่โอโนะพูด ประมาณว่า"กฏหมายไม่มีศีลธรรม มีแต่ถูกกับผิดเท่านั้น แต่ศีลธรรมนั่นน่ะอยู่ในตัวเราหรือคนใช้กฏหมายนั่นเอง" เรื่องนี้ให้หลายอารมณ์มากๆจริงค่ะ ดูแล้วเพลิดเพลินดี เรตติ้งก็ถือว่าสูงทีเดียว เลยแนะนำให้ดูค่ะ จริงๆเรื่องนี้แอบดองไว้นานอยู่^^"(ดันไปโดนCode blueแย่งซีน 555+) แต่สามารถหยิบมาดูได้ทุกเมื่อค่ะ เรื่องราวค่อนข้างเป็นตอนๆ เคสๆไป อยากดูเมื่อไหร่ก็เปิดดูได้สบายๆค่ะ ในเรื่องของคนแสดง "เอริ"ก็รับบทสาวแกร่งworking womanอย่างซาคาเอดะ ซึ่งเป็นบทที่เธอเคงจะถนัดไม่น้อย(เล่นบทหญิงเก่งประจำ) , "ทาคาโกะ"ในบทโนโซมิก็ใสซื่อน่ารัก , ป๊ะป๋าอายะ"จินไน"ก็เหมาะกับบทหัวหน้าเป็นอย่างมาก , "ยามะพี"วัยใสก็เป็นน้องได้ฮาน่ารักดี ตัวละครประกอบคนอื่นๆที่รับบทเด่นๆในปัจจุบันก็โผล่มาให้ตกใจอยู่เรื่อย 555+ ไม่ว่าจะเป็น..."คารินะ"กับบทแฟนสาวยูตะ(ยามะพี) , "อาซามิ"กับบทเด็กสาวม.ปลายที่เล่นtelephone clubซึ่งโผล่มาแว๊บเดียว^^" , "ซาโตชิ"หนุ่มพาร์ทไทม์ร้านขายของหน้าใส อย่าลืมลองดูเรื่องนี้กันนะคะ^^ จากคุณ : Satohara Miki - [ 3 พ.ค. 52 15:23:50 ]