PANTIP.COM : A7608822 ขอเปลืองพื้นที่ 1 กระทู้ เพื่อพูดถึง code blue ที่สนุกเกินคาดแบบไร้สาระหน่อยนะคะ [บันเทิงแดนซากุระ]

ขอเปลืองพื้นที่ 1 กระทู้ เพื่อพูดถึง code blue ที่สนุกเกินคาดแบบไร้สาระหน่อยนะคะ

ก่อนที่จะดูเรื่องนี้เคยอ่านเจอในห้องซากุระเนี่ยแหละ รู้สึกจะบ้านมะพีแหละมั้งคะถ้าจำไม่ผิด ว่าที่ญี่ปุ่นทำซีรี่ย์เกี่ยวกับหมอๆบ่อยๆ เพราะเค้าขาดแคลนหมอ เลยต้องสร้างซีรี่ย์เพื่อเป็นแรงบันดาลใจ อะไรประมาณนี่

ตอนนั้นเราไม่รู้หรอกว่าจริงรึเปล่า แต่หลังจากได้ดูเรื่องนี้จบ ก็คิดว่ามันจริงแฮะ หลังจากดูเรื่องนี้จบ คิดว่าเรื่องนี้กำลังส่งสาล์นท้าถึงคนหนุ่มสาวหรือเด็กๆทั่วประเทศ ถ้าคุณคิดว่าแน่จริง ถ้าคุณคิดว่าคุณเจ๋งจริง แก้ไขปัญหาต่างๆ แบบนี้ได้ก็มาเลย มาเป็นผู้ช่วยเหลือชีวิตผู้คนแต่ต้องแบกรับภาระที่อันหนักอึ้ง

เรื่องนี้เราว่าถ้าดูเอาผ่านๆ เผินๆก็ไม่สนุกค่ะ ตามธรรมดาของซีรี่ย์ญี่ปุ่นแหละต้องเข้าใจและเข้าถึงมัน ถึงจะสนุกไปกับมันได้

คนทั่วไปอาจจะดูแล้วเฉยๆ ก็แค่หมอปฏิบัติหน้าที่ ผ่าตัดบ้าง ปฐมพยาบาลสำหรับผู้เจ็บหนักบ้าง ดูแล้วไม่เห็นจะน่าสนุกตรงไหน บางคนที่ดูซีรี่ย์ฝรั่งเทพๆมาอาจจะต่อต้านว่าเรื่องนี้ก็ไม่เห็นต่างจากซีรี่ย์ฝรั่งตรงไหน แถมฝรั่งยังทำดีกว่า

แต่ก็นั่นแหละ สำหรับเราผู้ที่ห่างจากซีรี่ย์ฝรั่งแนวคุณหมอๆ มานานแล้ว ไม่ติดภาพไม่นึกเปรียบเทียบก็เลยดูสนุกล่ะมั้ง แล้วเราก็ไม่ได้ดูเอาผ่านๆด้วยก็เลยคิดว่าดูสนุกเพราะเข้าใจสาล์นที่เค้าจะสื่อถึงคนดูที่แฝงมากับดราม่าในเรื่องได้อย่างลงตัว

เหมือนเราเป็นพวกอุปโลกตัวเองว่าเข้าใจซีรี่ย์ญี่ปุ่นอยู่เรื่อยเลยแฮะ เข้าใจเรื่องที่แฝงไว้ในซีรี่ย์ญี่ปุ่นแทบจะทุกเรื่องจริงๆน่ะเหรอ? อืม ไม่ทุกเรื่องหรอกนะที่เราดูแล้วเข้าใจแล้วสนุก จริงๆเรื่องของความเข้าใจ เราอาจจะเข้าใจหรือเข้าถึงแบบผิดๆก็ได้ แต่พอคิดตามไปว่าตัวเองเข้าใจแบบนี้ แบบนี้นะ มันก็สนุกขึ้นมาถึงขั้นหยุดดูไม่ได้เลยอ่ะค่ะ

เล่าตามความเข้าใจนะคะ เราว่าเรื่องนี้บอกเล่าถึงอุปสรรคต่างๆของคนเป็นหมอ อุปสรรคที่ก้าวผ่านไปได้ยาก จนบางทีอาจถึงขั้นต้องเลิกอาชีพหมอไปเลย แต่กระนั้น ก็ยังคงปลอบประโลมแบบไม่เกินจริงไปด้วยว่า ไม่ว่าใครก็พลาดได้

แต่คุณจะจัดการกับความผิดพลาดนี้ยังไง ไม่มีใครปลอบคุณได้ หมื่นความเข้าใจ แสนคำปลอบใจ ล้านกำลังใจก็ไม่สามารถช่วยให้คุณหลุดพ้นจากบ่วงพันธนาการที่อยู่ในใจคุณได้ ตราบใดที่ใจคุณไม่สู้ ของอย่างนี้มันอยู่ที่ใจ

ภาระกิจและอุปสรรคต่างๆในเรื่องเหมือนเป็นการท้าทายกับเด็กรุ่นใหม่ที่กำลังดูอยู่ที่หน้าจอว่า ถ้าคุณแน่เหมือนคนพวกนี้ที่อยู่ในจอ หรือคิดว่าแน่กว่า แก้ปัญหาได้ดีกว่าพวกเค้าก็มาเลย มาสัมผัสความร้อนรุ่มจากหัวใจของความเป็นหมอที่อยากจะช่วยชีวิตคนในสถานการณ์ฉุกเฉินให้ได้มากที่สุด

เพ้ออะไรไปไม่รู้ยาวเชียว แค่อยากจะบอกว่าประทับใจเรื่องนี้เกินคาดค่ะ เพราะก่อนดู ก็นะหนังไอด้อลอีกแล้ว(เหยียดหนังไอด้อลอีกแล้วทั้งที่น่าจะเข้าใจจากโนบุตะแล้วเชียว -*- ก็นะ ไอด้อลเล่นทั้งนั้นนี่หน่า)

แถมแรกๆยังหมั่นไส้พระเอกซ้า แต่ที่ชอบได้มากอาจจะเพราะตัวเองชอบหนังแนวๆที่แสดงให้เห็นถึงการทำงานของคุณหมออยู่แล้วและเรื่องนี้ก็แสดงมันให้เห็นแบบตลอดทั้งเรื่องก็เลยประทับเรื่องมากกว่าที่คิดไว้ตอนแรกน่ะค่ะ

อยากให้คุณหมอไม่ว่าชาติไหนได้ดูเรื่องนี้ แล้วทำความเข้าใจกับมันจังค่ะ เพราะสุดท้ายของบทสรุปทั้งหมดก็คือ การเป็นหมอที่ดีนั้นต้องทำยังไง ดังที่บอกไปอย่างโจ้งแจ้งในฉากที่พระเอกปล่อยให้คนไข้กลับบ้านไปเพราะคิดว่าเป็นอาการป่วยเพียงเล็กน้อย แต่คนไข้กลับทรุดหนักจนต้องหามเข้า ICU

ทั้งที่ความจริงแล้วหมอไอซาว่าไม่ได้วินิจฉัยอะไรผิดเลย อาการของคนไข้ที่มาหาแทบไม่มีอะไรที่จะไปทำให้ทรุดหนักเลย แต่ทว่า ผอ.ของโรงพยาบาลก็สอนให้หมอไอซาว่า รู้จักคำว่าใส่ใจกับคนไข้ให้มากขึ้น จำรายละเอียดคำพูดได้ไม่หมดอ่ะนะ แต่เราน้ำตาร่วงเผาะๆเพราะประโยคนี้แหละ

"ที่จริงถ้าเธอใส่ใจฟังคำบอกเล่าของคนไข้ซักหน่อย ก็จะพบว่าเธอมาพบหมอด้วยความกังวลใจเรื่องอะไร และสุดท้ายก็จะรู้ถึงอาการป่วยที่แท้จริงของเธอ"

ถ้าเพียงใส่ใจกับคนไข้ให้มากขึ้น เราคิดว่าข่าวคราวเรื่องหมอกับคนไข้ก็คงจะลดน้อยถอยลงไปด้วย

สุดท้ายอยากบอกว่า สามสาวชิราอิชิเซนเซ ฮิยามะเซนเซกับคุณพยาบาลน่ารักมากกกกก ทำให้เรื่องดูสดใสสดชื่นขึ้นเยอะเลยค่ะ และประทับใจฟูจิคาว่าเซนเซด้วย คอยเชียร์อยู่เรื่อยล่ะ แม้จะลุ้นไม่ขึ้นก็ตามที ^^"

ส่วนไอซาว่าเซนเซเดี๋ยวไว้ตั้งกระทู้ถามถึงพรุ่งนี้ดีกว่า มีเรื่องอยากจะถามแฟนๆมะพียาวๆเหมือนกันค่ะ

ปล.ตั้งกระทู้ซ้ำซ้อนขออภัย แบบว่าคนมันความรู้สึกช้าอ่ะ เค้าดูกันไปหมดแล้ว เพิ่งได้ดู เพิ่งได้ประทับใจซะงั้น ^^"

จากคุณ : น้ำพริกกินกะปลาทู - [ 9 มี.ค. 52 20:32:20 ]

ความคิดเห็นที่ 7

คุณน้ำพริกกินกับปลาทูพูดออกตัวแบบไร้สาระแต่ที่จริงมากด้วยสาระเลยทีเดียวค่ะ

เรื่องโค้ดบลูเนี่ย ฟูจิทีวีสร้างขึ้นตามคำร้องขอของพรรคการเมืองหนึ่ง (ไม่ใช่พรรคที่เป็นรัฐบาลในขณะนี้) หน่วยกู้ชีพแห่งชาติ ฝ่ายบรรเทาสาธารณภัยและหน่วยงานกึ่ง NGO ทางสาธารณสุขอีก 1-2 แห่งค่ะ เรียกได้ว่ามีการรวมตัวทำละครโดยมีจุดมุ่งหมาย "เพิ่มจำนวนหมอกู้ชีพการบิน" ขึ้นโดยเฉพาะ

ตัวละครที่คัดมา ทางทีมงานตั้งใจจะให้ไอดอลระดับแนวหน้าของญี่ปุ่นเป็นตัวชี้นำเยาวชนให้หันมาเป็นหมอกู้ชีพการบินกันให้มากขึ้นค่ะ และคิดว่าวิธีนี้ได้ผล เพราะมีการสำรวจกระแสการเลือกเีรียนต่อแพทย์เฉพาะทาง และเด็กให้สัมภาษณ์ว่าอยากเป็นหมอฉุกเฉินแบบตัวละคร กระแสแต่งคอสเพลย์ชุดหมอฉุกเฉินก็ขายดีในช่วงนั้นด้วย

ใครที่ดูละครไปได้ซัก 3 ตอนก็คงจะทราบแล้วว่า ละครเรื่องนี้เป็นละครแนวครอบครัวที่ใช้แก่นเรื่องเป็นหมอกู้ชีพฉุกเฉินการบิน คุณเสือเตี้ยในบ้านพีตอนที่อยู่ญี่ปุ่นเธอเล่าว่าช่วงนั้นมีเหตุฟ้องร้องเรื่องหญิงท้องแก่ตายทั้งกลมเพราะหมอหลายโรงพยาบาลไม่ยอมรับรักษา เหมือนกับที่เราได้ดูจากละครเรื่องนี้ โรงพยาบาลที่นั่นปิดตัวลงก็หลายแห่ง คนอยากเป็นหมอน้อยลง แต่คนเจ็บไม่ได้น้อยลง ซ้ำยังมีภัยพิบัติที่รถพยาบาลไม่สามารถรับส่งผู้ป่วยได้ทัน หรือเข้าไปยังที่เกิดเหตุไม่ได้ ต้องใช้เฮลิคอปเตอร์ช่วย ฉะนั้นการเพิ่มจำนวนหมอฉุกเฉินจึงได้รับการตอบรับจากทุกฝ่าย

ย้อนมาคุยถึงละคร ตั้งแต่ต้นจนถึงตอนพิเศษ ละครแสดงใ้ห้เห็นหมอเฟลโลวชิพ (หรือที่ภาษาทางการสายรามาธิบดีเรียกว่าแพทย์ผู้ช่วยอาจารย์) 4 คนที่มีทัศนคติ ปูมหลัง และทักษะการทำหัตถการไม่เหมือนกัน ของญี่ปุ่นก็ไม่ต่างกับไทยตรงที่ผู้ป่วยไม่ค่อยอยากรักษากับนศ.แพทย์ ใครๆ ก็อยากรักษากับอ.หมอ หรือหมอเก่งๆ ที่มีชื่อเสียง นี่เป็นด่านแรกที่ละครพามาให้เห็นถึงการตัดสินใจเป็นหมอสายฉุกเฉินการบินที่เป็นสัจธรรมที่สุดแล้ว

ละครเรื่องนี้มีมิติ และสมจริงที่สุดในแง่การนำเสนอความเป็นหมอฉุกเฉินการบิน เพราะโรคหรืออาการบาดเจ็บที่รักษามีจริง และที่รักษาให้เห็นก็เป็นเทคนิคที่เกิดขึ้นจริงๆ คุณหมอที่ช่วยบ้านพีทำบทบรรยายภาษาไทย เป็นหมอฉุกเฉินของโรงพยาบาลราชวิถีค่ะ คุณหมอเป็นหมอที่เคยขึ้นฮ.ไปรักษาในโครงการพอสว.และศูนย์นเรนทร คุณหมอบอกว่าเทคนิคทีใช้นำไปใช้ได้จริงและทุกวันนี้ก็เอาไปสอนนศ.แพทย์ด้วยค่ะ

ถ้าจะให้พูดถึงละครที่โยงมากับงานหมอกู้ชีพ ทั้งของไทยและญี่ปุ่นนี่มีอีกเยอะเลย ทางไทยเองก็พูดถึงการ "ปั้นหมอไอดอล" ในสายต่างๆ ซึ่งทำสำเร็จแค่สายเดียว คือสายนิติวิทยาศาสตร์ที่มีคุณหญิงหมอพรทิพย์เป็นต้นแบบ สายสำคัญๆ อย่างศัลยศาสตร์และโดยเฉพาะสายฉุกเฉินนี่ขาดสุดๆ

ในบันเทิงซากุระเองก็มีนศ.แพทย์หลายคน ถ้ามีใครซักคนเรียนต่อเฉพาะทางฉุกเฉินเพราะละครเรื่องนี้ ก็นับว่าสำเร็จแล้วค่ะ

จากคุณ : ภูชมพู - [ 10 มี.ค. 52 02:25:25 ]