ความคิดเห็นที่ 1 6 มี.ค 52 นัดเจอโก้เพื่อนร่วมเดินทางคนใหม่ที่สถานีขนส่งลำปาง 7 โมงเช้า นั่งคุย ถามไถ่และสร้างความคุ้นเคยกันระหว่างรอรถ ได้ความว่าเป็นคน จ.น่าน แต่ทำงานที่ จ.เชียงใหม่ เมื่อคืนมาตามหาหัวใจ (หรือเปล่า?) ที่ จ.ลำปาง วันนี้จึงมีวาสนาได้เดินทางไปเชียงใหม่ด้วยกัน แก้ไขเมื่อ 09 มี.ค. 52 22:15:16 จากคุณ : osora - [ 9 มี.ค. 52 21:11:02 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ถึงเชียงใหม่ 9 โมงครึ่ง โอจิมารอรับ เป็นอันว่า 3 หนุ่ม 3 จังหวัด (ลำปาง น่าน เชียงใหม่) พร้อมออกเดินทางตามหารัก เอ๊ย! ตามรอยเส้นทางโบราณแล้วครับ (แต่จริงๆแล้วโอจิบอกว่ามีน้องสุภาพสตรีท่านหนึ่งหลังไมค์ขอไปด้วยแต่ เงียบไป เราจึงจำเป็นต้องเดินทางล่วงหน้าเพียง 3 ชีวิต) จากคุณ : osora - [ 9 มี.ค. 52 21:12:15 ]

ความคิดเห็นที่ 3 แวะเติมพลังงานยามเช้าด้วยก๋วยเตี๋ยวแถว อ.แม่ริม วางแผนการเดินทาง   เริ่มต้นกันที่แหล่งเตาเผาอินทขิลเมืองแกน แล้วแวะเขื่อนแม่ ngัด แต่ระหว่างเดินทางโม้กันเพลินจึงเลยแยกไปเขื่อนแม่ ngัด และเลยทางเข้าแหล่งเตาเผาฯอีกต่างหาก แวะถามแม่ค้าข้างทางแล้วย้อนกลับทางเดิม แต่มิวายขับเลยทางเข้าอีกจนได้ แก้ไขเมื่อ 09 มี.ค. 52 22:44:59 แก้ไขเมื่อ 09 มี.ค. 52 22:28:07 แก้ไขเมื่อ 09 มี.ค. 52 22:23:35 แก้ไขเมื่อ 09 มี.ค. 52 22:22:09 จากคุณ : osora - [ 9 มี.ค. 52 21:13:02 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ถึงแหล่งเตาเผาฯเห็นป้ายค่อนข้างหรู แถมข้างในเหมือนเป็นบ้านพักหรือรีสอร์ทมากกว่า จึงจอดรถแล้วเดินไปสอบถามคนงานด้านใน สรุปใช่ที่นี่แหละ (ในความคิดพวกเรา ทำไมมันหรูจังหว่า) เขาจัดแสดงวัตถุดินเผาโบราณพร้อมแผ่นป้ายประวัติต่างๆ แต่ที่นี่มีอายุเก่าแก่ประมาณ 600 ปี ซึ่งไม่ใช่ยุคพระนเรศวรฯแน่นอน เดินดูสักพักจึงเดินทางต่อ เป้าหมายต่อไปคือ อ.เชียงดาวครับ จากคุณ : osora - [ 9 มี.ค. 52 21:13:40 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ถึงเชียงดาวแวะปั้มน้ำมันได้กำลังใจให้กระชุ่มกระชวย (อาหารตา) ตามประสาหนุ่มโสดครับเห็นสาวๆเป็นไม่ได้แหล่ไปทุกที่ 555 แวะชมถ้ำเชียงดาว วันนี้อากาศแย่มากทัศนวิสัยไม่ดีเอาเสียเลย ควันไฟจากไฟป่าพร้อมขี้เถ้าลอยว่อนทั่วเชียงดาวหายใจลำบากพอสมควร ( ทำให้ทริปต่อไปของพวกเราคือเที่ยวดอยหลวงเชียงดาวอาทิตย์หน้าจำเป็นต้องงด แก้ไขเมื่อ 10 มี.ค. 52 23:42:59 จากคุณ : osora - [ 9 มี.ค. 52 21:14:30 ]

ความคิดเห็นที่ 6 เดินดูถ้ำเชียงดาวสักพักแวะดูสารพัดว่านสมุนไพรที่ชาวบ้านนำมาขาย (เผื่อใช้ในเพชรฯ) จากนั้นแวะชมพระสถูปสมเด็จพระนเรศวรฯ ถ่ายรูปค่ายหลวงที่ประทับสมเด็จพระนเรศวรมหาราช(จำลอง) แล้วเดินทางต่อ ระหว่างทางมองหาร้านข้าวซึ่งหายากพอสมควร สรุปกินก๋วยเตี๋ยว (อีกแล้ว) จากคุณ : osora - [ 9 มี.ค. 52 21:14:55 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ระหว่างเดินทางเราแบ่งงานกันทำ ผมหาข้อมูล จดชื่อลำห้วย โก้คอยถ่ายรูป มอบหน้าที่พลขับให้โอจิเจอที่ราบกว้างที่ไหนก็ลงถ่ายภาพ แวะขึ้นไปวัดพระธาตุมอญจิ่งซึ่งอยู่บนเขา สอบถามผู้เฒ่าผู้แก่บนวัดเกี่ยวกับทางเดินค้าขายสมัยโบราณ ถ่ายรูปที่ราบจากบนดอย แต่อย่าไปหวังอะไรกับกล้องของผมมากนัก ยิ่งเจอควันไฟแทบจะมองอะไรไม่เห็นเอาเสียเลย จากคุณ : osora - [ 9 มี.ค. 52 21:15:36 ]

ความคิดเห็นที่ 8 เป้าหมายต่อไปคืออุทยานแห่งชาติผาแดง  คราวนี้มีเรื่องให้ฮาคือ เราเจอพระรูปของสมเด็จพระนเรศวรฯตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่ริมทางจึงจอดถ่ายรูปเพราะไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน (เป็นป้ายรูปขนาดใหญ่) โดยไม่รู้ว่าทางเข้าอุทยานฯก็คือปากทางที่เราจอดนั่นแหละ พอขับไปเรื่อยๆ เอ๊ะ! มันเริ่มจะเข้าเขตเมืองนะไปทุกทีแล้วนะ มิหนำซ้ำถ้าเลี้ยวซ้ายก็จะเข้าบ้านอรุโณทัยเป้าหมายต่อไปอีกต่างหาก จากคุณ : osora - [ 9 มี.ค. 52 21:17:16 ]

ความคิดเห็นที่ 9 จอดรถสอบถามทหารที่ประจำจุดตรวจ เขาบอกว่าเราขับเลยมาแล้วจึงขับย้อนกลับ   พลขับของเราขับเลยทางเข้าอีกแล้ว โชคดีที่โก้เห็นป้ายบอกทางก่อนที่จะเลยไปไกลกว่านี้ หัวเราะกันในรถ ขำในความเซ่อซ่าของพวกเราที่ไม่สังเกตอะไรให้รอบคอบเสียก่อน จากคุณ : osora - [ 9 มี.ค. 52 21:17:53 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ที่อุทยานแห่งชาติผาแดง เราได้รับความร่วมมือและความช่วยเหลือด้านข้อมูลเป็นอย่างดี โดยท่านผู้ช่วยอุทยานฯ(ขออภัยครับลืมถามชื่อของท่าน) และเจ้าหน้าที่ทุกท่านเต็มใจให้เราสอบถามข้อมูล โดยเฉพาะคุณ เอ(ชื่อเล่น) ช่วยเซฟภาพถ่ายทางอากาศพร้อมขีดเส้นทางเดินที่น่าจะเป็นไปได้มาให้พวกเราด้วย อีกทั้งยังแนะนำผู้รู้ท่านอื่นที่หน่วยเมืองนะให้เราอีกต่างหาก ไม่พอยังชวนพวกเราเดินเท้าเข้าไปในป่า (ใครจะไปยกมือขึ้น) เพื่อให้ครบหลักสูตรอีกด้วย แก้ไขเมื่อ 10 มี.ค. 52 12:31:51 แก้ไขเมื่อ 09 มี.ค. 52 22:30:09 จากคุณ : osora - [ 9 มี.ค. 52 21:18:37 ]

ความคิดเห็นที่ 11 เมื่อได้ข้อมูลพอสมควรแล้ว  เวลาก็ 4 โมงเย็นจึงขอตัวกลับเพื่อมุ่งหน้าสู่บ้านอรุโณทัยหรือหนองอุก เป็นหมู่บ้านสุดท้ายก่อนเข้าสู่ประเทศพม่าชนพื้นเมืองเป็นจีนฮ่อ แต่สาวๆที่นั่นสวย น่ารักๆเพียบ (งูเริ่มเลื้อยอีกแล้ว) แวะไหว้ศาลสมเด็จพระนเรศวรฯซึ่งแกะสลักด้วยไม้สัก ขับรถวนอ่างเก็บน้ำในใจกลางหมู่บ้านแล้วมุ่งสู่อำเภอไชยปราการ จากคุณ : osora - [ 9 มี.ค. 52 21:19:06 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ระหว่างทางก็ชมความงามของธรรมชาติยามพลบค่ำไปในตัว ดอกเสี้ยวสีขาวกำลังบาน บางจุดสวยจนทนไม่ไหวลงไปถ่ายภาพกันจนเพลิน แวะสอบถามเส้นทางจากทหารประจำจุดตรวจบ้านสินชัย เลี้ยวซ้ายไป อำเภอไชยปราการ แวะอุทยานดอยแม่สูนหรือภูแสนดาว ที่นั้นสวยมากมีที่ตั้งเต้นท์จึงตั้งใจจะพักแรมกันที่นี่ แต่เจ้าหน้าที่สาวบอกว่าพักไม่ได้เป็นนโยบายจากเบื้องบน พวกเรารู้สึกเสียดายและแอบเซ็งเล็กน้อย เขาไม่ให้พักก็ขับมุ่งหน้าต่อไปตามความตั้งใจเดิมคือพักที่ดอยลาง จากคุณ : osora - [ 9 มี.ค. 52 21:20:05 ]

ความคิดเห็นที่ 13 เข้าสู่อำเภอชัยปราการ ผ่านอำเภอฝางไม่สนใจแวะที่ไหนอีกเพราะค่ำแล้ว เข้าอำเภอแม่อาย โอจิโทรหาเพื่อนที่เป็นครูดอยที่นั่น ขับรถวนไปวนมาตามหาบ้านพักเพื่อนโอจิ จะขอพักที่นั่นเนื่องจากเขาบอกว่าไปดอยลางตอนนี้คงไม่เหมาะเนื่องจากเป็นเขตรอยต่อ ที่สำคัญขณะนี้เป็นเวลา 2 ทุ่มแล้ว จากคุณ : osora - [ 9 มี.ค. 52 21:20:36 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ปาดครับ มาติดๆกันซะหลายกระทู้เลย จากคุณ : มนุษย์ถ้ำ - [ 9 มี.ค. 52 21:20:54 ]

ความคิดเห็นที่ 15 สุดท้ายพวกเราเลือกนอนโรงแรมที่ตำบลท่าตอนดีกว่า ไม่อยากรบกวนเพื่อนของโอจิด้วย ถึงท่าตอนเจอโรงแรมราคาไม่แพงที่สำคัญมีแอร์ด้วย เข้าที่พักเก็บกระเป๋า แล้วออกตระเวนราตรีด้วยความเชื่อว่าท่าตอนเป็นแหล่งท่องเที่ยว ฝรั่งเยอะ(ออกอาการหื่น) ตามประสาหนุ่มโสดครับ จอดที่ไหนแวะที่นั่นนั่งกินข้าวและยอดข้าว (ผมไม่กินยอด) เปิดเน็ตเช็คเรตติ้ง อากาศเริ่มเย็น อิ่มแล้วจึงกลับที่พัก จากคุณ : osora - [ 9 มี.ค. 52 21:21:21 ]

ความคิดเห็นที่ 16 555 ขออภัยครับของมันร้อน(โดนเร่ง)กลัวไม่ทันใจรัวคีย์บอร์ดซะกระทู้ออกเป็นพรวนเลย เดี๋ยวคงมีคนมาลบให้ครับ จากคุณ : osora - [ 9 มี.ค. 52 21:22:53 ]

ความคิดเห็นที่ 17 คืนนี้ทราบข่าวว่าสมาชิกจาก กทม.อีก 2 ชีวิตคือ ฟาฬและต้นไทร กำลังออกเดินทางจากหมอชิต ส่วนพี่เหน่งและล่องฟ้ารออยู่ที่เชียงใหม่ พรุ่งนี้พวกเขาเหล่านี้จะขับรถเก๋งแวะรับน้องสิมาที่ฝาง แล้วมาสมทบพวกเรา 3 หนุ่มที่บ้านท่าตอนแห่งนี้ จากคุณ : osora - [ 9 มี.ค. 52 21:23:30 ]

ความคิดเห็นที่ 18 สำหรับผมคืนนี้มีโรงสี 2 โรงขับกล่อมเป็นเพื่อน ด้วยความเคยชินแค่นี้สบายครับ พักผ่อนด้วยความอ่อนเพลีย แต่ประมาณตี 2 รู้สึกเหมือนมีอะไรดิ้นขยุกขยิกทางด้านขวามือ ข่มใจค่อยๆลืมตาดู พระเจ้าช่วย! มีแสงเรืองรองสีขาวสว่างนวลตาอยู่ข้างๆตัว ผมมองด้วยความตะลึงใจเต้นตุบๆรู้สึกเย็นไปทั้งตัวตั้งแต่หัวจรดเท้า! จากคุณ : osora - [ 9 มี.ค. 52 21:24:13 ]

ความคิดเห็นที่ 19 เพ่งพินิจมองดูอีกที สิ่งที่ผมเห็นคือ....โอจิกำลังเล่นเน็ตครับ แต่ดันไม่เปิดไฟ แสงสว่างจากจอโน็ตบุ๊คจึงสว่างจ้าเฉพาะจุด สิ่งที่ทำให้ผมเย็นตั้งแต่หัวจรดเท้าคือแอร์   แบบว่าผ้าห่มมันหลุดจากตัว แอร์ก็เย็นเรื่องของเรื่องมันก็เป็นแบบนี้แหละครับ 55555 จากคุณ : osora - [ 9 มี.ค. 52 21:25:04 ]

ความคิดเห็นที่ 20 7 มี.ค 52 ตอนเช้าพี่เหน่งโทรมาบอกว่ารถเก๋งคู่ชีพเสีย เปลี่ยนแผนนั่งรถตู้มาท่าตอน และน้องสิมาก็มาไม่ได้ พวกเราจึงวางแผนกันใหม่ เก็บของแล้วคืนห้องพัก แวะกินข้าวเช้าโชคดีเจอเจ้าหน้าที่ อบต.ท่าตอน สอบถามได้ว่า นายกฯอยู่บ้านพัก เราจึงรีบไปที่ทำการ อบต. หลังกินมื้อเช้าเสร็จ (ขอบอกว่าอากาศเย็นมาก) จากคุณ : osora - [ 9 มี.ค. 52 21:25:48 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ไปที่ ทำการ อบต.แต่ท่าน นายกฯยังไม่ตื่นจึงเปลี่ยนเป้าหมาย แวะสอบถามข้อมูลที่ค่ายเจ้าแม่มะลิกา ทหารที่นั่นแนะนำไปกองร้อยทหารพรานจู่โจมที่ 950 (จุดตรวจการณ์ดอยกิ่วฮุง) ต้องขับรถขึ้นดอยลางแวะไหว้ศาลสมเด็จพระนเรศวรฯ สังเกตว่าผู้คนที่นี่นับถือพระนเรศวรมาก มีศาลของพระองค์ทุกแห่งที่พวกเราไป จากคุณ : osora - [ 9 มี.ค. 52 21:26:27 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ที่ค่ายตั้งป้อมใกล้กับพม่าโดยห่างกันแค่ดอยกั้น ระหว่างถ่ายรูปผมยังเสียวอยู่เลยว่าถ้าฝั่งนั้นยิงมาคงไม่เหลือแน่ เล่นยืนเด่นเป็นสง่าอยู่บนบังเกอร์เลยนี่นา ที่ค่ายแห่งนี้เราได้ถ่ายภาพแผนที่และแบบจำลองตามแนวชายแดน ทำให้ได้เห็นเส้นทาง ทั้งถนนและลำห้วยต่างๆเพื่อใช้ประกอบข้อมูลได้สบาย ต้องขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ทหารทั้งสองค่ายเป็นอย่างสูงด้วยครับที่ให้ข้อมูลกับพวกเรา จากคุณ : osora - [ 9 มี.ค. 52 21:27:22 ]

ความคิดเห็นที่ 23 จุดต่อไปคือแวะถามเจ้าอาวาสวัดปางต้นเดื่อ แต่ชาวบ้านที่มาช่วยงานที่วัดบอกว่า ถ้าอยากรู้ข้อมูลจากคนที่เคยเดินเท้าให้ไปหา ลุงตา ที่บ้านหล่ายอาย รีบเดินทางทันทีเลยครับเพราะกลัวว่าคณะจากเชียงใหม่จะรอเราที่ท่าตอนนาน(ถ้ามาถึงก่อนเราลงดอย) ขับรถถามชาวบ้านไปเรื่อยๆจนพบบ้านลุงตาซึ่งโชคเข้าข้างพวกเรา ลุงตา หรือพ่ออุ๊ยตาอยู่หน้าบ้านกับลูกหลานพอดีเลยครับ จากคุณ : osora - [ 9 มี.ค. 52 21:28:14 ]

ความคิดเห็นที่ 24 เข้าไปทักทายและแนะนำตัวพูดคุยกับอุ๊ยตา อดีตแกเคยเดินเท้าเข้าไปในพม่าเพื่อค้าวัว และเส้นทางเดินที่เราได้ข้อมูลจากอุ๊ยตาสามารถยืนยันได้ว่าสามารถเดินได้จริง แกบอกว่าใช้เวลาเดิน 4 วัน จากดอยลางไปเมืองสาด(พม่า) โดยคืนแรกนอนที่ห้วยหก(พม่า) คืนที่สองนอนที่ห้วยลึก คืนที่สามนอนที่บ้านหัวยอด และวันที่ 4 ก็ถึงเมืองสาด จากเมืองสาดสามารถเดินลัดเข้าท่าศาลาได้ง่าย เพราะพื้นที่เป็นที่ราบกว้างใหญ่มาก จากคุณ : osora - [ 9 มี.ค. 52 21:29:07 ]

ความคิดเห็นที่ 25 และถ้าเลาะลำน้ำกกขึ้นไปจะเข้าเมืองยอน เมืองสาด ไปถึงเมืองกกซึ่งเป็นต้นน้ำของลำน้ำกกในพม่า เราถามแกว่าถ้าจากฝางไปเมืองหางจะไปได้หรือไม่ แกบอกว่าได้โดยใช้เส้นทางดอยสันจุ๊ แต่จะให้ได้รายละเอียดมากกว่านี้ต้องไปถามคนชื่อ พ่อน้อย ปัญญา ซึ่งอดีตเป็นพ่อค้าวัวต่าง เราลองสอบถามอุ๊ยตาเกี่ยวกับสงครามในยุคปี 2500 ซึ่งเกี่ยวข้องกับเพชรพระอุมาโดยตรง จากคุณ : osora - [ 9 มี.ค. 52 21:29:59 ]

ความคิดเห็นที่ 26 แกก็บอกว่ามีอยู่ประจำแต่เป็นเรื่องของชนเผ่าเช่นที่นี่(หมายถึงดอนลาง) สมัยก่อนเป็นชนเผ่าไทใหญ่ แล้วถูกพม่ารุกราน จากนั้นจีนฮ่อมายึด และมูเซอเข้ามายึดต่อ สุดท้ายมูเซอไปเข้ากับขุนส่าทำให้กลายเป็นของพม่าไปอีกครั้ง จนไทยเรามายึดคืนจนถึงปัจจุบัน (เหมือนมาเรียนประวัติศาสตร์เลยเนอะ) จากคุณ : osora - [ 9 มี.ค. 52 21:30:33 ]

ความคิดเห็นที่ 27 สักพักขอตัวกลับเพื่อไปหาพ่อน้อยปัญญา สอบถามชาวบ้านทุกที่แต่ไม่มีใครรู้จัก โทรถามคณะชาวเชียงใหม่ก็ยังมาไม่ถึง แวะบ้านผู้ใหญ่บ้านแต่ไม่อยู่ ไปงานคุณแม่เจ้าอาวาสวัดท่าตอน(นายกฯอบต.ท่าตอนก็อยู่ที่นั่น) เที่ยงกว่าแล้วตัดสินใจไปรอพรรคพวกที่จะมาสมทบที่ท่าเรือท่าตอนดีกว่า จากคุณ : osora - [ 9 มี.ค. 52 21:31:14 ]

ความคิดเห็นที่ 28 พี่เหน่ง ล่องฟ้า ฟาฬและต้นไทรมาถึงแต่ลงผิดที่ เขาไปลงอีกฝั่งของสะพาน โอจิจึงขับรถไปรับ และข้าวที่สั่งไว้ก็พร้อมเสริฟพอดี กินข้าว ทักทายกัน ส่วนใหญ่ก็รู้จักคุ้ยเคยกันดีอยู่แล้ว มีสมาชิกใหม่ก็คือ โกโก้คนเดียว อากาศตอนกลางวันค่อนข้างร้อนอบอ้าว เจ้าของร้านบอกว่าเรามาช้าไป 3-4 วัน เพราะช่วงก่อนคนไทยนั่งเรือไปงานบุญที่เมืองสาด(พม่า)โดยทางพม่าเปิดทางให้ผ่านได้ รู้สึกเสียดายอย่างมากเพราะพวกเราตั้งใจนั่งเรือสำรวจเส้นทางนี้กันพอดี จากคุณ : osora - [ 9 มี.ค. 52 21:35:46 ]

ความคิดเห็นที่ 29 นั่งเรือทวนน้ำกกไปสิ้นสุดที่เขตแดนไทยไม่สามารถเข้าไปได้ โอจิบ่นเรื่องมาช้าอดเข้าเมืองสาดตอนเขามีงานบุญ ไม่เป็นไรนั่งเรือล่องลำน้ำกกชมธรรมชาติสองฝั่งน้ำไปเรื่อยๆก่อนก็ได้ แต่เรือมาสิ้นสุดเอาบริเวณน้ำตื้นแล่นต่อไปไม่ได้ ลงไปช่วยกันเข็นเรือ กลับลำเรือเพื่อทวนน้ำกลับท่าเรือ น้ำไม่ลึกแค่ครึ่งเข่า นั่งเรือกลับท่าเรือ เป็นอันจบทริปการนั่งเรือท่องน้ำกก จากคุณ : osora - [ 9 มี.ค. 52 21:39:18 ]

ความคิดเห็นที่ 30 นั่งรถขึ้นวัดท่าตอน(อยู่บนเขา)เพราะเป้าหมายข้อมูลคือ นายกฯ อบต. ผู้ใหญ่บ้านอยู่งานคุณแม่เจ้าอาวาสแต่ไปถึงเขากำลังขึ้นเขาไปทำพิธีทางศาสนาพอดี คิดว่าคงอีกนานและเราก็มีเป้าหมายที่ต้องไปอีกหลายที่จึงรีบเดินทางต่อ เป้าหมายต่อไปคือห้องสมุดอำเภอฝาง จากคุณ : osora - [ 9 มี.ค. 52 21:40:00 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ถึงอำเภอฝางสอบถามเส้นทางจากชาวบ้านไปห้องสมุดแต่วันเสาร์เขาคงปิดหรือไม่ก็เปิดแค่ครึ่งวัน เราไปถึงก็เจอแต่ห้องสมุดเข้าไม่ได้ เดินสำรวจบริเวณรอบๆแวะเข้าไปที่ศาลฉัตรพระเจ้าฝาง-พระนางสามผิว อ่านประวัติท่านรู้สึกสนใจเพราะน่าจะเป็นยุคเดียวกับพระเอกาทศรถ และเมืองเก่าหรือวังเก่าของเจ้าเมืองฝางอดีตเคยตั้งอยู่บริเวณวัดพระบาทอุดมแห่งนี้ หลักฐานสำคัญที่หลงเหลือคือบ่อน้ำ ซึ่งมีชื่อว่า บ่อน้ำซาววา จากคุณ : osora - [ 9 มี.ค. 52 21:40:55 ]

ความคิดเห็นที่ 32 (ซาวเป็นภาษาเหนือแปลว่า 20 รวมคือ 20 วา) ตามประวัติศาสตร์เมืองฝาง ในสมัยพระเจ้าฝางอุดมสินเป็นเมืองขึ้นของพม่า ต่อมาพระเจ้าฝางต้องการกอบกู้เอกราชคืน จึงสะสมกำลังและเสบียงทั้งไม่ยอมส่งส่วย พม่าจึงยกทัพมาตีเมืองฝางแต่ตีไม่แตก จึงเปลี่ยนเป็นการล้อมเมืองฝางไว้แทนพร้อมทั้งยิงปืนใหญ่จนเกิดความระส่ำระสายภายในเมืองฝาง จากคุณ : osora - [ 9 มี.ค. 52 21:41:46 ]

ความคิดเห็นที่ 33 พม่าล้อมเมืองฝางไว้ถึง 3 ปี 6 เดือน พระเจ้าฝางอุดมสินและพระนางสามผิวมเหสี คิดว่าพระองค์คือต้นเหตุให้บ้านเมืองเดือดร้อนจึงตัดสินพระทัยกระโดดลงน้ำบ่อซาววาพร้อมพระมเหสี ซึ่งก็เป็นเวลาเดียวกับพม่าตีเมืองฝางแตก พม่าทราบถึงวีรกรรมของพระเจ้าฝาง จึงสั่งห้ามทหารทำร้ายประชาชนชาวเมืองฝางพร้อมทั้งยกทัพกลับกรุงอังวะ (ประวัติแบบย่อนะครับ) แก้ไขเมื่อ 09 มี.ค. 52 22:36:57 จากคุณ : osora - [ 9 มี.ค. 52 21:42:44 ]

ความคิดเห็นที่ 34 น่าเสียดายเจ้าอาวาสไม่อยู่เพราะแม่ชีบอกว่าท่านเจ้าอาวาสมีข้อมูลเกี่ยวกับเมืองฝาง แต่อย่างน้อยเราก็รู้ว่าเมืองฝางมีอยู่จริง มีแนวกำแพงเก่าๆ คูเมืองเดิมที่ยังพอสังเกตได้ (ต้องขอบคุณคุณ อาร์มที่แนะนำ) แวะวัดเทพอำนวย แต่วันนี้บุคคลสำคัญที่เราต้องการพบ ไปรวมกันที่วัดท่าตอนกันหมด แต่ไม่เป็นไรเพราะข้อมูลที่ได้มาก็พอจะยืนยันได้ว่ามีเส้นทางอยู่จริง และเป็นไปในทิศทางเดียวกันด้วย จากคุณ : osora - [ 9 มี.ค. 52 21:43:32 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ออกจากฝางเดินทางไปดอยอ่างขางเพราะเป็นเป้าหมายพักแรมที่นั่น แวะซื้อมื้อเย็นที่ตลาดพร้อมยาแก้เคล็ดแก้หนาว เส้นทางดอยอ่างขางหนทางค่อนข้างชันและหักโค้ง แต่ไม่เกินความสามารถของโอจิหรอก ถึงดอยอ่างขางที่กางเต้นท์ถูกยกเลิกชั่วคราว เนื่องจากไม่ใช่ช่วงท่องเที่ยวจึงไม่มีเจ้าหน้าที่ดูแล จากคุณ : osora - [ 9 มี.ค. 52 21:44:17 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ตำรวจบ้านที่ป้อมยามเอื้อเฟื้อสถานที่ข้างป้อมยามซึ่งมีที่กางเต้นท์ได้ แต่พวกเราเลือกไปกางเต้นท์หน้าการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคดอยอ่างขางแทน และเจ้าหน้าที่สถานีอนามัยดอยอ่างขางก็ยินดีให้ใช้ห้องน้ำทำให้คืนนี้ ไฟฟ้า-น้ำประปามีครบ กางเต้นท์ ปูเสื่อเตรียมมื้อเย็น บางคนก็ไปอาบน้ำ จากคุณ : osora - [ 9 มี.ค. 52 21:44:54 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ท่าทางฟาฬกับต้นไทร สะบักสะบอมน่าดู นั่งรถจาก กทม ถึงเชียงใหม่ จากเชียงใหม่ถึงท่าตอน และวนตามที่ต่างๆน่าจะหลักพันกิโลเมตรนิดๆแล้วล่ะนะ แต่หนุ่ม-สาวคุ่ นี้ไม่หวั่นครับยังคุยจ้อกันได้สบาย หลังกินข้าวเสร็จ เอาแผนที่มากางช่วยกันสรุปงานที่ได้มาถกเถียงกันเพื่อหาข้อสรุป อากาศหนาวมากทั้งๆที่เป็นหน้าร้อนจึงตกลงใจย้ายไปอัดกันในเต้นท์ ทั้งหมด 7 ชีวิต จากคุณ : osora - [ 9 มี.ค. 52 21:45:36 ]

ความคิดเห็นที่ 38 แต่การเข้ามาอยู่ในเต้นท์นั่นก็หมายความว่าได้เวลานอน ร่างกายมันเริ่มประท้วง แม้ใจจะสู้แค่ไหนก็ไม่สามารถฝืนทนความง่วงได้ คุยกันสักพักก็เต้นท์ใครเต้นท์มัน คืนนี้หนุ่มฮอดไม่อาบน้ำ ส่วนที่เหลือเขาอาบกันหมด จากคุณ : osora - [ 9 มี.ค. 52 21:46:19 ]

ความคิดเห็นที่ 39 8 มี.ค 52 ตอนเช้าอากาศหนาวมากล้างหน้าแปรงฟัน เก็บเต้นท์ กินมื้อเช้าแบบง่ายๆ ขนมปังกับกาแฟหรือนม อุปกรณ์ก็อาศัยจากบ้านพักสถานีอนามัยรวมทั้งชาร์ทแบตฯอุปกรณ์ต่างๆด้วย ต้องขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกท่านที่เอื้อเฟื้อสิ่งอำนวยความสะดวกให้กับพวกเรา จากคุณ : osora - [ 9 มี.ค. 52 21:47:40 ]

ความคิดเห็นที่ 40 เดินสำรวจหมู่บ้านโครงการดอยอ่างขาง(บ้านคุ้ม)เป็นชาวจีนฮ่อกันส่วนใหญ่แต่ก็พูดภาษาเหนือได้ ไปบ้านผู้ใหญ่บ้านแต่ไม่อยู่ แวะคุยกับผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน แวะถามตำรวจที่ป้อมยาม เขาแนะนำไปค่ายทหารนอแล แต่เหมือนโชคเข้าข้างพวกเรา พี่ดอกเหมยเจ้าของร้านดอกเหมยกลับเป็นผู้ให้ข้อมูลเราได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว จากคุณ : osora - [ 9 มี.ค. 52 21:48:20 ]

ความคิดเห็นที่ 41 โดยแกเป็นคนพื้นเพเดิมที่นี่ทำให้รู้จักเส้นทางเดินเท้าสมัยก่อนเป็นอย่างดี   และสรุปได้ดังนี้ เส้นทางจากอ่างขางไปอำเภอฝาง มีสองเส้นทางในอดีต คือ 1.เดินจากบ้านคุ้ม(อ่างขาง) ถึงขอบด้ง ถึงสวนชา ถึงม่อนปิ่น แล้วจึงเข้าฝาง (ใช้เวลา 1 วันเดินทาง) 2.เดินจากบ้านคุ้ม ไปทางป่าคา เข้า ม่อนปิ่น ถึง ฝาง จากคุณ : osora - [ 9 มี.ค. 52 21:50:29 ]

ความคิดเห็นที่ 42 เส้นทางจากอ่างขางไปหนองอุก(อรุโณทัย) ออกจากอ่างขาง ผ่านบ้านหลวง ผ่านฉุ่ยถัง ผ่านผาแดง ผ่านถ้ำงอบ ผ่านสินชัย ถึงอรุโณทัย ซึ่งเส้นทางเหล่านี้ปัจจุบันก็ยังใช้งานกันอยู่ (เป็นทางหลวงแผ่นดิน) จากคุณ : osora - [ 9 มี.ค. 52 21:51:05 ]

ความคิดเห็นที่ 43 นอกจากนี้พี่ดอกเหมยยังเคยเดินทางจากอ่างขางข้ามเขา 2 ลูกไปฝั่งพม่า โดยจุดสำคัญที่ทั้งพี่ดอกเหมยและอุ๊ยตาแห่งดอยลางบอกตรงกันคือ ผ่านดอยมะหินกองหรือก้อนหินกอง จะอยู่กึ่งกลางชายแดนไทย-พม่า จากนั้นเดินลงเขา ถึงโป่งป่าแขม เมืองหาง เมืองต่วน เมืองสาด ซึ่งตัวพี่ดอกเหมยเดินเท้าจากอ่างขางถึงโป่งป่าแขมแล้วขึ้นรถไปเมืองสาด จากคุณ : osora - [ 9 มี.ค. 52 21:51:44 ]

ความคิดเห็นที่ 44 และจากคำบอกเล่าของพี่ดอกเหมยบอกว่าที่เมืองหางมีเจดีย์พระนเรศวรฯ ที่เมืองต่วนมีค่ายทหารไทย และที่เมืองสาดมีเจดีย์ของบุเรงนอง แต่จะค้านกับอุ๊ยตาที่บอกว่าเคยไปอยู่เมืองหาง 2 เดือน และเจดีย์พระนเรศวรฯจะอยู่ที่บ้านฮ่างหลวง(ใกล้เมืองหาง)มีน้ำแม่แกนไหลผ่าน จากคุณ : osora - [ 9 มี.ค. 52 21:52:28 ]

ความคิดเห็นที่ 45 จุดที่ตั้งใจจะไปต่อคือค่ายนอแลแต่โอจิขับรถมาคนละทางจึงตัดสินใจมุ่งหน้าไปอรุโณทัยเลยดีกว่า และเส้นทางจากคำบอกเล่าของตำรวจบ้านที่อ่างขางก็เป็นจริงที่ว่าทางเดิน จากอ่างขางไปอรุโณทัยต้องเดินบนสันเขาหาน้ำดื่มยากมาก   ปัจจุบันเส้นทางตอนนี้เป็นการขับรถบนสันเขา มองไปทั้งด้านซ้ายและขวาคือเหวลึก และมีเทือกเขาสูงทอดตัวยาวขนานเป็นเพื่อนของพวกเราไปตลอดเส้นทาง พวกเราพยายามแวะถ่ายภาพที่ราบระหว่างเทือกเขา 2 เทือกนี้ให้ได้มากที่ สุดทุกระยะเท่าที่จะทำได้ จากคุณ : osora - [ 9 มี.ค. 52 21:53:48 ]

ความคิดเห็นที่ 46 จุดแรกที่แวะถ่ายภาพคือจุดชมวิวฐานปฏิบัติการซุยถัง จุดที่สองคือจุดชมวิวผาแดง จะเห็นได้ว่าที่ราบนี้มีต่อเนื่องกันตลอดเส้นทางเลยทีเดียว เราขับผ่านโรงเตี๊ยมถ้ำงอบ ผ่านบ้านสันติวนาจนมาถึงบ้านสินชัยเป็นเส้นทาง ที่มาบรรจบกับ 3 แยกที่มาวันแรกซึ่งเราเลี้ยวซ้ายเข้าไชยปราการ และสามารถสรุปจากคำบอกเล่าได้เลยว่าเป็นจริง เพราะแยกสินชัยแห่งนี้จะ เป็นจุดแยกไป อรุโณทัยได้ แยกไปอ่างขางได้ และแยกไปไชยปราการได้ด้วย จากคุณ : osora - [ 9 มี.ค. 52 21:54:47 ]

ความคิดเห็นที่ 47 และที่แยกสินชัยนี่เองเราสอบถามข้อมูลจากทหารคือ สิบเอกอภิชาติ ปานมี ซึ่งประจำจุดตรวจบอกว่าเสียดายที่เราผ่านค่ายนอแลมาเพราะที่นั่นติดพม่า ชนิดยืนคุยกันได้และมีศาลพระนเรศวรหันพระพักตร์ไปทางพม่า ชาวบ้านเชื่อกันว่าพระองค์ท่านยกทัพไปตีเมืองพม่าถึงเมืองยอนมาแล้ว จากคุณ : osora - [ 9 มี.ค. 52 21:55:33 ]

ความคิดเห็นที่ 48 โอจิกับผมอยากไปค่ายนอแลมากแต่เวลามีน้อยจึงตัดใจไปอรุโณทัยต่อ แวะกินบะหมี่เกี๊ยวที่นั่นสักพักไปฐานปฏิบัติการกิ่วผาวอก ขอขอบคุณจ่าสิบเอกเหรียญ ก๋าเขียว ที่อำนวยความสะดวกให้พวกเราทุกอย่าง ทั้งแผนที่และข้อมูลต่างๆเช่น ระยะทาง จากคุณ : osora - [ 9 มี.ค. 52 21:56:22 ]

ความคิดเห็นที่ 49 จากกิ่วผาวอกไปเมืองหาง 49 กม. จากกิ่วผาวอกไปเมืองต่วน 103 กม. จากเมืองต่วนไปท่าศาลา 50 กม. จากคุณ : osora - [ 9 มี.ค. 52 21:57:02 ]

ความคิดเห็นที่ 50 และทหารยังพาพวกเราขึ้นเขาไปยืนดูค่ายพม่าที่อยู่ห่างแค่ปลายนิ้ว ซึ่งบริเวณแห่งนี่อดีตเป็นด่านสำคัญในการค้าขายระหว่างสองประเทศปัจจุบันปิดตัวลงไปแล้ว เมื่อมองจากที่สูงลงมาจะเห็นว่าบริเวณแถบนี้เป็นที่ราบกว้างใหญ่มาก และเมื่อเดินขึ้นเหนือไปเรื่อยๆ(เข้าพม่า)จะเป็นที่ราบไปตลอดทางเลยทีเดียว จากคุณ : osora - [ 9 มี.ค. 52 21:57:33 ]

ความคิดเห็นที่ 51 ไม่หนำใจหลังลงจากเขาก็ไปดูด่านกิ่วผาวอกชนิดชิดขอบรั้วเลยทีเดียว จากนั้นเดินทางต่อไปเมืองนะ เพราะนัดลุงแหลงปุกรู เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติผาแดง(เมืองนะ)ที่นั่น แต่เสียดายลุงแหลงฯไม่อยู่จึงเดินทางต่อไปบ้านแกน้อย  โดยเส้นทางบ้านแม่เกี๋ยง หนทางเป็นลูกรังบางช่วงแต่ทางส่วนใหญ่ชำรุดเป็นหลุมและบ่อ จากคุณ : osora - [ 9 มี.ค. 52 21:58:10 ]

ความคิดเห็นที่ 52 ถึงบ้านแกน้อยหรือบ้านลา ฮู ป่าบงใหม่ สอบถามผู้ใหญ่บ้านแต่ท่านไม่มีข้อมูลอะไร จึงแวะไปบ้านลา ฮู ป่าบงเก่าซึ่งอยู่ใกล้ๆกัน เดินถ่ายรูปทุ่งนาเพราะที่นี่เป็นที่ราบ สอบถามชาวบ้านซึ่งเป็นมูเซอ ตอนแรกเขาไม่ยอมตอบคำถามและไม่ยอมพูดไทยหรือภาษาเหนือ ต้องหว่านล้อมให้เขาไม่แคลงใจเราก่อนจึงเริ่มได้คำตอบ จากคุณ : osora - [ 9 มี.ค. 52 21:58:55 ]

ความคิดเห็นที่ 53 โดยคุณนพดล แสดือ ครูสอนศาสนาคริสเตียน นิกายโปเตสแตนท์ ได้ให้ข้อมูลแก่เราว่า เส้นทางเดินเท้าจาก นาแกไปเวียงแหงมีสองเส้นทางคือ 1.ข้ามดอยแม่ย่ากูด เข้าแม่แพ ถึงเวียงแหง 2.เดินที่ราบผ่านหมู่บ้านไทยใหญ่ ม.2 ต.เมืองนะ ถึงหมู่บ้านไชยา ม.9 ผ่าน บ้านห้วยถ้ำ ม.2 ผ่านดอยมุง ถึงแม่น้ำแตง ผ่านบ้านห้วยไคร้ ต.เปียงหลวง ผ่านบ้านม่วงเครือ ต.เปียงหลวง ผ่านบ้านจอง ถึงม่วงป็อก(แสนไห) แก้ไขเมื่อ 09 มี.ค. 52 22:43:48 จากคุณ : osora - [ 9 มี.ค. 52 22:02:26 ]

ความคิดเห็นที่ 54 จุดหมายต่อไปที่เราต้องแวะคือ ฐานปฏิบัติการบ้านแกน้อย สเก็ตและถ่ายภาพแผนที่ จากที่นั่น ขอบคุณ ร.ต พิสิษฐ์ สันวงค์เป็นอย่างสูงที่อำนวยความสะดวกให้พวกเรา ท่านบอกว่าที่บ้านห้วยหกมีอนุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรอยู่ที่นั่นด้วย แต่ที่กิ่วผาวอกบอกมาว่าที่วัดห้วยหกมีพระมาลา(หมวก) สมเด็จพระนเรศวร เสียดายไม่ได้แวะเพราะค่ำเสียก่อน จากคุณ : osora - [ 9 มี.ค. 52 22:03:10 ]

ความคิดเห็นที่ 55 เดินทางไปบ้านจองเส้นทางเป็นลูกรังผสมกรวดล้วนๆโก้กับล่องฟ้านั่งกะบะหลังรับไปเต็มๆ เจ้าฟาฬเหมือนรู้ล่วงหน้าแลกที่กับล่องฟ้ามานั่งหน้าแทนจึงรอดตัวไปไม่งั้นหัวแดงกลับกรุงเทพฯแน่ๆ ระหว่างทางชาวเขาขอโดยสารไปลงบ้านห้วยไคร้ด้วย เขาโบกรถให้เราจอด แล้วขนของขึ้นรถเฉยเลยไม่สนด้วยซ้ำว่าเราจะรับหรือไม่ แต่เราก็เต็มใจมาส่งอยู่แล้ว เพราะทางเส้นนี้หารถผ่านยากพอสมควร จากคุณ : osora - [ 9 มี.ค. 52 22:03:54 ]

ความคิดเห็นที่ 56 ระหว่างทางพบห้วยแม่แตงและน่าจะเป็นต้นน้ำแม่แตงด้วยจอดรถลงไปถ่ายรูปแล้วเดินทางต่อ   เส้นทางสิ้นสุดจากดินลูกรังมาเป็นทางลาดยางที่บ้านห้วยไคร้ชาวเขามาลงที่นั่น ถึงแยกห้วยไคร้เดิมตั้งใจไปช่องทางหลักแต่งแต่เวลามีน้อย มุ่งสู่พระบรมธาตุแสนไห และบ่อน้ำช้างศึก จากนั้นมุ่งสู่ตัว อ.เชียงดาวทันที จากคุณ : osora - [ 9 มี.ค. 52 22:04:37 ]

ความคิดเห็นที่ 57 หนทางพอๆกับขึ้นดอยอ่างขางแต่โค้งหักศอกมีมากกว่า 6 โมงเย็นยังไม่ถึงเชียงดาวเลย พี่บิ๊กซึ่งนัดพบกันที่บ้านจองก็กลับเชียงใหม่ก่อน แต่มาทันกันที่เมืองงาย และไปพบกันอีกครั้งที่สถานีขนส่งอาเขตเชียงใหม่ ฟาฬกับต้นไทรเดินทางเที่ยว 3 ทุ่มครึ่ง แวะกินข้าวมื้อเย็น โอนถ่ายข้อมูลลงโน๊ตบุ๊คของโอจิ จนได้เวลาจากร่ำลาและแยกทางกลับบ้าน ผมถึงลำปาง 4 ทุ่มกว่าเกือบห้าทุ่มอาบน้ำแล้วสลบไปเลย แก้ไขเมื่อ 09 มี.ค. 52 22:14:10 จากคุณ : osora - [ 9 มี.ค. 52 22:05:56 ]

ความคิดเห็นที่ 58 หมดยังค่ะนิ   มาปาด จ้า.......... อย่างยาวเลยเนี๊ยะ  จะอ่านซะให้เกลี้ยง จากคุณ : naragorn - [ 9 มี.ค. 52 22:30:53 ]

ความคิดเห็นที่ 59 - -"  กว่าจะอ่านจบ เยี่ยมมากครับ +100 คะแนน จากคุณ : หนุ่มเหน่อ - [ 10 มี.ค. 52 09:04:15 ]

ความคิดเห็นที่ 60 ลองส่งรูปดูนะครับ อันนี้ รูปเตาเผาอินทขิล ที่ว่าหรูมากๆ จากคุณ : gogo777 - [ 10 มี.ค. 52 09:34:09 ]

ความคิดเห็นที่ 61 ปาดไม่เคยทันเรยย >_< มีสิบมือเปนทศกัณฑ์ หรือไงนิ ^O^ จากคุณ : ปิ่นพระศิวะ - [ 10 มี.ค. 52 09:36:17 ]

ความคิดเห็นที่ 62 ลองดูบรรยากาศ ภายในครับผม เห็นไกล ๆ นึกว่าเป็นรีสอท เลย 555 โดยที่เตาเผา จะมีอยู่ 3-4 เตา ตั้งอยู่ภายในครับ แก้ไขเมื่อ 10 มี.ค. 52 09:39:55 จากคุณ : gogo777 - [ 10 มี.ค. 52 09:39:16 ]

ความคิดเห็นที่ 63 คือที่เขาขุดพบนี่ เขาจะเจาะพื้นดินลงไปประมาณ 1-2 เมตร ครับ  มีขนาดเล็ก ใหญ่ ต่างกันไป จากคุณ : gogo777 - [ 10 มี.ค. 52 09:45:30 ]

ความคิดเห็นที่ 64 ส่วนภาพนี้เป็นบรรยากาศ แถว ๆ ดอยเชียงดาวครับ อย่านึกว่าหนาวนะครับ นั่นควันล้วน ๆ  ถ่ายให้คนที่จะไปเที่ยว ทริปหน้า ครับผม ทัศนวิสัย มันแย่ขนาดไหน จริง ๆ ระหว่างทางไปกลับ นี่ก็จะเห็นไฟไหม้ ป่า อยู่ ประปรายเลยครับ อยู่ที่สูงมองลงมาได้ไม่ไกลเลย จากคุณ : gogo777 - [ 10 มี.ค. 52 09:50:18 ]

ความคิดเห็นที่ 65 เตาเผานี้ อยู่บ้านสันป่าตองครับ อยู่ใน ต.อินทขิล แถวนี้เคยเป็นชุมชน เก่าครับ มีการค้นพบเตา อยู่ 2 ที่ คือที่นี่ กับ บริเวณสวนลำไยของเอกชน ขึ้นไปทางเหนืออีก 1 กิโลเมตร ห่างจากที่นี่ลงไปทางใต้ประมาณ 500 เมตร จะมีซากเจดีย์ร้างที่เหลือแต่ฐานกลางทุ่งนาครับ รู้สึกเมืองเก่านี้จะชื่อ เมืองแกน นี่เลยครับ เด๋วกลับฝาง เมษานี้จะเอามาให้ดูครับ แต่ไม่รู้จะมี เหลืออยู่มั้ย เพราะส่วนมากชาวบ้านบุกรุก ไปมากมาย ทำไมผมรู้ดี ก็ผมเคยอยู่ที่นี่ก่อนย้ายมาลำปาง 555 บ้านสันป่าตอง จากคุณ : SayHello - [ 10 มี.ค. 52 09:52:22 ]

ความคิดเห็นที่ 66 ขยันอย่างแรงเลย จขกท จากคุณ : jittra - [ 10 มี.ค. 52 09:52:49 ]

ความคิดเห็นที่ 67 เออ รูปใหญ่ไปปะครับ พอดีถ่ายมานี่กะเอาไว้เป็น wallpaper หน่ะครับผม ชอบไม่ชอบไงก็บอกนะครับ จะได้ลดขนาดให้ สงสัยของพี่โอจิ นี่เปิดไม่ได้แหง ๆ อิอิ วันแรกที่ไปกัน 3 คนนี่ ไม่มีใครชอบขึ้นกล้องเลย ครับ ก็เลยมีแต่รูปสถานที่ล้วน ๆ จากคุณ : gogo777 - [ 10 มี.ค. 52 09:55:58 ]

ความคิดเห็นที่ 68 เล่าแล้ว รอดูรูปต่อ จากคุณ : นานเท่าไหร่ก็จะรอ - [ 10 มี.ค. 52 09:59:54 ]

ความคิดเห็นที่ 69 สวัสดีครับคุณ หนุ่มเหน่อและคุณปิ่นพระศิวะ เสียดายไม่ได้ไปด้วยกัน เอ่อ..คุณโก้ผมหลังไมค์ไปหาแล้วนะ รบกวนส่งรูปให้ผมด้วยสิ สักพักผมจะทยอยโพสรูปมาให้เพื่อนๆชมนะครับ จากคุณ : osora - [ 10 มี.ค. 52 10:00:42 ]

ความคิดเห็นที่ 70 หวัดดีคุณอาร์ม และคุณเอ ขอบคุณสำหรับคำชมครับคุณ jittra งานนี้เร่งสุดชีวิตเลยครับ โอจิ บังคับมา 555 เสียดายถ้าอาร์มไปด้วยข้อมูลคงได้มากกว่านี้ ว่าแต่เรื่องทริปต่อไปนี่เอาไงต่อดีครับ จากคุณ : osora - [ 10 มี.ค. 52 10:05:06 ]

ความคิดเห็นที่ 71 รูปนี้มาอยุ่ที่ ถ้ำเชียงดาวแล้วครับ  ภาพนี้เป็นบรรยากาศภายนอก ส่วนภายในถ้ำน่าจะมีของ พี่ osora ครับ ตัวถ้ำจริงๆ เขาบอกว่ายาวมากครับ แต่ที่เราไป ได้ และเขามีไฟฟ้าให้เดินภายในถ้ำนี่ก็ไม่น่าเกิน 2-3 กิโลครับ พูดถึงถ้ำนี่ พี่โอจิก็บอกมาว่า ที่แถว ๆ บ้านพี่เขา มีถ้ำหลงสำรวจอยู่ด้วยครับ ยังไม่มีใครเคยเข้าจนสุดถ้ำเลยว่างั้น พี่แกชวนไปเดินดูด้วยกันอยู่ มีใครสนใจบ้างเอ่ย จากคุณ : gogo777 - [ 10 มี.ค. 52 10:08:44 ]

ความคิดเห็นที่ 72 แววนักโบราญคดีเริ่มออก (ที่แหล่งเตาอินทขิลเมืองแกน) จากคุณ : osora - [ 10 มี.ค. 52 10:11:33 ]

ความคิดเห็นที่ 73 เล่าเรื่องได้สนุก เหมือนเดิมนะคะ...เหมือนไปเที่ยวด้วยเลยค่ะ จากคุณ : wynterblue - [ 10 มี.ค. 52 10:15:01 ]

ความคิดเห็นที่ 74 เอาไว้ตอนค่ำๆ นะพี่ เดี๋ยวต้องไปทำงานหล่ะ เลิกงานมาส่งให้ หรือถ้าทำที่ ที่ทำงานได้ก็จะทยอยส่งไปครับ จากคุณ : gogo777 - [ 10 มี.ค. 52 10:15:23 ]

ความคิดเห็นที่ 75 ขอบคุณมากครับโก้ และภาพนี้คือรีสอร์ท เอ๊ย! แหล่งเตาอินทขิลเมืองแกน สวยไหมครับ จากคุณ : osora - [ 10 มี.ค. 52 10:22:36 ]

ความคิดเห็นที่ 76 ต้องฉึกฉาๆ สักวันป๋มจะเป็นนักโบราณคดีให้ได้ จากคุณ : osora - [ 10 มี.ค. 52 10:24:22 ]

ความคิดเห็นที่ 77 เอ่อ..ที่ดูนี่เขาดูเตาเผาโบราณกันนะครับ มิใช่ดูตะเข้ตะโขงตามสวนสัตว์แต่อย่างใด จากคุณ : osora - [ 10 มี.ค. 52 10:26:49 ]

ความคิดเห็นที่ 78 เจดีย์ที่หน้าวัดถ้ำเชียงดาวครับ จากคุณ : osora - [ 10 มี.ค. 52 10:31:08 ]

ความคิดเห็นที่ 79 นายแบบก่อนเข้าเที่ยวชมถ้ำเชียงดาว จากคุณ : osora - [ 10 มี.ค. 52 10:32:00 ]

ความคิดเห็นที่ 80 ในนี้มีพระพุทธรูปเยอะเลยครับ จากคุณ : osora - [ 10 มี.ค. 52 10:35:13 ]

ความคิดเห็นที่ 81 โก้.. เอ็งเห็นเหมือนพี่เห็นหรือเปล่าว๊ะ จากคุณ : osora - [ 10 มี.ค. 52 10:36:28 ]

ความคิดเห็นที่ 82 เล่าได้สนุกสนานน่าติดตามมากเลยครับ จากคุณ : solidsnakexxx - [ 10 มี.ค. 52 10:39:29 ]

ความคิดเห็นที่ 83 มองให้ดี จะเห็นว่าที่นี่คือที่ฝึกวิชาผ่ามือยูไลขั้นสูง ผู้สำเร็จวิชาแล้วเท่านั้นจึงจะมีรอยฝ่ามือปรากฎให้เห็น (ว่าไปนั่น  - _ - ") แก้ไขเมื่อ 10 มี.ค. 52 10:40:32 จากคุณ : osora - [ 10 มี.ค. 52 10:39:57 ]

ความคิดเห็นที่ 84 ขอบคุณสำหรับคำชมครับ คุณ olidsnakexxx ผมว่าลูกหาบคู่นี้อึดที่สุดในโลกแน่นอน จากคุณ : osora - [ 10 มี.ค. 52 10:46:07 ]

ความคิดเห็นที่ 85 โอจิ กับ ประตูวัดถ้ำเชียงดาว จากคุณ : osora - [ 10 มี.ค. 52 10:47:35 ]

ความคิดเห็นที่ 86 มารอค่า ยังไม่หมดใช่มะ ต่อๆ จากคุณ : patoommat - [ 10 มี.ค. 52 10:47:41 ]

ความคิดเห็นที่ 87 หวัดดีคร้าบ..พีทุม ยังมีอีกเยอะเลยครับ ทริปนี้มีไฟฟ้าให้ชาร์ตแบตฯได้ตลอด ผมจะคัดเอาที่น่าสนใจมาให้ชมกันครับ ภาพนี้ผมชอบมากมุมสวยดี ภาพเจดีย์หน้าวัดถ้ำเชียงดาวครับ จากคุณ : osora - [ 10 มี.ค. 52 10:50:26 ]

ความคิดเห็นที่ 88 ว่าน พญานาคราช คือ ไอ้ที่เป็นก้านยาวๆออกดำๆ นะครับ อันล่างสีครีมๆไม่ใช่ จากคุณ : osora - [ 10 มี.ค. 52 10:52:09 ]

ความคิดเห็นที่ 89 ส่วนนี่ว่านรางจืด เห็นแม่ค้าบอกว่า รางจืดมี 2 ชนิด อีกแบบเป็นเถา ตัดเป็นท่อนๆ แต่ที่เห็นนี่เป็นแบบ มีเหง้าครับเหมือนข่า ไม่รู้แม่ค้ามั่วหรือเปล่า ผมเองไม่มีความรู้ด้านนี้ครับ ท่านใดที่ชำนาญโปรดชี้แนะด้วยครับ จากคุณ : osora - [ 10 มี.ค. 52 10:56:09 ]

ความคิดเห็นที่ 90 นี่ว่านพระเจ้าห้าพระองค์ครับ จากคุณ : osora - [ 10 มี.ค. 52 10:57:15 ]

ความคิดเห็นที่ 91 ว่านพระเจ้าห้าพระองค์ แบบชัดๆ จากคุณ : osora - [ 10 มี.ค. 52 10:58:09 ]

ความคิดเห็นที่ 92 พระสถูปเจดีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราชานุสรณ์ ที่ตำบลเมืองงายครับ จากคุณ : osora - [ 10 มี.ค. 52 11:01:09 ]

ความคิดเห็นที่ 93 ภาพปูนปั้นนูนที่พระสถูปฯ จากคุณ : osora - [ 10 มี.ค. 52 11:02:43 ]

ความคิดเห็นที่ 94 ภาพปูนปั้นนูน ประวัติศาสตร์ ยุทธหัตถี และพระแสงดาบคาบ จากคุณ : osora - [ 10 มี.ค. 52 11:05:05 ]

ความคิดเห็นที่ 95 รูปปั้นพระนเรศวรฯ จากคุณ : osora - [ 10 มี.ค. 52 11:06:42 ]

ความคิดเห็นที่ 96 กราบไหว้ เป็นสิริมงคล จากคุณ : osora - [ 10 มี.ค. 52 11:08:16 ]

ความคิดเห็นที่ 97 ประกาศอิสระภาพ จากคุณ : osora - [ 10 มี.ค. 52 11:09:04 ]

ความคิดเห็นที่ 98 พระองค์คือนักรบผู้ยิ่งใหญ่ จากคุณ : osora - [ 10 มี.ค. 52 11:10:21 ]

ความคิดเห็นที่ 99 ข้าปวงชาวไทยจักมิลืมเลือน จากคุณ : osora - [ 10 มี.ค. 52 11:12:25 ]

ความคิดเห็นที่ 100 บริเวณค่ายหลวงฯแบบจำลอง จากคุณ : osora - [ 10 มี.ค. 52 11:20:31 ]

ความคิดเห็นที่ 101 ประวัติของค่ายหลวงฯ จากคุณ : osora - [ 10 มี.ค. 52 11:21:10 ]

ความคิดเห็นที่ 102 ประตูทางเข้าค่ายหลวงฯ จากคุณ : osora - [ 10 มี.ค. 52 11:22:03 ]

ความคิดเห็นที่ 103 รางจืดแบบเป็นหัวนี่แหละครับ ที่เค้าฝานเป็นชิ้นบางๆ อมไว้ใต้ลิ้น ......       ไว้แก้เบื่อเมาครับ   แต่อมไว้ใต้ลิ้นแล้วทานเหล้า  ก็ว่าไม่เมากันครับ   ^___^ จากคุณ : ฟาฬ - [ 10 มี.ค. 52 11:24:24 ]

ความคิดเห็นที่ 104 วัดพระธาตุม่อนจิ่ง ศิลปแบบพม่า จากคุณ : osora - [ 10 มี.ค. 52 11:25:22 ]

ความคิดเห็นที่ 105 ขอบคุณมากครับ คุณฟาฬ น่าจะลองซื้อให้โอจิทดลองนะ 555 วิวที่มองลงมาจากวัดพระธาตุดอยจิ่ง ข้างล่างเป็นที่ราบกว้างพอสมควร เสียดายควันไฟเยอะมากภาพจึงมัวๆไปหน่อย แก้ไขเมื่อ 10 มี.ค. 52 11:34:01 จากคุณ : osora - [ 10 มี.ค. 52 11:29:50 ]

ความคิดเห็นที่ 106 ... เสียดายมากมายเลย  อยู่ใกล้แค่นี้ยังไม่ได้ไปกะเค้าอีก ... เลยต้องมาตามอ่าน ตามเก็บรายละเอียดเอาแถวเนี้ยะ จากคุณ : SIMAKHA - [ 10 มี.ค. 52 11:29:55 ]

ความคิดเห็นที่ 107 จุดนี้แหละครับที่พวกเรามัวแต่ถ่ายรูปแล้วไม่สังเกตให้ดีว่า ทางเข้าอุทยานแห่งชาติผาแดงจริงๆแล้วอยู่ข้างหลังเรานั่นเอง สังเกตุสิครับครับโลโก้ตัวหนังสือคุ้นไหมเอ่ย... แก้ไขเมื่อ 10 มี.ค. 52 11:40:46 จากคุณ : osora - [ 10 มี.ค. 52 11:37:09 ]

ความคิดเห็นที่ 108 หวัดดีจ้าน้องสิมา คราวหน้าก็ทำตัวให้ว่างสิ ที่นี่แหละครับที่เราหลงทางแบบน่าเขกกะโหลก จากคุณ : osora - [ 10 มี.ค. 52 11:39:40 ]

ความคิดเห็นที่ 109 คราวนี้เริ่มเป็นการเป็นงานแล้วล่ะ เจ้าหน้าที่อุทยานฯให้ความร่วมมือด้านข้อมูลกับเราอย่างดีเลยครับ จากคุณ : osora - [ 10 มี.ค. 52 11:42:15 ]

ความคิดเห็นที่ 110 หลังจากได้ข้อมูลเสร็จรีบเดินทางไปบ้านหนองอุกหรืออรุโณทัยทันที ไหว้ศาลพระนเรศวรที่อรุโณทัย ซึ่งแกะสลักด้วยไม้สักครับ จากคุณ : osora - [ 10 มี.ค. 52 11:45:17 ]

ความคิดเห็นที่ 111 แล้วรีบเดินทางไปอำเภอไชยปราการต่อทันที วิวสวยไหมครับ จากคุณ : osora - [ 10 มี.ค. 52 11:46:56 ]

ความคิดเห็นที่ 112 ดอกเสี้ยวสีขาวบานเต็มต้น จากคุณ : osora - [ 10 มี.ค. 52 11:47:52 ]

ความคิดเห็นที่ 113 สวยจน นายโอของเราต้องลงไปโพสท่าประกบธรรมชาติ จากคุณ : osora - [ 10 มี.ค. 52 11:49:05 ]

ความคิดเห็นที่ 114 แวะที่ภูแสนดาว จากคุณ : osora - [ 10 มี.ค. 52 11:50:07 ]

ความคิดเห็นที่ 115 เห็นจุดกางเต้นท์ ตั้งใจจะพักกันที่นี่ แก้ไขเมื่อ 11 มี.ค. 52 09:25:50 จากคุณ : osora - [ 10 มี.ค. 52 11:51:10 ]

ความคิดเห็นที่ 116 เขาไม่ให้พักจึงเดินคอตกกลับไป จากคุณ : osora - [ 10 มี.ค. 52 11:58:18 ]

ความคิดเห็นที่ 117 ตูพักโรงแรมก็ได้ฟ๊ะ สบายกว่ากันเยอะ จากคุณ : osora - [ 10 มี.ค. 52 11:59:19 ]

ความคิดเห็นที่ 118 เช้าวันใหม่ ระหว่างทางขึ้นไปดอยกิ่วฮุงจะมีศาลพระนเรศวรฯ จากคุณ : osora - [ 10 มี.ค. 52 12:00:55 ]

ความคิดเห็นที่ 119 ไหว้ขอพร จากคุณ : osora - [ 10 มี.ค. 52 12:01:35 ]

ความคิดเห็นที่ 120 ถึงแล้วครับจุดตรวจการณ์ดอยกิ่วฮุง จากคุณ : osora - [ 10 มี.ค. 52 12:03:09 ]

ความคิดเห็นที่ 121 ตามพลทหารโอจิไปเลยครับ จากคุณ : osora - [ 10 มี.ค. 52 12:04:13 ]

ความคิดเห็นที่ 122 เหนื่อยๆๆๆๆ ดูยังเหนื่อย สุดยอดเลยทุกคน จากคุณ : jittra - [ 10 มี.ค. 52 12:10:44 ]

ความคิดเห็นที่ 123 มารอดูรูปด้วยคนค่ะ กินข้าวด้วยนะค่ะ เดี๋ยวไม่แรงโพสรูป.. จากคุณ : มะลิป่า (Mali_Pa1) - [ 10 มี.ค. 52 12:14:47 ]

ความคิดเห็นที่ 124 ยืนตรงนั้นระวังเขายิงสวนมาจะหาว่าไม่เตือนนะ จากคุณ : osora - [ 10 มี.ค. 52 12:15:10 ]

ความคิดเห็นที่ 125 ขอบคุณคุณมะลิป่าครับ ทานเรียบร้อยแล้วมาโพสต่อครับ(วันนี้ว่าง) มาดูมาดเสนาธิการใหญ่โอจิ จากคุณ : osora - [ 10 มี.ค. 52 12:16:54 ]

ความคิดเห็นที่ 126 เอ..ตูจะไปทางไหนต่อดีหว่า.....(เริ่มเบลอ) จากคุณ : osora - [ 10 มี.ค. 52 12:18:08 ]

ความคิดเห็นที่ 127 ลงมาบ้านท่าตอนมารอคณะ กรุงเทพฯ+เชียงใหม่ที่ท่าเรือ จากคุณ : osora - [ 10 มี.ค. 52 12:20:50 ]

ความคิดเห็นที่ 128 มาถึงแล้ว... จากคุณ : osora - [ 10 มี.ค. 52 12:21:34 ]

ความคิดเห็นที่ 129 นำมาโดยพี่เอื้องสามปอย จากคุณ : osora - [ 10 มี.ค. 52 12:22:21 ]

ความคิดเห็นที่ 130 มาถึงแล้วก็กิน กิน และกิน(มื้อเที่ยง) จากคุณ : osora - [ 10 มี.ค. 52 12:24:33 ]

ความคิดเห็นที่ 131 อิ่มแล้วมานั่งย่อยอาหารที่ท่าเรือ จากคุณ : osora - [ 10 มี.ค. 52 12:26:09 ]

ความคิดเห็นที่ 132 ได้เวลานั่งเรือแล้วครับ จากคุณ : osora - [ 10 มี.ค. 52 12:27:03 ]

ความคิดเห็นที่ 133 สองสาวบอกพร้อมลุยค่ะ จากคุณ : osora - [ 10 มี.ค. 52 12:27:56 ]

ความคิดเห็นที่ 134 สภาพสองฝั่งลำน้ำกก จากคุณ : osora - [ 10 มี.ค. 52 12:33:37 ]

ความคิดเห็นที่ 135 ร้อนๆแบบนี้ล่องเรือเที่ยวก็ช่วยคลายร้อนได้เยอะเลยทีเดียว จากคุณ : osora - [ 10 มี.ค. 52 12:35:00 ]

ความคิดเห็นที่ 136 ทริป 14 นี้ล้มแล้วจ้า ไม่ไหวควันเยอะ ไปได้แต่จะสลบกลางทางก่อนนะกรต หาเรื่องไปทุ่งใหญ่นเรศวร เมษา ดีก่า จากคุณ : SayHello - [ 10 มี.ค. 52 12:35:01 ]

ความคิดเห็นที่ 137 ได้เลยครับเฮียไปไหนไปกัน แต่อย่าติดกันมากเด้อ เดี๋ยวจะเหี่ยวแห้งเสียก่อน 555 คราวนี้เรามาดูที่ราบอันกว้างใหญ่ของบ้านท่าตอนกันครับ ถ่ายลงมาจากวัดท่าตอน จากคุณ : osora - [ 10 มี.ค. 52 12:37:40 ]

ความคิดเห็นที่ 138 ช่วยๆ ทางขึ้นวัดท่าตอนครับ  ชันใช้ได้เลยมะ  หุหุ จากคุณ : ฟาฬ - [ 10 มี.ค. 52 12:41:05 ]

ความคิดเห็นที่ 139 ลำน้ำกกเมื่อมองลงมาจากที่สูง จากคุณ : osora - [ 10 มี.ค. 52 12:41:49 ]

ความคิดเห็นที่ 140 น่าจะซื้อว่านมาฝากฟองฟ้าบ้างนะ รายนั้นเขาดูแลสถานีกักสัตว์ที่รวมว่านต่างๆด้วยครับ จากคุณ : Cinephile - [ 10 มี.ค. 52 12:44:07 ]

ความคิดเห็นที่ 141 พระพุทธรูป สังเกตให้ดีนะครับ สีดำๆที่ห้อยอยู่นั่นน่ะรังผึ้งทั้งนั้น จากคุณ : osora - [ 10 มี.ค. 52 12:44:54 ]