Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com


    [Movie Review]Slumdog Millionaire : ร่องรอยชีวิต และคำตอบสุดท้ายของหัวใจ...[Spoiler Alert]

    Slumdog Millionaire :: ร่องรอยชีวิต และคำตอบสุดท้ายแห่งหัวใจ...

    โดย นักดูหนังแถว G
    +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

    จามาล มาลิก….ชายหนุ่มไร้การศึกษาจากสลัมมุมไบ กำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้ในห้องส่ง เบื้องหน้ามีเครื่องคอมพิวเตอร์ กับพิธีกรเจ้าเสน่ห์แห่งรายการ ‘เกมเศรษฐี’ พร้อมด้วยสายตาของชาวอินเดียนับล้านคนที่กำลังเฝ้ารออย่างใจจดใจจ่อกับคำตอบของเขาผ่านหน้าจอโทรทัศน์รอบเย็น…..

    ทุกคนกำลังเฝ้ารอปาฏิหารย์…..ว่าเขาจะพิชิตคำถามมูลค่า 20 ล้านรูปีได้หรือไม่….

    หมอ ทนายความ นักธุรกิจ ไม่เคยทำเงินได้เกินกว่า 16000 รูปี แล้วเด็กสลัมผู้นี้เป็นใคร ถึงสามารถไต่เต้าฝ่าด่านขึ้นมาถึงคำถามสุดท้ายที่ทุกคนใฝ่ฝันถึง?

    คุณคิดว่าจามาล มาลิกทำได้อย่างไร?....

    A .... เขาโกง
    B  .... เขาโชคดี
    C  ..... เขาเป็นโคตรอัจฉริยะ
    หรือ D ..... มันเป็นชะตาลิขิต ที่ถูกเขียนขึ้นแล้ว…….


    +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

    มันเป็นอีกหนึ่งวาระแห่งปีของแวดวงภาพยนตร์ที่จะต้องขึ้นสู่พรมแดงแห่งรางวัล Academy Award หรือเวทีออสการ์ ที่บรรดาหนังคุณภาพ และนักแสดงระดับชั้นนำจะต้องมาประชันกันเพื่อรางวัลเกียรติยศอันบ่งบอกถึงหลักไมล์แห่งความทุ่มเท และเครื่องการันตีแห่งสายงานที่ได้ลงแรงกระทำมาอย่างยาวนานตลอดรอบปี แน่นอนว่าสำหรับผม นักดูหนังแถว G ก็อดไม่ได้ที่จะขอมีส่วนร่วมชมร่วมลุ้นร่วมติดตามมหกรรมดังกล่าวในครั้งล่าสุด เพื่อชดเชยกับความเรื้อร้างห่างหายไปกับโลกแห่งเซลลูลอยด์และหนังคุณภาพเมื่อปีที่ผ่านมาเสียให้ชุ่มปอด หลายครั้งที่เดาๆ ไว้ก็แทงเข้าจังเบอร์ (เช่น พี่ฮีท เล็ดเจอร์ผู้จากไปในบทโจ๊กเกอร์กับภาพยนตร์เรื่อง The Dark Knight ก็คว้ารางวัลนักแสดงสมทบชายไปแบบ Why so Serious?) แต่ก็มีหลายเรื่องทีเดียว ที่ไม่สู้จะคุ้นเคยกันสักเท่าใดนัก


    Slumdog Millionaire…..คือหนึ่งในนั้น


    มันจึงน่าประหลาดเสียยิ่งกว่าประหลาด ที่ภาพยนตร์กลิ่นอายภารตะอินเดียภายใต้การกำกับของแดนนี บอล์ย นักสร้างหนังพลังสูงที่ผ่านผลงานสุดระห่ำอย่างการผจญภัยของนักท่องเที่ยวโซสะพายเป้ The Beach ,โลกของเหล่าจังกี้สก็อตแลนด์เหลือขอ Trainspotting,ภารกิจพระอาทิตย์เผา Sunshine หรือซอมบี้ตีนผีนรก 28 Days Later จะโลดลิ่วมาคว้ารางวัลลูกโลกทองคำถึง 4 ตัวและออสการ์อีก 8 สาขาเต็มๆ ตัดหน้า Curious Case of Benjamin Button ที่ซิวมาได้แค่ 3 จนเป็นที่กังขาไปตามๆกัน


    แน่นอน มันประหลาดเกินจะเชื่อ….
    ราวกับมันถูก ‘โชคชะตา’ กำหนดเอาไว้แต่แรกเริ่ม…..


    แต่หลังจากได้ไปสัมผัสมันด้วยสองตาของตนเอง ในเรื่องราวตลอดสองชั่วโมงกว่าๆ ผมกล้าพูดได้อย่างเต็มปากว่า นี่คือภาพยนตร์ที่ ‘บริสุทธิ์’ และ ‘งดงาม’ มากเหลือเกิน ที่จะแค่แนะนำหรือบอกว่าควรไปดูยังน้อยไป เพราะมันอยู่ในระดับที่ ‘ต้องไปดู’ ให้ได้ ไม่ว่าคุณจะเป็นนักดูหนังระดับเสพย์ติด หรือผู้ที่ชื่นชอบภาพยนตร์พอเป็นกระษัยก็ตาม


    สำหรับเรื่องราวของ Slumdog Millionaire นี้ เริ่มต้นขึ้นเมื่อจามาล มาลิก (นำแสดงโดยเทวะ ปาเตล) ชายหนุ่มอดีตเด็กสลัมแห่งเมืองมุมไบ ถูกตำรวจจับตัวมาเค้นคอสอบสวน เพราะรู้สึกไม่ชอบมาพากลที่เขาผู้ไร้ซึ่งการศึกษา รู้หนังสือเพียงอ่านออก จะสามารถพิชิตคำถามในรายการ ‘เกมเศรษฐี’ ขึ้นมาถึงมูลค่า 10 ล้านรูปีได้อย่างไร้อุปสรรคราวกับเดินบนทางราบ ว่าจะมีการเล่น ‘ตุกติก’ ต้มตุ๋นทำกันเป็นขบวนการหรือไม่ แต่แล้วเมื่อทุกคำถามสอบสวนดำเนินไป อดีตอันเต็มไปด้วยรสชาติอันหลากหลายตั้งแต่วัยเด็กของจามาลก็ค่อยๆ ถูกเผยออกมา รวมถึงเหตุผลหลักสำคัญที่เขาจะต้องมาเล่น ‘เกมเศรษฐี’ ในครั้งนี้


    อนึ่ง ในด้านงานภาพและงานสร้างของภาพยนตร์เรื่องนี้ เป็นที่แน่นอนว่าในหลายๆ ฉาก มีร่องรอยของ ‘ลายเซ็น’ อันเป็นเอกลักษณ์ของแดนนี บอล์ย ที่เจือผสมกับกลิ่นอายของความเป็นหนังอินเดียหรือ ‘บอลลีวู้ด’ อยู่พอสมควร ทั้งภาพการวิ่งหนีในสลัมของสองพี่น้องซาลิมและจามาลในสลัมมุมไบ ภาพของกิจกรรมแห่งแก๊งส์มิจฉาชีพ จนถึงภาพของทัชมาฮาล มันค่อนข้างฉูดฉาด ฉับไว รวมถึงหลายครั้งก็ดูดิบและล่องลอยผิดไปจากงานภาพของภาพยนตร์แห่งเวทีประกวดออสการ์ในปีเดียวกันเสียลิบ และสะท้อนภาพของสังคมอินเดียได้อย่างมีสีสันและเปี่ยมเสน่ห์ เหล่านักแสดงทั้งหลายที่แม้จะไม่คุ้นชื่อคุ้นหน้าในโลกแห่งแวดวงภาพยนตร์ระดับสากล แต่ก็สวมบทบาทตัวละครแต่ละตัวได้อย่างทรงพลังเป็นเอกลักษณ์ (โดยเฉพาะเหล่านักแสดงตัวน้อยและมาเดอร์ มิตตาล ผู้รับบทซาลิมในวัยผู้ใหญ่ที่เป็นอีกหนึ่งตัวละครคีย์หลักของเรื่องราว)


    แต่กระนั้น สิ่งที่น่าสนใจ ก็ยังคงหนีไม่พ้น ‘เรื่องราว’ ที่บอกผ่านหน้าจอของมัน…..


    เพราะในขณะที่ผู้คนทั่วไปยังคงตั้งคำถามอย่างสงสัย ว่าเจ้าเด็กหนุ่มแห่งสลัมมุมไบไร้การศึกษา เป็นแค่คนเสิร์ฟชาในศูนย์ Call Center จะสามารถตอบคำถามที่แม้แต่ปัญญาชนยังไม่อาจจะตอบได้อย่างไร แต่ตัวหนังก็ยังได้ตอกใส่หน้าของพวกเราคนดูอย่างเรียบง่าย แต่หนักหน่วงอยู่ในทีไม่ใช่น้อยๆ


    ว่าแท้จริงแล้ว พวกเรา ‘ใส่ใจ’ กับ ‘ร่องรอย’ ของชีวิตที่ผันผ่านกันบ้างไหม?....


    เพราะเรื่องราวในชีวิตของจามาล วัดจากมาตรฐานของคนทั่วไปนั้น มันช่างธรรมดา ไร้ความสำคัญ และห่างไกลจากเรื่องที่สมควรต้องใส่ใจเสียเหลือเกิน แต่ทุกช่วงเวลาของเขา ก็เป็นสิ่งที่มีคุณค่า ท่ามกลางการพลัดพราก สูญเสีย และความผิดหวังนานัปประการ ตั้งแต่การพบกับอมิตตาป ปัจจัน ดาราใหญ่แห่งแดนภารตะ ความตายของแม่ ได้ร่วมใช้ชีวิตเยี่ยงเด็กข้างถนนกับลาติก้า สาวน้อยละแวกสลัม (รับบทโดยฟรีดา ปินโต) ถูกแก๊งส์มิจฉาชีพจับไปใช้งานก่อนจะหลบหนีมาจากคนเหล่านั้น ชีวิตบนหลังคารถไฟ สัมผัสแรกกับทัช มาฮาล วันที่ต้องพลัดพรากจากพี่ชาย (ที่มาพบเจออีกครั้ง ฝ่ายหนึ่งเป็นสุจริตชน อีกฝ่ายเป็นมิจฉาชีพอันธพาล) และชีวิตประจำวันอันน่าเหนื่อยหน่ายในศูนย์รับร้องเรียนปัญหาโทรศัพท์มือถือ (ในฐานะเด็กเสิร์ฟชา) ทั้งหมด คือเส้นทางการผจญภัยอันโลดโผนเปี่ยมสีสัน และถักทอร้อยเรียงกันจนเป็น ‘คำตอบ’ ที่มาสอดคล้องกับ ‘คำถาม’ ในรายการเกมเศรษฐีจนส่งเขาไปสู่มูลค่าเงินล้านได้อย่างน่าประหลาดใจ


    ...... และทั้งหมดมันคงไร้ซึ่งความหมาย ถ้าเขาคิดแค่ว่ามันเป็นเพียงเศษฝุ่นทรายที่ล่องลอยหายไปตามสายลม จบแล้วก็จบกัน ไม่มีความสำคัญอันใดอีก.....


    แน่นอน…..จามาลไม่ใช่คนหัวดี อีกทั้งไม่ใช่ปัญญาชน
    เขาแค่ใช้ ‘หัวใจ’ เป็นดั่งเข็มทิศนำทาง แกะไปตาม ‘ร่องรอย’ ที่ชีวิตได้เหลือทิ้งไว้…..
    ไม่ว่ามันจะสุข ทุกข์ หรือเหงาเศร้าสักแค่ไหน.....
    อันเป็นสิ่งที่ ‘ปัญญาชน’ ทั่วไปไม่แม้แต่จะสละแม้สักกระผีกของความคิดมาใส่ใจด้วยซ้ำ…..



    แต่ในขณะเดียวกัน กับจังหวะที่เขายืนเหยียบบนเงิน 10 ล้านรูปี กับคำถามสุดท้ายที่เขาสารภาพอย่างซื่อตรงว่า ‘ไม่ทราบคำตอบ’ นั้น ถ้าเขาจะหยุด และเดินไปพร้อมกับลาภก้อนยักษ์นี้ไปก็ไม่เห็นจะเป็นปัญหา เมื่อเทียบกับความผิดพลาดที่อาจจะทำให้ทุกสิ่งที่ทำมาต้องกลายเป็นความสูญเปล่า ถ้าเงินมันเป็นประเด็นหลักสำคัญของเขาแล้ว ทางเลือกแรกดูจะปลอดภัยเป็นที่สุด


    แต่เขากลับเลือกที่จะเล่นต่อ….
    เพราะเขายังไปไม่ถึง ‘จุดหมายปลายทาง’ ของตนเอง…..



    นั่นเพราะเหตุผลเพียงหนึ่งเดียวที่เขาลงทุนลงแรงมาเล่น ‘เกมเศรษฐีเงินล้าน’ ในครั้งนี้ ไม่มีอะไรมากไปกว่าความพยายามที่จะได้พบเจอกับลาติก้า รักแรกและรักเดียวในหัวใจของเขา และเชื่อว่าเธอจะต้องคอยดูเขาอยู่ผ่านหน้าจอโทรทัศน์เป็นแน่แท้


    และวินาทีที่จามาลได้รับทราบว่าเธอผู้เป็นยอดดวงใจได้เฝ้าติดตามเขาอย่างใกล้ชิด และรับรู้ในความพยายามของตนเอง เงิน 20 ล้านกับคำถามสุดท้ายก็ไม่ใช่สิ่งที่มีความหมายอีกต่อไป เพราะเขาได้ใช้หัวใจนำทางตนเองไปจนพบ ‘เธอ’ แล้วเป็นที่เรียบร้อย ก่อนที่ทุกอย่างจะปิดฉากลงอย่างสุขนาฏกรรมราวกับการขีดชี้นำของโชคชะตา    

    อย่างไรก็ดี ใช่ว่าภาพยนตร์เรื่องนี้จะปราศจากซึ่งข้อครหา มันยังมีบางแง่มุมที่ถูกตั้งคำถามทั้งในส่วนของเทคนิคการถ่ายทำ การเล่าเรื่องในโลกแห่งภาพยนตร์ (เนื้อหาบางตอนก็ดูจะขาดซึ่งเหตุผลมารอบรับในระดับที่ดีพอ) หรือในส่วนของสังคม (อินเดียปัญญาชนดูจะไม่พอใจนักกับภาพของมุมไบที่ปรากฏในหนัง) แต่ไม่ว่าจะกล่าวอย่างไรก็ตาม ไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่า Slumdog Millionaire คือผลงานที่ผสมผสานตำนานระดับสูตร แต่ยากจะเคี่ยวคั้นจับให้อยู่มืออย่างเรื่องราวความรักพาฝันของชายหนุ่มหญิงสาวสไตล์ขนบบอลลีวูด กับเทคนิคการถ่ายทำอันโฉบเฉี่ยว สอดไส้ด้วยแนวคิดเชิงปรัชญา และโถมด้วยพลังอัน ‘สด’ เต็มพิกัดของเหล่านักแสดงทุกคน ที่ช่วยหนุนส่งให้ความยอดเยี่ยมเฉิดฉายส่องประกาย และกลายเป็นภาพยนตร์ที่ ‘บริสุทธิ์’ ‘งดงาม’ และ ‘ดูง่าย’ แบบไม่ต้องใช้ไม้บรรทัดเป็นมาตรวัดแบบหนังรางวัลทั่วไป ที่ต้องขอบอกกล่าวกับผู้รักหนังทุกคน ‘ต้องไปดู’ ชนิดห้ามพลาดกันในครั้งนี้
    +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

    มาถึงตรงนี้ จามาล มาลิก ผู้พลิกตัวเองจากเด็กสลัม เป็นเศรษฐีเงินล้าน เชื่ออย่างยิ่ง ว่าการที่เขาสามารถคว้า 20 ล้านรูปี และได้อยู่กับลาติก้า รักแท้เพียงหนึ่งเดียว....  

    เป็นเพราะข้อ D….โชคชะตาได้ขีดชี้นำไว้ก่อนหน้านั้น…..

    ผมไม่ทราบว่าทุกท่านคิดกันอย่างไร แต่โดยส่วนตัว ผมจะพ่วงเหตุผลต่อท้ายขึ้นไปอีกสักนิด....

    โชคชะตาอาจจะขีดชี้นำ เบิกร่องนำทางไว้ก่อนหน้าเป็นหลักชัยในทุกเรื่องราว แต่มันจะหามีประโยชน์อันใด…..





    “....หากคนๆนั้นไม่ได้คิดจะใช้ ‘หัวใจ’ นำทางไปตาม ‘ร่องรอย’ ที่ชีวิตได้เหลือทิ้งไว้ จนไปสู่ ‘คำตอบสุดท้าย’ อันทรงความหมายของเขา…..”


    หมายเหตุ :: ในขณะที่ผมกำลังเขียนบทความชิ้นนี้อยู่นั้น Slumdog Millionaire ยังคงยืนชนโรงฉายที่สการ์ลา สยาม จนถึงวันพุธนี้ และยังคงล้นหลามด้วยผู้คนเกือบทุกรอบ (รวมถึงมีแนวโน้มว่าจะขยายรอบฉาย) ถ้ามีโอกาส โปรดอย่าพลาดที่จะไปรับชมกันนะครับ
    หมายเหตุ 2 :: เพลงประกอบอย่าง Jai Ho ที่กำกับโดย A.R Rahman และแต่งเนื้อร้องโดย Gulzar ก็เป็นอีกส่วนของ Slumdog Millionaire ที่มีเสน่ห์อย่างมาก สามารถหารับฟังได้จากเครดิทท้ายเรื่อง เวปไซท์ youtube หรือแผ่นที่จะวางขายในเร็ววัน

    แก้ไขเมื่อ 14 มี.ค. 52 21:13:00

    แก้ไขเมื่อ 10 มี.ค. 52 19:40:34

     
     

    จากคุณ : บ้าเกม - [ 10 มี.ค. 52 19:36:41 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com