Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com


    เมื่อหนังสือพิมพ์ชื่อดัง “ละเมิดลิขสิทธิ์” บทวิจารณ์ Slumdog Millionaire ในบล็อคผม

    ถึง  เพื่อนชาวเฉลิมไทยและบล็อกเก้อร์ที่รักทั้งหลาย


    ถือเป็นการเล่าสู่กันฟังล่ะกันครับ  ไม่จำเป็นต้องซีเรียสมากมาย  แค่มองกรณีของผมเป็นอุทาหรณ์  เผื่อวันนึงเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นกับคุณหรือคนที่คุณรู้จัก  (จะได้ไม่รู้สึกโดดเดี่ยวจนเกินไปนัก...)  


    ผมคงไม่อาจกล่าวอ้างว่าวิธีจัดการปัญหานี้ของผมจะเป็นตัวอย่างหรือต้นแบบที่สมบูรณ์หรือดีเด่อะไรนัก  แต่ก็ขอถือเป็นการเริ่มต้นกรุยทางหรือบุกเบิกเพื่อวางฐานในทางปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม  ในการดำเนินการทางกฎหมายกับหนังสือหรืองานเขียนในรูปแบบอื่นๆ ซึ่งกระทำการบังอาจละเมิดลิขสิทธิ์อย่างย่ามใจว่าคงจะไม่มีใครรู้ใครเห็น


    ผมเป็นคนหนึ่งเช่นเพื่อนอีกหลายๆ คนทั้งในบอร์ดนี้และในบล็อก  ที่เคยนั่งอยู่เงียบๆ หน้าคอมพ์ตามลำพัง   ตัดขาดจากโลกภายนอกชั่วขณะ  พรมนิ้วทุ่มเทเขียนงานวิจารณ์หนังซักเรื่อง  หวังจะแบ่งปันความคิดเห็นสู่กันระหว่างเพื่อนผู้ร่วมเสพอรรถรสจากหนัง


    ด้วยความโนเนมเกินกว่าจะกล้าเรียกตัวเองว่า “นักเขียน”  แต่ละตัวอักษรที่เคาะแป้นพิมพ์ไม่เคยถูกประเมินราคาเป็นเงินแม้แต่บาทเดียว  แต่นั่นไม่เคยเป็นปัญหาเพราะผมก็มีอาชีพที่มั่นคงพอเลี้ยงปากเลี้ยงท้องได้ไม่เดือดร้อน (หากไม่ฟุ่มเฟือยเกินตัวนัก)  ผมและเพื่อนทั้งหลายที่รักการเขียนคงตระหนักกันดีอยู่แล้วถึงความสุขที่ได้รับตอบแทนจากการได้ทำในสิ่งที่รัก  ความสุขนั้นมหาศาลเกินกว่าจะประเมินราคาเป็นเงิน  และด้วยเกียรติของนักเขียนโนเนม  ผมหยิ่งเสมอว่างานของเราไม่เคยต้องเอาไปเร่ขายใคร  เรารักงานเขียนตัวเองเกินกว่าจะเหยียดมันให้ต่ำลงหรือลดค่าให้เป็นแค่สินค้าชิ้นหนึ่ง


    ความอิสระ  การเป็นนายตัวเอง  นี่แหละฟอร์มของศิลปะที่ใกล้เคียงความเป็นศิลปะที่สมบูรณ์  


    เพื่อนๆ ที่เคยติดตามงานของผมมาบ้าง  ภายใต้หน้ากากของนามปากกาว่า beerled   “เบียร์” คือชื่อเล่นของผมครับ  ส่วน LED  เป็นชื่อย่อที่ทำงาน   (อย่างคุณ joblovenuk  นี่เป็นแฟนพันธ์แท้กระทู้ผมในเฉลิมไทย  เรียกว่าไม่เคยปล่อยให้หลุดรอดสายตา  หรือหากจะเป็นในบล็อกก็อย่างคุณชุดนอนฯ  ซึ่งเป็นนักเขียนสตาร์พิค  ที่ทำไปทำมาดันกลายมาเป็นพี่น้องร่วมสาบานกับผมซะงั้น?   หรือจะอารมณ์ที่เป็นเกียรติอย่างยิ่งแต่ผมก็ไม่เคยบอกเค้าหรอกน่ะว่าดีใจและภูมิใจแค่ไหนเมื่อ คุณพล พะยาบ  แห่งมติชนแวะเข้ามาเยี่ยมบล็อคอยู่บ่อยๆ )  หรือแม้แต่คนที่ไม่เคยอ่านงานผมเลย  (เพราะความยืดยาวจนอาจเข้าข่ายน่ารังเกียจ)  หวังเหลือเกินว่าอาจจะเคยผ่านตาแว๊บๆ  ในชื่อกระทู้ที่ตั้งได้อย่างน่าขันว่า  “Slumdog Millionaire : เกมยาจก (เปิดเผยเนื้อหาสำคัญ)” ซึ่งเป็นงานวิจารณ์หนังออสการ์เรื่องล่าสุดของผมเอง


    แอบคิดเล่นๆ ครับ  ว่าไม่ว่าผมจะร้องเรียนเรื่องนี้ไปที่ไหน  แม้แต่แจ้งความร้องทุกข์ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ  หรือยื่นฟ้องเป็นคดีแพ่งและคดีอาญาต่อศาลสถิตย์ยุติธรรม (  กรณีนี้จะต้องฟ้องยังศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศตามความในมาตรา  3  แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้ง ฯ พ.ศ. 2539)  ก็คงไม่เข้มขลังหรือศักดิ์สิทธิ์เท่าร้องเรียนเรื่องนี้ในห้องเฉลิมไทย ณ เว็บไซต์พันทิป  ผมมั่นใจว่าท่านๆในนี้หลายคนอาจจะเป็นพยานรู้เห็นเหตุการณ์  เป็นประจักษ์พยาน  เป็นพยานบอกเล่า เป็นต้น  โดยการอ่านเนื้อหาทั้งหมดหรือบางส่วนในกะทู้ข้างต้นหรือเคยอ่านแม้แค่เพียงชื่อกระทู้ก็ตาม  เพื่อช่วยยืนยันว่านี่คืองานของผมซึ่งถูกละเมิดลิขสิทธิ์จริง  หวังว่ามันคงจะพอให้ความเป็นธรรมกับผมได้เพราะนี่คือความยุติธรรมทางใจที่ผมจะรู้สึกว่าได้รับและสัมผัสความชอบธรรมนี้ได้ในทันที  จากที่นี่  โดยไม่ต้องรอผลคดีว่าจะออกมาในรูปแบบใด


    “Slumdog Millionaire : เกมยาจก (เปิดเผยเนื้อหาสำคัญ)”  ถูกร่างในคอมพ์เป็นไฟล์ word  ในวันที่ 10 กุมภาพันธ์  2552  แก้ไขครั้งล่าสุดเมื่อวันที่  11  กุมภาพันธ์  2552  ( ผมสารภาพก่อนล่ะกันหากจะปล่อยไก่โดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์  ว่าผมเองก็ไม่ได้ชำนิชำนาญนักหรอกครับเรื่องคอมพิวเตอร์  แค่พอใช้ได้และแต่งบล็อกเป็นนิดหน่อย)  ขอนอกเรื่องตัวเองนิดนึงและถือเป็นข้อสังเกตเพิ่มเติม  ในกรณีร่างงานเขียนในกระดาษ  หากเราเขียนงานเขียนเสร็จแล้วก็อยากแนะนำให้ท่านผู้เขียนลงชื่อ (หรือนามแฝงนามปากกาก็ได้)  และวันที่ไว้หน่อยก็ดีครับ  เก็บไว้เป็นหลักฐานว่าเราได้สร้างสรรค์งานอันมีลิขสิทธิ์ชิ้นนี้ขึ้นแล้วเมื่อวันที่เท่าไหร่  เขียนเมื่อไหร่ก็ได้รับความคุ้มครองทางกฎหมายเมื่อนั้นครับ  (รวดเร็วปานแสง)ไม่ต้องไปจดทะเบียนอย่างสิทธิบัตรให้ยุ่งยากเสียเวลา  ระหว่างนี้หากใครแอบเอางานเราไม่ทำซ้ำ  ดัดแปลงหรือเผยแพร่ต่อสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเรา  เค้าผู้นั้นก็ได้ชื่อว่ากระทำการอันเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์เราแล้วครับและมีโทษต้องรับผิดตามกฎหมาย  (บทกำหนดโทษตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์นี่เล่นผู้กระทำความผิดแรงมากๆ  ครับตามลักษณะอันเป็นเอกลักษณ์ของกฎหมายนายทุน  อย่างกรณีของผมนี่เป็นการละเมิดลิขสิทธิ์เพื่อการค้าตามมาตรา  69  วรรคสอง  ผู้กระทำผิดต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หกเดือนถึงสี่ปีหรือปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงแปดแสนบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ)


    กลับมากรณีของผมต่อน่ะครับ  งานวิจารณ์เรื่อง slumdog  ของผมไม่ได้ร่างงานในกระดาษ  แต่ร่างในคอมพ์  ไฟล์งานของเราสามารถเรียกดูคุณสมบัติได้ว่าเป็นงานที่เริ่มสร้างตั้งแต่เมื่อไหร่   แก้ไขครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่  (จุดนี้ค่อนข้างสำคัญกว่าจุดแรก)  และเปิดเข้าอ่านครั้งล่าสุดเมื่อไหร่ เป็นหลักฐานที่ดีเยี่ยมครับในการแสดงว่าเราได้สร้างงานนี้มาก่อนแล้วตั้งแต่วันที่เมื่อไหร่ หากใครจะอ้างว่าเขียนมาก่อนเรา  (หรือหนักไปอีก  หากใครจะกล่าวหาแบบมดเท็จว่าเราไปขโมยงานของเค้ามา)  เราก็สามารถแสดงหลักฐานในส่วนนี้ได้อย่างชัดเจน  แม้คู่ต่อสู้ของเราจะมีหลักฐานมาอ้างแบบแนบเนียนเพียงใดก็มิต้องประหวั่น  ตอบเขาไปดังๆ ว่าการทำพยานหลักฐานเท็จประกอบกับการเบิกความเท็จในชั้นศาล  มีโทษอาญาที่หนักหนาไม่ใช่เล่น  อย่างเพิ่มกระทงความผิดให้ตัวเองเลย  (ถือว่าบอกเค้าเอาบุญ)  ซึ่งกรณีของผมก็มีการกล่าวอ้างในลักษณะเช่นนี้ว่าเค้าทำมาก่อนแล้วตั้งแต่วันที่  7  กุมภาพันธ์  2552  เขียนเป็นรายงานส่งอาจารย์ในชั้นเรียนปริญญาโท ม.รามคำแหง  ถ้าท้ากันให้ตรวจสอบคุณสมบัติไฟล์งานว่าของใครสร้างก่อน  ผมว่าเธอคงจะร้อนๆ หนาวๆ  อยู่ไม่น้อยล่ะงานนี้  (ฮ้าว  รู้ซะแล้วเป็นผู้หญิง)

    งานของเค้าตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์รายวันฉบับหนึ่ง  ประจำวันที่  27  กุมภาพันธ์  2552  และนั่นก็เป็นวันแรกที่ผมทราบเรื่อง

    ด้วยเกรงใจว่าจะไปทำลายชื่อเสียง  เกียรติยศ  ทั้งของตัวนักเขียนคอลัมน์ซึ่งสั่งสมบารมีมาพอสมควร  และตัวหนังสือพิมพ์ซึ่งกล่าวอ้างโฆษณาอยู่ตลอดว่าเป็นหนังสือพิมพ์การเมืองชั้นนำของเมืองไทย  ผมจะพยายามหลีกเลี่ยงการเอ่ยนาม  หลีกเลี่ยงการซ้ำเติมท่านนักเขียนใหญ่และแทนด้วยชื่อของบุคคลนั้นว่า “คนที่คุณก็รู้ว่าใคร”


    เพื่อประกอบการพิจารณาของคณะลูกขุนแห่งห้องเฉลิมไทย  บัดนี้  ผมขอเสนอหลักฐานชิ้นเอกของผู้ซึ่งกระทำละเมิดลิขสิทธิ์ผมมาเปรียบเทียบกับงานของผมเพื่อให้ท่านๆ ได้ร่วมกันวินิจฉัยความเหมือน  ความคล้าย  หรือจะว่านี่จะเป็นเพียงแค่ความบังเอิญที่แสนมหัศจรรย์

    งานเขียนของผมอยู่นี่ครับ

    http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=beerled&month=02-2009&date=10&group=1&gblog=35



    งานเขียนของคนที่คุณก็รู้ว่าใคร

    http://www.matichon.co.th/matichon/view_news.php?newsid=01ent01270252&sectionid=0105&day=2009-02-27  


    เพื่อให้เกิดความชัดเจนสำหรับการพิจารณาความผิดฐานนี้  ผมจะเปรียบเทียบงานทั้งสองชิ้นในส่วนที่เหมือนกันและบางตอนที่มีลักษณะดัดแปลงให้ต่างกันเล็กน้อยซึ่งยากที่จะเกิดขึ้นได้โดยบังเอิญ  ดังนี้

    --------------------

    (ต่อครับ)

    แก้ไขเมื่อ 12 มี.ค. 52 22:01:08

    แก้ไขเมื่อ 12 มี.ค. 52 07:26:16

    แก้ไขเมื่อ 12 มี.ค. 52 03:02:23

    จากคุณ : beerled - [ 12 มี.ค. 52 02:52:37 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com