ความคิดเห็นที่ 1 คำถาม - ถ้าคุณเป็นพระเอกแล้วตกในสถานการณ์นั้น คุณจะทำอย่างไรครับ ?? - ถ้าคุณอยู่ในร้านนั้น คุณจะกลายเป็นพวกเดียวกับป้าโรคจิตคนนั้นหรือไม่ครับ ?? - ผกก. เป็นคนที่เคร่งศาสนาหรือไม่ มากน้อยขนาดไหนครับ ใครพอทราบบ้าง ผกก. ต้องการจะสื่อประเด็นอะไรกับประเด็นศาสนากันแน่ครับ "จงเชื่อมั่นในศาสนาและพระเจ้า อย่างมีเหตุมีผล ใช่หรือไม่ครับ ??" จากคุณ : mung_emotalcore - [ 18 มี.ค. 52 23:36:15 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ดูแล้วแทบบ้าตาย เหอะๆ ถ้าเป็นผมผมจะนั่งอยู่ในรถหรือหาทางจนกว่าจะหาไม่ได้ จากคุณ : omaizo - [ 18 มี.ค. 52 23:42:58 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ผมดูเรื่องนี้จบ แล้วนิ่งไป 5 นาที ทั้งที่ปวดฉี่ใจจะขาด จากคุณ : HOngZuKae - [ 18 มี.ค. 52 23:48:20 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ไร้เหตุผลมากค่ะ เรื่องนี้ จากคุณ : คิงคองจัง - [ 18 มี.ค. 52 23:50:22 A:222.123.83.156 X: TicketID:208865 ]

ความคิดเห็นที่ 5 จบแบบ  ทิ้งไว้ในใจ คาใจ ติดใจ สงสัย ทำไม อะไร เพื่ออะไร ขอให้นอนหลับไวๆ   เราดูเรื่องนี้ในโรง อื้ม นิ่งไปนานเลยทีเดียว -,- จากคุณ : โทนเนอะ - [ 18 มี.ค. 52 23:58:02 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ชีวิตมันก็ไร้เหตุผลแบบนี้แหละ ก็แค่คาดเดาไปต่างๆ แต่ก็ไม่ใช่ว่าที่คิดมันจะถูกเสมอหรอกนะ คนตายมันจะไปทำอะไรได้ ได้แต่นอนเน่าอยู่ตรงนั้น คนเป็นสิ คนเป็นที่สามารถทำได้ จากคุณ : Xenophage - [ 18 มี.ค. 52 23:58:27 ]

ความคิดเห็นที่ 7 เป็นหนังที่จะจำไว้ให้ลูกดู  ตอนลูกโตเท่าเรา มันยอดเยี่ยมมากลูก แก้ไขเมื่อ 19 มี.ค. 52 00:34:59 จากคุณ : อั้ม แฟนพันธุ์แท้ Liv tyler (อั้ม ติ่งเหลือม) - [ 19 มี.ค. 52 00:01:52 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ตอนดูหนังเรื่องนี้จบ กำลังนั่งอึ้งๆอยู่ หมอฟันโทรมานัดพอดี เหอๆๆ พูดไม่ออกเลย จนหมอถามว่า เป็นอะไรไปรึเปล่า..ฮี่ๆ จากคุณ : เด็กหัดเดิน - [ 19 มี.ค. 52 00:06:06 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ครับ ยังอึ้งและหลอนอยู่ครับ  กำลังจะเข้านอนแล้วอ่ะ ขอบคุณหลายๆท่านที่มาคุยด้วยนะครับ แอบสังหรณ์ใจช่วยท้ายๆแล้วหล่ะครับ ฉากที่เค้าขับรถฝ่าหมอกออกไป เพลงประกอบ (score) ชวนขนหัวลุกมากๆครับ เปิดยาวเลยอ่ะครับ และแล้วมันก็มีอะไรจริงๆด้วย  ขอชม score ตอนจบด้วยครับ พรุ่งนี้เย็นๆมาอ่านต่อครับ ... จากคุณ : mung_emotalcore - [ 19 มี.ค. 52 00:11:45 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ไม่หดหู่หรอกค่า ปล่อยวางไงคะ ปล่อยวาง หนังบอกว่าเรากุมชะตาชีวิตตัวเองไม่ได้ตลอด บางทีมีสิ่งที่เหนือกว่าคอยผลักดันให้บังเกิดปาฏิหาริย์ที่เรามิอาจทราบล่วงหน้า แม้ถูกต้อนเข้าสู่มุมที่มืดมนสุดๆของชีวิต ก็อย่าได้ยอมแพ้ อย่าคิดไปเองว่ามันเป็นวาระสุดท้าย ความหวัง ทุ่งดอกไม้ที่สวยงามรออยู่เพียงไม่กี่วินาทีข้างหน้า มันไม่ใช่แกล้งทำให้คนคาใจแต่หนังบรรลุวัตถุประสงค์แล้ว...ด้วยวิธีนี้ คิดกลับกันสิคะ แล้วคุณจขกท.จะพบว่า จริงๆแล้วมันควรเป็นหนังที่ทำให้หลับสบายที่สุดในโลกต่างหาก เพิ่มเติมค่ะ คห.16 คะ ไม่ใช่ทำให้คนนับถือคริสต์ดูบ้าหรอกค่ะ ที่บ้าเพราะยัยป้านั่น(โดยเฉพาะ)ที่โง่แล้วอยากนอนเตียงต่างหาก  "ความกลัว"อาจมากกว่าคนอื่นๆด้วยซ้ำ ทำให้เขาดึงเอา"พระเจ้า"มาสวมกอดเอาไว้แบบสติหลุด พยายามตีความเรื่องต่างๆด้วยสมองอันน้อยนิด หลอนตัวเองและคนอื่นด้วยความหยิ่งยะโสว่าเป็นพระประสงค์ของพระองค์ อย่างนี้อย่างนั้น ก็เพราะความกลัวอย่างหนักที่ก่อนกวนอยู่ไง ขณะที่พระเอก "ไม่เชื่อ" คิดว่าตัวเอง กุมชะตาชีวิตตัวเองได้ 100 เปอร์เซ็นต์ สรุป  นี่คือการตีแสกหน้าของคนที่ไม่เชื่อ และ คนที่เชื่ออย่างอวดรู้ยะโสโอหัง ท้ายสุดแล้ว พระเจ้า หรือ Almighty ก็แสดงให้เห็นว่า "จงเชื่อมัน" และอย่าได้แส่ ยกหางตัวเองว่าล่วงรู้ถึง "พระประสงค์" เพราะในความเชื่อของคนที่นับถือเจ้า พระประสงค์ของพระเจ้า เป็นสิ่งที่ "มนุษย์" ไม่อาจล่วงรู้ สิ่งที่ทำได้คือ อดทน และ ศรัทธา ตอนสุดท้ายพระเอก ได้แต่คุกเข่าและตะโกนว่า "พระเจ้าเกลียดผม!" ทั้งที่เขาไม่เคยเอ่ยถึงว่าเขาศรัทธา หรือเอ่ยถึงพระเจ้าเลย นั่นหมายถึงท้ายสุดเขายอมรับอย่างหมอบราบคาบแก้ว ถึงอำนาจที่เขามองไม่เห็น และท้ายสุดเหมือนโดนผลักตกหน้าผา ว่าเขาไม่มีสิทธิ ลิขิต ชีวิตใคร พระเจ้ามิได้มีพระประสงค์ให้คนที่เขารักทั้งหมดตาย แต่เขาเคยไม่เชื่อ ไม่เอะใจ และรอคอย พระเมตตาของพระองค์เอง หนังปรัชญาศาสนาก็งี้แหละค่ะ ทึ่งกับ สตีเฟน คิง จริงๆ... แก้ไขเมื่อ 19 มี.ค. 52 01:05:05 จากคุณ : popcorn lover - [ 19 มี.ค. 52 00:14:45 ]

ความคิดเห็นที่ 11 เรื่องนี้ชอบที่สุดตอนฉากอิป้า โดนยิงแสกหน้า สะใจแบบโค-ตะ-ระ ๆ จากคุณ : HOngZuKae - [ 19 มี.ค. 52 00:18:51 ]

ความคิดเห็นที่ 12 หนังแนวนี้ดูแล้วต้องอย่าอินครับ เดี๋ยวจิตตก จากคุณ : เดะ เดะ เฮ่ย - [ 19 มี.ค. 52 00:18:53 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ตอนจบเรื่องเป็นเหมือนกันหมด ผมว่ามันสุดยอดแล้วละ เรื่องนี้อ่า จากคุณ : BIZZARE - [ 19 มี.ค. 52 00:19:31 ]

ความคิดเห็นที่ 14 คนที่อ่านกระแส เฉลิมไทยแล้วค่อยดูคงพอเตรียมใจบ้าง แต่คนที่ไปดูวันแรกๆ โอ้วว!! จิตตกกันทั้งโรง จากคุณ : MoogiN - [ 19 มี.ค. 52 00:20:38 ]

ความคิดเห็นที่ 15 เชื่ออย่างมีสติ และคิดใตร่ตรองอย่างถี่ถ้วนก่อนทำ เพราะทุกอย่างที่ทำ ย่อมมีผลต่อตนเองและผู้อื่นเสมอ จากคุณ : ผิดตลอด&ถูกเสมอ - [ 19 มี.ค. 52 00:21:15 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ทำไมในหนังชอบทำให้คนที่เชื่อในคริสต์ศาสนาเป็นคนบ้าทุกทีเลย อย่างป้าในเรื่องนี่ถือว่าบ้านะไม่ใช่คนเคร่งศาสนาอะไรหรอก ส่วนตัวคิดว่าพระเอกทำถูก(เกือบ)หมด ยกเว้นตอนสุดท้ายที่ฆ่าทุกคนตายหมดนั่นแหล่ะ(แม้ว่าทุกคนจะยอม) จากคุณ : I Love someone on internet - [ 19 มี.ค. 52 00:26:27 ]

ความคิดเห็นที่ 17 คห.4 ดูหนังไม่รู้เรื่องมากกว่ามั้ง เราว่าหนังเรื่องนี้มีเหตุผลมาก และสอนอะไรเยอนะ จากคุณ : supatpit - [ 19 มี.ค. 52 00:28:34 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ตอนคุณป้ามหาภัยโดนยิงนี่ผม ร้อง เยส! ออกมาดังๆพร้อมปรบมือ แล้วดูจบ ผมก็ค้างแบบนี้แหละ อยู่เป็นวันๆ มึนหัวด้วย เพราะดูต่อจากcloverfieldเลย เลยทำให้วันนั้นต้องพึ่งพารา จากคุณ : hellsingova - [ 19 มี.ค. 52 00:29:21 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ^^ คห.10  ผมจะพยายามคิดกลับกันแบบที่คุณบอกนะครับ เผื่อจะทำให้หลับสบายขึ้น  อิอิ ปล. ทุ่งหญ้าสวยจริงๆครับ  ถ้าพระเอกรออีกนิด ก็จะพบกับทุ่งหญ้าสวยๆแบบนี้แน่นอน แต่ .... ก็ .... นะ จากคุณ : mung_emotalcore - [ 19 มี.ค. 52 00:29:25 ]

ความคิดเห็นที่ 20 เเบบว่าหนังจบตั้งนานเเล้วคนในโรงยังนั่งนิ่งกันหมดเลยอ่ะครับ คำถาม - ถ้าคุณเป็นพระเอกแล้วตกในสถานการณ์นั้น คุณจะทำอย่างไรครับ ?? ans. ผมจะอยู่ในซุปเปอร์มาร์เก็ต - ถ้าคุณอยู่ในร้านนั้น คุณจะกลายเป็นพวกเดียวกับป้าโรคจิตคนนั้นหรือไม่ครับ ?? ans. ไม่  ผมจะอยู่ของผมคนเดียวในห้องวอล - ผกก. เป็นคนที่เคร่งศาสนาหรือไม่ มากน้อยขนาดไหนครับ ใครพอทราบบ้าง ans. น่าจะใช่ ผกก. ต้องการจะสื่อประเด็นอะไรกับประเด็นศาสนากันแน่ครับ "จงเชื่อมั่นในศาสนาและพระเจ้า อย่างมีเหตุมีผล ใช่หรือไม่ครับ ??" ans. ใช่ครับ จากคุณ : เจ้าชายแห่ง_โคโลญจ์ - [ 19 มี.ค. 52 00:30:26 ]

ความคิดเห็นที่ 21 อึ้งไปสิบห้านาที เหมือนหุ่นยนต์ 10/10 เลย สำหรับการเล่นกับอารมณ์ พี่เว่นแกเขียนบทได้เทพจิงๆ จากคุณ : Mrs.Reda - [ 19 มี.ค. 52 00:31:17 ]

ความคิดเห็นที่ 22 เช่ามาดูที่บ้านค่ะ ดูกันทั้งบ้าน พ่อกับแม่ดูบ้างไม่ดูบ้าง เรากับน้องดูทั้งเรื่องตลอดจนจบ อึ้งไปนานกับตอนจบ...สลดจริงๆ อ้าว เฮ่ย....ทำไปทำไมนั่น คืนนั้นนอนหลับยากพอสมควร มัวแต่คิดเรื่องการหาทางรอดในภาวะคับขันแบบในหนัง (อินมาก) คำถามจาก จขกท. - ถ้าคุณเป็นพระเอกแล้วตกในสถานการณ์นั้น คุณจะทำอย่างไรครับ ?? ถ้าเราเป็นพระเอก จะขับรถจนน้ำมันหมด แล้วก็นั่งสวดมนต์ รออุทิศตนให้สัตว์ประหลาดมันกินให้อิ่มๆ ไปซะ (ฆ่าตัวตายเป็นบาปนะ) - ถ้าคุณอยู่ในร้านนั้น คุณจะกลายเป็นพวกเดียวกับป้าโรคจิตคนนั้นหรือไม่ครับ ?? คงไม่ค่ะ แต่คงเป็นประเภทเครียดแล้วไปรื้อซุปเปอร์หาของกินมาตุนไว้มากกว่า แต่ชอบป้ามาร์เซีย เกย์ ฮาร์เดน กับบทป้ามหาภัยมาก   (มิสซิสคลั่ง เอ๊ย มิสซิสคาร์โมดี้ ในเรื่องคลั่งซะจนเราอยากจะเข้าไปบีบคอเชียว) - ผกก. เป็นคนที่เคร่งศาสนาหรือไม่ มากน้อยขนาดไหนครับ ใครพอทราบบ้าง เราไม่มีความรู้เรื่องศาสนาคริสต์น่ะ  ไม่ขอตอบแล้วกันข้อนี้ ^^ แต่เรื่องนี้ชอบผู้กำกับคือ แฟรงก์ ดาราบอนท์  เราว่าเค้าตีโจทย์แตกเกี่ยวกับนิยายของสตีเฟ่น คิง ที่มักจะเขียนเกี่ยวกับด้านมืดของมนุษย์นะคะ -ผกก. ต้องการจะสื่อประเด็นอะไรกับประเด็นศาสนากันแน่ครับ อื่มม เราคิดเองนะว่าคงมาจากนิยายด้วยส่วนหนึ่ง "จงเชื่อมั่นในศาสนาและพระเจ้า อย่างมีเหตุมีผล ใช่หรือไม่ครับ ??" อันนี้แม้ไม่รู้เรื่องศาสนาคริสต์เท่าไหร่ขอตอบ ตามความเข้าใจว่า ศาสนาทุกศาสนาเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ ตราบใดที่คุณมีความศรัทธาต่อศาสนาที่คุณนับถือ หรือสิ่งหนึ่งสิ่งใดที่คุณศรัทธา และยึดมั่นในความดี คุณจะเป็นคนที่มองโลกด้วยเหตุและผล ที่มีน้ำหนักไม่เอียงไปข้างหนึ่งข้างใดมากนัก แต่ต้องแยกให้ออกก่อนว่าศรัทธา หรืองมงายกันแน่ เพราะถ้างมงายแบบไซลาส (รหัสลับดาวินชี) ที่บูชาพระเจ้าแบบไม่ลืมหูลืมตา ไม่มองถึงแก่นว่าพระเจ้าได้ให้อะไรที่มากกว่าความเจ็บปวดและสำนึกบาปเวลาทำร้ายผู้อื่น อันนั้นเรียก คลั่งศาสนาได้เลย ทำให้คิดได้อีกด้านว่า ในมุมที่มืดที่สุด บางทีเราอาจจะเห็นแสงสว่างในความมืด เพียงแต่ต้องใช้เวลาให้สายตาชินกับความมืดให้นานที่สุด อย่าวู่วาม จากคุณ : Angel_Gracious - [ 19 มี.ค. 52 00:34:14 ]

ความคิดเห็นที่ 23 อีป้า บ้าศาสนาโดนยิงกบาล ผมก็นอนตาหลับแล้วครับ จากคุณ : เก้ากระบี่เดียวดาย - [ 19 มี.ค. 52 00:41:25 ]

ความคิดเห็นที่ 24 อีป้า บ้าศาสนาโดนยิงกบาล ผมก็นอนตาหลับแล้วครับ ^ ^ ^ ผมก้อซะใจเหมือนกัน จากคุณ : Box officE - [ 19 มี.ค. 52 00:49:34 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ถึงเรื่องนี้จะหดหู่แค่ไหน.. แต่สิ่งที่เราได้จากเรื่องนีคือ.. ไม่ว่าสถานการณ์จะเลวร้ายแค่ไหน "จงอย่าสิ้นหวัง" จากคุณ : missingdejavu - [ 19 มี.ค. 52 00:56:25 ]

ความคิดเห็นที่ 26 กระทู้ The mist นี่โผล่มาเรื่อยๆเลยนะคะ แต่ก็ไม่แปลก เพราะเป็นหนังที่สุดยอดจริงๆ เล่นกับอารมณ์คนดูสุดๆ จากคุณ : Pretty_Cute_Girl - [ 19 มี.ค. 52 01:06:48 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ดูเรื่องนี้ตอนก่อนนอนเหมือน เจ้าของกระทู้เหมือนกัน พอเข้าใจอารมณ์ แต่ก็นอนหลับได้นะครับ เพราะในที่สุดแล้วคิดได้ว่า หนังมันพยายามจะบอกว่า ไม่ว่าจะยังไงก็อย่ายอมแพ้ ถึงข้างหน้าจะเต็มไปด้วยทางตันแค่ไหน เหมือนกับเวลาเราเจอความทุกข์ในชีวิตแล้วคิดแต่จะหนีปัญหาแบบง่ายๆ มันไม่ให้ผลดีอะไรเลย ผมว่าหนังเรื่องนี้นำเสนออปรัชญาเชิงอุดมคติแบบเห็นภาพหลายๆอย่างนะ อย่างเรื่องของความงมงายและการเลือกฝั่งก็ด้วย เพราะคนเราเดี๋ยวนี้บางทีก็เชื่ออะไรง่ายเกินไป บางครั้งไม่มีเหตุและผลมาเกี่ยว แค่เชื่อ เชื่ออย่างเดียว ใครพูดอะไรก็เชื่อแบบไม่ต้องเห็นหลักฐานหรือเหตุผลก็ได้แล้วก็มีถมเถ(ลองเทียบกับเหตุการณ์ในไทยช่วงปีก่อนแล้วจะเห็นภาพนะครับ ว่าคนอย่างป้าศาสดาแกมีชีวิตอยู่บนโลกนี้จริงๆล่ะ) ผมชอบนะ เรื่องนี้ ไม่ว่าใครจะบอกว่าจบประหลาดแค่ไหนก็เถอะ จากคุณ : Berserk Rabbit - [ 19 มี.ค. 52 01:35:07 ]

ความคิดเห็นที่ 28 โคตรหนัง จากคุณ : ทุ่งหัวช้าง - [ 19 มี.ค. 52 01:43:30 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ไม่ไหวแล้ว พรุ่งนี้ต้องหามาดู จากคุณ : tuipeera - [ 19 มี.ค. 52 01:43:46 ]

ความคิดเห็นที่ 30 เป็นเหมือนหลายๆคนที่ดูคือ พอหนังจบปุ๊บ นิ่ง อึ้ง อ้าปากค้าง แล้วก็เหวอรับประทาน ฮ่าๆ เป็นหนังที่ชอบมากๆอีกเรื่องนึงเลยค่ะ จากคุณ : สะใภ้แห่งอาราธอร์น - [ 19 มี.ค. 52 02:04:04 ]

ความคิดเห็นที่ 31 หลอนคะ นึกถึงเรื่องนี้ทีไรหลอนอิป้าคนนั้นกับตอนจบมากๆ ตอนจบนี่แบบ หดหู่ และหลอกหลอนมากๆ เป็นหนังที่ไม่อยากดูซ้ำสองเลยคะกลัวตอนจบ 555 จากคุณ : เจ๊เฟย์ กะ คุโรปู้ ==> Mz - [ 19 มี.ค. 52 03:27:59 ]

ความคิดเห็นที่ 32 จิตตกไปสามเดือนค่ะดูเรื่องนี้ บรรยายอารมณ์ไม่ถูกจริงๆค่ะ รู้แต่ว่า มากกว่าหดหู่ ค่ะ จากคุณ : FaLiOnA - [ 19 มี.ค. 52 03:30:13 ]

ความคิดเห็นที่ 33 จบได้สุดยอดจริง  อึ้งกิมกี่ไปหลายวัน จากคุณ : FeeL100% - [ 19 มี.ค. 52 06:22:15 ]

ความคิดเห็นที่ 34 อุตส่าห์นั่งดูจนจบเซ็งมากกก...........อึดอัดมาก จากคุณ : amtaurus - [ 19 มี.ค. 52 08:27:19 ]

ความคิดเห็นที่ 35 เป็นหนังที่ถูกพูดถึงบ่อยจริงๆค่ะ ไม่คิดเลยว่าจะเป็นหนังที่ทำให้ อึ้ง อึ้ง อึ้ง หดหู่..เฮ๊อออ แต่ก็ชอบนะ ชอบมากๆเลย ^^ จากคุณ : DIVINE-T - [ 19 มี.ค. 52 08:30:22 ]

ความคิดเห็นที่ 36 เรื่องนี้แฟนชวนไปดู เพราะเห็นตัวอย่างมีสัตว์ประหลาดในหมอก พอไปดู ตอนจบ นั่งอึ้งกันไปเลย 555+ แต่ทั้งผมทั้งแฟนก็ชอบเรื่องนี้นะ ชอบมากด้วย ดูจบแล้วมีอะไรให้มานั่งคุย นั่งวิเคราะห์กันเยอะแยะเลย จากคุณ : Kenshin - [ 19 มี.ค. 52 08:33:20 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ต้องตามไปดู Skeleton Key ต่ออีกสักเรื่องอะ จากคุณ : Perfect Day : P-Blur - [ 19 มี.ค. 52 09:01:37 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ลืมอีกเรื่อง แวะไปเช่า The Village  ดูกันไปเลย จากคุณ : Perfect Day : P-Blur - [ 19 มี.ค. 52 09:03:02 ]

ความคิดเห็นที่ 39 สุดยอดครับ กับการจบแบบนี้ ส่วนใหญ่จะไม่ถูกใจคนที่ชอบสูตรสำเร็จซักเท่าไหร่ แต่ว่า ผมได้อะไรมากมาย จากหนังเรื่องนี้ จากคุณ : foxaon1 - [ 19 มี.ค. 52 09:06:35 ]

ความคิดเห็นที่ 40 ปวดใจกับคสพ พ่อ-ลูกมาก ๆ วิธีการปกป้องของพ่อ บางครั้งก็ทำร้ายลูกอย่างเลือดเย็นที่สุด เราไม่มีสิทธิ์ไปตัดสินชีวิตคนอื่นนะ เราไม่มีทาง perfect ได้ การร้องขอความช่วยเหลือเป็นสิ่งที่จำเป็น ไม่มีใครเก่งไปหมดหรอก จากคุณ : Ryckie - [ 19 มี.ค. 52 09:28:10 ]

ความคิดเห็นที่ 41 สุดยอดมากค่ะเรื่องนี้ ดูจบแล้วเดินออกจากโรงเหมือนคนเดินละเมออะค่ะ มันเบลอๆ ลอยๆ กลับถึงบ้านตอนไหนแทบไม่รู้ตัวเลย..เป็นหนังในดวงใจที่ดูได้แค่รอบเดียวเท่านั้นค่ะ จากคุณ : นางสาวZantippe - [ 19 มี.ค. 52 09:38:55 ]

ความคิดเห็นที่ 42 ตอบแค่ในประเด็นที่ถาม 1. เราคงจะหนีต่อไป ต่อให้น้ำมันหมด ก็ลงจากรถแล้วก็วิ่งหนี หาทางที่คิดว่าไอ้ตัวพวกนั้นจะตามมาไม่ได้ ต่อให้สุดท้ายก็ยังเจอ ก็เอาไอ้ 4 นัดที่เหลือนี่แหละสู้กับมัน 2. อาจจะต้องทำเนียน เป็นพวกเดียวกัน เพราะดูจากสถานการณ์แบบนั้น ถ้าทะเล่อทะล่า เห็นแย้งมา มีหวังอาจจะได้ตายเพราะคน ไม่ใช่เพราะตัวประหลาด 3. ถ้า ผกก. เป็นคนเคร่งศาสนามาก คงไม่ให้ป้าโรคจิตนั่นตายอนาถแบบนั้นหรอก - -" ความรู้สึกที่ได้จากดูหนังเรื่องนี้จบคือ "ถ้าคิดจะสู้ก็ต้องสู้จนถึงที่สุด และความยุติธรรมไม่มีในโลก" จากคุณ : ซินเดอเรล่า - [ 19 มี.ค. 52 09:44:28 ]

ความคิดเห็นที่ 43 ดูในโรง ตอนยัยป้าโดนยิงแสกหน้าคนปรบมือสะใจกันทั้งโรง แต่พอตอนจบเงียบกันสุด ๆ เหอะ ๆๆ ถ้าเราเป็นพระเอก แล้วต้องอยู่ต่อไปคงตายทั้งเป็นแน่ ๆ ความรู้สึกที่ว่า ตัวเองเป็นคนฆ่าลูก เป็นคนฆ่าเพื่อน มันคงติดไปในใจอีกนาน ถ้าไม่ปลง คงไม่มีความสุขตลอดชีวติแน่ ๆ โอ้วววว เศร้า จากคุณ : mmaayy01 - [ 19 มี.ค. 52 09:47:22 ]

ความคิดเห็นที่ 44 ชอบเรื่องนี้นะ เจอเพื่อน ๆ ใครที่ยังไม่ได้ดูหรือรู้เรื่องเกี่ยวกับเรื่องนี้ ต้องรีบเอาไปให้ดู  แล้วรอดูผลหลังจากดูจบ  555 จากคุณ : สโลวโมชั่น - [ 19 มี.ค. 52 09:57:11 ]

ความคิดเห็นที่ 45 เราชอบหนังเรื่องนี้มากเลยนะ อยากดูตั้งเเต่เข้าใหม่ๆเเล้ว เเต่ไม่มีโอกาสได้ไปดู ตอนจบทำเราร้องไห้พรากๆเลย เว่อร์เนอะ อิอิ เเต่อยากบอกว่าหนังมันกดดันเรามากอะ ดูแล้วอิน เข้าใจความรู้สึกของพวกพระเอกสุดๆเลย ถ้าเป็นเรา เราคงรู้สึกสิ้นหวังสุดๆ เพราะไม่รู้ว่าหมอกบ้าบอนี่จะหายไปเมื่อไหร่ อีกนานเเค่ไหน ไม่รู้ว่า พวกตัวประหลาดๆน่ากลัวนั่น ยังมีอยู่อีกเยอะไหม เเ้ล้วเมื่อไหร่มันจะหายไป เเล้วมันจะไปเเน่ๆหรอ  - -" เเถมตอนที่อยู่ในรถเเล้วมีไอตัวประหลาดขนาดบ๊ะเฺฮิ่ม เดินทีพื้นสะเทือนผ่านไปอีก โหยยย เข้าใจอารมณ์เลย โลกนี้กลายเป็นอะไรไปเเล้วววววว คนอื่นที่ยังรอดชีวิตยังมีอยู่ไหมมมมมมมมมม ส่วนเพลงตอนจบมันก็บีบหัวใจเรามาก ตอนจบ...... สุดๆ ความกลัวมันเปลี่ยนทุกสิ่งจริงๆเเหละ T^T เเต่สำหรับเราคงไม่กล้าทำเหมือนพระเอกหรอก คงจะอยู่รอไปเรื่อยๆ ไม่มีจุดหมาย รอความตายไปวันๆ เหอๆ จากคุณ : freesize - [ 19 มี.ค. 52 10:00:04 ]

ความคิดเห็นที่ 46 ******* หลายคนคิดในมุมมองที่ 3 คือดูหนังแล้วคิดว่า น่าจะทนรออีกหน่อยก็รอดแล้ว แต่ถ้ามองในมุมมองที่ 1 คือตัวเองเป็นคนที่อยู่ในเหตุการณ์นั้นจริงๆ รับรองได้ว่า หลายๆ คนชิงฆ่าตัวตายก่อนที่จะมาบอกว่า ทำไมไม่รออีกนิดละ ดูแค่เป็นหนังกับดูแล้วคิดตามหนังว่าอยู่ในเหตุการณ์นั้นจริงๆ ความรู้สึกมานต่างกันเยอะนะครับ ......... ******* ถ้า จขกท อยากสบายใจละก็ ไปถามในห้องอับดุล ก็ได้ครับ ถามตามหลักวิทยาศาสตร์ เหตุผล โดยเฉพาะด้านทหาร รับรองได้ว่า จขกท จะได้คำตอบที่ตรงกันข้ามกับห้องนี้ที่เน้นด้านอารมณ์ ครับ ด้านอารมณ์หนังเรื่องนี้ให้เกือบเต็ม แต่ด้านเหตุผล หนังเรื่องนี้ได้เกือบต่ำสุดครับ ...... จากคุณ : monsungja - [ 19 มี.ค. 52 10:15:27 ]

ความคิดเห็นที่ 47 ไม่ค่อยประทับใจกับเรื่องนี้ ก็ตรงหนวดปลาหมึกนี่แหละ น่าจะทำได้ดีกว่านี้  ดูแล้วเหมือนหนังเกรด 2  (หรือว่าเป็นหนังเกรด 2 จริงๆ) ตอนหนวดปลาหมึกออกมา คนที่ตายก็โง่ได้ใจ  แล้วหนวดก็จัดการง่ายซะเหลือเกิน   หนวดเรื่องนี้ ถ้าไปเทียบกับเรื่อง เลื้อยทะลุ 20,000 โยช  ต้องบอกว่า คนละชั้นกันเลย จากคุณ : Free Kick - [ 19 มี.ค. 52 10:18:03 ]

ความคิดเห็นที่ 48 ถามผมว่าจะทำยังไงเมื่อมีกระสุน 4 นัดกับคน 5 คน ผมก็จะตอบว่า ให้คนมายืนเรียงชิดกันแล้วจ่อในระยะประชิดให้กระสุนทะลุจากอีกคนนึงไปถึงอีกคนนึงด้วย เอ่อ....  สงสัยดู Schindler's List มากไปล่ะมั้งเรา -_-" จากคุณ : wiseman - [ 19 มี.ค. 52 10:19:56 ]

ความคิดเห็นที่ 49 ตอนจบเป็นยังไงเหรอคะไม่เคยดู อยากรู้ๆ ตายกันเหรอ.....ปกติชอบดูหนังอย่างนี้ แต่เรื่องนี้มันน่ากลัว เลยชักไม่อยากดู จากคุณ : ชนวนกลาง - [ 19 มี.ค. 52 10:29:34 ]

ความคิดเห็นที่ 50 ส่วนตัวสำหรับเรื่องนี้คืองั้นๆ ไม่ประทับใตเลย ประเด็นของเรื่องตื้นเขิน ไม่มีอะไรที่น่าจดจำ สงสัยเรื่องนี้ทำไว้ให้เด็กดู เรื่องเก่าๆ ของผู้กำกับคนนี้ ยังทำได้ดีกว่าเรื่องนี้แยะ จากคุณ : salo - [ 19 มี.ค. 52 10:32:21 ]

ความคิดเห็นที่ 51 ลองศึกษาเรื่อง existentialist ดูนะคะ เผื่อจะเข้าใจหนังเรื่องนี้ในอีกแง่มุมนึง จากคุณ : นฌ - [ 19 มี.ค. 52 10:36:39 A:58.8.65.67 X: TicketID:123154 ]

ความคิดเห็นที่ 52 จงเชื่อในพระเจ้า - - จากคุณ : ลูกอบรสเขียด - [ 19 มี.ค. 52 10:56:43 ]

ความคิดเห็นที่ 53 ดูแล้วหิว อยากกินปลาหมึกย่าง Pirate ก็เหมือนกันอยากกิน Kraken ก็ไม่ได้หลอนอะไร แต่เกลียดยัยป้าจริง ๆ เบื่อพวกคนงมงาย อ้างว่าเป็นตัวแทนพระเจ้า ผมว่ามันสะท้อนสิ่งที่ศาสนากำลังเป็นในปัจจุบัน แทบจะทุกศาสนาก็ว่าได้ จะเห็นได้ว่าทุกศาสนาจะมีผู้นำหรือตัวแทนที่ เป็นสัญลักษณ์ของศาสดา ทั้ง ๆ ที่คนเหล่านั้นก็เป็นคนเหมือนกับเรา แต่กลับได้รับอำนาจ ความเคารพนับถือ ซึ่งหากคนเหล่านั้นใช้ในทางที่ผิด มันจะเป็นอันตรายมากอย่างที่ในหนังแสดงให้เห็น และอีกจุดนึงที่หนังจะสอนก็คืออย่าสิ้นหวังจนกว่าจะถึงที่สุด ฆ่าตัวตายก็ตายเหมือนกัน โดนสัตว์ประหลาดฆ่าก็ตายเหมือนกัน แล้วจะฆ่าตัวตายไปทำไม แทนที่จะให้สัตว์เหล่านั้นได้อิ่มท้อง จากคุณ : ปึงเจ็กตี่ - [ 19 มี.ค. 52 11:03:24 ]

ความคิดเห็นที่ 54 ชอบตอนจบมากกกกกกกกกครับ หักมุมและทำร้ายจิตใจสุดๆๆๆ หนังให้อะไกับคนดูมากมาย คนที่หาทางหนีตั้งแต่ต้นกลับต้องมาหาทางออกด้วยการฆ่าตัวตาย ส่วนคนที่รอความตายอยู่ในซุปเปอร์มาร์เก็ทคือผู้รอด ไหนจะฉากที่ผู้หญิงคนนึงขอความช่วยเหลือให้กลับไปช่วยลูกๆของเธอ แต่ไม่มีใครสักคนที่จะออกไปกับเธอ สุดท้ายได้เจอเธออีกทีบนรถกองทัพทหาร ทั้งบทพูดคำคมหลายๆตอน ทั้งศาสนา 10/10 เหมือนกันครับสำหรับเรื่องนี้ ตอนที่นั่งอึ้งอยู่ในโรงฟังเพลงอ่านเครดิตตอนท้ายจนหมดเลยคับ จากคุณ : wort - [ 19 มี.ค. 52 11:15:34 ]

ความคิดเห็นที่ 55 ในหนังสือตอนจบหลอนกว่ามากครับ แต่โดยรวมทั้งหมด หนังดีกว่าเท่าตัว จากคุณ : PITBOO (หมาน้อยผู้อยู่ในดวงใจโลก) - [ 19 มี.ค. 52 11:16:59 ]

ความคิดเห็นที่ 56 กลายเป็นหนังประจำเฉลิมไทยซะแล้วสินะ จากคุณ : yatiko - [ 19 มี.ค. 52 11:20:08 ]

ความคิดเห็นที่ 57 คืนวันศุกร์สามีเปิด i'm legend ให้ดู ต่อด้วยคืนวันเสาร์เปิด the mist ให้ดู -_-" โกรธมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก สรุปทำให้เรานอนไม่หลับกระสับกระส่ายไปสองคืน พอวันอาทิตย์เราเลยนอนทั้งวันทั้งคืนเลย จากคุณ : Qoo2003 - [ 19 มี.ค. 52 11:31:43 ]

ความคิดเห็นที่ 58 นั่งอึ้งกะตอนจบไปนานแสนนานเหมือนกันค่ะ แบบว่า "เอรี้ยยยเอ้ย จบแบบนี้" แล้วก็รู้สึก โหวงๆในท้อง ค่อนข้างเข้าใจพระเอกนะ ว่าไม่เคยจะศรัทธากับการมีความหวังของการมีชีวิตซักเท่าไร... จากคุณ : ^Oh_ScholeSSmith^ - [ 19 มี.ค. 52 11:34:59 ]

ความคิดเห็นที่ 59 จขกท. เองครับ  อ่านทุกความเห็น อบอุ่นดีครับ ถ้าไม่มาตั้งกระทู้ อ่านกระทู้ คงจะอึดอัดและคิดอะไรในใจไปเองคนเดียวแน่ๆเลยครับ วันนี้ทำงานด้วยความปวดหัวครับในช่วงเช้า สาเหตุน่าจะมาจาก The Mist เนี่ยแหละครับ  555++ จากคุณ : mung_emotalcore - [ 19 มี.ค. 52 11:41:16 ]

ความคิดเห็นที่ 60 deep rising จากคุณ : Free Kick - [ 19 มี.ค. 52 11:43:33 ]

ความคิดเห็นที่ 61 deep จากคุณ : Free Kick - [ 19 มี.ค. 52 11:43:48 ]

ความคิดเห็นที่ 62 แปลกน่ะที่คนชอบเรื่องนี้กันมาก ทั้งที่แนวเรื่องมันเห็นได้บ่อยๆจากเรื่องอื่น หรือว่าดูสื่อบันเทิงกันมาไม่มาก??? ผมยังจิตตกกับฉากตำรวจสาวโดนเผาในเรื่องsilent hillมากกว่าซะอีก จากคุณ : 4 - [ 19 มี.ค. 52 12:15:52 A:192.168.0.17 X:222.123.225.151 TicketID:165031 ]

ความคิดเห็นที่ 63 ตอนจบ... เราพูดได้คำเดียวค่ะว่า....... เฮ่ยยยย  ทำไมทำอย่างงี้อ่ะ 5555 จากคุณ : MOnKEy_PrAi - [ 19 มี.ค. 52 12:16:43 ]

ความคิดเห็นที่ 64 เรื่องนี้จุดเสียคือพยายามเน้นตรงพล๊อตเรื่องหลักมากไป บางจุดเลยดูไม่สมจริง เช่นฉากแมลงที่ชนกระจกแตกเข้ามาได้ บินกันว่อนดันมีตายแค่คนเดียว คนที่เหลือเกือบร้อยก็ดันเสียสติกันหมด กลุ่มที่ไม่เสียสติก็ดันมีแต่กลุ่มพระเอก เพราะเรื่องมันพยายามเน้นไปช๊อตเด็ดที่ว่าคนไม่ได้ตายเพราะปีศาจหรอก แต่ส่วนใหญ่จะตายเพราะฆ่ากันเอง ปีศาจตัวใหญ่กว่าตึกแต่ดันไม่มีเหยียบตึกพัง กับตอนจบที่ขัดใจบางอย่าง[สิ้นหวังเร็วไปหน่อยไหม] จากคุณ : 4 - [ 19 มี.ค. 52 12:28:40 A:192.168.0.17 X:222.123.225.151 TicketID:165031 ]

ความคิดเห็นที่ 65 หนัง The Mist ผกก.  Frank Darabont เปลี่ยนตอนจบให้ต่างจากในหนังสือเพื่อสร้างเซอร์ไพรส์ รวมทั้งเพื่อเสียดสีท่านอดีตประธานาธิบดี George W. Bush ด้วย ซึ่งก็โดนใจ Stephen King เจ้าของบทประพันธ์สุดๆ เลยทีเดียว จากคุณ : masshirokung - [ 19 มี.ค. 52 12:33:47 ]

ความคิดเห็นที่ 66 หนังดี ดีที่สุดในรอบหลายๆ ปี จากคุณ : เปล่า - [ 19 มี.ค. 52 12:42:31 ]

ความคิดเห็นที่ 67 เป็นหนังที่ชอบตอนจบ ที่สุด ความแตกต่าง ของพระเอก กับ ผู้หญิงอีกคนที่มากับรถทหาร จากคุณ : gatoblack - [ 19 มี.ค. 52 13:31:17 ]

ความคิดเห็นที่ 68 เป็นหนังที่ชอบมากๆเรื่องนึงเลยครับ จากคุณ : แหง่ว - [ 19 มี.ค. 52 13:42:59 ]

ความคิดเห็นที่ 69 ถ้าผมเป็นพระเอก ตอนจบอ่ะนะ... ไม่รู้สิ ถ้าปล่อยให้ลูกตัวเองถูกกินทั้งเป็น กับทำแบบพระเอก... พูดยากจริงๆนะ กระสุนโป้งเดียว กับโดนกัดกินทั้งเป็น ลูกคงทรมาน.... บีบหัวใจอ่ะ เรื่องนี้ แฟนผมเกลียดตอนจบมาก เหอะๆๆๆๆ จากคุณ : phoenixia - [ 19 มี.ค. 52 14:04:11 ]

ความคิดเห็นที่ 70 หนังจบละยังนั่งอึ้งในโรงต่อตั้งนาน แบบเฮ๊ย ทำไมทำงี้กะช๊าน จากคุณ : ป่านน้อย - [ 19 มี.ค. 52 14:10:32 ]

ความคิดเห็นที่ 71 ผู้กำกับดัดแปลงตอนจบใหม่ ให้พระเอกรอดและมีทหารเข้ามาช่วย ขนาดเจ้าของบทประพันธ์ยังชื่นชมเลยครับ อึ้ง .. ดี จากคุณ : jairlinethai (jairlinethai) - [ 19 มี.ค. 52 14:56:58 ]

ความคิดเห็นที่ 72 หนังมีธีม พูดถึงเรื่องของความหวัง เหมือนหนังเรื่องอื่นๆของผู้กำกับคนนี้อะครับ ตราบใดยังมีความหวังชีวิตยังไปต่อได้ ตอนจบรู้สึกว่ามันแรง แต่ไม่หดหู่อะครับ เพียงมันอาจไม่สวยงามเหมือนอย่างชอร์แชงค์ ก็เท่านั้น จากคุณ : แอคโจนบริเค - [ 19 มี.ค. 52 15:32:11 ]

ความคิดเห็นที่ 73 Shawshank แสดงถึงข้อดีของการที่ยังมีความหวังอยู่เสมอ The Mist แสดงให้เห็นถึงข้อเสียของการละทิ้งความหวัง (ซึ่ง contrast กับ ญ คนที่นั่งมาในรถ ซึ่งเป็นตัวแทนของผู้ที่มีหวัง) จากคุณ : [P@ULIE] - [ 19 มี.ค. 52 16:22:03 ]

ความคิดเห็นที่ 74 เกลียดอิป้านั้น ทุกวันนี้ยังไม่หายเลย จากคุณ : TONY CHAN - [ 19 มี.ค. 52 16:56:35 ]

ความคิดเห็นที่ 75 แนะนำจขกท อีกเรื่องครับ open water หามาดูซะ แล้วจะลืมเดอะมิสต์เลยหละ อิอิ จากคุณ : ผมก็ยังคิดว่าผมหล่อ - [ 19 มี.ค. 52 18:45:15 ]

ความคิดเห็นที่ 76 ตอนอีป้านั้นโดนยิงตาย ผมแอบอุทานเป็นภาษาเหนือบ้านเปิ้ลว่า " หือออออออ  ฮา ซ๊อบบบบบบบ ง่าวววววววววว "   555++ เอ่อ...แล้วประเด็นเรื่องหมอกกับสัตว์ประหลาดในตอนจบนั้น ไม่มีอะไรซับซ้อนใช่มั้ยครับ เป็นไปตามในหนังเลยใช่มั้ยครับ สัตว์ประหลาดตายกับหมอกหายไป เพราะทหารมาช่วยใช่มั้ยครับ แล้วพวกที่อยู่ใน supermarket ละครับ รอดตายใช่มั้ยครับ เหมือนหนังมันจะไม่บอกเลยอ่ะครับ ให้คิดเอาเอง จากคุณ : mung_emotalcore - [ 19 มี.ค. 52 19:04:06 ]

ความคิดเห็นที่ 77 จขกท. ถามต่อ 1. ขอทราบผลงานทั้งหมด หรือผลงานเด่นๆของ ผกก. คนนี้หน่อยละครับละครับ เซียนหนังทั้งหลาย 2. แล้วในหนังสือของ Stephen King กับในหนัง จบต่างกันยังไงหรอครับ ช่วยบอกที ผมไม่เคยอ่านเลยอ่ะครับ จากคุณ : mung_emotalcore - [ 19 มี.ค. 52 19:08:38 ]

ความคิดเห็นที่ 78 ชอบครับ พึ่งดูจบไปไม่นาน ดูจบเหมือนมีใครเอาก้อนหินเขวี้ยงใส่กันเลยทีเดียว ปล.อยากทราบว่าเสียดสี บุช อย่างไรเหรอครับ จากคุณ : ixohoxi (ixohoxi) - [ 19 มี.ค. 52 20:00:55 ]

ความคิดเห็นที่ 79 เดาว่าเกี่ยวกับบุชตรงที่ ตัวประหลาดที่ออกมาเป็นพวกการทดลองทางทหารอะไรแบบนี้รึเปล่าึคะ เดาเอาค่ะ -*- ส่วนตัวชอบเรื่องนี้มากมาย  พอดูจบอึ้งไปนานเลยค่ะ แต่หลักๆเลยที่เราได้จาก the mist คือ 'ไม่ว่ายังไงก็ห้ามยอมแพ้เด็ดขาด' จากคุณ : หมูจ้ำม่ำ - [ 19 มี.ค. 52 20:11:41 ]

ความคิดเห็นที่ 80 http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=aorta&month=06-03-2008&group=14&gblog=76 ขอหยิบบทวิจารณ์จากคุณ"ผมอยู่ข้างหลังคุณ" ละกันนะครับ The Mist ...ใจจริงว่าจะเขียนเชียร์ตอนเข้าใหม่ๆ แต่เห็นกระแส The Mist มาแรงดีแล้วก็เลยไม่ได้เขียนถึง หนังมีความคล้ายกับ Cloverfield ตรง สัตว์ประหลาดโผล่ไม่มากมาย และ หนังเล่นกับ 'ความเป็นคน' มากกว่า ความเป็นสัตว์ประหลาด Cloverfield กรอบนอกนุ่มใน แจ่ม ตรง สไตล์อันหวือหวา การถ่ายทำ และ ไซด์สตอรี่ ส่วน The Mist เป็นเหมือน ไก่ทอดสูตรต้นตำรับ ที่ข้างนอกไม่ได้กรอบนักแต่ข้างในแน่นเปรี๊ยะ ทั้งตัวบท ประเด็น และ ตอนจบ ...แง่มุมทั้งหลายแหล่ตามกระทู้ส่วนใหญ่ใครๆก็เขียนถึงไปหมดแล้ว คงไม่เขียนซ้ำ แน่นอนว่า ต่างก็ชอบประเด็นเดียวกันที่หนังแสดงให้เห็นถึง ความน่ากลัวของสัตว์ร้ายในใจคน ที่ทำร้ายกันได้ไม่แพ้ สัตว์ร้ายในม่านหมอก หลายหน ที่ศัตรูจากภายอกยังเห็นไม่ชัด มันยังมาแค่หมอกควัน แต่ ความวายป่วงมักเริ่มต้นจาก การแตกคอภายใน มากกว่า การรุกรานจากภายนอก ดูตัวอย่างได้ง่ายๆตั้งแต่ คราวเสียกรุง ในหนัง สัตว์ประหลาด ยังไม่โผล่ เริ่มต้นแค่ หมอก คนเราก็แตกคอ กันเสียแล้ว เพราะความกลัวจู่โจมจิตใจ สัญชาตญาณเอาตัวรอดของแต่ละคนเริ่มทำงาน ครั้น ศัตรูปรากฏชัดขึ้น แทนที่จะสามัคคีชุมนุมกันไว้ กลับยิ่งแตกกัน ชอบเหลือเกิน ที่หนังเปรียบเปรยสถานการณ์ของความสิ้นหวังของมนุษย์ ไว้กับ การเมือง และ ศาสนา และประเด็นแบ่งฝักฝ่าย ...เวลาคนจนสิ้นหวัง นักการเมืองที่มาพร้อมความฝันจะสร้างรถไฟฟ้าสิบเก้าสาย กองทุนหมู่บ้านละยี่สิบหกล้าน ฯลฯ จะเพ้อเจ้อเลื่อนลอยจะโกงกินอย่างไร ย่อมได้ใจคน มากกว่า นักการเมืองที่ต่อให้ซื่อสัตย์สุจริตคิดดีทำดีแต่ไม่ให้ความหวังใดๆ คนแบบหลังย่อมไม่มีความหมายต่อประชาชน และ ผู้คนก็จะเริ่มแบ่งเป็นสองพวกทะเลาะตบตี ...เวลาเราสิ้นหวัง ลัทธิบางอย่างก็เข้ามาให้ความหวัง มอบความเชื่อผิดๆ เช่น บริจาคเงินสะสมเลเว่ลถึงขั้นดาวดึงส์ จะช่วยให้พันทุกข์ เมื่อมีความหวัง คนที่กำลังอ่อนแอก็เดินหน้าเข้าหาความหวังโดยไม่คำนึงถึงเหตุผลใดๆ และ ผู้คนก็จะเริ่มแบ่งเป็นสองพวกทะเลาะตบตี อีกทั้งในยามสิ้นหวัง 'พระเจ้า' ซึ่งเป็นของสูงที่ทุกคนเคารพ มักถูกนำมาใช้อ้างอิงแบบพร่ำเพรื่อในทางที่ผิดๆเช่น ถูก เจ๊ป้า นำมาอ้างเพื่อหาพวก อ้างความชอบธรรมในการทำร้ายคนอื่น กลายเป็นว่า พระเจ้ามีส่วนรู้เห็นในการทำร้ายคน และ สุดท้ายเมื่อมนุษย์สิ้นหวังหมดหนทางก็จัดการ โทษพระเจ้า ว่าไม่เข้าข้างกัน กลายเป็นว่า พระเจ้าเป็นต้นเหตุในการฆ่าคนตาย ทั้งที่ทั้งหลายทั้งปวงล้วนมาจาก เงื้อมมือมนุษย์ ล้วนๆไม่เกี่ยวข้องกับใคร นี่แล ความอ่อนแอ ของ มนุษย์ ที่ทำให้ เหตุผลและความดีงาม จะถูกมองข้ามไปได้ในพริบตา เพราะ เวลาที่สิ้นหวังที่สุด มนุษย์ทุกคนต่างแสวงหา ความหวัง เหมือน คนกำลังจะจมน้ำต่อให้เห็นขอนไม้ผุๆเน่าๆมีเชื้อราเราก็ยินดีจะเอามาเกาะไว้กันตาย และ เมื่อไม่ได้ผลดั่งที่ใจต้องการก็หาทางโยนความผิดให้ใครก็ได้มารับไป ....เจ๊ป้าคลั่งศาสนา จึงเป็น ตัวแทนของนักการเมืองหรือผู้นำลัทธิ ที่ชูธง 'ความหวัง' โบกพลิ้วปลิวสะบัดไปมา และ ทำให้เจ๊ป้า น่ากลัวกว่า ป้าชุบ ในแปดคนหลายเท่า เพราะ ป้าชุบ ยังไม่มีเจตนาทำร้ายใคร แต่ เจ๊ป้า สร้างความแตกแยกให้สังคม สังเวยคนที่ไม่เห็นด้วย เอาดีใส่ตัว เอาชั่วใส่คนอื่น เอวังด้วยกระสุนฝังที่หน้าผากจึงสาแก่ใจคนดูกันทั้งโรง ตอนจบ จบแบบนี้ชอบ มันตอกย้ำความหดหู่สิ้นหวังที่คนเราต้องทำใจ ในสภาพสังคมที่ความเป็นจริงไม่ได้สวยงามเสมอ ใช่ว่าทำดีได้ดี หรือ ความพยายามอยู่ที่ไหนความสำเร็จอยู่ที่นั่น เพราะหลายครั้ง ยังมีปัจจัยที่มนุษย์ควบคุมไม่ได้และเราต้องพร้อมที่จะยอมรับมัน จบแบบนี้คิดถึง Arlington road มากๆ แต่ ติดตรงที่หลังจากพระเอกลงจากรถแล้วให้รถถังขนคนมา รู้สึกหนังแหย่ประเด็นตอนท้ายเพิ่มมากไปเหมือนมีติ่งรบกวนอารมณ์ ส่วนตัวจะชอบตอนจบของหนังเรื่องนี้มากกว่านี้ ถ้า 1.กดถอยหลังหนึ่งสเต็ป .. ดูกระสุนไม่พอคนบนรถ แล้ว จบที่เสียงปืนสี่ครั้ง ทิ้งให้คนดูกลับไปคิดเอง ประเด็นที่ทิ้งท้ายจะหนักแน่นและไม่แกว่งเพิ่มประเด็น อย่างน้อยการต่อสู้เต็มที่ดีกว่าไม่ทำอะไรเลย ยังคงมีความหมายอยู่ 2.กดเดินหน้าหนึ่งสเต็ป ... ไหนๆหากคิดจะเล่นกับ ความโหดร้ายในความเป็นจริงบนโลกใบนี้ ทั้งทีแล้ว ก็น่าจะเอาให้เจ็บแสบแบบที่สุดไปเลย คือ ให้มีฉากขนคนในซูเปอร์มาร์เก็ตขับผ่านพระเอกให้แสบสันต์แก่ใจไปถึงลิ้นปี่ สิ่งที่ชอบ ... เจ๊ป้ามาร์เซีย แสดงสะเด็ดเด่า เล่นได้ดีไม่แพ้ตอนเข้าชิงออสการ์จาก Mystic river (ยังไม่เคยดูตอนได้ออสการ์จาก Pollock) + มีความเข็มขัดสั้นอยู่หลายตอน(เช่นน้องคนสวยตายก่อนใครเพื่อน)รวมถึงตอนจบ + บทกับไดอะล็อกเขียนมาดี สิ่งที่ไม่ชอบ... พระเอกหนุ่มอดีต The Punisher ยังเล่นไม่ดีเท่าไหร่ + การตายของภรรยามีความหมายในหนังน้อยเกินไป สรุป ... แปดวัน แปลกคน เป็น หนังไทยทางเลือกใหม่ที่น่าสนับสนุนไม่ใช่แค่เพราะกล้ากับมีกึ๋น แต่ เป็นงานชิ้นแรกถึงจะยังมีจุดอ่อนอยู่มาก ก็ยังออกมามีอะไรดีๆหลายอย่างให้พูดถึงมากกว่า หนังของผู้กำกับที่ทำหนังมาหลายเรื่องแต่หาจุดดีในหนังไม่ค่อยจะเจอ ส่วน The Mist เป็นหนังสัตว์ประหลาดที่แซ่บมาก เป็นผลงานของแฟรงค์ ดาราบอนต์ ที่ผมชอบมากกว่า The Green Mile ที่ตอนนั้นบิวต์กันน้ำตากระจายแต่ไม่ค่อยอิน และเป็นผลงานดัดแปลงจากสตีเฟ่น คิง ที่ถูกใจที่สุดนับตั้งแต่ได้ดูซีรี่ส์เรื่อง It จากคุณ : mung_emotalcore - [ 19 มี.ค. 52 21:19:18 ]