Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com


    การตรวจวัดจำนวนคนดูโทรทัศน์ - 2 - เรตติ้งคืออะไร

    การตรวจวัดจำนวนคนดูโทรทัศน์ - 1 - ทำไมต้องมี เรตติ้งโทรทัศน์
    http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A7639251/A7639251.html

    -----------------------------------------------------------------------------------

    มีแต่คนคุยว่า รายการนั้นได้เรตติ้งดี รายการนี้ได้เรตติ้งไม่ดี แต่ใครจะรู้ว่า จริงๆแล้ว เรตติ้งคืออะไร ?

    จริงๆแล้ว งานวิจัยไม่ได้วัดเป็นเรตติ้งธรรมดาทั่วๆไปว่า ใครชอบดูรายการนั้น รายการนี้มากน้อยแค่ไหน ก็ให้ให้คะแนน 1-5 คะแนน แล้วหาค่าเฉลี่ยเอาว่า แต่ละรายการมีระดับความชื่นชอบเท่าไหร่

    และ เรตติ้งก็ไม่ได้มาจากการนั่งเทียนแล้วคาดการณ์ว่าจะให้เรตติ้งรายการนั้นรายการนี้เท่าไหร่

    แต่เรตติ้ง เกิดจากการวิจัยที่เป็นการตรวจวัดจำนวนคนดูโทรทัศน์ เป็นการตรวจวัด จำนวนคนดูโทรทัศน์ ในแต่ละช่วงเวลาจริงๆของบ้านตัวอย่าง หรือ ของตัวแทนในบ้านนั้น นั่นหมายถึง เราจะเก็บข้อมูลตั้งแต่การเริ่มเปิดโทรทัศน์ จนถึงปิดโทรทัศน์ ในแต่ละโทรทัศน์ในบ้านตัวอย่างที่เราสำรวจ สมมติว่า บ้านมีโทรทัศน์ 2 เครื่อง เราก็ต้องนำเอาเครื่องมือไปติดไว้ทั้ง 2 เครื่อง เพื่อตรวจจับว่ามีการเปิดปิดโทรทัศน์แต่ละเครื่องเมื่อใด เวลาใด มีคนดูโทรทัศน์ ในช่วงเวลาใด ตัวเครื่องจะจัดเก็บว่า ใครในบ้านดูโทรทัศน์ เริ่มต้นตั้งแต่วินาทีใด จนกว่าคนในบ้านหลังนั้นเลิกดูโทรทัศน์ ซึ่งข้อมูลทั้งหมดเก็บเป็นหน่วยของวินาที

    แต่การจัดเก็บแค่จำนวนคนที่เป็นกลุ่มตัวอย่าง หรือ บ้านตัวอย่าง นั้นไม่เพียงพอต่อการนำเอาข้อมูลมาวิเคราะห์ เราจึงต้องเพิ่มน้ำหนักของตัวแทนเข้าไปในแต่ละคน แต่ละบ้าน ซึ่งคนในบ้านแต่ละคนก็จะมีน้ำหนักของการเป็นตัวแทนของแต่ละพื้นที่แตกต่างกัน เช่น พ่อ อาจจะแทน ผู้ชายที่มีอายุ 40-45 ปี จำนวน 10883 คน ส่วนแม่ อาจจะแทนผู้หญิง อายุ 35-39 ปี จำนวน 11232 คน ก็ได้ ซึ่งขึ้นแต่ละพื้นที่ คนในพื้นที่นั้นๆ

    ถ้าตัวแทนดูโทรทัศน์ ก็เท่ากับการที่ คนในพื้นที่นั้น ที่มีอายุ เพศ หรือ ลักษณะเฉพาะต่างๆ ได้ดูตามจำนวนน้ำหนักที่ตัวแทนดูโทรทัศน์นั้นอ้างอิงถึง

    และ ถ้าเรารวบรวมจำนวนน้ำหนักทั้งหมด ก็จะได้ค่าประมาณของประชากรที่ดู ณ เวลานั้นๆ ว่ามีจำนวนมากน้อยเพียงใด ซึ่งตัวเลขของคนดูนี้ จะเก็บค่าเป็นหน่วยของพันคน เช่น ถ้ารวมน้ำหนักของคนที่เป็นตัวแทนทั้งหมดแล้ว ได้ 12343.123 หมายถึง มีคนดูรายการนี้ 12,343,123 คน ซึ่งตัวเลขของหลักพันคน ส่วนใหญ่เราจะแทนด้วยสัญลักษณ์ '000 หรือ '000s ซึ่งเรียกง่ายๆว่า "Thousand" บางคนก็เรียกว่า จำนวนคนดูบ้าง เป็นต้น

    จำนวนคนดูที่ได้ไม่ใช่จำนวนคนดูที่แท้จริงๆแต่เป็นจำนวนคนดูโดยประมาณจากค่าที่ได้ตามหลักสถิติเท่านั้น ซึ่งต้องเข้าใจว่าเราใช้หลักสถิติไม่ใช่การนับจริงๆ แต่ในอุตสาหกรรม ยังหลงคิดว่าเป็นคนที่ดูจริงๆในช่วงเวลานั้นๆอยู่

    จากการสำรวจ Establishment Survey หรือ การหาจำนวนบ้าน และ ประชากรในประเทศไทยว่า มีคนดูโทรทัศน์เป็นจำนวนมากน้อยเพียงใด เราจะได้ตัวเลขของจำนวนบ้าน และ จำนวนประชากรของประเทศไทยที่มีโทรทัศน์ในบ้านตั้งแต่ 1 เครื่องขึ้นไปในแต่ละปี ตัวเลขของบ้านหรือประชากรทั้งหมด เราเรียกตามภาษาสากลว่า "Universe"

    ต้องเข้าใจว่า Universe เป็นจำนวนประชากรทั้งหมด หรือ จำนวนบ้านทั้งหมดของกลุ่มเป้าหมายที่เลือกในการวิเคราะห์ มีหน่วยเป็นหลักพัน เหมือน Thousand แต่ Thousand เป็นจำนวนคนดู ณ เวลาใด เวลาหนึ่ง หรือ ค่าเฉลี่ยของคนดู ณ ช่วงเวลาใด เวลาหนึ่งเท่านั้น ดังนั้น Thousand จะมีค่าน้อยกว่าหรือเท่ากับ Universe เท่านั้น

    และเมื่อเทียบค่าของ Thousand ต่อ Universe เป็นเปอร์เซ็นต์ ก็จะ ค่าเรตติ้งของช่วงเวลานั้นนั้น ซึ่งในประเทศไทยเราใช้ สัญลักษณ์แทนด้วย TVR (TV Rating) และ มักจะไม่ใช้จุดทศนิยม หรือ มากที่สุดที่เราจะใช้จุดทศนิยมก็จะไม่เกิน 2 ตำแหน่ง เนื่องจากการระบุตัวเลขเหล่านี้เป็นเพียงค่าที่ได้จากค่าประมาณ ดังนั้น เรตติ้งก็จะเป็นค่าประมาณการด้วยเช่นกัน

    กล่าวโดยสรุป

    เรตติ้ง ในการตรวจวัดจำนวนโทรทัศน์ จึงหมายถึง ตัวเลขที่เป็นเปอร์เซ็นต์ของจำนวนคนดูในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง ต่อ จำนวนประชากรทั้งหมด

    ซึ่งถ้าจำนวนคนที่ดูในช่วงเวลาใด มีจำนวนนวนมาก ก็จะมีจำนวนเปอร์เซ็นต์มากตาม และ เนื่องจาก จำนวนคนดูเป็นเพียงจำนวนคนดูที่เกินจากการประมาณการ การใช้ตัวเลขทางด้านเปอร์เซ็นต์ จะเป็นตัวเลขที่มีความหมายได้ใกล้เคียงกว่าเพราะเพียงตัวเลขเดียว สามารถมีช่วงของค่าจำนวนคนดูได้มากกว่า ตัวเลขคนดูค่าประมาณการ ยกตัวอย่างเช่น

    หากจำนวนคนดูที่ได้ในช่วงเวลานั้น มีจำนวนคนดูประมาณ ('000) 1508
    และ มี Universe = 60107
    จะสามารถคำนวนเรตติ้งได้ = 1508 / 60107 * 100 = 2.51%

    ตัวเลขเรตติ้งแต่เดิมเราจะไม่ใส่ทศนิยม นั่นหมายถึงจะได้ = 3 เรตติ้ง
    จำนวนประชากรที่สามารถทำให้เป็นเรตติ้ง 3 จะมีช่วงอยู่ที่ 1503-2103

    ปัจจุบันมีการกำหนดจุดทศนิยม 2 หลัก นั่นหมายถึงจะได้ = 2.51 เรตติ้ง
    จำนวนประชากรที่สามารถทำให้เป็นเรตติ้ง 2.51 จะมีช่วงอยู่ที่ 1506-1511

    เพราะตัวเลขที่เป็นเปอร์เซ็นต์เป็นค่าตัวเลขที่สามารถแปลงค่าได้ออกมาเป็นช่วงของจำนวนคนดูนั่นเอง จึงเป็นตัวเลขที่ทั่วโลกยอมรับที่จะใช้ตัวเลขทางเรตติ้ง มากกว่าการใช้จำนวนคนดูโดยประมาณที่ได้

    และนี่ก็คือ ที่มาที่ไปของการใช้เรตติ้งโทรทัศน์ แทนที่จะใช้จำนวนคนดูโทรทัศน์

    แก้ไขเมื่อ 20 มี.ค. 52 01:34:35

    จากคุณ : wbj - [ 20 มี.ค. 52 01:16:54 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com