ความคิดเห็นที่ 36
เห็นด้วยกับความคิดเห็นที่ 20 ค่ะ ยอมรับการวิจารณ์ของคุณต่อพงษ์ค่ะ แต่เพิ่งคิดได้ว่ามันเน่าตอนที่เห็นคำวิจารณ์ค่ะ ตอนดูเรื่องนี้ บอกตามตรงว่าดูเพราะรักเสียงดนตรี รักในดนตรีคลาสสิค
ความรู้สึกเวลาดูซีรีย์ที่เกี่ยวกับดนตรี ไม่ว่าของชาติไหน ดิฉันจะซาบซึ้งในดนตรีทุกๆเรื่อง ซึ่งมันก็ซาบซึ้งในแบบต่างๆกัน เพราะดิฉันเป็นคนนึงที่แทบไม่สนใจหน้าตาดาราเลย ใครถามก็แทบไม่รู้จัก จึงทำให้การดูหนังแต่ละเรื่องนั้นแทบไม่มีตัวแปรใดๆมาเกี่ยวข้องกับการตัดสินความพึงพอใจของตัวเอง นอกจากบทละคร ความสมเหตุสมผลในชีวิตจริง คุณค่าของปรัชญา หรือแนวความคิดที่เราได้รับ ที่สำคัญคือ คุณค่าของดนตรี
ยอมรับจริงๆค่ะว่าทั้ง Nodame และ Beethoven Virus ทำให้ดิฉันประทับใจทั้งคู่ ในรูปแบบที่แตกต่าง (ในความเข้าใจของตนเอง)
1.ถามถึงพลอตเรื่อง
Nodame มีพลอตเรื่องที่เป็นหนึ่ง คือ ความพยายามอยู่กับดนตรี สร้างสรรค์ดนตรีให้ทรงคุณค่า Beethoven Virus มีพลอตเรื่องหลากหลายจริงๆ แต่อันนี้ก็ยอมรับว่า ยังมีพลอตเรื่องหลักคือ Beethoven Virus (ตัวละครคือไวรัสที่ถ่ายทอดจาก Beethoven)
2.ถามถึงตัวเอก
แน่นอนว่าเรื่อง Nodame ตัวเอก คือ จิอากิ กับ โนดาเมะ ตัวละครเรื่องนี้ ดูแล้วไม่เคร่งเครียดแต่ทำให้มีความหวัง คอยลุ้นความสามารถของตัวละคร มีโนดาเมะที่คอยสร้างสีสีนให้ดนตรีมีชีวิตชีวา
เรื่อง Beethoven Virus ตัวเอกสุดๆคือ ศ.คังกึนวู ที่แทบไม่ต้องคอยลุ้นกับเค้าเลย หนังเรื่องนี้ต้องการดึงความสนใจของผู้ชมไปที่ตัวอื่นๆด้วย เนื่องจากคอนเสิร์ตออกมาดีหรือไม่ แทบจะตกอยู่ที่นักดนตรี ซึ่งเป็นเหตุให้นักดนตรีกลายเป็นตัวเอกที่เดินเรื่องไปด้วย
3.ศ.คังกึนวู VS จิอากิ เมื่อวิจารณ์ถึงบทบาทการแสดงเป็นคอนดักเตอร์
การแสดงของทั้งคู่สมบทบาทมากทีเดียว แต่โดยส่วนตัวรู้สึกว่าวาทยากรคัง ดูเป็นคอนดักเตอร์ที่สมจริงมากกว่า เพราะรู้สึกว่าจิอากิจะทำแต่ท่าเดิมๆ บางท่อนที่ไม่ต้องใช้ท่าที่เน้นมากจิอากิ ก็ใส่เต็มที่ไปหน่อย ในเรื่องของ ท่าทาง จังหวะ ความรู้สึกร่วมกับการแสดง รู้สึกร่วมไปกับการแสดงของวาทยากรคังมากกว่าค่ะ
4.อื่นๆ
ที่บอกว่า Beethoven Virus เน่ามากๆนั้น มันเน่านะคะถ้ามันเป็นหนังชีวิตปกติไม่เกี่ยวกับดนตรี แต่เมื่อเกี่ยวกับดนตรี รู้สึกว่าค่อนข้องสมเหตุสมผลค่ะ
วาทยากรคัง มนุษยสัมพันธ์แย่ ทุ่มเททุกอย่างให้กับดนตรี แน่นอนว่าบุคคลนี้มีอยู่จริง นั่นคือ วาทยากรสุดยอดของโลกอย่าง Karajan ถ้าเอาความเห็นดิฉันคิดว่า เรื่องนี้ไม่ได้เลียนแบบเรื่อง Nodame มันต่างกันมากค่ะ แต่ถ้าบอกว่าสร้างตามกระแสของ Nodame นั้นก็เป็นจริงอยู่ ท่านใดที่มีโอกาสได้ชมการแสดงของ Karajan ผ่าน Youtube (ช่องทางที่ง่ายที่สุด อิอิ) (ท่านมักแสดงผลงานการประพันธ์ของ Beethoven) ลองอ่านประวัติของท่านบ้าง คุณจะพบว่า วาทยากรคัง เลียนแบบท่านได้ค่อนข้างเหมือนมาก ต่างกันที่ว่า Karajan ยังเห็นความสำคัญของคนอื่นน้อยกว่า ซึ่งถ้าบอกว่าบทบาทวาทยากรเน่า ชีวิตจริงของท่าน Karajan จะเน่ามั้ย?
เน่าอีกเรื่องคือนางเอกหูหนวก ก่อนอื่นต้องยอมรับว่าเราดูหนังที่มีชื่อเรื่องว่า Beethoven Virus Beethoven เองก็เป็นนักดนตรีที่สุดท้ายหูหนวก ดิฉันจึงเห็นว่า มันก็เหมาะสมกับชื่อเรื่องอยู่แล้ว
เรื่องวาทยากรคังกึนวูเด็ก ดิฉันเห็นว่านี่เป็นจุดที่ผู้สร้างต้องการสื่อสาร ภาษาดนตรี ใน 2 รูปแบบ คนดนตรี 2 คน ที่มีทัศนคติในการสร้างสรรค์ดนตรีที่แตกต่าง แต่ไม่มีผิด หรือ ถูก นั่นก็คืออิสระทางดนตรีอย่างนึงค่ะ ถ้าเปรียบเทียบกับโนดาเมะ ศ.คัง กับ คังกึนวู คงคล้ายๆกับ จิอากิ กับ ชอร์น (วาทยากรคู่แข่งชาวฝรั่งเศสชื่อนี้ป่าวหว่า..) แต่แค่คล้ายนะคะ ไม่ได้บอกว่าเหมือน คล้ายๆตรงกิริยาอาการที่สื่อออกมาตอนคอนดักต์ แต่เรื่องเพลง2คนในเรื่อง Nodame สื่ออารมณ์แตกต่างเพลงต่าง เรื่อง Nodame จึงตัดสินผิดถูกได้ แต่เรื่อง Beethoven Virus ตัดสินผิดถูกไม่ได้ เพราะถึงแม้กิริยาการนำวงจะแตกต่าง แต่บทเพลงที่ออกมายังสามารถสื่ออารมณ์ของผู้ประพันธ์ได้เช่นกัน
เรื่องรักสามเศร้า อันนี้ถ้าคิดว่าเป็นองค์ประกอบของเรื่องด้วยเนี่ย มันก็เน่าจริงๆอ่ะค่ะ แต่ดิฉันมองว่ามันเป็นการสื่ออารมณ์ที่อ่อนไหวของนักดนตรี แน่นอนว่านักดนตรีแทบทุกคนในโลก เมื่อมีความรักมาเกี่ยวข้อง รูปแบบดนตรีของเขาย่อมเปลี่ยนไป ดูง่ายๆเลยค่ะ ระหว่าง "Symphony No.5" ที่สื่ออารมณ์รุนแรง หนักแน่นของ Beethoven กับ "Fur Elise" บทเพลงที่สื่ออารมณ์ความรักของ Beethoven เราก็จะเห็นความแตกต่างอย่างมาก แน่นอนค่ะ *มาเอสโตร กูรักมรึงหว่ะ มันมาได้ไงคะเนีย ฮิตกันจริงๆเลย คอนเส็ปต์นี้ ถ้าหนังเรื่องนี้ไม่ได้สร้างในยุคนี้คุณจะคิดแบบนี้มั้ยเนี่ย แล้วจิอากิกะมาเอสโตรล่ะ กูรักมรึง ด้วยเหรอ? 555+ เรื่องตัวเอกอื่นๆในเรื่อง ดิฉันเห็นว่านั่นเป็นไปได้แน่นอนค่ะ สำหรับนักดนตรี ไม่ว่าจะเป็นแม่บ้านที่อยากร่วมออเศสตรา หรือคุณปู่ที่มากด้วยความสามารถและประสบการณ์แต่ความจำเสื่อม , นักดนตรีในบาร์นั่นก็คือนักดนตรี , สองสาวที่เล่นไวโอลินไฟฟ้า ทำให้เสียรูปแบบการเล่นViolin Classic หรืออื่นๆ ซึ่งดิฉันปฏิเสธไม่ได้เลยว่า บุคคลเหล่านี้มีอยู่ในชีวิตจริงแน่นอน สำหรับคนที่เป็นนักดนตรี รักในดนตรี แต่ไม่ได้เกิดมาเพื่อเล่นดนตรี เพราะมีอุปสรรคอื่นมาขวางกั้น เป็นไปได้จริงๆค่ะ สำหรับคนที่เห็นใจ คนรอบข้างมาก จนยอมละทิ้งดนตรี (เรื่องนี้สำหรับดิฉันอินกับความเป็นอาจารย์กับศิษย์ที่สื่อสารด้วยภาษาดนตรี ตัวเองก็เคยเป็นค่ะ และเคารพอาจารย์มากจริงๆ ตัวเอกเรื่องนี้สำหรับดิฉันเห็นจะเป็น ศ.คัง กับ คงกึนวู)
สรุปง่ายๆคือ
Nodame เป็นเรื่องที่เน้นความสดใส มีชีวิตชีวา สมวัย สอดแทรกแนวความคิด ของ "นักเรียนดนตรี" Beethoven Virus เป็นเรื่องที่เน้นในรูปแบบที่โตขึ้นมาหน่อยของ การเป็น "นักดนตรี" ที่สมกับชื่อเรื่อง
ปล. 2 เรื่องมีคุณค่าทั้งคู่ แต่คุณค่าแตกต่างกัน ไม่สามารถตัดสินได้หรอกค่ะว่าเรื่องไหนดีกว่า ความคิดที่วิจารณ์นี้ต้องบอกว่าดิฉันดูเรื่อง Nodame ก่อน ดิฉันยอมรับว่าเป็นคนที่ใส่ใจภาษา วิเคราะห์ทุกความหมายของคำพูด ซึ่ง Beethoven Virus ก็สื่อบทที่ซับซ้อนกว่า ดูแล้วเหนื่อยสมองมากกว่า Nodame ที่สื่ออารมณ์ตรงๆง่ายๆตามรูปแบบที่เกิดจากการ์ตูน
อยากฝากทิ้งท้ายค่ะว่า หนังทุกเรื่องมีคุณค่าในตัวของมันเอง อยู่ที่ว่าคนดูจะจับแก่นสาระของหนังเรื่องนั้นๆไปในทางไหน อย่าดูโดยเลือกประเทศ ดูโดยอคติ หนังที่เกี่ยวกับดนตรี ก็ขอให้ดูกันแบบดนตรี ศึกษาคุณค่าดนตรีแล้วท่านก็จะรู้ว่า ดนตรีไม่มีเส้นแบ่งกั้น เป็นสิ่งที่เกิดจากอารมณ์บริสุทธิ์ของนักดนตรีที่สื่อออกมาตรงๆ ทำให้ ทุกบทเพลงทรงคุณค่า และเสริมให้หนังมีคุณค่า
ขออภัยสำหรับการจัดรูปแบบการพิมพ์ที่บกพร่องค่ะ
จากคุณ :
มองต่างมุม เพื่อมุมที่แตกต่าง
- [
19 พ.ค. 52 03:55:28
A:118.174.151.255 X: TicketID:216709
]
|
|
|