ความคิดเห็นที่ 1 Season 5-01: Because You Left ประเด็นที่น่าสนใจวิเคราะห์ ชื่อของ Dr.Chang  ที่แท้จริงคืออะไร เราได้เห็นตัว Dr. Chang มาหลายฉากแล้วซึ่งก่อนหน้านั้นเรารู้จักเขาผ่านวีดีโอแนะนำสถานีแต่ละที่ ในชื่อที่แตกต่างกันซึ่งสรุปชื่อที่ถูกใช้มีดังต่อไปนี้ 1. Marvin Candle   นี่คือชื่อที่ถูกใช้ในวีดีโอแนะนำตัวที่สถานี Swan และ Arrow (ซึ่งในตอนนี้กำลังถ่ายทำอยู่ก่อนจะมีปัญหาเกิดขึ้นที่สถานีออคิดจนต้องยกเลิก) และนี่คือชื่อแรกที่เราได้ยินเขาแนะนำตัวในซีรี่ย์เรื่องนี้ผ่านสถานี Swan (ที่เดสมอนคอยกดทุก 108 นาที)   2. Mark Wickmund ชื่อนี้ถูกใช้ในวีดีโอแนะนำตัวของสถานี the Pearl (ที่อยู่ใกล้ๆ กับจุดเครื่องบินขนยาตก) 3. Edgar Halliwax ชื่อนี้ถูกใช้ในวีดีโอแนะตัวของสถานี the Orchid 4. Pierre Chang เราได้ยินชื่อนี้เป็นครั้งแรกในตอนนี้ จากคนงานคนหนึ่งที่วิ่งเข้ามาแจ้งปัญหาเรื่องสถานีออคิด ซึ่งคนงานคนนี้เรียกเขาว่า Dr. Chang ซึ่งหลังจากนี้ในตอนที่ 9 เขาจะแนะนำตัวกับแจ๊คด้วยชื่อจริงว่า Pierre Chang   ข้อมูลจากเวปบอร์ดต่างประเทศบอกว่าจาก the Comic-Con 2008 video ชื่อจริงของเขาคือ Pierre Chang   จุดสังเกตอีกอย่างของชื่อปลอมทั้งสามที่ถูกใช้คือมีคำที่น่าสนใจเช่น Candle (เทียน), Wick(ใส้เทียน), Wax  ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นส่วนประกอบของเทียนทั้งสิ้น จากคุณ : Mr. Forever - [ 28 มี.ค. 52 14:34:19 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ลูกของ Dr. Chang คือใคร แล้วทำไมถึงอยู่บนเกาะ จากที่เราได้ดูมาถึงซีซั่นที่ 5 เราทราบปัญหาดีว่าบนเกาะนี้ไม่มีแม่คนไหนสามารถคลอดลูกได้ แต่ทำไมลูกของ Dr.Chang ถึงอยู่บนเกาะได้ ซึ่งทางเลือกของคำถามนี้คือ 1. อาจจะท้องที่เกาะ แล้วไปคลอดที่แผ่นดินใหญ่ด้วยการใช้เรือดำน้ำพาไปคลอด 2. อาจจะท้องและคลอดที่นี่ ซึ่งหมายความว่าในอดีต ณ เวลานั้นไม่มีปัญหาคลอดลูกไม่ได้ที่เกาะแห่งนี้ 3. อาจจะท้องและคลอดนอกเกาะ แต่พอคลอดแล้วถึงค่อยพามาที่เกาะแห่งนี้ เพราะที่นี่มีทุกอย่างพร้อมสรรพ แต่ประเด็นที่น่าสนใจคือจากที่เราเคยดูมา ที่สถานีวิจัยแห่งนี้ก็มีเด็กเล็กๆ อยู่เต็มไปหมด รวมถึงมีโรงเรียนด้วย ดังนั้นจึงเป็นไปได้ว่า ณ เวลานั้นยังไม่มีปัญหาเรื่องแม่ที่ท้องบนเกาะแห่งนี้จะคลอดลูกบนเกาะไม่ได้เกิดขึ้น ซึ่งหมายความว่าสาเหตุที่เกิดปัญหาเรื่องแม่ท้องบนเกาะแล้วตายระหว่างคลอดลูกเกิดขึ้นหลังจากนี้ และมีผลสืบเนื่องจากอะไรบางอย่างที่เราเองก็ยังไม่ทราบ คำถามต่อไปคือลูกของ Dr. Chang จะเป็นใคร และเกี่ยวข้องอะไรกับกลุ่ม The Lostie ของเราไหม คำตอบที่คาดเดากันก็คือน่าจะเป็นไมล์ เพราะดูจากพ่อและแม่เป็นเอเชียด้วยกันทั้งคู่ และตอนนี้ก็มีไมล์นี่แหละ ที่เรายังไม่รู้ว่าพ่อและแม่ของเขาเป็นใคร ดังนั้นโอกาสเป็นไปได้ว่าไมล์จะเป็นลูกก็ค่อนข้างสูงกว่าคนอื่น จากคุณ : Mr. Forever - [ 28 มี.ค. 52 14:35:46 ]

ความคิดเห็นที่ 3 จอห์น ล็อคถูกอีธานยิง ระหว่างจะขึ้นไปบนเครื่องบิน อันนี้คงไม่มีอะไรน่าจะหยิบมาวิเคราะห์ หากไม่เป็นเพราะจากซีซั่น 1 ที่เราเคยดูมา หากมีใครจำได้จะมีอยู่ฉากหนึ่งที่ล็อคและบูน เดินมาเจอเครื่องบินลำสีเหลืองค้างอยู่บนยอดไม้ และจอห์นพยายามจะปีนขึ้นไปด้านบนเพื่อดูว่าบนนั้นมีอะไร   แต่อยู่ดีๆ ขาของเขาก็หมดแรง และกลับกลายเป็นอัมพาตขึ้นมาอีกครั้ง จนสุดท้ายบูนต้องปีนขึ้นไปเอง และสุดท้ายนั่นก็คือสาเหตุที่เครื่องบินตกลงมา พร้อมกับบูนที่ตายนั่นเอง ตรงนี้ที่น่าสนใจก็คือมันน่าจะเป็นเพราะจอห์นพยายามสร้างถนนเส้นใหม่ให้กับชะตาชีวิตของเขา นั่นหมายความว่าเขาไม่ควรจะปีนขึ้นไปบนนั้น เพราะหากเขาปีนขึ้นไป เขาก็จะตกลงมาตายพร้อมกับเครื่องบินเหมือนกับที่บูนเป็น ดังนั้นไม่ว่าจะเมื่อไหร่ก็ตามที่จอห์นพยายามจะปีนขึ้นไปบนนั้น จึงมักจะมีอะไรมาขัดขวางเขาอยู่เสมอ และสิ่งที่ขัดขวางก็ขัดขวางที่ขาของเขาตลอดเช่นกัน สรุปในเคสนี้ก็คือโชคชะตาไม่ยอมให้ล็อคตาย นั่นเพราะเขายังมีสิ่งสำคัญต้องทำอยู่ และยังไม่ถึงเวลาที่จะตายนั่นเอง จากคุณ : Mr. Forever - [ 28 มี.ค. 52 14:39:01 ]

ความคิดเห็นที่ 4 เข็มทิศที่ริชาร์ดยื่นให้ล็อคเพื่ออะไร มีความสำคัญอะไรกับเนื้อเรื่อง หลังจากที่ดึงลูกกระสุนออกมาจากขา และเย็บแผลให้กับล็อคเรียบร้อยแล้ว ริชาร์ดยื่นเข็มทิศอันหนึ่งให้กับล็อค แล้วบอกกับเขาว่าถ้าเจอกันครั้งหน้าให้ยื่นเข็มทิศอันนี้ให้กับเขา นั่นเพราะการเจอกันครั้งหน้านั้น ริชาร์ดจะจำล็อคไม่ได้   คำถามคือทำไมต้องเป็นเข็มทิศ และเข็มทิศสำคัญยังไง แน่นอนว่าคำตอบคงไม่เหมือนที่ริชาร์ดตอบจอห์นแน่นอน  ฮ่าๆๆ จะเห็นได้ว่าในซีซั่นก่อนหน้านี้มีฉากหนึ่งที่ริชาร์ดย้อนกลับไปหาล็อคสมัยเด็กๆ แล้วบอกว่าจะมีการทดสอบอะไรบางอย่างกับล็อค โดยมีของหลายต่อหลายอย่างวางให้เลือก ซึ่งประกอบไปด้วย เข็มทิศ, มีดสั้น, ขวดบรรจุทราย, หนังสือการ์ตูน, ถุงมือเบสบอล ซึ่งแน่นอนว่ามันคือการทดสอบว่าจอห์นเลือกถูกต้องหรือไม่ แต่ปรากฏว่าจอห์นในวัยเยาว์ กลับเลือกมีดแทน และแน่นอนว่าทำให้ริชาร์ดผิดหวัง และบอกออกไปว่าจอห์นอาจจะยังไม่พร้อมนั่นเอง (แต่นั่นก็หมายความว่าถ้าจอห์นเลือกเข็มทิศ เขาอาจจะถูกพาไปที่เกาะทันทีเช่นกัน) ปล. เข็มทิศในทั้งสองสถานการณ์นั้นเป็นคนละอันกัน  อันที่ริชาร์ดให้ล็อคทิศเหนืออยู่ด้านล่าง ในขณะที่ทิศใต้อยู่ด้านบน (เป็นเข็มทิศที่พวกสเปนนิยมใช้ น่าจะเป็นแบบที่พวก Black Rock ใช้ในการเดินทาง) ในขณะที่เข็มทิศที่ริชาร์ดเอาให้จอห์นเลือกตอนเป็นเด็กนั้นเป็นเข็มทิศแบบปกติ ที่มีทิศเหนืออยู่ด้านบน ปล. 2  สงสัยจอห์นคงจะฝังใจกับมีดมากกว่า เพราะตานี่พกมีดติดตัวตลอดเวลา บางเวปแซวว่าเพราะสมัยเด็กจอห์นเลือกมีดมั้ง เลยเริ่มปามีดใส่ชาวบ้านเขาไปทั่ว  ถ้าเลือกเข็มทิศก็คงไม่บ้าปามีดเหมือนปัจจุบัน จากคุณ : Mr. Forever - [ 28 มี.ค. 52 14:46:49 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ทฤษฎีเกี่ยวกับการเกิดแสงแฟลชที่พาทุกคนย้อนเวลาไปๆ มาๆ เกิดขึ้นเมื่อไหร่ และอย่างไร แสงแฟลชสีขาวเกิดขึ้น พาให้กลุ่ม Lostie และคนที่เข้ามาเกาะทีหลังอย่างพวกฟาราเดย์, ไมล์ และชาล็อต เคลื่อนตัวไปยังช่วงเวลาที่แตกต่างกันเกิดจากอะไร อันนี้คงพอเดากันได้ว่าน่าจะเป็นเพราะเบนไปหมุนวงล้อนั้น แต่เรายังไม่ทราบเหตุผลลึกๆ ในตอนที่ 1 นี้มากสักเท่าไหร่ว่าเป็นเพราะอะไรกันแน่ การเกิดขึ้นของแสงแฟลช เกิดขึ้นเมื่อมีเหตุการณ์อะไรสำคัญบางอย่างกับตัวละครสำคัญของกลุ่ม Lostie อาทิเช่น การแฟลชครั้งแรก ไม่นับผลการย้อนเวลาจากการหมุนวงล้อของเบนนั้นเกิดขึ้นตอนที่ล็อคกำลังจะถูกอีธานยิง เราได้เห็นแสงสีขาวนั้นสว่างขึ้นมา พร้อมกับล็อกที่รอดตายจากการถูกยิงอย่างหวุดหวิด การแฟลชครั้งที่สอง เกิดขึ้นหลังจากที่ริชาร์ดรักษาล็อกจนอาการดีขึ้นและไม่ขาดเลือดตายแล้ว ก่อนที่ริชาร์ดจะบอกข้อมูลสำคัญอะไรบางอย่างออกไป แสงแฟลชก็เกิดขึ้นมาอีก นั่นอาจจะเป็นเพราะ Fate(โชคชะตา) ไม่ต้องการให้ล็อครู้เรื่องการออกจากเกาะผ่านทางริชาร์ด ประมาณว่าให้รู้เท่าที่สมควรรู้เท่านั้น แล้วก็แฟลชให้จอห์นหายไป การแฟลชครั้งที่สามเกิดขึ้นตอนที่ฟาราเดย์บอกเดสมอนว่าให้ไปพบแม่ของเขาและก่อนที่จะบอกชื่อไปนั้น ก็เกิดแสงแฟลชพาเขาเคลื่อนที่ผ่านกาลเวลาอีกครั้ง แต่เราไม่แน่ใจว่าแสงแฟลชนั้นเกิดขึ้นกับเดสมอน หรือเกิดขึ้นกับพวกฟาราเดย์ เพราะดูเหมือนว่าพวก Sawyer จะไม่ได้พูดอะไรเกี่ยวกับการแฟลชช่วงที่ฟาราเดย์ไม่อยู่เลยแม้แต่น้อย แต่สรุปแล้วนั่นคือการแฟลชย้อนเวลาทั้งสามครั้งทีเกิดขึ้นในตอนที่ 1 จะเห็นได้ว่าทุกครั้งที่เกิดแสงแฟลชพาให้พวกเขาย้อนเวลาไปมานั้น ต้องมีเหตุการณ์สำคัญอะไรสักอย่างเกิดขึ้น ไม่มีใครสักคนที่กำลังประสบอันตรายอย่างที่ควรจะเกิด ก็เป็นเพราะใครบางคนกำลังได้รับข้อมูลที่ยังไม่สมควรได้รับอะไรทำนองนั้น ซึ่งอาจจะเป็นเพราะการที่เขาเหล่านั้นจะได้รับข้อมูลเหล่านั้น จำเป็นต้องเกิดขึ้นจากเหตุการณ์อื่น ไม่ใช่เหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นก็เป็นไปได้ สรุปว่าถ้าจับทุกคนมาปิดตานั่งรวมกันไม่ทำอะไรพิศดาร แสงแฟลชก็อาจจะไม่เกิดขึ้น จากคุณ : Mr. Forever - [ 28 มี.ค. 52 14:55:53 ]

ความคิดเห็นที่ 6 คำร้องขอของฟาราเดย์ และความทรงจำที่เพิ่มขึ้นของเดสมอน เราได้รับรู้กฏการเคลื่อนที่ของกาลเวลาผ่านทางฟาราเดย์ว่าเวลาก็เหมือนถนน เราอาจจะเดินไปข้างหน้า หรือย้อนไปข้างหลังก็ได้ทั้งนั้น แต่สิ่งที่เราทำไม่ได้นั่นก็คือการสร้างถนนเส้นใหม่เพื่อนำพาเราไปหาจุดหมายใหม่ๆ ที่แตกต่างไปจากจุดหมายบนถนนเส้นเดิม เราเห็น Sawyer พยายามทุบประตูเรียกเดสมอนออกมา แต่เดสมอนก็ไม่ออกมา จนกระทั่งฟาราเดย์และจูเลียตกล่อมนั่นแหละ Sawyer ถึงจะยอมรับและถอยกลับไปที่ชายหาด ระหว่างนั้นฟาราเดย์ย้อนกลับไปที่กระเป๋าของเขาเพื่ออ่านบันทึกในสมุดนั้นอีกครั้ง และดูเหมือนว่าเขาจะตกใจกับสิ่งที่เขาอ่านพบ เราไม่รู้ว่าในสมุดนั้นเขียนอะไรอยู่ และใครเป็นคนเขียน ฟาราเดย์เป็นคนเขียนเองจริงหรือ ถ้าจริงทำไมเขาถึงได้ทำหน้าตกใจราวกับว่าไม่เคยอ่านเจอขนาดนั้น หรือว่าสมุดนั้นเขียนโดยคนอื่น และเขากำลังศึกษามันอยู่แต่ยังไม่ครบทุกส่วนในสมุดเล่มนั้น จนกระทั่งเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นเขาจึงเริ่มเข้าใจอะไรบางอย่าง แน่นอนว่าเรายังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่รู้เพียงว่าสิ่งที่ฟาราเดย์อ่านพบทำให้เขาตัดสินใจเดินย้อนกลับไปหาเดสมอนอีกครั้ง พร้อมกับบอกว่าเดสมอนเป็นคนพิเศษ และกฎไม่ของกาลเวลาไม่สามารถใช้กับเขาได้  (อาจจะพึ่งเข้าใจหลังจากได้อ่านสมุด) จากนั้นเดสมอนได้รับคำร้องขอจากฟาราเดย์ให้ช่วยเหลือเขาโดยการไปพบแม่ของเขา แต่ก่อนที่จะพูดอะไรมากไปกว่านั้น แสงแฟลชก็พาให้ทุกอย่างหายไปพร้อมกับเดสมอนที่ตื่นขึ้นมา พร้อมกับความทรงจำใหม่ที่เพิ่มขึ้นมาเมื่อถึงเวลาที่เขาจำเป็นต้องจำมันได้ ซึ่งก็บังเอิญว่าเป็นช่วงเวลาที่กลุ่มที่อยู่นอกเกาะ จำเป็นต้องกลับมาที่เกาะพอดิบพอดี ด้วยเหตุนี้จึงน่าจะพอสรุปได้ว่าสำหรับเดสมอนแล้ว เขาเป็นคนพิเศษที่สามารถเปลี่ยนอดีตของตนเองได้ หากได้รับการติดต่อจากฟาราเดย์ ซึ่งถือว่าเดสมอนเป็นค่าคงที่ของเขา จากคุณ : Mr. Forever - [ 28 มี.ค. 52 14:58:17 ]

ความคิดเห็นที่ 7 Season 05 - The Lie ตอนนี้อาจจะไม่มีประเด็นอะไรที่เป็นปมมากนัก เพราะทิ้งปมต่างๆ ไว้ในตอนแรกค่อนข้างมากแล้ว ตอนนี้จึงเป็นเพียงแค่ตอนที่ขยายความเข้าใจเรื่องต่างๆ ที่ปูพื้นเรื่องมาจากตอนที่ 1 เท่านั้น ดังนั้นหน้าที่ก็มีเพียงแค่เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นหลังจากเหตุการณ์ตอนที่ 1 เป็นส่วนมาก ประเด็นที่น่าสนใจวิเคราะห์ กล่องที่เบนซ่อนไว้ในผนังและห่อผ้าคลุมคืออะไร ยังไม่มีใครตอบได้ว่ามันคืออะไร แต่ต้องเป็นสิ่งที่สำคัญน่าดูเพราะไม่งั้นเบนคงไม่ซ่อนลึกลับขนาดนั้น ธนูไฟ และการตามล่า  กลุ่มผู้ล่าคือใคร และทำไปเพื่ออะไร เราเห็นว่าอยู่ดีๆ ก็มีลูกธนูไฟร่อนลงมาตามคำร้องขอของนีล แต่แน่นอนว่าไม่มีใครต้องการไฟที่มาพร้อมลูกศรเช่นนี้ ทุกคนหนีออกจากชายหาดไปคนละทิศละทาง โดยมี Sawyer ตะโกนบอกว่าให้ไปเจอกันที่ลำธาร สาเหตุและกลุ่มผู้โจมตีนั้นยังไม่ถูกเฉลยในตอนนี้ แต่เป็นไปได้ว่าการที่กลุ่ม Lostie อาศัยอยู่บริเวณชายหาด จะเป็นอุปสรรคสำคัญ หากว่าเกิดการแฟลชขึ้น แล้วช่วงเวลาทับซ้อนกับตอนที่กลุ่ม Lostie ในอดีตก็อยู่ที่ชายหาดเช่นกัน ดังนั้น Fate ถึงได้ให้กลุ่มศัตรูเข้ามาโจมตีเพื่อไล่ไม่ให้ทุกคนปักหลักอยู่ที่นี่ Mrs. Hawking ที่โผล่มาตอนท้ายสุดมีความสำคัญอย่างไร เราได้เคยเจอเธอมาบ้างแล้วในซีซั่นก่อนๆ เช่นในฉาก Flashback ของ เดสมอนซึ่งทำให้เรารับรู้ว่าเธอคนนี้รู้เรื่องการเดินทางข้ามเวลา เธอรู้อนาคตเช่นเดียวกับที่เดสมอนรู้ ดังนั้นจึงเป็นไปได้ว่าเธออาจจะเป็นพวกเดียวกับเดสมอน หรือมีอะไรที่ลึกลับซับซ้อนมากไปกว่านั้น การปรากฏตัวของเธอทำให้เรารับรู้ว่าคนที่สามารถบอกว่าพวก Lostie ที่ออกมานอกเกาะจะกลับเข้าไปในเกาะได้อย่างไร และแน่นอนว่าเธอบอกกับเบนว่าเขาเหลือเวลาในการรวบรวมคนให้สำเร็จอีกเพียงแค่ 70 ชั่วโมงเท่านั้น จากความสำคัญของเธอที่เห็นในตอนนี้ จึงไม่น่าแปลกใจนักที่เราจะได้เห็นเธออีกในหลายๆ ตอนต่อไปจากนี้ ในฐานะตัวเชื่อมสำคัญที่จะพากลุ่มพระเอกของเรากลับไปสู่เกาะให้ได้ตามที่ตั้งใจไว้ แก้ไขเมื่อ 28 มี.ค. 52 15:18:46 จากคุณ : Mr. Forever - [ 28 มี.ค. 52 15:18:10 ]

ความคิดเห็นที่ 8 Easter Eggs ตอนที่ 1 & 2 ส่วนมากจะเน้นเล่นกับชุดตัวเลขมหัศจรรย์ของเรื่อง Lost นั่นก็คือ 4 8 15 16 23 42 - เปิดฉากแรกมาที่นาฬิกาหัวเตียงของ Dr. Chang เวลาขณะนั้นคือ 8.14 แล้วไปหยุดที่ 8.15  ก่อนจะเปลี่ยนฉากไป - มีแผ่นเสียงตกร่องระหว่างเล่นเพลงอยู่ ซึ่งอาจจะสื่อให้เห็นถึงสถานการณ์ของเกาะที่กลุ่ม Sawyer ประสบอยู่ คือเวลาสะดุดร่องวนซ้ำไปมา  หรือถ้าจะมองตามทฤษฎี Timeloop ก็อาจจะบอกคร่าวๆ ว่าเวลากำลังวนซ้ำอยู่ที่เดิม - ตอนเปิดฉากของช่วงต้นซีซั่น นิยมเปิดด้วยการตื่นนอนและกิจวัตรยามเช้าของใครบางคน เช่นซีซั่นเป็นกิจวัตรยามเช้าของเดสมอน ในขณะที่ซีซั่นสาม เป็นกิจวัตรยามเช้าๆ สายๆ ของจูเลียต และในซีซั่น 4 เราเห็นแจ๊คตื่นเช้ามาดื่มน้ำส้มดูข่าวเช้า (ซึ่งปรากฏว่าเป็นฮิวโก้ขับรถหนีตำรวจ) และแน่นอนว่าในซีซั่น 5 นี้เราได้ดูกิจวัตรยามเช้าของ Dr. Chang - หมายเลขคิวของเบนตอนที่อยู่ที่ขายเนื้อคือ 342 - ราคาน้ำมันที่ปั๊มที่ฮิวโก้ไปซื้อเสื้อ และเคทขับมาจอดอยู่ที่ลิตรละ $3.42 - การตรวจสอบเบื้องหลังแผ่นหินด้วยคลื่นโซน่า ทำให้พบกับอะไรบางอย่างที่ดูเหมือนวงล้อที่เบนให้หมุนเพื่อย้ายเกาะ แก้ไขเมื่อ 28 มี.ค. 52 16:11:59 แก้ไขเมื่อ 28 มี.ค. 52 16:06:37 จากคุณ : Mr. Forever - [ 28 มี.ค. 52 15:24:13 ]

ความคิดเห็นที่ 9 "ด้วยเหตุนี้จึงน่าจะพอสรุปได้ว่าสำหรับเดสมอนแล้ว เขาเป็นคนพิเศษที่สามารถเปลี่ยนอดีตของตนเองได้ หากได้รับการติดต่อจากฟาราเดย์ ซึ่งถือว่าเดสมอนเป็นค่าคงที่ของเขา" แต่ Fate ก็พยายามจะไม่ให้เค้าเปลี่ยนอดีตใช่มั๊ยครับ เหมือนตอนที่เค้า Flashback กลับไปซื้อแหวนแล้วคุยกับแม่ฟาราเดย์ ซึ่งเค้าทำท่าว่าจะเปลี่ยนอดีต อยู่ดีๆแม่ฟาราเดย์ก็ห้ามไม่ให้เค้าเปลี่ยนอดีต แต่ดูเหมือนว่าถ้าเค้าจะทำจริงๆก็น่าจะทำได้หรือเปล่า ? หรือว่าความพิเศษคือ ปกติคนที่กลับไปอดีตโดยหมุนล้อเฟือง (ริชาร์ด เบน ล็อค) จะไปทั้งตัวและจิต แต่เดสมอนด์ไปแค่จิตส่วนร่างกายก็จะวูบไป (ฟาราเดย์ในห้องแล็ปบอกว่าเค้าหลับไปนานเลย) จากคุณ : natsueme - [ 28 มี.ค. 52 16:17:09 ]

ความคิดเห็นที่ 10 แรก ๆ เรา ว่า ฟาราเดย์ ห้าม ซอเยอร์  เพื่อ เบี่ยงประเด็น  ไม่ให้ ซอเยอร์  แก้ไขอดีต เสียอีก  เพราะ จะมี ผลกระทบ ตาม มา มากมาย   โดย ฟาราเดย ไป เรียก เดสมอนต เสียเอง  เพื่อ ขอความช่วยเหลือ จากภายนอกโดยไม่ให้ มี ผลกระทบ ลำดับ เหตุการณ มากมาย บนเกาะ เสียอีก แก้ไขเมื่อ 28 มี.ค. 52 16:23:49 จากคุณ : Fendi - [ 28 มี.ค. 52 16:22:52 ]

ความคิดเห็นที่ 11 - ซันถามเคทว่า  "wouldn't you do anything in the world to save Aaron?"  ซึ่งเป็นประโยคเดียวกันที่กลุ่ม The Others ใช้ถามไมเคิ่ลเกี่ยวกับ Walt  ซึ่งอย่าลืมว่า Walt คือคนที่กลุ่มเบนตามหาก่อนนั้น และก็เช่นเดียวกับกับที่ตอนนี้กำลังตาล่าแอรอนอยู่ - ตอนที่อนา ลูเซียปรากฏตัว หลังจากนั้นฮิวโก้เดินเข้าไปซื้อเสื้อใหม่ตามคำแนะนำ  ในร้านเปิดเพลงๆ หนึ่งชื่อ ''The Dream Police''   - เวลาตอนที่ซันเดินเข้าไปคุยกับวิทมอธ์  ในห้องที่สนามบิน  เวลาตอนนั้นเป็นเวลา 9.22 นาที ซึ่งตรงกับวันที่เครื่องบินตก คือเดือน 9 วันที่ 22 จากคุณ : Mr. Forever - [ 28 มี.ค. 52 16:29:20 ]

ความคิดเห็นที่ 12 - ตอนที่สนามบินสแกนพาสปอร์ตของซัน ปรากฏว่าในหน้าจอมีโปรแกรม Photoshop เปิดขึ้นมาพร้อมกับภาพพาสปอร์ตของซันในนั้น   มีข้อสังเกตอีกอย่างคือพาสปอร์ตเริ่มต้นที่ปี 2001  ไม่แน่ใจว่าตอนนั้นที่เริ่มทำพาสปอร์ต ซันแต่งงานกับจินหรือยัง ถ้าแต่งแล้วทำไมไม่ใช้นามสกุลของจิน จากคุณ : Mr. Forever - [ 28 มี.ค. 52 16:33:24 ]

ความคิดเห็นที่ 13 - เตียงเด็กในบ้านของ Dr. Chang น่าจะเป็นอันเดียวกันกับที่แครล์เจอในป่า ต่างเพียงแค่มันถูกเปลี่ยนโดยการทาทับด้วยสีขาว จากคุณ : Mr. Forever - [ 28 มี.ค. 52 16:35:17 ]

ความคิดเห็นที่ 14 อยากให้มีแบบนี้ทุกตอน แบบแปลแล้วอ่ะ ชอบ อ่านแล้วดูนุกขึ้น จากคุณ : Final-13 - [ 28 มี.ค. 52 16:41:03 ]

ความคิดเห็นที่ 15 - ฮิวโก้ซื้อเสื้อใหม่เป็นรูปน้องหมาพันธุ์ซิซุ   ซึ่งบังเอิญจังที่ดันไปเหมือนกับภาพในกระท่อมของจาคอบ จากคุณ : Mr. Forever - [ 28 มี.ค. 52 16:50:27 ]

ความคิดเห็นที่ 16 อุปกรณ์ที่ฟาราเดย์ใช้ในการคำนวนหาแบริ่งของเกาะ ณ เวลานี้คือสิ่งที่เรียกว่า Sextant ซึ่งมีอยู่จริง http://en.wikipedia.org/wiki/Sextant จากคุณ : Mr. Forever - [ 28 มี.ค. 52 16:53:35 ]

ความคิดเห็นที่ 17 natsueme - น่าจะเป็นเฉพาะเคสที่การเปลี่ยนแปลงนี้ไม่มีผลกับชะตาชีวิตของเดสมอนครับ ซึ่งเมื่อคนที่เป็นค่าคงที่ ติดต่ออะไรกับเขาสักอย่างในอดีต  สิ่งนั้นจะเกิดขึ้นและกลายเป็นความทรงจำใหม่ของเดสมอน เหมือนกับที่เกิดขึ้นในตอนนี้นี่เอง ในกรณีที่แม่ของฟาราเดย์โน้มน้าวจิตใจของเดสมอน ในตอนที่เขาหมดศรัทธาและตั้งใจจะเปลี่ยนอนาคต ตอนนั้น Fate รับรู้ว่าเดสมอนจะเปลี่ยนชะตาชีวิตของตัวเอง ทำให้ Fate ส่งแม่ของฟาราเดย์มาเพื่อโน้มน้าวจิตใจของเดสมอน ให้เดินไปตามเส้นทางที่ควรจะเป็น  นั่นเป็นเพราะการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้มีผลกับชะตาชีวิตของเขาโดยตรงนั่นเองครับ Fendi - ใช่แล้วครับที่ฟาราเดย์ห้าม Sawyer ในการพบกับเดสมอน เพราะตามประวัติศาสตร์แล้ว ทั้งคู่ไม่เคยพบกันในอดีตมาก่อน ทำให้การพบกันครั้งนี้จะกลายเป็นการเปลี่ยนแปลงอดีต เพราะจะกลายเป็นการเร่งการพบกันครั้งแรกของทั้งคู่ให้ไวขึ้น ด้วยเหตุนี้ฟาราเดย์จึงห้าม Sawyer เจอเดสมอน เพราะจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางประวัติศาสตร์เกิดขึ้น ซึ่งเขาเองไม่ทราบว่า มันจะมีผลกระทบอะไรบ้าง ดังนั้นการไม่ให้ทั้งคู่พบกันจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด ณ เวลานั้น จากนั้นเขากลับไปอ่านสมุดบันทึก แล้วอ่านเจออะไรบางอย่างที่สำคัญ ที่ทำให้เขาตัดสินใจไปพบเดสมอนอีกครั้ง ซึ่งเราก็ไม่ทราบว่าสิ่งที่เขาอ่านเจอคืออะไร  และสิ่งที่เขาอ่านเจอนั้น เขียนโดยตัวเองจริงไหม หรือเขียนโดยคนอื่น ที่อาจจะรู้อะไรมากกว่า เพราะจากสีหน้าดูแล้วไม่เหมือนกับเขาเคยอ่านเจอมาก่อนเลย แต่ที่รู้ๆ คือสุดท้ายฟาราเดย์ก็ไปหาเดสมอน และสิ่งที่เขาบอกกับเดสมอน ก็กลายเป็นความทรงจำใหม่ของเดสมอนที่เพิ่มเข้าไป ในช่วงเวลาที่เหมาะสมกับช่วงเวลาที่จำเป็นต้องจำได้  อย่าลืมว่าข้อความนั้นส่งมาตั้งแต่เมื่อสามปีก่อน   แต่เดสมอนพึ่งกลับมาจำได้หลังจากออกจากเกาะมาตั้งสามปี นั่นเพราะช่วงนั้นเป็นช่วงที่ทุกคนกำลังจะกลับเกาะพอดีนั่นเอง จากคุณ : Mr. Forever - [ 28 มี.ค. 52 17:02:17 ]

ความคิดเห็นที่ 18 เสริมนิด .... จาก คห.12 ผู้หญิงเกาหลีที่แต่งงานแล้วไม่ต้องเปลี่ยนไปใช้นามสกุลของสามีค่ะ (แต่ลูกจะใช้นามสกุลของพ่อ) ที่เหลือรออ่านอยู่นะคะ ^^ จากคุณ : spring rain - [ 28 มี.ค. 52 17:53:03 ]

ความคิดเห็นที่ 19 อยากให้เขียนเป็นหนังสือขาย จะซื้อเก็บไว้เลย จากคุณ : grinny2545 - [ 28 มี.ค. 52 19:37:24 ]

ความคิดเห็นที่ 20 -------คนเราสามารถเปลี่ยนแปลงอนาคตได้-------- แม้อนาคตอาจถูกกำหนดโดย"แนวเส้นทางของเวลา"(Time Line) ก็จริง แต่มนุษย์สามารถเปลี่ยนแปลงได้โดยใช้ เส้นทางของเวลา อีกเส้นหนึ่ง.... "อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด ไม่จริง"ดร.ลุยซ่า ไรน์ แม้เหตุการณ์ต่างๆจะถูกกำหนดไว้ในอนาคตก็ตาม แต่คนเราก็สามารถหลีกเลี่ยงเหตุการณ์นั้นได้ โดยจิตใต้สำนึกบอกล่วงหน้า โดยการเปลี่ยนเส้นทางของเวลาไปสู่อีกทางหนึ่ง ส่วนการข้ามไปมา ย้อนเวลาไปทั้งตัว ส่วนใหญ่เรียกว่า การหักเหของเวลา(Timeslips)สามารถเกิดได้ทุกที่ ทุกเวลา ไม่จำกัดยุคสมัย เรื่องของเดสมอนด์ ที่ย้อนเวลาโดยจิต นั้นคือการ"การรู้เหตุการ์ล่วงหน้า""และการ"ล่วงรู้ในอดีตด้วยจิตใต้สำนึก"(คือช่วงที่จู่ๆ ฟาราเดห์เปิดประตูมาหาเขา) หรับการล่วงรู้เหตุการ์ล่วงหน้านั้น เดสมอนด์มีความสามารถทาง"จิต" ที่อาจกล่าวได้ว่ามองเห็นเหตุการ์ในอนาคต(หลังจากได้รับสนามแม่เหล้กมากๆ)หรือเหตุการในอดีต ซึ่งจะในระยะไกลและไกลภายใต้"จิตสำนึก"ของเดสมอนด์ ทั้งหมดเป็นความจริงที่ปฎิเสธไม่ได้ หากค้นคว้าอย่างละเอียดจะพบว่า"การรู้เหตุการ์ล่วงหน้า"เกี่ยวกับความหายนะหรือเรื่องร้ายๆในหัวของเดสมอนด์นั้น จะมีมากกว่าการล่วงรุ้เหตุการ์อื่นๆทั้งหมดมารวมกัน คงเป็นเพราะ"จิต"ของเดสมอนด์กังวลอยู่กับเรื่องร้ายๆที่จะเกิดตลอดเวลา จึงทำให้เกิดเหตุการย้อนไปยังการพบฟาราเดห์ครั้งบนเกาะเกิดการข้ามเวลา -----การเห็นภาพหลอน------ ความผูกพันของชีวิตกับอดีต การทำให้คนใดคนหนึ่งสามรถกลับสู่อดีต(โอเชียนิคทุกคน ข้ามเวลาไป3ปีก่อน ซึ่งทำให้ล็อคหายจากอัมพาต)จะยากกว่าการทำให้เขาสามารถรู้หรือมองเห็นเหตุการณ์ในอนาคตเสียอีก ทั้งนี้คนบนเกาะนี้(แจ็คเห็นพ่อ เคทเห็นม้า เบนเห็นแม่) มักจะนึกถึงเรื่องราวที่เขาเคยมีประสบการ์มาก่อน ดังนั้นจิตใต้สำนึก ขอกพวกเขาจะนำสิ่งที่จดจำไว้ในสมองมาแสดงออกในรูปของเหตูการณ์ในอดีตที่ไม่เป็นจริง(เอโค่ เจอคนที่เขาฆ่าตอนซื้อคาเฟอีน ที่เขากำลังฆ่าอีกบนเกาะ) นั้นก็คือ"ภาพหลอน" ส่วนบุคคลที่ทำการทดลองต้องการมองเห็นสิ่งล่วงหน้า(ป้าฮอคิง) พวกเขาอาจไม่เคยรู้ว่ามีประสบการ์ในสิ่งนั้นมาก่อน ดังนั้นจิตใต้สำนึกของพวกเขา จริงสามารถมองเห็นเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นจริงๆในอนาคตได้(ชายรองเท้าแดง ถูกอิฐก่อสร้างทับ หรือ เดสมอนด์ไม่ซื้อแหวน) จากคุณ : ดร.สุริยะ - [ 28 มี.ค. 52 21:32:36 A:192.168.0.17 X:118.173.152.141 ]

ความคิดเห็นที่ 21 Final-13  - ดีใจที่ชอบครับ เดี๋ยวจะเอาตอนที่ 3 & 4 มาแปะต่อพรุ่งนี้ครับ  ถ้าชอบอย่าลืมอ่านพร้อมวิจารณญาณส่วนตัวครับ ^^ spring rain - อ้อ เป็นเช่นนี้ีนี่เอง  ขอบคุณมากครับที่ช่วยเสริม  อย่าลืมตามอ่านเรื่อยๆ นะครับ ^^ grinny2545 - ถ้าเอามาขายคงโดนฟ้องลิขสิทธิ์อานครับ  เพราะส่วนใหญ่ก็อ่านเอามาจากเวปบอร์ดหลายๆที่ในประเด็นที่เขาวิเคราะห์กันมา แล้วผมเอาจับอันที่น่าสนใจมาสรุปให้อ่านกันครับ บางทฤษฎีที่เห็นก็เป็นเพียงแค่ทฤษฎีหรือแค่คาดเดานะครับ  อ่านไปก็จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องวินิจวิเคราะห์ แล้วใช้วิจารณญาณด้วยนะครับ ^^ ดร.สุริยะ - ถ้าเป็นทฤษฎีที่ว่าคนเราสามารถสร้างถนนของชะตาชีวิตได้หลากหลายเส้นทาง และสามารถเปลี่ยนอดีตเพื่อสร้างอนาคตใหม่ได้ ก็จะเป็นการผิดกฎตามที่ Dr.Chang หรือฟาราเดย์บอกนะครับ  แต่ก็ต้องตามดูต่อไปเนอะ ส่วนประเด็นเรื่องการเคลื่อนที่ผ่านการเวลาที่แตกต่างระหว่างการเคลื่อนย้ายเฉพาะจิต  กับการเคลื่อนไปทั้งกายและจิต พร้อมๆ กัน หรือแบบต่างไปกันคนละอย่าง เดี๋ยวจะมาสรุปให้ฟังในตอนหน้าครับ ^^ จากคุณ : Mr. Forever - [ 28 มี.ค. 52 22:17:01 ]

ความคิดเห็นที่ 22 555+ ผมไม่อินมากครับเรื่องใครผิดในทฎษฎีนี้ เพราะ lost แดลเนียล มาร์ค เป็นคนในหนัง แต่ดร.ลุยซ่า ไรน์ เป็นวิทยาศาสตร์จริงๆ แต่ดูแล้วอิธพลทางแนวคิดก็มาจากดร.ไรน์ เหมือนกัน จากคุณ : ดร.สุริยะ - [ 28 มี.ค. 52 23:11:15 A:118.173.152.141 X: ]

ความคิดเห็นที่ 23 ข้อมูลเยี่ยมจริงๆครับ ขอบคุณๆๆ จากคุณ : หนุ่มเจ้าสำราญ - [ 30 มี.ค. 52 13:41:12 ]