ความคิดเห็นที่ 1 20th Cenruty Boys มังงะ (Manga) หรือการ์ตูนญี่ปุ่นในแนวไซไฟ/ลึกลับ หรือเรื่องที่ค่อย ๆ เปิดเผยปมและเนื้อเรื่องทีละนิด เขียนโดย Naoki Urasawa เริ่มลงตีพิมพ์ครั้งแรกปี 1999 (2542) ในหนังสือการ์ตูนรายสัปดาห์ที่ญี่ปุ่น ชื่อว่า Big Comic Spirits (จัดพิมพ์โดยโชงะคุคัง เป็นหนังสือการ์ตูนที่เน้นสำหรับคนอ่านวัย 20+) และตีพิมพ์เป็นฉบับรวมเล่มลิขสิทธิ์ภาษาไทยโดยสำนักพิมพ์เนชั่น ครั้งแรกเมื่อ เมษายน 2001 (2544) ในชื่อไทยว่า "แก๊งค์นี้มีป่วน" มีทั้งหมด 22 เล่ม + 2 เล่ม (21st Century Boys) ซึ่งเป็นสองเล่มบทสรุปแห่งการ์ตูนเรื่องนี้ โดยตีพิมพ์ฉบับสุดท้ายลิขสิทธิ์ไทย เมื่อกุมภาพันธ์ 2008 (2551) ระยะเวลาการตีพิมพ์จนจบครบชุด ใช้เวลา 7 ปี แต่ตัวการ์ตูนเริ่มต้นจริง ๆ ที่เขียนในญี่ปุ่นใช้เวลาถึง 8 ปี (จากคำโปรยปิดท้ายเล่มจบ 21st Century Boys หน้า 197 ฉบับรวมเล่มลิขสิทธิ์ไทย) นั่นหมายถึงว่าการ์ตูนเรื่องนี้เขียนจบ(ในญี่ปุ่น)เมื่อปี 2007 (2550) อย่าพึ่งงงกับตัวเลขครับ พยายามเขียนเป็น ปี ค.ศ.เพื่อให้สอดคล้องกับเนื้อหาในการ์ตูน และพยายามสร้างบรรยากาศการอธิบายเหตุการณ์เป็นปี ค.ศ. เหมือนในการ์ตูน :) การ์ตูนนี้ดีตรงไหน ถ้าไม่ดี ก็คงไม่ได้รับรางวัลถึงสามรางวัล(ในญี่ปุ่น) นั่นก็คือ 1. รางวัลการ์ตูนยอดเยี่ยม ครั้งที่ 48 จาก Shogakukan (โชงะคุคัง คือ สำนักพิมพ์ในประเทศญี่ปุ่น เจ้าของการ์ตูนรายสัปดาห์ชื่อดังอย่าง โชเน็น ซันเดย์ และโดราเอมอน ... โดยก่อตั้งเมื่อ 8 สิงหาคม 1922) 2. รางวัลชนะเลิศจากงาน Media Arts ครั้งที่ 6 ของทบวงวัฒนธรรมญี่ปุ่น 3. รางวัลการ์ตูนยอดเยี่ยม ครั้งที่ 25 จาก Kodansha (โคดันฉะ คือ สำนักพิมพ์ในประเทศญี่ปุ่น เจ้าของหนังสือการ์ตูนโชเน็นแม็กกาซีน และเรื่องดังอย่าง คาเมน ไรเดอร์ ... ก่อตั้งเมื่อ 1 กรกฏาคม 1963) อันที่จริงการ์ตูนเรื่องนี้ออกมานานแล้ว แต่ผมพึ่งคิดจะไปซื้อมาอ่าน :P พอได้อ่านจึงเกิดความรู้สึกอยากมาบอกเล่า ว่า การ์ตูนที่ดี ก็มีนะ ไม่ใช่ว่าถ้าเป็นการ์ตูนญี่ปุ่นแล้วจะแย่ไปหมด การ์ตูนเรื่องนี้ขอใช้ชื่อมาจากเพลงของวงดนตรีร็อคสัญชาติอังกฤษ ชื่อว่า T.Rex อัลบั้มออกมาเป็น Single เมื่อปี 1973 โดยใช้ชื่อคล้ายกัน ต่างกันตรงที่ชื่อเพลง คือ 20th Century Boy ส่วนการ์ตูนจะเป็นบรรดาเด็กชายหลาย ๆ คน (Boys) แก้ไขเมื่อ 05 เม.ย. 52 17:30:29 จากคุณ : wolf - [ 5 เม.ย. 52 16:05:35 ]

ความคิดเห็นที่ 2 กลับมาที่เนื้อหาของการ์ตูน เรื่องนี้ใช้วิธีการดำเนินเรื่องผ่านตัวละครจำนวนมาก....โดยยืนพื้นของเหตุการณ์เริ่มต้นทั้งหมดในปี 1969 จากกลุ่มเพื่อนเด็ก ๆ วัยประถม (5) ที่ใช้ชีวิตในยุคหลังสงครามโลก ซึ่งยุคนั้นถ้าสมัยนี้ก็เรียกว่ายุค Sixty - Seventy ที่เต็มไปด้วยเหตุการณ์และของให้รำลึกแบบคลาสสิค อย่างเพลงร็อคมัน ๆ, ชาวฮิปปี บุปผาชน, ฮีโร่ อภินิหารต่าง ๆ รวมถึงของเล่นเก่า ๆ เรื่องเล่ายาวไปจนถึงปี 2000 ตามชื่อเรื่องและปิดท้ายที่ศักราชใหม่ในชื่อว่า เพื่อนศักราช (ประมาณปี 2015 - 2018) เพราะเรื่องราวมาจบในปี 2015 + 3 ปีเพื่อนศักราช เลยมีสองเล่มปิดท้ายที่ใช้ชื่อว่า 21st Century Boys ตัวดำเนินเรื่องที่เด่นชัด (เพราะเป็นตัวเปิดเรื่องและปิดเรื่อง) ก็คือ เคนจิ กับ "เพื่อน" วิธีการนำเสนอผ่านทางหน้าหนังสือของอ. นาโอกิ ใช้วิธีการเล่าเรื่องที่สลับไปสลับมาในช่วงปีต่าง ๆ โดยมีการผูกปมปัญหาและข้อสงสัยไว้ในอดีต จากนั้นก็นำเรื่องราวมาในเหตุการณ์ปัจจุบันเพื่อแก้ไขปมหรือเฉลยข้อสงสัยในอดีตเป็นช่วง ๆ ทำให้ตื่นเต้นและเร้าใจ รวมถึงเกิดความรู้สึกอยากติดตามและอยากรู้ วิธีการนำเสนอแบบนี้ถ้าใครที่ไม่นิยมการจดจำหรือการกระโดดข้ามช่วงเวลาไปมา ก็อาจจะทำให้เบื่อในการอ่านได้ ความตื่นเต้นของเรื่องราวคงอยู่ที่การติดตามว่า "เพื่อน" คือใคร แล้วเหตุการณ์ต่าง ๆ ในอดีตมีความเกี่ยวข้องกับชีวิตผู้คนในปัจจุบันได้อย่างไร จากการที่ได้อ่าน(และติดเป็นอย่างมาก) วิธีการเล่าเรื่องของอาจารย์นาโอกิราบรื่น ไม่มีหลงประเด็นหรือติดบ่วงปมตัวเองที่ได้เขียนไว้ไม่มีการสร้างตัวละครพิเศษหรือเพิ่มขึ้นมาเพื่อยืดเนื้อเรื่อง (...แหะ ๆ ๆ ไม่ได้แอบแขวะการ์ตูนเรื่องไหนนะครับ ... ) ถึงแม้ว่าเรื่องราวเกือบทั้งหมด จะมีการเฉลยออกมาในช่วงรวมเล่มชุดกลาง ๆ (ประมาณสิบกว่า ๆ) แต่เรื่องก็ยังไม่จบ เพราะยังมีประเด็นที่ต้องแก้ไขต่อ ความตื่นเต้นจึงมีต่อไปจนถึงเล่มท้าย ตัวละครออกแบบได้สวย และสื่อให้เห็นถึงความมีตัวตนที่แท้จริงได้ (ไม่เชื่อลองดูภาพยนตร์ละกันครับ ตัวละครแต่ละตัวทำได้เหมือนในการ์ตูนได้อย่างเหลือเชื่อ เพราะตัวการ์ตูนออกแบบอ้างอิงตามลักษณะคนจริง ๆ) จากคุณ : wolf - [ 5 เม.ย. 52 16:07:39 ]

ความคิดเห็นที่ 3 การ์ตูนเรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องมี Service มากมายก่ายกอง ฉากหวือหวาก็ไม่ค่อยมี ข้อดีก็คือเนื้อหาที่นำเสนอทั้งแบบตรง ๆ และแบบแฝง อย่างการนำเสนอสิ่งดี ๆ ที่ตรงไปตรงมา นั่นก็คือเรื่องของคำว่ามิตรภาพ หรือคำว่าเพื่อน การช่วยเหลือซึ่งกันและกัน และการไม่ลืมกัน ... ถ้าจะเทียบกับเพลงไทย ๆ ก็ประมาณนี้ "เพื่อนไม่เคยไม่เคยทิ้งกัน ไม่ว่าความฝันนั้นจะไกลซักเท่าไหร่... (นรินทร ณ บางช้าง)" วัยเด็กเป็นวัยช่างฝัน เมื่อเติบโตขึ้นต่างคนต่างมีสิ่งที่ต้องทำแตกต่างกันไป แต่เมื่อถึงเวลาถ้าเพื่อนต้องการความช่วยเหลือ เพื่อนก็ไม่ทิ้งกัน ส่วนเนื้อหาดี ๆ ที่มาแบบแอบแฝง นั่นก็คือ ความพยายาม (ซึ่งการ์ตูนญี่ปุ่นหลายเรื่อง ก็นำเสนอสิ่งเหล่านี้) หากมีความฝันอย่างเดียวย่อมไม่พอ สิ่งที่ต้องมีเพิ่มเติมตามมา นั่นก็คือความพยายาม ความอดทน ... ถ้าจะเทียบกับแบบไทย ๆ ก็ประมาณนี้ "มนุษย์ทุกคนสามารถเปลี่ยนแปลงโชคชะตาตนเองได้... (บัณฑิต อึ้งรังษี)" ซึ่งไม่ต่างจากเคนจิตัวละครนำ ที่พยายามเปลี่ยนแปลงโชคชะตาทั้งของตัวเองและของชาวโลก การ์ตูนที่ดีคงไม่ได้เกิดขึ้นหรือมีได้กับการ์ตูนทั้งหมดในโลกนี้ ที่ดีก็มี ที่แย่และเลวร้ายก็มีเช่นกัน ขึ้นอยู่กับว่าเราจะ "พยายาม" มองในด้านอื่น ๆ หรือไม่ อย่าปล่อยให้ทิฐิบดบังจนทำให้มองเห็นว่าโลกนี้หรือการ์ตูนมีแต่สีขาวสุด และดำสุด :) การ์ตูนที่ดี ไม่จำเป็นต้องเป็นเฉพาะการ์ตูนสอนจริยธรรม คุณธรรม หรือวิชาความรู้แบบตรงไปตรงมา ตัวละครต้องแต่งตัวเรียบร้อยตลอดเวลา ไม่มีคำหยาบคาย ความคิดของผม คำว่าการ์ตูนที่ดีต้องสะท้อนสังคมอย่างตรงไปตรงมา แสดงให้เห็นความเป็นจริงในทางสังคมและการอยู่ร่วมกัน รวมถึงสื่อถึงวิธีคิดที่ดี และการปฏิบัติตนไปสู่หนทางที่ดี ซึ่งเรื่องนี้ผมมองว่ามีการสื่อถึงวิธีคิดที่ดี ถึงแม้จะไม่คุณธรรมจี๊ดจ๊าด แต่คำตอบที่ชัดเจนสำหรับการอยู่ร่วมกันในสังคมได้อย่างสงบสุข คือคำที่เคนจิพูด(ในวัยโต)กับผู้ใหญ่อีกหนึ่งคนว่า "เลิกเล่นได้แล้ว!!!" นี่แหล่ะครับ ผู้ใหญ่อย่างพวกเรามักจะเอ็ดหรือต่อว่าคนที่คิดอะไรแผลง ๆ เล่นอะไรแปลก ๆ ว่า อย่าเล่นแบบเด็ก ๆ แต่เชื่อไหมว่า บางทีสิ่งที่กำลังทำและคิดว่ากันว่านี่แหล่ะผู้ใหญ่เท่านั้นที่ทำ จริง ๆ แล้วมันอาจจะเป็นการละเล่นแบบเด็ก ๆ ก็ได้ ที่ไม่สนใจว่าใครหรืออะไรจะเดือดร้อน ... ดังนั้น "เลิกเล่นกันได้แล้ว!!!" จากคุณ : wolf - [ 5 เม.ย. 52 16:09:51 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ด้วยความโด่งดัง(มั้ง) จึงทำให้มีการสร้างเป็นภาพยนตร์ขึ้นมา ซึ่งยอมรับเลยว่า คนที่ไม่เคยอ่านการ์ตูนมาก่อน คงเกิดอาการปวดหัว อึดอัดในขณะที่นั่งชมภาพยนตร์ ด้วยความที่ว่าภาพยนตร์ให้ความเคารพบทประพันธ์ จึงแทบไม่มีการดัดแปลงบท ในภาคแรกจึงพบกับอาการกระโดดไป กระโดดมาของเนื้อหา (ในการ์ตูนจะมีการแปะป้ายบอกเวลาที่ย้อนไปมา) โชคดีที่ผมดูภาพยนตร์จากแผ่นดีวีดี (ที่ว่ากันว่าไม่ตัดทอนเนื้อหา)หลังจากอ่านการ์ตูนจบแล้ว จึงไม่อึดอัดมากนัก ภาพที่ปรากฏในภาพยนตร์ด้วยตัวคนจริง ๆ ทำได้ออกมา "สมจริง" และสร้างหน้าตัวละครจากการ์ตูนออกมาได้เหมือนมาก ๆ ฉากต่าง ๆ เห็นเป็นภาพที่ชัดเจนมากขึ้นจากหนังสือ ถ้าในมุมมองของนักอ่านการ์ตูนที่ดูหนัง ผมชื่นชมภาพยนตร์เรื่องนี้ ที่ทำได้เนี้ยบมากในด้านฉาก ตัวละคร การแต่งตัว ส่วนเนื้อหาเมื่อภาพยนตร์มีเวลาเพียงแค่ 2 ชั่วโมง กับตัวอักษรและภาพจากการ์ตูนจำนวน 22+2 เล่ม การจะทำให้จบในภาคเดียวคงเป็นไปได้ยากมาก จึงเกิดเป็นการสร้างภาพยนตร์แบบไตรภาค ซึ่งตอนนี้มีภาคสองฉายในโรงแล้ว จากคุณ : wolf - [ 5 เม.ย. 52 16:10:59 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ภาพยนตร์ ภาคแรก ใช้เนื้อหามาจากหนังสือรวมเล่ม ฉบับลิขสิทธิ์ไทย ตั้งแต่เล่มที่ 1 ถึงเล่มที่ 5 จากคุณ : wolf - [ 5 เม.ย. 52 16:11:51 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ภาคสอง อาจจะอึดอัดมากหน่อยสำหรับคนที่ไม่เคยอ่านการ์ตูน เพราะรวบเนื้อหาจากฉบับการ์ตูน ตั้งแต่เล่มที่ 5 ถึงเล่มที่ 15 ฉบับรวมเล่มลิขสิทธิ์ภาษาไทย ซึ่งมากกว่าภาคหนึ่งที่รวบจากห้าเล่ม แต่ภาคสอง รวบถึง 10 เล่ม แก้ไขเมื่อ 05 เม.ย. 52 16:14:41 จากคุณ : wolf - [ 5 เม.ย. 52 16:13:05 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ส่วนภาคสามที่จะเข้าฉายกลาง ๆ ถึงปลายปีนี้ เริ่มต้นจากเล่มที่ (คาดว่า) 16 และน่าจะไปจบที่ฉบับสุดท้าย 21st Century Boys จากคุณ : wolf - [ 5 เม.ย. 52 16:14:20 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ขออภัย ลืมภาพใน คห. 7 จากคุณ : wolf - [ 5 เม.ย. 52 16:15:05 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ในแบบภาพยนตร์ใช้ชื่อไทยว่า "มหาวิบัติ ดวงตาถล่มล้างโลก" อันที่จริงจะใช่ก็ใช่ จะไม่ใช่ก็ใช่ เพราะถ้าดูในเนื้อหาจริง ๆ แล้ว สัญลักษณ์ที่ชัดเจนก็คือ "มือ" มากกว่าดวงตา แต่ในเมื่อภาพที่เห็น เมื่อยังไม่ได้อ่าน ก็คือภาพลูกตา ดังนั้นจะตั้งชื่อแบบนี้ก็ไม่ผิดนัก ข้อดีของการทำภาพการ์ตูนออกมาเป็นภาพยนตร์หรือภาพเคลื่อนไหว นั่นก็คือ การได้ยินเสียง ... ในการ์ตูนเรื่องนี้ จุดหลักอีกอย่างก็คือ การนำเสนอเสียงดนตรีบำบัดโลก :) ซึ่งถ้าจะว่าไปก็เหมือนกับเอาภาพหลังสงครามโลก ที่มีการต่อต้านสงคราม ความหวาดกลัวในสงครามเย็น การเรียกร้องหาสันติภาพ และการปลอบประโลมและถ่ายทอดความรักไปยังคนหมู่มากผ่านทางดนตรี ซึ่งยุคนี้เป็นภาพหลักที่นำมานำเสนอในการ์ตูนในแบบสมัยใหม่ ตอนที่อ่านการ์ตูน ภาพการร้องเพลง เล่นกีตาร์ ตีความไม่ออกเลยว่า "เพราะตรงไหน? ทำไมถึงทำให้คนอยากฟังและสนใจได้มาก" แต่พอภาพและเสียงมาปรากฏในภาพยนตร์ ทำให้คล้อยตามได้ทันที เพลงหลักที่ใช้เป็นตัวจุดกำเนิดที่นำพาไปสู่จุดจบ(ทั้งในการ์ตูนและภาพยนตร์) เรียกได้ว่า เพราะมาก (สำหรับผมนะ) แน่นอนว่า ถ้าผมเกิดอยู่ในยุคหลังสงครามโลก ภาวะความหวาดกลัวต่อผู้ปกครอง ผู้มีอำนาจ หากได้ยินเพลงแบบนี้เข้ามา ความหดหู่ก็จะหายไป และก็จะเดินตามหาเสียงเพลงนี้เพื่อไว้คอยปลอบจิตใจและสร้างกำลังใจให้ฮึกเหิมได้ต่อไป เพลงเด็ดเพลงนี้ชื่อว่า Bob Lennon คาดว่าพยายามสื่อถึง John Lennon เป็นหนึ่งในสมาชิกวงสี่เต่าทอง ที่พยายามนำเสนอแนวความคิดโลกแห่งสันติผ่านบทเพลง ซึ่ง เอนโด เคนจิ ก็พยายามสื่อสู่ผู้คนด้วยบทเพลงเช่นกัน (ผมดูบทแปลในโรงภาพยนตร์ บางส่วนของเนื้อเพลง ดูแล้วกลมกล่อมกว่าที่แปลตรง ๆ ในหนังสือการ์ตูนครับ) ส่วนคำแปลแบบสวย ๆ เคยมีคนแปลไว้แล้วในพันทิป ลองหาดูกันครับ จากคุณ : wolf - [ 5 เม.ย. 52 16:17:42 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ซีดีเพลงประกอบภาพยนตร์ออกมาแล้ว 2 ชุด หาซื้อในเมืองไทยไม่ได้เลย ซึ่งต้องอาศัยโลกอินเตอร์เน็ตในการนำพาซีดีสองชุดนี้เข้าเมืองไทย :) จากคุณ : wolf - [ 5 เม.ย. 52 16:19:10 ]

ความคิดเห็นที่ 11 สิ่งน่ารัก ๆ จากแผ่นซีดีเพลงของญี่ปุ่นที่ชอบ ก็คือ การแอบแฝงอะไรแถม ๆ มา อย่างเช่น ปกอัลบั้ม ที่พับไปพับมา พอคลี่ออกมาก็กลายเป็นโปสเตอร์สวย ๆ ถึงแม้ราคาค่างวดจะแพงไปหน่อย (ซีดี ดีวีดีในญี่ปุ่นราคาค่อนข้างสูง) แต่ก็พอจะเก็บเป็นของสะสมงาม ๆ ได้ เปิดฟังได้อีกต่างหาก :) จากคุณ : wolf - [ 5 เม.ย. 52 16:20:13 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ซีดีชุดที่สองก็เช่นเดียวกัน (หวังว่าชุดที่สามคงทำมาอีกนะครับ) จากคุณ : wolf - [ 5 เม.ย. 52 16:20:44 ]

ความคิดเห็นที่ 13 อัลบั้มเพลงประกอบทั้งสองชุด ไม่มีเพลงนำอย่าง 20th Century Boy ใส่มาให้ครับ เพลงเด่นในชุดแรกก็คือ Bob Lennon ส่วนชุดที่สองก็คือ เพลงในแทร็กที่สี่ Hello ที่เป็นเพลงสำหรับเปิดงาน Expo 2015 ครับ .... มันส์ดี มีกลิ่นอายญี่ปุ่น ๆ :) จากคุณ : wolf - [ 5 เม.ย. 52 16:21:33 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ทั้งหมดคือความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน และขอขอบคุณที่อ่านครับ บรรณานุกรมข้อมูล - NED COMICS - TH Wikipedia หัวข้อ ทเวนตี้เซนจูรี่บอย http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%97%E0%B9%80%E0%B8%A7%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B8%B5%E0%B9%89%E0%B9%80%E0%B8%8B%E0%B8%99%E0%B8%88%E0%B8%B9%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%9A%E0%B8%AD%E0%B8%A2 - EN Wikipedia หัวข้อ 20th Century Boys http://en.wikipedia.org/wiki/20th_Century_Boys - เว็บไซท์ Shogakukan http://www.shogakukan.co.jp/english/ - เว็บไซท์ Kodansha http://www.kodansha-intl.com/ - EN Wikipedia หัวข้อ 20th Century Boy http://en.wikipedia.org/wiki/20th_Century_Boy - บทความ Wealth Management: Main Story ชีวิตคือการลงทุน โดย จิราพร เพ็งจันทร์ นิตยสาร Money and Wealth ฉบับเดือนมิถุนายน 2551 (quote ข้อความของคุณบัณฑิต อึ้งรังษี" - เว็บไซท์ CU Photo Club (คำแปลเพลง Bob Lennon) http://cuphoto.clubs.chula.ac.th/board/topic_detail.php?listID=00646 จากคุณ : wolf - [ 5 เม.ย. 52 16:27:21 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ขอบคุมากค่ะ ตั้งได้ทั้งหมวดการ์ตูนและภสพยนตร์เลยนะเนี่ย จากคุณ : embrassez mes pieds - [ 5 เม.ย. 52 16:53:59 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ชอบลายเส้นเรื่องนี้ วาด figure ผู้หญิงสวยดีครับ เนื้อเรื่องถ้าไม่ตั้งใจอ่านมีมึนตึ้บๆ จากคุณ : คุณเจน - [ 5 เม.ย. 52 16:55:27 ]

ความคิดเห็นที่ 17 คห. 15 จริง ๆ รวมหมวดเพลง ห้องเฉลิมกรุงได้ด้วยครับ :) จากคุณ : wolf - [ 5 เม.ย. 52 16:55:54 ]

ความคิดเห็นที่ 18 คห. 16 ตอนแรกผมก็กลัวเหมือนกันครับ พยายามย้อนดูรายชื่อตัวละครในหน้าแรกบ่อย ๆ รวมถึงพยายามจำใบหน้าตัวละคร แต่พออ่านไปจริง ๆ แล้วไม่ปวดหัวใด ๆ เลย แนวทางการนำเสนอของอ.นาโอกิ ทำได้ดีมาก ถึงแม้จะมีตัวละครเจ็ดแปดตัว ซึ่งถ้านับจริง ๆ เป็นสิบ เพราะวัยเด็กไปผู้ใหญ่ ย้อนมาเด็ก แต่วิธีการเล่าเรื่องที่สร้างฐานตัวละครได้ดี ทำให้เหมือนกับเราเป็นบุคคลหนึ่งในเหตุการณ์นั้น เหมือนได้อยู่เล่นกับเด็ก ๆ พวกนั้น เหมือนได้เป็น "เพื่อน" กับตัวละครในนั้น พออ่านไปเรื่อย ๆ ก็จำชื่อได้ จำหน้าได้ สบายและสนุกได้เต็มที่เลยครับ :) จากคุณ : wolf - [ 5 เม.ย. 52 16:58:24 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ขอบคุณสำหรับข้อมูลนะคะ กำลังสนใจจะหามาอ่านพอดี อิอิ จากคุณ : shiro-chan - [ 5 เม.ย. 52 17:07:01 ]

ความคิดเห็นที่ 20 คห. 19 ถ้าเช่ามาอ่าน แนะนำว่า เช่ามาทั้งชุดเลยครับ ผมโชคดีที่ซื้อตอนที่ครบชุดแล้ว ใช้เวลาอ่านรวมแล้วหนึ่งวันหมดยี่สิบสี่เล่ม สอยมาจากงานสัปดาห์หนังสือ ยืนลังเลอยู่นานระหว่างซื้อแบบแพ็คกล่องหรือแพ็ครวมเฉย ๆ เล็งอยู่นานสุดท้ายก็สอยแบบกล่องมา ซึ่งเป็นชุดสุดท้ายพอดี ตอนที่อ่าน ต้องไปทำงานก็สอยติดไปห้าเล่ม ปรากฏว่าอ่านจบก่อนเลิกงาน อึดอัดมาก ๆ อยากรู้ตอนต่อไป ต้องรอขับรถกลับมาบ้านอีกสองชั่วโมง กว่าจะได้ตามเรื่องราวต่อ :) จากคุณ : wolf - [ 5 เม.ย. 52 17:12:33 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ใครยังไม่อ่าน รีบด่วนเลยครับ การ์ตูนดีๆจากนักเขียนอัจฉริยะในการนำเสนอและการวางพล๊อต อ่านไปขนลุกไป ทำไมมันเหมือนชีวิตจริงของเราจังเลย(วะ) ๕๕๕+ จากคุณ : Norma Jump - [ 5 เม.ย. 52 18:13:48 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ตอนที่อ่าน ต้องไปทำงานก็สอยติดไปห้าเล่ม ปรากฏว่าอ่านจบก่อนเลิกงาน ^ ู^ เอ่อ...คุณ Wolf ทำงานอะไรครับเนี่ย? (--") จากคุณ : Verm - [ 5 เม.ย. 52 19:26:04 ]

ความคิดเห็นที่ 23 แวะมาชม แจ่มๆ ครับ รอดูหนังจบถึงภาค 3 ก่อน แล้วว่าจะซื้อการ์ตูนมาอ่านน ^^ *~ จากคุณ : MoMoJunG_4_FouR - [ 5 เม.ย. 52 19:38:56 ]

ความคิดเห็นที่ 24 คห.20 สอยแบบกล่องไปหมดล่ะ งั้นตัดสินใจไม่ยากแล้วสินะเนี่ย ^^" ขอบคุณการรีวิวของ จขกท.ด้วยค่ะ อ่านเพลินดี จากคุณ : น้ำพริกกินกะปลาทู - [ 5 เม.ย. 52 19:40:11 ]

ความคิดเห็นที่ 25 Bob Lennon = Bob Dylan + John Lennon จากคุณ : เจ้าชายแห่งทะเล - [ 5 เม.ย. 52 20:35:32 A:118.174.126.38 X: TicketID:151264 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ยังไม่ได้ดูสักภาคเลยครับ แต่มังงะอ่านจบแล้วนะ จากคุณ : เจ้าชายชาเย็น - [ 5 เม.ย. 52 21:37:42 ]

ความคิดเห็นที่ 27 คห. 25 ขอบคุณครับ ลืมชื่อ Bob Dylan ไปได้ไงเนี่ยเรา -_- บีอบ ดีแลน คือนักดนตรีดังอีกหนึ่งคน ที่มีชื่ออยู่ในยุคนั้นเช่นกัน เรียกได้ว่าเป็นต้นตำรับของนักดนตรีใหม่ ๆ หลายคน คห.24 อาจจะยังมีเหลือที่อื่น ๆ ก็ได้นะครับ :) คห.23 ระวังเมื่อถึงเวลานั้น หนังสืออาจจะหมดหรือเลิกพิมพ์ใหม่ก็ได้นะครับ :) คห.22 ระหว่างงานก็พักผ่อนได้ครับ หุหุหุ :) คห.21 เหมือนชีวิตส่วนไหนครับ ตรงที่เป็น "เพื่อน" หรือเป็นนักดนตรีครับ :) จากคุณ : wolf - [ 5 เม.ย. 52 21:41:46 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ตัวละครหลายตัวในหนัง อย่างกับเดินออกมาจากการ์ตูนเลยอ่ะ เช่นแฝดนรก จากคุณ : กึ่งยิงกึ่งผ่าน - [ 5 เม.ย. 52 21:42:45 ]

ความคิดเห็นที่ 29 คห.26 รอออกภาคสาม แล้วดูครบรวดเดียวก็ได้ครับ ... แต่ขอแนะนำว่า น่าดูครับ อย่างยูคิจิ ภาคภาพยนตร์หน้าตาดีกว่าในมังงะเยอะครับ :) ส่วนคันนะ ไม่ต้องพูดถึง น่ารักโฮก :) จากคุณ : wolf - [ 5 เม.ย. 52 21:44:53 ]

ความคิดเห็นที่ 30 คห.28 เห็นด้วยครับ ทำได้ออกมาเหมือนมาก ๆ เสื้อผ้าหน้าผม ทำได้ดีมากจริง ๆ แบบนี้ครับที่เรียกว่า เคารพบทประพันธ์ ถึงแม้จะมีการเปลี่ยนแปลงเนื้อหาในภาคที่สองบางส่วนออกไป (เข้าใจว่าเพื่อความเหมาะสมกับโลกจริงและป้องกันปัญหาด้านศาสนา) แต่ลองสังเกตหรือเปล่าครับ ว่าตัวนำอย่างเคนจิ ดูหลายมุม หลายช็อต เหมือน เวียร์ ภาควัยกลางคน จากคุณ : wolf - [ 5 เม.ย. 52 21:47:33 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ขอบคุณสำหรับรีวิวมากค่ะคุณwolf เก็บรายละเอียดได้แหล่มมาก :) เราเองก็ยังไม่ได้ดูภาคภาพยนตร์เลย ตอนที่ฉายในโรงจริงๆอยากไปดูมาก แต่ได้ข่าวเรื่องการตัด (โรงแถวบ้านก็ไม่มีแบบเสียงในฟิมล์ด้วย - -") สุดท้ายเลยไม่ไปดู อยากถามผู้รู้หน่อยอะค่ะ ว่า VCDนี่มีการตัดรึปล่าว รึต้องDVDที่เดียวที่ไม่ตัด ขอบคุณมากๆค่ะ ^ ^ จากคุณ : ijolp - [ 5 เม.ย. 52 22:58:16 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ตอบคุณ Wolf ผมจะบอกว่า ใกล้เคียงความจริงบนโลกใบนี้เลยครับ สำหรับ “เพื่อน” ทำตัวเป็นคนดีหลอกลวงผู้คน ชักจูงคนด้วยความเชื่อทางลัทธิศาสนา แล้วแทรกซึมผ่านทางการเมือง สุดท้ายครองโลก ความเป็นไปได้ สำหรับบางคนบนโลกนี้ มีมากทีเดียวครับ สปอยนะครับ . . . . โดยเฉพาะฉากที่ เพื่อน ลุกขึ้นมาเอาตัวรับกระสุนแทน พระสันตะปาปา นี่ บ่งบอกชัดเจนเลยครับ ว่าฟื้นจากความตายและยังปกป้องผู้นำทาง ศาสนาอีก ตำแหน่งเดียวที่จะได้รับการสรรเสริญจากผู้คนก็คือ “พระเจ้า” โดยในเรื่องให้ดำรงตำแหน่งเป็น ประธานาธิบดีโลกไงครับ จุดนี้ ผมมองเองคิดเองว่า ใครบางคนใกล้ๆตัวเราขณะนี้กำลังทำอยู่ ปล.อย่าเริ่มเรื่องการเมืองนะ ขอร้อง จากคุณ : Norma Jump - [ 5 เม.ย. 52 23:20:58 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ไม่เคยอ่านมังงะคะ ดูแต่หนัง แบบว่า สนุกเกินคาด ดูแล้วลุ้น+เครียดในบางสถานการณ์ เลยคิดว่าจะไปดูในโรงคะ มันค้างคาใจ จากคุณ : pawiamp - [ 5 เม.ย. 52 23:32:32 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ขอบคุณมากครับ ชอบการ์ตูนเรื่องนี้มากกกครับ ดีใจที่มาทำเป็นหนังด้วย หนังภาคแรกชอบมาก ส่วนภาคสองไม่ค่อยชอบครับ รอดูภาค 3 จากคุณ : jidjee - [ 5 เม.ย. 52 23:49:46 ]

ความคิดเห็นที่ 35 คห.31 เรื่อง VCD ไม่ทราบครับ แต่เรื่อง DVD เท่าที่ตามหาข้อมูลจากในพันทิปนี่แหล่ะ เห็นว่าไม่ตัดนะครับ อีกอย่างผมว่าฟังเสียงธรรมชาติกับดูซับดีกว่าครับ เปิดดูแบบพากย์ไทย หลายจังหวะพยายามทำตลกมากไปหน่อย -_- คห.32 แหะ ๆ ๆ แล้วแต่คิดครับ ของแบบนี้ อย่างที่บอกตั้งแต่รีวิวต้น ๆ บางอย่างอยู่ที่ทิฐิครับ บางทีเราก็ชอบหรี่ตามองข้างเดียว แล้วสังคมยุคนี้ ชอบที่จะบอกกันว่า ขาวก็คือขาว ดำก็คือดำ ... สีกลาง ๆ อย่างสีเทาไม่มีอีกแล้ว ทั้ง ๆ ที่ความเป็นจริงมนุษย์ไม่ได้ดำสุดและขาวสุด ตราบใดที่ยังมีรัก โลภ โกรธ หลง คห.33 ถ้าได้ลองมาอ่าน เนื้อหาที่ขาดหายไปในภาพยนตร์จะเติมเต็มได้มากกว่าครับ แล้วก็จะเห็นความสมเหตุสมผลของเหตุการณ์หลาย ๆ อย่างเพิ่มขึ้นครับ :) ปล. ส่วนสปอยล์ใน คห.32 คนที่ไม่ได้อ่านการ์ตูนอาจจะสงสัยนะครับ ฉากนี้ปรากฏในภาพยนตร์ภาคสองนี่ล่ะครับ แต่เปลี่ยนแปลงเนื้อหาออกไป ผมเข้าใจว่าเพื่อความปลอดภัยของเนื้อหนังครับ ป้องกันความขัดแย้งที่จะสื่อสารออกไป ... ถ้าทำตามหนังสือ ผมว่าอันตรายต่อกลุ่มคนและความเชื่อครับ :) จากคุณ : wolf - [ 5 เม.ย. 52 23:54:56 ]

ความคิดเห็นที่ 36 คห.34 ภาคสองผมก็ว่ามันเร่งรีบ และอัดแน่นเกินไปครับ จากที่บอก ด้วยการรวบทีเดียวสิบเล่ม และตัดเนื้อหาสำคัญจากการ์ตูนออกไป รวมถึงเปลี่ยนแปลงบทบางส่วน ทำให้ดูแน่น ๆ และอึดอัดพอควรครับ แต่ก็มีความสว่างไสวขึ้นมาได้ จากการให้ตัวเด่นในภาคนี้คือ อันนะ แสนน่ารักนั่นเอง :) ปล.ใครที่จะไปดูภาคสอง ให้รอดูจนจบนะครับ มีแถมตัวอย่างภาคสามด้วย ฟังเพลง End Title แค่สามนาทีกว่า ๆ เองครับ :) จากคุณ : wolf - [ 5 เม.ย. 52 23:57:17 ]

ความคิดเห็นที่ 37 เป็นการ์ตูนที่อ่านวนไปวนมาหลายครั้ง จึงอยากให้คนที่คิดจะอ่านควรยืมมาทีเดียวหมดเลย เพราะมันเป็นการ์ตูนที่เปิดไปเปิดมาหลายรอบ โดยเฉพาะคนอ่านเล่มจบ รับรองต้องเปิดมาอ่านเล่มแรกอีกครั้งแน่ๆ เรื่องนี้นอกจากไอเดียแล้ว เรายังชอบวิธีการดำเนินเรื่องและการโยงความสัมพันธ์ของตัวละครด้วยค่ะ มีตัวละครหลายตัวที่เราชอบ แต่โผล่มาไม่นานก็เสียชีวิต เช่นตำรวจยามะ(ชื่อนี้ป่าวหว่า)ที่สืบรู้ทุกอย่างแต่ดันตายก่อน ทว่าผู้เขียนก็ยังไม่ทิ้งตัวละครตัวนี้ ยังอุตส่าห์สร้างตัวละครหลานชายให้มาเจอกับคันนะอีก ราวกับเป็นโชคชะตา ส่วนหนังเราได้ดูแล้วล่ะค่ะ ภาคสองมีช่วงนึงเกือบๆหลับด้วย เหอๆ ^^' หนังมีเปลี่ยนบท ย่อย่นเรื่องไปบ้าง แต่รวมๆก็โอเคนะ ยังไงก็ขอชื่นชมการค้นหานักแสดงที่หน้าตาเหมือนในการ์ตูนเปี๊ยบ อย่างกับเดินออกมาจากหนังสือเลย แต่ขำเวลาตัวละครบางตัวพูดไทย คนที่ดูแล้วคงเข้าใจ 555 แก้ไขเมื่อ 06 เม.ย. 52 00:50:50 จากคุณ : นางาเสะจัง - [ วันจักรี 00:44:21 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ไปดูภาคสองมา เพิ่งจะรู้ว่า "กู ตา ลา ลา  ซือ ตา ลา ลา" มันร้องแบบนั้นเอง อ่านเป็นตัวหนังสือ นึกเสียงไม่ออก ปล. ปก 21st เล่มหนึ่ง , 20th เล่ม22 , 21st เล่มสอง  มันต่อแบบนี้เองหรือนี่ จากคุณ : zervilz - [ วันจักรี 00:46:18 ]

ความคิดเห็นที่ 39 เออใช่ อย่างน้อยหนังก็ดีคือทำให้เราได้ฟังเพลง กูตาลาลา จริงๆซะที ^^ จากคุณ : นางาเสะจัง - [ วันจักรี 00:50:02 ]

ความคิดเห็นที่ 40 มีแต่คนรอฟังท่อน กู ตา ลา ลา ซือ ตา ลา ลา ทั้งนั้นเลย ๕๕๕+ ผมคนนึงล่ะ ที่ตอนอ่านก็คิดว่า มันจะทำให้เป็นเพลงยังไง(วะ) ไอท่อนประหลาดๆเนี่ย พอมาได้ยินของจริงเข้า อึ้งครับ เออ..มันมาทำเป็นเพลงได้จริงๆ XD จากคุณ : Norma Jump - [ วันจักรี 02:14:00 ]

ความคิดเห็นที่ 41 คห.37 ใช่ครับ เห็นด้วยเลยกับตัวละครที่มีถูกนำมาใช้ได้คุ้มค่าจริง ๆ เคยแวะเข้าไปดูเว็บไซท์ภาพยนตร์มีการทำแผนผังโยงความสัมพันธ์ตัวละครด้วย ยุ่บยั่บดี ลองแวะไปดูได้ครับ ส่วนหนังสือ พออ่านไปแล้วก็ต้องหยิบเล่มถัดไปมาเปิดดูก่อน แบบว่าตื่นเต้น พอเปิดดูก็ต้องรีบกลับมาอ่านเล่มที่อ่านอยู่ต่อทันที :) คห.38 ปกมันต่อกันวนไปวนมาได้ครับ คงสื่อ(มั้ง) ว่าเพื่อนคือเด็กแล้วเด็กก็คือเพื่อนเคนจิ(โต)ส่วนเคนจิ(เด็ก)ก็คือเพื่อนกับเพื่อน .... งงดี คห.39, 40 เหมือนกันครับ ตอนอ่านก็รู้สึกว่า เพลงมันเพราะตรงไหน(ฟะ) นึกจินตนาการเสียงไม่ออกเลย พอได้ดูหนัง ได้ฟังเพลง เพราะจริง ๆ ด้วย :) จากคุณ : wolf - [ วันจักรี 10:01:21 ]

ความคิดเห็นที่ 42 20th century boys I wanna be you toy.... คุณอุราซาวาต้องชอบเพลงนี้มาก ๆ และมีความหลังฝังใจแน่นอน จากคุณ : I will see U in the next life. - [ วันจักรี 11:33:52 ]

ความคิดเห็นที่ 43 เรื่องนี้เนื้อเรื่องสุดยอดเลยครับ  เป็นอีกเรื่องที่ต้องเก็บอย่างแรง v v v v เข้ามาเชียร์ จากคุณ : กระติกน้ำแข็ง (Ti_ser) - [ วันจักรี 13:02:50 ]

ความคิดเห็นที่ 44 เราอ่านมังงะไป 3รอบแล้ว ยิ่งอ่านเหมือนยิ่งดำดิ่งเข้าไปในห้วงของเพื่อน วังวนคลับคล้ายคลับคลาว่าเหตุการณ์จะเกิดขึ้นใกล้ตัว(เว่อร์ไปนู่นน^^.) ส่วนในตัวหนังเราชอบภาค 2 มากกว่าภาคแรก ภาคแรกเราว่าอืดอาด เนือยๆไปนิด ส่วนภาค 2ก็ดัดแปลงจากการ์ตูนไปพอสมควร แต่เนื้อเรื่องกระชับดี ที่น่าตื่นเต้นที่สุดตอนดูหนังก็คือการได้ฟังเพลงที่อยู่ในการ์ตูน โดยเฉพาะกูตาลาลา ซือตาลาลา จากคุณ : mimitang - [ วันจักรี 16:53:33 ]

ความคิดเห็นที่ 45 การ์ตูนเรื่องนี้เป็นเรื่องที่เรารักมากๆเลยค่ะ เสียใจอ่ะ ที่ไทยทำให้หนังมันด้อยค่าลงไปด้วยการตัดนู่นตัดนี่ แล้วคนที่ไม่เคยอ่านการ์ตูนมาก็บอกไม่สนุกดูแล้วงงๆ เฮ้อ เซ็งเป็ดมากๆ เราต้องตามไปอธิบายให้เพื่อนฟังตลอด ว่าจริงๆแล้วมันสนุกมากแค่ไหน จนเพื่อนเรามันยอมซื้อยกชุดมาอ่านเลย 555 แต่เสียดายที่ภาคสองยังไม่ได้ดู เพราะเหมือนแถวบ้านเรายังไม่มีเข้าโรงอ่ะ แต่เราว่า จขกท. ทำรีวิวหลายๆเรื่องก็ดีนะคะ เพราะเราว่าการ์ตูนที่ดี มีคุณค่าน่าอ่านนี่ยังมีอีกหลายเรื่องเลย ถ้าทำให้คนที่มองการ์ตูนในแง่ร้ายได้มองการ์ตูนในแง่ใหม่บ้างก็คงจะดีไม่น้อย ถ้า จขกท. จะทำ เรื่องแรกที่นำเสนอเลยก็ของ อ. นาโอกิ อีกเช่นกันค่ะ monster นี่ล่ะ ให้อารมณ์หนังฮอลลีวู้ดมากมาย เป็นเรื่องที่บีบอารมณ์ได้สุดๆไปเลย อยากดูตอนที่ฮอลลีวู้ดเอาไปทำหนังจัง มีข่าวมาตั้งนานแล้ว ทำไมยังไม่เห็นคืบหน้าซักที จากคุณ : kurapik - [ 8 เม.ย. 52 22:59:12 ]

ความคิดเห็นที่ 46 คห.45 ไว้จะลองหาอ่านดูก่อนครับ เรื่องนี้ยอมรับเลยว่ายังไม่ได้อ่านครับ ถ้าได้อ่านจะทำรีวิวให้ครับ :) จากคุณ : wolf - [ 11 เม.ย. 52 23:05:48 ]

ความคิดเห็นที่ 47 เขียนได้ดีครับ ผมยังไม่เคยอ่านการ์ตูนเรื่องนี้ครับ เพิ่งเคยดูก็ตอนเป็นหนังนี่แหละ ตอนนี้กำลังอยากอ่านเวอร์ชั่นการ์ตูน ใครมีแหล่งซื้อแนะนำผมด้วยนะครับ เอาแบบยกชุดเลย จากคุณ : Roony - [ 12 เม.ย. 52 23:47:41 ]