ความคิดเห็นที่ 1 งานเข้าครับ ช่อ ง7 จากคุณ : somtop01 - [ 16 เม.ย. 52 11:15:34 ]

ความคิดเห็นที่ 2 มิน่าละ เมื่อคืนละครมือนาง จบแค่ 4 ทุ่มกว่า  ๆ เอง แถมหนังดังวันพุธเมื่อคืน ไม่มีโฆษณาเข้าสักกะตัว จากคุณ : montri - [ 16 เม.ย. 52 11:20:59 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ไม่ค่อยได้ดูทีวี    เลยไม่ค่อยได้สังเกตุ แต่เริ่มรู้สึกว่าโฆษณาน้อย  ก็ตอนดูแม่หญิง เมื่อคืนวันจันทร์ที่ผ่านมา เอาไงดีคะ  คุณกฤตย์   คุณชาลอต จากคุณ : วรดา - [ 16 เม.ย. 52 11:24:16 ]

ความคิดเห็นที่ 4 งานเข้าละมั้งเนี้ย จากคุณ : น้ำตาล..ขม..อมเปรี้ยว - [ 16 เม.ย. 52 11:26:43 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ถ้ารายการดีกว่าคู่แข่งก็ว่าไปอย่าง ยังไม่รู้จักความสามารถ และคุณภาพของรายการตัวเอง จากคุณ : Pidchayut - [ 16 เม.ย. 52 11:27:10 ]

ความคิดเห็นที่ 6 .. สมควรแล้ว จากคุณ : นิราศสองภพ - [ 16 เม.ย. 52 11:30:32 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ก่อนหน้านี้เคยได้ยินข่าวลือว่ายูนิลิเวอร์จะโยกไปช่อง 3 หมด แต่ตอนนั้นเห็นบอกเป็นข่าวลือ ยังไม่คอนเฟริม แต่ข่าวช่อง7ไปลดเปอร์เซ็นส่วนลดที่อเยนซี่ควรจะได้ลดเป็นเรื่องจริง เลยทำให้โฆษณาช่อง7 ลดลง สังเกตุตั้งแต่ช่วงล็อตเมีหลวงกับเรื่องอื่นๆแล้ว แหม เศรษฐกิจแบบนี้ ไม่น่าไปเคี่ยวมาก ถ้าไม่ลดราคา ก็ไม่น่าไปลดส่วนลดเขา จากคุณ : แจ๋ว ริมคอมพ์ - [ 16 เม.ย. 52 11:32:35 ]

ความคิดเห็นที่ 8 การบริหารแบงก์ และ สถานีโทรทัศน์มีความแตกต่างกันและ ความสามารถในการทำรายได้ก็ต่างกัน 10 ปีก่อนช่อง 7 ก็เคยเกือบล่มจม เพราะผู้บริหารฝ่ายแบงก์ เข้ามาแทรกแซงการบริหารงานภายใน จนต้องล่าถอยออกไปในตอนนั้น 10 ปีผ่านไป ผู้บริหารแบงก์เก่าเข้ามาบริหารแบบเต็มตัว และเริ่มนำวิธีการบริหารแบงก์มาใช้กับสถานีโทรทัศน์แห่งนี้อีกครั้งหนึ่ง ถ้าผู้บริหารยังแข็งกร้าวแบบบริหารแบงก์อยู่ล่ะก็ สิ่งที่ช่อง 7 ต้องสูญเสียคือ เม็ดเงินรายได้ค่าโฆษณามหาศาล อย่างเช่น ถ้าโฆษณาในละครหลังข่าวหายไปวันที่ 12 นาที ราคาขายโฆษณานาทีละ 450,000 บาท (ราคาเต็ม) หักส่วนลด 15% เหลือนาทีละ 382,500 เท่ากับค่าโฆษณาหายไปในสายลมถึงวันละ 4,590,000 บาท หรือเดือนละ 137,700,000 บาท นี่ยังไม่นับเม็ดเงินที่หายไปจากละครก่อนข่าว ข่าวภาคค่ำอีก ที่ยังประเมินไม่ได้ว่าต้องสูญเสียไปอีกวันละเท่าไหร่... แก้ไขเมื่อ 16 เม.ย. 52 11:46:18 จากคุณ : SkyWalkers - [ 16 เม.ย. 52 11:39:43 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ถ้าละครกับรายการข่าวของช่อง7 ยังอยู่ในยุครุ่งเรืองเฟื่องฟูอู้ลัลล้า เรตติ้งสูงลิบลิ่ว ทุกบ้านดูช่อง 7 เหมือนสมัยก่อนนู้นนนนนนน จะไม่ว่าเลย นี่อะไรกัน ทำละครก็ถอยหลังลงคลอง รายการข่าวก็งั้นๆ ยังมีหน้ามาทำเป็นหยิ่ง คิดว่าบริษัทโฆษณาต้องมาง้อ งั้นเหรอ ป๊าดติโธ่ ทำไปได้!!!!!!! ปอลอ ถึงจะไม่ปลื้มช่อง 7 ในปัจจุบันนัก แต่ก็ดูช่อง 7 มาแต่อ้อนแต่ออก บอกตรงๆว่า ไม่อยากให้ถึงยุคมืดของช่อง7 อีกง่ะ จากคุณ : น้ำผึ้ง บุหงา ลดามาลย์ - [ 16 เม.ย. 52 11:40:03 ]

ความคิดเห็นที่ 10 เราว่าผู้บริหารจากกลุ่มแบงค์สู้คุณแดงไม่ได้ค่ะ ถึงแม้ว่าคุณแดงนิยมทำละครน้ำน่า แต่คุณแดงเค้าวางกลยุทธ์ผู้บริหารได้ดีกว่าค่ะ ทำรายการถูกใจตลาดส่วนมาก มีลูกเล่นผ่อนปรนเข้าสถานการณ์ได้ดีกว่า จากคุณ : ndida2107 - [ 16 เม.ย. 52 11:50:10 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ถ้าผุ้บริหารฝ่ายแบงก์ ของช่อง 7 ยังคงนโยบาย ยอมหักไม่ยอมงอ อยู่ละก็ ช่อง 7 เองนั้นแหละ จะเป็นฝ่ายสูญเสีย โลกในยุคนี้ สื่อทางเลือกราคาประหยัดมีอยู่มากมายที่ได้ผลคุ้มค่า และ สถานีโทรทัศน์ช่องอื่น ๆ อีก ที่จ้องตะครุบงบโฆษณาในส่วนที่ถอนมากจากช่อง 7 อีก จากคุณ : montri - [ 16 เม.ย. 52 11:56:19 ]

ความคิดเห็นที่ 12 เคยมีคนบอกว่าโฆษณาละครของช่อง 7 ไม่ต้องลด แลก แจก แถม เหมือนช่องอื่นไม่ใช่เหรอ จากคุณ : ... - [ 16 เม.ย. 52 11:59:19 A:125.25.19.84 X: TicketID:165131 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ตอนนี้อยู่ที่การแข่งขันทางกลยุทธ์ทางการตลาดมากกว่า มารองดูกันว่า ใครจะ Win มากกว่ากันเมื่อคู่แข่งขันใช้กลยุทธ์สงครามการตัดราคาแบบ ลด แลก แจก แถม แล้วช่อง 7 จะต้องทำอย่างไร แต่ในเมื่อเอเจนซี่ ก้อรู้ตัวเองดีกว่ากลุ่มลูกค้าเป้าหมายของตัวเองคือกลุ่มไหน ช่องอะไร แต่ส่วนตัวอยากให้ Win Win ทั้งสองฝ่าย นั่นแหละทั้ง ช่อง 7 และ เอเจนซี่ จากคุณ : phokar - [ 16 เม.ย. 52 12:07:14 ]

ความคิดเห็นที่ 14 รออีกแป๊บนึงซิ เดี๋ยวอีกซักพัก อาจจะปีหรือสองปี ก็ล่าถอยออกไปเอง เหมือนปี40น่ะแหละ . คุณแดงตะหากที่งานเข้า แหม..ชั้นว่าจะวางมือๆ ต้องกลับมาอีกละ อำนาจนี่มันเลือกคนที่จะอยู่ด้วยจริงๆเลย จากคุณ : หางเปีย หูหมา - [ 16 เม.ย. 52 12:09:29 ]

ความคิดเห็นที่ 15 อ่อออออออออออออออออออออ มิน่าล่ะ ละครจบเร็ว สงสัยอยู่พอดี จากคุณ : คนวงใน+นอก - [ 16 เม.ย. 52 12:18:16 ]

ความคิดเห็นที่ 16 เชื่อไหมเดี่ยวก็จุบปากกันเหมือนเดิม ที่มา http://www.matichon.co.th/prachachat/prachachat_detail.php?s_tag=02p0106090452&day=2009-04-09&sectionid=0201 "มายด์แชร์-ลีเวอร์" ขบเหลี่ยม ช่อง 7 เรื่องของลิ้นกับฟัน "สื่อ-เอเยนซี่" เป็นประเด็นที่สร้างความฮือฮาในวงการสื่อเมืองไทยอีกครั้ง เมื่อ "ยูนิลีเวอร์" ผนึกกำลัง "มายด์แชร์" มีเดียเอเยนซี่คู่ใจ งัดข้อกับ "ช่อง 7 สี" เมื่อมีกระแสข่าวว่า "ยูนิลีเวอร์" ยักษ์ใหญ่คอนซูเมอร์โปรดักต์จะไม่ใช้งบฯโฆษณาในรายการของช่อง 7 สี ในส่วนที่เป็นรายการของสถานีรับผิดชอบและขายโฆษณาเอง โดยเฉพาะช่วงเวลาละครก่อนและหลังข่าวภาคค่ำ ชนวนหลักของปัญหานี้มาจากกรณีที่ช่อง 7 ยกเลิกการให้เปอร์เซ็นต์ส่วนลดที่เคยให้ 15% นั่นเท่ากับว่าเป็นการปรับขึ้นค่าโฆษณาโดยอัตโนมัติทันที แหล่งข่าวจากบริษัทมีเดียเอเยนซี่รายหนึ่งวิเคราะห์ว่า เหตุผลที่ "มายด์แชร์" และ "ยูนิลีเวอร์" ไม่พอใจกับการปรับขึ้น ค่าโฆษณาของช่อง 7 สี เพราะมองว่าเวลานี้ไม่ใช่จังหวะที่เหมาะสมในการขึ้นราคา จึงพยายามเอาเม็ดเงินโฆษณามหาศาลในพอร์ตมาเป็นพลังต่อรอง เพราะเป็น "ยักษ์ใหญ่" กันทั้ง 2 ฝ่าย โดย "ยูนิลีเวอร์" มีงบฯในมือกว่า 4,000 ล้านบาท/ปี เช่นเดียวกับ "มายด์แชร์" มีเดียเอเยนซี่ในเครือกรุ๊ปเอ็ม ที่บริหารงบฯผ่านสื่อโฆษณากว่า 8,000 ล้านบาท/ปี เมื่อผนึกกำลังกันย่อมมีพลังต่อรองสูงลิบลิ่ว ขณะที่ช่อง 7 สีนั้นยังถือเป็นทีวีที่มีเรตติ้งสูงสุดตลอดกาล เมื่อเจรจาไม่ลงตัว "ยูนิลีเวอร์" และ "มายด์แชร์" จึงมีกระแสข่าวในวงการว่าทั้งคู่ได้บอยคอตไม่ลงโฆษณาช่อง 7 สี พร้อมทั้งพยายามดึงมีเดียเอเยนซี่ รายอื่นๆ เข้ามาร่วมเป็นแรงต้านการปรับขึ้นราคาของ "ช่อง 7 สี" ในครั้งนี้ด้วย ด้วยหวังว่าจะจุดประกายการเปลี่ยนแปลงของวงการ "สื่อ" ให้เกิดขึ้นเช่นเดียวกับที่ "ยูนิลีเวอร์" เคยเป็นแกนนำในการพลิกประวัติศาสตร์ของระบบการวัดเรตติ้งมาแล้วเมื่อหลายปีก่อน แต่ยังไม่มีมีเดียเอเยนซี่อื่นๆ เข้ามาเป็นแนวร่วม เพราะมีเดียเอเยนซี่กับสื่อเหมือนน้ำพึ่งเรือ เสือพึ่งป่า ขณะที่มีกระแสข่าวสะพัดเช่นกันว่า "ช่อง 7 สี" ตอบโต้ด้วยการงดรับออร์เดอร์กับ "ยูนิลีเวอร์" เช่นกัน เป็นการประกาศ "พลังต่อรอง" ทั้ง 3 ฝ่ายอย่างชัดเจน "ตอนนี้มายด์แชร์หันไปซื้อโฆษณาตรงกับผู้ผลิตรายการและซัพพลายเออร์รายเล็กๆ ให้ยูนิลีเวอร์ ส่วนลูกค้าอื่นๆ ยังซื้อเวลาโฆษณาได้ปกติตามระบบโควตาที่มีอยู่" แน่นอนว่า เมื่อ "ยูนิลีเวอร์" ไม่ซื้อช่อง 7 เขาก็ต้องโยกงบฯโฆษณาไปลง "ช่อง 3" และ "โมเดิร์นไนน์ทีวี" อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ "สุรินทร์ กฤตยาพงศ์พันธุ์" รองผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและการขาย บมจ.บีอีซี เวิลด์ ผู้บริหารสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 บอกว่า ปกติค่าย ยูนิลีเวอร์ใช้งบฯผ่านทางช่อง 3 อยู่แล้ว เพียงแต่อาจอยู่ในอันดับที่ 2 หรือ 3 (จากรายงานของนีลเส็นฯ) และยอมรับว่าช่วงเมษายน-พฤษภาคมนี้เป็นช่วงที่ยูนิลีเวอร์ใช้งบฯทางช่อง 3 เพิ่มขึ้น แต่ไม่ถึงขนาดถล่มทลาย ทั้งนี้ ส่วนหนึ่งอาจเป็นผลกระทบจากปัญหาดังกล่าวที่เกิดขึ้น แต่จุดสำคัญเชื่อว่าเป็นเพราะตัวรายการของสถานีที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น ทำให้มีเดียเอเยนซี่ต้องซื้อสื่อตามจำนวนคนดูที่เพิ่มขึ้น เพื่อให้เกิดความคุ้มค่ามากที่สุดด้วยเช่นกัน ขณะที่ "สุภาณี เดชาบูรณานนท์" รองประธานกรรมการบริหารและผู้อำนวยการกลุ่มกลยุทธ์การค้าและการลงทุนในสื่อกรุ๊ปเอ็ม บริษัท มายด์แชร์ ประเทศไทย จำกัด ชี้แจงว่า ข่าวที่เกิดขึ้นนั้นไม่มีอะไร มายด์แชร์ยังซื้อโฆษณาช่อง 7 สีอยู่ตามปกติ แต่ประเด็นข่าวที่เกิดขึ้นนี้อาจจะเป็นเพราะว่างบฯโฆษณาผ่านสื่อของยูนิลีเวอร์หายไปค่อนข้างมาก ทำให้คนคิดว่ายูนิลีเวอร์ไม่ แปลนงบฯทางช่อง 7 สี ในความเป็นจริงแล้ว "ยูนิลีเวอร์" ได้ปรับลดงบฯโฆษณามาตั้งแต่ปีที่ผ่านมา เนื่องจากผลพวงทางเศรษฐกิจที่ไม่เอื้อ และก็เชื่อว่าการลดงบฯผ่านสื่อโฆษณานั้นได้ปรับตัวลดลงทั้งอุตสาหกรรม ไม่เพียงแค่"ยูนิลีเวอร์" เท่านั้น ผู้คร่ำหวอดวงการมีเดียเอเยนซี่รายหนึ่งระบุว่า ปัญหาระหว่างสถานีโทรทัศน์ เจ้าของสินค้า และมีเดียเอเยนซี่มีให้เห็นเป็นระยะ เนื่องจากทั้ง 3 ส่วนต้องทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด และแต่ละฝ่ายคำนึงถึงผลประโยชน์ในส่วนของตัวเองเป็นที่ตั้ง โดยฟากสถานีโทรทัศน์ หากรายการได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นก็ย่อมมองหาโอกาสในการสร้างรายได้และเพิ่มอัตราการเติบโต ขณะที่ลูกค้าย่อมแสวงหาวิธีซื้อโฆษณาที่คุ้มค่าที่สุดและได้รับประโยชน์มากที่สุดในการเลือกลงโฆษณา และก็มักจะวางใจบริษัทมีเดียเอเยนซี่ที่มีความเชี่ยวชาญและมีอำนาจในการต่อรองสูงเป็นตัวแทนดูแลซื้อสื่อให้ "หลายปีก่อนก็มีกรณีลักษณะนี้เกิดขึ้น ครั้งนั้นช่อง 7 สีมีแผนปรับขึ้นค่าโฆษณาในช่วงกลางปี มีเดียเอเยนซี่หลายรายเห็นพ้องกันว่าไม่ควร เพราะงบฯถูกวางแผนไปหมดแล้ว ซึ่งครั้งนั้นก็ตกลงกันได้" ดังนั้น การปรับขึ้นค่าโฆษณาจึงควรมองในเชิงการตลาดให้ครบ ถ้าดีมานด์น้อยการปรับขึ้นราคาก็คงเป็นเรื่องยาก หากดีมานด์สูงการปรับขึ้นราคาก็ไม่ใช่ปัญหา "ตามหลักการทำงานแล้วมีเดียเอเยนซี่จะคำนวณว่าขึ้นราคาแล้วความคุ้มค่ามีมากน้อยแค่ไหน หากไม่คุ้มเราก็ต้องถอย เพราะเจ้าของสินค้าเองเขาก็มีระบบวัดประสิทธิภาพในการใช้สื่ออยู่เช่นกัน" แต่การปรับขึ้นราคาของช่อง 7 สีครั้งนี้ เป็นอะไรที่ผิดจังหวะไปหน่อย ขณะที่คนในวงการมีเดียเอเยนซี่ต่างฟันธงว่า ข่าวที่ออกมาทำให้ทั้งวงการจับตาท่าทีของ "มายด์แชร์" และ "ช่อง 7" ว่าจะมีทิศทางเช่นไรต่อไป ระหว่างความขัดแย้งที่ขยายวงออกไป หรือหันหน้ากลับมาเจรจา จึงเป็นประเด็นที่น่าจับตามองว่า เมื่อต่างฝ่ายต่างเป็นยักษ์ใหญ่ทั้งคู่ ท้ายที่สุดความขัดแย้งนี้จะเป็นเพียงเรื่องของลิ้นกับฟัน โดยมีงบฯโฆษณามหาศาลเป็นเดิมพันหรือไม่ จากคุณ : phokar - [ 16 เม.ย. 52 12:21:10 ]

ความคิดเห็นที่ 17 เหอ ๆ ๆ จากศึกนี้ กลาย ๆ คล้าย Devil ware prada ยังไงก็ไม่รู้ เจอพวกบ้าอำนาจแต่บริหารไม่เป้นก็งี๊ ถ้าเจ๊แดงออกจากช่อง 7 นะตายเลย ยิ่งออก 7 ย้ายเข้า 3 นะ (สมมุติ ๆ) ไม่อยากจะคิด ไม่อยากจะคิด ไม่อยากจะคิดสงสาร ไม่อยากจะคิดสงสาร เมื่อเห็นสาวจันทร์นั่งซึม กรู๊ว....ว..... จากคุณ : itCrazy - [ 16 เม.ย. 52 12:25:32 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ไม่ดีใจกันละ ขี้เกียจดูโฆษณา จากคุณ : แห้วกับใบบัวบก - [ 16 เม.ย. 52 12:26:49 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ดีจริงๆ ไม่ต้องซื้อนะคะ หนูเบื่อ โฆษณา แชมพูผมสวย ยาสีฟันกลิ่นวิเศษ ลูกกลิ้งจั๊กแร้ขาววิ้ง น้ำหอมซุปเปอร์11รด ผงซักฟอกผ้าขาวยังกะเพิ่งซื้อมาซัก ดีมากมากคะคุณแดง หนูอยู่ข้างคุณนะคะ จากคุณ : ... (พะโล้เพ็ด) - [ 16 เม.ย. 52 12:47:33 ]

ความคิดเห็นที่ 20 งั้นก็เท่ากับห้ามดาราช่อง7ไปโฆษณาสินค้าของยูนิลีเวอร์ด้วยหรือเปล่า??? เท่าที่เห็นๆตอนนี้ก็มีเต็งหนึ่งกับวอลล์   อั้มกับซันซิล   ขวัญกับลักษ์ งุงิ งุงิ จากคุณ : *+*ข น ม ผิ ง ข้ า ง เ ต า*+* - [ 16 เม.ย. 52 13:11:52 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ตามข่าวที่ติดตามมา เขาก็บอกว่า ยูนิลีเวอร์ ก็รู้ดีว่า Target ของลูกค้าที่มีต่อสินค้าส่วนใหญ่ของ ยูนิลีเวอร์คือ ช่อง 7 ยูนิลีเวอร์ เคยทำผลสำรวจถึงประสิทธิภาพของการใช้เม็ดเงินโฆษณาและความคุ้มค่า ปรากฎว่า ช่อง 7 ให้ผลคุ้มค่าสูงที่สุด เพราะเป้าหมายเหลักของสินค้าและกลุ่มคนดูละครช่อง 7 จะเป็นกลุ่มที่มีการเปลี่ยนช่องในระหว่างที่มีการโฆษณาน้อยที่สุด เมื่อเทียบกับช่องอื่น เป็นสาเหตุให้งบโฆษณาของ ยูนิลีเวอร์แต่ละปี เทมาลงที่ช่อง 7 เป็นอันดับ 1 แล้วถึงจะแปลนไปที่ช่องอื่น ข่าวงในจากเพื่อนแจ้งว่า...ช่องคู่แข่ง ปรับขึ้นค่าโฆษณาในบางรายการ แต่...ก็ให้ส่วนมากเดิม บางรายการมีส่วนลดถึง 30% และแถมให้ในช่วงนอกเวลา Primtime อีกด้วย จากคุณ : ฉันกับวันเหงา ๆ - [ 16 เม.ย. 52 13:22:42 ]

ความคิดเห็นที่ 22 อ่านบอกข้อความแล้วก็ขำนะคะ ท่าทางจะเกลียดช่อง 7 มากเลยทีเดียว เจอกระทู้ช่อง 7 ต้องเห็น คนคุ้นเคยที่คอยกระแนะกระแหน่ช่อง 7 ตอบอยู่ทุกกระทู้ ส่วนเรื่องนี้ เชื่อว่าสุดท้ายทั้งช่อง 7 และเหล่าเอเยนซี่โฆษณาก็คงตกลงกันได้อย่างแน่นอน แล้วนี้ เมือใหร่ที่เขาตกลงกันได้แล้ว จะทำให้แฟนขับบ้างคน เซ็ง หรือ อกแตกตาย หรือเปล่าคะ จากคุณ : Narak_ka - [ 16 เม.ย. 52 14:40:57 ]

ความคิดเห็นที่ 23 *22 ขำอันเดี๋ยวกันเลย แฟนคลับตัวจริงช่อง 7 เลย 55555555 จากคุณ : ขวานฟ้าหน้าแดง - [ 16 เม.ย. 52 18:51:52 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ถ้าค่าการตลาดสูงขึ้นๆ ทุกปี แบบนี้ สินค้าอุปโภคบริโภคของ ยูนิลิเวอร์ก็ต้องแพงตามไปด้วยซิค๊ะ  สภาวะเศรษฐกิจแบบนี้นักธุรกิจต้องช่วยเหลือกันให้มากๆ เพราะกระทบต่อชาวบ้านเหมือนกันนะ ถ้าสินค้าจำเป็น ผงซักฟอก น้ำยาล้างจาน ยาสระผม สบู่ ต้องลดคุณภาพของวัตถุดิบที่ซื้อมาผลิตสินค้าลงเพื่อนำเงินไปจ่ายค่าโฆษณา แต่ต้องทำราคาให้อยู่ในมาตรฐานที่ชาวบ้านซื้อได้  แบบนี้กรรมก็ตกกับชาวบ้าน ต้องทนใช้ สบู่ ผงซักฟอก ยาสระผม คุณภาพด้อยลง ลำพังผู้ผลิตสินค้าอุปโภคฯ เหล่านี้ต้องสู้กับ ห้างค้าปลีกยักษ์ใหญ่ ที่กดราคาขายให้ถูกๆ แล้ว ผู้ผลิตยังต้องจ่ายค่าการตลาดสูงขึ้นทุกไตรมาส ทุกปีแบบนี้ จั่งเอ๊ก โบ่ยเซียว ค่ะ ไม่ใช่แค่ผลประโยชน์ขององค์กรสื่อสารมวลชน แต่เป็นผลประโยชน์ของชาวบ้านตาดำๆ ด้วย แก้ไขเมื่อ 16 เม.ย. 52 20:56:31 แก้ไขเมื่อ 16 เม.ย. 52 20:56:02 จากคุณ : kookkookke - [ 16 เม.ย. 52 20:54:19 ]

ความคิดเห็นที่ 25 คนรวยสู้กัน ไม่เข้าใจ จากคุณ : Ryckie - [ 17 เม.ย. 52 12:36:43 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ไม่รู้ใครจะยอมยกธงก่อนกัน จากคุณ : Taffade (SonicOod) - [ 17 เม.ย. 52 13:45:31 ]

ความคิดเห็นที่ 27 เลยเอาไปเป็นจุดสังเกตอย่างหนึ่งเมื่อคืน อุ๊ย จริงด้วยสิ ช่วงปกติของสถานี ไม่มี โฆษณาของ ยูนิจริืง ๆ (เราอ่านกระทู้นี้แต่เมื่อวานแล้วจึงมาสังเกตเอา และมาโพส) เจตนาคนส่วนใหญ่ ไม่ได้ต้องการกระแหนะกระแหนหรอกนะคะ แต่ต้องการทราบเจตนา และรู้ถึงจุดเปลี่ยนแปลงระดับหนึ่ง ที่จะเข้าสู่ ยุคมืด หรือ ยุคโมเดิร์น หน่ะค่ะ และซึ่งจากตรงจุดนี้ ก็รู้อย่างยิ่ง ว่าบริหารเป็นเช่นไร อาจจะเป็นแค่เกมส์กลธุรกิจอย่างหนึ่งก็ได้ ซึ่งทางช่องต้องทำ เพื่อเข้าปกครองโดยตรง และอาจจะเกิดการต้องการความเปลี่ยนแปลง เราก็รู้สึกว่ากระแสส่วนใหญ่ จะออกมาหนุนให้ฝ่ายตรงข้ามยิ่งเหมือนเสือนอนกินมากกว่า คือ 7 สี เหมือนยิ่งดิ้นรน ยิ่งรัด และแพ้ทางมากขึ้น ว่า จำนวนแค่หยิบมือ จะไปต่อกรอะไร กับ สังคมบันเทิงแออัดได้ ขนาดเมื่อกี้ดูรวม 7 สีคอนเสิรต์ เรายังรู้สึกทะ:-) ๆ ยังไงพิกล จอแก้ว ไม่เหมือน ธนาคาร นะคร้าาาาาาาา จากคุณ : หายป่วยแล้ว - [ 17 เม.ย. 52 17:50:33 A:222.123.218.241 X: TicketID:191399 ]