Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com


    spoil รึเปล่า ? ** ประวัติ ลีซาน ของแท้แน่นอน

    เผื่อบางคนยังไม่ทราบ

    ถ้าใครทราบแล้ว ขออภัยด้วย

    จากวิกิพีเดีย

    *

    *

    พระเจ้าจองโจ กษัตริย์องค์ที่ 22 แห่งราชวงศ์โชซอน ทรงได้รับยกย่องว่าทรงเป็นหนึ่งในกษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งโชซอน
    ทรงสานต่อการปฏิรูปบ้านเมืองจากพระเจ้ายองโจพระอัยกา ทำให้อาณาจักรโชซอนในศตวรรษที่ 18 กลับขึ้นมารุ่งเรืองอีกครั้งอย่างมีเอกลักษณ์ของตนเอง
    ทรงได้ชื่อว่าเป็นกษัตริย์ที่สนพระทัยในความเป็นอยู่ของราษฏรอย่างมาก ผิดกับกษัตริย์องค์ก่อนๆและทรงฝักใฝ่หาความรู้ต่าง
    ทรงมีโครงการใหญ่มากที่จะย้ายเมืองหลวงไปที่ฮวาซอง โดยทรงสร้างป้อมขนาดใหญ่ คือ ป้อมฮวาซอง

    ลี ซาน ประสูติในพ.ศ. 2295 ที่เคียงชอนจอน พระราชวังชางเกียงกุง
    เป็นพระโอรสองค์ที่สองขององค์ชายรัชทายาทจังฮอน(องค์ชายซาโด) กับพระชายาเฮคยอง
    พระเจ้ายองโจพระอัยกาได้แต่งตั้งลี ซานเป็นวังเซซุน (พระนัดดารัชทายาท) ตามพระบิดา
    วังเซซุนทรงมีพระเชษฐาอยู่องค์หนึ่ง ได้รับแต่งตั้งเป็นรัชทายาทมาก่อน แต่สิ้นพระชนม์ไปในปีเดียวกับที่ลี ซาน ประสูติ

    ปรากฏในภายหลังองค์ชายจังฮอน(องค์ชายซาโด)ทรงมีพระอาการทางพระสติไม่ปกติ ทรงหวาดกลัวสิ่งต่างๆรอบพระองค์ ทรงทำร้ายร่างกายข้าราชบริพารต่างๆ ทรงสังหารบรรดาซังกุง หมอหลวง เป็นที่หวาดกลัวไปทั่ววัง
    ทรงถึงกับขนาดใช้ไม้ทุบน้องพระชายาองค์หนึ่งจนถึงแก่ความตาย ในพ.ศ. 2305 ขุนนางฝ่ายโนนนถือโอกาสถวายฏีกาแก่พระเจ้ายองโจ ให้ทรงลงอาญาองค์ชายจังฮอน องค์ชายจังฮอนทรงพิโรธ หาว่าพวกขุนนางใส่ร้ายป้ายสี จับเอาญาติมิตรของขุนนางเหล่านั้นมาทรมานจนเสียชีวิต

    จนสนมลียองบินพระมารดาขององค์ชายจังฮอนทนไม่ได้ขอให้พระเจ้ายองโจลงพระอาญาองค์ชายจังฮอน ในพ.ศ. 2305
    พระเจ้ายองโจมีราชโองการให้จับองค์ชายจังฮอนขังไว้ในกล่องไม้ใส่ข้าว เป็นเวลาเจ็ดวัน จึงสิ้นพระชนม์
    องค์ชายลีซานและพระชายาถูกปลดจากตำแหน่งรัชทายาททุกประการ

    วังเซซุนครองราชย์ในพ.ศ. 2319 เป็นพระเจ้าจองโจ ในพิธีราชาภิเษก ตรัสว่า

    " ข้าคือพระโอรสขององค์ชายรัชทายาทซาโด กษัตริย์องค์ก่อน(พระเจ้ายองโจ)ให้ข้าเป็นพระโอรสขององค์ชายรัชทายาทฮโยจัง เพราะทรงคิดว่าความชอบธรรมของพระราชวงศ์เป็นเรื่องสำคัญ "



    เหตุการณ์ประหารองค์ชายซาโดทำให้การเมืองโชซอนแตกเป็นสองฝ่าย คือ ฝ่ายที่ยอมรับการที่พระเจ้ายองโจทรงสังหารพระโอรส เรียกว่า ฝ่ายชิปา คือ ฝ่ายโซนนเดิม
    ประกอบด้วยตระกูลฮงแห่งพงซาน มีฮงกุกยองเป็นผู้นำ มีความคิดยอมรับอารยธรรมตะวันตกและคริสต์ศาสนา
    และฝ่ายที่ไม่เห้นด้วย เรียกว่า ฝ่ายพยอกปา คือ ฝ่ายโนนนเดิม ตระกูลคิมแห่งอันดง นำโดยพระอัยยิกาคิม มเหสีของพระเจ้ายองโจ อนุรักษ์นิยมและต่อต้านคริสต์ศาสนา

    ฝ่ายโนนนที่เคยสนับสนุนให้มีการประหารองค์ชายซาโด จึงถูกกดขี่อย่างนัก ในพ.ศ. 2315
    พระเจ้าจองโจทรงเนรเทศคิมฮันกู พระบิดาของพระอัยยิกาคิม มเหสีของพระเจ้ายองโจ และฮงพงฮัน พระเจ้าตาของพระองค์เอง ในฐานะที่เป็นผู้นำฝ่ายโนนน แม้ฝ่ายโนนนจะเสียอำนาจไป แต่ก็ยังคงอยู่ได้ด้วยพระพันปีคิม

    เนื่องจากพระเจ้าจองโจทรงสนพระทัยในศิลปะวิทยาการความรู้ต่างๆ โดยเฉพาะความรู้ตะวันตกที่เข้ามาใหญ่พร้อมกับคริสต์ศาสนา
    ทำให้ทรงไม่สนพระทัยการเมืองในวังและปล่อยให้ ฮงกุกยอง ราชเลขาจัดการ
    พระเจ้าจองโจทรงพยายามที่จะสลายการแบ่งแยกขุนนางออกเป็นฝั่กฝ่าย โดยทรงตั้งคยูจังกัก ในพ.ศ. 2319 ให้เป็นที่สำหรับหารือกิจการบ้านเมืองและถกความรู้เกี่ยวกับปราชญ์ขงจื้อ
    โดยมีแชร์เชกง เป็นหัวหน้าคยูจังกักและเป็นอัครเสนาบดี เป็นที่ปรึกษาคนสำคัญของพระเจ้าจองโจ พระเจ้าจองโจทรงพยายามที่จะล้มเลิกข้อกีดกันทางสังคมเดิม
    ที่มิให้บุตรที่เกิดจากอนุภรรยาของขุนนางเข้ารับราชการเพื่อให้ได้คนที่มีความสามารถแต่ฐานะต้อยต่ำ
    ซึ่งคยูจังกักก็เป็นที่สำหรับขุนนางใหม่เหล่านี้ ซึ่งก็เป็นลูกของอนุภรรยาของขุนนางฝ่ายโนนนเสียส่วนใหญ่ ขุนนางในคยูจังกัก เป็นฝ่ายชิปาทั้งนั้น และก้าวหน้าเร็ว ทำให้ฝ่ายโนนนโจมตีพระเจ้าจองโจว่าทรงตั้งคยูจังกักเป็นที่เลี้ยงขุนนางที่เข้าข้างพระองค์

    และพระเจ้าจองโจยังทรงสนับสนุนปราชญ์ขงจื้อแนวประยุกต์ที่เรียกว่าว่า ชิลฮัก ที่เน้นการนำหลักปรัชญาไปใช้จริงในการดำเนินชีวิต ไม่ใช่หลักปรัชญาในอุดมคติที่สมบูรณ์แบบจนนำมาใช้จริงไม่ได้

    ในพ.ศ. 2321 พระเจ้าจองโจทรงอภิเษกน้องสาวของฮงกุกยองเข้ามาเป็นสนมวอน ตระกูลฮง
    แต่ไม่ทันไรปีถัดมาสนมฮงก็เสียชีวิต ทำให้ฮงกุกยองคิดว่าน้องสาวของตนเสียชีวิตเพราะการกระทำของมเหสีฮโยอึย มเหสีของพระเจ้าจองโจ
    จึงวางแผนลอบปลงพระชนม์พระมเหสีเพื่อแก้แค้น แต่ถูกจับได้และถูกเนรเทศ และต่อมาไม่นานฮงกุกยองก็เสียชีวิต

    พระเจ้าจองโจทรงสนับสนุนขุนนางฝ่ายโซนนให้ขึ้นมามีอำนาจเพื่อคานอำนาจกับฝ่ายโนนนที่มีอำนาจอยู่เดิมในสมัยพระเจ้ายองโจ
    ฝ่ายโนนนที่เสียอำนาจ หรือ ฝ่ายพยอกปา (พยอกปา แปลว่า เสียอำนาจ) นำโดยชิม ฮวานจี เป็นอุปสรรคสำคัญในการดำเนินการปฏิรูปบ้านเมืองของพระเจ้าจองโจ
    ไม่ว่าพระเจ้าจองโจจะออกการปฏิรูปอะไรฝ่ายโนนนก็จะคัดค้านเสมอ แต่กระนั้นก็มิได้ทรงละทิ้งหรือกีดกันฝ่ายโนนนแต่อย่างใด เพราะทรงถือหลังความเท่าเทียมกันของทุกฝ่าย
    มีหลักฐานค้นพบใหม่ว่าแท้จริงแล้วพระเจ้าจองโจทรงวางแผนให้ฝ่ายโนนนและโซนนขัดแย้งกัน เพื่อให้การเมืองเป็นไปอย่างที่พระองค์ต้องการ
    ทรงตั้งขุนนางจากฝ่ายโนนน โซนน และฝ่ายใต้ เป็นอัครเสนาบดี เสนาซ้าย และเสนาขวาตามลำดับ

    ในพ.ศ. 2325 พระเจ้าจองโจทรงมีพระโอรสกับพระสนมซองซงยอน ตระกูลซอง
    และแต่งตั้งเป็นองค์รัชทายาทมุนฮโย แต่ในพ.ศ. 2329 รัชทายาทมุนฮโยก็สิ้นพระชนม์
    และสนมซองก็สิ้นพระชนม์ในปีเดียวกันในขณะที่มีประสูติกาล จนในพ.ศ. 2333 พระเจ้าจองโจก็มีพระโอรสอีกองค์ กับสนมซู ตระกูลปาร์ค
    จึงแต่งตั้งเป็นรัชทายาทอีกพระองค์ ภายหลังจึงได้ขึ้นเป็นพระเจ้าซุนโจ พระเจ้าจองโจทรงมอบรัชทายาทให้อยู่ในความอุปถัมภ์ของพระอัยยิกาคิม(อดีตพระมเหสีของพระเจ้ายองโจ)

    ในพ.ศ. 2335 ขุนนางฝ่ายใต้ยื่นฎีกาให้พิจารณาความผิดขององค์ชายรัชทายาทซาโดใหม่ ว่าที่จริงแล้วทรงถูกให้ร้าย
    พระเจ้าจองโจทรงถือโอกาสนี้ ดึงฝ่ายใต้ขึ้นมามีอำนาจแข่งกับฝ่ายโซนนและโนนน
    ดังนั้นในปลายรัชสมัยของพระเจ้าจองโจฝ่ายใต้มีอำนาจ นำโดย แชร์เจกง ประจวบเหมาะกับเวลาที่ราชสำนักเริ่มจะรับคริสต์ศาสนาเข้ามา
    และขุนนางฝ่ายใต้หลายคนก็เข้ารีต ในพ.ศ. 2334 พระเจ้าจองโจมีพระดำริที่จะเลิกทาสในวัง และในพ.ศ 2337 ก็
    ทรงจะให้ตรวจสอบการถือครองที่ดินของขุนนาง ทำให้ขุนนางฝ่ายโนนนประท้วงอย่างรุนแรง

    ในพ.ศ. 2337 พระเจ้าจองโจทรงเริ่มโครงการสร้างป้อมฮวาซอง เพื่อให้เป็นที่ฝังศพของพระบิดาองค์ชายซาโด และเป็นพระราชวังอีกแห่ง
    มีจองยัคยอง นักปราชญ์ซิลฮักคนสำคัญเป็นคนออกแบบ การสร้างป้อมฮวาซองแสดงถึงความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีของโชซอนในสมัยนั้น และเป้าหมายที่แท้จริงของพระเจ้าจองโจในการสร้างป้อมนี้ก็เพื่อรองรับการย้ายเมืองหลวงไปที่เมืองซูวอนในอนาคต
    พระเจ้าจองโจประทานรางวัลแก่ราษฏรที่ยอมย้ายไปยังเมืองซูวอนและไม่ต้องเสียภาษีไปห้าปี หลังจากใช้เวลาสร้างสองปีกว่า ป้อมฮวาซองก็เสร็จสมบูรณ์ในพ.ศ. 2339

    พระเจ้าจองโจสิ้นพระชนม์อย่างกระทันหันในพ.ศ. 2343 โดยที่โครงการใหญ่ต่างๆของพระองค์ยังค้างอยู่
    สุดท้ายเมืองหลวงก็ไม่ได้ย้ายไปไหน พระโอรสคือพระเจ้าซุนโจก็มิได้ทรงสานงานต่อ เพราะทรงตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของพระอัยยิกาคิม
    ในรัชสมัยของพระเจ้าจองโจฝ่ายใต้มีอำนาจ แต่ฝ่ายโนนนยังรอคอยเวลาจะแก้แค้นอยู่ ซึ่งความขัดแย้งระหว่างฝ่ายขุนนางก็กลับขึ้นมาอีกครั้งหลังรัชสมัยของพระองค์







    พระบรมนามาภิไธย :: พระเจ้าจองโจ
    พระอิสริยยศ :: พระมหากษัตริย์แห่งเกาหลี ราชวงศ์ โชซอน
    ครองราชย์ :: 10 มีนาคม พ.ศ. 2319—28 มิถุนายน พ.ศ. 2343
    ระยะครองราชย์ :: 24 ปี
    รัชกาลก่อนหน้า :: ยองโจ
    รัชกาลถัดไป :: ซุนโจ

    ข้อมูลส่วนพระองค์
    พระราชสมภพ :: 22 กันยายน พ.ศ. 2295
    สวรรคต :: 28 มิถุนายน พ.ศ. 2343 (พระชนมายุได้ 48 พรรษา)

    พระราชบิดา :: องค์ชายซาโด

    พระราชมารดา :: พระชายาเฮคยอง

    พระมเหสี :: มเหสีฮโยอึย ตระกูลคิม

    พระสนม ::
    พระสนมเอกซงยอนอึย ตระกูล ซอง
    สนมยองบิน ตระกูล ยุน
    สนมซุกกีวอน ตระกูล ฮง
    สนมซุกกีซู ตระกูล ปาร์ค

    พระโอรส ::

    องค์ชายรัชทายาทมุนฮโย ประสูติพ.ศ. 2325 กับสนมเอกซงยอน ตระกูลซอง สิ้นพระชนม์ พ.ศ. 2329
    พระเจ้าซุนโจ ประสูติพ.ศ. 2333 กับสนมซุกกี ตระกูลปาร์ค

    พระธิดา  ::

    องค์หญิงซุกซอน ประสูติกับสนมซุกกี ตระกูลปาร์ค

     
     

    จากคุณ : z3phyr - [ 27 เม.ย. 52 13:21:24 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com