CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGang


    <<<<< ดูแล้วมาคุยกัน ... Last Chance Harvey , โอกาสของความรัก โอกาสของชีวิต >>(หนังรักดีๆที่เชียร์ให้รับชม)>>

      ชอบมาก ห้ามพลาด (2 คน)
      ชอบ (2 คน)
      เฉยๆ (1 คน)
      ไม่ชอบ (0 คน)
      ไม่ชอบมาก เสียดายตังค์ (2 คน)

    จำนวนผู้ร่วมโหวตทั้งหมด 7 คน

     28.57%
     28.57%
     14.29%
     0.00%
     28.57%


    เลือกอ่านบทความนี้พร้อมรูป , อ่านความเห็นอื่นที่น่าสนใจ และ ชวนมาพูดคุยต่อที่  http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=aorta&month=23-04-2009&group=14&gblog=154


          man สำหรับคนอย่าง ฮาวี่ย์ ไชน์ ที่ใช้ชีวิตมากว่าครึ่งชีวิต และ เคยตัดสินใจผิดในหลายครั้ง ทำให้ชีวิตของเขาตอนนี้จึงมีแต่งานเป็นเพื่อน

    ความโดดเดี่ยว ของ ฮาวี่ย์ ถูกนำเสนอผ่านภาพของ ‘ความเป็นคนนอกและส่วนเกิน’ ทั้งในที่ทำงาน ที่ไม่มีเพื่อนฝูง แถมคนในที่ทำงานก็รอจะแซะเขาออกจากตำแหน่ง

    ส่วนในครอบครัว เมื่อเขาไปร่วมงานแต่งงานของลูกสาวที่ลอนดอน ในฐานะพ่อเจ้าสาวดูแล้วน่าจะเป็นบุคคลสำคัญ แต่ ความสำคัญของงานกลับไปอยู่ที่ อดีตภรรยา กับ พ่อเลี้ยงของลูกสาว ที่เป็นเหมือนประธานจัดงาน ส่วนเขาแทบจะถูกกลืนไปกับแขกคนอื่นๆ

    มิหนำซ้ำ ในขณะที่แขกผู้ใหญ่ ถูกจัดให้พักที่เดียวกัน แต่เขากลับถูกจับแยกมาพักที่โรงแรมอยู่คนเดียว

    ความเป็นคนนอกในสังคม ยังไม่เจ็บเท่า ความเป็นคนนอกในครอบครัว



    หนังไม่จำเป็นต้องอธิบายให้มากความว่าทำไม ฮาวี่ย์ ถึงกลายเป็นคนที่โดดเดี่ยว เพราะไม่กี่อึดใจ เราก็เห็นว่า ทั้งหลายทั้งปวงที่เกิดขึ้นล้วนมีส่วนจากเขาโดยไม่ต้องสงสัย

    เช่นในงานแต่งงานของลูกสาวที่ในชีวิตนี้จะมีแค่หนเดียว แทนที่เขาจะใช้โอกาสนี้ทำหน้าที่ พ่อ ให้เต็มที่ตลอดงาน ฮาวี่ย์เลือกที่จะขอตัวกลับไปเคลียร์งาน ในช่วงงานเลี้ยงกลางคืนของลูกสาว

    ความอดทนของลูกสาวขาดสะบั้น และ ขอให้ พ่อเลี้ยงเป็นคนส่งตัวแทนฮาวี่ย์

    ความเป็นพ่อที่ถูกสั่นคลอน กับ ความเป็นคนนอกที่ตอกย้ำ จะโทษใครไม่ได้ เพราะ ส่วนหนึ่งก็มาจากการตัดสินใจของเขาเอง




        woman สำหรับคนอย่าง เคต พนักงานสายการบินสาวโสดวัยสี่สิบกว่า การออกเดทตามแหล่งผับบาร์ที่ฮิปๆของวัยรุ่น ทำให้เธอดูจะเป็น คนนอก ที่ไม่เข้ากับบริบทสังคมโดยรอบ ยิ่งเพื่อนร่วมงานรุ่นน้องที่ไปด้วยกัน แนะนำชายหนุ่มให้รู้จัก ชายหนุ่มนั้นก็อ่อนกว่าเธอมาก จนเธอวางตัวไม่ถูกเมื่อเพื่อนของชายหนุ่มในวัยเดียวกันมาร่วมโต๊ะ

    อีกทั้ง เคต ยังมีภาระที่ต้องดูแลแม่อายุมากที่เหมือนจะมีภาวะวิตกจริตประสาคนชรา เมื่อเห็นเพื่อนบ้านคนใหม่มีทีท่าลับๆล่อๆ ก็ระแวงไปว่าเขาเป็นฆาตกร


    แม่ของเธอมีกิจวัตรประจำวันคือคอยโทรศัพท์หาเคตย้ำๆ และ ยังคงกินยารักษามะเร็งต่อเนื่องทั้งๆที่หายดีแล้ว หลังจากสูญเสียสามีไปให้กับหญิงอื่น และ เหลือที่พึ่งเพียงคนเดียวคือเคต จนเพื่อนขนานนามแม่ของเธอว่าเปรียบเสมือน ปัจจัยช่วยคุมกำเนิดไม่ให้เธอได้ไปมีสัมพันธ์กับหนุ่มๆได้

    เคต จัดการความโดดเดี่ยวของตัวเองด้วยการหากิจกรรมสังคม เช่น ไปเรียนเขียนหนังสือพบปะผู้คน จนดูราวกับว่า เธอไม่ต้องการใครเข้ามาในชีวิต จนจุดหนึ่งที่เธอสารภาพว่า เธอไม่ได้ต้องการอยู่คนเดียว แต่เธอก็กลัวเหลือเกินที่จะเปิดรับใครเข้ามาและต้องเจอปฏิเสธ เพราะเธอเคยผ่านเรื่องราวแบบนี้มามากแล้ว




    กามเทพ ฮาวี่ย์ พบกับ เคต ครั้งแรกตอนลงจากเครื่องที่สนามบินฮีทโธรว เขากำลังวุ่นๆกับเรื่องงานและคิดล่วงหน้าไปงานแต่งลูกสาว เมื่อ เคตขอความร่วมมือตอบแบบสอบถาม เขาก็บอกปัดแบบไร้เยื่อใย

    เหตุการณ์สั้นๆที่ไม่น่าจะจดจำ แต่เมื่อพบกันเป็นครั้งที่สอง ฮาวี่ย์ ในสภาพคนสิ้นหวังสูญเสียสิ่งที่ยึดเหนี่ยวไปหมดสิ้น เขากลับจำช่วงเวลาสั้นๆเพียงเสี้ยววินาทีที่เจอเคต และ เปิดบทสนทนาชวนเคตคุยในร้านอาหารที่สนามบิน

    โอกาสครั้งใหม่ของ ฮาวี่ย์ ที่จะทำให้เขาไม่โดดเดี่ยว เปิดกว้างขึ้นอีกครั้ง




          นั่งมองชื่อหนัง Last Chance Harvey และ นั่งดูชีวิตของ ฮาวี่ย์ ทำให้อดคิดถึงตัวเองไม่ได้ว่า มีโอกาสมากน้อยแค่ไหน ที่ในอนาคตหลายปีข้างหน้า เราอาจจะต้องประสบชะตากรรมเดียวกับฮาวี่ย์ ต้องพบความโดดเดี่ยว ต้องมานึกเสียใจในสิ่งที่เคยเลือก

    ลองนึกย้อนกลับไป ทุกๆคนมีโอกาสในชีวิตเสมอ แต่ โอกาสไม่ได้มีให้ใช้พร่ำเพรื่อที่นึกอยากจะใช้เมื่อไหร่ ก็มีเข้ามา

    เช่นในเรื่อง loveความรักความสัมพันธ์

    ผมคิดว่า กว่าที่ ฮาวี่ย์ ไชน์ จะต้องกลายมาเป็นคนที่โดดเดี่ยว ต้องผ่านกระบวนการเหมือนกับเราทุกคนเวลาประสบปัญหาชีวิตคู่

    นั่นคือ

    เมื่อเริ่มต้นทะเลาะเบาะแว้ง เรามีโอกาสมากกว่าสองทางเลือกเสมอ ที่จะ ปรับความสัมพันธ์ให้ดีขึ้น หรือ ปล่อยทิ้งไว้ หรือ แยกทางกันไป

    ผลของการตัดสินใจข้างต้น มีส่วนทำให้ชีวิตคู่ดีกว่าเดิม และ ก็สามารถทำให้ปัญหาที่เกิดขึ้นลุกลามจนนำไปสู่ความขัดแย้งรุนแรง

    ถัดจากนั้น ถึงความรักจะจืดจางลงอย่างไร เราก็ยังมีทางเลือกมากกว่าสองทางที่จะ ปรับความสัมพันธ์ให้ดีขึ้น หรือ ปล่อยทิ้งไว้ หรือ แยกทางกันไป

    ผลของการตัดสินใจข้างต้น มีส่วนทำให้ความรักกลับมาสดใส

    แต่ ณ.จุดหนึ่ง การตัดสินใจของเรา ก็สามารถผลักให้เราไปอยู่ที่ทางแยกที่เหลือเพียงแค่สองทาง ระหว่าง การบอกรัก กับ การบอกลา เพราะณ.จุดนั้น เราไม่สามารถที่จะอยู่ต่อไปด้วยวิธี ปล่อยทิ้งไว้ เหมือนเช่นเคย



          ไม่ว่าจะโอดครวญเพียงใด โอกาสที่ผ่านพ้นไปแล้ว ไม่มีวันย้อนกลับมา ยิ่งย้อนคิดรังแต่จะมี ความรู้สึกเสียดาย ไปกับการตัดสินใจในอดีต สิ่งเดียวที่ทำได้คือ ถ้าเราได้รับโอกาสอีกครั้ง เราจะเลือกต่างออกไป หรือ เลือกเดินบนนถนนเส้นเดิม

    ฮาวี่ย์ ไชน์ มีโอกาสที่จะเลือกว่า เขาจะกลับไปทำงาน หรืออยู่ที่ลอนดอนต่อเพื่อลูกสาว

    เขามีโอกาสที่จะเลือกว่า จะให้ความสำคัญกับงานลดลงแล้วกลับมาให้ความสำคัญกับ’คน’มากขึ้น เลือกว่าจะให้คุณค่าของอะไรมากไปกว่ากัน ระหว่าง ‘ความสำเร็จในหน้าที่การงาน’ หรือ ‘ความรักความสัมพันธ์กับคนรักและครอบครัว’




          Last Chance Harvey เข้าฉายอยู่ไม่กี่โรง ถือว่าเป็นเซอร์ไพรส์เล็กๆที่ดูแล้วรู้สึกว่าหนังถูกจริต เพราะปกติตัวเองชอบหนังรักไม่จำกัดแนว คือชอบทั้งสไตล์ บิวท์มาก ใส่สีสันเต็มที่ เช่น Love actually , Music and lyrics ฯลฯ ในขณะเดียวกัน ผมก็ตกหลุมรักหนังโรแมนติกสไตล์บิวท์น้อยเป็นธรรมชาติอยู่บ่อยๆ เช่น Before Sunrise & Before Sunset , Once ฯลฯ แต่ระยะหลัง หาหนังรักถูกใจไม่ค่อยจะได้ และ หนังรักที่มีความเป็นผู้ใหญ่ในตัวสูงก็มีน้อยเต็มที

    Last Chance Harvey เป็นหนังรักที่เข้ามาเติมเต็มให้หายคิดถึง คือไม่ใช่รักหนุงหนิงนิ๊งหน่อง และ บิวท์ให้รู้สึกดีแบบไม่มากไม่น้อยไป

    สิ่งหนึ่งที่โดดเด่นเป็นอย่างมาก และ ผมคิดว่าเป็นตัวอย่างอันดีในการตอบคนที่เคยสงสัยว่า เวลาไปอ่านเจอบทความที่พูดถึง Chemistry ที่เข้าคู่กันของคู่พระนางเป็นอย่างไร การแสดงของ ดัสติน ฮอฟแมนน์ และ เอ็มม่า ธอมป์สัน เป็นคำตอบที่เห็นภาพชัดเจน โดยเฉพาะฉากที่ร้านอาหารสนามบิน ซึ่งเป็นหนึ่งในสองฉากที่ผมชอบเอามากๆ (อีกฉากคือ ฉากกล่าวอวยพรลูกสาว ที่ทำเอาน้ำตาซึมในความรักของคนเป็นพ่อ ที่ถูกมองเหมือนคนที่มักจะทำอะไรผิดที่ผิดทางมาตลอด)

    ทั้งคู่มีความเข้าคู่เข้าขากัน และ นำไปสู่ความโรแมนติกได้โดยไม่ต้องพยายามมาก แต่จังหวะทั้งภาษากายหรือคำพูดเหมือนจะถูกจูนให้เข้าคู่กันมาแบบอัตโนมัติ

    ที่ชอบอีกอย่างคือ มุกตลกในหนังเรื่องนี้ ล้วนน่ารัก ทั้งที่มาจาก บทของแม่นางเอก และ ฉลาดกัดแกมหยอกโดยเฉพาะ'ความเป็นอังกฤษ-อเมริกัน' ที่หนังแหย่ได้น่ารักดี




         หนังเรื่องนี้อาจไม่ใช่หนังรักคุณภาพระดับห้าดาวขึ้นหิ้ง แต่ การที่หนังนำเสนอให้เห็นถึง ความรัก ที่ไม่ได้มีคุณสมบัติในแง่ของความสุขสนุกสนาน แต่ ความรัก ทำหน้าที่ค่อยๆพาคนๆหนึ่งเดินออกมาจากจุดที่รู้สึกแปลกแยกจากคนรอบตัว เจ็บปวดกับความเป็นคนนอกในครอบครัว รู้สึกเหมือนตัวเองถูกตัดตอน(disconnect) ออกจากสังคม และ ถูกสายตารอบข้างมองอย่างติดลบ

    นำมาสู่ จุดที่ทำให้เขาอยากเปลี่ยนแปลงตัวเองเหมือนประโยค You make me want to be a better man. ใน As Good as It Gets และ ได้พบใครสักคนที่เข้าใจมาเติมเต็มเหมือนใน Lost in translation  

    ซึ่งเป็น จุดเดียวกับที่ทำให้หญิงสาวอีกคน สามารถเปิดเผยเรื่องที่ทำให้รู้สึกผิดที่สุดในชีวิตที่เคยทำ พร้อมจะสารภาพให้ใครอีกคนที่เรารู้ว่าเขาจะไม่ตัดสิน แต่แค่ ยินดีจะรับฟังด้วยความเข้าใจ

    จุดนั้นคือจุดที่ทำให้ Last Chance Harvey เป็น หนังรักที่น่ารักและผมอยากเชียร์ให้ไปรับชม




    smile จขกท. ขอฝากผลงานหนังสือลำดับที่ 4 ที่ชักชวนเพื่อนผู้อ่านสำรวจจิตใจตัวเองกับคนรอบข้างผ่านโลกภาพยนตร์ที่ชื่อ มากกว่าที่ตาเห็น-LifeScan ตามร้านหนังสือทั่วไทย ตั้งแต่ต้นเดือนพ.ค.จ้า




    ideaบทความที่อ้างอิงถึงในกระทู้
    (บทความเหล่านี้เคยนำมาลงในกระทู้แล้ว)

    Before Sunrise & Before Sunset , เมื่อความรักเธอเข้ามา ทำให้ดวงตาฉันเห็นความสดใส
    http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=aorta&month=22-04-2009&group=14&gblog=153

    Music and Lyrics , หนังที่น่ารักที่สุดในรอบ(หลาย)ปี
    http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=aorta&group=1&month=02-2007&date=27&blog=1

    Lost in translation , เวลาที่หยุดเดินในชีวิตที่ชะงักงัน
    http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=aorta&month=04-2005&date=26&group=2&blog=1

    สองหนังรักน่าประทับใจ , Once & Dan in real life , เธอคือคนที่ใช่(ในวันที่ผิด)
    http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=aorta&month=12-03-2008&group=14&gblog=78

    แก้ไขเมื่อ 29 เม.ย. 52 16:20:04

    แก้ไขเมื่อ 29 เม.ย. 52 16:18:07

    จากคุณ : "ผมอยู่ข้างหลังคุณ" - [ 29 เม.ย. 52 16:14:41 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com