Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com


    Twilight - Midnight Sun บทที่ 1 (ที่เหลือ)

    เดี๋ยวจะเอามาลงเรื่อยๆค่ะ ตั้งใจว่าจะแปลให้จบเท่าที่มี (รู้สึกจะเป็น draft ที่ 4 ปี 2008 download มาจาก official web ของ Stephenie Meyer) แล้วก็จะทำ blog เก็บด้วย ขอบคุณนะคะสำหรับคอมเม้นต์

    enjoy reading ka'.
    ..........................................

    เอ็มเม็ตต์ โรสซาลี่และแจสเปอร์ทำเป็นว่าเรียนอยู่ปีสุดท้าย พวกเขาแยกไปเข้าห้องเรียน ผมเล่นบทเด็กกว่านั้น ผมดิ่งไปที่ห้องเรียนชีวะของชั้นปีสอง ก่อนเตรียมตัวเข้าสู่ช่วงเวลาแห่งความเบื่อหน่าย อาจารย์แบนเนอร์ฉลาดแค่ระดับปานกลาง เขาไม่อาจทำอะไรให้ผมซึ่งเรียนจบหมอมาแล้วสองใบให้แปลกใจได้หรอก

    ในห้องเรียน ผมนั่งลงที่เก้าอี้แล้วก็วางหนังสือ --ของประกอบอีกเหมือนกัน หนังสือพวกนี้ไม่มีอะไรที่ผมยังไม่รู้-- วางกระจายทั่วโต๊ะ ผมเป็นคนเดียวที่ใช้ทั้งโต๊ะไม่ได้แชร์กัยคนอื่น พวกมนุษย์ไม่ฉลาดพอหรอกที่จะรู้ว่าทำไมพวกเขาถึงกลัวผม มีแต่สัญชาตญานการเอาชีวิตรอดลึกๆของพวกเขาที่บอกว่า จงอยู่ให้ห่างพวกเรา

    นักเรียนเริ่ททยอยๆเข้ามาใ่นห้อง ผมเอนตัวพิงพนักเก้าอี้ แล้วก็เริ่มนับเวลาถอยหลัง อยากจะหลับได้จริงๆเล้ย
    เพราะผมกำลังคิดถึงเธอ ตอนที่แองเจลิน่า เวบเบอร์พาเธอมาส่งที่ห้อง ชื่อของเธอเลยบุกรุกความคิดของผม
    'เบลล่าดูเป็นคนขี้อายเหมือนเราเลย วันนี้คงจะหนักกับเธอน่าดู อยากบอกเธออะไรๆกับเธอจัง ... แต่มันอาจจะออกมาโง่ๆก็ได้..'
    'เยส!' เสียงไมค์ นิวตันดังขึ้น เขาหันเก้าอี้ไปมอง ขณะเธอคนนั้นเดินเข้ามา

    เหมือนเดิม จากจุดที่เธอยืนอยู่นั้นมันเงียบกริบ ความเงียบรบกวนและทำให้ผมเซ็ง
    เธอใกล้เข้ามา เดินมาตามทางเดินข้างๆผมเพื่อไปพบอาจารย์ที่โต๊ะ น่าสงสาร ที่เดียวที่ยังว่างอยู่ในห้องนี้คือข้างๆผม ผมเก็บข้าวของกระจัดกระจายทั่วโต๊ะ วางหนังสือซ้อนกันให้เรียบร้อย เธอคงจะนั่งสบายหรอกนะ

    แต่บางทีการได้นั่งใกล้ๆ อาจจะทำให้ผมอ่านเธอออกก็ได้ ... ไม่ใช่ว่าผมต้องอยู่ใกล้ถึงจะอ่านใจได้.. ไม่ใช่ว่าจะมีอะไรให้ค้นหาซักหน่อย...

    เบลล่า สวอนเดินผ่านลมร้อนๆของฮีตเตอร์ที่กำลังพัดมาทางผม กลิ่นของเธอโดนผมเข้าอย่างจัง เหมือนโดนลูกปืนใหญ่กระแทก เหมือนประตูถูกไม้ท่อนใหญ่กระทุ้งให้เปิดเวลาถูกโจมตี ไม่มีภาพความรุนแรงใดๆ แรงพอจะเอามาอธิบายสิ่งที่ผมกำลังโดนอยู่ในตอนนี้ได้

    ขณะนั้น ผมกลายเป็นสิ่งที่ห่างไกลกับมนุษย์มาก ไม่เหลือร่องรอยความเป็นมนุษย์ที่ผมพยายามสวมมาตลอด

    ผมกลายเป็นสัตว์นักล่า เธอคือเหยื่อ นี่คือความจริงเดียวที่ผมคิดถึงในตอนนั้น ไม่ได้คิดเลยว่าในห้องมีพยานเพียบ ผมลืมไปหมดว่าความคิดของเธอน่าค้นหา ความคิดของเธอไม่มีความหมายใดๆแล้ว เพราะเธอจะไม่ได้ใช้มันคิดอีกต่อไป

    ผมเป็นแวมไพร์ แล้วเธอก็มีเลือดที่กลิ่นหอมหวานที่สุดเท่าที่ผมเคยได้กลิ่นมาตลอดแปดสิบกว่าปีนี้ ผมไม่แม้แต่จะเคยจินตนาการว่า มีกลิ่นหอมแบบนี้อยู่ในโลกด้วย ถ้าผมรู้ว่ามี ผมคงออกไปตามล่าตั้งนานแล้ว ผมคงแหวกดูทุกหย่อมหญ้า ผมจินตนาการรสชาดของมันได้เลย....

    ความกระหายผลาญคอผมเหมือนไฟลน ปากผมแห้งผาก ท้ิองไส้บิดประสานรับกับความกระหายอยากที่ปาก กล้ามเนื้อผมก็เริ่มเขม็งเกลียว

    เศษส่วนวินาทีผ่านไป เธอยังคงเดินมาตามเส้นทางเดิม จังหวะที่เท้าแตะพื้น เธอเหลือบตามาทางผม ท่าทางเธอเหมือนอยากหายตัวได้ ตาเธอสบกับผม ผมมองเห็นหน้าตัวเองสะท้อนอยู่ในแก้วตาของเธอ

    สีหน้าที่กำลังช้อคของเธอช่วยชีวิตเธอไว้ในวินาทีนั้น เธอทำให้มันยากขึ้น พอเธออ่านสีหน้าของผม เลือดฝาดก็เปลี่ยนสีแก้มเธอให้แดงก่ำ เปลี่ยนสีผิวให้ดูน่ากินอย่างที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน กลิ่นนั้นก็เหมือนหมอกหนาปกคลุมสมองผม ผมคิดอะไรแทบไม่ออก ผมทั้งโกรธ ทั้งพยายามอดกลั้น ความคิดไปกันคนละทิศละทาง

    ตอนนี้เธอเริ่มเดินไวขึ้น เหมือนกับรู้ตัวว่า ได้เวลาหนีแล้ว พอรีบเธอก็ซุ่มซ่าม เดินสะดุดแล้วก็เซไปด้านหน้า เกือบล้มทับเด็กผู้หญิงที่นั่งอยู่หน้าผม ช่างเปราะ แล้วก็อ่อนแอ ยิ่งกว่ามนุษย์คนอื่นเสียจริงๆ

    ผมพยายามนึกถึงหน้าตัวเองที่ผมเห็นในตาเธอเมื่อกี้นี้ สีหน้าที่น่าขยะแขยง ใบหน้าของปีศาจที่ผมเอาอยู่หมัด ด้วยความพยายามบวกกับวินัยที่บ่มเพาะมาเป็นสิบๆปี ทำไมตอนนี้ถึงไอ้ปีศาจตนนั้นถึงได้กลับมาง่ายดายอย่างนี้!

    กลิ่นลอยกรุ่นรอบๆตัวผม ทำเอาความคิดผมแตกกระเจิง ทำเอาผมแทบเด้งออกจากเก้าอี้

    ไม่ได้!

    ผมคว้าขอบโต๊ะด้านล่าง พยายามดึงตัวเองให้นั่ง ไม้เอาไม่อยู่หรอก มือผมกดแรงจนถึงไม้โครงโต๊ะ ก่อนปล่อยมือพร้อมกับมีเศษไม้หลุดติดมือมาด้วย ทิ้งรอยนิ้วเป็นรอยกดบนเนื้อไม้

    ทำลายหลักฐาน คือกฎข้อที่หนึ่ง ผมใช้ปลายนิ้วเขี่ยขอบๆของรอยนั้น จนเหลือเป็นรูไม่เป็นรูปเป็นร่าง กับเศษไม้กองบนพิ้น ก่อนผมใช้เท้าเขี่ยให้เศษไม้กระจายออกไป

    ทำลายหลักฐาน ความเสียที่ตามมา....

    ตอนนี้ผมรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เด็กคนนั้นต้องมานั่งข้างผมแน่ และผมจะต้องฆ่าเธอคนไม่รู้อิโหน่อิเหน่ในห้องนี้ล่ะ เด็ก 18 คนกับผู้ใหญ่อีกหนึ่งต้องห้ามออกจากห้องนี้เด็ดขาด เพราะพวกเขาจะเห็นว่าเกิดอะไรขึ้น

    ผมผงะเมื่อคิดว่าผมต้องทำอะไรบ้าง ถึงจะเป็นวันที่เลวร้่ายสุดๆที่เคยผ่านมา ผมก็ไม่เคยทำอะไรชั่วร้ายเท่านี้ ผมไม่เคยฆ่าคนบริสุทธิ์ ไม่ได้ฆ่ามา 80 ปีแล้ว แต่ตอนนี้ผมกำลังจะสังหารหมู่ 20 คนในคราวเดียว

    หน้่าปีศาจที่สะท้อนในกระจกตาทำหน้าล้อเลียนผม

    ถึงส่วนหนึ่งของผมจะพยายามออกห่างจากปีศาจร้าย แต่อีกส่วนกลับกำลังวางแผน

    ถ้าผมฆ่าเธอคนนี้ก่อน ผมจะมีเวลา 15-20 วินาทีก่อนคนอื่นจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่อาจมีเวลานานกว่านั้นหน่อย ถ้าตอนแรกพวกเขาไม่รู้ว่าผมทำอะไรอยู่ เธอจะไม่มีเวลาได้ร้อง ผมจะไม่ให้เธอต้องทรมาน เท่านี้แหละที่จะพอทำให้ได้ เพื่อแลกกับการมีเลือดที่น่าหลงไหลอย่างนี้

    จากนั้นผมก็ต้องกันไม่ให้พวกที่เหลือหนี หน้าต่างไม่น่าจะมีปัญหา มันอยู่สูงเกินไปแล้วก็แคบเกินไปด้วย ประตูเท่านั้น ถ้าผมปิดประตูซะ พวกนี้ก็ไปไหนไม่รอด

    คงจะช้าแล้วก็ยากกว่าที่จะจัดการคนที่กำลังแตกตื่น แต่ก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ เสียงคงจะดังลั่น คงจะมีคนได้ยิน... และผมก็คงต้องฆ่าคนบริสุทธิ์เพิ่มอีก

    พอคนอื่นตายหมด เลือดเธอก็คงจะเย็นแล้ว..

    กลิ่นทำร้ายผม คอตีบตันแห้งผาก...

    งั้นก็ต้องฆ่าคนอื่นก่อนแล้วล่ะ

    ผมเริ่มนึกถึงผังห้องเรียน ผมนั่งกลางห้อง แถวไกลสุดอยู่ด้านหลัง ผมจัดการด้านขวาก่อน กัดคอซักสี่ห้าคนได้ภายในหนึ่งวินาทีอยู่แล้ว ผมกะ เสียงก็ไม่น่าจะดังหรอก พวกด้านขวานี่ถือว่าโชคดีสุด เพราะจะตายแบบที่ยังไม่ทันรู้ตัว จากนั้นก็ไล่ไปทางแถวหน้า แล้วก็ลงมาทางซ้าย หมดห้องก็น่าจะซักห้าวินาที นานพอที่เบลล่า สวอนจะได้เห็นว่าอะไรกำลังจะเกิดขึ้นกับเธอ นานพอจะทำให้เธอกลัว บางทีอาจจะนานพอ ทำให้เธอร้อง ถ้าเธอไม่ขาแข็ง ร้องไม่ออกไปซะก่อนนะ แต่ต่อให้ได้ร้องซักหน ก็คงไม่ทำให้คนแห่มาหรอกน่า

    ผมหายใจเข้าลึกๆ ไฟลามเข้าไปถึงเส้นเลือดแห้งๆของผม เผาผลาญทรวงอก กัดกินแรงกระตุ้นส่วนดีทั้งหลายที่ผมพอจะมีเหลืออยู่ไปจนหมดสิ้น

    เธอกำลังเดินวกกลับมาแล้ว อีกไม่กี่วินาทีนี้ เธอจะมานั่งลงห่างจากผมไม่กี่นิ้ว

    ปีศาจในตัวผมยิ้มรอรับแล้วครับ

    มีเสียงปิดแฟ้มเอกสารแรงๆจากคนที่นั่งทางซ้าย ผมไม่ได้เงยหน้าไปมองว่ามนุษย์เคราะห์ร้ายคนนั้นเป็นใคร แต่การเคลื่อนไหวนั้นทำให้เกิดลมธรรมดาๆ อากาศที่ไม่มีกลิ่นของเธอพัดผ่านหน้าผมไป

    ช่วงเวลาสั้นๆนั้นแหละ ที่ผมได้คิด วินาทีนั้นผมเห็นสองใบหน้าในหัวผม

    หน้าแรกคือหน้าของผมเอง หรือที่เีคยเป็นของผม หน้าปีศาจ ตาสีแดง ที่ฆ่าคนมามากเสียจนเลิกนับไปแล้ว ผมเป็นฆาตกรที่มีเหตุผลนะ นักฆ่าของพวกนักฆ่า นักฆ่าที่ฆ่าปีศาจที่พละกำลังน้อยกว่า เล่นบทพระเจ้า นั่นแหละผม ผมตัดสินว่าใครสมควรตาย ผมใช้วิธีนี้ประีนีประนอมกับตัวเอง ผมเคยอยู่ได้เพราะเลือดมนุษย์ แต่เหยื่อผมล้วนแต่เป็นพวกชั่วร้าย พวกที่มีความเป็นคนมากกว่าผมนิดหน่อยเท่านั้น

    อีกหน้าคือของคาร์ไลส์

    สองหน้าไม่มีอะไรเหมือนกันเลย เทียบได้กับวันที่สว่างที่สุดกับคืนที่มืดมิดที่สุดไม่แปลกที่เราสองคนไม่เหมือนกัน เพราะคาร์ไลส์ไม่ใช่พ่อแท้ๆของผม สีผิวที่เหมือนกันคือผลิตผลของสิ่งที่เราเป็น แวมไพร์ทุกคนมีสีผิวซีดๆเหมือนกันหมด สีตาที่เหมือนกันเป็นอีกเรื่องหนึ่ง เป็นสิ่งที่บอกว่าเราเลือกทางเดียวกัน

    แม้เราจะไม่เหมือนกัน ผมคิดเอาเองว่าผมเริ่มจะเหมือนเขามากขึ้น จากช่วงกว่า 70 ปีที่ผมเลือกเดินตามรอยของเขา หน้าตาผมไม่เปลี่ยน แต่ดูเหมือนความรอบรู้ของเขาจะแทรกซึมอยู่ในสีหน้าท่าทางของผม ความเห็นใจเพื่อนมนุษย์สะท้อนที่ปาก ความอดทนของเขาสะท้อนบนคิ้ว

    ไม่มีความเปลี่ยนแปลงในการแสดงสีหน้าเหล่านี้อยู่บนหน้าของปีศาจ อีกไม่ช้า หน้าผมจะไม่เหลือความ เปลี่ยนแปลงใดๆที่ผมได้จากการใช้ชีวิตกับผู้ที่สร้างผมมา พี่เลี้ยงของผม พ่อในทุกๆรูปแบบที่ผมจะนึกออก ตาผมจะเปลี่ยนเป็นสีแดงเหมือนปีศาจ ความเหมือนต่างๆจะหายไปตลอดกาล

    ภาพคาร์ไลส์ในหัวผมไม่ได้กำลังตัดสินผม ผมรู้ว่าเขาจะให้อภัยในสิ่งที่ผมกำลังจะทำ เพราะเขารักผม เพราะเขาเชื่อว่าผมเป็นคนดีกว่าที่ผมเป็นจริงๆ แล้วเขาก็จะยังรักผม ถึงผมจะพิสูจน์ให้เขาเห็นว่าเขาคิดผิด

    เบลล่า สวอน นั่งลงข้างๆผม เธอนั่งเกร็งและขยับตัวไปมาด้วยความอึดอัด เพราะกลัวเหรอ? กลิ่นของเธอก็ช่างก่อกวนผม ไม่ยอมอ่อนข้อให้เลย

    ผมจะทำให้พ่อเห็นว่าเขาเข้าใจผิด ความคิดนี้ทำร้ายผมได้รุนแรงเกือบเท่าไฟที่กำลังผลาญคอผมในตอนนี้

    ผมเอนตัวออกห่างจากเธอด้วยความขยะแขยง ในขณะที่ปีศาจร้ายในตัวผมซึ่งอยากจัดการเธอซะขัดขืน

    ทำไมเธอต้องมาที่นี่? ทำไมคนอย่างเธอถึงต้องมีอยู่? ทำไมเธอต้องมาทำลายชีวิตสงบๆของคนที่ไม่มีชีวิตด้วย? ทำไมมนุษย์ที่น่าโมโหคนนี้ค้องเกิดมาด้วย? เธอมาทำลายผม ผมหันหน้าหนีจากเธอ ขณะที่ความเกลียดอย่างรุนแรงถาโถมใส่ผม

    สิ่งมีชีวิตคนนี้เป็นใครกัน? ทำไมต้องผม ทำไมต้องตอนนี้? ทำไมต้องทำให้ผมยอมเสียสละทุกอย่างเพียงเพราะเธอดันเลือกมาอยู่เมืองที่ไม่น่าจะมานี้? ทำไมเธอต้องมาโผล่ที่นี่!

    ผมไม่อยากเป็นปีศาจ! ผมไม่อยากฆ่าเด็กไม่มีทางสู้ในห้องนี้ ผมไม่อยากเสียอะไรที่ได้รับมาจากชีวิตที่ยอมทรมานตัวเอง

    ผมจะไม่ทำเด็ดขาด เธอทำให้ผมเป็นแบบนั้นไม่ได้

    กลิ่นคือตัวปัญหา ถ้ามีซักทางที่จะหนีพ้นมันได้... ได้อากาศดีดีซักหน่อยผมน่าจะดีขึ้น

    เบลล่า สวอนปัดผมยาวหนาสีมะฮอกกานีของเธอมาทางด้านผม

    จะบ้าไปแล้วหรือไง? อยากให้ปีศาจจัดการหรือไง!

    ไม่มีลมดีๆผ่านมาเป่ากลิ่นเธอออกไปเลย อีกไม่นานผมคงจะแพ้

    จากคุณ : hs3puk - [ 30 เม.ย. 52 00:21:43 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com