ความคิดเห็นที่ 1 พี่ก็ชอบหนังเรื่องนี้มากเลยจ๊ะน้องแก้วหล้า ชอบมือปืนด้วย  มือปืน2สาละวินก็ชอบ ส่วนน้องเมียกับเฮโลอีนนี่ไม่แน่ใจว่าได้ดูหรือยัง?? เชียงใหม่มีขายที่ไหนเอ่ย?? น้องแก้วหล้าแนะนำให้หน่อยได้ป่าว?? จากคุณ : โอจิ (Oji_yoyo) - [ วันวิสาขบูชา 08:57:33 ]

ความคิดเห็นที่ 2 คนเลี้ยงช้างเอามาจากเรื่องจริงครับ ป่าไม้คนนั้นโดนยิงตายที่แก่งเสือเต้นครับ จากคุณ : Cinephile - [ วันวิสาขบูชา 10:54:21 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ^ ^ ท่านมาแย้ววววว ดีใจจัง เป๋าตังค์เป็นห่วงค่ะ อาการเป็นอย่างไรบ้างเจ้าคะ ----------------------------------------------------------------------- คนเลี้ยงช้าง ดูแล้วร้องไห้ เป็นขี้สงสาร แต่ชอบฉากยิงกันสนั่นดี เอาเรื่องมือปืนมาดูซิ  และก็สาละวินด้วย ถ้าอยากร้องไห้ รันทดหดหู่ก็เอา ทองพูนโคกโพมาดู หรืออุกาฟ้าเหลือง ขอสารภาพว่าแอบหลับ555 ก็ท่านใส่ฉากใต้น้ำซะมากมาย ดูซะเพลินเลยหลับไปเยย อิอิ กล่องก็สนุก แต่ต้องคิดตามนะ ไม่งั้นงง ต้องแอบมาถามท่านว่าจริงๆแล้วมันเป็นหนังยังไง จากคุณ : เป๋าตังค์เป๋าตุง - [ วันวิสาขบูชา 13:04:53 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ยังไม่เคยดูซักเรื่องเลย ที่ ว่ามา ไม่ทราบ จะหาดูได้ จากไหน บ้าง ครับ ยิ่ง พอรู้ว่า มาจากเรื่องจริง ยิ่งน่าสนใจ มากครับ จากคุณ : OFFBASS - [ วันวิสาขบูชา 14:20:51 ]

ความคิดเห็นที่ 5 คนเลี้ยงช้างเคยดูใน UBC นานแล้วเหมือนกันค่ะ  (ไม่ได้ซื้อแผ่นเก็บไว้) โอจิ ยังไม่ได้ดู เฮโลอีนเหรอ? เฮโลอีน สนุกนะใช้ได้เลย มีแง่มุมซับซ้อนในชวนติดตาม แล้วถ้าโอจิรู้ว่าเขาซ่อนยากันในไหน โอจิ อาจจะ ..... แต่มีงงๆ ตอนเขาพูดภาษาอังกฤษบ้าง ญี่ปุ่นบ้าง (คือไม่มี sub ให้เลยออกจะงงหน่อยๆ ต้องเดาตอนภาษาญี่ปุ่น ภาษาัอังกฤษยังพอฟังออกบ้างไม่ออกบ้าง แหะๆ) น้องเมีย ก็สนุก โดยเฉพาะฉากที่ พี่นก โดนน้องยุ้ย ตีหัว ฮา..... อยากดู ทองพูนโคกโพ กับ อุกาฟ้าเหลือง ค่ะ ไม่เคยดูเลย ตอนที่ดูในรายการหนังกลางแปลง เห็นพูดถึง 2 เรื่องนี้ ยังคุยๆ กันอยู่เลยว่าอยากดู อยากรู้ว่าเรื่องนี้เป็นยังไง ลืม!!! เรื่องกล่อง ได้ดูตอนที่ TPBS เอามาฉาย ชอบเรื่องนี้นะคะ สนุกดีออก ฮาด้วย แก้ไขเมื่อ 08 พ.ค. 52 15:01:07 จากคุณ : เ จ้ า ตั ว ร้ า ย - [ วันวิสาขบูชา 14:58:26 ]

ความคิดเห็นที่ 6 คนเลี้ยงช้างเคยดู แต่จำเนื้อเรื่องไม่ได้ รู้สึกว่าคุณดวงเดือน จะเล่นเรื่องนี้ด้วยค่ะ ( ถ้าจำไม่ผิด) หนังคุณเอกสรพงษ์ มีเยอะแยะมากๆเลยค่ะ มีทั้งชีวิต บู๊ ตลกขบขัน ที่เด่นๆจำได้ ก็มือปืนสาละวิน แผลเก่า นส.เย็นฤดี เขาชื่อกานต์ ต๊ายยยยยยย เค้ารู้อายุเราหมดเลยว่า ใกล้ 100 แว๊ว จากคุณ : mim_peter - [ วันวิสาขบูชา 22:41:39 ]

ความคิดเห็นที่ 7 คนเลี้ยงช้างเอามาจากเรื่องจริงครับ ป่าไม้คนนั้นโดนยิงตายที่แก่งเสือเต้นครับ จากคุณ : Cinephile  - [ วันวิสาขบูชา 10:54:21 ] ^ ^ ^ ^ กราบสวัสดีค่ะท่าน    ขอขอบพระคุณค่ะที่ให้ความกระจ่าง  ดีใจและปลื้มใจอย่างยิ่งค่ะ ที่ได้คำตอบจากท่านซึ่งเป็นผู้สร้างเอง หากเรื่องนี้สร้างจากเรื่องจริงแสดงว่า..... เฮียฮก...เป็นบุคคลจริงด้วยรึเปล่าค่ะ    หากจริงคงไม่ถามค่ะว่าคือใคร    เพราะกลัวทราบคำตอบเหมือนกัน ในตอนแรกเห็นคนเดินเรื่องแล้วนึกไปถึงคุณสืบ นาคสเถียรค่ะ  ทั้งการแต่งกายและยังใส่แว่นตาด้วย  คุยกับเพื่อนเค้าบอกว่าป่าไม้เค้าก็แต่งตังแบบนั้นกัน ดูแล้วก็อินไป ถอนหายใจเพราะใจหายหลายรอบเลยค่ะ ขอให้ท่านหายจากอาการประชวรไวๆ นะคะ และมีสุขภาพแข็งแรงตลอดไป เป็นกำลังใจให้ท่าน และรอคอยพระนเรศวร3  และ เพชรพระอุมาอย่างใจจดใจจ่อนะคะ แก้ไขเมื่อ 09 พ.ค. 52 02:46:55 จากคุณ : ฟ้าเปลี่ยนสี (kaewla) - [ 9 พ.ค. 52 02:46:05 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ไปซื้อที่ร้านแมงป่องที่โรบินสันค่ะ  ตอนนี้กะลังดูว่าที่อื่นมีหนังเก่าเยอะ มีที่ไหนในเชียงใหม่อีกเปล่า หายากเหมือนกันค่ะ   อยากดูเรื่องมันมากลับความมืดง่ะ วันนี้กำลังดูเฮโลอีนค่ะดูได้ถึงเลิฟซีนต้นเรื่องก็ต้องขอตัวเตรียมตัวมาทำงานแล้วค่ะ  ฟังญี่ปุ่นไม่ออกเสียดายจัง  ฮ่าฮ่าดูคุณนกก็ปลื้มคุณนก   ขอบคุณค่ะที่ให้ชื่อหนังคุณเอกและหนังเก่าหลายเรื่อง ลั้นลา  ลั้นลา  จะไปหามาดูเก็บไว้ค่ะ จากคุณ : ฟ้าเปลี่ยนสี (kaewla) - [ 9 พ.ค. 52 03:05:57 ]

ความคิดเห็นที่ 9 โปสเตอร์แผ่นนี้ ผมดูกี่ปีก็นึกว่า มหาราชาที่อินเดียทุกที..  มะรู้ทำไม  -_-" จากคุณ : ฟาฬ - [ 9 พ.ค. 52 09:17:29 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ทองพูน โคกโพธิ์ : เจ้าเมื่อบ้านเสียเถาะ (ซึ้งใจคน ต่างจังหวัดมากๆ) อุกาฟ้าเหลือง : กรูไม่ยอมให้มันทำลายสมบัติชิ้นเดียวที่กรูสร้างกับมือมาหรอก (แล้วล่อผู้ร้ายออกไปกลางทะเลท่ามกลาง อุกาฟ้าเหลือง) โดยส่วนตัวผมชอบ "อิสระภาพของทองพูน โคกโพธิ์" มากกว่าครับ เรื่องนี้ได้รางวัลกำกับศิลป์ ยอดเยี่ยม อาจารย์ที่สอนผมก็ได้รางวัลจากเรื่องนี้ครับ ตอนนั้นท่านเรียนอยู่ที่ ศิลปากรอยู่เลย จากคุณ : พี่คนใต้ใจดี - [ 9 พ.ค. 52 12:47:24 ]

ความคิดเห็นที่ 11 คนเลี้ยงช้างเป็นเรื่องที่หนักหนาสาหัสตอนสร้างครับ เพราะเราเข้าไปถ่ายในสถานที่จริงที่เขาทำไม้เถื่อนจริงๆ (แค่  กม. เราพบแท่นตัดไม้เกือบ 10  แท่น) ไม้สักที่เราเห็นก็เป็นไม้ที่พวกไม้เถื่อนตัดเอามากองเตรียมแปรรูปครับ ตอนที่เราเข้าไปถ่ายแรกๆ ก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่นานๆ เข้าก็เริ่มมีปัญหากับพวกตัดไม้ครับ โดยการกราดยิงกองถ่ายด้วยอาก้า เอาหินขวางถนนทำให้รถตกลงเหวข้างทาง หรือไม่ก็เผาป่าไล่กันหน้าตาเฉย (บริเวณที่ถ่ายอยู่ลึกเข้าไปในป่าเกือบสองชั่วโมง) จนผมทนไม่ไหวต้องขอให้เพื่อน(เป็นแม่ทัพอยู่ที่นี่ครับ) ส่งทหารมาช่วยคุ้มครอง พวกไม้เถื่อนถึงไม่ค่อยกล้าเข้ามาวุ่นวายครับ (ก็พวกแบก เอม 60 มาด้วยนี่ครับ) แก้ไขเมื่อ 09 พ.ค. 52 13:14:31 จากคุณ : Cinephile - [ 9 พ.ค. 52 13:14:03 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ตอนที่เราเข้ามาถ่ายทำเราเรียนรู้ถึงเทคนิตของพวกไม้เถื่อน ถึงจะเริ่มเข้าใจว่าเราไม่มีทางที่จะรักษาป่าของเราได้ แก่งเสือเต้นเป็นบริเวณที่มีต้นสักสมบรูณ์ที่สุดในโลกครับ ถึงได้มีการวิ่งเต้นให้ทำเขื่อนแก่งเสือเต้นกันนักหนา เพราะถ้ามีเขื่อน สักเหล่านั้นก็จะถูกตัดหมด ใครบางคนก็จะรวยมหาศาล แต่ตอนนี้สักในแก่งเสือเต้นโดนลักลอบตัดจนเกือบจะเกลี้ยงแล้ว เลยไม่มีใครลอบบี้ทำเขื่อนกันอีก ว่าไปแล้วพวกป่าไม้ไม่มีทางที่จะทันพวกทำไม้เถือนหรอกครับ เขาไปตั้งแท่นแปรรูปไม้กันในป่าเลยทีเดียว ถ้าเจ้าหน้าที่มาก็ถอดใบเลื่อยวงเดือนหนีเข้าป่าไป เจ้าหน้าที่ป่าไม้ไม่มีทางที่จะขนไม้ออกจากป่าได้เพราะไม่มีถนนที่จะขนไม้ของกลางออกไปได้ ส่วนพวกทำไม้เถื่อนจะใช้กองทัพมดครับ ช่วยกันขนไม้ออกจากป่าทีละแผ่น ซึ่งพวกป่าไม้ทำไม่ได้ครับ อีกอย่างก็คือพวกป่าไม้ถือปืนได้แต่ยิงไม่ได้ครับ ถึงติดคุกเลยทีเดียว ถ้าพวกไม้เถื่อนนั่งอยู่บนหลังช้างก็ได้แต่ล้อมช้างเอาไว้ แต่ต่อมาป่าไม้ที่ไปกับผม(แล้วโดนยิงตายทีหลัง) แกใช้วิธียิงด้วยหนังสติ๊คครับ ใช้ลูกเหล็กหรือหัวน๊อตเป็นกระสุน โดนจังๆ ก็หัวแตกครับ แก้ไขเมื่อ 09 พ.ค. 52 13:26:58 จากคุณ : Cinephile - [ 9 พ.ค. 52 13:26:16 ]

ความคิดเห็นที่ 13 มีอยู่ฉากที่มีพวกไม้เถื่อนนั่งตัดไม้สักเป็นก้อนสี่เหลี่ยม (ตอนที่ป่าไม้บินฮอออกไล่ในตอนต้นเรื่อง) ไม้พวกนี้เขาจะเอามากลึงทำโถสลัดขายฝรั่งครับ การเอาไม้พวกนี้ออกเขาใช้กองทัพมด เอาไม้วางบนตระแกรงหลังรถจักรยาน(สี่ห้าชิ้นต่อคัน) แล้วขี่ออกจากป่า เหมือนกับพวก Extreme sport สมัยนี้เลยครับ เวลาวิ่งลงเขาดุแล้วน่ากลัวคอจะหักตาย อีกวิธีที่จะเอาไม้ออกจากป่าคือล่องมาตามแม่ยมครับ แต่เอาหินถ่วงให้มันจมอยู่ใต้น้ำ แล้วเอาไม้ไผ่มาทำแพ ทำให้สามารถเอาไม้ผ่านด่านได้ครับ จากคุณ : Cinephile - [ 9 พ.ค. 52 13:34:20 ]

ความคิดเห็นที่ 14 เสี่ยฮกนี่มีตัวตนครับ แต่ไม่ใช่ชื่อฮกครับ ตอนนี้แกไม่ทำไม้ในไทยแต่ไปทำในพม่า และเริ่มทำสวนยาง (อย่างน้อยก็เพิ่ม Green area) ดังนั้นอย่าไปรู้จักชื่อจริงของแกเลยครับ เดี๋ยวผมต้องกลับไปโรงพยาบาลให้หมอตรวจครับ กลับมาจะเล่าถึงเบื้องหลังเรื่องคนเลี้ยงช้างต่อครับ จากคุณ : Cinephile - [ 9 พ.ค. 52 13:37:39 ]

ความคิดเห็นที่ 15 เอาอาก้ากราดใส่เลยหรอครับท่าน    เค้าคิดว่ากองถ่ายหนังเป็นค่ายทหารรึไงกันครับ    -_-" จากคุณ : ฟาฬ - [ 9 พ.ค. 52 13:54:02 ]

ความคิดเห็นที่ 16 สวัสดีครับ ท่าน ขอให้ท่านแข็งแรง ไวๆ ครับ สมัยก่อน ถ่านหนัง ลำบากมากเลยครับ ได้ความรู้อีกแล้ว  เป็นพระกรุณา ครับ จากคุณ : naikay - [ 9 พ.ค. 52 14:54:06 ]

ความคิดเห็นที่ 17 สวัสดีครับน้องฟ้าเปลี่ยนสี ผมมีโครงการจะรีวิว 'หนังของท่านมุ้ย' อยู่พอดีเลยครับ อันนี้เป็นหนังทั้งหมดเท่าที่ทราบและคาดการณ์ไปจนถึงอนาคต http://topicstock.pantip.com/chalermthai/topicstock/2008/03/A6412676/A6412676.html ผมเขียนไปแล้ว 1 เรื่อง คือ มือปืน 2 สาละวิน (จนบัดนี้ยังนึกไม่ออกและยังหาไม่เจอว่าผมไปเห็นภาพ ท่านมุ้ยนุ่งผ้าขาวม้าลงไปในแม่น้ำสาละวินกำกับหนังเรื่องนี้ ในหนังสือเล่มไหนและที่ไหน สงสัยว่าจะเป็นหอสมุดแห่งชาติ ห้องหนังสือเก่าแหงๆ) http://topicstock.pantip.com/chalermthai/topicstock/2008/03/A6424708/A6424708.html ได้รับความเมตตาจากท่าน Cinephile เขียนเล่าเองมาแล้ว 1 เรื่อง คือ เสียดาย http://topicstock.pantip.com/chalermthai/topicstock/2008/03/A6433966/A6433966.html รวมเรื่อง คนเลี้ยงช้าง นี้ก็จะเป็นเรื่องที่ 3 ทั้ง 3 เรื่องมีจุดเหมือนกันคือ ท่าน Cinephile จะเมตตาเล่าเบื้องหลังให้ฟัง ซึ่งหาได้ยากที่จะหาอ่านจากแหล่งข้อมูลอื่นๆ หรืออาจจะเรียกได้ว่าหาไม่ได้เลยที่ผู้สร้างจะเล่าเบื้องลึกเบื้องหลังขนาดนี้ ที่เล่ามาข้างต้นคืออารัมภบทน่ะครับ ประเด็นคือ กระทู้นี้ยังขาด รีิวิว ของเรื่องนี้เพิ่มเติมอีกซักเล็กน้อย ไม่ทราบว่าน้องฟ้่าฯจะัเขียนต่อรึเปล่าน่ะครับ ถ้าคิดว่าเขียนพอแล้วผมจะได้ขออนุญาตแจมน่ะครับ แล้วรบกวนพวกเรากดกระทู้เข้าคลังด้วยน่ะครับ แล้วถ้าเป็นไปได้ ใครอยากจะรีวิวเรื่องไหนเพิ่มก็เชิญเลยนะครับ จะได้เก็บเป็นข้อมูลที่คิดว่าจะเป็นประโยชน์ต่อวงการหนังอย่างมากครับ ซึ่งผมขออนุญาตกราบขอความเมตตาท่าน Cinephile ได้เขียนเบื้องลึกเบื้องหลังในทุกเรื่องของ 'หนังของท่านมุ้ย' ที่พวกเราจะได้เขียนในโอกาสต่อๆไปมา ณ ที่นี่เลยครับท่าน กราบขอบพระคุณครับท่าน แก้ไขเมื่อ 09 พ.ค. 52 22:55:24 จากคุณ : อุปนิกขิต - [ 9 พ.ค. 52 22:52:48 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ทองพูนโคกโพฯ กับ อุกาฟ้่าเหลือง เท่าที่ทราบ แมงป่องจะไม่ได้ลิขสิทธิ์ ก็จะหายากหน่อย แต่ก็ไม่พ้นมือระดับเซียนอย่างพี่ Mccenna ไปได้ สอบถามได้เลย จตร. รึยังไงมาสอบถามจากพี่ปู่ก็ได้นะ เลี้ยงสเต็กซักมื้่อก็พอ อิๆ จากคุณ : อุปนิกขิต - [ 9 พ.ค. 52 23:05:07 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ขออนุญาตน้องฟ้าฯอีกรอบครับ ท่านครับ ผมไปสำรวจต้นกระบากยักษ์ที่อช.ตากสินมหาราช จ.ตาก มาแล้วครับ ต้นสูงใหญ่มาก มีอาณาบริเวณให้ถ่ายหนังได้้สบายๆ ห่างจากจุดจอดรถแค่ 450 เมตรเอง แต่เป็น 450 เมตรที่ทำทางเดินเป็นขั้นบันไดลงเขาไปเท่านั้นแหละครับท่าน เรียกว่าพอเดินลงไปถึงใครเห็นก็คงจะนึกว่ากลัวต้นกระบากนี้ เพราะขาสั่นพั่บๆๆๆ แหะๆๆ แก้ไขเมื่อ 09 พ.ค. 52 23:37:00 จากคุณ : อุปนิกขิต - [ 9 พ.ค. 52 23:35:59 ]

ความคิดเห็นที่ 20 สวัสดีค่ะ เมื่อวานลงเวรดึกไปเลยไม่ได้มาเข้าค่ะ เรียนท่านค่ะ   ในช่วงหนูเป็นนักศึกษาเห็นมีการคุยเรื่องที่เค้าทำเขื่อนแก่งเส้นเต้นอยู่เลย   จนถึงเดี๋ยวนี้ทำงานแล้วเรื่องก็เงียบๆไปเพราะอย่างนี้นี่เอง   เป็นพระกรุณามากค่ะ ที่ท่านได้เข้ามาเล่าเรื่องการทำหนังเรื่องนี้  รอท่านเข้ามาเล่าต่อนะคะ     ขนาดที่กราดใส่กองถ่ายกันเลย อึย..น่ากลัวจังค่ะ แล้วเหตุกราณ์จริง.....ไม่อยากคิดเลย คนที่ลักลอบตัดกราดอาก้าได้แต่เจ้าหน้าที่ป่าไม้ไม่สามารถยิงได้................................. คือว่าริวิวไม่ค่อยเป็นน่ะคะ รบกวนใครที่เลยดูเรื่องนี้แล้วมาคุยกันได้เลยนะคะ เรื่องทองพูนโคกโพฯ กับ อุกาฟ้่าเหลือง ถ้าพี่ปู่กรุณา ก็ขอสอบถามมา ณ โอกาสนี้เลยนะคะ เดี๋ยวจะเลี้ยงสเต็ก ณ เชียงใหม่ซักมื้่อ เป็นการตอบแทนค่ะ อย่าลืมนะคะถ้าขึ้นมาเมื่อไหร่บอกได้นะคะ จากคุณ : ฟ้าเปลี่ยนสี (kaewla) - [ 10 พ.ค. 52 15:08:57 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ดูเรื่องมือปืนนานแล้วซักครึ่งปีเห็นจะได้  แต่ยังไม่ได้ดูเรื่องมืนปืน 2 สาละวินค่ะ เคยดูตอนเด็กๆ จำไม่ได้เลยค่ะ  ต้องไปหามาให้ได้ค่ะ จากคุณ : ฟ้าเปลี่ยนสี (kaewla) - [ 10 พ.ค. 52 15:14:55 ]

ความคิดเห็นที่ 22 มีวิธีใหม่ที่ผมรู้มาจากพรรคพวกที่ทำงานป่าไม้ครับ คือป่าไม้จะใช ฮ. บินสำรวจจากท้องฟ้า ถ้าบริเวณไหนโล่งๆ ไป ก็แสดงว่ามีการบุกรุก หรือลักลอบตัดไม้ แต่พวกทำไม้เถื่อน แกเล่น บาก เอาเปลือกไม้ออกจนไปถึงลำต้น ให้ต้นไม้ตาย แต่ยังไม่ล้ม พอต้นไม้ไม่มี ท่อที่อยู่ตามเปลือกดูดซับสารอาหารจากดิน ต้นไม้ก็ ตาย วิธีนี้ไม่สามารถตรวจจับได้ด้วย ภาพถ่ายทางอากาศ ในชีวิต หน่วยงานราชการที่ผมสงสารมากที่สุดมีอยู่ 2 กลุ่มคือ 1. กรมศิลปากร 2. ป่าไม้ สังเกตุได้ว่า หน่วยงานไหนที่ไม่เกี่ยวกับ ปากท้องคน มักจะไม่ค่อยได้รับความสนใจให้การดูแล ให้ทุนทรัพย์ บุคลากร จากคุณ : พี่คนใต้ใจดี - [ 11 พ.ค. 52 11:27:23 ]

ความคิดเห็นที่ 23 โอเคครับ เรื่องทองพูนฯ กำลังหาวิธีแบบไฮเทคๆอยู่ครับน้องฟ้าฯ แล้วจะแจ้งไปนะครับ ส่วนเรื่องรีวิว พี่ปู่จะลองเขียนจากความทรงจำ ถ้าเห็นว่าอ่านแล้วไม่น่าจะใช่เรื่องคนเลี้ยงช้าง น้องฟ้าก็ทักด้วยนะครับ คนเลี้ยงช้างเปิดเรื่องมาด้วยเรื่องเล่ารอบกองไฟที่จนท.ป่าไม้เล่าให้น้องๆที่ไปเที่ยวป่าได้ฟังกัน ก็พูดถึงช้างป่าตัวนึงที่ดุร้าย แต่ก่อนที่จะดุร้ายนั้นเคยเป็นช้างของคนเลี้ยงช้างคนนึง ซึ่งต่อมามีเรื่องราวพลิกผันมากมายทำให้ช้างเชื่องกลายเป็นช้างดุ แล้วจนท.คนนั้นก็เล่าเรื่องในอดีตนี้ เรื่องต่อจากนั้นก็จะเป็นเรื่องราวของคนเลี้ยงช้างที่ทำมาหากินโดยการลากซุงที่ได้จากการโค่นต้นไม้ใหญ่ในป่า ทีนี้ปัญหาก็คือป่าไม้กำลังจะหมดไปจึงต้องมีการควบคุมการตัดไม้ ก็มีผลกระทบต่ออาชีพของคนเลี้ยงช้างโดยตรง ที่จะต้องแสวงหางานที่น้อยลงเรื่อยๆ หนังแสดงให้เห็นถึงความขัดแย้งตรงนี้ว่าขณะที่เรากำลังอนุรักษ์ป่า แต่เราเคยถามต่อมั๊ยว่าแล้วคนที่ทำมาหากินกับป่านั้นจะไปทำอะไรกิน อย่างเช่นคนเี้ลี้ยงช้างคนนี้(ที่เล่นโดยสรพงศ์ ชื่อในเรื่องว่าอะไรหว่า?) ทำมาหากินกับช้างมาตลอดตั้งแต่รุ่นพ่อลงมา ซึ่งพ่อของเขาก็รู้ปัญหาเรื่องป่าไม้หมดนี้ดี แต่ถามต่อว่าแล้วจะไปทำอะไรกิน ก็ตอบไม่ได้เหมือนกัน ปัญหาสืบเนื่องที่ตามมาคือ คนเลี้ยงช้างเหล่านี้ความจริงก็มีที่นา แต่ที่เหล่านี้ปลูกอะไรก็ไม่ค่อยขึ้น อาจจะเป็นด้วยความไม่ชำนาญหรืออะไรก็แล้วแต่ เมื่อเงินขาดมือก็มักจะต้องเอาที่นาไปจำนองกับนายทุนหน้าเลือด ที่ทำสัญญาเอาเปรียบกับคนเลี้ยงช้างที่ซื่อ ไม่ค่อยรู้เล่ห์เหลี่ยมอะไรแบบนี้ แก้ไขเมื่อ 11 พ.ค. 52 16:07:30 จากคุณ : อุปนิกขิต - [ 11 พ.ค. 52 15:49:22 ]

ความคิดเห็นที่ 24 หนังก็แสดงถึงปัญหาของคนเลี้ยงช้างคนนี้คือ เอาที่นาไปจำนองแล้วโดนดอกเบี้ยอย่างโหดที่ระบุไว้ในสัญญาที่ตนก็ไม่ได้อ่าน ทำให้ยังไม่สามารถไถ่ที่นาคืนได้ แถมงานลากซุงก็ลดน้อยลงอีก แต่ที่จริงน่ะงานมีแต่เป็นงานลากซุงที่เกิดจากการตัดไม้อย่างผิดกฎหมาย (ซึ่งนายทุนก็คนให้กู้เงินนั่นแหละ ที่อาศัยฉากหน้าเป็นโรงไม้ธรรมดาๆ) แล้วเขาจะทำอย่างไรดี? จะให้เขาไปทำงานอะไรได้? ถ้าเขาจะต้องทำงานที่ผิดกฎหมาย เขาสมควรได้รับการประนามหรือไม่? ...ผมคนเขียนที่เป็นคนดูก็ไม่รู้ครับ แล้วดูเหมือน'ท่านมุ้ย'ผู้สร้างก็ไม่ได้ตอบคำถามนี้ด้วย ซึ่งเป็นสไตล์ของท่านใน(น่าจะ)ทุกเรื่องอยู่ ที่จะทำหน้าที่เพียงนำเสนอเท่านั้น... แก้ไขเมื่อ 11 พ.ค. 52 15:58:18 จากคุณ : อุปนิกขิต - [ 11 พ.ค. 52 15:50:10 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ระหว่างนั้น คนเลี้ยงช้างคนนี้ก็ได้มีส่วนช่วยจนท.ป่าไม้คนนึงให้รอดจากการดักซุ่มทำร้ายโดยมือปืนที่ถูกจ้างมาเพื่อเก็บจนท.คนนี้โดยเฉพาะ เพราะว่าไปขัดขวางการลอบตัดไม้ผิดกฎหมาย การช่วยเหลือก็โดยใช้ช้างช่วย ส่วนทำยังไงนั้นก็ลองดูในหนังก็แล้วกันครับ แล้วหนังก็พูดถึงความสัมพันธ์ของคนเลี้ยงช้างกับจนท.ป่าไม้คนนี้ แล้วก็โครงเรื่องปลีกย่อยอื่นที่แวดล้อม จนกระทั่งนำไปสู่จุดแตกหักของเรื่องราว ที่ไม่จนท.ป่าไม้ก็พวกลอบตัดไม้ผิดกฏหมายจะต้องหลีกทางกันไปข้างนึง เรื่องราวจะเป็นยังไงต่อไป? คนเลี้ยงช้างจะได้เมีย อุ๊บส์ จะได้ที่นาคืนหรือไม่? จนท.ป่าไม้จะอยู่หรือจะไป? นายทุนจะลอยตัวเหนือปัญหาได้หรือไม่? บร๊ะเจ้าโจ๊ก เอ๊ย อันนี้ไม่เกี่ยว ช้างเลี้ยงทำไมถึงกลายเป็นช้างดุร้าย? โปรดติดตามได้ใน...คนเลี้ยงช้าง งงงงงง.... จากคุณ : อุปนิกขิต - [ 11 พ.ค. 52 16:06:21 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ข้อสังเกตและความประทับใจของผมต่อหนังเรื่องนี้ ไม่เรียงลำดับนะครับ นึกอะไรได้ก็จะเขียนครับ - ฉากในความทรงจำคือฉากที่น้าเอก สรพงศ์ เมาอ้วกพุ่งบนหลังช้างครับ ทำได้สมจริงมากๆ ซึ่งผมได้มารู้ข้อมูลทีหลังว่าดูเหมือนน้าเอกจะซัดเหล้าผสมกับไข่ไก่อะไรทำนองนี้ลงไปจริงๆ ครับ คือจะไม่สมจริงได้ยังไงเพราะอ้วกจริงๆ แถมหมดแรงตกช้างก็จริงอีกด้วย ...แต่ข้อมูลนี้คงต้องรอท่าน Cinephile มาคอนเฟิร์มนะครับ ผมก็ไม่ชัวร์เหมือนกัน - จนท.ป่าไม้ที่เล่นโดยสส.รณ ฤทธิชัย เล่นได้น่าดูชมมาก ที่ชอบมากๆคือคำสบถทั้งหลาย คือมันหยาบแต่มันได้อารมณ์ในช่วงนั้นๆมาก ผมยังคิดเลยว่า คุณอำพล พลากร น่าจะมีบุคลิกในการสั่งงานลูกน้องคล้ายๆแบบนี้ - ผมชอบประเด็นของหนังนะครับ ในเรื่องที่ว่าขณะที่เรากล่าวถึงเรื่องการอนุรักษ์ หรืออุดมการณ์อะไรทำนองนั้น ซึ่งเป็นมุมมองของคนนอก แต่คนในจริงๆแล้ว แม้แต่จนท.ป่าไม้ที่ตงฉินคนนั้นยังบอกว่าเขาแค่ทำตามหน้าที่เท่านั้น แถมยังบอกอีกว่าถ้าให้เงินมากๆจริงๆเขาก็อาจจะยอมรับเงินแล้วทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ก็ได้ เพียงแต่ตอนนี้เมื่อยังไม่มีอะไรดีขึ้น ก็ทำตามหน้าที่ไปเท่านั้น ...ส่วนจนท.ลูกน้องก็พวกลิงหลอกเจ้าซะเป็นส่วนใหญ่ แถมบางคนก็แอบไปลอบตัดไม้ผิดกฎหมายซะเอง เพื่อหาเงินมาใช้ ...คนเลี้ยงช้างยิ่งแล้วใหญ่ เขาก็คิดว่าทำอย่างไรให้เขาและครอบครัวมีชีวิตอยู่ได้เท่านั้น ก็ความรู้ความชำนาญเขามีแบบนั้น แล้วจะให้เขาไปมีอุดมการณ์ได้อย่างไร จากคุณ : อุปนิกขิต - [ 11 พ.ค. 52 16:22:56 ]

ความคิดเห็นที่ 27 - ในส่วนของตัวหนัง ดูเหมือนจะมีสไตล์ที่ต่างกันในครึ่งแรกและครึ่งหลัง คือครึ่งแรกมาแบบเนิบๆ สไตล์หนังยุโรป ส่วนครึ่งหลังก็ฉับไวสไตล์หนังฮอลลีวู้ด - ผมยิ่งดูหนังของท่านมุ้ยมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งมีความรู้สึกว่าท่านน่าจะมีโปรเจ็ค PPU อยู่ในใจนานมาแล้ว ซึ่งมีเงาแซมอยู่ในหนังหลายๆเรื่องของท่าน อย่าง มือปืน 2 สาละวิน ก็เป็นเรื่องของป่าสาละวิน แม่น้ำสาละวิน, ผมไม่อยากเป็นพันโท พระเอกใช้ .44 แม็กนั่ม, เรื่องคนเลี้ยงช้างนี่ก็เป็นเรื่องของ ช้าง และการถ่ายทำในป่าลึก หรือเรื่องตำนานฯ ท่านก็ทดลอง CG ทดลองเทคนิคใหม่ๆ   ในการถ่ายทำอยู่เรื่อยๆ ตอนนี้ผมนึกได้เท่านี้ก่อนนะครับ ขอเชิญพวกเราช่วยแลกเปลี่ยนความคิดห็นบ้างตามอัธยาศรัยครับ จากคุณ : อุปนิกขิต - [ 11 พ.ค. 52 16:32:48 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ขอแชร์ประสบการณ์โดยตรงหน่อยครับ  ผมเคยทำงานเป็นเจ้าหน้าที่ป่าไม้ชั้นผู้น้อยหรือเรียกง่ายๆว่าลูกจ้างป่าไม้อยู่ช่วงหนึ่ง ตำแหน่งนักวิชาการเผยแพร่  คือมีหน้าที่สร้างความเข้าใจรวมทั้งประชาสัมพันธ์งานข่าวสารต่างๆให้เห็นความสำคัญของป่าไม้อะไรทำนองนั้น  และทำหน้าที่ปรับความเข้าใจถ้าเกิดมีเจ้าหน้าที่มีปัญหาผิดใจกับชาวบ้าน ส่วนใหญ่ก็จะเป็นเรื่องที่ดินทำกินนั่นแหละครับ ป่าที่นี่ครอบคลุมระหว่างอุทยานแห่งชาติแม่โถ  อุทยานแห่งชาติออบหลวง อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ เมื่อก่อนป่าแถวนี้ไม้สักมีเยอะมากครับ ปัจจุบันเริ่มหายากแล้ว ชาวบ้านก็มีวิธีเอาไม้ออกมาจากป่าได้อยู่ 3 วิธีสุดฮิต คือใช้ช้างลาก สองคือกองทัพมด สามล่องแพ เช่นเดียวกับที่ท่านกล่าวเลยครับ การล่องแพมีข่าวว่าท่อนซุงหายไปเป็นจำนวนมาก มีการลือกันว่าท่อนซุงติดอยู่บริเวณช่องแคบออบหลวง  ปัจจุบันถึงฤดูน้ำหลากก็ยังเห็นท่อนซุงลอยมาอยู่เลย  ก็จะมีชาวบ้านคอยเก็บตกอยู่เสมอๆ ผมเองเคยเข้าไปในพื้นที่ต่างๆ รถป่าไม้เข้าไปในป่าลึก มีชาวเขาอาศัยอยู่เป็นหย่อมๆ  ซึ่งเป็นเขตพื้นที่สีชมพู(คือ พื้นที่ทำผิดกฏหมาย เช่น ลักลอบตัดไม้  ลำเลียงยาเสพติด เป็นต้น)  การจะขอข้อมูลอะไร ชาวบ้านมักจะไม่ค่อยให้ความร่วมมือนัก อาจเกรงผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ หรืออาจมีส่วนรู้เห็นเกี่ยวข้องซะเอง หนักข้อเข้าก็ปิดไฟลงกลอนไม่ให้เข้าบ้านไปเลยก็มี  อาจจะด้วยความกลัว เจ้าหน้าที่ป่าไม้จึงมีปัญหากับชาวบ้านอยู่บ้างประปราย ซึ่งต่างฝ่ายก็ต่างมุมมอง เจ้าหน้าที่ป่าไม้ก็มีหน้าที่รักษาป่า ส่วนชาวบ้านลูกหลานก็เยอะขึ้น ก็ต้องการที่ดินทำกิน ตัดไม้เพื่อสร้างบ้านเรือนหรือขายนำเงินมาเพื่อเลี้ยงปากท้องของตัวเองและคนในครอบครัว ถ้าบางช่วงหัวหน้าอุทยานเฮียบหนัก ปราบปรามเข้าหน่อย ก็จะถูกชาวบ้านบางส่วนรวมตัวกันแอนตี้เจ้าหน้าที่ ก็ไม่ใช่ใครที่ไหนเจ้าหน้าที่ก็คนในพื้นที่นั่นเอง คนทำงานกลืนไม่เข้าคลายไม่ออกเลยครับ   ทำให้การทำงานป่าไม้ของเจ้าหน้าที่หลายคน จึงทำงานไปวันๆ รอกินเงินเดือน เพื่อความอยู่รอด ได้ยินเสียงปืนจากป่าที่ไหน ก็ทำเป็นเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ ปล่อยๆไป เพราะไม่อยากมีปัญหา  เข้าป่าเจอคนเลื่อยไม้ ก็ไม่มีอำนาจสิทธิ์ขาด ใช้ปืนขู่ได้แค่นั้น  ชาวบ้านก็ไม่กลัว  วิ่งหนีตับแลบอย่างเดียว ด้วยความชำนาญพื้นที่  ยากมากที่จะจับได้คาหนังคาเขาสักที  มีการถางป่าเพื่อทำกินเกิดขึ้นอยู่ตลอด ก็จะใครที่ไหน ก็คนในหมู่บ้านน่ะแหละหรืออาจเป็นญาติพี่น้องของเราซะเอง บ้างก็เห็นอยู่ทนโท่ว่าไม้สักเพิ่งตอกตะปูไปสดๆร้อนๆ(เป็นวิธีหลีกเลี่ยงกฏหมาย ชาวบ้านจะใช้วิธีนี้อยู่เสมอ) แปะฝาบ้านอย่างลวกๆ แค่นี้เจ้าหน้าที่ก็ทำอะไรไม่ได้ ทำเป็นมองไม่เห็นซะดีกว่า ม่ายงั้นอาจเจอชาวบ้านหัวหมอฟ้องกลับเอาได้ อีกอย่างป่าไม้บริเวณที่ผมอาศัยอยู่ มีอาณาบริเวณที่กว้างมากครับ  เจ้าหน้าที่ไม่มีปัญญาเดินได้หมดหรอกครับ เพราะพื้นที่เป็นป่าเขาสูงชันเป็นลูกๆ ขึ้นเขาลงห้วยแค่ลูกสองลูกก็หอบแฮกแล้ว สุดท้ายจะเข้าป่าทั้งทีก็เอารถโฟว์ลวิลเข้าไป ไปตามทางรถลากไม้เก่าหรือทางไปเรือกสวนไร่นาของชาวบ้าน ขึ้นดอยทีเสียงรถดังโขมงโฉงเฉง แล้วมันจะมีลูกแมวตัวไหนยอมอยู่ให้จับกันล่ะครับ   บางทีถ้าในกรณีที่จับได้ก็จะมีการรวมตัวของชาวบ้านกับญาติพี่น้องของคนที่ถูกจับ มีการวิ่งเต้น จากโทษหนักกลายเป็นเบา หรือโทษไม่หนักก็รอดได้อย่างสบาย เจ้าหน้าที่ก็ได้แต่มองหน้ากันตาปริบๆ เหมือนกับว่าเป็นฝ่ายผิดซะเอง แต่ที่หนักกว่านั้น คือเจ้าหน้าที่ชั้นผู้น้อยได้แต่ทำตาปริบๆยิ่งกว่า เพราะยังเห็นนายทุนผู้มีอิทธิพลค้าขายกันได้เป็นล่ำเป็นสัน โดยความร่วมมือของชาวบ้านเอง หรืออาจมีเจ้าหน้าที่ระดับหัวหน้าหรือระดับรองจะมีเอี่ยวด้วยอันนี้ก็ไม่ทราบได้ สุดท้ายเจ้าหน้าที่ส่วนใหญ่ก็เลยตามเลยครับ  จะไปงัดข้อก็อาจเดือดร้อนถึงปากท้องและหน้าที่การงาน ดีไม่ดีอาจมีมัจจุราชเยี่ยมถึงบ้านโดยไม่รู้ตัวก็อาจเป็นได้ครับ อุดมกงอุดมการณ์หลายคนถูกเก็บเข้ากรุ  เรื่องมันก็เอวังด้วยประการชะนี้แล.. จากคุณ : โอจิ (Oji_yoyo) - [ 11 พ.ค. 52 21:57:05 ]

ความคิดเห็นที่ 29 มีโอกาสได้ดูแบบผ่านๆทางช่อง 7 แต่เชื่อป่ะพอได้ดูแล้วถึงกะไม่ยอมลุกไปไหนเลย ประทับใจบทของ จนท ป่าไม้เหมือนกันค่ะ ที่ รณ ฤทธิชัยเล่น ดูแล้วก็มานั่งคิดว่า ในเมืองไทยจะมีใครตงฉินได้สักกี่คน คนที่เป็นแบบนี้ส่วนมากก็มักจะอายุไม่ยืน จากคุณ : chales_za (chales_za) - [ 15 พ.ค. 52 08:31:13 ]

ความคิดเห็นที่ 30 หากว่าเราพ้นเรื่องขัดแย้งผลประโยชน์ไปก่อน เพราะไงๆก็เป็นปัญหาใหญ่ที่ตัวเล็กๆจะแก้ไขเองคงลำบาก...          นอกจากปัญหาที่ว่า ปัจจุบัน สังคมก็ทำให้คนจะทำดีต้องเผชิญกับอีกหลายปัญหา นี่เป็นอีกหนึ่งครับ ที่เกิดขึ้นในบ้านเรา เคยได้ยินวลีนี้มะอ่ะครับ              "จงทำดี แต่อย่าเด่น จะเป็นภัย ไม่มีใคร อยากเห็น เราเด่นเกิน"          สมัยนี้ วลีนี้ส่งผลต่อสังคมปัจจุบันชัดมากเชียวครับ นอกจากความดีที่ทำจะไปขัดแย้งกับผลประโยชน์ใครต่อใครแล้ว วลีนี้ก็เป็นอีกหนึ่งความจริงที่เกิดขึ้นในปัจจุบันครับ...         ไม่ได้ค้าน ห้ามให้ใครทำดี  แต่สมัยนี้ หากคิดทำดี ต้องใช้สมองกันนิดนึง เพราะอะไร?? เพราะ โดยอุปนิสัยสันดานของมนุษย์ มักอิจฉาคนเก่งกว่าตน เพราะ โดยอุปนิสัยสันดานของมนุษย์ ย่อมต้องการการยอมรับให้ดีเด่นแต่เพียงผู้เดียว           ลองนึกภาพการทำงานในวงสังคมหนึ่งดูสิครับ  หากสมมุติว่าเราเป็นพนักงานตัวเล็กๆคนหนึ่งในวงการทำงานนั้น หากเราเห็นสิ่งไม่ดีไม่ชอบ ที่เกิดขึ้นในการทำงาน  แล้วเราก็ทำการแก้ไขมันซะ...               มันคงไม่เกิดผลร้ายใดๆขึ้น หากการกระทำที่ว่า ผ่านออกมาโดยชื่อของ หัวหน้าผู้ดูแลเรา และไม่ทำให้เกิดผลกระทบต่อผลประโยชน์ของใคร            หากตรงข้าม การกระทำนั้น ไม่เพียงไปขัดแ้ย้งผลประโยชน์ใคร (ทั้งคนใน และคนนอก) อีกทั้งเป็นการกระทำ ที่เรียกว่า ข้ามหน้า ข้ามตาหัวหน้าผู้ดูแลเราไป...  เป็นใครคงไม่ชอบใจ     จริงมั๊ยครับ   ^___^ จากคุณ : ฟาฬ - [ 16 พ.ค. 52 09:33:57 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ด้วยข้อความข้างต้นที่ผมกล่าวถึง #28 เป็นมุมมองของเจ้าหน้าที่ชั้นผู้น้อย และไม่นานหลังจากนั้นผมได้ลาออกจากงาน  เมื่อผมไม่ได้เป็นเจ้าหน้าที่ป่าไม้แล้ว ก็กลับกลายเป็นว่าเข้าป่าซะเอง  ก็จะให้มองในมุมมองของชาวบ้านที่หากินกับป่าบ้าง ซึ่งเพื่อนๆหลายท่านก็คงรู้ดีว่าผมเป็นคนหนึ่งที่เข้าป่าบ่อย ผมก็ขอพูดตรงๆว่า การเที่ยวป่าเพื่อเก็บข้อมูล จำเป็นจะต้องรู้จักพรานป่า รู้จักของป่า รู้จักสัตว์ป่า รู้จักคุณค่าไม่น้อยไปกว่าความอร่อยหรือราคาของมัน คนที่ไม่ได้หากินกับป่าจึงมักจะมีความคิดขัดแย้งกับคนหากินกับป่า เปรียบไปก็เหมือนกับหน้ามือกับหลังมือ คนในเมืองก็หากินกับช่องทางตามวิถีชีวิตคนในเมือง ซึ่งคนอยู่ใกล้ป่าก็ต้องหากินกับป่า แล้วพรานจะกินอะไรล่ะครับ ถ้าไม่ใช่ของจากในป่า โดยธรรมชาติของพรานป่าก็ต้องพกปืนพกขวานเข้าป่าถูกไหมล่ะครับ แต่ไม่ใช่ไรเฟิลหรือเลื่อยไฟฟ้านะครับนะครับ เป็นแค่ปืนแก๊ปธรรมดากับขวานธรรมดานี่แหละ แต่ถึงจะเป็นปืนราคาแพงหรือราคาถูก ก็ผิดกฏหมายเหมือนกัน พรานป่าเหล่านี้เค้าก็รู้ดีว่าถ้าถูกจับโดยพกอาวุธปืน พกเลื่อยเข้าป่า ก็จะต้องเข้าซังเตอีหรอบเดียวกัน  แต่พรานพื้นเมืองแถวนี้ถ้าเวลาอยู่ในป่าเค้าไม่ค่อยกลัวเจ้าหน้าป่าไม้หรอกครับ เพราะอยู่ลึก ยากแก่การเข้าถึง ถึงอยู่ใกล้ติดถนน ก็ยังแบกกันเทิงๆ อย่างมากก็แอบๆหน่อยเป็นการพลางตา  เพื่อไม่ให้สะดุดสายตาจนเกินไปนัก ถึงเจ้าหน้าที่จะกวดวิ่งไล่จับจริงก็วิ่งตามไม่ทันหรอกครับ เพราะความชำนาญในพื้นที่ผิดกัน แต่ก็มีกรณีถูกจับเช่นเดียวกัน ถ้าชาวบ้านถูกจับ ก็อีหรอบเดียวกับความผิดอย่างอื่นล่ะครับ ถ้าจับได้ในป่า  ยังไม่ถูกควบคุมตัวออกจากป่า เรื่องยังไม่ถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็ให้ผู้มีอิทธิพลในพื้นที่เจรจากับเจ้าหน้าที่ จะเจรจาวิธีไหนที่เป็นวิธีที่ง่ายที่สุดก็คงไม่ต้องเล่าก็น่าจะทราบกันดี เมื่อมีการเจรจาโดยมีผู้มีอิทธิพลไกล่เกลี่ยสักพักก็ลงตัวเกือบทุกที   แต่ในกรณีถ้าเรื่องถึงโรงพัก  ชาวบ้านมีญาติพี่น้องเท่าไหร่ขนมาโรงพักให้หมด เพื่อกดดันทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทำสำนวนให้เบาที่สุดเท่าที่จะเบาได้  โทษหนักก็จะกลายเป็นเบา แล้วค่อยวิ่งเต้นกันในลำดับต่อไป โดยมีผู้มีอิทธิพลคอยเจรจาความ  ผู้มีอิทธิพลก็ชอบอยู่แล้วเพื่อหวังตักตวงผลประโยชน์หรือคะแนนเสียงจากชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อน  ถ้าสำเร็จก็ได้รับเครดิต ถ้าไม่สำเร็จก็เสมอตัว แต่สุดท้ายรอดจากคุกเกือบทุกที ถ้าไม้ผิดกฏหมายมันไม่เยอะจริงๆ แค่ไม่กี่กีบ ตำรวจก็มักจะไม่ว่ากระไรนัก ำสำนวนอ่อนหน่อยก็จบ ชาวบ้านที่ถูกจับอาจยอมเสียเงินเสียทองไปบ้าง แต่ก็คุ้มกับการมีประวัติเข้าซังเต แต่ถ้าเป็นชาวบ้านที่จนจริงๆ ไม่มีญาติพี่น้องมากพอ ไร้ผู้คนสนใจ ไร้แบ็คก็ปล่อยไปตามสภาพครับ ไม่มีเงินไม่มีเส้นก็ไม่พ้นคุกครับ  กฎหมายเมืองนี้คนมีเงินมีเส้นมักจะรอดครับ ถ้าคดีไม่ดังเป็นข่าวหรือเป็นคดีที่ไม่อยู่ในความสนใจของผู้คนจริงๆ หรือไม่ถูกจับได้คาหนังคาเขาที่ยากจะช่วยได้จริงๆ ส่วนใหญ่จะรอดครับ ถ้าไม่รอดก็เป็นราชาในคุก อันนี้ผมมีคนรู้จักที่เป็นแบบนั้นจริงๆ ซึ่งแตกต่างจากคนที่จนจริงๆ ที่อยู่ในคุก แม้แต่หมาสักตัวยังไม่แล ด้วยเหตุนี้เมื่อเจ้าหน้าที่อ่อนแอ เมื่อกฏหมายไม่เป็นกฏหมาย เราจึงเห็นการลักลอบค้าไม้ ค้าสัตว์ป่าบ่อย ด้วยความร่วมมือโดยชาวบ้านบางคน  จะว่าไปแล้วจะโทษชาวบ้านที่ตัดไม้ ล่าสัตว์ก็ไม่ถูกซะทีเดียว  มันมากันเป็นระบบ เมื่อกฏหมายอ่อนแอ เจ้าหน้าที่อ่อนแอ ชาวบ้านก็สบโอกาสตัดไม้เพื่อเลี้ยงปากท้อง โดยมีนายทุนเอาเงินมาล่อ แล้วมีผู้บริโภคตาวาวอย่างเราๆท่านๆ เราจึงเห็นนายทุนสารพัดรูปแบบ อย่างเช่นกรณีหนังเรื่องคนเลี้ยงช้าง ซึ่งเป็นเพียงกรณีตัวอย่างกรณีหนึ่ง ซึ่งมักจะออกมาในรูปแบบคล้ายๆกัน จะให้ชาวบ้านจะทำยังไงได้ จะหากินอย่างอื่นก็ไม่เป็น  ในเมื่อปากท้องมันบังคับ จึงทำให้ชาวบ้านบางส่วนเข้าป่าเพื่อตัดไม้ล่าสัตว์ป่า เป็นเหตุให้เราเสียป่าอย่างมากมายในปัจจุบัน มันเป็นวงจรอุบาทครับ จะโทษใครไม่ได้เลย ถ้าไม่โทษตัวเราเองก่อน เราตกเป็นทาสของวงจรนี้มานานแล้วครับ จนเราเฉยชากับมันไปโดยไม่ค่อยจะรู้ตัว  ไปไหนมาไหนก็เห็นแต่บ้านไม้ เฟอร์นิเจอร์ไม้ ของตกแต่งต่างๆ ประดับบารมี ใครมาหาก็เอ่ยชมเชยว่าเจ้าของบ้านนี้รวย ก็ภูมิอกภูมิใจในตัวเองกันใหญ่  สุดท้ายก็ต้องโทษเราเองล่ะครับ โทษมนุษย์เราที่ยอมตกเป็นทาสของมัน ขนาดบ้านในหมู่บ้านของผมก็ยังเป็นบ้านไม้ทุกหลัง เป็นหมู่บ้านที่อยู่ระหว่างครึ่งป่าครึ่งเมือง ทุกวันนี้ชาวบ้านก็ยังเข้าป่า ออกป่า ซื้อของป่าที่ชาวบ้านนำมาขาย  เพื่อขายต่ออีกที  มันหนีกันไม่ค่อยออกน่ะครับ พูดไปมันก็เหมือนน้ำท่วมปากน่ะครับ ถ้าถามชาวบ้านว่ารู้จักคุณค่าของป่าไม้ไหม??  ชาวบ้านรู้ดีกว่าคนในเมืองอีกครับ เพราะหากินมาตลอดชีวิต  ถ้าถามต่อว่า ทำไมไม่เปลี่ยนอาชีพที่หากินกับป่าไปเป็นอาชีพอย่างอื่น??  ชาวบ้านเขาตอกหน้าหงายตามภาษาชาวบ้านแบบเลือดออกซิบๆว่า "งั้นคุณก็หาอาชีพอื่นให้ผมทำสิ" แล้วเราจะมีปัญญาหาให้เขาไหมครับ?? เรื่องมันก็เอวังด้วยประการฉะนี้แล จากคุณ : โอจิ (Oji_yoyo) - [ 16 พ.ค. 52 15:58:10 ]

ความคิดเห็นที่ 32 หาเลียงผามาให้สักคู่สิโอจิ จากคุณ : Cinephile - [ 16 พ.ค. 52 18:01:42 ]

ความคิดเห็นที่ 33 o_0" !!?? จะว่าไปแล้วการหาเลียงผายากมากมายเลยครับท่าน   ไม่แน่ใจว่าจะมีความสามารถหามาเข้าฉากได้หรือเปล่า.?? -_-" ว่าแต่??...จะเอาจริงๆหรือว่าแซวเล่นๆครับท่าน...แหะๆ ผมยิ่งเป็นคนประเภทบ้ายุอยู่...-*-   เอ่อ!!  เลียงผาก็เลียงผาครับท่าน -_-" บางทีสวนสัตว์แถวนี้อาจจะมี แก้ไขเมื่อ 17 พ.ค. 52 06:49:52 จากคุณ : โอจิ (Oji_yoyo) - [ 16 พ.ค. 52 21:05:08 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ตัวเป็นๆ o_O" สู้ตายนะพี่จิ จากคุณ : เจ้านิ - [ 16 พ.ค. 52 22:09:09 ]

ความคิดเห็นที่ 35 งานนี้ไม่ง่ายนะ.. เอาใจช่วยโอจิ.. ยากเลยทีเดียว เอาแบบตัวเป็น ๆ ด้วย จากคุณ : ทะเลดาว (yongwa) - [ 16 พ.ค. 52 22:11:45 ]

ความคิดเห็นที่ 36 เอิ๊กกกก....!! สู้ๆนะคะ   จากคุณ : ต้นไพร - [ 17 พ.ค. 52 20:18:07 ]

ความคิดเห็นที่ 37 โอ๊ะ... เลียงผาหรอครับ     อืมมๆๆๆ...   หาข้อมูลมาให้ลองพิจารณากันก่อนละกัน หุหุ..   ^___^               ก็เท่าที่รู้กันมาตั้งกะเรียนชั้นประถม เลียงผาเป็นหนึ่งในสัตว์ 15 ประเภทที่ถูำกยกขึ้นมาเป็นสัตว์ป่าสงวนตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535 และตามพระราชบัญญัติฉบับนี้ ทำให้สถานะของตัวมันคือ ห้ามล่า ห้ามเลี้ยง ห้ามเพาะพันธุ์ ห้ามซื้อขาย...               ว่าง่ายๆ ถ้าเราไปเอามันมาจากป่าซึ่งๆหน้า ผิดกฏหมายชัวร์!?               แต่... ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีหนทางเสียทีเดียว พระราชบัญญัติฉบับข้างบน ยังเปิดโอกาสให้เราอยู่บ้าง โอกาสที่ว่า มีประกาศไว้อยู่สองกรณี 1. เป็นสัตว์สัตว์ป่าชนิดที่เพาะพันธุ์ได้   ถึงจะมีสัตว์บางประเภทที่ถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มนี้ แต่เราก็ยังไม่โชคดีขนาดนั้น เพราะไม่มีชื่อเลียงผา รวมอยู่ในรายชื่อที่ว่า.. ข้อนี้ ตัดทิ้งไป   -_-" 2. เป็นสวนสัตว์ หรือสถานีเพาะเลี้ยงพันธุ์สัตว์ของรัฐบาล....   อืมม...  นะ ข้อหนึ่งเป็นไปไมไ่ด้แล้ว ก็เหลือข้อสองข้อเดียว ทางเดียวที่พอจะเป็นไปได้ในการได้ตัวมันมา ก็ต้องได้มาจากสถานเพาะเลี้ยงของรัฐอย่างที่บอกไว้ในข้อ 2 แล้วต้องนำตัวมันมาไว้ในสถานที่ข้อ2 ใกล้ถิ่นเราอีกเช่นเคย   หรือมิเ่ช่นนั้น... เราก็ต้องจัดสร้างสวนสัตว์เอง  -_-"   ก็ไม่ยุ่งยากอะไร แค่มีใบอนุญาตตามนี้ทั้งหมด ก็น่าจะจัดตั้งได้แล้ว 1. ค่าใบอนุญาตให้เพาะเลี้ยงสัตว์ป่าฉบับละ 1,000 บาท 2. ใบอนุญาตให้มีไว้ครอบครองสัตว์ป่าคุ้มครองและซากสัตว์ป่าคุ้มครองที่ได้จากการเพาะเลี้ยงฉบับละ 500 บาท 3. ใบอนุญาตค้าสัตว์ป่าคุ้มครองที่ได้จากการเพาะพันธุ์ฉบับละ 1,000 บาท 4. ในอนุญาตค้าซากสัตว์ป่าคุ้มครองหรือผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการเพาะพันธุ์ฉบับละ 1,000 บาท 5. ใบอนุญาตให้นำเข้าหรือส่งออกสัตว์ป่าหรือซากสัตว์ป่าคุ้มครองที่ได้จากการเพาะพันธุ์ฉบับละ 500 บาท 6. ใบอนุญาตให้นำผ่านสัตว์ป่าสงวน สัตว์ป่าคุ้มครองและซากสัตว์สงวนหรือซากสัตว์ป่าคุ้มครองฉบับละ 500 บาท 7. ใบอนุญาตให้นำสัตว์ป่าคุ้มครองเคลื่อนที่เพื่อการค้าฉบับละ 100 บาท 8. ใบรับรองให้นำเข้า ส่งออกหรือให้นำผ่านสัตว์ป่าฉบับละ 500 บาท 9. ใบรับรองให้นำเข้า ส่งออกหรือให้นำผ่านสัตว์ป่าหรือซากสัตว์ป่าฉบับละ 500 บาท 10. ใบอนุญาตให้จัดตั้งและดำเนินกิจการสวนสัตว์สาธารณะฉบับละ 10,000 บาท 11. ใบแทนใบอนุญาตหรือใบรับรองฉบับละ 100 บาท 12. การต่ออายุใบอนุญาตฉบับละ 500 บาท ราคาที่ระบุไว้คงไม่ใช่ปัญหา...    ปัญหาของมันคงอยู่ที่ ใบอนุญาตอย่างที่ว่าอ่ะ ออกตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนดในกฎกระทรวง โดยผ่านจากท่านอธิบดีฯแต่เพียงผู้เดียว...   เหมือนจะยากแฮะ -_-" อืมมๆๆๆ...     อืมมม....     ว่าง่ายๆ ถึงเราจะได้ตัวมันมา แต่ไม่สามารถผ่านหลักเกณฑ์ในกฏกระทรวง และไม่ได้รับการยินยอมจากท่านอธิบดี  ก็ไม่สามารถนำตัวมาเพาะเลี้ยงได้ ในทางตรงกันข้าม...  ถ้าท่านอธิบดียินยอม ก็สามารถนำตัวมาเพาะเลี้ยงได้ทันทีเช่นกัน ....     ว่าแต่ว่า...    ท่านอธิบดีฯจะยอมมั๊ยอ่ะ  -_-" แก้ไขเมื่อ 18 พ.ค. 52 13:34:23 จากคุณ : ฟาฬ - [ 18 พ.ค. 52 13:31:30 ]

ความคิดเห็นที่ 38 โอจิวางแผนเอาไว้แล้วหรือยังว่าจะโขมยเลียงผาจากสวนสัตวือย่างไร และจะขนส่งผ่านด่านตรวจจากเชียงใหม่มาถึงกาญจนบุรีได้อย่างไร? ลองอธิบายให้ฟังหน่อยซิครับ จากคุณ : Cinephile - [ 18 พ.ค. 52 13:57:20 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ใช้คำว่าขโมยเลยหรอครับท่าน....    -_-" จากคุณ : ฟาฬ - [ 18 พ.ค. 52 14:17:14 ]

ความคิดเห็นที่ 40 พูดก็พูดเหอะ ทำไมเขาไม่อนุญาตให้เลี้ยงได้เลยนะ -*- แทนที่จะสงวนเอาไว้แต่เฉพาะในสวนสัตว์ ก็เอาไปอนุญาตให้เลี้ยงได้ตามฟาร์มต่างๆ เลี้ยงเพื่อการค้าอะไรแบบนี้ไปเลย คราวนี้แทนที่มันจะสูญพันธุ์มันก็จะมีการขยายพันธุ์ได้ หรืออาจจะมีการสร้างกฎเกณฑ์ในการเลี้ยงแล้วกี่เปอร์เซ็นต์ของจำนวนที่เลี้ยงได้จะต้องส่งเข้าศูนย์เพื่อปรับสภาพก่อนส่งคืนป่า เฮ้อ!!! เก็บไว้ในสวนสัตว์นับวันมันก็ยิ่งสูญพันธุ์ไปเรื่อยๆ อยู่ดี - -" จากคุณ : เ จ้ า ตั ว ร้ า ย - [ 18 พ.ค. 52 15:28:34 ]

ความคิดเห็นที่ 41 ตอนนี้บางสถานีก็เริ่มเพาะเลี้ยงแล้วอ่ะครับ.. เพียงแต่ยังไม่แพร่หลาย ด้วยตัวมันเองยังบอกได้ไม่เต็มปากนัก ว่าเป็นสัตว์เศรษฐกิจ  (จะลนไฟเอาแต่น้ำมันไปขายแล้วแปะป้ายว่า น้ำมันเลียงผา ทาแก้ปวดเมื่อย ก็ใช่ที่  -_-") อย่างตอนนี้ ที่สนานีเพาะพันธุ์สัตว์เขาประทับช้างมั้ง ที่อยู่ปากช่องอ่ะ  ที่นั่นก็เลี้ยงๆกันอยู่นา...   (น่าจะยังเลี้ยงกันอยู่นะ -_-")   ตรงนั้นเค้าเลี้ยงได้ เพราะอยู่ในความรับผิดชอบของกรมป่าไม้อ่ะ  แต่ที่ตรงนั้นเค้าเลี้ยงเพื่อไม่ให้มันสูญพันธุ์อ่ะดิ จริงๆตะก่อนตอนเด็กๆ ก็เคยเห็นชาวเขาเลี้ยงอยู่เหมือนกัน เลี้ยงหยั่งกะเลี้ยงแพะ เลี้ยงแกะอ่ะ แต่คงไม่นิยมกันในวงกว้างมั้ง  หลังๆไม่ค่อยเห็นเลี้ยงกันแหละ... จากคุณ : ฟาฬ - [ 18 พ.ค. 52 15:47:21 ]

ความคิดเห็นที่ 42 ถ้าพูดในแง่เศรษฐกิจมันน่าจะสามารถทำเป็นสัตว์เศรษฐกิจได้ เหมือนกับเนื้อแพะ แต่ เขาไม่ทำกันเพราะถูกจำกัดวงไว้ด้วยคำว่า สัตว์ป่าสงวน ไง แต่จะว่าไป เคยอ่านหนังสือวิธีการเลี้ยงแพะ เราว่ามันไม่ได้เลี้ยงกันง่ายๆ นะ (ลืมๆ ไปบ้างแล้วว่าเลี้ยงยังไง เดี๋ยวไปดูหนังสือก่อนว่ายังอยู่ป่าว แหะๆ) บางทีการเลี้ยงเลียงผาก็คงไม่ง่ายเหมือนกันหล่ะ จากคุณ : เ จ้ า ตั ว ร้ า ย - [ 18 พ.ค. 52 17:04:53 ]

ความคิดเห็นที่ 43 ขนาดแพะเนื้อยังคาว นมยังขายแทบไม่ออก...  -_-"        นับประสาอะไรกับสัตว์ประเภทเดียวกันที่ยัง"ป่า"จัดขนาดนั้น....  จะขายใคร?        วิธีเลี้ยง คงไม่ยากเกินความสามารถของเกษตรกรหรอก แต่คำถามมันอยู่ที่ว่า จะเลี้ยงไปทำไม...  ชิมิเคอะ จากคุณ : ฟาฬ - [ 18 พ.ค. 52 17:11:19 ]

ความคิดเห็นที่ 44 ยังมืดแปดด้านอยู่เลยครับท่าน -_-" ตอนนี้ยังหาหนทางอยู่ครับ  กำลังสอบถามนุ่นสอบถามนี่อยู่เลยครับ ปัญหาอันดับแรกเลย และเป็นปัญหาที่ใหญ่สุดก็คือต้องได้ตัวมันมาก่อนครับ ตัวเป็นๆ เป็นคู่ซะด้วย ยากมากถึงขั้นอภิมหายากเลยครับ ปัญหาอื่นๆ ถ้าได้ตัวแล้ว การขนย้ายค่อยว่ากันอีกทีครับ แต่คิดว่าไม่น่าจะเกินความสามารถของคนรักหนังมั้งครับ  แฮ่ๆ ขออนุญาตครับท่าน ถ้ายืมจากสวนสัตว์จะได้หรือเปล่าครับ แต่จะยืมได้หรือไม่ผมเองก็ยังไม่แน่ใจ กำลังวานเพื่อนติดต่ออยู่ พอดีอาของเพื่อนมีเพื่อนเป็นหัวหน้าสวนสัตว์เชียงใหม่ ไม่ทราบว่าถ้าทำเรื่องยืมสัตว์ พอไหวหรือเปล่าครับท่าน หรือว่าต้องใช้วิธีท่านครับ  แต่ต้องมีอุปกรณ์พร้อมครับท่าน -_-" แต่ผมไม่สามารถรับปากได้อยู่ดีว่าจะได้นะครับ -_-" ม่ายงั้นข้าน้อยก็ยังมืดแปดด้านอยู่เลยครับ  แหะๆ จากคุณ : โอจิ (Oji_yoyo) - [ 18 พ.ค. 52 21:35:59 ]

ความคิดเห็นที่ 45 สัตว์มันเคยอยู่ในป่า บนภูเขา ภูผา   ต้องทำภูผา ภูเขา ให้มันไหมคะเนี่ย จากคุณ : ฟ้าเปลี่ยนสี (kaewla) - [ 19 พ.ค. 52 00:05:18 ]

ความคิดเห็นที่ 46 พูดเล่นๆน่ะโอจิ อย่าไปซีเรียส ตอนนั้น้า Solidsnakexxx เขาปั้นเอาครับ ง่ายดี ยิงตายกี่ตัวก็ไม่มีใครเขาว่า อย่าคิดไปล่าหรือไปขโมยเลยโอจิ อยากได้จริงๆ ก็ให้นางพญากูเกิ้ลหาจากเน็ต เห็นมีขายเยอะแยะในเน็ตครับ จากคุณ : Cinephile - [ 19 พ.ค. 52 08:27:09 ]

ความคิดเห็นที่ 47 มีขายเลยหรอครับ..   สัตว์สงวนนะครับท่าน    -_-" จากคุณ : ฟาฬ - [ 19 พ.ค. 52 09:03:03 ]

ความคิดเห็นที่ 48 ครับท่าน   ว่าแล้วว่าท่านต้องพูดเล่น แหะๆ จากคุณ : โอจิ (Oji_yoyo) - [ 19 พ.ค. 52 12:58:35 ]

ความคิดเห็นที่ 49 ทะมาย ความคิดเห็นที่ 48 ต้องหัวเราะไปถอนหายใจไปด้วยล่ะ  เทรนใหม่หรอ        55555555+ จากคุณ : ฟาฬ - [ 19 พ.ค. 52 13:01:43 ]

ความคิดเห็นที่ 50 #49 โล่งใจเฟร้ย!!?? เหมือนยกภูเขาออกจากอก  แหะๆ จากคุณ : โอจิ (Oji_yoyo) - [ 19 พ.ค. 52 14:00:40 ]

ความคิดเห็นที่ 51 ภูเขาหรือบราเซียร์ เค้ากาลางนิยมกันอยู่ด้วยช่วงเนี้ย    555555+ จากคุณ : ฟาฬ - [ 19 พ.ค. 52 14:12:32 ]

ความคิดเห็นที่ 52 โอจิ แอบปาดเหงื่อเลยเนาะ จากคุณ : เป๋าตังค์เป๋าตุง - [ 19 พ.ค. 52 17:23:54 ]

ความคิดเห็นที่ 53 ลองหลับตา แล้วนึกภาพโอจิ กำลังปาดเหงื่อที่ไหลโซมอยู่บนเนินอกทั้งสองข้างดูสิครับ... ปากเผยอนิดๆ แอ่นหน้าอกออกมาหน่อยๆ สะโพกทิ้งย้อยไปทางด้านหลัง.... โอ้วววว ........... แม่เจ้า     ดูมะจืดเลยอ่ะครับ     -*- ปล.ใช่ปาดเหงื่อเดียวกันกะป้าปะครับ  -_-" จากคุณ : ฟาฬ - [ 20 พ.ค. 52 13:27:20 ]

ความคิดเห็นที่ 54 นึกภาพไม่ออก อยากเห็นอ่ะ พี่โอจิเป็นแบบให้ดูหน่อยจิคะ ... จากคุณ : ต้นไพร - [ 20 พ.ค. 52 21:13:35 ]

ความคิดเห็นที่ 55 อย่าไปอยากเห็นเลย แค่คิดภาพก็สยองแล้ว.... จากคุณ : เจ้านิ - [ 22 พ.ค. 52 11:45:43 ]

ความคิดเห็นที่ 56 -*- จากคุณ : โอจิ (Oji_yoyo) - [ 23 พ.ค. 52 09:04:00 ]

ความคิดเห็นที่ 57 ถ้าโอจิมีเลียงผาที่บ้านด้วย ดีนะ เปิดให้คนถ่ายรูปกล้วยไม้ กับเลียงผา แล้วขายกาแฟ เลย 555 จากคุณ : jittra - [ 28 พ.ค. 52 13:10:00 ]

ความคิดเห็นที่ 58 จะได้ไปเยี่ยมโอจิแทนอ่ะดิครับ  -_-" จากคุณ : ฟาฬ - [ 28 พ.ค. 52 16:30:21 ]