Star Trek เคยเป็นซีรีส์ที่ฉายอย่างยาวนาน และเป็นหนังมาแล้วก็หลายภาค แต่ครั้งนี้ เจเจ อับรามส์ นำกลับมาเล่าช่วงปฐมบทของเรื่องใหม่ครับ เพราะฉะนั้นถ้าใครกลัวว่าจะไม่เข้าใจเนื้อหาหรือดื่มด่ำอย่างเต็มอิ่ม โปรดวางใจและวางเงินซื้อตั๋วเข้าไปดูเลยครับ
ณ เวลานี้ผมขออนุญาตเปรียบเทียบ Star Trek ว่าเป็น The Dark Knight หรือ Cloverfield ของปีนี้(แต่เนื้อหาใสกว่าเยอะ) และี่น่าจะสร้างกระแสปากต่อปากได้เหนือความคาดหมายใครหลายคน ทั้งๆ ที่ตัวหนังมีดาราที่เราคุ้นหน้าค่าตาน้อยมาก
===========================
จุดเด่นของ Star Trek ภาคนี้คือ การสร้างความผูกพันระหว่างตัวละคร รวมไปความผูกพันระหว่างคนดูกับตัวละครครับ
ผู้กำกับเดินเรื่องอย่างรวดเร็ว และแทบเรียกน้ำตาคนดูได้ตั้งแต่ฉากแรกที่พ่อพระเอกเป็นกัปตันจำเป็นเพียง 12 นาทีแต่ี่ช่วยลูกเรือได้กว่า 800 ชีวิต รวมไปถึงลูกชายของเค้าที่เกิดในวันเดียวกัน...จากการโจมตีของยานลึกลับที่เทคโนโลยีล้ำหน้ากว่ามาก
หลังจากนั้นเรื่องก็เล่าในส่วนของสป๊อค ซึ่งเป็นชาววัลแคนหูแหลม และคนดาวนี้จะี่เทิดทูนตรรกะและเหตุผล เหนืออารมณ์และความรู้สึก จุดขัดแย้งอยู่ตรงที่สป็อคเป็นลูกครึ่งวัลแคน-มนุษย์ ทำให้โดนรังเกียจเดียดฉันท์ แต่หลังจากนั้นสป็อคก็แสดงให้เห็นว่าเค้าเลือกเดินตามวิถีชาววัลแคน แต่มีความรู้สึกกล้าแกร่งแบบมนุษย์
เคิร์ก กับ สป็อคเป็นไม้เบื่อไม้เมากันตลอดทั้งเรื่อง และขโมยซีนกันไม่รู้จักหยุดหย่อน(แต่ผมว่าสป็อคเด่นกว่านะ) ซึ่งนับว่าคำพูดคมคายของทั้งสองคนสื่อคาแรกเตอร์ได้ดีเหลือเกิน ถ้าไม่นับศัพท์เฉพาะที่ต้องใช้เวลาเข้าใจสักแป๊บกับอาการอธิบายเรื่องอย่างรวดเร็วของตัวละคร(จนฟังเืกือบไม่ทัน) คุณก็สามารถเข้าใจไซไฟเรื่องนี้จากตัวละครหลักสองตัว โดยที่ไม่ต้องพะวงอะไรเลย เพราะผู้กำกับย่อยหนังไซไฟให้เข้าใจง่ายและสร้างจุดขัดแย้งอยู่บนพื้นฐานตัวละครครับ
นอกนั้นก็ยังมีลูกเรือยานเอนเตอร์ไพรซ์อีกหลายคน ที่ต้องขอชื่นชมตัวบท ที่แจกจ่ายบทอย่างเท่าเทียม ทำให้เล่าเรื่องได้เท่เหลือเกิน ไม่ต้องไปเพ่งใครคนใดคนหนึ่งมากไป ทุกคนมีความสำคัญหมด รู้เลยว่ายานลำนี้จะขับคนเดียวไม่ได้
แต่เด่นที่สุดของ Star Trek ภาคนี้ ขอยกให้ "สถานการณ์(Situation)" ในเรื่องครับ เจเจ เค้ากำกับซีรีส์ Lost ที่เป็นละครทีวีมาก่อน ทำให้รู้ว่าหนังประเภทนี้ต้องสร้าง sit ให้คนดูอยากตามตลอดเวลา และเค้าก็ทำสำเร็จ เพราะผมหายใจไม่ทั่วท้องตลอดทั้งเรื่อง ตั้งแต่การกระโดดร่มลงไปจัดการแท่นขุดเจาะดาว, พระเอกโดนปล่อยเกาะลงบนดาวหิมะ, เจอสัตว์ประหลาดบนดาววิ่งไล่อีก(หน้าตาเหมือนสัตว์ประหลาดใน Cloverfield ที่ เจเจ เคยกำกับด้วยนะ), เจอสป็อคที่มาจากอนาคต และนี่นำไปสู่การเฉลยเรื่องราวทั้งหมด ว่ายานที่ทำลายยานของพ่อพระเอกตอนต้นเรื่องนั้น มาจากอนาคตผ่านทางหลุมดำ เลยมีเทคโนโลยีล้ำสุดๆ
ดูสิครับ sit หลักของเรื่อง ใครจะไปคิดได้ ถึงจะอ้างอิงอยู่บนหลักวิทยาศาสตร์ และเป็นพล็อตปกติอย่างการย้อนเวลากลับมาแก้ไขประวัติศาสตร์ แต่วิธีเล่าเรื่องทำให้รู้สึกว่ามันเจ๋งมากเลย เจ๋งสุดๆ ตอนผมรู้เรื่องราวทั้งหมด ผมแทบอยากจะตบมือให้เลย(ตอนหนังจบผมยังตบมือให้เค้าจริงๆ ด้วยครับ)
===========================
หากจะหาข้อติ ก็มีอยู่บ้าง เดี๋ยวหาว่าอวย(เดี๋ยวนี้คนชอบติดคำนี้จัง) ขอจำแนกเป็นข้อเลยละกันครับ
1.) ผมรู้สึกว่าเคิร์กนั้นเก่งครับ แต่เพลี่ยงพล้ำบ่อยไปหน่อย น่าจะให้เห็นว่าเก่งกว่านี้ คือเก่งพอที่จะเป็นผู้นำคนได้และเก่งพอที่จะไม่เพลี่ยงพล้ำง่ายๆ(ถึงจะรู้ว่าอยากให้คนดูตามว่า "มันจะรอดมั้ย" ก็เหอะ) ทำให้โดนสป็อคขโมยซีนอยู่บ่อยๆ แถมยังขโมยหัวใจลูกเรือหญิงคนสำคัญบนยานด้วยสิ(ฮา)
2.) ยานฝ่ายร้ายมาถึงโลกง่ายไป เลยไม่รู้สึกว่าโลกจะต่อต้านไรมันเลย สถานีอวกาศของโลกก็มี ให้ยิงต่อต้านหน่อยก็ได้ แล้วยานฝ่ายร้ายค่อยจัดการกลับไป(ตามข้อมูลที่รีดจากกัปตันไพค์จนหมดเปลือก) พอเราไม่เห็นตรงนี้็เลยรู้สึกว่า "เออ ง่ายไปหน่อยแฮะ" กลายเป็นยานพระเอกเด่นแปลกแยกไปเลย เหอๆ
3.) ศัพท์เฉพาะเยอะอยู่เหมือนกัน แต่ก็ย่อยง่ายพอสมควรครับ ตามๆ หน่อยก็อินต่อได้เลย
===========================
ติได้แค่นี้แหละครับ นอกนั้นทั้งมันส์ ทั้งซึ้ง ทั้งขำไปกับตัวละครที่ไม่ตั้งใจตลก(แต่ตลก) ได้ตั้งแต่ต้นจนจบ และพอผมดูจบ ผมรู้สึักเลยว่าพี่กรงเล็บเราเจอม้ามืดเข้าให้แล้ว ทั้งสองเรื่องกินบุญเก่ามาทั้งคู่นะครับ แต่บุญเก่ามันก็หมดได้ ถ้าทำเรื่องไม่สนุกจริง คนก็ไม่ดูต่อหรอก แต่ Star Trek สร้างบุญใหม่ด้วยนี่สิ บวกกับการสร้างมาตรฐานไว้สูงลิบ จนหนังซัมเมอร์เรื่องอื่นน่าจะหนาวๆ ร้อนๆ ไปตามๆ กัน และหลายคนคงเริ่มหวังแล้วว่าแฟรนไชส์ Star Trek จะได้รับการรีบู๊ตเต็มสูบอีกครั้งจากมือผู้กำกับคนนี้หรือไม่ อย่างที่คริสโตเฟอร์ โนแลนรีบู๊ต Batman วิ่งฉิวนำไปก่อนแล้ว
เพราะฉะนั้น บอกได้คำเดียวว่า...
สุดยอดเหนือคำบรรยายครับ!!!
ปล.ไม่อยากให้ชาวพันธุ์ทิพย์พลาดเรื่องนี้ด้วยประการทั้งปวงจริงๆ ครับ
แก้ไขเมื่อ 11 พ.ค. 52 10:16:50
แก้ไขเมื่อ 11 พ.ค. 52 01:54:22
แก้ไขเมื่อ 11 พ.ค. 52 01:51:13
Star Trek : ม้ามืดของ Hollywood ในซัมเมอร์นี้...(Spoil Alert)
