สมมุติว่าคุณเป็นคนที่ไม่ได้มีความทะเยอทะยานอะไรเลย (อย่างผม)
แต่คุณดันเกิดมาในตระกูลที่มีคนเยอะ และเก่งๆ มีหน้ามีตาในสังคม (ทำไมมันเก่งและเป็นเลิศเยอะจังวะ...นักเรียนทุน ดารา พิธีกร นักแต่งเพลง องคมนตรี สาวสังคมทูต แพทย์หลวง ปลัด อธิบดี รัฐมนตรี...ฯลฯ)
ส่วนคุณก็ดำเนินชีวิตมานานพอสมควรอย่างที่ควรจะเป็นเช่น ไปศึกษาต่างประเทศถึงปริญญาโท ทำงานเป็นลูกจ้าง และต่อมาก็ทำกึ่งส่วนตัว คุณคิดว่าคุณก็กลมกลืนกับสถานะทางสังคมที่คุณเกิดมา ไม่ได้ทำให้บุพการีของคุณอับอายมากนัก..(รึเปล่าวะ)
แต่ตลอดเวลาคุณเกิดคำถามกับตัวเองว่า ทำไมชั้นไม่มีความสุข หรือ พอใจกับชีวิตชั้นเลยวะ ชั้นอยากได้มากกว่านี้เหรอ เอ๊ะ เปล่านี่หว่า ชั้นอยากได้น้อยกว่านี้ต่างหาก ...งงมะ
คุณเหนื่อยกับการทำตัวเป็นคนระดับบนของคุณ เพราะเพื่อนฝูงและญาติพี่น้องของคุณทำไมเขาช่างดูฉลาดเฉลียว สิ่งที่เขาทำดูมันช่างเป็นธรรมชาติ ดูง่ายดาย ทำไมวงสังคมเขามันช่างหรูระยับ เวลาพบปะกัน ทำไมเรื่องที่เขาคุยมันช่าง เป็นเรื่องที่ทำให้คุณเครียดเพราะกลัวคนเขารู้ว่าผมไม่รู้ และไม่สนใจอะไรเลย เขาคุยกันเรื่องการเมือง ความเป็นไปในประเทศ แนวโน้มเศรษฐกิจ จิตวิทยาเด็ก การไปเที่ยวต่างประเทศ การหาเงินการทำธุรกิจ...ผมคุยได้ครับ..แต่เฟคโคตรๆ ใครจะป็นนายก ช่างแม-ร่ง...ตลาดหุ้นโลกจะเป็นอย่างไร กองทุนจะให้กู้มั๊ย..กรูไม่สน
ผมมีความสุขเวลาไปอยู่บ้านหลังเล็กๆที่พ่อทิ้งไว้ให้ที่ต่างจังหวัด ขี่จักรยานไปซื้อ หนังสือพิมพ์ ขนมครก กับแกงสักถุงมาไว้กินตอนกลางวัน บ่ายๆเขียนรูปหรือทำงานไปพอไม่ให้ว่าง เรื่องที่ชอบคุยคือ หนังเรื่องนี้สนุกเนอะ แต่ถ้าเป็นผมคงจะถ่ายแบบนี้ว่ะ หรือ โฆษณาอันนี้มันอุบาทว์ว่ะ ก๊อบปี้โค่ดเสร่อเลย หรือหนังสือของคุณสุวรรณี เรื่องที่ผู้หญิงเลี้ยงงูไว้ฆ่าผัวมันช่างสุดยอดแห่งความอำมหิตเลยเนอะ...ผมคุยเรื่องแบบนี้กับคนพวกนี้(ญาติๆ-และเพื่อนๆ)ไม่ได้ครับ ผมคุยได้กับเพื่อนๆอีกกลุ่มหนึ่งมากกว่า.... ตอนงานศพคุณพ่อ คุณจะมองออกเลยครับว่าใครที่เป็นแขกของผม ใครเป็นแขกน้องชายหรือญาติผม มันต่างกันจนตลกเลยครับ...
คำถามคือว่าจำเป็นมั้ยที่คุณจะดำเนินชีวิตไปอย่างที่สังคมและสภาพแวดล้อมคุณเป็นคนกำหนด หรือทำตามสิ่งที่คุณอยากทำจริงๆ ไม่ต้องสร้างอนุสาวรีย์จอมปลอมไว้ให้คนเขาชื่นชม ไม่ต้องสนว่าตอนคุณตายจะมีคนมาดูชีวิตคุณแล้วบอกว่า "เสียดายเนอะ เกิดมาดี เรียนมาสูง แต่ไม่เห็นทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน ไปอยู่ต่างจังหวัด เปิดร้านก๊อกๆแก๊กๆ"...ถ้าผมจะขายสมบัติที่คิดว่าผมไม่อยากเก็บไว้ เช่นที่ดินที่พ่อยกให้ เพื่อเปลี่ยนเป็นเงินเอาเข้าแบ๊งค์ เผลอๆผมอาจจะไม่ต้องทำงานหรือกังวลกับค่าใช้จ่ายที่สูงโดยไม่จำเป็นเพราะสังคมที่ผมอยู่และการเป็นชาวกรุงเทพ การไปอยู่ต่างจังหวัดผมใช้เงินนิดเดียวเองเมื่อเทียบกับที่ต้องใช้ทุกวันนี้...
เขียนวกวนและไม่มีจุดหมาย
แต่ก็จะตั้งเป็นกระทู้นะ ใครจะทำมาย อิ อิ...
เดี๋ยวถ้าได้สติ จะมาตบกระทู้ให้เข้าที่เข้าทาง...
แก้ไขเมื่อ 11 พ.ค. 52 12:33:28
แก้ไขเมื่อ 11 พ.ค. 52 11:51:56
แก้ไขเมื่อ 11 พ.ค. 52 11:41:49