Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com


    รีวิว Angels & Demons - ตัวละครและประเด็นหลักที่หายไปจากหนังสือ ***Spoiler Alert***

    ครั้งแรกที่ผมอ่านนิยายเรื่องนี้ก็คือ ช่วงที่ Da Vinci Code ดังคับโลก ผมก็ไปซื้อมาอ่าน พออ่านจบก็เลยไปสอย Angels & Demons มาอ่านต่อเลย

    และหลังจากที่ CERN เริ่มยิงลำแสง เมื่อไม่นานมานี้ ผมก็เอามาอ่านอีกรอบ เพื่อทบทวนความจำ ก่อนที่หนังจะเข้าด้วย

    พูดถึงตัวนิยาย ผมคิดว่า พล็อตสุดยอดมากครับ สนุกกว่า ดาวินชี่ โค้ด เสียอีก เนื้อเรื่องเข้มข้น และเร้าอารมณ์มากๆ แถมยังมีทุกอย่างเอื้ออำนวยต่อการสร้างเป็นภาพยนตร์ที่น่าสนใจอีกด้วย (หวังว่าจะได้ดู Deception Point อีกเรื่อง ในอนาคต)

    พอไปดูหนังมาเมื่อวาน รู้สึกว่า ตัวหนังทำได้ค่อนข้างดีครับ

    จุดเด่นของหนังคือ ดำเนินเรื่องเร็ว สนุก เร้าใจ และดูเข้าใจง่าย ถึงแม้จะเป็นคนที่ไม่ได้อ่านมาก่อน ก็ดูเข้าใจได้ง่ายครับ ส่วนในภาค production ก็อลังการดีครับ ทั้งสถานที่ ภาพ และดนตรี ทำออกมาได้ยอดเยี่ยมทุกอย่าง

    ถึงแม้จะโดนแฟนหนังสือวิจารณ์เยอะ แต่ผมก็เข้าใจนะว่า เขามีความจำเป็นต้องดัดแปลง เพื่อให้เข้ากับ ระยะเวลาที่จำกัดของหนัง แต่ผมก็คิดว่า มีตัวละครบางตัว และ ประเด็นหลักบางอย่าง ที่ถูกตัดออกไป ทำให้ อารมณ์บีบคั้น และกดดัน บางอย่าง ที่ได้รับจาก หนังสือ มันหายไปครับ

    ด้วยการดำเนินเรื่องที่เร็วเกินไป ทำให้ เราไม่มีเวลาได้ ดื่มด่ำ และ ละเลียด กับ ผลงานศิลปะ ของ เบร์นินี่ ซึ่งผมคิดว่า แฟนหนังสือหลายคน ชอบในจุดนี้มากๆ ครับ ในหนังสือ กว่า แลงดอน และ วิตโตเรีย จะหา แท่นบูชาวิทยาศาสตร์ แต่ละแห่ง ของ เบร์นินี่ เจอ ก็ต้องไขกันลำบากกว่าในหนังค่อนข้างเยอะครับ และจากการที่ แลงดอน ในหนัง หาสถานที่ต่อไปเจอได้อย่างรวดเร็ว ทำให้ ความยากลำบากในการเดินตามรอย ของพวก อิลลูมินาติ ดูด้อยลงไปเลย

    ตัวละคร บางตัว ที่ในหนังสือเด่นมากๆ อย่าง แม็กซิมิเลียน โคห์เลอร์ ถูกตัดออกไป และบทในช่วงท้ายของเขา ในหนังสือ ถูกเอาไปยัดให้ ริคเตอร์ หัวหน้าทหารองครักษ์สวิสแทน (ทหารสวิส แต่ชื่อโคตรเยอรมัน) ตรงนี้ ผมมองว่า ที่ตัด โคห์เลอร์ ออก เพราะว่า ตัวหนังจะได้ไม่ต้องไป เท้าความที่ CERN มากจนเกินไป (ตรงนี้ ผมคิดว่า คนดูหนัง คงได้รู้จัก CERN กันไปแล้วส่วนมาก จากข่าวยิงลำแลงโปรตอน ตัวหนังจึงไม่มีความจำเป็นต้องอธิบายมาก ช่วยประหยัดเวลาด้วย)

    แต่ ตัวละครบางตัว ทำได้น่าผิดหวังมากครับ โดยเฉพาะ เจ้า "ฮัสซัสซิน" ซึ่งผมยังไม่เข้าใจว่า ทำไมทีมงานต้องเปลี่ยน มาใช้ มือปืนรับจ้างแทน เพราะอารมณ์โกรธแค้น ของเจ้านักฆ่าในหนังสือ ที่มีต่อ คริสตจักร มันดูรุนแรง มากกว่าเยอะเลย

    กุนเธอร์ กลิค กับ จินิต้า มาครี 2 นักข่าว บีบีซี ซึ่งจัดได้ว่า เป็นตัวประกอบ ที่เด่นพอสมควรในหนังสือ ก็หายไป ทั้งๆ ที่ผมคิดว่า ไอ้ตัวละคร 2 ตัวนี้ เป็นตัวประกอบที่จะขาดเสียมิได้เลย ในหนังฮอลลีวู้ด เพราะนอกจากจะเป็นตัวป่วนที่ทำให้ คนดู หมั่นไส้ และรำคาญแล้ว มันช่วยเพิ่มอารมณ์ของหนังให้หลากหลายขึ้น

    นอกจานี้ ชื่อของตัวละคร บางตัวถูกเปลี่ยนไป โดยที่ ผมไม่เข้าใจว่า เปลี่ยนไปเพื่ออะไร พระคาร์ดินัล มอร์ตาติ ซึ่งเป็นผู้ดำเนินการประชุม ถูกเปลี่ยนชื่อเป็น คาร์ดินัล สเตร้าซ์, คาร์โล เวนเตรสกา (ท่านคาเมอร์เลนโก) ถูกเปลี่ยนเป็น แพททริค แมคเคนน่า ตรงนี้อาจเป็นรายละเอียดน้อยๆ แต่มันทำให้ ความเป็นอิตาเลียน หรือความเป็นวาติกัน ลดลงครับ (หรืออาจเป็นเพราะ ยวน แมคเกรเกอร์ หน้าไม่เหมือนอิตาลีมั้ง)

    และสิ่งสำคัญที่สุด ที่ผมว่า ตัวหนัง ยังทำได้ไม่สุด ก็คือ ตัวละคร คาเมอร์เลนโก ครับ

    **จริงๆ ตามภาษาอิตาลี ควรจะอ่านว่า คาเมร์เลนโก (Camerlengo) แต่ในหนัง แปลว่า คาเมร์เลนโก ส่วนในหนังสือ จะเป็น คาเมอร์เลนโญ (Camerlegno)**

    ผมว่า อารมณ์ในหนังสือ ตอนที่ คาเมร์เลนโก รอดตายจาก เฮลิคอปเตอร์ ระเบิด มันยิ่งใหญ่ ประมาณว่า พระเยซู กลับชาติมาเกิดเลยก็ว่าได้ แต่ในหนังมันยังดูไม่ยิ่งใหญ่ขนาดนั้น

    แถมตัวหนัง ยังตัด "ประเด็น" สำคัญที่สุดของตัวนิยาย ซึ่ง ผมคิดว่า ประเด็นนี้ มันทำให้ตัวนิยายสมบูรณ์แบบมากๆ เลยก็คือ

    ในหนังไม่ได้บอกว่า คาเมร์เลนโก แพททริค เป็นลูกแท้ๆ ของ พระสันตะปาปา พระองค์ก่อน ซึ่งตัว คาเมร์เลนโก เป็นเด็กที่เกิดจากการผสมเทียม (ทำให้ ประเด็นที่ พระสันตะปาปา ชื่นชมวิทยาศาสตร์ และไม่ได้มองว่า วิทยาศาสตร์ เป็นศัตรูกับ ศาสนา ก็เพราะ ลูกของท่าน เกิดจากวิทยาศาสตร์)

    เราเลยไม่ได้เห็นประเด็น ลูกฆ่าพ่อ ในหนัง ซึ่งผมคิดว่า ในนิยายมันบีบคั้นความรู้สึกมากๆ เลยทีเดียว และเป็นเหตุจูงใจที่สมเหตุสมผล ที่ทำให้ คาเมร์เลนโก ตัดสินใจเผาตัวเองทั้งเป็น

    พอไม่มีประเด็นลูกฆ่าพ่อแท้ๆ อารมณ์บีบคั้น ตรงนี้ มันก็เลยหายไปจากหนังเลย  

    โดยรวมๆ แล้ว สำหรับคนที่ไม่เคยอ่านหนังสือ มาก่อน ผมคิดว่า เป็นหนังที่ดูได้สนุกมากๆ เรื่องหนึ่ง

    ส่วนคนที่เคยอ่านหนังสือมาก่อน ถ้าเรายอมรับ ในข้อจำกัดของหนัง ผมก็คิดว่า เป็นหนังที่ดูได้สนุกเรื่องหนึ่ง และไม่เสียดายเงินครับ

    จากคุณ : Anduril - [ 17 พ.ค. 52 15:17:01 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com