ความคิดเห็นที่ 1 Ha! 17 คนโหวต แต่ไม่มีคอมเม้นท์เลย จากคุณ : จูริง - [ 18 พ.ค. 52 05:41:50 ]

ความคิดเห็นที่ 2 เอาด้วย เต็มตัวครับ สะดวกจริงๆ เมื่อถึงเวลาสรุป ไม่ต้องตาลีตาเหลือก เลือกส่งจนเหนื่อยใจ จากคุณ : OncE UPoN'-'a MaN - [ 18 พ.ค. 52 06:57:16 ]

ความคิดเห็นที่ 3 มาลงชื่อว่าเห็นด้วยจ้า^_^ จากคุณ : หนูน้อยบนยอดเขาอันหนาวเหน็บ - [ 18 พ.ค. 52 08:23:49 ]

ความคิดเห็นที่ 4 เห็นด้วยคร้าบ จากคุณ : สมัดเจอร์ - [ 18 พ.ค. 52 08:51:15 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ค่อนข้างจะเป็นประโยชน์เพราะไม่ค่อยจะแยกความแตกต่างพวกนี้ออก แหะๆ แบบว่าดุไปตามประสาคนดูหนังไม่เป็น กลัวดูเป็นแล้วจะดูหนังไม่สนุกด้วยอ่ะสิ แต่ท่าทางกรรมการ โดยเฉพาะคุณจูริงคงจะเหนื่อยกันมาก เลยไม่รู้ว่าจริงๆจะเกิดประโยชน์อ่ะป่าวเพราะ คนโหวตก็โหวตกันแบบหนังในดวงใจอยู่แล้ว อยากรู้จักว่าออสการ์ใช้วิธีไหนโหวต เพราะว่าแม้บางเรื่องจะคนลงคะแนนน้อยก็มีสิทธิ์เข้าชิงได้เช่นกัน ไม่ใช่นับโหวต 1 2 3 อย่างเดียว ประยุกต์เอา ct score มาใช้ได้หรือไม่ อย่างนั้นจะเกิดประโยชน์มากกว่า จากคุณ : blueboyhub - [ 18 พ.ค. 52 08:56:04 ]

ความคิดเห็นที่ 6 คิดเห็นคล้ายๆ น้อง OncE ครับ คืออย่างน้อยมีการกลั่นกรองมาก่อนในระดับนึง จะได้ทำให้ไม่เกิดการลายตาเวลาต้องเลือกผู้ชนะ (ที่สมควรจะเป็น) จริงๆ อ่ะครับผม จากคุณ : บลูยอชท์ - [ 18 พ.ค. 52 10:56:35 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ทำ Shortlist ก็ดีค่ะ จะได้เลือกกันง่ายขึ้น เพราะสาขาพวกนี้ คนดูหนังธรรมดาๆแบบเราก็ไม่ค่อยได้ใส่ใจ บางสาขาไม่รู้จะเลือกเรื่องไหน คิดไม่ออก ไม่ก็เลือกเรื่องที่ตัวเองชอบเป็นหลักค่ะ แต่ถ้ามีกรรมการกรองมาให้อีกชั้นนึงก็โอเคค่ะ จะได้นึกเรื่องออก เลือกง่ายขึ้น ^^ จากคุณ : MiracleSeven - [ 18 พ.ค. 52 11:27:12 ]

ความคิดเห็นที่ 8 เอาดิครับ จัดปายยยยยยยยยยยย จากคุณ : buddhi - [ 18 พ.ค. 52 12:24:59 ]

ความคิดเห็นที่ 9 เห็นด้วยครับ ยังอยากให้มีต่อ จากคุณ : yuttipung - [ 18 พ.ค. 52 13:52:14 ]

ความคิดเห็นที่ 10 เห็นด้วยว่าควรมีนะคะ เพราะตัวเอง แยกไม่ค่อยออกหรอกค่ะว่าหนังเรื่องไหนมีความโดดเด่นในเรื่องเทคนิค ด้านอะไร หากมีคนช่วย list ออกมาก่อน ก็ทำให้ง่ายขึ้นนะคะ (แม้ว่าตัวเองจะไม่ได้โหวตให้ทุกสาขาก็ตาม) จากคุณ : Tai-Sarunya - [ 18 พ.ค. 52 14:44:58 ]

ความคิดเห็นที่ 11 สรุปเลือก เห็นด้วยละกัน (ก่อนหน้าเหมือนตอบไรเบลอๆไป ^^') แก้ไขเมื่อ 18 พ.ค. 52 21:17:32 จากคุณ : นางาเสะจัง - [ 18 พ.ค. 52 16:09:26 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ดีค่ะ เห็นด้วย แต่อยากเสนอเรื่องของการลงคะแนน ค่อนข้างมีกระแสในด้านลบว่า ในช่วงของการโหวตนั้น เป็นช่วงของที่หนังในกระแสจะได้ประโยชน์มาก เหมือนเช่นรักแห่งสยาม ณ ตอนนั้นนะคะ จึงมีฟีดแบ๊คตอบกลับมาด้านนี้ จึงอยากให้มีการถ่วงน้ำหนักคะแนน จากการโหวตบ้าง หรือมีการเก็บคะแนนโหวตเป็นช่วงๆไปค่ะ ลองเสนอดูแค่นี้ค่ะ จากคุณ : Physics~easy~ - [ 18 พ.ค. 52 19:19:48 ]

ความคิดเห็นที่ 13 เห็นด้วยค้าบ จากคุณ : คนหลายใจไม่จริง - [ 18 พ.ค. 52 22:43:04 ]

ความคิดเห็นที่ 14 เห็นด้วยให้มีต่อครับ จากคุณ : Odengya - [ 19 พ.ค. 52 04:57:49 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ไม่จริ๊งงง จากคุณ : จูริง - [ 19 พ.ค. 52 06:24:30 ]

ความคิดเห็นที่ 16 เห็นชอบ จากคุณ : ดินสอสีน้ำเงิน - [ 19 พ.ค. 52 09:45:51 ]

ความคิดเห็นที่ 17 เห็นผลโหวตตอนนี้แล้ว สงสัยคงจะต้องมีต่อไปเสียแล้วมังครับ แต่ก่อนที่บอกได้ว่าควรมีหรือไม่ควรมี ผมคิดว่าเราต้องมาดูที่ผลสัมฤทธิ์ของการคัดเลือก shortlists ว่ามีประโยชน์กว่าการไม่มีมากน้อยเพียงไร จากที่มาของ shortlist ข้างต้น ที่บอกว่ามีภาพยนตร์เรื่อง XXX เรื่องหนึ่งได้รางวัลในสาขาเทคนิคสาขาหนึ่งไป ทั้งที่ไม่ควรแม้กระทั่งได้เข้าชิง เมื่อ 2 ปีก่อน เพราะความสับสนระหว่าง cinematograhpy และ visual effect ของเพื่อสมาชิกที่โหวตให้ นำมาสู่ความพยายามที่จะคัดกรองคุณภาพของภาพยนตร์ในสาขาเทคนิคต่างๆ ชั้นหนึ่งก่อน เพื่อให้การเสนอชื่อผู้เข้าชิงตอนปลายปี มีความลักลั่นน้อยลง หรืออีกนัยหนึ่งคือเพื่อคุณภาพที่ดียิ่งขึ้นของรางวัลในสาขาเทคนิคนั่นเอง ...การดำเนินงานดูจะราบรื่นดีครับ เพราะด้วยความอุตสาหะของคุณจูริง และกรรมการแต่ละท่านที่เสียกำลังกาย (และกำลังทัรพย์) และเวลา มารวบรวมคะแนนตั้งแต่ต้นปียันท้ายปี จนได้รายชื่อออกมาสำเร็จ ...และเมื่อถึงคราวเสนอรายชื่อของเพื่อนๆ สมาชิก ก็ได้รับความร่วมมืออย่างถล่มทลาย (และไม่เคยปรากฏมาก่อน) มากกว่า 100 คน จนได้รายชื่อผู้เข้าชิง 5 คนสุดท้ายออกมาในที่สุด ...ซึ่งในความคิดของผม เห็นว่ามีคุณภาพมาตรฐาน "ดีขึ้น" ในบางสาขา, "ดีพอๆ เดิม" ในบางสาขา, และ "ดีน้อยลงเล็กน้อย" ในบางสาขา แต่มิได้ห่วยลงมาก (จนทำให้การทำ shortlist ไม่เกิดขึ้นอีก) หรือดูดีขึ้นผิดหูผิดตา (จนทำให้การ shortlist ต้องมีอีกต่อไปอย่างแน่นอน และจะมีไปจนกว่าเฉลิมไทยอวอร์ดจะไม่มีใครจัด) แต่อย่างใด ทั้งรายชื่อของภาพยนตร์บางเรื่อง "ซึ่งได้รับความนิยมชมชอบอย่างล้นหลามในสมาชิกเฉลิมไทย" ก็ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิง ในสาขาเทคนิคบางสาขาอย่างผิดคาด คือ The Dark Knight (ที่เข้าชิงทุกสาขา) และ Enchanted (ดนตรีประกอบภาพยนตร์) อีกต่างหาก ... (ลองพิจารณาตารางข้างล่างดู) ... กรณี The Dark Knight นั้น ผมไม่ติดใจ เพราะงานในสาขาต่างๆ ดีพอที่จะให้เข้าชิงได้ (แม้ผมจะคิดว่ามีเรื่องที่ดีกว่าอีกหลายเรื่อง) หากสำหรับ Enchanted ต่างหากที่ติดใจกว่า เพราะภาพยนตร์เรื่องนี้มีดีที่เพลงประกอบ (song) อย่างยิ่ง แต่สำหรับดนตรีประกอบ (music score) แล้ว ไม่ได้ดีหรือยอดเยี่ยมจนจะต้องติดเข้ามาใน 5 เรื่องสุดท้าย ...และแล้ว มันก็กลายเป็นเรื่องช็อกโลกมากที่สุด เมื่อ Enchanted ชนะในสาขานี้ไป มีชัยเหนือผลงานของ Atonement, There Will Be Blood, และ Wall-E (ที่มี music score ยอดเยี่ยมมากที่สุด 3 เรื่อง ของ 2 ปีที่แล้ว) ไปได้อย่างไร เหตุผล?? 1. เพราะอิทธิพลความนิยมชมชอบอย่างยิ่งของสมาชิก จนไม่อาจต้านทานได้ ...ข้อนี้เป็นไปได้สูง จากผลรางวัลที่ The Dark Knight ชนะ 8 สาขา และ Enchanted ชนะ 3 สาขา (+ นักแสดงนำหญิง) รวมกับจำนวนผู้ร่วมโหวตถึง 800 คน มากกว่าปีก่อนถึง 4 เท่า ทำให้ผลรางวัลเป็น popular vote อย่างชัดเจน 2. เพราะความเข้าใจเกี่ยวกับสาขาต่างๆ ยังลักลั่น ไม่รัดกุมพอ เช่นว่า "ดนตรีประกอบ" คือดนตรีทุกๆ อย่างในภาพยนตร์ รวมทั้งเพลงต่างๆ ที่มีเนื้อร้องด้วย หรือการโหวตของสมาชิกบางท่าน เป็นไปโดยความชอบโดยรวม คือเห็นว่าเป็น The Dark Knight ที่ตนชอบมาก ไม่ว่าสาขาไหนก็โหวตให้ 3. เพราะ shortlist มันไม่ดีพอ?? 4. มันก็เป็นอย่างนี้ๆ ทุกปีแหละ ธรรมดาของเฉลิมไทย ดูซิโหมโรง, Season change, รักแห่งสยาม ก็ได้รางวัลดนตรีประกอบด้วยกันทั้งนั้น ผมก็ไม่ทราบเช่นว่าเป็นอย่างไรแน่ แต่ไม่คิดว่าเป็นเพราะ shortlist มันไม่ดี เพราะดูจากรายชื่อผู้เข้าชิง 5 ชื่อสุดท้าย ก็มีคุณภาพทันเทียมกับปีก่อนๆ ที่เกิดจากการเฟ้นรายชื่อจากหนังทุกเรื่องที่เข้าฉายในไทยของสมาชิกที่ช่วยกันเสนอชื่อเข้ามา ณ ตอนนี้ จะเห็นว่า คุณภาพของรายชื่อผู้เข้าชิงจากการมี shortlist หรือไม่มี shortlist ไม่ได้แตกต่างกันนัก นับว่าความสามารถของ shortlist ด้านคุณภาพนั้น "so so" มีหรือไม่มีก็คล้ายๆ กัน ?? แต่ที่ต่างกัน คือ การมี shortlist จะทำให้ "ง่าย" ต่อสมาชิกที่มีสิทธิ์เสนอชื่อ เพราะเพียงแต่เลือกมาจากที่คัดไว้แล้ว ไม่ลำบากอะไร จึงทำให้ "มีจำนวนผู้สนใจร่วมเสนอชื่อมากขึ้นมาก" จาก 20-40 คน ในปีก่อนๆ เป็น 100 กว่าคน ...นี่คืออิทธิพลของ shortlist ที่ระบบเก่าไม่สามารถทำได้ ...ดูๆ แล้ว การมี shortlist คงจะดี เป็นประโยชน์ต่อสมาชิกส่วนมาก ...ทำให้รางวัลนี้ดูเหมือนเป็นรางวัลประจำปีประจำพันทิพที่มีคนเข้าร่วมมาก ไม่ใช่แค่หลัก 10 คน ...แต่ยิ่งมีคนโหวตมาก ผลโหวตก็ (อาจ) จะมีคุณภาพลดลง ตั้งแต่โหวตเสนอชื่อ nominee ที่ (อาจ) คิดน้อยลงกว่าการไม่มี shortlist ชอบเรื่องไหนรักเรื่องไหนก็ขอเพียง "เลือก" และส่งเข้ามา จึงทำให้รางวัลเป็น popular vote มากขึ้นตั้งแต่รายชื่อ nominee แล้ว หนังเล็กๆ ที่มีคนดูน้อยแต่คุณภาพดีก็ (อาจ) เป็นอันปิดประตูไม่ได้รางวัลเหมือนเมื่อก่อนอีก? คงไม่มีใครรู้ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร แต่ ณ จุดนี้ ที่รางวัลกำลังก้าวเป็นรางวัลใหญ่ กำลังเป็นสถาบัน? ผมบอกได้ว่ามันจะกลายเป็น popular vote อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ (คงเทียบกับ Oscars ได้ไม่ถนัดนัก เพราะนั่นเกิดจากคนในวงการหนังโหวตกันเอง ไม่ใช่คนทั่วไปร่วมกันโหวต) ...เพราะฉะนั้น shortlist จึงต้องมีไว้อย่างยิ่ง ถ้าหวังจะ "คง" มาตรฐานสำหรับการเสนอชื่อจากสมาชิกจำนวนมากแบบปีนี้ ...โดยสามารปรับปรุงข้อกำหนดในแต่ละสาขาให้รัดกุมยิ่งขึ้น ก็อาจเป็นประโยชน์ และจำเป็นสำหรับการก้าวเป็นรางวัลใหญ่ เป็นสถาบันของเฉลิมไทยอวอร์ด ...แต่ถ้าไม่อยากเหนื่อยทีมงาน ทั้งไม่สนใจว่าจำนวนคนโหวตเสนอผู้เข้าชิงจะน้อยเพียงไร ก็ไม่จำเป็นต้องมี shortlist เพราะสมาชิกที่ร่วมโหวต มั่นใจว่าต้อง "ตั้งใจ" เฟ้นรายชื่อจากภาพยนตร์ตลอดทั้งปีอย่างจริงจังเป็นแน่แท้ จึงทำให้คุณภาพของ nominee สามารถอยู่ในระดับดีได้เช่นปีที่ผ่านๆ มาครับ พิจารณาดูกันนะครับ ผมเห็นด้วยทั้งการมี หรือการไม่มี shortlist ครับ ขึ้นกับว่าเราให้ความสำคัญกับจุดไหนมากกว่ากัน ระหว่างต้องการสร้างเกณฑ์มาตรฐานของรางวัล จำนวนโหวต การมีส่วนร่วมของสมาชิก หรือคุณภาพรางวัล (ที่บางท่านไม่เอา popular vote) แก้ไขเมื่อ 19 พ.ค. 52 22:26:34 จากคุณ : รังสีไอฟ่า - [ 19 พ.ค. 52 16:41:35 ]