ความคิดเห็นที่ 1 ไม่คิดครับ เพราะไม่ได้อินขนาดน้าน แต่ชอบภาคนี้นะ ดูสนุกดีอ่ะ จากคุณ : กริชครับผม (กริชครับผม) - [ 19 พ.ค. 52 02:15:21 ]

ความคิดเห็นที่ 2 เราว่าทฤษฎีตอนนี้ไม่เหมือน First Contact น่ะค่ะ อันนั้นเป็นการย้อน "เวลา" อย่างเดียว เพื่อให้สิ่งที่ควรจะเกิดเกิดขึ้นตามกำหนด (คล้ายๆ Terminator ที่ลูกต้องส่งพ่อย้อนอดีตมาให้มีตัวเองเกิดขึ้น) แต่ภาคนี้เป็นการย้อน "เวลา" และข้ามไปสู่ "มิติ" คู่ขนาน คือเหตุการณ์ต้นเรื่องทำให้เกิดโลกใหม่และความเป็นไปได้ใหม่ ขนานไปกับมิติดั้งเดิม เพราะไม่อย่างนั้น Spock Prime ก็ต้องหายไปแล้ว แต่นี่ยังอยู่ดีมีสุขในมิตินี้แถมมีความทรงจำของมิติเก่าด้วย ดังนั้นโลกเดิมที่เคิร์กตกไปใน Nexus พิคาร์ดเป็นกัปตันของเอนเตอร์ไพรส์ หรือมีโดมิเนียน วอร์ก็ยังคงอยู่ (ตอนนี้ในโลกนั้นก็คงไว้อาลัยให้ท่านทูตสปอคซึ่งไปทำภารกิจพลีชีพอะไรเงี้ย) จากคุณ : ทินา - [ 19 พ.ค. 52 04:26:48 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ตายแล้ว ตกลงว่า TOS TAS TNG DS9 VOY นี่หายไปหมดแล้วเหรอ แล้วที่เคยดูไปแล้วมันจำอยู่ในหัวจะทำไงละเนี่ย เฮ่อ แย่เลย เซ็งหนักเลย จากคุณ : Iron-Spider - [ 19 พ.ค. 52 06:52:42 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ถ้าคนดู ภาค First contact จะรู้ว่าสหพันธ์ เกิดจาก เรื่องอนาคตที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของ original ^ ^ ^ อ่านแล้วงง "พื้นฐานของ original" คืออะไรเหรอคับ? First Contact นี่มันก่อน TOS อีกนะ ... มันเกี่ยวกันยังไงหว่า Alternate Reality ของหนังภาคล่าสุดนี้เริ่มต้นตั้งแต่ก่อนยุค TOS เล็กน้อย แต่ไม่ได้กลับไปไกลถึง FC นะครับ หรือว่า จขกท พูดถึงตรงไหน ยังไงมาอธิบายต่อด้วย ----------------------------------------------- "ความเป็นเจ้าแกแล็คซี่ของสหพันธ์"? สหพันธ์ไม่ได้เป็นเจ้าแกแลคซี่นะครับ ยังห่างไกลอีกแยะ Major power in each Quadrant of Milky Way Galaxy - Alpha: UFP, Klingon Empire, Romulan Star Empire, Cardassian Union, and the Ferengi Alliance - Beta: UFP, Klingon Empire กับ Romulan Star Empire มีพื้นที่ใน Q ส่วนนี้ด้วยเหมือนกัน - Delta: Borg Collective - Gamma: Dominion http://memory-alpha.org/en/wiki/Milky_Way_Galaxy จากคุณ : Iron-Spider - [ 19 พ.ค. 52 07:16:04 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ^ ^ ^ ถ้าพูดให้ถูกต้องคือ ชองลุค Enterprise E ทำให้เกิดการติดต่อ ครั้งแรกกับ มนุษย์ต่างดาวไง แล้วถ้าทุกสิ่งเปลี่ยนหมดอย่างนี้ ในอนาคตคงไม่มี Enterprise E แล้วใครจะย้อนเวลามาให้เป็นผู้กำเนิด สหพันธ์ละ แล้วนี้จะได้เป็นพันธมิตรกับ คลิงออนหรือเปล่าเนี่ย ถ้าไม่มี ชองลุค พิคาดร์ ใครจะเป็นคนช่วย Enterprise C ให้กลับไปอดีตซึ่ง เป็นส่วนสำคัญในการ ทำให้คลิงออนเป็นพัธมิตรกับสหพันธ์ แต่ก็นะ อาจจะไม่มี Enterprise C เลยก็ได้ อย่างนี้ก็เท่ากับว่าในอนาคต นอกจาก วัลลาล จะเจ๋งแล้วอาจจะไม่ได้เป็นพันธมิตรกับคลิงออนอีก _______________________________________________________ เจ้าแกแล็คซี่ของผมคือ เป็นมหาอำนาจเหมือนกับอังกฤษ ไงครับการเสียดาวอย่างวัลคาล ไปเหมือนกันอังกฤษ เสียอินเดียก่อนเวลาอันควรไงครับ แก้ไขเมื่อ 19 พ.ค. 52 08:37:06 จากคุณ : TIBERIAN SUN FIRESTORM - [ 19 พ.ค. 52 08:27:13 ]

ความคิดเห็นที่ 6 > ดูจบแล้วเซ็งจิตมากเลย ใครคิดแบบผมบ้าง ไม่เลย ชอบมาก +++ > ถ้าคนดู ภาค First contact จะรู้ว่าสหพันธ์ เกิดจาก เรื่องอนาคตที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของ original แต่ภาคนี้ ประวัติศาสตร์ ของภาค original series ก็เปลี่ยนไปด้วยอะ แล้วงี้ใครจะเป็นคน ช่วยสร้างยานว็อฟ ลำแรกของมนุษย์ ในFirst contact อะ อันนี้ใครเป็นคนช่วยสร้างไม่รู้ รู้แต่ว่ายานวาร์ปลำแรกได้เกิดขึ้นแล้ว และ first contact ได้เกิดขึ้นแล้ว ถ้าหากมันจะมี time paradox มันก็ต้องได้เกิดขึ้นแล้ว คือถ้าตามตรรกะของจขกท. มันจะต้องไม่มี first contact เกิดขึ้น ดังนั้นก็ไม่มีสหพันธ์ แต่ในตอนจบของเรื่องมันยังมีอยู่ ก็แสดงว่าไม่มี time paradox ดังนั้นซีรี่ส์ต่างๆไม่ได้หายไป ก็ยังอยู่ แต่อยู่ในอีกจักรวาลนึงไง มันไม่ได้เหมือน year of hell ที่เรื่องต่างๆหายไปหมดเลย อันนั้นลุ้นมาสองตอนแต่จบแล้วเซ็ง +++ > ขอบอกว่าเซ็งมากๆๆ เล่นเปลี่ยนเรื่องหมดเลยอย่างนี้ ดาววัลคัล พังประชากรของสหพัน หายไป หกพันล้าน ขนาดดาววัลคัลไม่พัง สหพันยังแพ้ คลิงออนเลย ใน TNG ตอน  yesterday Enterprise แล้วงี้ความเป็นเจ้าแกแล็คซี่ของสหพันธ์ก็ แจ้งหมดไปเลยสิครับ ต่อไปก็ไม่มี series  TNG DS9 Voyager ต่อแล้วซิ แล้วตอน wolf 359 จะสู้พวก บอร์ก ได้ไงอะ ไม่คิดเหรอว่าตอนนี้วัลแคนพัง ก็ต้องเปลี่ยนวิกฤตให้เป็นโอกาส เค้าจะต้องยิ่งมุ่งมั่นในการสร้างชาติสร้างวัฒนธรรมมากกว่าเดิม คงไม่สามารถปิดตัวแล้วทำอะไรระมัดระวังได้เหมือนที่ผ่านๆมา  แถมจักรวาลนี้ยังมีสป๊อคที่ใช้อารมณ์เป็นตั้งสองคน มันเจ๋งยิ่งกว่าแต่ก่อนที่มีสป๊อคคนเดียวใน TOS อีกนะ ไม่แน่ อาจจะจัดการกับคลิงออนได้หมดจดกว่าเดิมก็ได้ +++ แต่ที่แน่ๆ มันทำให้สตาเทรคกลับมาฮ็อตอีกครั้งในรอบหลายปี เราเลยดีใจมาก อย่างน้อยคนใหม่ๆก็จะได้ไปหาหนังหรือซีรี่ส์เก่ามาดูบ้าง จากคุณ : booklovers - [ 19 พ.ค. 52 09:26:07 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ^ ^ ภาคนี้ผมก็ชอบครับทำได้ดีกว่าทุกภาคด้วยซ้ำ แต่เล่นเปลี่ยนเรื่องหมดแบบนี้คงไม่ไหวอะ คิดดูว่าภาคต่อไป จะสร้างอิงเรื่องไหน ระหว่างเรื่องดั้งเดิม กับเรื่องในมิติใหม่นี้ ที่ประสบความสำเหร็จล้นหลาม แล้วอย่างนี้ื ถ้าบอกว่าไม่หาย ยังอยู่อีกมิติคู่ขนาน แต่มันก็หายไปอยู่ดี แค่จักรวาลเดิมก็ใหญ่พอและ นี้มาสร้างเรื่องใหม่ขึ้นหมดเลย เท่ากับในอนาคต ค้องมาแยกอีกว่า อันไหนอยู่ในช่วงเวลาของใคร การสร้างภาพยนต์ ในอนาคตคงวางพลอตต่อจากภาคนี้แน่นนอน แล้วเนื้อเรื่องอันเก่าละครับ สงสัยต้องลงถังขยะหมดเลย เพราะคงจะไม่มีการสร้างเป็น movie or series อีกหนานมากๆๆ เลยอะ หรืออาจจะตลอดไปเลยก็ได้ ก็มี จักรวาลใหม่แล้วนิ Spock ในภาคนี้ก็แก่ใกล้ตายแล้วครับ คงช่วยอะไรมากไม่ได้ จากคุณ : TIBERIAN SUN FIRESTORM - [ 19 พ.ค. 52 09:53:33 ]

ความคิดเห็นที่ 8 Star Trek: First Contact ... - บอร์กย้อนเวลากลับไปเพื่อ "หยุด" การปล่อยจรวดวอร์พครั้งแรกโดย Zefram Cochrane - Ent-E ตามกลับไปเพื่อแก้ timeline โดยการขัดขวาง Borg - ดังนั้นไม่ว่าจะยังไง Zefram Cochrane ก็ต้องได้บินอยู่ดี หรือไม่งั้นผมลองพูดแบบนี้ดีมั้ย ถ้าในจักรวาลใหม่ (Alternate reality) ไม่มี Picard แล้ว Ent-D ก็จะไม่โดน Q ส่งไปเจอ Borg (TNG: Q Who) แบบนี้แล้ว UFP ก็ไม่ต้องกังวลกับการรุกรานของ Borg ไปอีกหลายร้อยปี แบบนี้ฟังดูดีกว่าไหม? ส่วนเรื่องมหาอำนาจอังกฤษ ไม่มีความเห็น อันนี้ผมถือว่าเป็นความชอบส่วนบุคคลแล้วละ จากคุณ : Iron-Spider - [ 19 พ.ค. 52 10:53:02 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ผมว่าที่ความจริง แล้ว Ent-E ไม่ได้ ตามกลับไปเพื่อแก้ time line แต่มันควรจะเป็นแบบนั้นต่างหาก ถ้าจำไม่ผิด ในภาค VOY เคยมีประโยค ที่คุยกันในยานของตำรวจกาลเวลาของศตวรรษ ที่29 หรือ 30 เนี่ยละที่บอกประมาณว่าการเข้าไปยุ่งการเวลาของ Borg ทำให้เกิด สหพันธ์ขึ้นมา ดั้งนั้น Borg ต่างหากที่ให้กำเนิดสหพันธ์ ในหนังประวัติศาสตร์ เริ่มเปลี่ยนตอนที่เนโร มาเจอกับ USS เคลวิล แสดงว่าตอนเริ่มก่อตั้งสหพัน และ Series Enterprise ได้กำเนิดมาแล้วเหมือนใน ภาคปรกติทั้งสิ้น คำถามต่อไปคือ ไม่มี Picard ไม่มี Borg แล้วใครเป็นคนเริ่มเรื่องใน First Contact แม้แต่ OST ยังเปลี่ยนไปทั้งเรื่องเลย ใครจะสร้างพัธมิตรกับ คลิงออน ถ้าขาดศัตรูอย่าง Borg ไปคงหมดสนุกไม่น้อย เนื้อเรื่องแบบนี้เหมือนกับว่า เอาเนื้อเรื่องตลอดทั้ง 40 ปีของ Star trek โยนทิ้งไปหมดเลยหรือ แค่ดาวโรมูรัส พังในภาคปรกติ ผมก็แทบจะรับไม่ได้แล้ว นี่ยังเอาดาววัลคัลอีก ไม่มีใครคิดเหมือนผมเลยเหรอ จากคุณ : TIBERIAN SUN FIRESTORM - [ 19 พ.ค. 52 13:11:17 ]

ความคิดเห็นที่ 10 เรื่อง Ent-E กับ Borg นี่คงต้องยกไปเถียงเรื่อง Pogo paradox หรือ Predestination paradox http://memory-alpha.org/en/wiki/Pogo_paradox http://memory-alpha.org/en/wiki/Predestination_paradox หรือไม่งั้นก็คงต้องเลยไปเถียงเรื่อง Free Will กับ Predestination ... ผมแนะว่าให้ลองดูซีรีย์เรื่อง Lost ถ้า จขกท ยังไม่เคยดู พูดถึงไม่มี Picard ไม่มี Borg ... แต่ว่า UFP ก็ได้กำเนิดขึ้นแล้วนี่ครับในภาค Star Trek 2009 นี้ ดังนั้นจะมี Borg หรือไม่มี ก็ไม่มีความสำคัญ ส่วนเรื่อง OST ... เอ่ม ... เพลงใหม่ก็เพราะดีนะครับ ไม่ต้องไปยึดติดกับอะไรเดิมๆ Romulus ระเบิดไปผมไม่ซีเรียส ผมซีเรียสแค่เรื่อง Reunification ที่คงจะไม่เกิดขึ้นแล้วในเส้นเวลาเดิม ไว้ลองมาดูกันในเส้นเวลาใหม่ดีกว่าว่าจะเกิดขึ้นได้มั้ย จากคุณ : Iron-Spider - [ 19 พ.ค. 52 13:56:07 ]

ความคิดเห็นที่ 11 เออ ตามจริงแล้วการย้อนเวลาของ เนโร มันหลังจากที่มนุษย์ได้ติดต่อกับต่างดาวแล้ว และยานของสหพันธ์ก้สามารถทำการวอร์ฟได้หมดแล้วไม่ใช่เหรอ มันเปลี่ยนก็ตรงที่ พ่อของเคิร์กตายก่อนที่เคิร์กจะได้เรียนในสตาร์ฟรีท แม่ของ สปอร์คตาย  ดาววัลแคนพินาศ มันเปลี่ยนแค่ช่วงนี้เองไม่ไช่เหรอ จากคุณ : DEVIL PHOENIX - [ 19 พ.ค. 52 14:03:20 ]

ความคิดเห็นที่ 12 timeline จะเปลี่ยนไปแค่ไหนก็คงแล้วแต่คนแต่งอะนะ แต่ที่แน่ๆ เหตการณ์ใน VOY ไม่เกิดขึ้นแน่ๆ เพราะเจนเวย์ เข้าไปใน BadLand เพราะตามหา Tuvak แต่เมื่อดาวซัลแคนโดนทำลาย Tovak ไม่ได้เกิด เจนเวย์ก็ไม่เหตุจำเป็นอะไรต้องเข้าไปตามหาเพื่อนใน Badland ทำให้ไม่โดน CareTaker เอายานไป Delta Q ด้วย จากคุณ : Sokar - [ 19 พ.ค. 52 15:46:30 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ^ ^ ก็ไม่แน่นะ เพราะจริงๆการเข้าไปใน badland ของเจนเวย์คือเข้าไปช่วยเหลือสายสืบ ดังนั้นเจนเวย์ก็อาจจะไปช่วยคนอื่นก็ได้นะ อิอิ หรือก็ไม่แน่ว่าอาจจะมีทูวอคเกิดขึ้นก็ได้ เพราะคนที่รอดมาอาจจะมีพ่อแม่ของทูวอคด้วยก็ได้นะ ส่วนที่ว่าสหพันธ์เกิดเพราะบอร์กนั่น เราว่าเราดู VOY หลายรอบแล้วไม่เคยได้ยินตรงนี้นะ แต่เราไม่ชัวร์จ้ะ แต่ถ้าให้พูดตามหลักการก็คือว่า เค้าน่าจะพูดว่า ตำรวจกาลเวลาเกิดขึ้นเพราะบอร์กมากกว่า แต่อันนี้ ต้องขอให้คนอื่นที่แม่นข้อมูลคอนเฟิร์มแล้วล่ะ เราเองก็กะจะดู VOY อีกซักรอบ แต่คงต้องดู ENT ให้หมดก่อน จากคุณ : booklovers - [ 19 พ.ค. 52 16:00:09 ]

ความคิดเห็นที่ 14 . แก้ไขเมื่อ 19 พ.ค. 52 18:16:52 จากคุณ : GENETIC_LEVEL - [ 19 พ.ค. 52 17:07:40 ]

ความคิดเห็นที่ 15 . แก้ไขเมื่อ 19 พ.ค. 52 18:17:15 จากคุณ : GENETIC_LEVEL - [ 19 พ.ค. 52 17:16:02 ]

ความคิดเห็นที่ 16 . แก้ไขเมื่อ 19 พ.ค. 52 18:17:33 จากคุณ : GENETIC_LEVEL - [ 19 พ.ค. 52 17:20:59 ]

ความคิดเห็นที่ 17 อย่าไปอินกับมันมากไปครับ หนัง ละคร เค้าทำให้เราดูอย่างมีความสุข แล้วก็ได้ข้อคิดต่างๆ ชีวิตนี้ยังมีอะไรๆ ให้ทำอีกเยอะ อย่าไปเครียดกับมัน จากคุณ : นายไปล่ - [ 19 พ.ค. 52 18:56:02 ]

ความคิดเห็นที่ 18 Lost ผมก็ดูครับ แต่ว่ามันมี เรื่องมิติคู่ขนาน ในเรื่องนี้ด้วยเหรอ สงสัยต้องไปดู ซีซั่น ห้า ซะแล้ว ผมว่าในเรื่อง Star Gate ยังมีเยอะกว่าอีก พูดถึง ถ้าเอา Replicator มาเจอกับ Borg หรือ Q มาเจอกับพวก Ori คงจะสนุกมิน้อย ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ที่ผมโมโหที่สุดคือ เอาเรื่องที่ผมชอบมาก มายำเละแบบนี้ บอกตามตรงว่ารับไม่ได้ เพื่อให้เห็นภาพ ประมาณว่า ประเทศไทยเสียเมืองเชียงใหม่ไป(ไม่มีเมืองเชียงใหม่ในแผนที่ประเทศไทยในปัจจุบัน) หรือ เชียงใหม่โดนระเบิดนิวเครีย ในสงครามโลกครั้งที่สอง คงเห็นภาพใช่มั้ยครับ แน่จริงเปลี่ยนแบบให้ทำลายโลกแทนสิแล้วให้ เคิร์ก ไปช่วยดาววัลคาล แทน เพื่อแสดงให้เห็นเรื่องมิติคู่ขนาดมากยิ่งขึ้น ฆ่าSpock หนุ่มไปเลย แล้วให้ Spock ตอนแก่ อยู่แทน ถ้าเป็นแบบนี้ ผมว่าคงมีคนออกมาด่ามากกว่านี้แน่นอน จากคุณ : TIBERIAN SUN FIRESTORM - [ 19 พ.ค. 52 21:05:47 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ^ ^ เราว่าอุปมาไม่ค่อยตรงนะ เพราะจริงๆแล้ววัลแคนใหญ่กว่า เทคโนฯมากกว่า แต่ไม่ค่อยแชร์ จริงๆวัลแคนน่าจะเป็นอังกฤษ แล้วโลกนี่อาจจะเป็นเมกาตอนที่ยังป่าเถือนอยู่ (แตกต่างตรงวัลแคนไม่ได้ล่าหัวมนุษย์) อืม อย่างนี้ค่อยเหมือนหน่อย แต่เราก็ไม่ค่อยเก็ทว่ามันยำเละตรงไหน เพราะเราว่ามันคนละ Timeline กัน ^-^ จากคุณ : booklovers - [ 20 พ.ค. 52 09:56:03 ]

ความคิดเห็นที่ 20 การทำให้เรื่องเปลี่ยนไปจากเดิมนี่ล่ะที่ทำให้ผมอยากดู ถ้าเรื่องเหมือนเดิม ผมหยิบของเก่ามาเปิดดูก็ได้ รู้เรื่องหมดแล้ว ไม่ตื่นเต้นเลย จากคุณ : ปั๊ปโปะจัง - [ 20 พ.ค. 52 12:28:09 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ยังไม่รู้อนาคตเลย ว่าเขาจะสร้างต่อหรือปล่าว จากคุณ : blueboyhub - [ 20 พ.ค. 52 14:28:57 ]

ความคิดเห็นที่ 22 คห.20 ทำไมจะทำไม่ได้ ทีตอน TNG (1986) เปิดตัวก็พบว่าคลิงออนเป็นพันธมิตรกับสหพันแล้ว แล้วก็ย้อนมาสร้าง The undiscovered country(1991) ย้อนไปตอนที่บอกเรื่องราวตอนทำสนธิสัญญา เป็นพันธมิตรกันก็ได้นิ แล้วเรื่องตอน เคิร์ก เป็นหมุ่มก็ไม่เคยทำมาก่อนด้วย แล้วจะรู้เรื่องได้ไง คห. 19 ผมเทียบแบบนี้เพื่อให้เห็นภาพครับ แบบประมานว่าถ้าเกิดกับตัวเองอะไรแบบนี้ ทำไมจะไม่ยำละครับ เล่นเปลี่ยนเรื่องหมดเลย เอาเรื่องตั้งแต่ OST เป็นต้นไปโยนลงถังขยะไปเลยแบบนี้ แล้วภาคต่อไปจะอิง ตามTimeline ไหนอะครับ ลองคิดดู Timeline  อันเดิมก็จะค่อยๆๆ หายไป สมมติอีก 10 ปีต่อมาสร้างภาคต่อจาก Timeline  เดิม คนดูที่เป็นแฟนรุ่นใหม่ ก็งงหมดสิครับถ้าเขาไม่ได้กลับไปหาข้อมูลว่ายังมีอีก Timeline นึงอยู่ด้วย เหมือนกับสร้างหนังให้พระนเรศวร แพ้พม่า แล้วบอก ว่ามันเป็นคนละ Timeline แล้วจะเกิดอะไรขึ้นกับประเทศไทยละ จะมีกรุงเทพ มั้ยในอนาคต จากคุณ : TIBERIAN SUN FIRESTORM - [ 20 พ.ค. 52 15:36:42 ]

ความคิดเห็นที่ 23 โห พระนเรศวรกับพม่านั่นมันเป็น "พงศาวดาร" จริงๆนะคะ เอามาเทียบได้ไง เราว่าอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ต้องสตาร์ท Timeline ใหม่ก็ด้วยเรื่องเทคโนโลยีน่ะค่ะ ลองคิดดูสิว่าถ้าสร้างตามแบบเก่า เทคโนโลยีก็ต้องเก่าๆ (ไม่งั้นแฟนก็หาว่าเปลี่ยนแปลงอีก) คลิงออน (ถ้ามี) ก็ต้องแต่งหน้าแบบไร้ต้นทุน คือไม่มีดั้ง (อ้างอิงจากวอร์ฟใน DS9 ที่ว่ามันมีเหตุผลในเรื่องนะ) พอไปเทียบกับหนังไซไฟในปัจจุบันแล้วมันก็จะดูจืดมากๆๆ "แน่จริงเปลี่ยนแบบให้ทำลายโลกแทนสิแล้วให้ เคิร์ก ไปช่วยดาววัลคาล แทน เพื่อแสดงให้เห็นเรื่องมิติคู่ขนาดมากยิ่งขึ้น ฆ่าSpock หนุ่มไปเลย แล้วให้ Spock ตอนแก่ อยู่แทน ถ้าเป็นแบบนี้ ผมว่าคงมีคนออกมาด่ามากกว่านี้แน่นอน" ก็นั่นน่ะสิคะ เขาถึงพยายามให้คนด่าน้อยที่สุด แต่ยังดึงดูดแฟนใหม่ๆได้ด้วยไง จะว่าไปแค่ตอนสร้าง Voyager กับ DS9 ก็ยังมีแฟน TOS บอกว่าผิดเจตนารมย์ดั้งเดิมของ Gene Roddenberry เลย เชื่อว่าจะยังไงก็ต้องมีคนด่าน่ะค่ะ เพราะความคาดหวังของคนเราต่างกันอยู่แล้ว เรื่องคนดูรุ่นใหม่นี่ก็อีกปัจจัยหนึ่ง ต้องยอมรับนะคะว่า Star Trek มีภาพพจน์เป็นหนังเฉพาะกลุ่มมากๆๆ แทบจะเป็น cult เลยในสายตาคนรุ่นหลังๆ ไม่ต้องอะไรมากหรอก คนรุ่นใหม่เขาก็ไม่กล้าดูกัน กลัวว่าถ้าไม่ reboot แบบนี้ อีกสิบปีจะไม่มีคนกลุ่มที่เรียกว่าแฟนรุ่นใหม่เอาเลยสิคะ แก้ไขเมื่อ 20 พ.ค. 52 16:21:04 จากคุณ : ทินา (ทินา) - [ 20 พ.ค. 52 16:19:31 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ^ ^ TOS - The Original Series ค่ะ ... OST คือ Original Soundtrack นะคะ.. แหะๆ คนดูที่เป็นแฟนรุ่นนี้ก็มีมากที่ไม่รู้เรื่อง Kirk กับ Spock อยู่แล้วอ่ะนะคะ เพราะมาเริ่มกันที่ประมาณ The Next Generation มีแต่พวกผ่าเหล่าอย่างเซฯ ที่ไปย้อนดูแหละนะ (เพื่อนๆ ก็ไม่ค่อยรู้เรื่อง TOS นะ ทั้งที่ชอบรุ่น TNG / DS9 / >>> มาก) แอบเห็นด้วยกะพี่บุ๊คจัง.. มันคนละ Timeline แปลว่าเรื่องเก่าก็เกิด เรื่องใหม่ก็เกิดได้นะ เพียงแต่มันจะไม่เหมือนกัน เท่านั้นแหละ message แท้จริงที่ Star Trek ตั้งแต่ดั้งเดิมตั้งใจจะสื่อ มันคือเรื่องของการร่วมมือการทำงานโดยไม่แบ่งหญิงชาย (คิดถึงตอน TOS ที่ผู้หญิงยังไม่ค่อยทำงานกันเลย อย่าว่าแต่จะมีผู้หญิงผิวดำเป็นตัวเด่นในเรื่องอย่าง Uhura, หรือ Captain Janeway ที่โหดได้ไม่แพ้ผู้ชาย ฮา) ไม่แบ่งเชื้อชาติ (Chekov เป็นรัสเซีย, Sulu เป็นญี่ปุ่น .. ใน context สงครามเย็นตอนที่เพิ่งเริ่มสร้างครั้งแรก) มาจนถึงเรื่องการยอมรับความแตกต่างของคนอื่นและปรับตัวพัฒนาตัวเอง (Spock , Data , Worf, Seven of Nine ฯลฯ) ไม่ใช่เหรอคะ เราว่าตรงนั้นต่างหากล่ะมั้ง ที่ทำให้ Star Trek Boldly Goes Where No One has Gone before. อย่างน้อยก็สำหรับเราอ่ะค่ะ ส่วนถ้ารายละเอียดมันจะต่างไป ตรงโน้นมีตรงนี้ขาด เราว่ามันเป็นส่วนปลีกย่อยนะ ถ้าคนที่ดูภาคนี้แล้วชอบ จะไปขวนขวายหาของเก่ามาดูเราว่าก็จะดีมาก แต่ถ้าเขาดูแล้วหยุดแค่ที่ภาค "หนุ่มอวกาศ" นี้ (ฮา) ตัวข้อความเก่าๆ ที่เขาพยายามจะสื่อ เรื่องของมิตรภาพที่ข้ามทุกอย่างได้ มันก็ยังอยู่นะ ส่วนเรื่องการสำรวจดาวต่างๆ เรียนรู้วัฒนธรรมที่แตกต่าง ซึ่งก็เป็นอีกประเด็นหลักของ Star Trek เนี่ย ให้เวลาเขาหน่อยจิคะ ภาคนี้เพิ่งแนะนำตัวละครเอง ยังไม่ได้เริ่มสำรวจอะไรเล้ย แล้วมันก็เป็นหนังอ่ะ เขียนบทหนังมันลงรายละเอียดปลีกย่อยได้ไม่เหมือนทีวีอยู่แล้ว จากคุณ : Seven Of Nine - [ 20 พ.ค. 52 16:33:08 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ตะกี้ชี้ไป คคห. 22 นะคับผม ^^" จากคุณ : Seven Of Nine - [ 20 พ.ค. 52 16:38:42 ]

ความคิดเห็นที่ 26 คห 23 ผมแค่อยากมห้เห็นภาพเฉยๆๆ ครับ ประมาณว่าถ้าเจอเองจะรู้สึกอย่างไง เหมือนกับผู้ชายที่ไปข่มขื่นผู้หญิงแล้ว มีคนพูดว่า ลองคิดดูสิถ้าผู้หญิงคนนั้นเป็นน้องเราเราจะรู้สึกยังไง ส่วนเรื่องเทคโนโลยีในการสร้างนั้นผมไม่ถือครับเพราะเข้าใจ ว่าจะให้ทำแบบเก่าก็คงไม่ได้ ก็มีตัวอย่างแล้วนี่ครับ Star wars IV กับ Star wars I ก็เห็นๆๆกันอยู่ ผมว่าด้วยความสามารถ ของคนเขียนบท ไม่ต้องมาในแนวนี้ก็ได้นิครับ เก่งอยู่แล้วทำอะไรก็ดังครับ ถ้าเขียนเรื่องให้ตาม ภาคปรกติก็คงจะประสบความสำเหร็จเหมือนกัน คห 24 OST 555 ตอนพิมผมก็ว่ามันแปลกๆๆ แล้วละ แต่ว่า ทำไมคุณ Seven Of Nine เดี๋ยวก็ค่ะ เดี๋ยวก็ครับละ ครับ ส่วนเรื่องจุดประสงค์ที่แท้จริง ของ Star Trek ผมไม่เถียงครับ แต่เชื่อว่าทำให้ชาววัลคัล ใกล้สูญพันธ์ แบบนี้ผมว่าไม่ใช่จุดประสงค์ของ Gene Roddenberry แน่นอนเลย จากคุณ : TIBERIAN SUN FIRESTORM - [ 20 พ.ค. 52 20:41:14 ]

ความคิดเห็นที่ 27 -เราไม่คิดมาก เพราะถ้าทำตาม Timeline เดิม มันคงจะไม่มีแนวคิดอะไรแปลกๆจะเอามาทำ  ถึงจะเอามาทำอีกก็ต้องใช้ดาราชุดเก่าๆ หนังก็จะน่าเบื่อไม่มีคนดู แล้วเค้าก็จะเลิกทำอีกอยู่ดี อิอิ จากคุณ : ด้วงแว่น - [ 20 พ.ค. 52 21:28:56 ]

ความคิดเห็นที่ 28 คือแล้วที่มาทำใหม่นี้ ก็ใช้ชื่อตัวละครเดิมหมดเลยนะครับ ที่เปลี่ยนตัวแสดง ก็เข้าใจครับ ว่าเกิดแก่เจ็บตาย ความคิดเรื่อง alternate reality นี้ไม่ใหม่เลยนะครับ ถูกใช้กันมาหลายเรื่อง แล้ว ด้วยความสามารถ ของผู้เขียนบท lost กับผู้กำกับ mission impossible ยังไงก็ออกมาดีอยู่แล้วละครับ ต้องเปลี่ยน Timeline เท่านั้นเหรอถึงจะสนุกไม่น่าเบื่อ งั้นความสามารถของสองคนนี้คงจะไม่มี เพราะถ่ายทำเนื้องเรื่องแบบอื่นไม่ได้เลย งั้นเรื่องต่อไปจะ ซ้ำกับภาคนี้เพราะเขียนอย่าอื่นไม่ได้เลยนอกจาก เปลี่ยน Timeline จากคุณ : TIBERIAN SUN FIRESTORM - [ 20 พ.ค. 52 22:17:26 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ผมว่ามันเขียนบทต่อจากภาค 10 ให้เป็นเรื่องเดิมยากนะ เรือแตกดังแล้วแยกวงกันไปคนละทางแบบนี้ เดต้านี่อาการหนักถึงขั้นเสียชีวิต วอร์ฟก็เนียนมาแจมซ้ำแล้วซ้ำอีกทั้งที่ไม่ใช่ลูกเรือก็ตั้งหลายภาค แต่ใจจริงผมก็อยากให้สร้างต่อแบบ continuity แหละ ไม่อยากดูย้อนยุคเท่าไหร่ จากคุณ : Trekker - [ 20 พ.ค. 52 22:27:42 ]

ความคิดเห็นที่ 30 จะว่าไป ถ้าจะทำเรื่องต่อจากภาค10 นี่ยังพอมีหวังอยู่ กระโดดไป ยุค Enterprise J เลย เพราะเปิดตัวแว็บๆ ในชุดENT ไปแล้ว รบข้ามแกแลคซี แบบ สตาร์เกทไปเลย แกแลคซี่เราท่าจะคับแคบเกินไปแล้ว แก้ไขเมื่อ 21 พ.ค. 52 00:00:58 จากคุณ : pommm - [ 20 พ.ค. 52 23:59:31 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ส่วนตัวคิดว่า ทำแบบนี้ดีแล้วนะ คือเป็นคนหนึ่งที่ติดตาม Star trek มาตลอดค่ะ แอบรู้สึกว่า เราก็ชอบของเก่านะ ทำใหม่ ไม่ดีก็ถูกด่า ดีก็เสมอตัว ดีมากๆ ถึงจะได้คำชม ...เรามองว่า นี่เหมือนเป็นการโละใหม่ของตา JJ ค่ะ หากตา JJ คิดจะสร้างภาคต่อ เขาก็จะสร้างในแบบที่เป็น Star Trek by J.J. ืคือเขาไม่ต้องยึดติดกรอบเดิม สร้างเรียงตอน เขามายังไง ข้าต้องต่อไปแบบนั้น แล้วมองอีกแง่นึงนะคะ อย่าง charlie's angel หรือ Batman Spider-man อะไรก็แล้วแต่ คือถ้าเราชอบเนี่ย ชอบมากๆ พอมีคนมาทำเหมือนเป๊ะ รีเมคโดยไม่เปลี่ยนแปลง เราก็ด่า ก็จะเอาไปเปรียบเทียบ แต่การที่เลือกจะเปิดทางใหม่ให้ Star Trek เหมือนที่ Batman ได้เข้าสู่แนวทางใหม่เช่นกัน มันก็ถือเป็นเรื่องดีนะคะ เหมือนเป็นการถ่ายทอดออกมาในสไตล์ของผกก.ของใครของมัน Star wars ให้มาทำใหม่ เราก็ไม่อยากเห็น Star wars new hope ที่เปลี่ยนแค่ตัวแสดงกับเอฟเฟคดีขึ้น แต่เราอยากเห็น Star wars ในจินตนาการของผกก.อีกคน อีกรูปแบบมากย่ำอยู่ที่เดิม ส่วนตัว..เราจะแยกว่า ถ้าหนังเลือกที่ฉีกกฎ เราก็ดูว่าจะฉีกไปเลย หรือฉีกแบบให้ความเคารพของเก่า แล้วเนื้อเรื่องดีไหม หรือถ้าหนังจะซ้ำรอบเดิม ตามขนบเดิมๆ ก็ดูว่ามีอะไรให้ติดตาม ด้านอื่นๆ ของหนังเป็นอย่างไร สำหรับ Star trek เราว่ามันก็โอเค มีเหตุมีผลยัดเข้ามาอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ได้เรียกว่าเต็ม 100% แต่ ณ จุดนี้ หากอนาคตจะเปลี่ยนแปลงไป มันก็ถือว่าเป็นเหตุการณ์ butterfly effect แล้วล่ะ คงไม่แบบ Lost ที่ว่า What happened, happened เหอะๆ ก็เข้าใจอารมร์ FC หรือคนที่ชอบมากนะคะ เพราะหากใครมาเปลี่ยน Star wars ที่เรารัก เราก็คงแอบหงุดหงิด แต่ก็ลองมองอีกด้านนะ มองว่าเขาต้องการนำเสนออะไำร แล้วดูนะจุดนั้นดีกว่ามาจับผิดให้หงุดหงิดใจว่า เอ้ย มันต่อกันไม่ได้ หรือมันผิดประวัติศาสตร์ ตอนแรกที่เกิดการทำ Batman Begins เราก็แอบไม่ชอบค่ะ มันหม่นเกินไป แต่พอได้ดูไป อืม ก็โอเค ถือเป็นการโละใหม่ดี เอาเป็นว่า เรื่องพวกนี้ นานาจิตตัง บังคับให้ชอบกันไม่ได้ค่ะ แต่ที่สำคัญ ดูหนังให้สนุกค่ะ ให้คิด แต่ไม่ให้เครียด จากคุณ : Wisther - [ 21 พ.ค. 52 00:47:13 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ครับ ขอบคุณสำหรับทุกความเห็นครับ ดูผ่านมาแล้ว สามวันอารมณ์ยังค้างๆๆอยู่เลย เมื่อมาแบบนี้ก็คงเลยตามเลย แต่ในภาคต่อไปอาจจะมีหักมุมก็ได้นะ ตอนดู lost นี้หักมุมตลอด จากคุณ : TIBERIAN SUN FIRESTORM - [ 21 พ.ค. 52 01:10:09 ]

ความคิดเห็นที่ 33 งง งง งง งง  ดูแล้วงงเพราะที่เราดูไม่มีซับ กะเข้ามาให้หายงง กลายเป็น งง กว่าเดิม  T_T จากคุณ : BBabe - [ 24 พ.ค. 52 22:37:02 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ภาคนี้มันเป็นจุดเริ่มต้นของการเป็นจักรวาลคู่ขนานอีกแห่งหนึ่งครับ จากคุณ : POPPAHALALUYA - [ 2 มิ.ย. 52 12:16:27 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ^-^ จากคุณ : booklovers - [ วันเข้าพรรษา 23:17:29 ]