Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com


    Twilight - Midnight Sun บทที่ 3: Phenomenon

    Enjoy reading ka'.

    .......................
    Chapter 3 Phenomenon

    ที่จริงผมไม่ได้กระหายอะไรหรอกครับ แต่คืนนั้นผมตัดสินใจออกล่า ป้องกันไว้หน่อยก็ดี แต่ไม่พอหรอกผมรู้
    คาร์ไลส์ไปกับผม เราไม่ได้ออกล่าด้วยกันสองคนเลย ตั้งแต่ผมกลับจากเดนาไล ขณะเรากำลังวิ่งฝ่าป่ามืดมิด ผมได้ยินเขาคิดถึงวันที่ผมไปลาเขาอย่างเร่งรีบเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
    ผมเห็นในความคิดของเขา ว่าอาการผมแย่มาก เหมือนคนหมดอาลัยตายอยาก ผมรู้สึกได้ว่าตอนนั้นเขาแปลกใจแล้วก็กังวล

    "เอ็ดเวิร์ด?"
    "ผมต้องไปคาร์ไลส์ ต้องไปเดี๋ยวนี้"
    "เกิดอะไรขึ้น?"
    "ไม่มี ยังไม่มีฮะ แต่มีแน่ ถ้าผมอยู่ต่อ"
    เขายื่นมือออกมาแตะแขนของผม ผมจับได้ว่าเขาเจ็บปวดเมื่อผมดึงแขนออก
    "พ่อไม่เข้าใจ"
    "พ่อเคยไหมล่ะ เคยไหม ซักครั้งที่..."

    ผมเห็นภาพตัวเองสูดลมหายใจ มองเห็นสิ่งที่ควบคุมไม่ได้ในตาของผม
    "พ่อเคยเจอมนุษย์ซักคนที่กลิ่นดีกว่าใครๆไหม กลิ่นดีกว่ามากมาก?"
    "โอ้"

    พอผมเห็นว่าเขาเข้าใจแล้ว สีหน้าของผมก็เปลี่ยนเป็นขายหน้า เขายื่นมือมาแตะโดยไม่สนใจว่าผมจะถอยหนีอีก คราวนี้เขาจับไหล่ผมไว้
    "ทำอะไรก็ได้แต่ต้องทนให้ได้ลูก พ่อจะคิดถึงเสมอนะ เอ้านี่ใช้รถพ่อ มันไวกว่า"

    แต่ตอนนี้เขากำลังสงสัยว่า ตอนนั้นเขาได้ทำในสิ่งที่ถูกต้องหรือเปล่าที่ส่งผมไปแบบนั้น เขาสงสัยว่า เขาทำให้ผมเสียใจไหม ที่เขาขาดความเชื่อใจในตัวผมแบบนั้น

    "ไม่หรอกฮะ" ผมกระซิบขณะที่เรายังวิ่งอยู่ "ผมก็อยากให้เป็นยังงั้นแหละ ผมอาจทำลายความเชื่อใจพวกนั้นลงได้ง่ายๆเลย ถ้าพ่อให้ผมอยู่ต่อ"
    "พ่อเสียใจนะที่เห็นลูกกำลังเจ็บปวด เอ็ดเวิร์ด แต่ลูกต้องทำทุกอย่างเพื่อให้ลูกสาวบ้านสวอนมีชีวิตอยู่ต่อไป ต่อให้ลูกต้องจากเราไปอีกครั้งก็เถอะ"
    "ผมรู้ ผมรู้"
    "แล้วลูกกลับมาทำไหม? รู้ใช่ไหมว่าพ่อดีใจที่ลูกอยู่ที่นี่ด้วย แต่ถ้ามันลำบากกับลูกนัก..."
    "ผมไม่ชอบความรู้สึกขี้ขลาด" ผมรับ

    เราเริ่มวิ่งช้าลง เริ่มเหมือนวิ่งจ๊อกกิ้ง
    "นั่นก็ยังดีกว่าทำให้เธอตกอยู่ในอันตราย อีกปีสองปีเธอก็ไปแล้ว"
    "ก็ใช่ฮะ อันนั้นน่ะผมก็รู้"  แต่ตรงข้าม คำพูดของเขายิ่งทำให้ผมอยากอยู่ เธอคนนั้นจะไปจากที่นี่ในปีสองปีนี้...
    คาร์ไลส์หยุดวิ่ง ผมหยุดตามเขา เขาหันมาพิจารณาสีหน้าของผม
    'ยังไงก็ไม่ไปไหนใช่ไหม?'
    ผมก้มหน้า
    'ทะนงตัวเหรอลูก? ไม่มีอะไรต้องอาย-'
    "ไม่ใช่เรื่องเสียหน้าอะไรหรอกฮะที่ทำให้ผมอยู่ แต่ไม่ใช่ตอนนี้"
    'ไม่รู้จะไปไหนเหรอ?'
    ผมหัวเราะ 'ไม่หรอกฮะ แค่นั้นหยุดผมไม่ได้หรอก ถ้าผมจะต้องไปจริงๆ'
    "แน่นอน พวกเราจะไปด้วยกัน ถ้าลูกต้องการ แค่บอกมาเท่านั้นล่ะ ลูกเคยย้ายที่อยู่แบบไม่เคยบ่นเพื่อพวกเขามาแล้วทั้งนั้น พวกเขาจะไม่ว่าอะไร"
    ผมเลิกคิ้ว
    เขาหัวเราะ "ใช่ๆ โรสซาลี่อาจจะมีบ้าง แต่เขาเป็นหนี้ลูกนี่ ยังไงเราไปตอนนี้เลยจะดีที่สุด ก่อนจะมีอะไรร้ายๆเกิดขึ้น ดีกว่าไปตอนเกิดอะไรขึ้นแล้ว หลังจากมีใครตายแล้ว" อารมณ์ขันของเขาหายไปในตอนท้าย
    ผมสะดุ้งกับคำพูดของเขา
    "ก็จริงฮะ" ผมเห็นด้วย น้ำเสียงผมแตกพร่า
    'แต่ลูกจะไม่ยอมไปเหรอ?'
    ผมถอนหายใจ "ผมควรจะไป"
    "อะไรดึงลูกไว้ เอ็ดเวิร์ด? พ่อไม่เห็นจะมีอะไร..."
    "ผมไม่แน่ใจว่าจะอธิบายได้ไหม" แม้แต่กับตัวผมเอง มันดูไม่เมคเซ้นซ์เอาซะเลย
    เขาพิจารณาสีหน้าผมครู่ใหญ่
    'ไม่เห็นจริงๆ แต่พ่อก็จะไม่ยุ่งเรื่องส่วนตัวนะ ถ้าลูกต้องการอย่างนั้น'
    "ขอบคุณฮะ พ่อใจกว้างจริงๆทั้งที่ผมไม่เคยให้ความเป็นส่วนตัวกับใครเลย" ยกเว้นคนนึง แต่ผมก็พยายามอย่างหนักที่จะเอามันมาจากเธอไม่ใช่เหรอ
    'พวกเราก็แปลกกันทั้งหมดนั่นแหล' เขาหัวเราะอีกครั้ง 'เริ่มเลยไหม?'

    เขาเพิ่งได้กลิ่นกวางฝูงเล็กๆ ยากที่จะคิดถึงเรื่องอื่นๆในตอนนี้ นอกจากกลิ่นชวนน้ำลายสอ ตอนนี้กลิ่นของเธอในความจำทำให้ผมท้องร้องแล้วล่ะ ผมถอนหายใจ "ไปเลย" ผมตอบ แต่ก็รู้แหละว่า ต่อให้ดื่มมากแค่ไหนก็ช่วยได้

    แค่นิดหน่อยเท่านั้น

    เราย่อตัวในท่าเตรียมพร้อม แล้วให้กลิ่นที่ไม่ได้ดึงดูดอะไรมากมายนำทางพวกเรา

    อากาศหนาวขึ้นเมื่อกลับถึงบ้าน หิมะที่ละลายแล้วกลับมาแข็งตัวใหม่ มองดูราวกับกระจกบางๆปกคลุมทุกสิ่ง ยอดสน ใบเฟิร์น ใบหญ้าล้วนแล้วแต่โดนน้ำแข็งเคลือบทั้งสิ้น ชาร์ลีไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดเข้ากะเช้าที่โรงพยาบาล

    ผมยังนั่งที่ฝั่งแม่น้ำ คอยให้ดวงอาทิตย์ขึ้น ผมรู้สึกเหมือนตัวจะบวมขึ้นจากปริมาณเลือดที่ผมดื่มเข้าไป แต่ผมรู้ว่า ผมจะอยากขึ้นมาอีกถึงจะอิ่มแล้วก็ตาม เมื่อต้องนั่งข้างๆเธออีกครั้ง

    ตัวผมเย็น นิ่ง เหมือนหินอยู่ตรงนั้น มองแม่น้ำมืดๆไหลผ่านสองฝั่งที่กลายเป็นน้ำแข็ง
    คาร์ไลส์พูดถูก ผมควรจะไปจากฟอร์ค พวกเขาคงจะปล่อยข่าวเพื่ออธิบายว่าผมไปไหน ไปเรียนยุโรป ไปเยี่ยมญาติ วัยรุ่นหนีออกจากบ้าน เรื่องอะไรก็ได้ คงจะไม่มีคนสงสัยอะไรหรอก

    อีกแค่สองปี แล้วเธอก็จะหายไป ไปดำเนินชีวิตของเธอ เธอมีชีวิตต้องดำเนินนี่นา เธอคงจะเข้ามหาวิทยาลัย อายุมากขึ้น ทำงาน อาจจะแต่งงานกับใครซักคน ผมนึกภาพออก ผมเห็นเธอใส่ชุดขาวเดินคล้องแขนพ่อ เดินเป็น

    จังหวะไปตามทางเดิน
    แปลกครับ ภาพนั้นทำให้ผมรู้สึกเจ็บ ผมไม่รู้ว่าเพราะอะไร ผมอิจฉาเหรอ? เพราะเธอมีอนาคตที่ผมมีไม่ได้? ไร้สาระ มนุษย์ทุกคนที่ผมเคยรู้จักก็เป็นยังงี้ทั้งนั้นแหละ มีชีวิต แต่ผมไม่เห็นจะเคยอิจฉาใคร

    ผมควรจะปล่อยให้เธอมีอนาคต เลิกทำให้เธอต้องเสี่ยงชีวิต นั่นน่ะคือสิ่งที่ถูกต้อง นั่นน่ะคือสิ่งที่ควรจะทำ คาร์ไลส์เลือกสิ่งที่ถูกเสมอ ผมควรจะฟังเขา

    ดวงอาทิตย์ขึ้นอยู่ด้านหลังก้อนเมฆ แสงจางๆสะท้อนบนพื้นน้ำแข็ง

    วันเดียว ผมตัดสินใจ เจอเธออีกครั้งเดียว ผมจัดการได้ บางทีผมอาจจะเกริ่นๆเรื่องที่ผมจะไปแล้ว แต่งเรื่องขึ้นมาก็ได้

    คงไม่ง่าย ผมรู้สึกได้ถึงความลังเลอย่างรุนแรง ผมกำลังพยายามหาข้ออ้างเพื่ออยู่ต่อ เพื่อขยายเวลาหนึ่งวัน ให้เป็นสองวัน สามวัน สี่วัน... แต่ผมจะต้องทำสิ่งที่ถูกต้อง ผมรู้ว่าผมเชื่อคำแนะนำของคาร์ไลส์ได้ ผมรู้ว่าตัวผมคน

    เดียวคิดขัดกันเกินกว่าจะตัดสินใจได้
    ขัดกันมากจริงๆครับ อาการลังเลนี่ มาจากความอยากรู้ของผมเท่าไหร่ มาจากความอยากดื่มเลือดเธอเท่าไหร่นะ?

    จากคุณ : hs3puk - [ 20 พ.ค. 52 21:05:22 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com