CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGang


    <<<<<<<<<< ดูแล้วมาคุยกัน ... Angels and Demons , แดน บราวน์ ห้าวเป้ง >>>>>>>>>>

      ชอบมาก ห้ามพลาด (31 คน)
      ชอบ (35 คน)
      เฉยๆ (10 คน)
      ไม่ชอบ (3 คน)
      ไม่ชอบมาก เสียดายตังค์ (0 คน)

     39.24%
      ชอบมาก ห้ามพลาด (31 คน)
     44.30%
      ชอบ (35 คน)
     12.66%
      เฉยๆ (10 คน)
     3.80%
      ไม่ชอบ (3 คน)
     0.00%
      ไม่ชอบมาก เสียดายตังค์ (0 คน)

    จำนวนผู้ร่วมโหวตทั้งหมด 79 คน


    เลือกอ่านบทความนี้พร้อมรูป , อ่านความเห็นอื่นที่น่าสนใจ และ ชวนมาพูดคุยต่อที่ http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=aorta&month=05-2009&date=17&group=14&gblog=159


             ในบรรดาหนังสือสี่เรื่องของแดน บราวน์ Angels and Demons เป็น นิยายที่ หลายคนบอกว่า เหมาะกับการสร้างเป็นหนังมากที่สุด ซึ่งก็จริง เพราะ ปกติการเล่าเรื่องของแดน บราวน์ก็แทบจะทำให้เห็นภาพแบบฉากต่อฉาก ตื่นเต้นลุ้นระทึก เป็นต้นทุนอยู่แล้ว

    บวกกับ Angels and Demons มีระทึกขวัญกับความเป็นแอคชั่นมากเป็นพิเศษ และ กระบวนการไขปริศนา ของ The Da Vinci Code เวลาเป็นภาพออกมา มันจะไม่อลังเท่า Angels and Demons

    ถึงแม้ว่า Angels and Demonsเป็นนิยายเล่มที่สอง ส่วน The Da Vinci Code เป็นเล่มที่สี่ แต่เพราะตัวผมเอง อ่าน The Da Vinci Code ก่อน Angels and Demons จึงทำให้ ความรู้สึกประทับใจแรกพบกับ The Da Vinci Code มีมากกว่า

    และเหตุผลประการสำคัญที่ทำให้ผมชอบ The Da Vinci Code มากกว่า เพราะ อ่าน Angels and Demons ไปไม่ถึงครึ่งเล่มก็เดาตัวคนร้ายได้แล้ว จากจุดอ่อนที่ปรากฎในงานเขียนของแดน บราวน์ คือ วิธีการวางโครงเรื่อง ที่อ่านหนึ่งเล่มแล้ว เล่มที่เหลือ เราก็สามารถเดาตัวร้ายได้สบายบรื๋อ เพราะ

    นางเอกมีคนสนิท --> คนสนิทตาย --> ตามพระเอก --> พระเอกมารักกับนางเอก --> สืบๆแก้ๆ(ปริศนา) --> คนดังที่ดูเหมือนจะดี นี่แหละ ผู้ร้าย

    The Da Vinci Code เหมือน หยิบเค้าโครงเรื่องจาก Angels and Demons มาปรับให้เนียนขึ้น แล้วใส่ ปริศนา ชุดใหม่มาแทนเรื่องราวของ Illuminati

    ดังนั้นความสนุกเวลาอ่านงานเขียนของแดน บราวน์ จึงอยู่ที่ กระบวนการสืบๆแก้ๆ ที่แดน บราวน์ โยง เรื่องจริง กับ เรื่องแต่ง เข้ากันอย่างเนียน ทำการบ้านมาเยี่ยม และ จับประเด็นความขัดแย้งได้น่าสนใจ



            จาก หน้ากระดาษ มากลายเป็น หน้าจอ

    ผมได้บทเรียนอย่างหนึ่งสำหรับการจะดูหนังที่สร้างจากนิยายของ แดน บราวน์

    1.อย่าอ่านนิยายก่อนดูหนัง เพราะ เมื่อปริศนาทุกอย่างไขกระจ่างแล้วจากหน้ากระดาษ มันขาดความน่าสนใจไปมากเวลาอยู่บนหน้าจอ

    2. ถ้าเคยอ่านมาแล้ว หนังเข้าฉายใกล้ๆไม่ต้องรื้อไปหามาดูใหม่ รอดูหนังจบค่อยกลับไปทบทวน

    เพราะตัวเอง ทำการบ้าน The Da Vinci Code เสียดิบดี พอเจอ ตัวหนังที่แทบจะไม่ดัดแปลงอะไรเลย ทำให้การนั่งดูหนังมันเรื่อยเฉื่อยมาก



      The Da Vinci Code คือ ความน่าผิดหวังสำหรับผม  ส่วนAngels and Demons คือการดัดแปลงที่น่าพอใจ

    แต่สำหรับ แฟนๆนิยาย ที่ไม่ชอบให้ หนังสือของตัวเองถูกดัดแปลงแม้แต่น้อยก็ควรเลี่ยงหนังเรื่องนี้ เพราะอาจหงุดหงิดที่ฉากโปรดๆตัวละครเด่นๆถูกตัดไป

    ซึ่งจริงๆแล้ว การตัดบางส่วนจากนิยายออกหรือเปลี่ยนรูปร่างหน้าตาใหม่ ไม่ได้เป็นการบ่งบอกว่าเป็น การดัดแปลงที่ย่ำแย่

    เพราะ ผมคิดว่า นิยาย ไม่ใช่ ข้อเท็จจริง ดังนั้น คนเขียนบทจะดัดแปลงตีลังกาม้วนหน้าม้วนหลังอย่างไรก็ได้

    การดัดแปลงที่ดี จึงไม่ใช่การลอกทุกอย่างจากนิยาย แต่ การทำหนังจากนิยายดังๆที่ดี คือ ความกล้าที่จะเปลี่ยนแปลงให้เหมาะสมกับการเป็นหนัง ทำให้ ภาพรวมของหนังนั้นกลมกล่อม หากคงอรรถรสเดิมได้ถือว่าเยี่ยม หรือ ถ้าหากสร้างงานแนวใหม่ๆได้ก็ถือว่าเยี่ยม

    ยกตัวอย่างการดัดแปลงของหนังคู่หนึ่งที่ทำออกมาสองแนวแต่ก็แจ๋วทั้งคู่ นั่นคือ การดัดแปลงนิยายเรื่อง ขอเพียงได้รัก  งานเขียนซึ้งๆของคนเขียน Be with you  ที่ถูกดัดแปลงแบบเป๊ะๆเป็นหนังชื่อ Heavenly forest  แต่อีกเจ้า เอาไปดัดแปลงซะเรียบวุธจนแทบจะจำนิยายไม่ได้ แต่ก็ได้ หนังรักเซอร์ๆเหมาะสำหรับคนชอบถ่ายรูปที่เก๋ไก๋ไปอีกเรื่องชื่อ College of our life


             ผมอยู่ในกลุ่มคนที่ไม่ชอบดูหนังที่เหมือนงานถ่ายเอกสารที่แค่ขยายตัวหนังสือให้เห็นเป็นภาพ ทำให้รู้สึกว่า The Da Vinci Code เหมือน แฮรี่ พ็อตเตอร์ ภาคแรก นั่นคือ หนังก็ไม่ได้แย่ แต่ ก็ไม่ได้สร้างความประทับใจมากไปกว่าเดิม สนุกกับการแค่ลุ้นว่า ตัวหนังสือที่อ่านจะมาเป็นภาพอย่างไร สถานที่สำคัญเหล่านั้นของจริงเป็นเช่นไร

    The Da Vinci Code เป็นงานที่ ขาดแคลนความคิดสร้างสรรค์ และ จุดที่ผมผิดหวังที่สุด คือ กระบวนการไขปริศนา ในหนังสือ ดูมีกึ๋น แต่ในหนัง ไขกันไวปานประหนึ่งไขกุญแจ

    ซึ่งดูเหมือน รอน โฮเวิร์ด ก็ไม่ได้มองการดัดแปลงนิยายของแดน บราวน์ ว่าจะให้ความสำคัญที่ การแก้ปริศนา เท่าไรนักและมุ่งเน้นการเป็นหนังแอคชั่นสนุกๆมากกว่า เพราะ จุดอ่อนเกี่ยวกับการไขปริศนาแบบแป๊บๆจุดนี้ ก็ยังคงอยู่ใน Angels and Demons

    แต่โชคดีที่ส่วนอื่นๆในแง่กระบวนการสร้างหนังของ Angels and Demons พัฒนาขึ้นมากกว่า The Da Vinci Code



          รอน โฮเวิร์ด กำกับหนังกระชับฉับไวสนุกมากขึ้น และ มีการดัดแปลงบทที่บางจุดผมคิดว่า มีความกล้าที่จะปรับให้เหมาะกับการทำเป็นหนัง และ เปิดประเด็นหรือมุมมองที่ต่างออกไป

    เช่น บางคนไม่ชอบให้คนตายคนแรกถูกปรับบทเป็นแค่เพื่อนร่วมงานกับนางเอกแทนที่จะเป็นพ่อ เพราะ มันทำให้ ความบีบคั้นอารมณ์ลดลง แต่ผมคิดว่า ถ้าเริ่มต้นเป็น พ่อนางเอกแล้วพระเอกถูกตามมาที่ Cern มันยิ่งตอกย้ำ จุดอ่อนของงานเขียน แดน บราวน์ ที่มีพล็อตคล้ายๆกัน ที่ ญาตินางเอกถูกฆ่าแล้วพระเอกเจอตาม

    หรือ ฉากขึ้นเครื่องบินตอนท้าย ที่ผมคิดว่า เป็นแบบนี้ดูน่าเชื่อถือกว่าในหนังสือที่ตอนอ่าน รู้สึกเว่อร์แบบโดดเด่นที่พระเอกลงมาจากท้องฟ้าแบบไร้ร่ม

    จุดที่ผมคิดว่า การดัดแปลงแล้วด้อยกว่า คือ การตัดตัวละครบุคคลสำคัญของเซิร์น ที่ เป็นเหมือนตัวแทนของคนฝั่งฟิสิกส์คนสำคัญไป และ ที่มาของคาเมอร์เลงโญ่ ซึ่งตามนิยายมันเข้มข้นเสียเหลือเกิน แต่กรณีนี้ก็เข้าใจว่าน่าจะมีส่วนมาจากต้องการลดทอนกระแสต้าน หากทำตามต้นฉบับเดิม

    ส่วนอีกจุดที่ผิดหวังเล็กๆคือ นางเอกของเรื่อง ผมชอบมากตอนดูเธอจากภาพนิ่ง ดูเก๋ไก๋ แต่พออยู่ในหนัง ฝีไม้ลายมือ ยังไม่ถึงกับปลื้มประทับใจเท่าไรนัก

    ทั้งนี้ทั้งนั้น สองจุดเด่นระดับห้าวเป้ง คือ สกอร์ของหนัง ที่ประกอบ การถ่ายภาพงานด้านสถาปัตยกรรม ผสมผสานกันเป็น ความอลังการ งามงด แบบอยากจะหิ้วกระเป๋าไปเที่ยวโรมซะเหลือเกิน ประมาณว่า เที่ยวตามรอยโรเบิร์ต แลงดอน คล้ายๆ ตามรอย แดจึงกึม (แต่คนที่โน่นอาจไม่นิยม เพราะมองว่า เฮียแดน บราวน์ แกห้าวเป้งไปเบี่ยงเบนข้อเท็จจริงมากไปหมด)

    และ แฟนๆ โรเบิร์ต แลงดอน ที่ถวิลหา นาฬิกามิกกี้เมาส์ ฮ่าฮ่าฮ่า ภาคนี้ได้โอกาสเปิดตัวเสียที



             จัดได้ว่า Angels and Demons เป็นหนังแอคชั่นไขปริศนาฟอร์มยักษ์ ที่อาจจะไม่ได้อยู่ในระดับเลอเลิศ แต่ก็เป็นหนังตลาดคุณภาพสูงที่มอบความบันเทิงได้เต็มอิ่ม เป็นงานที่สนุกกว่าการไขปริศนาครั้งก่อน

    และทำให้การแข่งขันของฮอลลีวูดซัมเมอร์นี้น่าจับตามอง หลังจาก นิมิตหมายอันดี ของหนังฟอร์มยักษ์ ที่ตั้งต้นมาดีตั้งแต่ Star trek ต่อด้วย Angels and Demons ก็ได้แต่ลุ้นยักษ์ใหญ่อีกสองตัว ทั้ง หุ่นเหล็ก และ คนเหล็ก ว่าจะดึงให้รุ่งขึ้นไปหรือฉุดซัมเมอร์นี้ให้ร่วงหล่นลง



    ค้างคาว ท่ามกลางหนังฟอร์มยักษ์เข้าโรง ขอเชียร์หนังเล็กๆสุดเจ๋งจากสวีเดน ดูสนุก ดูง่าย ดูแล้วเหงา ดูแล้วเสียวต้นคอ แถมยังเป็นหนังที่ติดหนึ่งในสิบหนังแห่งปีของคอหนังจำนวนมาก

    << ดูแล้วมาเชียร์... Let the right one in , จาก Twilight เป็นTwi-หลอน [ หนังแวมไพร์ดีๆ ที่ ผมฯ ขอเชียร์ ] >>
    http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A7883000/A7883000.html


    smile จขกท. ขอฝากผลงานหนังสือเล่ม 4 ที่ชักชวนเพื่อนผู้อ่านสำรวจจิตใจมนุษย์ผ่านโลกภาพยนตร์ที่ชื่อ มากกว่าที่ตาเห็น-LifeScan เน้อ




    ideaบทความที่อ้างอิงถึงในกระทู้
    (บทความเหล่านี้เคยนำมาลงในกระทู้แล้ว)

    The Da Vinci Code , ศรัทธาที่บิดเบือน
    http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=aorta&month=05-2006&date=21&group=1&blog=1

    Star trek (2009) , จากใจคนที่ไม่ใช่ Trekkie --> “สุดยอด - Excellent - #$$@% - สุโค่ย - il_lli”
    http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=aorta&month=11-05-2009&group=14&gblog=157

    Be With You , ความสุขของฉันคือ"การได้อยู่กับคุณ"
    http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=aorta&month=05-2005&date=11&group=1&blog=3

    ขอเพียงได้รัก , แค่ได้รักก็สุขใจ
    http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=aorta&month=02-2007&date=14&group=3&gblog=11

    แก้ไขเมื่อ 21 พ.ค. 52 10:56:37

    จากคุณ : "ผมอยู่ข้างหลังคุณ" - [ 21 พ.ค. 52 10:52:41 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com