ความคิดเห็นที่ 1 ถ้าให้พูดถึงหนังเรื่องนี้นะ ง่ายมากกก เพราะมีอะไรให้พูดถึงเยอะมาก หลากหลายแง่มุม แต่จะให้พูดแบบสรุปครบถ้วนทุกประเด็นข้อสงสัยอ่ะ ยากมากกกก เราจะพูดเฉพาะที่เราคิดว่าเข้าใจนะ ซึ่งมันไม่ตายตัว และมันไม่ถูกเสมอไปหรอก แต่เราคิดว่าหนังเรื่องนี้มันสนุกตรงที่เรามาแชร์กัน *หนังเรื่องนี้เป็นหรังไซไฟเรื่องแรกๆนะ ที่พูดถึงเรื่องอันตรายจากเทคโนโลยี คอมพิวเตอร์ ที่กลายเป็นตัวทำลายเผ่าพันธุ์มนุษย์ * หนังแสดงให้เห็นเรื่องของมิติ จักรวาลคู่ขนาน ในฉากที่พระเอกทะลุไปในปีแสง เค้าไปพบตัวเองในตอนแก่อีกที ซึ่งจริงๆมันอาจจะหมายความว่า ในจักรวาลนี้มีหลายมิติของกาลเวลาซ้อนทับอยู่ ตอนนี้เราอยู่ตรงนี้ แต่อีกห้วงนึงเราอาจจะอยู่ ณ อีกทีนึง (งงๆเนอะ) * เราก็เห็นด้วยที่คุณคิดเหมือนกันเรื่อง มนุษย์เอง เป็นแค่สิ่งละอันละน้อยในจักรวาล มนุษย์ตั้งตนเป็นเผ่าอารยะที่ถือครองทุกอาณาจักรว่ารู้รอบในทุกอย่างแต่สุดท้ายมนุษย์ก็ไม่ได้รู้อะไรไปมากกว่าสิ่งใกล้ตัวเลย * แท่งหินนั้น ตอนดูครั้งแรก เรานึกถึงหินดำของศาสนาอิสลามอ่ะ คือมันแว่บมาในหัวเลย.... มันเลยลิงค์ไปเรื่องพระเจ้า ศาสนา ทีนี้ล่ะงง.... ถ้าสังเกต หินนี้จะปรากฎสองครั้งในเรื่องคือ ฉากมนุษย์ลิง (อดีต) กับฉากตอนตายพระเอก ....เอาล่ะซิ มันคืออะไรล่ะ (ไม่รู้) แต่สิ่งนึงที่เราอ่านเจอมาคือ เค้าบอกว่าหินนั้นเหมือนพระเจ้า เป็นคลังของปัญญา ทันทีที่ปรากฎ มนุษย์ลิงก็รู้จักการใช้อาวุธ .....(น่าจะสื่อว่ามนุษย์มีสัญชาตญาณของการทำลาย เข่นฆ่าในตัว).....แต่ในขณะเดียวกันการทำลาย เข่นฆ่า ก็นำไปสู่การพัฒนาของอารยะธรรม จากฉากที่มนุษย์ลิงโยนกระดูกไปบนฟ้า แล้วหนังก็ตัดไปเป็นรูปยานอวกาศเลย..... บลาๆๆๆๆๆ ขอฟังความเห็นอื่นหน่อยครับ above & beyond มากๆๆๆ แก้ไขเมื่อ 22 พ.ค. 52 03:06:36 จากคุณ : AguileraAnimato - [ 22 พ.ค. 52 03:05:57 ]

ความคิดเห็นที่ 2 เป็นหนึ่งในหนังปรัชญาชั้นยอดที่ล้ำยุคมาก แม้จะสร้างมานานแล้ว ล้ำยุคในที่นี้ไม่ใช่เพราะว่ามันเป็นหนังอวกาศ  แต่เพราะเนื้อหาและปรัชญาที่ล้ำลึก       เรื่องนี้เป็นแรงบันดาลใจ และเป็นต้นแบบให้กับหนังวิทยาศาสตร์ปัจจุบันมาก ทั้ง matrix และหนังอื่นๆ มากมาย     และที่สำคัญเทคนิคพิเศษที่ใช้ในเรื่อง สุดยอดมากๆ สร้างมาตั้งแต่ยุกนาซ่าเพิ่งไปสำรวจอวกาศแรกๆ สมัยนั้นน่าซ่ายังยอมรับด้านเทคนิคที่สมจริงมาก ปล.ไม่ได้พูดถึงประเด็นหนังเท่าไหร่ขออภัยจขกท. แต่อยากร่วมแจม อิอิ จากคุณ : กระบี่อยู่ที่ใจ (ใช้เพียงกิ่งไผ่ก็ไร้เทียมทาน) - [ 22 พ.ค. 52 04:21:56 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ถ้าพูดถึงเทคนิคพิเศษ เราชอบ สองฉากนี้อ่ะ 1. ฉากพนักงานเสิร์ฟ (ป่ะ จำไม่ได้แล้ว) ที่ก่อนมันจะเข้าไปยังห้องๆนึงบนยาน มันจะยืนนิ่งก่อนที่วงล้อหน้าห้องจะหมุนหัวกลับ (นึกภาพออกป่ะ) เราแบบทึ่งมากกกกกก... 2. ฉากที่พระเอกเดินอยู่ในยาน แล้วมันเป็นคล้ายๆวงล้ออันใหญ่ แต่เดินเท่าไร มันก็เหมือนไม่ขยับ เพราะล้อมันเลื่อนกลับมาที่เดิม (อธิบายไม่ถูก) ป.ล. แต่หนังไม่ได้เป็นแรงบันดาลใจแค่หนังด้วยกันนะ ยังก่อร่างไปยังแวดวงสถาปัตย์ด้วย มีผับดังอย่าง bed supper ที่สร้างโดยอิงมาจากยานอวกาศในเรื่องอ่ะ จากคุณ : AguileraAnimato - [ 22 พ.ค. 52 04:56:20 ]

ความคิดเห็นที่ 4 คห. 3 ​ฉาก 2 ที่บีไคด์รีวายด์เอามาล้อใช่ป่ะครับ ฮามากๆ แต่รู้สึกว่าจะใช้กระบวนการถ่ายทำคล้ายๆกัน เหมือนๆกับจะสื่อว่าที่เราเคยคิดว่าเราพ้ฒนาลำ้หน้าจากอดีตไปไกลแล้วน้ัน แท้จริงแล้วเรายังคงยำ่อยู่ที่เดิม ผมคิดว่างั้นนะ จากคุณ : ThE BaRE VaC PRojEcT - [ 22 พ.ค. 52 05:33:19 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ยังไม่ได้ดู บีคายรีไวน์ เลยอ่ะครับ อร๊ายยย หงุดหงิด อยากดูอีกรอบ ไม่น่าชวนคุยเลยยย ออกไปซื้อแผ่นแท้ดีกว่า ว่าแต่พวกคุณดูเรื่องนี้จบภายในรอบเดียวป่ะครับ ของเรารู้สึกจะ 4 รอบ หลับทั้งนั้น จากคุณ : AguileraAnimato - [ 22 พ.ค. 52 06:24:31 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ภาพอลังการ ดนตรีประกอบยิ่งใหญ่ แต่ดูแล้วเหนื่อย ปล.ส่วนตัวแล้วคิดว่าหนัง overrate จากคุณ : yatiko (yatiko) - [ 22 พ.ค. 52 08:19:17 ]

ความคิดเห็นที่ 7 แสดงภาพอวกาศและความเงียบได้สวยงามที่สุด จากคุณ : wrought - [ 22 พ.ค. 52 09:33:01 ]

ความคิดเห็นที่ 8 overate หรือไม่ แล้วแต่คนคิดครับ อย่างไรก็ตามงานของ Kubrik มาแนวเนิบ ๆ อย่างนี้ทุกชิ้น (เพียงแต่ 2001 เนิบกว่าปรกติและก้าวล้ำนำยุคไปหน่อย) เรื่อง special effect นั้นไม่ต้องพูดถึง หนัง CG สมัยนี้หลายเรื่องยังทำได้ดีไม่เท่า เรื่องความสมจริงยิ่งไม่ต้องพูด เหมือนเสียจนบางคนคิดไปว่ามันคือหนังสารคดี เรื่องปรัชญา ปัจจุบันยังถกกันไม่จบ แถมหนักขนาดที่ผู้ร่วมงานมีความเห็น แตกต่างจนต้องแยกกันด้วยดี โดย Kubrik รับเครดิตของหนังไปคนเดียว ขณะที่ Clarke ก็รับเครดิตของฉบับนิยายคนเดียวเช่นกัน เรื่องการแสดง ว่ากันว่าตัวแสดงที่ไม่เหมือนหุ่นยนต์ที่สุดก็คือ HAL-9000 คอมพิวเตอร์ของยาน Discovery บางคนว่านี่แสดงว่าผู้กำกับห่วย แต่บางคนก็ว่า นี่เป็นเจตนาของเขาที่ต้องการสื่ออย่างนั้น ไม่ว่าอย่างไร ต้องยอมรับว่า Kubrik กล้ามากที่กล้าทำหนังอย่างนี้ ฉาก Stargate ซึ่งยาวมาก หากเป็นเรื่องอื่นโดนตัดไปแล้วแน่นอนแต่ Kubrik กล้าใส่ มีควมหมายหรือไม่ ยังถกเถียงกันอยู่ แต่น่าสนใจแน่นอน ฉากสุดท้ายถือว่าสุดยอดที่สุด แม้คุณไม่สนใจปรัชญา ผมว่าอย่างน้อยคุณก็ ่เกิดความสงสัย และผมว่านั่นเป็นสิ่งที่ Kubrik ทำสำเร็จ เพราะสิ่งที่สำคัญของการมีสมองคือ "คิด" ครับ แก้ไขเมื่อ 22 พ.ค. 52 09:37:12 จากคุณ : Away from Thailand - [ 22 พ.ค. 52 09:35:51 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ... จากคุณ : [D]iffind[O] - [ 22 พ.ค. 52 09:44:16 ]

ความคิดเห็นที่ 10 .... จากคุณ : [D]iffind[O] - [ 22 พ.ค. 52 09:45:11 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ..... จากคุณ : [D]iffind[O] - [ 22 พ.ค. 52 09:46:01 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ....... จากคุณ : [D]iffind[O] - [ 22 พ.ค. 52 09:47:00 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ........ จากคุณ : [D]iffind[O] - [ 22 พ.ค. 52 09:47:36 ]

ความคิดเห็นที่ 14 .......... จากคุณ : [D]iffind[O] - [ 22 พ.ค. 52 09:47:56 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ........... จากคุณ : [D]iffind[O] - [ 22 พ.ค. 52 09:48:09 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ............ จากคุณ : [D]iffind[O] - [ 22 พ.ค. 52 09:48:22 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ....... จากคุณ : [D]iffind[O] - [ 22 พ.ค. 52 09:48:36 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ............ จากคุณ : [D]iffind[O] - [ 22 พ.ค. 52 09:49:06 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ยังไม่ได้ดูครับ แค่เคยดูรีวิวของหนังเรื่องนี้ ในรายการ "โลกยามเช้า" จากความทรงจำ ที่เข้าใจในตอนนั้น ประมาณมาณว่า ในอดีตกาล ก่อนกำเนิดของมนุษย์ จู่ๆบนพื้นโลกก็ปรากฏ "แท่งหินเรียบเนียน" มันไม่เหมือนหินก้อนอื่นๆ เหล่าวานรสังเกตเห็นว่ามันไม่เหมือน มันมาจากไหน ทำไมมันเรียบ เกิดคำถามขึ้นใจ คำถามนำมาซึ่งความรู้ การดัดแปลง การพัฒนา เหล่าวานรประดิษฐ์อาวุธ ปกป้องตนเอง และเปลี่ยนจากผู้ถูกล่า เป็นผู้ล่า! ผ่านไปนานแสนนาน มนุษย์ปกครองพื้นภิพบ และทะยานสู่อวกาศ มีการค้นพบ "แท่งหินเรียบเนียน" บนดวงจันทร์ .......... การเดินทาง ค้นหาคำตอบจึงเริ่มต้น ผมในตอนนั้นอยากดูเรื่องนี้มากๆ อยากรู้ว่าหนังจะนำเสนออะไรต่อ เมื่อ วานร พบแท่งหินโมโนลิธ วานร พัฒนา เมื่อ มนุษย์ พบแท่งหินนั้น มนุษย์ จะคิดอะไร แท่งหินนั้น อาจเป็นตัวแทน ของวัตถุในธรรมชาติ ชิ้นใดๆ ในโลกของเรา ที่พระเจ้าสร้างขึ้น เพื่อทำให้มนุษย์ เกิดความคิดสร้างสรรค์ เราเริ่มนับเลขเมื่อไหร่ เรามีน้ำตาเมื่อไหร่ เรามีจิตใจ ก่อนมีความรู้ นั่นคือความจริง _________________ แก้ไขเมื่อ 22 พ.ค. 52 10:18:12 จากคุณ : โควี - [ 22 พ.ค. 52 09:49:06 ]

ความคิดเห็นที่ 20 .......... จากคุณ : [D]iffind[O] - [ 22 พ.ค. 52 09:49:27 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ...... จากคุณ : [D]iffind[O] - [ 22 พ.ค. 52 09:49:53 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ............. จากคุณ : [D]iffind[O] - [ 22 พ.ค. 52 09:50:09 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ......... จากคุณ : [D]iffind[O] - [ 22 พ.ค. 52 09:50:25 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ........... จากคุณ : [D]iffind[O] - [ 22 พ.ค. 52 09:50:43 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ..... จากคุณ : [D]iffind[O] - [ 22 พ.ค. 52 09:50:56 ]

ความคิดเห็นที่ 26 หมดครับแคปเอาไว้ตอนกะลังอิน จากคุณ : [D]iffind[O] - [ 22 พ.ค. 52 09:51:29 ]

ความคิดเห็นที่ 27 สุดยอดมากเรื่องนี้ทั้งการถ่ายทำและปรัชญาแฝง ไม่อยากเชื่อว่าหนังเมื่อ 40 ปีที่แล้ว !!!! จากคุณ : Stefanz - [ 22 พ.ค. 52 09:54:02 ]

ความคิดเห็นที่ 28 เริ่มเรื่องครับ น่าสนใจมาก ที่สุด จากคุณ : โควี - [ 22 พ.ค. 52 10:02:16 ]

ความคิดเห็นที่ 29 อันนี้เลียนแบบ ฮาดี จากคุณ : โควี - [ 22 พ.ค. 52 10:11:08 ]

ความคิดเห็นที่ 30 แท่งหินลึกลับ จากคุณ : โควี - [ 22 พ.ค. 52 10:12:39 ]

ความคิดเห็นที่ 31 แท่งหินเฮฮา จากคุณ : โควี - [ 22 พ.ค. 52 10:13:57 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ได้ปรัชญาว่า อย่าไว้ใจคอมพิวเตอร์ จากคุณ : e20mj - [ 22 พ.ค. 52 11:53:39 ]

ความคิดเห็นที่ 33 แท่งหินนั้นมันเป็นเครื่องมือสื่อสารที่เผ่าพันธุ์ที่มีอารยธรรมสูงกว่าวางเอาไว้ แล้วเมื่่่่่่่อมีอะไรไปยุ่งกับมัน มันก็จะหยุดส่งสัญญาณออกไปทำให้ผู้สร้างแท่งหินนี้ทราบว่าตอนนี้มีเผ่าพันธุ์ใหม่ซึ่งมีเทคโนโลยีพอที่จะเดินทางไปยังอวกาศได้ถือกำเนิดขึ้นในบริเวณนั้นแล้ว แล้วสักพักมันก็จะมายังโลกซึ่งหนังสือทิ้งท้ายไว้ว่าไม่รู้ว่าผู้สร้างจะมาแบบรุกรานหรือสันติ ... แต่ว่าผู้เขียนก็ทิ้งประโยคท้ายไว้ทำนองว่าผู้ใหญ่มักจะไม่ปราณีเด็ก จากคุณ : depend ayu - [ 22 พ.ค. 52 12:17:50 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ด้วยทฤษฎี พระเจ้าจากอวกาศ ครับ ซีคลาร์ก แต่งเรื่องนี้ด้วยทฤษฎีนี้ เขาเชื่อว่าโลกมนุษย์ของเราเป็นคล้ายที่เพาะพันธุ์ของพระเจ้า หรือสิ่งมีชีวิตขั้นสูง และเฝ้าดูพวกเราอยู่ตลอดเวลา เมื่อเริ่มมีมนุษย์ พระเจ้าเริ่มให้วิทยาการ ด้วยการส่งแท่งหิน โมโนลิธ มากระตุ้นสมองของมนุษย์ลิง ให้เริ่มหัดใช้กระดูกมาเป็นอาวุธในการต่อสู้ จากนั้นมนุษย์ก็วิวัฒนาการมาเรื่อย จนครองโลก และเข้าสู่ยุคอวกาศ ซึ่งพระเจ้ากำลังรออยู่ รอให้มนุษย์พัฒนาเทคโนโลยีจนถึงพร้อมที่จะเผชิญแท่งหิน ครั้งที่สอง ครั้งที่สอง คือแท่งหินโมโนลิธที่ถูกฝังไว้ที่ดวงจันทร์ เมื่อมนุษย์ก้าวหน้าพอ ที่จะตั้งหลักแหล่งที่ดวงจันทร์ แท่งหินก็ถูกขุดพบและกระทบเข้ากับแสงอาทิตย์ มันส่งสัญญาณไปยังดาวเสาร์ครับ ทำให้เกิดโครงการลับส่งนักบินอวกาศไปที่ดาวเสาร์ (ในหนังเปลี่ยนเป็นดาวพฤหัส :อันนี้ไม่แน่ใจนะครับ) เพื่อไปดูว่ามันคืออะไร ซับพล็อตในเรื่องตอนนี้คือ คอมพิวเตอร์ฮัล ที่ควบคุมการเดินทางทั้งหมด ฮัลฆ่านักบินตายเกือบหมดยานเพราะความกลัวที่ตนทำงานพลาด เปรียบกับความเย็นชาของเหล่านักบินที่เป็นมนุษย์ ที่เทตโนโลยีสูงมากเท่าไหร่ จิตใจก็เย็นชามากขึ้นเท่านั้น เสียดเย้ยกับฮัลที่เป็นแค่วัตถุ แต่ยังมีความรู้สึกชีวิตจิตใจหลากหลายกว่ามนุษย์หลายเท่า สุดท้าย เดวิด บัวร์แมน นักบินที่เหลือรอด เดินทางมาถึงจุดหมาย เขาเจอแท่งโมโนลิธ ขนาดยักษ์ ลอยคว้างอยู่กลางอวกาศ เลยตัดสินใจนำยานเล็กเข้าไปดู แท่งหินเปิดออก พาโบว์แมนข้ามอวกาศ ไปศึกษาความรู้และศาตร์ทั้งมวล เพื่อจะพบว่าไม่มีอะไร "เที่ยง" (ตรงกับพุทธปรัชญาเลยครับ :ซีคลาร์กถือพุทธครับ) มีเกิดมีดับ และการเรียนรู้ขั้นสุดท้ายของโบว์แมน คือความชราภาพและตาย เราเห็นแท่งหินอีกครั้งในตอนท้าย ปรากฏอยู่ปลายเตียงของโบว์แมน นำพาวิญญาณของโบว์แมนไปอยู่ในสภาพ ...การเกิดใหม่อีกครั้งในฐานะเป็นส่วนหนึ่งของพระเจ้า ที่ยังอ่อนด้อยเสียเหลือเกิน ราวกับทารกแบเบาะ คูบริคแสดงออกมาด้วยภาพของ ทารกในครรภ์มารดา (ต่างจากหนังสือนะครับ เพราะหนังสือให้อยู่ในสภาพที่ไม่มีกายหยาบแล้ว) เป็นการใช้ซิมโบลิคอันชาญฉลาดที่สุด เท่าที่เคยปรากฏในภาพยนตร์ และเรียกชื่อว่า ทารกแห่งดวงดาว (star child) สรุปอีกที มนุษย์ไม่ได้อุบัติขึ้นอย่างบังเอิญ แต่อยู่ในความควบคุมของสิ่งมีชีวิตขั้นสูงสุด หรือที่เรียกว่า พระเจ้า ครับ จากคุณ : โบว์แมน - [ 22 พ.ค. 52 12:38:02 A:124.122.181.209 X: TicketID:210107 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ตอนดูเรื่องนี้ เผอิญอ่านหนังสือมาก่อน เลยพอจับความได้ แต่ยอมรับว่า คูบริกทำหนังได้ดีทีเดียว ไปอ่านบทวิจารณ์ไหนไม่รู้ เห็นเขาบอกว่า ให้ดูหนังก่อนแล้วค่อยอ่านหนังสือ ไม่งั้นจะปิดกันจินตนาการ จากคุณ : imaguune - [ 22 พ.ค. 52 13:19:46 ]

ความคิดเห็นที่ 36 สำหรับผมฉากที่ตื่นเต้นที่สุดน่าจะฉากที่ สู้กับ Hal 9000 แต่ถ้าเทียบกับเรื่องอื่นๆจะกลายเป็นฉากเรียบๆไปเลย เพราะไม่มีตนตรีประกอบที่เร้าอารมณ์ หรืออะไรเลย แต่สิ่งที่เร้าอารมณ์กับเป็นเสียงอ้อนวอนขอชีวิตของเจ้า Hal เพราะบางทีคอมพิวเตอร์อาจจะมีอารมณ์มากกว่ามนุษย์ด้วยซ้ำและที่ Hal สื่อออกมาคืออารมณ์กลัว ยิ่งตอนร้องเพลงน่ากลัวมาก จากคุณ : ORANZE - [ 22 พ.ค. 52 13:27:39 ]

ความคิดเห็นที่ 37 อ่านคห.34 แล้ว อาเมน เลยครับท่าน ลึกล้ำ เกินกว่าจะเข้าใจได้ในหนัง 555555555 จากคุณ : blueboyhub - [ 22 พ.ค. 52 13:42:17 ]

ความคิดเห็นที่ 38 จะเข้ามาบอกคุณ AguileraAnimato ว่า แท่งหินปรากฏสามครั้งในหนังครับ ซึ่งก็ตรงกับที่คุณ โบว์แมน มาเขียนไว้นั่นแหละครับ ในหนังสือ เป็นดาวเสาร์ครับ ในหนัง เป็นดาวพฤหัสบดีครับ เรื่องนี้ เป็นเรื่องสั้นมาก่อนในชื่อ Sentinel (ยาม) ครับ มนุษย์ต่างดาวส่งแท่งหินมาเป็น "ยาม" คอยศึกษาวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิตบนโลก ข้อเสียเดียวของหนังเรื่องนี้สำหรับผมคือ รู้เรื่องมันก่อนได้ดู คือรู้ในประเด็นที่ถกๆ กันเนี่ยแหละ พอได้ดู เลยไม่งงอะไรเท่าไร จากคุณ : proofman - [ 22 พ.ค. 52 15:00:26 ]

ความคิดเห็นที่ 39 อยากให้กิ๊ฟคุณโบว์แมนมากกกกกกกกกกกกกกก แจ่มแจ้งที่สุด mystery unfold จากคุณ : AguileraAnimato - [ 22 พ.ค. 52 15:51:40 ]

ความคิดเห็นที่ 40 ได้ข้อคิดได้ปรัชญายังไง ก็ขึ้นอยู่กับการรับรู้ของแต่ละคนด้วยน่ะครับ อย่างที่ดูเสร็จแล้วคิดได้ อย่างแรกเลยก็คือ มนุษย์ดำรงอยู่ตั้งแต่อดีต เริ่มสร้างอาวุธ จนไปถึงขึ้นสร้างยานอวกาศ (คัตในตำนาน) แต่สุดท้าย มนุษย์ก็วนเวียน อยู่กับการ เกิด แก่ เจ็บ ตาย แล้วมนุษย์ทุกยุคทุกสมัยตั้งแต่อดีต ถึงปัจจุปัน ก็ยังเพียร ตั้งคำถามกับตัวเองมาตลอดว่า "ชีวิต คือ อะไร" ผมรู้สึกว่า ผู้กำกับตอบคำถามนี้ ผ่านหนังของเขา จากคุณ : แอคโจนบริเค - [ 22 พ.ค. 52 17:20:32 ]

ความคิดเห็นที่ 41 ฉากสุดท้ายที่ Starchild หันมามองโลก คือตอนแรกทุกอย่างดูจะห่างโลกไปเรื่อยๆ แต่พอจุดจบหรือจุดประสงค์ของมันก็คือจุดเริ่มตอนที่เรามองข้ามไป จากคุณ : Ghoeby - [ 22 พ.ค. 52 17:32:41 ]

ความคิดเห็นที่ 42 คำตอบทั้งหมดของหนังเรื่องนี้ก็คือ พระเจ้า - บร๊ะเจ้า - โจ็ก โซคูล ครับ ฟิ้ว......... จากคุณ : โจโจ - [ 22 พ.ค. 52 21:47:54 A:58.9.253.160 X: TicketID:208820 ]

ความคิดเห็นที่ 43 Kubrick 2001: The space odyssey explained http://www.kubrick2001.com/ จากคุณ : UnlimitedDreams - [ 22 พ.ค. 52 22:46:59 ]

ความคิดเห็นที่ 44 เกิด แก่ เจ็บ ตาย จากคุณ : King Leonidas - [ 23 พ.ค. 52 02:25:53 ]

ความคิดเห็นที่ 45 ขอบคุณ #43 จากคุณ : โควี - [ 23 พ.ค. 52 23:01:07 ]

ความคิดเห็นที่ 46 ถ้าให้ ดี ดู ภาต 2 ด้วย นะ ครับ 2010 space odyssey นะ ครับ ต่อ ด้วย อ่านหนังสือ ทั้ง 4 เล่ม จนจบแล้วจะ รู้ เอง เล่มที่3 2061 หรือ ปล่าว ที่ไป ดาวหางฮัลเลย์ เล่ม สุดท้าย 3001 นะ ครับ เดียวไป อ่านอีดเที่ยว http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%88%E0%B8%AD%E0%B8%A1%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A5 จากคุณ : thanapatpp - [ 18 มิ.ย. 52 18:08:25 ]