ความคิดเห็นที่ 1 เรียนหมอ ต้องจบป.ตรีก่อนค่ะ สาขาอะไรก็ได้ แล้วถึงจะมีสิทธิ์สอบเข้าเรียนต่อแพทย์น่ะค่ะ intern นี่ไม่แน่ใจว่ากี่ปี แต่ถ้าตามที่ดู grey's anatomy ก็ 3 ปี พอซีซัน 4 กลายเป็น resident กันแล้ว resident คือหมอที่กำลังเรียนเฉพาะทางค่ะ ถ้าค้นๆหน่อย เคยมีกระทู้พูดถึงอยู่ค่ะ หาในคลังกระทู้น่ะค่ะ น่าจะเจอ จากคุณ : =U_U= PoRpLe - [ 31 พ.ค. 52 20:42:59 ]

ความคิดเห็นที่ 2 จบหมอเมืองนอกอายุเกือบ 30 กันแล้วอ่ะครับ ผมก็อยากรู้ละเอียดมากๆด้วยคนฮ่าๆ รอผู้รู้มาตอบเพิ่มเติมน้ะ แก้ไขเมื่อ 31 พ.ค. 52 20:59:31 จากคุณ : jewes38352 - [ 31 พ.ค. 52 20:59:12 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ขอโทษคะ เผลอกด post ซ้ำ แก้ไขเมื่อ 31 พ.ค. 52 22:05:35 แก้ไขเมื่อ 31 พ.ค. 52 22:04:26 จากคุณ : pie_love_beck - [ 31 พ.ค. 52 22:02:59 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ขอโทษคะ เผลอกด post ซ้ำ แก้ไขเมื่อ 31 พ.ค. 52 22:05:46 แก้ไขเมื่อ 31 พ.ค. 52 22:04:55 จากคุณ : pie_love_beck - [ 31 พ.ค. 52 22:03:09 ]

ความคิดเห็นที่ 5 การเรียนหมอที่อเมริกาต่างกับที่บ้านเราคะ คือที่นู่นเค้าต้องการคนที่มีความสนใจจริงๆ+วุฒิภาวะ จึงทำให้คนที่อยากเรียนหมอต้องจบปริญญาตรีในสาขาที่เกี่ยวข้อง มีการtake course ในวิชาที่ทางคณะrequest เอาไว้ เช่น biology anatomy อะไรประมาณนี้คะ แล้วทุกคนถึงจะสมัครmedical schoolได้ (อันนี้รายละเอียดคงต้องsearchเพิ่มคะ เพราะไม่แน่ใจว่า ต้องสอบอะไรซักอย่างที่เหมือนกันทั้งประเทศเพื่อเอาคะแนนมายื่นที่ มหาลัยด้วยหรือไม่-สำหรับข้อมูลส่วนนี้เคยไปนั่งฟังที่คณะบรรยายคะ ขอโทษด้วยจริงๆ ที่ไม่ละเอียดเพราะ ที่คณะเน้นบรรยายแบบจบ พบ.จากไทยแล้วไปต่ออ่ะคะ ) สำหรับintern ถ้าบ้านเราคือแพทย์ใช้ทุนค่ะ ซึ่งจะต้องผ่านการทำงานในทุกๆward ปกติช่วงนี้กินเวลา 3ปีเพื่อ เพิ่มประสบการณ์คะ ส่วนresident คือแพทย์เฉพาะทาง เช่น ศัลยศาสตร์  อายุรศาสตร์  เด็ก สูตินรีเวช  ซึ่งต้องไปเรียนเพิ่มเติมหลังจากผ่านการเป็นinternแล้ว ซึ่งระยะเวลาก็แตกต่างกันไปอีกคะ เช่น หากอยากเรียนทางศัลย์ ก็ต้องเรียนศัลย์ทั่วไปก่อน ไม่แน่ใจว่า 2หรือ 3 ปีนะคะ แล้วค่อยต่อศัลย์หลอดเลือด , หัวใจและทรวงอก,ระบบประสาท(แบบเชพเพิร์ด ) ซึ่งก็มีระยะเวลาแตกต่างกันอีกคะ ที่ว่ามานี่ของไทยนะคะ แต่ตามความเข้าใจ คือ ของไทยจะเริ่มdealกับ คนไข้ตั้งแต่ปี4แล้วแต่ อเมกานี่กว่าเค้าจะให้แตะตัวคนไข้จริงๆก็ตอนเป็นinternแล้วซึ่งมักจะเป็นinternเฉพาะทาง ในสาขาที่ตัวเองสนใจคะ ไม่รู้ว่าเขียนแล้วเพื่อนๆจะเข้าใจบ้างมั้ย แหะๆ ถ้ายังไง จะไปค้นเพิ่มเติมให้นะคะ ขอสอบให้เสร็จก่อน จากคุณ : pie_love_beck - [ 31 พ.ค. 52 22:03:40 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ทำไมหมอไทยชอบเลือก อายุรศาสตร์กันเยอะอ่ะครับ เกี่ยวกับความ Hardcore ของศัลยแพทย์ด้วยป่ะครับ จากคุณ : jewes38352 - [ 31 พ.ค. 52 22:31:53 ]

ความคิดเห็นที่ 7 #6 เอาจากความเข้าใจของรุ่นเดอะที่บ้านกี้นะคะ อายุรศาสตร์มันสบายมั้งคะ เพราะญาติกี้เรียนหมอ ที่บ้านก้อยากให้เรียนอายุรศาสตร์กัน ตอบจขกท. คุณ pie_love_beck ตอบในเรื่องของหมอไว้ค่อนข้างละเอียดแล้วค่ะ แต่อยากมาตอบด้วยคน 55+ 1. เท่าที่กี้รู้นะคะ คือจะเรียนหมอ ต้องเรียน pre-med มาก่อนค่ะ คือเหมือนปรับพื้นฐานนั่นแหละค่ะ หรือจะเปรียบเป็นปริญญาตรีก็ได้มั้งคะ เช่นเดียวกับพวกเรียนนิติ จะเรียน Law ที่ US ต้องเรียน pre-law มาก่อนเช่นกัน เท่าที่กี้เห็นส่วนใหญ่นะคะ บางคนก็ไปเรียนตามใจชอบก่อน แล้วมาต่อ pre หรือบางคนเข้า pre เลยก็มีค่ะ ส่วนเวลาเรียนจริงๆ กี้ไม่ทราบนะคะว่ากี่ปี รู้แต่ว่านานมากค่ะ แต่กว่าจะเป็นหมอเต็มตัว ที่แบบเป็นหัวหน้า สั่งงานคนอื่นได้เนี่ย คนที่กี้รู้จักเนี่ย อายุอืม 30 ปลายๆ แล้วค่ะ เรียกว่าทรหดอดทนกันมากเลยทีเดียว สมัยรุ่นที่กี้กำลังสมัครเรียนปริญญาตรี มันต้องสอบ MCAT ค่ะ (แบบใน Tru Calling เหมือนนางเอกจะไปสอบไอ้นี่อยู่) เพื่อใช้เข้าเรียน Med School อารมณ์เดียวกับสอบ GMAT เพื่อต่อโทพวกบัญชี บริหารอะไรนั่นแหละ แต่ตอนนี้ไม่รู้เปลี่ยนชื่อไปรึยังนะคะ กี้เคยซื้อหนังสือมาลองทำด้วย เ่อ่อ...เห็นแล้วก็ ไปนอนดูทีวีดีกว่า เหอะๆ ส่วนโครงสร้างการเรียน รูปแบบการเรียน การแยกเฉพาะทาง กี้ไม่รู้รายละเอียดค่ะ ต้องรอน้องกี้สมัครเข้าไปได้ก่อนนะคะ แล้วจะมาเล่าใหม่ ...พ่อแม่จะส่งให้เรียนหมอ กี้ดันหนีไปเรียนภาพยนตร์แทนซะนี่ ตอนนี้เลยได้แต่ดูหนัง ดูซีรี่ย์เป็นชีวิตจิตใจเลยค่ะ เวลาเห็นหมอวินิจฉัยในหนัง เห็นหมอเห่สั่งนู่นนี่ทีไร อยากแอบไปเรียนหมอบ้างเหมือนกัน แต่เจอ MCAT ไป เดี้ยงเลยค่ะ 55 ป.ล. เหมือนไม่ได้มาช่ง มาช่วยจขกท.เท่าไหร่เลย มาชวนคุยนอกเรื่องวะมากกว่า เหอะๆ จากคุณ : Wisther - [ 1 มิ.ย. 52 00:32:10 ]

ความคิดเห็นที่ 8 เราเข้าใจว่าสมัยใหม่นี้ แพทย์เมืองไทยมักจะเลือกเรียนเป็น 'หมอเด็ก' กับ 'หมอผิวหนัง' ซะอีก ไม่รู้นะ เห็นเพื่อนโรงเรียนเก่าที่เรียนหมอกัน มักจะมาตัดพ้อให้เราฟัง ล.ป. (ลืมไป) กลัวดึงเค้าออกนอกประเด็นเหมือนข้างบน ๆ ด้วยคน ท่านใดช่วยตบกลับเข้าช่องด้วย :p~ จากคุณ : Mo_EcHO - [ 1 มิ.ย. 52 15:19:14 ]

ความคิดเห็นที่ 9 เข้ามาขอบคุณทุึกคนคร้าบ ได้ความรู้เพิ่มดีทีเดียว แอบสงสัยมาตั้งนาน เพราะหมอแต่ละคนแก่กันเชียว ส่วนนอกเรื่องไม่เป็นไรเนอะ คุยกันหนุกๆ จากคุณ : Master Obi-Wan - [ 1 มิ.ย. 52 20:48:00 ]

ความคิดเห็นที่ 10 เพิ่มเติมอีกหน่อยคะ (แหมว่า จะรอให้สอบเสร็จก่อน แอบหยุดการแวบเข้าบอร์ดไม่ได้ซักที  ^ - ^ เฮ้อจะได้อ่านมั้ยเนี่ย) คือจริงๆ แอบมาบอกว่า อายุรศาสตร์นี่เป็นward ที่หนักมากนะคะ ถ้าให้เปรียบนี่ heavy weight พอๆกับศัลย์เลย เพราะ ต้องรู้แบบครอบจักรวาลมาก(ตอนเรียน) แต่พอเป็นหมอเฉพาะทางแล้วสบายหน่อย เพราะจะรู้ลึกเฉพาะสาขาของตัวเอง เช่น specialist ข้อ[rheumato] , หัวใจ[heart] ,ไต [nepho]   คือ อายุรศาสตร์จะtreat ด้วยยา เป็นหลัก ส่วนถ้ามีcomplication(โรคแทรกซ้อน)หรือเป็นทางเลือกในการรักษา ก็จะมาถึงศัลย์ค่ะ แต่โดยส่วนตัวคิดว่าที่คนเรียนกันเยอะนี่ อาจเป็นเพราะเป็นสาขาที่เค้าสนใจ แล้วก็ มีคนไข้ค่อนข้างมากตลอดเวลา(จริงๆก็มากทุกwardนั่นแหละ ไม่เคยเห็นวันไหน OPDว่างซักที ;)   อายุรศาสตร์[MED]ดีหน่อยตรง อยู่เวรก็อรับผิดชอบในวันนั้นๆไป แต่ศัลย์ถ้ามี OR ตาม(หมายถึง เคสผ่าตัดด่วน นี่ ดึกยังไงก็ต้องถูกเรียกค่ะ) หวังว่า คงเข้าใจมากขึ้นนะคะ แล้วก็ขอให้น้องของคุณกี้สอบติดแพทย์นะคะ ปล.ฝากบอกด้วยว่า เหนื่อยนะ แต่สู้ๆละ ^ - ^ จากคุณ : pie_love_beck - [ 1 มิ.ย. 52 23:15:20 ]

ความคิดเห็นที่ 11 อ้อ เรื่องว่าหมอแต่ละคนแก่กันจริงๆ อันนี้เพราะว่ากว่าจะเรียนจบ 6 ปี ให้ได้ พบ. >> ใช้ทุน 3 ปี >> เรียนต่อเฉพาะทางอีก 3-5ปี >>บางคนเลือกเรียนต่อ fellow อีก 1-2ปี    เอ่อ จากข้างบนเนี่ยจะ เรียกว่า " แก่ " ก็คงได้คะ ;) จากคุณ : pie_love_beck - [ 1 มิ.ย. 52 23:20:03 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ขอบคุณมากนะคะคุณ pie_love_beck แอบหวังว่าอยากให้น้องติด จะได้เอาไปคุยได้ว่า ตร๊าย ชั้นมีน้องเป็นหมอ 55+ จากคุณ : Wisther - [ 2 มิ.ย. 52 02:20:30 ]

ความคิดเห็นที่ 13 อายุรศาสตร์ แค่เจอเคส consult ไป ก็แทบไม่มีเวลาออกตรวจผู้ป่วยนอกกันแล้วครับ ส่วนตัวแล้ว ว่าหนักสุด ในบรรดา สาขาแพทย์ประจำบ้าน กันเลยล่ะ จากคุณ : Musiclism - [ 2 มิ.ย. 52 19:33:43 ]