ความคิดเห็นที่ 1 เรียกว่าเทคนิคแฮนด์เฮล มาจากการถ่ายของพวกหนังสารคดี  เมื่อก่อนเราชอบเทคนิคพวกนี้มาก ดูหนังเรื่อง Heat ดูเรื่อง Traffic แฮนด์เฮลสวยมาก ได้อารมณ์สมจริง แต่อย่างในทีวีพอตอนนี้มีพวกเรียลลิตี้มาเราว่ามันเฝือมาก ที่จริงรู้สึกว่ามันมักง่ายไปหน่อย แต่ในหนังหลายๆเรื่อง ที่เทคนิคนี้มันอยู่ถูกที่ถูกทางมันก็เวิร์คนะ แก้ไขเมื่อ 01 มิ.ย. 52 22:05:37 จากคุณ : the author - [ 1 มิ.ย. 52 22:05:06 ]

ความคิดเห็นที่ 2 เทคนิคนี้มันอยู่ถูกที่ถูกทางมันก็เวิร์คนะ +1 จากคุณ : จูริง - [ 1 มิ.ย. 52 22:08:20 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ตามข้างบนครับ ยิ่งพอมาเห็นใน children of men แบบ long take นี่สุดยอดเลย จากคุณ : เพลงร็อคแม่น้ำร้อยสาย - [ 1 มิ.ย. 52 22:17:33 ]

ความคิดเห็นที่ 4 "เจไดหนุ่ม" แนะนำคุณจขกท.ให้ไปลองหาหนังเรื่อง "Das Boot" ของผกก."วูฟล์กัง ปีเตอร์สัน" มาดูครับ  เพราะมันเป็นต้นกำเนิดของเทคนิคที่ตากล้องต้องวิ่งตุเลงๆไล่ตามนักแสดงนั่นเอง(แฮนด์ เฮลล์) (May the Spoil be with you) ขอสปอยล์จงสถิตย์อยู่กับท่าน จากคุณ : เจไดหนุ่ม - [ 1 มิ.ย. 52 23:23:18 ]

ความคิดเห็นที่ 5 มันจะ hand held ได้ไงครับ กล้องถ่ายหนังตัวนึงบวกอุปกรณ์หนักเป็นสิบกิโล ขืน held ไปคงข้อมือหัก ส่วนใหญ่ใช้ steadycam ครับ บางช็อตแบกบ่าได้ก็แบกเอา ...เขาตั้งใจนะครับ ไม่ใช่สุกเอาเผากินอย่างที่คนดูว่า เพราะถ่ายแบบนี้มันถ่ายยากกว่า แพงกว่าถ่ายบนขาตั้งอีก (ค่าจ้างสตีดี้แคมแมนแพงโคตรๆ) หลังๆนี่เพื่อความสะดวกและประหยัดงบ หลายๆเรื่องเขามาเขย่า มา float ภาพกันในขั้นตอนซีจีแล้วล่ะครับ ครับ... ท่านทั้งหลายได้ยินไม่ผิดครับ เขาถ่ายมาภาพนิ่งๆตามปกติเลยแหละ แต่มาใส่ shake กันตอนซีจี (ถึงขนาดมีโปรแกรมเพื่อการนี้โดยเฉพาะ ตัวนึงหลายแสนนะ ไม่ใช่เล่นๆ) คิดดูแล้วกันว่ามันตั้งใจ"เขย่า"กันเป็นกิจจะลักษณะขนาดไหน ...เพราะฉะนั้นกรุณาเลิกดูถูกกันได้แล้วครับ การทำภาพออกมาแบบนั้นใช่ว่าจะทำกันออกมาได้ง่ายๆ ใช่สักแต่ว่าจะถ่ายมั่วๆแล้วออกมาเป็นแบบนั้นได้ (ถ่ายมั่วแล้วมันจะทั้งสั่นทั้งดูไม่รู้เรื่องเพราะภาพไม่ชัดครับ แต่นี่สังเกตุดูดีๆครับ เทคนิคนี้ถึงภาพจะสั่น แต่ content ในภาพยังชัดเจนดี) เขาตั้งใจทำเพื่อคนดูทั้งนั้นแหละครับ อย่าสักแต่ด่าเพราะไม่รู้ข้อเท็จจริงครับ จากคุณ : คนชอบสั่น (แท็กซี่นิรนาม) - [ 2 มิ.ย. 52 02:13:15 ]

ความคิดเห็นที่ 6 มันคงเพราะเทคนิคสมจริง วิ่งถ่าย สร้างความแปลกใหม่ให้กับหนังรุ่นก่อนหน้านี้ พอคนเริ่มปลื้ม เอาเหตุการณ์จริง (ที่ยังไงก็ไม่จริง) มาเป็นจุดขายได้ นักสร้างหนังปัจจุบันก็เลยเอามาทำเป็นเอฟเฟ็ค ถ่ายเสร็จแล้วค่อยมาเขย่าซะเลย แต่จะวิ่งเอง ใช้ขาเหล็กวิ่ง วิ่งแล้วเขย่า หรือเขย่าหลังวิ่ง ก็ไม่เข้าทางเราเลยอ่ะ เคยดู แบลร์ วิชท์ โปรเจ็ค  เขาว่าดี ระทึกเหมือนจริง ใช่มะ? ....ยังเซ็งเรยหงะ   หลังๆ เลยเอาเป็นว่า ถ้ารู้ว่าหนังเรื่องไหนมันสั่นเป็นหลัก สั่นกันทั้งเรื่อง ก็เลือกที่จะไม่ไปดูค่ะ ให้วิญญาณโก๊ะตี๋เข้าสิงแป๊บนึง..   "แกถ่ายสั่น แล้วแกถามฉันมั้ยว่าฉันอยากดูหนังสั่นรึเปล่า"   แก้ไขเมื่อ 02 มิ.ย. 52 09:48:34 จากคุณ : TulipOnLine - [ 2 มิ.ย. 52 09:42:10 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ใน Slumdog นี่ใช่ปะ เวียนหัวจริงๆ มากเกินไปหน่อย จากคุณ : ข้าวผัดบูด - [ 2 มิ.ย. 52 11:50:40 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ต้องขอประธานอภัยที่เข้าใจผิดว่ามีการตำหนิกัน ทั้งๆที่ไม่มีแต่อย่างใด สงสัยลิเกเก็บกดไปหน่อย ก๊ากกกกกก คนทำหนังบางทีมันล้ำหน้าคนดูไปหน่อย มันไม่ได้เริ่มมาจากสารคดีหรอกครับ ทุกอย่างมันเริ่มประมาณปี 95 ลาร์ฟองทรีเยร์(ผกก. Dogville) กับวินเตอร์เบอร์ก(ผกก. The Celebration) ตั้งกลุ่ม Dogme ซึ่งมีกฎในการทำหนัง 6 ข้อ ข้อหนึ่งของมันคือ 3) กล้องต้องถือโดยคน มันจะสั่นจะเขย่าอย่างไรก็ช่างมัน เพราะเราถือปรัชญาว่า "หนังต้องถ่ายในที่ๆเกิดเรื่องราว ไม่ใช่ถ่ายในที่ๆเหมาะแก่การตั้งกล้อง" แต่หลังจากนั้นขบวนการ remodernism ของศิลปะภาพยนตร์นี่ก็เละ กฎ 6 ข้อถูกใช้มั่งไม่ใช้มั่งโดยสมาชิก เอาไปปรับกันเองจน dogme มันเลือนหายไปในที่สุด จะเหลือก้แต่ไอ้เขย่ากล้องนี่แหละครับที่ฮิตจนกลายเป็น mainstream ในปัจจุบัน ส่วนตัวผมเองเวลาถ่ายหนังยังมีกฎข้อนึงกับตากล้องอยู่เลย คือห้ามใช้ขาตั้ง (เมิงอยากจะเอามาก็ได้ แต่ยอมให้แค่เอามาไว้วางกล้องเวลาเหนื่อย ห้ามใช้ตอนถ่าย) ...ทำไมคนทำหนังชอบภาพสั่นๆ? เพราะมันให้ภาพที่ imitate intimacy หรือจำลองความรู้สึกใกล้ชิดกับเหตุการณ์ครับ ...มันได้อารมณ์มั่กๆ ว่างั้นเหอะ ...เอิ๊กกกก ปล. Slumdog นี่สั่นแบบเทพบร๊ะเจ้ามาก มีช็อตนึงที่ถ่ายตามพระเอกตอนเด็กที่กำลังวิ่งหนีกระโดดข้ามหลังคาตึก เขาเอากล้องขึ้นสลิงเพื่อแทร็กตามตัวละคร แล้วเอามา float ภาพตอนซีจีโดย motion track ตัวพระเอก เพราะฉะนั้นภาพมันจะสั่นตามการวิ่งของพระเอก แต่ตัวพระเอกจะอยู่ตรงกลางภาพตลอดเวลาเหมือนกล้องมันถูกผูกกับตัวพระเอก ทำโคตรยุ่งยากเลยนะนั่น ไม่ใช่ขรี้ๆ จากคุณ : กำลังคิดวิธีถ่ายแบบ ตรูดPOV (แท็กซี่นิรนาม) - [ 2 มิ.ย. 52 14:21:56 ]

ความคิดเห็นที่ 9 งั้นนะ มันต้องขึ้นกับฝีมือช่างภาพแล้วล่ะว่าสามารถมูฟกล้องให้เนียนไปกับเหตุการณ์ได้ดีไหม แล้วมันเหมาะหรือเปล่า ที่จะใช้เทคนิคถ่ายภาพสั่นกับเหตุการณ์นั้นๆ อย่าง slumdog เราไม่รู้สึกว่ากล้องสั่นน่ารำคาญอะไรเลยค่ะ พูดๆ นี่ยังนึกไม่ออกว่ามันแอบไปเช้คกล้องกันฉากไหน จำความรู้สึกได้แค่ว่า ตอนที่พระเอกโดดข้ามตึกนั่นเจ๋งมากอ่ะ วื้ดดด เหมือนเหาะตามไปเลย แต่ไงก็สู้ฉากโดดบ่อขรี้ไม่ได้ร้อก...อมิต้าป ปัจจันสุดๆ แล้ว ยิ่งตอนเช้คตัวเอง แล้วคนแหวกเป็นทางนี่ล่ะเทพแท้ แก้ไขเมื่อ 02 มิ.ย. 52 18:46:24 จากคุณ : TulipOnLine - [ 2 มิ.ย. 52 18:44:10 ]

ความคิดเห็นที่ 10 เข้ามาเก็บความรู้จ๊ะ จากคุณ : joblovenuk - [ 14 มิ.ย. 52 11:56:42 ]