ความคิดเห็นที่ 1 ลีซานผมว่ายืดไปหน่อยนะ จริงๆเรื่องจบได้แล้ว จากคุณ : จ้องจนปวด - [ 3 มิ.ย. 52 17:16:33 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ลีซานกับจูมง  เราว่าจูมงดีกว่าอีก   อย่าไปเทียบกับหนังจีนขั้นเทพเลย  หึหึ จากคุณ : หมิงเทียนหลง - [ 3 มิ.ย. 52 18:06:43 ]

ความคิดเห็นที่ 3 หนังเกาหลียืดเกินไป   เท่าที่ฉายบ้านเราดูสนุกแค่ 2 เรื่องมือแดจังกึม กับ จอมกษัตริย์เทพสวรรค์  นอกนั้นจะหลับให้ได้ ส่วนเรื่องความสนุก+บท.... เอ่อ.....กลับไปดูหนังจีนดีกว่า จากคุณ : blacksatinrose - [ 3 มิ.ย. 52 18:47:18 ]

ความคิดเห็นที่ 4 หนังเกาหลีแนวประวัติศาสตร์ไม่เคยดูจบซักเรื่องเลยค่ะ   อืดเกินเหตุ  แรกๆ พอดูได้บ้างพอเข้ากลางเรื่องก็ไม่ไหวแล้ว    ที่ดูได้จนจบมีเรื่องเดียวคือ  The Legend เรื่องบทพูดคำคม   หนังจีนเด่นมากๆ ในด้านนี้  (อาจเพราะเราชินกับของจีนมากกว่า) หนังเกาหลียังไม่เห็นมีคำคมอะไรให้ประทับใจเลย  (หรือเพราะดูไม่เคยจบเอง) จากคุณ : มีเงินเป็นฟ่อนมีทองเป็นหาบ - [ 3 มิ.ย. 52 18:57:28 ]

ความคิดเห็นที่ 5 เราว่าแดจังกึมสนุกสุด  ส่วนจูมงก็สนุกแต่ยืดไปหน่อย  the legendกระชับดี  ส่วนซอดองโยสนุกแต่เลี่ยนนนนนมาก แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น อย่าว่าแต่หนังจีนยุคเก่าเลย หนังจีนหักเหลี่ยมเฉือนคมยุคใหม่ที่เปรียบเทียบกันได้ อย่างแดจังกึมVSศึกรักจอมราชันย์  เราว่าศึกรักสนุกกว่าอีก จากคุณ : ฮิวเยียก - [ 3 มิ.ย. 52 20:38:00 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ผมว่าเอาคำถามแบบนี้มาถามห้องหนังจีนออกจะไม่แฟร์ แต่ผมก็ว่าหนังจีนสนุกกว่าจริงๆนั้นแหละ แหะๆ จากคุณ : ดาวเหิน - [ 4 มิ.ย. 52 00:36:38 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ส่วนตัวตัวผมชอบหนังจีนมากกว่า .. แต่ส่วนนึง ผมชอบหนังที่สร้างจาก ..นิยายอิงประวัติศาสตร์ ซึ่งมัน อาจจะมีทั้งฉากแอคชั่น กำลังภายใน เพิ่มตัวละครเพื่อสร้างสีสัน หรือตัวละครอย่าง เฉียนหลง หรือ หลี่ซื่อหมิน อาจเป็นได้ทั้ง คนดี หรือ คนร้าย แล้วแต่มุมมองของผู้เขียนบท ซึ่งก็จะถูกนักวิจารณ์ด่าว่าเอาประวัติศาตร์มาเพี้ยน แต่ถ้าเป็น หนังประวัติศาสตร์ อย่างจิ๋นซีฮ่องเต้ ของ atv หรือ หนังจากจีนแดง ไต้หวัน หลายๆเรื่องไม่ขอเอ่ยชื่อเรื่องนะ ดูแล้วออกจะน่าเบื่อ ถ้าเทียบแบบนั้น ผมชอบแบบเกาหลีมากกว่านะ ไม่รู้ซิ โดยสรุปก็คือ ชอบหนังที่เขียนบทสไตล์ TVB นั่นแหละ จากคุณ : คุณคือ..ตัวจริง - [ 4 มิ.ย. 52 02:25:44 ]

ความคิดเห็นที่ 8 คุณ : จ้องจนปวด เห็นด้วยอย่างยิ่ง หนังชุดเกาหลีปริมาณมันเยอะเกิน ที่ผมดูเพราะว่าโฆษณาล้วนๆจากแดจังกึม เห็นเขาบอกว่าสนุกผมถึงได้ดู แต่ยิ่งดูผมยิ่งผิดหวังกับเวลาที่ดู ถ้าลดจำนวนตอนได้จะดีทีเดียว คุณ : หมิงเทียนหลง ผมว่าทั้งจูมงกับลีซานถ้าตัดความยืดไปได้ก็พอดูได้ แต่ความสนุกถ้าเทียบกับหนังจีนยังหลายขุม ผมอยากให้เขาทำหนังแนวนี้ให้มันสนุก ไม่ใช่เป็นหนังแนวแม่บ้าน ผมชอบแบบสามก๊ก จีนใหญ่ มีอุบาย ตัวละครเยอะมากๆ ดูแล้วเหมือนอยู่ในเหตุการณ์ หรือศึกสายเลือด ศึกลำน้ำเลือด ที่มีการเติมแต่งก็ทำได้โค ตะ ระ มัน คุณ : blacksatinrose จอมกษัตริย์เทพสวรรค์ ทีแรกผมเห็นโฆษณานึกว่าหนังจีนซะอีก ดูเพราะช่องสามมันโหมโฆณาอีกนั่นล่ะครับ ด้วยผมเป็นคนชอบดูหนังจีนมาแล้วมั้งถึงได้ดูเรื่องนี้ไม่ตะขิดตะขวงใจ แต่ยอมรับครับว่าแอบเปรียบเทียบกับหนังจีนในใจเสมอที่ดู ส่วนเรื่องบทความสนุกนี่เป็นปัญหาใหญ่ของหนังเกาหลีเลย คุณ : มีเงินเป็นฟ่อนมีทองเป็นหาบ คิดเหมือนกันเลยครับว่าบทหนังจีนคมคายกว่าเยอะ แก้ไขเมื่อ 04 มิ.ย. 52 07:19:19 จากคุณ : จขกท (ต้มถ่าน) - [ 4 มิ.ย. 52 07:18:10 ]

ความคิดเห็นที่ 9 คุณ : ฮิวเยียก ศึกรักจอมราชันย์เป็นหนังที่ฉายช่วงเวลาแม่บ้าน แต่แม่กับพี่สะใภ้ที่บ้านผมกลับไม่มีใครดู บอกว่าดูไม่รู้เรื่อง กลับชอบแดจังกึมมากกว่ แต่ผมคิดเหมือนคุณ... ผมก็คิดว่าศึกรักจอมราชันย์สนุกกว่า อาจเป็นเพราะไม่ยืด เปิดเรื่องเร็ว และที่สำคัญหนังจีนเขาสามารถทำเรื่องได้รุนแรงแต่แฝงด้วยคติธรรมและชวนติดตามมาก คุณ : ดาวเหิน แหะๆ ผมรู้ว่าห้องนี้ใจกว้าง ไม่ลำเอียง พูดไปตามสิ่งที่ได้ดูได้เห็น ถ้าผมไปพูดกับเด็กรุ่นใหม่ๆที่ดูแต่เกาหลีอย่างเดียว ผมคงเกรียน คุณ : คุณคือ..ตัวจริง ผมว่าจีนใหญ่เน้นสร้างความอลังการมากไปหรือเปล่า สมัยแรกๆที่ผมรู้จักจีนใหญ่อย่างสามก๊กถือว่าสนุกใช้ได้ แต่ละครที่ฉายตอนเย็นๆทุกวันจันทร์ - ศุกร์ ผมก็ว่ายืดไปมากๆ แต่แก่นเรื่องใช้ได้คนนับถือพุทธเข้าถึงหนังได้ไม่ยาก ส่วนตัวผมก็ชอบเหมือนคุณอิงประวัติศาสตร์ไม่ใช่เล่าเรื่องตามตำราประวัติศาสตร์ หนังจีนเขาสามารถถ่ายทอดออกมาได้สนุกและมีหลายมุมมอง อย่างไซซีที่ฉายช่องเก้าผมก็ไม่ได้ดู อาจเป็นเพราะผมเริ่มอิ่มกับแนวอลังการงานสร้างจากเกาหลีจะเปลี่ยนมาดูของจีนมันเลยกลายเป็นซ้ำไป ผมชอบแนวชิงบัลลังก์ฮ่องเต้มันดุเดือดเลือดพล่าน แต่ก็แฝงหลายอย่าง ทิ้งท้าย... ผมเคยอ่านเจอในหนังสือพิมพ์ไทยรัฐตำหนิช่องสามที่ฉายแต่หนังจีนรุนแรงป้อนเยาวชน ทำให้ช่องสามต้องลดหนังจีนในทันที เป็นเหตุทำให้คอหนังจีนต้องดูหนังแนวรักไปโดยปริยาย จากคุณ : ต้มถ่าน - [ 4 มิ.ย. 52 07:37:10 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ^^ ^^ หนังสือพิมพ์ไทยรัฐตำหนิช่องสามที่ฉายแต่หนังจีนรุนแรงป้อนเยาวชน ทำให้ช่องสามต้องลดหนังจีนในทันที เป็นเหตุทำให้คอหนังจีนต้องดูหนังแนวรักไปโดยปริยาย -------------------------------------------------------------------------- แล้วทีคนดูอย่างพวกเราตั้งหลายคนขอร้องแทบตายว่าให้เอาละครจีน-ฮ่องกงมาฉายให้เยอะกว่านี้บ้าง ไม่เคยเห็นทำตามเลย นี่แค่หนังสือพิมพ์ตำหนินิดเดียวเอง... เฮอะ!!! จากคุณ : kjkelly - [ 4 มิ.ย. 52 08:32:44 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ^ ^ ^ คห.ที่ 10 ตอนนั้นช่องสามฉายแปดเทพอสูรฯ เวอร์ชั่นหลิวอี้เฟยคนสวย ผมก็แอบดีใจต่อไปคงได้เห็นหน้าเธอบ่อยๆ แต่เพราะในสายตาคนนอกที่เป็นห่วง (รึปล่าว) เห็นว่าหนังจีนที่ฉายมันรุนแรงเน้นฆ่าฟัน ล้างแค้น ก็แล้วแต่มุมมองล่ะครับ ส่วนตัวผมดูหนังจีนจอมยุทธตั้งแต่เด็ก เห็นภาพฆ่าฟัน แต่ผมไม่ได้เก็บเกี่ยวภาพพวกนั้นเลย ในสมองผมมีแต่ฝ่ายอธรรม กับ ฝ่ายธรรมมะ ฮา... จากคุณ : ต้มถ่าน - [ 4 มิ.ย. 52 08:54:17 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ^ ^ ^ ใช่ๆๆๆ ใช่เลย ธรรมะ ย่อมชนะอธรรม ไม่ได้ดูหนังเกาหลีย้อนยุคเลย  ละครเกาหลี เคยบ้าช่วงนึง แล้วก็ไม่ไหว อิ่มตัวค่ะ เอียนมากๆๆ จากคุณ : mimi555 - [ 4 มิ.ย. 52 09:49:13 ]

ความคิดเห็นที่ 13 อีกนิดครับ... ผมสงสัยว่าเป็นเพราะเรารู้ประวัติศาสตร์จีนและดูหนังจีนมากไปหรือปล่าว ทำให้มีความรู้สึกว่าหนังจีนอิงฯที่เอามาเล่าใหม่หมดความตื่นเต้น ถ้าเทียบกับเกาหลีที่ยังเป็นของสดใหม่ และผมก็ไม่รู้ประวัติศาสตร์เกาหลี ถ้าเขาไม่ทำเรื่องลีซานผมก็ไม่รู้จัก ลีซาน จูมง แดจังกึม โฮจุน ในทางกับกัน... อย่างมู่หลาน ไซซี ขงเบ้ง ตระกูลหยาง จอมพลซิ อ่านในหนังสือประวัติศาสตร์ก็เจอ แลกเปลี่ยนกับครับ แก้ไขเมื่อ 04 มิ.ย. 52 12:21:53 จากคุณ : ต้มถ่าน - [ 4 มิ.ย. 52 10:16:29 ]

ความคิดเห็นที่ 14 สงสัย จขกท. จะชอบแนวประวัติศาสตร์แน่ๆ เลย ...อิอิ      ...หนังจีนมันก็มาจากแหล่งไม่กี่อย่าง... แต่ก็ต้องเข้าใจก่อนว่าวัตถุดิบในการนำมาทำบทละครมันมากกว่าหนังเกาหลี... เพราะอะไรหรือ? - ก่อนอื่นคงต้องแยกก่อนว่าหนังจีนอันไหนเป็นนิยาย อันไหนเอามาจากพงศาวดาร ...ดูท่า จขกท. ถ้าได้ดู 13 ฮ่องเต้ราชวงศ์ชิง หรือจอมจักรพรรดิ์คงซี หรือเฉียนหลงฮ่องเต้ (ไม่ว่าจะทั้งจากละครอิงประวัติศาสตร์หรือตำนานอักษรกระบี่ของจินหยงฉือฝู) มีหวังได้ติดงอมแงมแน่ๆ เลย (ส่วนตัวชอบซี่รี่ส์ซุนจื่อแล้วต่อด้วยคังซีเวอร์ชันที่ช่องสามทะลึ่งเอาไปฉายตอนตี 3 เมื่อซัก 2 ปีก่อน... ถือว่าดูถูกคนดูมาก เพราะบท 2 เรื่องนั้นถือว่าคมคายมาก) - ความสนุกของหนังจีนส่วนตัวคิดว่า ...มันมีบางส่วนที่หนังเกาหลีตอนนี้พยายามทำให้ได้... หนังเกาหลีจริงๆ มันพึ่งจะได้รับการส่งเสริมเป็นล่ำเป็นสันมาสิบกว่าปีเองตามนโยบายรัฐบาล ... ต่างจากหนังภาษาจีนทุกรูปแบบที่รัฐไม่ต้อง เอกชนทำเอง (พึ่งจะได้รัฐสนับสนุนก็เนื่องจากหนังจีนเริ่มโก Hollywood นั่นแหละ) ...หนังจีนเค้าติดตลาดมาตั้งแต่ทีวีขาวดำแล้ว... คนจึงรู้จักมากกว่าหนังเกาหลี - ต้องเข้าใจอย่างนึงก่อนว่าหนังเกาหลีเค้ามีวัตถุดิบแค่ไม่กี่แหล่ง ...ส่วนใหญ่หนังเกาหลีย้อนยุคจะมีแค่บันทึกตามประวัติศาสตร์เท่านั้น ในขณะที่หนังจีน เค้ามีแหล่งที่เป็นนิยาย แล้วก็พงศาวดารอีกเป็นพะเรอเกวียน... อ้าว...! แล้วหนังเกาหลีย้อนยุคโบราณก็มีไม่ใช่เหรอ? ... อันนี้ก็ต้องเข้าใจอีกอย่างเหมือนกันว่าถึงแม้จะมีประวัติศาสตร์เก่าแก่ชาติหนึ่งเหมือนกัน แต่... เมื่อเทียบกับสมัยที่พอจะมีเรื่องเล่าหรือบันทึกประวัติศาตร์แล้วนั้นอย่างพระเจ้าดงเมียงชอง (จูมง) มันก็ยังแค่สมัยถังเอง... ในขณะที่จีน พี่ท่านมีเรื่องให้เอามาทำเป็นหนังตั้งแต่สมัยอู๋กับฉู่ตีกันแล้ว (ก่อนสมัยฉินซะอีก) ..ถ้านึกไม่ออกก็คือเรื่องเกี่ยวกับพิชัยยุทธซุนหวู่ไง... - ทีนี้ ...แล้วหลังจากนั้นทำไมเกาหลีไม่มีเรื่องอะไรมันๆ เยอะๆ บู๊ๆ คมคายหักเหลี่ยมแบบหลี่ซื่อหมิ่น อู่เหม่ยเหนียง หรือสามก๊กบ้างล่ะ..? ... ก็อาจจะเป็นเพราะเวลาในช่วงนั้น เกาหลีมีสภาพไม่ได้เป็นปึกแผ่นขนาดใหญ่ หรือมีบทบาทมากในประว้ติศาสตร์เอชียตะวันออกไกล ...แล้วก็สังเกตให้ดี ถึงแม้เวลาเกิดการโค่นบันลังค์ หรือถึงจุดเสื่อมโทรมของราชวงศ์เกาหลีแต่ละยุค ผู้นำมักจะมีอย่างนึงที่ถือเป็นเรื่องงี่เง่าได้ก็คือ ..ชอบสังหารบัณฑิตหรือเผาบันทึกหรือตำราระบายอารมณ์ ... นั่นแหละ ตัวทำลายแหล่งวัตถุดิบที่เอามาทำละครในสมัยนี้เลยละ ... เลยส่งผลให้ขนาดเข้าสู่ยุคปฏิวัติเมจิของญี่ปุ่นแล้ว ราชสำนักโชซอนยังดูไม่ต่างจากสมัยถังซะเท่าไหร่เลย (แต่อันนั้นข้าเจ้าก็ไม่แน่ใจนะ อาจจะเป็นเพราะเค้าพยายามรักษาอะไรที่สวยงามหรือความเป็นเอกลักษณ์ก็ได้)... - ละครจีนใครว่าไม่มีน่าเบื่อแบบเกาหลี ... ส่วนตัวไม่ถูกคอกับละครจีนแบบตระกูลใหญ่ในม่านเมฆ ม่านประเพณี หรือละครจีนแดงช่วงที่หยิบจับเอาเหตุการณ์ปฏิวัติวัฒนธรรมสมัยท่านเหมา ...บอกได้เลยว่ามีแบบนี้เกลื่อนเลย แล้วพี่ไทยก็เข้าใจอารมณ์คนไทยเลยไม่นำเข้ามาฉาย ...ในขณะที่หนังเกาหลีเค้ามาทีหลังเลยดังกว่า เพราะเค้าดูจีนเป็นตัวอย่างก่อนไงว่าแบบไหนโกยเรตติ้งได้ แบบไหนเหมาะกับการส่งออก .. ที่จริงหนังเกาหลีตอนนี้มีเกลื่อนพอๆ กับหนังญี่ปุ่นเลยละ ตอนนี้เลยกลายเป็นเพราะมีปริมาณมาก มันเลยคัดสรรได้ว่าเรื่องไหนเป็นไม้ตายถูกจริตคนเอเชีย บทแบบไหนเหมาะกับภูมิภาคใดตลาดใด ...แน่นอนว่าเพศเป็นส่วนสำคัญ หนังจีนกำลังภายในจะถูกจริตกับเพศชายมาก ในขณะที่หนังเกาหลีเนื้อเรื่องจะยั่วน้ำลายช่างเจรจาของอาซ้อแม่บ้าน ...จะว่าไปเท่าที่ดูหนังเกาหลีหลังๆ มา ทางนั้นเค้าก็แก้ลำเรื่องดึงดูฝ่ายชายให้หันมาดูละครเกาหลีได้เหมื่อนกันนะ ...ในเมื่อวัตถุดิบในด้านบู๊หรือบทที่เข้มข้นโดนใจชายสู้หนังจีนไม่ค่อยได้... เค้าเลยส่ง ยูนอา อึเฮ เฮเคียว จีมิน หรือยีเฮือนมาสู้ไง... คิดว่าสู้หนังจีนได้มั้ยละ...อิอิ? .....เปรียบเทียบตอนนี้ข้าเจ้าว่ามันยังเร็วไปและก็ลำเอียงไป... เพราะหนังเกาหลีเหมือนพึ่งเกิดมาได้ไมนาน ในขณะที่เกาหลีพึ่งฟื้นจากสงครามแบ่งแยกเหนือใต้ (โดยน้ำมือคนอื่น) ... จีนเค้าก็ทำละครออกมาให้เรางอมแงมกันแล้ว (เริ่มจากฮ่องกง) ... เรายังไม่ได้เห็นอีกตั้งหลายเรื่อง ซึ่งส่วนตัวข้าเจ้าเองก็คิดว่าทางเกาหลีใต้เค้าก็น่าจะรู้ตัวเรื่องพัฒนาการที่ช้าไปนิด หลังๆ เราเลยจะได้เห็นอะไรที่ออกมาแบบลูกผสมร่วมทุนไง ...หนังร่วมทุนกับจีนบ้างละ ...ด้วยแรงบันดาลใจจากหนังญี่ปุ่นบ้างละ (แต่แม่มทำเอา Nodame กลายเป็นหนังชิงรักหักสวาทเกิน เสียดายน้องจีอาจังเลย เกือบเป็นน้องจูริเวอร์ชันเกาหลีซะแล้ว).. เค้าอาจจะไม่ได้หวังกับตลาดผู้ชมวัยอิ่มตัวกับละครหรือผู้ชมที่ดูละครจีนมาก่อนแต่ดั้งเดิมเท่ากับผู้ชมยุคใหม่ก็ได้น่ะฮะ... ของอย่างนี้มันมีพัฒนาการ ไม่ใช่สิ้นสุดซะหน่อย... ละครไทยเดี๋ยวนี้ยังนิยมเทรนด์แบบญี่ปุ่นในเรื่องจำนวนตอนที่น้อย กระชับฉับไวเลย ... อีกหน่อยเกาหลีก็คงปรับให้เหมาะสมเองน่ะแหละ จากคุณ : _K_F_C_ - [ 4 มิ.ย. 52 10:41:21 ]

ความคิดเห็นที่ 15 คุณ : _K_F_C_ อ่านคห.แล้วรู้สึกว่าจะออกไปทางธุรกืจไหมคับ ผมไม่ชอบหนังที่หวังผลทางธุรกิจ การตลาด เอาใจคนดู ชอบหนังที่เกิดจากมุมมองผู้กำกับ ฝีมือนักแสดงคุณภาพ การพิถีพิถันในการเขียนบท ผมโหลดศึกลำน้ำเลือดมาดูเบื้องหลังเห็นความลำบากของการทำหนังสมัยก่อนมากๆ ถ้าไม่รัก ไม่ลุย คงไม่เห็นหนังสนุกๆ เพราะผมเห็นถึงความทุ่มเทของหลายส่วนที่รักในงานที่ทำจริงๆ ผมเคยเจอบทสัมภาษณ์นักแสดงจีนสมัยนี้มักไม่ชอบแสดงหนังย้อนยุค เพราะว่าลำบาก น่าเสียดายแทนคนดูจริงๆ ส่วนหนังเกาหลีเขาไม่ค่อยเน้นฉากการต่อสู้บนหลังม้า และผมยังสงสัยว่าเมื่อไรเขาจะเปลี่ยนการแต่งกายครับ สำหรับสาวๆเกาหลีสวยครับ แต่เสื้อผ้ากับทรงผมอันนี้ไม่ไหว ผมชอบชุดและทรงผมสาวจีนมากกว่าครับ จากคุณ : ต้มถ่าน - [ 4 มิ.ย. 52 14:47:52 ]

ความคิดเห็นที่ 16 เกาหลี  แดจังกึมเป็นเรื่องเดียวที่ติด ส่วนตัวคิดว่าละครเกาหลี plot ซ้ำซากมาก เช่น ไม่พระเอกหรือนางเอกเป็นโรคร้าย รักกันจนตายไปข้าง มุขโดนอุบัติเหตุจนความจำเสื่อม มุขพระเอกนางเอกต้องมาเช่าห้องอยู่ด้วยกัน มุขนางเอกป่วน หรือพระเอกติงต๊อง (หรือละครมันจะเป็นเหมือนกันทั่วโลก) อย่างดาราก็เล่นแต่บทซ้ำ ๆ ยกตัวอย่าง ชอยจีวู สิ เธอเล่นกี่เรื่อง ๆ ก็บทประมาณเดียวกันหมดเลย จนเบื่อแทน แต่ภาพยนต์มีความน่าสนใจหลากหลายมากกว่าละคร ดาราก็เจ๋งและใจถึงมาก ๆ จนอ้าปากค้างเลย (บางเรื่อง) ช่วง 80 - 90 หนังจีนมีความน่าสนใจ และสนุกสนานมาก ๆ เพราะมีผู้กำกับและดาราฝีมือดี บทเจ๋ง แค่บทประพันธ์ของจีนก็เพียบ แต่พอยุคหลัง ๆ มา ดาราไม่เจ๋ง บทละครไม่สนุกน่าติดตาม กระแสเลยชืดชาไปเยอะ ถ้าเทียบเฉพาะยุครุ่งเรืองของทั้งจีนกับเกาหลี เราว่าจีนสนุกกว่า แก้ไขเมื่อ 04 มิ.ย. 52 22:48:53 แก้ไขเมื่อ 04 มิ.ย. 52 22:48:08 จากคุณ : เป๋าตุง - [ 4 มิ.ย. 52 22:47:27 ]

ความคิดเห็นที่ 17 เราดูหนังประวัติศาสตร์เกาหลีไม่ได้เลย แม้แต่แดจังกึม ใคร ๆ ว่าสนุก ทำไมเราดูไม่รู้เรื่อง  แต่หนังจีนนี่ ดูได้ดูดี สงสัยความเคยชิน แบบเห็นเกาหลี มันไม่ใช่ มันเลียนแบบหนังจีนไงก็ไม่รู้ แต่หนังเกาหลีสมัยใหม่ ดูได้ พึ่งติดตามสองเรื่องกิมซุน กับเส้นทางแห่งรัก สรุปหนังจีนสนุกกว่าเยอะ จากคุณ : BabyBye - [ 5 มิ.ย. 52 14:51:55 ]

ความคิดเห็นที่ 18 คือ ข้าเจ้าเองก็มองในแง่ที่รับรู้ได้จากลักษณะของการเข้ามาบ้านเราของละครจากจีนและก็ประเทศอื่นๆ ในเอเชียนะ... มันอาจจะดูเป็นธุรกิจไปบ้างแต่มันก็คือความจริง... ถ้ามองในแง่ศิลปะข้าเจ้าเราอาจจะเทียบกันเร็วไปหน่อย ทุกอย่างมีวัฏจักร มีขึ้นก็ต้องมีลง ...ช่วงหนึ่งที่หนังจีนมันฮิตมาก ..ตอนนี้ก็เป็นคิวหนังเกาหลีบ้าง มันก็เท่านั้นเอง ...อยู่ที่สภาพสังคมและแนวความคิดของผู้ดูในแต่ละยุค สมัยนี้จะให้เป็นแบบชอร์บราเดอร์มันก็เชย ..หน้าผาเป็นก้อนโฟมปูสักหลาดสีเทามันก็ใช่เรื่อง... ในขณะที่คนที่มาทีหลังย่อมได้เปรียบ แต่ถ้านับดูแล้ว วงการบันเทิงเกาหลีเนี่ย เหมือนเด็กมัธยมเมื่อเทียบกับวัยใกล้แซยิดอย่างวงการบันเทิงจีนนะ... อันที่จริงจะเรียกจีนเลยมันก็ไม่ถูก ที่เราๆ ท่านๆ ชอบหนังจีนเมื่อก่อนมันไม่ใช่ของจีนแดง แต่เป็นของฮ่องกงหรือไต้หวัน ไม่ก็สิงคโปร์ ... ถ้าลองเอาละครจีนแดงมาเทียบดิ มีหวังตาย...เกาหลีกินเรียบ...     ...ทำไม plot ของเกาหลีถึงได้ดูเหมือนพายเรือในอ่าง... ข้าเจ้าเองก็ไม่ได้เรียนมาทางศิลปศาสตร์การละคร หรือนิเทศน์ศาสตร์ คงต้องไปถามเด็กคณะนั้นว่าองค์ประกอบของการทำละครมันต้องไล่จากอะไรบ้าง .. ต้องมีเกริ่นนำ บทส่ง จุดไคลแมกซ์ หรือจะเป็นแอนติไคลแมซ์ แล้วก็บทสรุป ..ที่เหลือคือศิลปในการนำเสนอว่าจะให้มันต่างหรือลำดับใหม่อย่างไรให้มันโดนใจคนดู... ลองเทียบอัตราส่วนหนังที่เป็นแนว Holpful กับ Tragidy ดูดิฮะ อย่างไหนมันค้างอยู่ในสมองเราง่ายกว่ากัน ... ทำไมอาจารย์จินหย่งถึงต้องใส่อะไรที่มันต้องแหวกแนวหรือกระชากอารมณ์ลงไปในนิยายของท่านเราถึงได้ติดกันงอมแงม ... หนังเกาหลีก็เหมือน... มันก็ต้องมีอะไรที่กระชากไส้อย่าง รักกันมาดีๆ ทะลึ่งมีคนมาบอกว่าเอ็งทั้ง 2 คนเป็นพี่น้องกัน ... ไม่ก็หักดิบไม่พระเอกความจำเสื่อมก็ต้องนางเอกเป็นเนื้องอก ไม่ก็เดินไปให้รถมันชนตายซะงั้นน่ะ... หนังแบบ cheer up แบบหนังญี่ปุ่นก็มีเกลื่อนแล้ว ทำไมเกาหลีต้องทำแบบเดียวกันให้ชาวบ้านเค้าค่อนขอดว่าไร้หัวคิด เลยต้องทำอะไรให้ถูกจริตคนบ้านเค้าและต้องแตกต่างไปในตัว ... อย่าง Beethoven Virus ที่ได้แรงบันดาลใจจาก Nodame Cantabile ..ดูเสร็จแล้วถ้าไม่รักก็เครียดตายไปเลย.. หรือตามนานจอมกษัตริย์เทพสววรค์ของป๋าเบ นั่นก็ใกล้เคียงกับคำว่า "กำลังภายใน" สุดแล้วนะ... เรื่องจะให้บทมันเหมือนหนังจีนที่เราชอบน่ะ... ถ้าคุณเป็นผู้สร้างคุณจะ happy มั้ยที่ทำในสิ่งที่มีต้นฉบับมาก่อนแล้ว แถมยังออกมาก่อนตั้งกี่เวอร์ชันแล้วก็ไม่รู้ (หรืออยากเป็นกัวเจี้ยงเวอร์ชันเกาหลีอะ... แต่ถ้าหวงหลงเนี่ย ยอมนะถ้าเอายุนอึนเฮมาเล่นน่ะ อิอิ) .....ถ้าจะเป็นข้อเสียตอนนี้ของละครเกาหลี คงต้องเป็นเรื่องยืดๆๆๆๆๆๆๆ นั่นแหละ... จนกว่าความต้องการของคนในบ้านเมืองเค้าจะเหมือนกับของเรา (ซึ่งมันไม่จำเป็นเลยยยย) ในเรื่อง "เอียน & เลี่ยน" ตอนนั้นคงได้เห็นบทที่กระชับน่าดูกว่านี้... แต่โดยปกติที่หนังเกาหลีมันเป็นแนวดราม่า หรือโรมานซ์ จะให้กระชับเป็นหนังบู๊หรือหนังตลกมันก็คงแปลกๆ อยู่ดี.. .... เรื่องเครื่องแต่งกาย... ถ้าคิดจะเปลี่ยนละครพีเรียดเกาหลีละก็ เห็นจะยาก ถ้าเราโดนถามกลับมั้งละว่าหนังไทยโบราณทำไมเอาแต่นุ่งโจงกะเบนกันตะพึดตะพือเราจะรู้สึกยังไงล่ะ... จริงมะ? มันวัฒนธรรมของเค้านะฮะ ที่ของจีนมีหลายแบบเพราะประเทศเค้ามันหลายเผ่าหลายแผ่นดินมาก... จีนเหมือนสมบัติผลัดกันชม เดี๋ยว 7 แค้วน เดี๋ยว 3 ก๊ก... เดี๋ยวเหลียว เดี๋ยวหวู่ ...เดี๋ยวมองโกล เดี๋ยวแมนจู ... มันต้องหลากหลายกว่าชาติอื่นๆแน่นอนฮะ (เผลอๆ หลากหลายที่สุดในโลกแล้วมั้ง) ... ส่วนตัวข้าเจ้าจะทำความเข้าใจพื้นเพประวัติศาสตร์บ้านเค้าก่อน ถึงจะดูละครสนุกแล้วก็ไม่รู้สึกหน้าเบื่อจนเกินไป (คือรู้แค่งูๆ ปลาๆ พอแค่ปรับทัศนคติให้รับได้ อย่างฮงกิลดองที่มันแหวกเอาเรื่องข้าเจ้ายังรับได้เลย).. ไว้ว่างๆ ใครมีโอกาสได้ศึกษาเกี่ยวกับเกาหลีมากขึ้น คงต้องรบกวนมาแชร์ให้ฟังกันบ้างนะฮะ จะได้เข้าใจละครบ้านเค้ามากขึ้นด้วย... จากคุณ : _K_F_C_ - [ 6 มิ.ย. 52 07:37:48 ]

ความคิดเห็นที่ 19 หนังจีน เหนือเมฆ กว่าอยู่แล้ว หนังเกาหลี ยิ่งดูยิ่ง น่าเบื่อ จากคุณ : Magical_me - [ 6 มิ.ย. 52 16:51:08 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ส่วนตัวแล้วชอบดูหนังจีนของ TVB มากกว่าค่ะ ไม่ค่อยถูกกับ logic หนังเกาหลีเท่าไหร่ จากคุณ : coeury (coeury) - [ 7 มิ.ย. 52 01:50:42 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ^ ^ ^ คห.18 .... เรื่องเครื่องแต่งกาย... ถ้าคิดจะเปลี่ยนละครพีเรียดเกาหลีละก็ เห็นจะยาก ถ้าเราโดนถามกลับมั้งละว่าหนังไทยโบราณทำไมเอาแต่นุ่งโจงกะเบนกันตะพึดตะพือเราจะรู้สึกยังไง ละครพีเรียดไทยมีเครื่องแต่งกายหลายยุคครับ ชุดก่อนสุโขทัย แต่ไม่ค่อยมีละครให้ดู ผมเคยเจอในห้องสมุด ชุดยุคสุโขทัย ชุดแบบอยุธยา รัตนโกสินทร์ตอนต้น ยุคหลังเลิกทาส เครื่องแต่งกายและทรงผมของบ้านเราเปลี่ยนครับ อีกทั้งเหนือ ใต้ อิสาน ก็แต่งกายแตกต่าง และอาจเป็นอย่างที่คุณ : _K_F_C_ บอกผมดูหนังอิงฯเกาหลีไม่หนุกอาจเป็นเพราะผมไม่รู้ประวัติศาสตร์ของเขาก็ได้ แต่ถ้าเมื่อไรเขาสามารถมีฉากต่อสู้ผาดโผน เช่น ต่อสู้บนหลังม้า หรือมีชั้นเชิงอุบายแยบยล คือผมมองว่าหนังอิงฯ มันน่าจะมีกลเม็ดพวกนี้อยู่เยอะๆ อีกอย่างประวัติศาสตร์บ้านเขาจากที่คุณเล่าก็มีความรุนแรงเขาก็น่าจะถ่ายทอดออกมาได้ ส่วนหนังรักสมัยใหม่ไม่ต้องพูดถึงผมไม่ดูอยู่แล้ว คือผมชอบดูหนังย้อนยุคครับ จากคุณ : ต้มถ่าน - [ 7 มิ.ย. 52 20:52:14 ]

ความคิดเห็นที่ 22 มีฮะ ...ตอนข้าเจ้าไปพักที่โซลเปิดดูไม่รู้ของค่ายไหน เป็นหนังอิงฯ น่าจะสมัยถังเนี่ยแหละ เป็นต้าถังตีกับเมืองใดเมืองหนึ่งในกลุ่ม 3 ก๊กของเกาหลี (เพ็กเจ ชิลลา โครรูยอ) แต่คงไม่ได้เข้ามาไทยเพราะมันเกือบ 2 ปีได้แล้ว แต่เรื่องลีซานที่พึ่งอวสานในเกาหลีปีที่แล้วยังได้ฉายบ้านเราต่อทันทีเลย.. เรื่องเครื่องแต่งกายบ้านเค้าจริงๆ มีหลายยุคเหมือนกันฮะ แต่มันหลายชนเผ่าหลายแคว้นมากกว่า แล้วก็... เรื่องการทำศึกอยากให้เข้าใจคร่าวๆ ว่า.. - สมัยก่อนยุคโชซอน ดินแดนแถบนี้เจอการเมืองระดับไตรภาคีอยู่เรื่อย เหนือเจอเหลียว ลงมาก็พวกจีนถัง จีนซ้อง ...หลังๆ ก็ยังอุตส่าห์มีญี่ปุ่นอีก - ที่น่าจะเด่นคือสงครามแบบทางน้ำ ที่เป็นความภาคภูมิใจว่าเค้าสามารถต่อสู้ต้านทานญี่ปุ่นได้ อันนี้คงต้องรอดูต่อไปว่าเค้าจะมีคนทำหนังมั้ย.. - แต่ส่วนใหญ่ คาบสมุทรเกาหลีไม่ว่ายุคไหนจะเป็นลูกไล่ตลอด .. คิดว่าคนในชาติเค้าจะ happy มั้ยกับเรื่องราวหนังที่จะหยิบจับตอนไหนมาทำก็มีแต่เป็นเมืองขึ้น ต้องส่งบรรณาการ หรือรบแพ้โดนกดขี้ตลอด... - แค่การเมืองภายในของเค้า เราๆ ท่านๆ ดูผ่านช่อง 3 ก็น่าจะเห็นๆ กันอยู่ว่ามันเน่าเฟะขนาดไหน ...ช่วงที่สวยงาม มีแง่มุมพอทำให้มันดูมีตอนจบได้ก็อย่างที่เราได้ดูทางช่อง 3 ล่ะฮะ... จะเหลือก็นอกจากพระเจ้าจองโจ ก็เห็นจะมีมหาราชอีกองค์ที่เป็นทรงบัญญัติอักษรเกาหลีขึ้นให้คนในชาติมีภาษาเป็นของตนเอง .. แต่เนื้อเรื่องน่าจะแบนราบแบบประมาณเราอยากดูหนังพระราชประวัติพ่อขุนรามฯ ของเรานะ (เผลอพ่อขุนรามฯ ของเรายังน่าจะมันกว่าซะอีกเพราะพระองค์จัดได้ว่าเป็นลีซาน + พระเจ้ากวางแกโต เอาเรื่องอยู่) ... ..... มีอีก plot หนึ่งที่เริ่มกำลังมาแรงในกระแสหนังเกาหลีย้อนยุคนะ ... Frozen Flower ไง.. หนังจอใหญ่ย้อนยุคหลายเรื่องของเกาหลีรู้สึกเล่นประเด็นแบบนี้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ นะ... แถมหนังจีนแนวนี้ก็ไม่ค่อยมีซะด้วย... ชอบมะ ..ชอบมะ ..ชอบม้ายยยย อิอิ แก้ไขเมื่อ 08 มิ.ย. 52 01:53:35 จากคุณ : _K_F_C_ - [ 8 มิ.ย. 52 01:51:15 ]

ความคิดเห็นที่ 23 เข้ามาเชียร์หนังจีนด้วยคนจ้ารู้สึกว่าฝั่งจีนเขาทำได้สนุกทั้งโบราณทั้งสากลนะ อยากให้ช่อง 3 เอาเรื่องเก่า ๆ สมัยที่ช่งเขาทำให้หนังจีนรุ่งเนี่ยมาฉายอีกด้วยซ้ำแทนเวลาของกิมจิอะ.... ส่วนตัวคิดว่าหนังจีนกำลังภายในของทีวีบีหลัง ๆ นี่เน้นเอฟเฟคไปเยอะไม่สมจริงเหมือนก่อนเลย.... เกาหลีย้อนยุคไม่ได้บอกว่าไม่ดีแต่เห็นด้วยที่บางคนบอกน่าเบื่อเราว่าเขาทำดีกกว่าสมัยใหม่อีกนะ....ย้อนยุคนี่ดูพล็อตเหมือนกันไปทุกเรื่องเลย ลีซานเปิดมากี่ทีก็ยังเนิบ ๆ อยู่เลย.... จากคุณ : Demo<why?> - [ 8 มิ.ย. 52 22:33:58 ]

ความคิดเห็นที่ 24 Frozen Flower ใช่หนังรักร่วมเพศเปล่าครับ ถ้าใช่... ผมขอลา ขนาดความฝันในหอแดง ที่เป็นวรรณกรรมสุดแสนจะคลาสสิกจีนผมยังไม่ดู อาเล็กซ์ซานเดอร์ที่มีฉากรบตื่นตาตื่นใจ แต่ดันทะลึ่งมีบทแบบนี้ผมยังไม่คิดจะดูด้วยซ้ำ แต่ก็ต้องยอมรับสมัยก่อนขันทีกับฮ่องเต้ใกล้ชิดสนิทสนมกันมาก พอๆกับนางสนมที่มีกันเป็นพันๆคน ขอบคุณคุณ : _K_F_C_ ผมอ่านข้อมูลเกาหลีของคุณแล้วแข็งโป๊กจริงๆครับ จากคุณ : ต้มถ่าน - [ 8 มิ.ย. 52 23:22:22 ]

ความคิดเห็นที่ 25 เราว่ามันก็มีความเด่นกันคนละแบบนะคะ ในแง่ของโปรดักชั่น เราว่าหลังๆ ของเกาหลีเค้าเน้นในรายละเอียดมากกว่าประณีตมากกว่า ใส่ใจมากกว่าของจีน ไม่ว่าจะในแง่มุมเล็กน้อย อย่างการเดินเหิน การทำความเคารพ แม้แต่ท่าของคนหามแคร่ เค้าก็ยังพิถีพิถันเลย แต่เรื่องบท เราว่ายังดำเนินเรื่องอืดไป อาจเป็นเพราะเค้าอยากจะใส่รายละเอียดลงไปแบบเสียดายข้อมูลก็ได้ ในขณะที่ของจีนยุคนี้ มักจะทำแบบเร่งรีบ ทำแบบเป็นสูตรสำเร็จ เอาแบบทำเพื่อการค้าเข้าว่า โดยเฉพาะการกำหนดตอนแบบ 40 ตอนจบนี่ น่าจะมีส่วนทำให้บทหนังเสียอรรถรสอย่างมาก เพราะหลายเรื่องที่ตอนช่วงต้นทำท่าเหมือนจะดี แต่พอเดินเรื่องไปได้พักหนึ่ง ก็จะต้องมีช่วงที่เสริมเข้ามาแบบยืดบท ให้หนังมันยาวๆ เข้าไว้ พอใกล้จบค่อยวนกลับเข้าเรื่องมาใหม่อะไรแบบนี้ ซึ่งดูจะเป็นธรรมเนียมที่ทำให้งานที่ผลิตออกมาคุณภาพต่ำลง เรื่องฝีมือการแสดงของทั้งสองชาติ ก็มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวต่างกัน ดาราเกาหลีจะเล่นบทโศกน้ำตาคลอได้ดี ถ่ายออกมาจะดูสวย แต่อาจเพราะภาษาที่เวลาพูดต้องขยับปากขยับกล้ามเนื้อมาก ทำให้หลังๆ ดูแล้วชักจะรำคาญ โดยเฉพาะดาราหญิง ไม่ทราบทำไมต้องยื่นปากย่นหน้าซะขนาดนั้นดูแล้วขัดตาเหมือนทำบล็อกกันออกมา คนไหนคนนั้นทำท่าเหมือนกันหมด สงสัยจะมีครูคนเดียวกัน ท่าโกรธฟึดฟัดของดาราชายก็มักจะถอดแบบกันมาเช่นกัน ลองสังเกตดูรับรองว่าจะต้องเห็นด้วยกับเรา ว่ารูปแบบการแสดงของเค้าจะออกมาเป็นบล็อกเหมือนๆ กัน จะหล่อต้องหล่อแบบนี้ จะยิ้มต้องยิ้มแบบนี้ เดินต้องเดินแบบนี้ อะไรทำนองนี้ เพราะเหตุนี้ เค้าก็เลยผลิตหนังออกมาเป็นอุตสาหกรรมกันได้ เพราะมีบล็อกสำหรับดาราเอาไว้เรียบร้อย ถ้าหน้าไม่หล่อไม่สวยก็ใช้วิธีศัลยกรรมเอาได้ ไม่มีปัญหา ส่วนของจีนนี่ก็สไตล์การแสดงของใครก็ของใคร ดังนั้นดาราคนไหนที่ฝีมือการแสดงเป็นที่ยอมรับ ถูกใจตลาด ดาราคนนั้นก็จะฮอตงานเข้าจนรับไม่หวาดไม่ไหว คนดูก็เลยต้องดูหน้าเดิมๆ ซ้ำๆ ของดาราคนนั้นกันจนเบื่อ และที่แปลกก็คือถ้าดาราคนนั้นดังมาจากบทบาทแบบไหนก็จะได้รับบทบาทแบบนั้นมันทุกเรื่อง ฝีมือก็เลยได้แต่พัฒนาอยู่ที่เดิมนั่นแหละ แต่ปัจจัยที่สำคัญว่าหนังจะสนุกไม่สนุก เราว่าอยู่ที่ผู้กำกับและคนเขียนบทค่ะ ถ้าผู้กำกับดี คนเขียนบทเก่ง หนังก็น่าจะออกมาดีได้ แต่ก็อย่างว่าสมัยนี้อะไรก็ต้องเอาตัวเงินวัด ผู้กำกับทำหนังเพราะเงิน คนเขียนบทก็เขียนเพราะเงิน เค้าก็ทำๆ ไปแบบสุกเอาเผากิน เสร็จเร็วก็ได้เงินเร็ว แล้วงานมันจะออกมาดีได้เหรอคะ???   ก็สังคมมันบีบคั้น!!!! จากคุณ : Q-g (novelle) - [ 9 มิ.ย. 52 10:48:17 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ไม่ชอบหนังจีน จากคุณ : ซูรากัน - [ 9 มิ.ย. 52 16:39:53 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ขอลิ้งค์ ไปกระทู้ กระทู้รำลึกหนังจีนเก่าๆ หน่อยค่ะ ตอนนี้หา ไม่เจออาทิตย์ก่อนเข้าทางกระทู้แนะนำ ตอนนี้มานหายไปอ่ะค่ะ จากคุณ : mol98 - [ 9 มิ.ย. 52 18:42:28 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ^ ^ ^ เปิดตำนานหนังจีนจอแก้วในเมืองไทย By Stardom http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A7924179/A7924179.html จากคุณ : ต้มถ่าน - [ 9 มิ.ย. 52 20:43:50 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ขอบคุณ คุณต้มถ่านมากค่ะ จากคุณ : mol98 - [ 10 มิ.ย. 52 07:02:09 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ถ้าไม่ใช้ smart search คงไม่เห็นกระทู้นี้ซะแล้ว จะบอกว่ายุคหนังจีนรุ่งเรืองสนุกกว่าหนังเกาหลีอิงประวัติศาสตร์ตอนนี้ก็เหมือนเชียร์หนังจีนเพราะเพิ่งตั้งกระทู้หนังจีนไปหยกๆ แต่พูดแบบไม่มีอคติก็ต้องบอกว่ามันเป็นแบบนั้นจริงๆ ของเกาหลีที่ชอบจริงๆนี่สำหรับตัวเองมีแค่เรื่องเดียวคือแดจังกึม   นอกนั้นยังไม่ถูกใจเท่าไหร่เพราะแต่ละเรื่องนี่เกือบร้อยตอนทั้งนั้น ยาวเกินไปทำให้ขาดความกระชับ ไม่สนุกเร้าใจ และซ้ำซากจำเจเป็น pattern ที่เดาออกเหมือนหนังไทย   ข้อดีคือ production สวย  แต่จุดนี้จะเอาไปเปรียบเทียบกับหนังจีนยุคเก่าไม่ได้เพราะคนละยุคสมัยกัน  สมัยนี้ได้เปรียบแน่อยู่แล้วในจุดนี้ ในด้านความหลากหลายของบทก็สู้หนังจีนไม่ได้อีกนั่นแหละ  เพราะจีนมีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่าเกาหลีแบบเทียบกันไม่ได้    ทำให้เนื้อเรื่องมีความหลากหลายซับซ้อนน่าสนใจกว่าของเกาหลีที่มีอยู่แค่กระผีกถ้าเทียบกับจีน ของเกาหลีก็เลยวนไปวนมาอยู่ไม่กี่ราชวงศ์  ดูไปเรื่อยก็อิ่มและเอียน   อยากให้ลองเอาหนังจีนในตำนานอย่างศึกสายเลือด  ศึกสองนางพญา  อุ้ยเสี่ยวป้อ ฯลฯ มาฉายเวลาเดียวกับลีซานดูจัง    อย่างขุนศึกตระกูลหยาง  The Yang’s Saga 1985 ที่เอามารีรันก็ยังมีคนชอบอยู่เลย จากคุณ : stardom - [ 11 มิ.ย. 52 02:54:52 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ^ ^ ^ กระผีก... มาตราตวงข้าว เท่ากับ ๑ ใน ๔ ของกระเพาะ เล็กน้อย กระผีกริ้น...  นิดหน่อย น้อยมาก เล็กน้อย แหะๆ อ่านแล้วมันสะดุดอ่ะครับ ไม่เคยได้ยินมานานมาก นับถือๆ จากคุณ : ต้มถ่าน - [ 11 มิ.ย. 52 10:44:33 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ^ ^ ^ ข้อดีคือ production สวย  แต่จุดนี้จะเอาไปเปรียบเทียบกับหนังจีนยุคเก่าไม่ได้เพราะคนละยุคสมัยกัน  สมัยนี้ได้เปรียบแน่อยู่แล้วในจุดนี้ .................. ถ้าเปรียบกับจีนใหญ่ฟอร์มยักษ์ที่ฉายทางช่อง 9 ได้ไหมครับ เห็นเรื่องต่อจากไซซีอลังการทีเดียว ความจริงที่ผมเปรียบหนังเกาหลีย้อนยุคเพราะเห็นว่าดังก็เลยเปรียบกับหนังจีนย้อนยุคตอนดังเหมือนกัน เห็นทีคงเปรียบเทียบผิด มันสู้ไม่ได้จริงๆ เอาไว้ผมดูหนังจีนฟอร์มยักษ์จากแผ่นดินใหญ่หลายๆเรื่อง แล้วผมจะมาตั้งกระทู้เปรียบเทียบใหม่ดีกว่า เสียดายของช่องเก้าดันไปฉายช่วงเวลาทำงาน หรือเป็นเพราะเป็นหนังผู้หญิงอ่ะเปล่า ถ้าฉายช่วงเวลาสามก๊กสมัยก่อนอาจมีคนดูเยอะกว่านี้ จากคุณ : ต้มถ่าน - [ 11 มิ.ย. 52 10:54:43 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ด้าน production ถ้าเปรียบกับจีนใหญ่ฟอร์มยักษ์ยุคนี้ ของจีนสู้ได้สบายมากจ้า แต่ที่ไม่ดังก็เพราะได้เวลาฉายไม่ดีเหมือนหนังเกาหลีมากกว่า จากคุณ : stardom - [ 11 มิ.ย. 52 19:53:27 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ซี่รี่ย์เกาหลีแนวประวัติศาตร์ กับหนังจีน เราคิดว่า เรื่องเนื้อหาและการเดินเรื่องเราว่าของจีน เป็นอะไรที่ดูสนุกแล้วน่าติดตามมากกว่า ซี่รี่ย์เกาหลีแนวประวัติศาตร์ ที่ดูมี 2เรื่อง  ก็มีจูมงแล้วก็เป็น เพียงเรื่องเดียว ถึงจะดูจนจบเราก็ยังคิดว่า เรื่องนี้ไม่ได้แสดงที่ศักยาภาพของจูมงเท่าที่ควรจะเป็นเหมือนอย่างชื่อเรื่อง ดูแล้วท่านจูมง ได้แผ่นดินมาแบบไม่ผ่านอะไร ให้สมกับชื่อเรื่องว่า จูมง มหาบุรุษกู้บัลลังก์ เรื่องที่2 ที่ดู ก็คือ บัลลังก์จอมนาง (เรื่องนี้ฉายทาง ทรูวิชั่น) เรื่องนี้คิดว่าเอามาสู้กับหนังจีนยุครุ่งเรืองได้ เนื้อหาออกแนวแย่งอำนาจกันในวัง แบบมีแผนซ้อนให้ตามติดดู..ว่าต่อไปจะเป็นอย่างไร.. แดจังกึมที่ ใครๆว่าสนุก ทำไมเราดูแล้วก็เหมือนกับดูรายการทำอาหารนะค่ะ..เรื่องดูอยู่2 วัน ส่วนซี่รี่ย์เกาหลีแนวประวัติศาตร์ เรื่องอื่นๆก็ไม่ได้ดูเลยนะค่ะ ปล..เราเน้นเนื้อเรื่องของหนังเป็นหลักนะค่ะ เสียดายว่า หนังจีนแนวกำลังภายในและประวัติศาสตร์ของจีนออกมาใหม่ๆนี้มีน่าดูเยอะแต่ไม่มีช่องไหนเอามาฉาย จากคุณ : jdear - [ 12 มิ.ย. 52 13:25:15 ]

ความคิดเห็นที่ 35 เห็นด้วยกับคคห.25 ค่ะ ที่ว่าเกาหลี มีบล็อกสำเร็จรูปในการแสดง ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย ดูไปดูมา อากัปกิริยามันเหมือนกันทุกตัวนักแสดง ขอยอมรับว่า มีช่วงหนึ่งเหมือนกันที่ติดซีรีส์เกาหลี แต่พอดูไปได้ไม่กี่เรื่องก็รู้สึกงั้นๆ ไม่สนุก ไม่ตื่นเต้น ไม่อะไรเลย........พล็อตเหมือนเดิม วนไปเวียนมา....ความสวย ความหล่อของดาราก็ผ่านมีดหมอมาทั้งนั้น เห็นแล้วนึกถึงสัจธรรมของชีวิต (แหะ แหะ เกี่ยวกันไหมนี่..) ยิ่งซีรีส์ย้อนยุคไม่ต้องพูดถึง ดูแค่ 2 เรื่องเท่านั้น นั่นคือ ดาโม และ จูมง ดูดาโม เพราะกลิ่นอายมันคล้ายหนังจีนกำลังภายใน และคิวบู๊ถือว่าใช้ได้ ดูจูมง เพราะเนื้อเรื่องก็พอไหว แต่คิวบู๊ห่วยแตกและไม่สมจริง สุดท้าย ยังไงดิฉันก็ว่า หนังจีนยุคก่อนสนุกกว่าเกาหลีหลายเท่านัก เสื้อผ้าหน้าผมของตัวละครหญิงจีน (ที่ไม่ใช่ผ้าฟูฟ่อง พองๆ) ก็สวยงาม บทละคร บทพูด คิวบู๊ กินขาดเกาหลี แต่แปลกที่ดิฉันไม่ชอบหนังจีนแผ่นดินใหญ่เลย อลังการ์งานสร้างอย่างเดียวแต่ตัวหนังกลับไม่มีอะไรประทับใจ แถมเสื้อผ้าหน้าผมก็แปลกประหลาด ถ้าจะชอบก็คงเป็นของยุคเก่า เอทีวี+ทีวีบี+ไต้หวัน (เปาบุ้นจิ้น ซือกง อิทธิฤทธิ์ภูมิเทวดา) ปล. ว่าแล้วก็คิดถึงหนังจีนอีกแล้ว จากคุณ : ไทยเอย - [ 12 มิ.ย. 52 23:22:29 A:58.8.53.226 X: TicketID:108535 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ชอบหนังจีนมากกว่านะคะ หนังเกาหลียังสู้ไม่ได้นะคิดว่า ที่ชอบหนังเกาหลีก็มี 2 เรื่องคือแดจังกึม กับจูมง แค่นั้นเอง โดยส่วนตัวคิดว่าประวัติศาสตร์ไทยน่าดู ทำดีกว่าเกาหลีเยอะ แล้วบางทีหนังเกาหลียืดเกินไป แต่ไทยก็กระชับเกินไปเหมือนกัน หนังจีนนี่มีความพอดีๆค่ะ อย่างที่ว่ายุค 80-90 ทำดีจริงๆ แต่พอมาปัจจุบันแล้วชอบแต่งเรื่องออกทะเล เวอร์จัดบางที แล้วดูไม่มีจุดเด่นให้ติดตาม ยังไงไม่รู้อ่ะค่ะ แต่ที่ดีๆยังพอมีอยู่ แต่ก็หาที่จะมาฉายในไทยยาก เพราะมีแต่หนังเกาหลีเบียดเสียดแน่นไปหมด ไม่ก็มาฉายซะตี 2 ตี 3 กันไปเลย ตอนนี้ย้อนยุคๆที่ดูก็ตระกูลใหญ่ในม่านเมฆนะคะ ส่วนตัวคิดว่าดีนะเรื่องนี้ ให้คิดอะไรได้หลายอย่างเลย จากคุณ : sAilOvEnOk - [ 23 มิ.ย. 52 21:55:54 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ติดละครเรื่องแรกก็มังกรหยกจากนั้น30กว่าปีแระ...มีแต่หนังจีน,ละครจีน,เรียนภาษาจีน,เที่ยวก็ไปเมืองจีน..อิอิและที่สำคัญแม่ยายกะภรรยาก็จีน...555 จากคุณ : ปึงปอยี้ (ปึงปอยี้) - [ 24 ก.ค. 52 10:11:59 ]