PANTIP.COM : A7947802 ใครรู้จัก ลูกศร ธนาภรณ์ รัตนเสน [ดารา-นักแสดง]

ความคิดเห็นที่ 6

ลูกฉันเป็นไฮเปอร์
“ปัจจุบันก็ทำอยู่ 2 ธุรกิจค่ะ คือ ทำร้านวีดีโอ แฟรนไชส์ กับเปิดบริษัทผลิตรายการทีวี ผลิตโฆษณา และงานโปรดักท์ชั่นต่างๆ อย่างตอนนี้ก็มีรายการผู้หญิงดอทคอม ทางช่อง 5 ออกอากาศทุกวันอาทิตย์ แล้วก็รายการสมาร์ทไลฟ์ ออกอากาศทุกวันอังคาร ก็เหนื่อย แต่อะไรก็ไม่เหนื่อยเท่ากับการเลี้ยงลูก เหนื่อยแบบถึงคอเลยค่ะ ใครถามจะมีลูกคนที่ 5 ไหม โห! ถ้ามี คงต้องล้นออกมานอกคอแน่ๆ สุดๆ เลย”

ลูกๆ ทั้งสี่ของเธอ เรียงตามลำดับ คือ น้องแฟร์รี่-ด.ญ.กัลญากร จิตต์จำรึก อายุ 9 ขวบ, น้องเฟมี่-ด.ช.รัชกร จิตต์จารึก อายุ 5 ขวบ และลูกแฝดชาย-หญิง คือ น้องเฟย์-ด.ญ.อาภากร จิตต์จารึก และ น้องโฟร์ท-ด.ช.ภาสกร จิตต์จารึก อายุ 3 ขวบ เธอบอกว่า แต่ละคนนิสัยแบบไฮเปอร์กันทั้งนั้น

“พี่ก็ไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือเปล่านะ แล้วตัวพี่เองก็ชอบให้ลูกทำกิจกรรมด้วย เพราะฉะนั้นลูกๆ ของพี่แตละคนก็จะมีวิชากิจกรรม วิชาพิเศษเยอะมาก (เน้น) อย่างลูกสาวคนโต ถ้าไล่นิ้วนะ ก็มีเรียนเปียโน เรียนไวโอลิน เรียนจูเกิ้ง เรียนภาษาจีนกลาง เรียนภาษาฝรั่งเศส เรียนบัลเล่ต์ เรียนยิมนาสติก แล้วก็เรียนว่ายน้ำ ส่วนลูกชายแต่ละคนก็เรียนไล่กันมา มันก็เลยกลายเป็นว่า ไหนจะการบ้าน ไหนกิจกรรม ไหนต้องแบบ..ดูแลสุขอนามัยต่างๆ ให้ลูกๆ สารพัดไปหมด เหนื่อยก็เหนื่อย แต่ถึงจะเหนื่อย แต่ก็เหนื่อยแบบมีความสุข”

เงินซื้อภาษาไม่ได้
“พี่โชคดีที่ว่า พี่มีคุณแม่ช่วยดูแลหลานๆ ให้ อย่างคนโตนี่ คุณแม่เขาจะช่วยไปรับ-ไปส่งให้เลย พี่กับสามีก็จะดูสามคนที่เหลือ ก็ต้องจัดตารางดีๆ ขณะเดียวกัน ก็ต้องเอาใจใส่สามีด้วยนะ คือบางคนอาจทุ่มให้แต่ลูก แต่ไม่มีเอาใจใส่สามี แต่พี่จะเป็นแบบว่า สามีอยากไปเที่ยวหรือ เอาสิ ไปไหนไปกัน ตี 2 ตี 3 ฉันก็ไปด้วย พี่จะไม่ทิ้งเขา เพราะเห็นตัวอย่างหลายครอบครัวแล้วที่เขาทุ่มให้ลูก แล้วแฟนก็ไปมีของแฟน พี่ว่ามันไม่ดี คือมันควรจะบาลานซ์กันค่ะ ซึ่งไหนจะงานนอกบ้านและในบ้าน เขาถึงว่า เป็นแม่คนเหนื่อยอย่างนี้นี่เอง

...อย่างเวลากลับมาบ้านปุ๊บ ก็ต้องดูแลมีเรื่องอาหารการกินให้ลูกกับสามี เสร็จแล้วก็ให้ลูกๆ ทำการบ้าน ซ้อมเปียโน ซ้อมยิมนาสติก ซ้อมให้ครบทุกอย่าง ภายใน 6 โมงเย็น ถึง 3 ทุ่ม ต้องแบบว่าช่วยกันกับสามี อย่างบางวิชาเราก็ต้องสอนเขาเอง เพราะที่ให้ลูกเรียน มันเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด (เรียนอินเตอร์)”

ไม่เป็นการกดดันไปหรือ ที่ให้ลูกเรียนอินเตอร์ตั้งแต่เล็ก
“ที่พี่ให้ลูกเรียนอินเตอร์ตั้งแต่เล็ก เพราะจากประสบการณ์ตัวเองนะ ทำให้รู้เลยว่า ภาษาสำคัญมาก (เน้น) พูดได้คำเดียวว่าเงินซื้อภาษาไม่ได้ คุณอยากได้ภาษาจีน คุณมีเงินเท่าไหร่ คุณก็ซื้อไม่ได้ มันขึ้นอยู่ที่การปูพื้นฐาน ถ้าเกิดพอโตขึ้น อย่างเวลาไปเรียนเมืองนอก ต้องใช้คำว่า ‘ดิ้นรนกว่าจะจบกลับมา’ เพราะกว่าจะพูดได้ มันทรมานมาก (เน้น)

...อย่างตอนไปเรียนปริญญาโท พี่รู้เลยว่าการที่เราภาษาไม่ดีนั้น หนึ่ง มันทำให้ผลการเรียนของเราไม่ดี สอง เวลาเราไปอยู่เมืองนอก เราจะทรมานมาก ถ้าไม่เข้าใจภาษาของเขา และสาม เวลาเราเข้าสังคม เราพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ มันลำบากมาก เพราะฉะนั้นพี่จึงพยายามปูพื้นฐานให้ลูกตั้งแต่เขายังเล็ก ไม่อยากให้เขาไปเจอกับประสบการณ์ที่ตัวเองเจอ ก็เลยยอมเสียเงิน ยอมเหนื่อย ยอมทุกอย่าง เพื่อให้ลูกๆ ได้มีพื้นฐานการศึกษาที่ดี อยากจะบอกว่าค่าเรียนแพงมากเลย แต่ว่า เป็นไงเป็นกัน ขอให้ลูกได้ก่อน แล้วค่อยมาว่ากันอีกที”

ควบคุมน้ำหนักสไตล์ลูกศร
แม้จะร้างลาจากบทนางเอกไปนาน แต่สำหรับเราแล้ว มีเพียงริ้วรอยเล็กน้อยที่บ่งบอกถึงความเปลี่ยนแปลงของกาลเวลา ทว่า รูปร่างหน้าตานั้นยังคงเค้าของความสาวและสวย เช่นที่เคยเห็นในโทรทัศน์ อะไรคือเคล็ดลับในการดูแลตนเองของเธอ ลูกศรเผยว่า

“สิ่งสำคัญคือ พี่จะพยายามให้เวลากับการออกกำลังกาย อย่างตอนเช้าพี่จะทำงานเต็มวันถึงเย็น เหมือนผู้หญิงออฟฟิศทั่วไป แต่อาศัยที่ทำงานพี่กับที่พักใกล้กัน ตอนเที่ยงพี่ก็จะขึ้นมาออกกำลังกาย เล่นโยคะ เต้นแอโรบิก ทุกสัปดาห์ สัปดาห์ละ 3 วัน เพื่อให้ร่างกายสดชื่น แข็งแรง

...นอกจากนี้ พี่ก็จะเน้นเรื่องอาหารการกินควบคู่ไปด้วย โดยจะเน้นทานข้าวโอ๊ต ทานอาหารที่มีกากใยมากๆ และเน้นทานผักผลไม้ อย่างบางวันพี่จะไม่ทานข้าวเที่ยงเลย ทานแต่ผลไม้ ทานมะเขือเทศสดๆ และแนะนำให้หาเครื่องชั่งน้ำหนักไว้ที่บ้านสักเครื่อง เพราะบางคนเวลาอ้วนจะไม่รู้ตัว ฉะนั้น การชั่งน้ำหนักเช้าที เย็นที จะช่วยให้สามารถควบคุมน้ำหนักตัวเองได้”

...ตอนท้องน้องเฟย์กับน้องโฟร์ทนะ โอย.. ไม่อยากจะบอกว่ามันใหญ่มาก ท้องก็บาง เพราะพี่เป็นคนทองบ้างอยู่แล้ว แล้วเส้นเลือดอะไรเนี่ย เห็นหมดเลย ตอนนั้นรู้สึกว่าตัวเองท้องโตมาก แต่น้ำหนักขึ้นไม่เท่าไหร่นะ เพิ่มประมาณ 18 กิโลเอง ส่วนใหญ่จะถูกเทลงไปที่ท้องหมด อาจเป็นเพราะพี่เป็นคนน้ำหนักขึ้นไม่มากด้วยมั้ง นี่ขนาดท้องแฝด 2 นะคะ ถ้าแฝด 3 นี่ไม่อยากนึกเลยว่ามันจะใหญ่โตขนาดไหน

...แต่พี่ก็ลดน้ำหนักง่ายนะ เอาน้ำหนักลงเร็วมากเลยล่ะ คือพี่จะเน้นทานพวกข้าวโอ๊ต ทานผักผลไม้เยอะ แล้วออกกำลังกาย ตอนนั้นน้ำหนักลงเร็วมากเลยนะ 5 วัน 2 กิโลนี่ล่ะ แต่ก็ไม่ได้อดแบบว่าไม่ทานอะไรเลย จะทานนมโลว์แฟตเยอะ ซึ่งช่วยให้ระบบขับถ่ายดีมาก น้ำหนักก็เลยลดฮวบๆ ที่สำคัญ พี่ฝากไว้เลยนะ ถ้าใครอยากผอม ควรทานอาหารเย็นก่อนนอน 6 ชั่วโมง คือ จะนอนกี่โมงไม่รู้ล่ะ แต่นับถอยหลังไป 6 ชั่วโมง แล้วตอนดึกๆ ถ้าหิว ก็พยายามอย่าไปคิด ให้ตัดใจว่าพรุ่งนี้จะผอม แล้วรุ่งขึ้นก็ไปชั่งน้ำหนักดูว่าได้ผลหรือไม่”

ดูแลลูก อย่าลืมดูแลตัวเอง
“พี่มองว่า จากที่เห็นรอบตัวนะ และก็จากหลายๆ คน จากเพื่อนด้วย แม่หลายๆ คนจะมีสัญชาติญาณของความเป็นแม่กันสูง พอคลอดลูกปุ๊บ ก็จะปล่อยตัว ไม่ค่อยดูแลตัวเอง แต่อยากบอกว่า ยังไงๆ การดูแลตัวเองก็สำคัญ ไม่ใช่เพื่อความสวยงามเพียงอย่างเดียว แต่เพื่อสุขภาพด้วย และเพื่อสุขภาพจิตของตัวเราเอง เพราะฉะนั้นมันไม่ยากที่จะดูแล

...คือหลายคนมักบอกว่าไม่มีเวลา ดูอย่างพี่ก็ได้ คิวทุกอย่างมันแน่นไปหมด แต่เราก็มีระเบียบวินัยของตัวเอง ศรเนี่ย ช่วงเที่ยงก็จะออกกำลังกายสักหน่อย คุณแม่จะออกกำลังแบบไหนก็ได้ ตามใจชอบค่ะ แต่ต้องออกกำลังแบบให้ได้เหงื่อ อย่างเต้นแอโรบิกต่อเนื่อง แก้มเก้มหน้าตา เลือดลมก็จะไหลเวียนดีขึ้น จากนั้นก็พยายามรักษารูปร่าง เรื่องการกินต้องระวังอยู่ตลอดเวลา อย่าปล่อยตัวค่ะ

ท้ายนี้ ลูกศรได้ฝากมาถึงแฟนๆ ละครว่า
“ก็ขอบคุณนะคะที่คิดถึงกัน สำหรับงานละคร ศรคงไม่ได้กลับไปเล่นแล้ว คือเมื่อก่อน ตีสี่ตีห้าก็ยังไหว แต่ตอนนี้พออายุมากขึ้น ต้องคอยดูแลลูกๆ และดูแลธุรกิจอีก ถึงจะรักษาสุขภาพขนาดนี้ แต่ก็อึดไม่พอแล้วค่ะ แต่ถ้ามีโอกาส ได้บทที่ดีจริงๆ หรือเรื่องที่น่าเล่นจริงๆ ก็ยินดีค่ะ หรืออาจต้องรอให้ลูกโตกว่านี้สักหน่อยค่ะ”

จากคุณ : เจ๊ฟ้า เมืองสกล - [ 7 มิ.ย. 52 19:10:21 ]