ความคิดเห็นที่ 1 สิ่งที่ถือว่าน่าสะเทือนใจที่สุดของชาวนานกิงคือ "ข่มขืนผู้หญิงในนานกิง" ผู้หญิงนานกิงไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือชราแม้กระทั่งหญิงมีครรภ์ ไม่อาจหนีรอดเมื่อเจอทหารญี่ปุ่น พวกเธอจะโดนลากไปข่มขืนแบบเรียงคิว ไม่เลือกสถานที่แม้กลางถนน จากนั้นเมื่อพวกเธอถูกข่มขืนแล้ว พวกเธอก็จะโดนทหารญี่ปุ่นฆ่าโดยไร้ความเมตตา เช่น ผ่าท้องควักเอาไส้ออกมา เสียบดาบปลายปืนเข้าไปอวัยวะเพศทั้งที่ยังมีชีวิตอยู่ ตัดเต้านมลึกเห็นกระดูก หากเป็นหญิงมีครรภ์ก็จะถูกผ่าท้องเอาตัวอ่อน ออกมา เอาไปเตะเล่นแทนลูกบอล บางครั้งก็พนันกันว่าเด็กในท้องเป็นหญิงหรือชายจากนั้นก็ผ่าสดๆออกมาดู ผู้หญิงหลายคนเสียสติ บางคนตั้งครรภ์แต่ก็เลือกที่จะไม่เอาเด็กไว้ เป็นต้น รายละเอียดเพิ่มเติม/อ้างอิง ผู้หญิงเหยื่อในสงคราม ผู้แต่ง:พันทิวา th.wikipedia.org/wiki/การสังหารหมู่นานกิง http://writer.dek-d.com/writer/story/viewlongc.php?id=205702&chapter=34 http://writer.dek-d.com/writer/story/viewlongc.php?id=205702&chapter=35 จากคุณ : มนุษยธรรม - [ 9 มิ.ย. 52 00:52:47 A:203.118.84.194 X: TicketID:219162 ]

ความคิดเห็นที่ 2 นักบุญแห่งนานกิง นาซีผู้ใจดี จอห์น ราเบ้ เขาเป็นคนเยอรมันครับ แถมยังเป็นนาซีด้วย แต่เขาเป็นคนที่ช่วยชาวนานกิงให้รอดพ้นจากพวกทหารญี่ปุ่นเป็นจำนวนมากจนได้ชื่อว่าเป็น Schindler of Nanjing หรือพระโพธิสัตว์แห่งนานกิงครับ เขาทำงานให้กับบริษัทซีเมนส์ และด้วยความที่เขาเป็นนาซี จึงทำให้ได้รับความเกรงใจจาก ทหารญี่ปุ่นให้ไม่กล้ามารุกรานชาวนานกิงที่อยู่ในเขตปลอดภัยที่เขาได้สร้างขึ้นเพื่อให้ชาวบ้านมาหลบภัย หลังสงครามเขาได้รับความลำบากจากการที่เขาเป็นนาซี ทำให้เขามีชีวิตที่ขัดสน แต่พอชาวนานกิงได้ทราบข่าวก็ได้รวบรวมเงินส่งไปให้เขา พิสูจน์ว่า ทำดี ก็ได้ดีนะ รายละเอียดเพิ่มเติม/อ้างอิง ผู้หญิงเหยื่อในสงคราม ผู้แต่ง:พันทิวา http://www.nongkanakschool.net/index.php?mo=3&art=152384 จากคุณ : มนุษยธรรม - [ 9 มิ.ย. 52 00:54:16 A:203.118.84.194 X: TicketID:219162 ]

ความคิดเห็นที่ 3 The Rape of Nanking เป็นผลงานหนังสือ best seller ของ ไอริช ชาง นักเขียนหญิงชาวจีน ที่เธอพยายามค้นคว้าหาหลักฐานต่างๆเพื่อตีแผ่ความจริงให้โลกได้รับรู้ ซึ่งเธอก็ทำได้สำเร็จครับ โศกนาฏกรรมในนานกิงนั้นทางญี่ปุ่นพยายามปกปิดและทำลายหลักฐานแบบกะไม่ให้เหลือซาก จะมีข้อมูลก็แต่จากคนที่หนีจากนานกิงมาได้ ซึ่งพ่อแม่ของเธอก็เป็นชาวจีนที่หนีมายังอเมริกา และมักจะเล่าถึงความโหดเหี้ยมที่ญี่ปุ่นกระทำกับจีนให้ฟังอยู่เสมอ จึงเป็นแรงบันดาลให้เธอเขียนหนังสือเล่มนี้ขึ้นมา รายละเอียดเพิ่มเติม/อ้างอิง ผู้หญิงเหยื่อในสงคราม ผู้แต่ง:พันทิวา http://www.oknation.net/blog/print.php?id=8320 จากคุณ : มนุษยธรรม - [ 9 มิ.ย. 52 00:55:21 A:203.118.84.194 X: TicketID:219162 ]

ความคิดเห็นที่ 4 หนังที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ในนานกิง "นานกิง! นานกิง!" (City of Life and Death) http://edunews.eduzones.com/applezavip/25177 Nanking http://www.imdb.com/title/tt0893356/ http://en.wikipedia.org/wiki/Nanking_(film) จากคุณ : มนุษยธรรม - [ 9 มิ.ย. 52 00:56:10 A:203.118.84.194 X: TicketID:219162 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ในบทความนี้ไม่มีรูปประกอบ เพราะข้าพเจ้าเห็นว่ารูปค่อนข้างล่อแหลมและน่ากลัว แต่อาจหาดูได้ทั้งภาพนิ่งและวีดีโอ โดยหาจากการ search คำว่า นานกิง และเวป http://seedang.com/stories/29940 และ Youtube สุดท้ายนี้ หากบทความนี้มีข้อผิดพลาดประการใดข้าพเจ้าก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย จากคุณ : มนุษยธรรม - [ 9 มิ.ย. 52 00:56:59 A:203.118.84.194 X: TicketID:219162 ]

ความคิดเห็นที่ 6 คนที่ทำ ถยอยลงนรก กันไปเกือบจะหมดแล้ว... สบายใจได้ระดับหนึ่ง จากคุณ : mikoone - [ 9 มิ.ย. 52 01:13:14 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ^ ^ ^ แต่คนพวกนั้น ดันได้ขึ้นสวรรค์ ก่อนตกนรกน่ะสิ จากคุณ : Momonster - [ 9 มิ.ย. 52 01:23:01 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ภาพยนตร์ที่สร้างขึ้นจากเหตุการณ์นี้ ไม่ได้มีแค่เรื่องนั้นเรื่องเดียวนะครับ อย่างน้อยที่สุด ก็มีหนังเยอรมันเรื่อง John Rabe อีกเรื่องหนึ่ง จากคุณ : NHK - [ 9 มิ.ย. 52 01:24:11 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ยายของเราเค้าเกลียดคนญี่ปุ่นมากๆเลย เพราะว่าสมัยเด็กๆตอนที่ทหารญี่ปุ่นบุกไทย ตอนสงครามโลกครั้งที่ 2 น่ะนะ ยายเราเค้าเห็นกับตาว่าทหารพรากเด็กทารกออกไปจากอกแม่ แล้วโยนเด็กทารกขึ้นฟ้า แล้วก็ใช้ปลายดาบปืนเสียบตัวเด็ก ตายต่อหน้าต่อตา มาออกความเห็นว่าญี่ปุ่นมันโหดจริงๆ จากคุณ : Rita_Bunny - [ 9 มิ.ย. 52 01:34:28 ]

ความคิดเห็นที่ 10 มันจะเกิดสงครามโลกครั้งที่ 3ก้เพราะ แบบนี้ล่ะ  ลัทธิชาตินิยม ไม่มีวันตาย จากคุณ : อั้ม แฟนคลับ Liv tyler (อั้ม ติ่งเหลือม) - [ 9 มิ.ย. 52 01:39:12 ]

ความคิดเห็นที่ 11 สงครามไม่ได้มีคำว่าผู้ชนะในสายตาประชาชน.. ญี่ปุ่นจะโหดร้ายจนเป็นที่กล่าวขวัญหรือให้เอามาเป็นหัวข้อด่าทอซักแค่ไหน ..สุดท้ายเค้าก็มีเหยื่อที่ต้องตายเป็นจำนวนไม่ต่างจากที่เค้าฆ่าเป็นแสนๆ เหมือนกัน... จากระเบิดลูกเท่ากับเตียงนอนแค่ 2 ลูกเท่านั้น...! อาจจะเป็นกรรมเก่าของเค้าที่ไล่ข่มขืนทารุณชาวบ้านมาเยอะ... ทุกวันนี้เค้าเลยต้องชดใช้เป็น AV ให้เราๆ ได้สะใจกัน... เอ๊!... หรือนั่นเป็นวิธีทรมานเราในรูปแบบใหม่แทนหว่า? แก้ไขเมื่อ 09 มิ.ย. 52 01:47:31 จากคุณ : _K_F_C_ - [ 9 มิ.ย. 52 01:46:44 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ที่คุณจขกท.พิมพ์มายังเบาะๆ อ่านรายละเอียดจริงๆนี่ ทำผมจิตตกไปเลยทีเดียว โหดเหี้ยมอำมหิตเหมือนไม่ใช่สิ่งมีชีวิตบนโลก ฆ่ากัน ทารุณกันอย่างสนุกสนาน ปีศาจชัดๆ จากคุณ : -ATICUS_T- - [ 9 มิ.ย. 52 01:51:01 ]

ความคิดเห็นที่ 13 #11 พูดถูกใจผมจัง จากคุณ : อดีต....ดีเจ - [ 9 มิ.ย. 52 01:53:19 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ชาติพันธมิตรก็ไม่ได้ต่างอะไรไปจากญี่ปุ่นเลย ในช่วงโซเวียตถอยทัพหนีการบุกของเยอรมัน โซเวียตจัดการทำให้เชลยของตนไม่ตกไปอยู่ในมือของเยอรมัน โดยการ เขวี้ยงระเบิดเข้าไปในห้องเชลยทีละห้องๆ ให้ระเบิดตายคาห้องกันทุกคน เมื่อครั้งโซเวียตรุกกลับบุกตีเยอรมัน ทหารโซเวียตได้ข่มขืนหญิงเยอรมันนับไม่ถ้วน ทั้งปล้นชิงฆ่าชิงทรัพย์ ใครที่แต่งเครื่องแบบ ถึงแม้จะเป็นแค่บุรุษไปรษณี ก็จะโดนทหารโซเวียตเล่นงานทันที....... แต่ทั้งหมดนี่ ไม่เคยมีใครเขียนเป็นนิยาย ไม่เคยมีใครทำเป็นหนังแบบเรื่องนานรกิง เพราะโซเวียตนั้นเป็น "ผู้ชนะ" ผู้ชนะเท่านั้นที่เขียนประวัติศาสตร์ จะชาตินิยมไปใหน ในเมื่อไอ้ทหารญี่ปุ่นที่ก่อเรื่องน่ะ ป่านนี้มันตายไปนานแล้ว ส่วนชาวญี่ปุ่นในปัจจุบันเป้นคนที่ไม่รู้เรื่องอะไรด้วย สมมุติว่า มีคนมาโกรธแค้นคุณ เพราะว่า "ปู่ทวดของคุณไปฆ่าข่มขืนคนอื่น" มันยุติธรรมมั้ยครับ ในสงครามไม่มีใครผิดใครถูก มันก็ฆ่าคนด้วยกันทั้งนั้น ในสงครามอิรัก ทหารอเมริกันก็ทารุณเชลยศึก ในสงครามเวียดนาม ทหารมะกันก็ไปทำเรื่องเลวร้ายไว้เยอะ แต่ไม่มีใครพูดถึง เพราะเขาคืออเมริกัน เขาไม่มีวันผิด ส่วนเราก็มัวแต่หลงไปตามประวัติศาสตร์ที่ผู้ชนะเขียนขึ้นมา โกรธแค้นญี่ปุ่นเป็นฟืนเป็นไฟ งั้นคงจะไม่ผิดถ้า ชาวลาวขึ้นมาด่าชาวไทย ว่าทหารไทยเมื่อ 300 กว่าปีก่อนนั้นบุกไปปล้นฆ่าชาสลาว จากคุณ : ซามาโนสุเกะ - [ 9 มิ.ย. 52 01:57:59 ]

ความคิดเห็นที่ 15 อืมมมม คือ มันเป็นเรื่องที่เรารู้มานานแล้วหน่ะค่ะ จำได้ว่าเมื่อ10กว่าปีที่แล้วเคยๆเผลอๆไปเปิดเจออัลบั๊มรวมภาพ ของสำนักพิมพ์LIFE(ถ้าผิดขออภัย) ในห้องสมุด ภาพขาวดำ มันติดตามากๆ อยากจะอก จขกท.อย่าง ความที่ตัวหนังสือที่ยาวพรืด ไม่มีภาพประกอบ มันทำให้เราตั้งใจอ่านน้อยลงหน่ะค่ะ =__= แนะให้สมัครอมยิ้ม มาโพสต์ภาพประกอบด้วยดีกว่า เพราะหนังบางเรื่องเราก็ไม่คุ้น มีภาพจากหนังสักหน่อยก็ดี ขี้เกียจตามลิงค์ไปด้วย(เพราะกดไม่ได้ เหอๆ) จากคุณ : มินเอง - [ 9 มิ.ย. 52 02:00:11 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ^ ^ ตอนนี้เยอรมันสภาพดีกว่าโซเวียตอีกมังครับ ทั้งญี่ปุ่นเยอรมัน ก็เจริญก้าวหน้าดีทั้งคู่ บอมบ์ที่ยุ่นโดนไปก็สิวๆ เพราะตัวเองเริ่มก่อนเองก็สมควรโดน แต่ที่ตลกคือ โดนกลับไป ยังไม่เท่าที่ทำเขาไว้เลยอะสิ แต่แผ่นดินไหวบ่อยอยู่นะ อาจจะใช้กรรมตรงนี้ก็ได้ สักวันอาจจะจมๆ ไป อันนี้พูดเล่นครับ คงไม่หรอก พวกนี้มันทนทายาด จากคุณ : ayres - [ 9 มิ.ย. 52 02:09:40 ]

ความคิดเห็นที่ 17 อาม่าผมที่เสียไปเมื่อหลายปีก่อนก็เกลียดญี่ปุ่นสุดๆ (ยายผมมาจากเมืองจีน เป็นคนแต้จิ๋ว) บอกว่าญี่ปุ่นข่มเหงทำร้ายคนจีนทั้งร่างกายและจิตใจมาก...รายละเอียดผมไม่พูดละกัน เพราะเยอะจนจำไม่ได้ แต่อาม่าผมเกลียดชาวญี่ปุ่นเข้ากระดูกดำจริงๆ แต่ผมไม่เกลียดครับ (หลานทรพีหรือเปล่าเนี่ย?) เพราะเรื่องของคนสมัยก่อน ก็เป็นการกระทำของคนสมัยก่อนครับ คนสมัยนี้เพิ่งเกิดมา ไม่ได้มาก่อกรรมทำเวรอะไรกับคนไทยด้วย... ผมก็เลยเกลียดไม่ลง เพราะไม่มีเหตุผลให้เกลียดครับ(คนญี่ปุ่นไม่เคยมาทำอะไรให้ครอบครัวผมเจ็บช้ำน้ำใจสักคน) หากพ่อแม่ทำผิด แต่ลูกต้องมารับผิดชอบด้วย ก็ดูจะไม่ยุติธรรมเท่าไหร่ครับ คนไทยคงไม่ใจแคบขนาดนั้น จริงไหมครับ? ปัจจุบันญี่ปุ่นเองก็ช่วยเหลือเราทางเศรษฐกิจเอาไว้มาก (เงินกู้ที่ใช้สร้างสาธารณูปโภคต่างๆ หลายโครงการก็กู้จากญี่ปุ่น) อีกทั้งญี่ปุ่นมีดารา AV สวยๆ, anime ให้โหลดดูฟรีๆ แถมลูกค้าญี่ปุ่นที่เจอส่วนใหญก็น่ารักทุกคน(แต่ทิปน้อยจังแฮะ) ยังนึกไม่ออกเหมือนกันว่า มีเหตุผลอะไร ที่ให้คนไทยสมัยนี้ ต้องชาตินิยม เกลียดญี่ปุ่นหัวปักหัวปำ อย่างไม่มีเหตุผล กันด้วยครับ? จากคุณ : จาน ชาม ช้อน ส้อม - [ 9 มิ.ย. 52 02:10:12 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ไม่รู้สึกตลก แต่รู้สึกแย่มากๆ เคยยืนอ่าน The Rape of Nanking ในห้องสมุดค่ะ ตอนอ่านแล้วรู้สึกเหมือนหัวเราจมดิ่งลงสู่ยุคสมัยนั้นแล้วจินตนาการภาพออกมาเป็นฉากๆ (ไม่รู้ทำไม เวลาเราคิดอะไรจะเห็นเป็นภาพออกมาแทบจะทันที-ยกเว้นหนังสิอเรียนหรือเรื่องที่เป็นนามธรรม) ยิ่งอ่านยิ่งคิดต่อ จนเครียดและจิตตกไปเลย รู้สึกแย่แทนเหยื่อมากๆ ไอพวกนั้นมันไม่ใช่คนแล้ว คนที่โดนบอมอะนะ เราว่าไม่ได้รู้สึกทรมานถึงครึงนึงของเหยื่อหรอก แถมคนโดนเป็นชาวบ้านธรรมดา ไม่ใช่ทหารพวกนั้นซะหน่อย จะเลือกอะไรดีระหว่างตายไปเลย กับ ตายทั้งเป็น(คำหลังนี้ไม่ใช่แค่คำเปรียบเทียบแต่หมายถึงอย่างนั้นจริงๆ เป็นsenseที่ใช้ความหมายตรงตัว ไม่ใช่แค่เปรียบเปรย) จากคุณ : decentcitizen - [ 9 มิ.ย. 52 02:11:07 ]

ความคิดเห็นที่ 19 เรื่องมันจบไปนานแล้วน่ะครับ รับรู้ไว้เป็นอุทาหรณ์  ปัจจุบันไม่มีสงครามไม่เกลียดกันระหว่างเชื้อชาติเพราะเรื่องเก่าๆก็ดีแล้วครับ อโหสิกรรมกันไปหมดแล้วนะ จากคุณ : seven-elephant - [ 9 มิ.ย. 52 02:16:35 ]

ความคิดเห็นที่ 20 คห.16 แล้วต้องให้ญี่ปุ่นล่มจมไปหรือครับ ถึงจะคิดว่า สาสม? คิดแบบนี้ก็ไม่ต่างกับพวกพม่า พวกลาว พวกกัมพูชา ที่ไม่ชอบหน้าเรา คนลาวนั้นถึงจะเป็นมิตร แต่เค้าก็เจ็บแค้นชาวไทยเราเหมือนกัน เมื่อสมัยก่อน ทหารไทยเราก็ไปปล้นชิงประเทศเขาเหมือนกัน แต่เขายังมีการให้อภัย เพราะมันเรื่องนานมาแล้ว ไม่มีมาแช่งให้ประเทศไทยมันจงล่มจมไปเถิด อดีตคืออดีต แก้ไขไม่ได้ ก็อย่างที่ผมยกตัวอย่าง มีคนเขาไม่ชอบหน้าคุณ เพราะในอดีต ปู่ทวดของคุณไปข่มขืนย่าทวดของเขา และแช่งคุณให้ตกนรก และด่าคุณว่าเป้นคนเลวทราม และขอแก้ความเข้าใจอย่างหนึ่ง คนที่เสียชีวิตจากระเบิดนิวเคลียร์ที่ญี่ปุ่น ส่วนมากตายเพราะถูกรังสีตกค้างจากระเบิด ทำให้กลายเป้นมะเร็งผิวหนัง ตายอย่างทรมาณ ระเบิดนิวเคลียร์ไม่ได้แว้บเดียวแล้วหายไปอย่างที่เข้าใจกัน 70%ของคนที่ตายจากระเบิดนิวเคีลยร์ตายหลังจากการระเบิดด้วยสาเหตุอากาศเจือปนรังสี ผิวหนังไหม้ ทรมาณจนตาย แถมยังส่งต่อเชื้อมะเร็งให้ลูกหลานอีก มันยุติธรรมมั้ยครับ? ไอ้คนที่ทำในนานกิง ป่านนี้มันตายไปนานแล้วครับ ไปรื้อฟื้นมันทำไมอีก คนที่ญี่ปุ่นในปัจจุบันนี้ได้ไปข่มขืนก็เขาด้วยหรือ? แก้ไขเมื่อ 09 มิ.ย. 52 02:22:34 จากคุณ : ซามาโนสุเกะ - [ 9 มิ.ย. 52 02:17:49 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ขอต่ออีกหน่อยค่ะ ทั้งนี้ไม่ได้หมายความว่าเราเอาเรื่องนี้มารังเกียจคนญี่ปุ่นในปัจจุบันนี้หรอกนะ เพียงแต่รังเกียจการกระทำที่ป่าเถื่อน และสงสารเหยื้อทุกคนที่ได้รับผลกระทบจากสงคราม ไม่ว่าในสงครามอะไรหรือคนชาติใด (แต่ไม่รู้ทำไมบางประเทศยังตีกันอยู่ได้นะ) จะว่าไปเราทุกคนนี่โชคดีนะที่ได้อยู่ในยุคสมัยที่แม้ไม่ได้สงบสุขจริงๆแต่ก็ไม่มีเรื่องแบบนี้ในบ้านเรา มีการคุ้มครองสิทธิทนุษยชนขั้นพื้นฐาน มีกฎหมาย มีอินเตอรเน็ตใช้ มีการบอกเล่าประวัตศาสตร์ให้คนรุ่นหลังรับรู้ เพื่อที่เราจะได้ไม่ย้อนกลับมาสู่ความผิดพลาดในอดีตอีก -->เป็นความเชื่อมั่นในมนุษยชาติน่ะค่ะ (...อ่านที่พิมพ์มาจบแล้วรู้สึกว่าเรานี่ช่าง emotional ซะจริงๆ T__T) จากคุณ : decentcitizen - [ 9 มิ.ย. 52 02:23:12 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ความคิดเห็นที่ 16 คุณพูดเหมือนอยากให้คนญี่ปุ่นตอนนั้นเค้าตายเยอะๆกว่านั้นถึงจะสาสมหรือไง ที่ถูกคือไม่มีใครที่เป้นประชาชนธรรมดาควรตายในสงครามทั้งนั้นไม่ว่าจะฝ่ายไหน  คือญี่ปุ่นทำคนอื่นตายเยอะแยะ แต่ไม่ได้หมายความว่าต้องให้ประชาชนของเค้าตายเป็นการชดใช้ ประชาชนของเค้าก็คือคนที่ไม่รู้เรื่องเหมือนกัน เค้าก้อยู่ของเค้าดีๆ คุณสนับสนุนให้มีการฆ่าเค้าเยอะๆ คุณนั่นแหละที่จิตใจโหดเหี้ยมไม่ต่างกับคนฆ่าหรอก   เรื่องสงครามตามความเป็นจริงเป็นเรื่องของนโยบายของผู้บริหารประเทศนั้นๆ ประชาชนไม่ได้รู้เรื่องเลย   ผมว่าเรื่องมันจบไปนานแล้ว  หรืออยากให้จีน บุกญี่ปุ่น เพื่อฆ่าล้างแค้นแล้วสบายใจหรือครับ  งงกับความคิดแบบนี้จริงๆ จากคุณ : seven-elephant - [ 9 มิ.ย. 52 02:27:00 ]

ความคิดเห็นที่ 23 #20 ไม่ต้องล่มจม หรือพินาศอะไรหรอกครับ ก็ไม่ได้แค้นอะไรขนาดนั้น ต่างคนต่างอยู่ไป แค่พอนึกถึงขึ้นมาทีไร ก็แขวะไปนิดหน่อย ไมได้ทำอะไรสะเทือนผิวหนังเขาหรอกครับ จากคุณ : ayres - [ 9 มิ.ย. 52 02:27:32 ]

ความคิดเห็นที่ 24 และที่บอกคนญี่ปุ่นไม่ทรมานกับการโดนทิ้งงระเบิดปรมาณู ไม่ใช่นะครับ มันมีคนอีกมากที่ยังไม่ตายตอนนั้นอีกมากมาย และต้องใช้ชีวิตต่อมาด้วยควาทรมานจากการโดนกัมมันตภาพรังสี  คนพวกนี้ส่วนหนึ่งคือคนที่ไม่ได้รู้เรื่องกับสงครามเลย สงคราม คือความเจ็บปวด และคือสิ่งเลวร้ายที่สุดที่มนุษย์กระทำต่อกัน  ไม่มีใครอยากให้มันเกิดขึ้นอีกหรอกครับ  ผมไม่อยากให้ประเด็นความแค้นในอดีตมาสร้างร้อยร้าวให้คนปัจจุบัน มันไม่มีประโยชน์อะไรจริงๆนะ   ที่ถูกคือดูความโหดร้ายของคนในอดีตและป้องกันไม่ให้มันเกิดอีกในอนาคตแบบนั้นต่างหาก จากคุณ : seven-elephant - [ 9 มิ.ย. 52 02:37:46 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ทหารญี่ปุ่นทารุณคนจีน ต่อมาญ๊่ปุ้นโดนทิ้งบอม เราว่าไม่ใช่เรื่องของกรรมเวรนะคะ เพราะมันไม่มีเหตผลเลยนี่ คนโดนบอมมันไม่ใช่คนเดียวกันกับทหารพวกนั้นซะหน่อย หลักกฎแห่งกรรม(ถ้ามี)ควรส่งผลกับเจ้าตัวคนทำนะ ไม่ใช่กับลูกหลานหรือคนชาติเดียวกัน ประเทศนึงไม่ได้มีแค่คนเดียวถึงจะเอาการกระทำของคนกลุ่มนึงมาสนองใส่คนอีกกลุ่ม(หวังว่าไม่งง) แต่ใครทำทารุณชาวจีนไว้ ป่านนี้ตายไปแล้วก็ดีแล้วค่ะ แต่ลูกหลานเค้าและเราควรจะได้เรียนรู้ประวัตืศาตร์นี้ร่วมกันค่ะ จากคุณ : decentcitizen - [ 9 มิ.ย. 52 02:40:08 ]

ความคิดเห็นที่ 26 แล้วก็เริ่มจะทะเลาะกันเอง หุ หุ หุ.....เจ๋ง !! จากคุณ : aka shuri - [ 9 มิ.ย. 52 02:41:56 ]

ความคิดเห็นที่ 27 อ่านความเห็นของคุณ ซามาโนะสุเกะ ทำให้ผมลืมนึกไปว่า พระแก้วมรกตของไทย ก็"อัญเชิญ"(ปล้น) มาจากลาวเหมือนกัน อย่าไปคิดว่าคนไทยดีเกิน 100 ครับ ประวัติศาสตร์เราเองก็ไม่เบาเหมือนกัน แต่ส่วนใหญ่มักจะแกล้งเงียบ ไม่ยอมเขียนลงในหนังสือเรียน เหมือนกับที่เราถูกชาติอื่นกระทำมากกว่า จากคุณ : จาน ชาม ช้อน ส้อม - [ 9 มิ.ย. 52 02:55:56 ]

ความคิดเห็นที่ 28 รู้สึกดีนะที่เราไม่ฝักใฝ่ประวัติศาสตร์ แต่ว่าญี่ปุ่นเขาก็รับกรรมเยอะเหมือนกันช่วงหลังสงคราม ก็ถือว่าชดใช้กรรมไปแล้วกัน   ถือซ่ะว่าตอนนี้เขาก็ได้สร้างอนิเมะดีๆมาให้เราดูไถ่โทษแล้วกัน จากคุณ : aonton - [ 9 มิ.ย. 52 03:00:09 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ส่วนจัวผมมองเรื่องนี้เป็น รายบุคคล นะ ไม่ได้มองเป็น รายประเทศ ผมว่า ส่วนหนึ่งที่ คนจีน เกาหลี เกลียด ญี่ปุ่น มันก็เป็นเพราะว่า คนที่กระทำเรื่องเลวร้าย เหล่านั้น กลับได้รับการเชิดชู เป็น วีรบุรุษ ก็ไม่ปาน แถมหลายคนยังมีอาชีพการงานที่มั่นคง อีกต่างหาก เหอๆๆ เอาง่ายๆ แค่ หมอ นรก จากห้องทดลอง 731 (รู้สึกจะอยู่ที่เมืองอื่นนะ ไม่ใช่นานกิง อันนี้ โหด ของจริง ขนาด นาซี ที่ฆ่าชาวยิว ยังอาย เลย) ผู้กระทำผิดหลายคน อเมริกาไม่เอาโทษครับ เพื่อแลกกับข้อมูลที่พวกนั้นมี แถม หลายคน ยังประกอบอาชีพหมอต่อไปอย่างน่าตาเฉย ในภายหลัง แบบนี้ คนที่เป็นจีน จะไม่โกรธ ได้ไงละครับ ขนาดผมแค่ อ่านหนังสือ ยังมีวูบนึงเลยที่โกรธแทนคนจีน  ^^'' แต่ก็นะ ตอนนี้อะไรๆมันก็เปลี่ยนไปแล้ว คนในช่วงนั้น ก็ตายไปเกือบหมดแล้ว อย่าทะเลาะกันเล้ย = ='' แล้วก็ น่าสงสาร คนที่ฮิโรชิม่า และ นางาซากิ นะครับ คนก่อไม่ได้รับกรรม คนรับกรรมกลับเป็นไม่ได้ก่อ เฮ้ออออออออ ปล. พวกผู้นำหลายๆชาติ ใช้เรื่องบุญคุณ ความแค้น และความเกลียดชัง นี่แหล่ะ ในการหาผลประโยชน์จากประเทศอื่น ทั้งสงครามเพื่อแย่งชิงทรัพยากร หรือ เรื่องการผูกขาดสินค้า เพื่อสนับสนุนพ่อค้าในประเทศ มันเป็นกลยุทธ ที่เรียบง่าย แต่ใช้ได้ผลครับ EDIT อีกรอบ ขอแก้จาก 711 เป็น 731 ครับ ^^ แก้ไขเมื่อ 09 มิ.ย. 52 16:08:32 แก้ไขเมื่อ 09 มิ.ย. 52 03:15:24 แก้ไขเมื่อ 09 มิ.ย. 52 03:06:20 จากคุณ : DOLครับ - [ 9 มิ.ย. 52 03:05:47 ]

ความคิดเห็นที่ 30 คห 11...........เอากีบไปเลยยยยยยยยยยย ^___^ สงครามมันทำให้คนบ้าคลั่งได้ หากจะเกลียดก็เกลียดสงครามเถอะ จากคุณ : pangjang - [ 9 มิ.ย. 52 03:23:46 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ดารา AV ไม่ถึงกับเป็นกรรมของเค้าน่ะคับ เพราะว่าช่วงนั้นญี่ปุ่นประชากรน้อยมากเพราะแพ้สงคราม ตายเยอะ  รัฐบาลเลยสนับสนุนเรื่องนี้ และไม่ค่อยเอาผิด เพื่อเป็นการเพิ่มประชากรของญี่ปุ่นนั้นเอง จากคุณ : PromMasamune (PromZero) - [ 9 มิ.ย. 52 03:51:04 ]

ความคิดเห็นที่ 32 มันน่าสนใจที่ว่า อะไรทำให้คนเราทำเรื่องเหี้ยมโหดผิดมนุษย์มนาอย่างนั้นได้ในช่วงสงคราม ถึงแม้จะเป็นทหารก็เถอะ แต่วิธีการฆ่าชาวบ้านธรรมดาๆ ที่ไม่มีอาวุธเนี่ย ทำกันไปได้ยังไง แล้วประวััติศาสตร์แบบนี้ก็ซ้ำรอยอยู่เรื่อยๆ ไม่ใช่คนจำนวนน้อยๆ ที่เป็นผู้ฆ่า แล้วก็ฆ่าอย่างสนุกสนานอย่างนี้ ไม่เข้าใจจริงๆ เลยอ่ะ ว่าทำไมถึงเกิดเรื่องหนักหนาสาหัสแบบนี้ขึ้นมาได้ มนุษย์เรานี่เป็นสัตว์ที่ก้าวร้าวที่สุดในโลก และน่ากลัวจริงๆ จากคุณ : เ จ้ า ช า ย น้ อ ย - [ 9 มิ.ย. 52 04:05:42 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ความคิดเห็นที่ 27 พระแก้วมรกต ก่อนไปอยู่ลาว ก็เป็นของไทยมาก่อนครับ อยู่ทางเชียงใหม่และหลายเมืองทางเหนือมาก่อน   เราเอาของเราคืนมานะครับอย่าเข้าใจผิด จากคุณ : seven-elephant - [ 9 มิ.ย. 52 04:10:02 ]

ความคิดเห็นที่ 34 สงครามมันไม่มีคนถูกหรอก มีแต่คนผิดทั้งนั้นแหละ แต่ที่ผิดมาอย่างต่อเนื่อง และให้อภัยได้ยากยิ่งสำหรับญ๊ปุ่น คือการบิดเบือนประวัติศาสตร์แก่เยาวชนในประเทศของเขาเอง ลองไปดูหลักสูตรวิชาประวัติศาสตร์ของประเทศเขาสิ พูดถึงสงครามนานกิงน้อยมาก และ ไม่กล่าวอ้างถึงการฆ่าอย่างโหดเหี้ยม ทารุณ ต่างๆเหล่านั้นเลย... เด็กที่โตมา ก็รับรู้เพียงผิวเผิน และ คิดแค่ว่าประเทศเขาไม่ผิด แต่อย่างว่า..ใครจะยอมรับผิดง่ายๆ ขนาด อเมริกา เอาฝนเหลืองไปทิ้งที่ เวียดนาม จนมีผลกระทบถึงตอนนี้ พวกไอ้กัน มันยังไม่ค่อยจะยอมรับผิด และ ชดใช้ต่อครอบครัวที่สูญเสียเลย.. ดีแต่ยื้อเรื่องให้ยาวขึ้น แต่ไม่ยอมตัดสิน และ ชดใช้เขา เห็นแก่ตัวทั้งนั้นแหละ ไอ้พวกประเทศมหาอำนาจน่ะ จากคุณ : chabby - [ 9 มิ.ย. 52 04:47:17 ]

ความคิดเห็นที่ 35 หุหุ ความจริงเชียงใหม่ก็ไม่ใช่ไทยนะครับ อาณาจักรล้านนา ต่างหากเมื่อก่อนก็โดนยกทัพมาถล่มเอาเป็นเมืองขึ้นบ่อยๆ ยังงี้ผมก็โกรธพวกคนกรุงเทพได้อ่ะดิครับว่าเมื่อ 500 กว่าปีก่อน ปู่ของปู่ของปู่ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ข้าโดนพวกเอ็งฆ่า เอาน่าครับคนจีนกับญี่ปุ่นฆ่ากันเมื่อ 60 ปีก่อน คนไทยปัจจุบันดันมาทะเลาะกันเองซะงั้น ตลกดีเว้ยคนไทย Amazing Thailand จริงๆ จากคุณ : bigcy - [ 9 มิ.ย. 52 04:49:56 ]

ความคิดเห็นที่ 36 เลวไม่แพ้กันแหละครับแต่ละฝ่าย ขึ้นชื่อว่าสงคราม - กองทัพแดงแห่งรัสเซีย โหดเหี้ยมไม่แพ้ที่เยอรมันฆ่าชาวยิว เพราะฆ่า ชาวเยอรมันเรียบทุกคน  เผาศูนย์กลางเมืองทุกแห่ง ผู้หญิงเยอรมันทุกคน ในเส้นทางกองทัพแดงที่โดนจับได้ต้องโดนข่มขืน - ทหารอเมริกาก้ไม่ต่างกัน โจมตีเขตที่พักอาศัย เผาเมืองโตเกียวพินาศ ไป1ใน5  (ไม่ใช่นิวเคลียร์) ด้วยระเบิดเพลิงที่น้ำดับไม่ได้ ชาวเมืองหลายแสน คน แม่น้ำกลางโตเกียวกลายเป็นสุสานต้มและเผาคนนับหมื่นๆตาย คาที่ - ในเวียดนามก็ไม่แพ้กัน  อาวุธเชื้อโรค แก้สพิษ ใช้กันเป็นล่ำเป็นสัน ปล่อยยาพิษทำลายป่า เผาเมืองเวียดนามเหนือนับสิบ ลองดูย้อนก่้ได้จะเห็น ว่าสาวๆเวียดนามโดนทหารจีไอ ข่มขืนไปเท่าไหร่ต่อเท่าไหร่ ระหว่างกวาดล้าง เวียดกง /me เพียงแต่พอเป็นผู้ชนะ จะกลายเป็นพระเอกไปเอง แก้ไขเมื่อ 09 มิ.ย. 52 04:59:07 แก้ไขเมื่อ 09 มิ.ย. 52 04:58:19 จากคุณ : Kross_ISC - [ 9 มิ.ย. 52 04:58:04 ]

ความคิดเห็นที่ 37 คห.33  สยามหรือไทย สมัยนั้นไม่มี ล้านช้างเป็นอาณาจักรทางเหนือเกี่ยวดองกับหลวงพระบางในลาว อยุธยา ไม่เกี่ยวครับ ส่วนเรื่องของ นานกิง  ญี่ปุ่นสมัยนั้นทำเกินกว่าเหตุมาก หากได้ศึกษาลึกๆจะรู้ว่าเป็นหนึ่งในความเถื่อนและถ่อยของมนุษย์ที่กระทำกับมนุษย์จำนวนมากๆขนาดนั้น  เป็นครั้งที่เลวครั้งนึงในประวัติศาสตร์โลก จากคุณ : Diditjo - [ 9 มิ.ย. 52 06:01:37 ]

ความคิดเห็นที่ 38 คนจีนเกลียดญี่ปุ่นมากกกกกกกกกกกกกกก โคตรเกลียดอะ แต่ต้องรุ่นกลางๆถึงแก่ขึ้นไป ถ้ารุ่นใหม่ก็เฉยๆ เราว่าส่วนใหญ่ที่ไม่สนไม่น่าจะเพราะว่ามีเหตุผล แยกแยะอะไร แต่เพราะไม่ได้สนใจประวัติศาสตร์มากกว่า ส่วนตัวเราก็neutral เพราะรู้สึกว่าญี่ปุ่นชดใช้กรรมไปหมดแล้ว แต่ถ้ามีลูกมีหลานก็จะเล่าให้ฟังว่าชนชาตินี้มันทำอะไรเอาไว้บ้าง เลวยิ่งกว่าสัตว์เดรัจฉานอีก จากคุณ : หนูคิสเซอร์วิส (KissAhoLicGal) - [ 9 มิ.ย. 52 06:10:58 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ถ้ามีโอกาสได้ไปเมืองหนานจิง(หรือนานกิงนั่นแหละ) ก็ลองเข้าไปพิพิธภัณฑ์ที่เค้าสร้างขึ้นไว้(ประจานญี่ปุ่น) เหมือนจะได้ยินมาว่า หลังจากที่มีข่าวญ๊่ปุ่นจะแก้ไขแบบเรียนเรื่องที่ "แค่เดินทัพผ่าน" ไม่ได้ "เข่นฆ่า ข่มขืน" ชาวจีนเลย ชาวจีนและรัฐบาลจีนได้ยินอย่างนั้นก็โกรธสิ อยู่ดี ๆ จะมาบิดเบือนได้ยังไง เค้าเลยสร้างพิพิธภัณฑ์อนุสรณ์สถานนี้ขั้นหลังจากที่ญี่ปุ่นประกาศได้ไม่กี่วันเท่านั้น ทำซะดีเลยล่ะ ทำขึ้นมาบนพื้นที่ที่เป็นหลุมศพ นับศพได้ 10000 ศพ เพียงแค่เดือนครึ่ง ชาวจีนตายไป 300,000 ราย ถ้ามีโอกาสก็ลองไปเยี่ยมชมกันได้นะคะ จากภาพ .. ลองดูวันที่กันนะ 13 ธันวา 1937 - มกรา 1938 จากคุณ : ทรายในขวดแก้ว - [ 9 มิ.ย. 52 07:12:17 ]

ความคิดเห็นที่ 40 ทหารเลวจริง แต่คนที่เลวสุดๆคือคนมีอำนาจสั่งการมากกว่า ตอนทหารญี่ปุ่นเข้ามาไทยก็ไม่ได้สร้างปัญหาอะไรไห้ไทยมากขนาดนั้น รัฐบาลจีนเองก็เลว ยอมสู้เค้าไม่ยอมอ่อนข้อไห้ แต่กลับเรียกทหารในนานกิงหนี ไม่มีการเตือนว่าญี่ปุ่นจะบุกอะไรทั้งนั้น ปล่อยไห้ชาวบ้านเผชิญกันเอง ญี่ปุ่นเองเหตุการณ์ครั้งนั้นก็เลวมาก โดนเข้าไปก็หายซ่าไปเยอะ แต่ถ้าเทียบตอนนี้ ญี่ปุ่นที่เป็นประชาธิปไตยเต็มใบ และไม่มีนิวเครียร์ซักลูก กับประเทศคอมมิวนิสที่หาทางแต่ผลิตนิวเครียส์ กดหัวประชาชน สร้างแต่ความเกลียดชัง ผมกลับเกลียดไอ้ประเทศหลังมากกว่า ตอนนี้เกาหลีเหนือยังทดลองนิวเครียร์อยู่ไม่ได้หยุด ถ้าเกิดมีการยิงจริง แน่นอนว่าเป้าหมายแรกคือญี่ปุ่น แล้วเมกากับยุโรปก็จะทำสงครามกับเกาหลีเหนือ ถ้าจีนยังช่วยเกาหลีเหนือก็จะยิ่งหนักขึ้น แล้วก็จะเกิดสงครามโลกครั้งที่3 แต่ครั้งนี้จะหนักกว่าเดิมเพราะมีนิวเครียส์กันฝ่ายละหลายร้อยลูก จากคุณ : Cosplay - [ 9 มิ.ย. 52 07:15:08 A:117.47.11.194 X: TicketID:165031 ]

ความคิดเห็นที่ 41 รูปค่ะ อันนี้เป็นภายนอกอาคาร ภายในอาคารพิพิธภัณฑ์จะบอกเหตุการณ์ตั้งแต่แรกเลยค่ะ ชาวจีนโดนอะไรบ้าง ข่มขืนยังไง บอกไว้หมดแหละ ยิ่งดูรูปยิ่งหดหู่ เค้าได้ไม่ได้ว่าญี่ปุ่นอย่างเดียวนะคะ ใครทำดี ใครช่วยเค้า ก็สรรเสริญกันไป องค์การกาชาดสวัสดิกะ  John Rabe หรือ ชาวอเมริกัน ชาวตะวันตกท่านอื่น ๆ จะว่า สงครามมันก็งี้แหละ มันก็ใช่นะ แต่สิ่งที่ทำใจลำบากคือ ใช้เวลาแค่เดือนครึ่ง ฆ่าคนไปสามแสนคน เค้าคำนวณดูแล้ว เดือนครึ่ง กับ สามแสนคน เฉลี่ยแล้วทุก ๆ  12 วินาที จะมีคนตาย 1 คน Forgive but unforgetable จากคุณ : ทรายในขวดแก้ว - [ 9 มิ.ย. 52 07:19:07 ]

ความคิดเห็นที่ 42 ถือว่าเป็นบทเรียนครับ การสูญเสียไม่มีอะไรดีขึ้นเลย เพราะฉนั้น คนรุ่นหลัง ไม่ว่าเชื้อชาติใด ก็ควรรักษาความสงบกันเอาไว้นะครับ จากคุณ : คนไม่ดีในสายตาคนดี - [ 9 มิ.ย. 52 07:28:58 A:161.246.67.152 X:161.246.1.34 TicketID:175311 ]

ความคิดเห็นที่ 43 ความคิดเห็นที่ 37 ก่อนไปเชียงใหม่ ก็อยู่ กำแพงเพชรและ อโยธยา มาก่อนครับ ยังไงก็ขึ้นชื่อว่าเคยอยู่ดินแดนนี้มาก่อนนะ ไม่ว่าอโยธยาหรือเชียงใหม่ กำแพงเพชร ปัจจุบันอยู่ดินแดนไทย ดังนั้นกลับมาอยู่ดินแดนนี้ก็ถูกแล้ว จากคุณ : seven-elephant - [ 9 มิ.ย. 52 07:45:25 ]

ความคิดเห็นที่ 44 เรื่องความโหดร้ายของคนในสงครามนี้ ... เราว่า มันเป็นความดิบเถื่อนที่แฝงอยู่ในตัวมนุษย์เองนั่นแหละ ไม่ว่าชาติใด เพียงแต่ ค่านิยม การปลูกฝังของแต่ละชาติจะทำให้ความโหด ร้ายแตกต่างกัน ลองดูหนังเรื่อง Lord of the flies แล้วจะเข้าใจ... จากคุณ : กุ๊กกลาง - [ 9 มิ.ย. 52 07:51:55 ]

ความคิดเห็นที่ 45 หลังจากอ่านเรื่องนี้จบ สิ่งหนึ่งซึ่งประทับใจเรามากคือ คำนำ ผู้แปลเล่าว่าเมือ่ก่อนเรื่องนี้เคยถูกนำมาตีพิมพ์เป็นตอนๆในดิฉัน และมีผู้อ่านเขียนมาต่อว่าและไม่อยากให้ลงต่อเพราะมันโหดร้ายเกินไป แต่คุณหญิงทิพยวดีได้ให้เหตุผลในการอนุญาตให้ตีพิมพ์ต่อไปว่าเราไม่ควรที่จะปฏิเสธการรับรู้เรื่องราวเหล่านี้เพียงเพราะเราไม่อยากพบหรืออ่านเรื่องที่เราไม่สบายใจ แต่เราควรจะอ่านมันเพื่อเตือนสติและหลีกเลี่ยงที่จะไม่ให้มันเกิดขึ้น สิ่งที่ตีพิมพ์ในคำนำของหนังสือเรื่องนั้นกลายเป็นสิ่งสอนใจเราเสมอว่า อย่าปฏิเสธการรับรู้เพียงเพื่อให้เราสบายใจแต่ให้รับรู้ใว้เป็นบทเรียน เราว่าหลายๆคนที่ได้อ่านเรื่องนี้คงจะได้รับความรู้สึกเบื้องต้นที่เหมือนกันคือไม่อยากให้เกิดสงครามค่ะ จากคุณ : powerploy - [ 9 มิ.ย. 52 08:07:22 ]

ความคิดเห็นที่ 46 คห42  จริงค่ะ  รู้ไว้เป็นบทเรียน แต่อย่าอ่านเพื่อผลักมีดแห่งความเกลียดชังนั้นทิ่มแทงใจตัวเอง  และส่งความเกลียดชังต่อไป พอมันเริ่มแบ่งว่า พวกแก พวกฉัน  ฉันดี แกเลว สงครามมันก็เริ่มก่อขึ้นแล้ว เป็นวงจรอุบาทว์ไม่จบไม่สิ้น ไม่รู้ว่าที่ญี่ปุ่นเขาพยายามปิด เพราะกลัวเรื่องความเกลียดชังหรือเปล่า และจีนเอง อยากได้คำขอโทษและความจริง แต่จะัรับมือกับความเกลียดชังที่จะเกิดได้แค่ไหน เราไม่อยากพูดว่าจบไปแล้วให้จบไปเพราะเราไม่ใช่คนโดนกระทำ แต่คิดถึงผลที่จะเกิดต่อหากความเกลียดชังมันมีขึ้นจากความจริง โลกนี้คงอยู่แบบไม่มีความสุข  ไม่รู้ว่าคนที่ฝังตัวเองกับความเกลียดชังเหล่านั้น  จะลุกขึ้นมาเอาคืน กับคนที่ไม่รู้เรื่องราวด้วยเมื่อไหร่.. จากคุณ : anavrin - [ 9 มิ.ย. 52 08:09:24 ]

ความคิดเห็นที่ 47 ยังมีคนเข้าใจผิดเยอะเลย  ว่าไทยปล้น พระแก้วมรกตมาจากลาว แม้แต่คนลาว ก็คิดอย่างนั้น จากคุณ : Gabi - [ 9 มิ.ย. 52 08:31:03 ]

ความคิดเห็นที่ 48 ที่ข้าพเจ้าตั้งกระทู้นี้ขึ้นมาไม่ได้ต้องการให้เกิดความเกลียดชนชาติญี่ปุ่นและเกิดความแตกแยกแต่อย่างใด เพียงแต่อยากแสดงให้เห็นว่าด้านมืดของมนุษย์น่ากลัวแค่ไหน สามารถฆ่า ทรมาน มนุษย์ด้วยกันทั้งที่ไม่เคยมีความเจ็บแค้นกันมาก่อน เพียงแค่ยึดว่าเป็นคนละชาติเท่านั้น ถ้าทุกคนมองคนอื่นว่าเป็นมนุษย์เหมือนกัน ไม่แบ่งแยกว่าเป็นชาติใด ก็คงจะไม่เกิดสงครามและความวุ่นวายสับสนดังเช่นปัจจุบัน ศึกษาประวัติศาสตร์ก็เพื่ออนาคตจะไม่ซ้ำรอยเดิมครับ ดังนั้น อย่าทะเลาะกันเลยครับ แต่มาโต้เถียงกันด้วยเหตุผลเพื่อต่อยอดทางความคิดกันดีกว่า คห.15 ขอบคุณครับที่แนะนำ แต่ข้าพเจ้าว่าไม่ลงรูปจะดีกว่า เพราะมันโหดมาก เกิดใครเปิดผ่านๆเข้ามา จะช็อกได้ครับ คห.29 หน่วยปฏิบัติการ 731ครับ เรื่องนี้ก็โหดไม่แพ้กัน ถ้าใครยังจำหนังในอดีตเรื่อง จับคนมาทำเชื้อโรค เป็นเรื่องของหมอญี่ปุ่นที่การทดลองอำมหิตกับชาวจีนและเชลยศึกชาวตะวันตก เช่น ตัดแขนขาแล้วนำมาต่อสลับกัน ผ่าตัดเปิดสมองกันสดๆโดยไม่ใช้ยาชา ผสมเชื้อโรคลงในอาหารแล้วให้เชลยกิน จากคุณ : มนุษยธรรม - [ 9 มิ.ย. 52 08:44:31 A:202.133.139.3 X: TicketID:219162 ]

ความคิดเห็นที่ 49 ทำไมติดไฟแดงล่ะ  เพราะเป็นญี่ปุ่น? ถ้าเปลี่ยนจากญี่ปุ่นเป็น "เกาหลี"  ไม่อยากจะคิดต่อ เฮือกก.. แก้ไขเมื่อ 09 มิ.ย. 52 10:30:31 จากคุณ : dne - [ 9 มิ.ย. 52 08:59:22 ]

ความคิดเห็นที่ 50 ไทยก็ รุกราน กัมพูชา ลาว และพม่า เช่นกัน ใน สมัยทวาราวดี อยุธยา  ประวัติศาตร์ไทย สอนให้คนคลั่งชาติ แทนที่จะรักอย่างมีเหตุผล ขอโทษที่นอกประเด็น จากคุณ : kamal (kamal) - [ 9 มิ.ย. 52 09:26:22 ]

ความคิดเห็นที่ 51 แล้วเราก็กัดกันเอง... เรื่องเปลี่ยนแบบเรียนนี่ คนญีปุ่นที่เคยคุยเขารู้นะว่าเกิดอะไรขึ้น เขาบอกเลยว่าชาติเขาผิด แล้วก็ว่าอเมริกาก็ผิดเหมือนกันที่มาบอมประเทศเค้า ต่างจิตต่างใจค่ะ สงครามทำลายทุกอย่าง ซึ่งมันก็เป็นอดีตไปแล้วอ่ะนะ จากคุณ : มือปราบหน้าใส - [ 9 มิ.ย. 52 10:03:49 ]

ความคิดเห็นที่ 52 ถูก ที่ว่าเรื่องราวมันผ่านมานานแล้ว คนญี่ปุ่นในปัจจุบันไม่รู้อิโหน่อิเหน่อะไรด้วย แต่ก็เช่นเดียวกันจะให้ลูกหลาน ญาติพี่น้องของคนที่ได้รับผลจากสงครามการฆ่าล้างโคตรที่นานกิงลืมการกระทำของทหารญี่ปุ่น ก็คงเป็นไปไม่ได้เช่นเดียวกัน โดยเฉพาะการที่ญี่ปุ่นไม่เคยยอมขอโทษ หรือยอมรับผิดในการกระทำของทหารญี่ปุ่นในช่วงสงครามเลย การกระทำที่แม้แต่นักประวัติศาสตร์ด้านสงคราม ยังพูดเอาไว้ว่าเป็นการฆาตกรรมหมู่ เกินขอบเขตของการทำสงครามปกติ ซึ่งมีหลายคนวิเคราะห์เอาไว้ว่า เพราะระบบการจัดการทหารของญี่ปุ่นนั้นแข็งกร้าว โหดร้าย เมื่อถึงเวลาปลดปล่อย ทหารญี่ปุ่นที่เข้ายึดเมืองได้ จึงกลายเป็นสัตว์ป่าในร่างมนุษย์ ไม่ใช่มนุษย์ปกติทั่วๆ ไป จากคุณ : SilentPower2 - [ 9 มิ.ย. 52 10:04:28 ]

ความคิดเห็นที่ 53 คดีที่นานกิง รอยด่างญี่ปุ่นกับจีน   "เรื่องจริงที่แสนโหดร้าย ดีกว่าเรื่องโกหกที่แสนหอมหวาน"                เมื่อกองทัพแห่งชนชั้นการปกครองและแห่งจักรพรรดิได้เข้ามารุกรานเข้ามาเข่น ฆ่าประชาชนตาดำๆ ในประเทศจีน ตลอดจนประเทศเพื่อนบ้านในเอเซีย โดยเฉพาะประชาชนจีนจำนวนมหาศาลที่ทุกข์ยากลำบากแสนเข็ญด้วยวิธีที่โหดเหี้ยม หลายรูปแบบ ชนิดผิดมนุษย์มนานับล้านๆ                             เกริ่น                ทำไม? เวลาที่นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นเวลาออกไปสักการะบูชาทหารญี่ปุ่นที่ศาลเจ้ายาสุ กูนิ ในกรุงโตเกียวมักมีเสียงด่า สาปแช่ง และประท้วงจากนานๆ ประเทศโดยเฉพาะประเทศจีนทุกครั้ง                "ทำไมนายต้องไปกราบไหว้พวกมันด้วย มันไม่ใช้วีรบุรุษสักหน่อย มันเป็นปีศาจชัดๆ"                "แกทำไมทำอย่างนี้ เท่ากับหยามน้ำหน้าเราหรือ รู้ไหมพวกมันทำอะไรไว้กับพวกเราบ้าง รู้บ้างไหม"                "สักวัน ประเทศแกจะพังพินาศ เหมือนพวกมัน"                นี้คือตัวอย่างเสียงก้มด่าจากนานาประเทศเฉพาะประเทศจีน บางคนประท้วงถึงขั้นบอยคอตสินค้าญี่ปุ่น การต่อต้านหนังสือเรียนประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่นที่บิดเบือนประวัติศาสตร์ การตัดความสันพันธ์ทางการทูตกับญี่ปุ่น และบางครั้งถึงขั้นปล่อยข่าวใส่ร้ายต่างๆ นา ๆ เลยทีเดียว"                ทำไมพวกเขาถึงเกลียดทหารญี่ปุ่นจนเข้าไส้ เกลียดยิ่งกว่าตัวกินไข่                คำตอบของเรื่องนี้ก็คือ พวกเขายังไม่ลืมเหตุการณ์คดีที่นานกิง ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2                มันทำให้ชาวจีนเจ็บแค้นญี่ปุ่นสุดๆ ยิ่งกว่าพม่ากับไทยเสียอีก........                            นานกิงแดนวิปโยค                ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ปี ค.ศ.1937 นั้น เป็นปีที่กองทัพญี่ปุ่นได้ดาหน้าเข้ามาบุกรุกประเทศต่างๆ ในเอเชียเพื่อยึดพื้นที่ให้ได้มากที่สุดเพื่อนำเอาทรัพยากรทุกๆด้านจาก ประเทศที่ยึดได้เอาไปเป็น"ทุน"หรือ"วัตถุดิบ"ในการเติมแสนยานุภาพทางด้านการ รบ การสร้างอาวุธ หรือแหล่งพลังงานสำรองด้านอื่นๆ                พวกเขาเริ่มบุกเข้ายึดประเทศแมนจูเรีย โดยอ้างว่าทหารจีนได้ไปวางระเบิดทางรถไฟของญี่ปุ่นเข้า ทำกับว่าจีนหยามน้ำหน้าญี่ปุ่น ทางประเทศพันธมิตรยุโรปทราบเรื่องนี้แต่ทำอะไรไม่มากนักเพราะเหนื่อยล้าจาก สงครามโลกที่ผ่านมา ทำได้แค่เชิญตัวแทนญี่ปุ่นเข้าพบและสั่งถอนกำลังออก แต่ญี่ปุ่นไม่รับฟังประเทศแมนจูเรียจึงถูกปกครองลับๆ โดยตัวแทนญี่ปุ่น และเปลี่ยนชื่อประเทศเป็นรัฐแมนจูกัว                นอกจากนั้นประเทศญี่ปุ่นยังยึด เกาหลี และประเทศตะวันออกเฉียงใต้ รวมทั้งประเทศไทย ตลอดจนหมู่เกาะแปซิฟิก ฯลฯ                และเป้าหมายต่อไปของญี่ปุ่นก็คือจีน                จีนถือว่าเป็นเป้าหมายหลักที่ญี่ปุ่นต้องการมากที่สุดในเอเชียเพราะเป็น ประเทศที่มีทรัพยากรที่อุดมสมบูรณ์มากที่สุด ดังนั้นบรรดาเมืองใหญ่ๆ ทั้งหลายในจีนจึงเป็นเป้าหมายที่ญี่ปุ่นจ้องตาเป็นมัน เพื่อจะเขมือบเต็มเหนี่ยว                เมืองใหญ่น้อยทั่วจีนที่เป็นเป้าหมายของญี่ปุ่นถูกปราบลงราบคาบไม่มีการต่อ ต้านจากจีนใดๆ ทั้งสิ้น แต่นานกิงใน ค.ศ. 1937 นั้นนานกิงยังไม่ถูกญี่ปุ่นยึด พูดง่ายๆ คือเมืองยังไม่แตก แต่ก็สะบัดสะบอมเต็มที่เพราะกองทัพญี่ปุ่นต่างโหมบุกหนักหน่วงเป็นระลอก คลื่น ไม่ช้านานกิงอาจเหมือนเมืองอื่นๆ ที่ต่างโดนญี่ปุ่นยึดไว้หมดแล้ว                เดือนกันยายน ค.ศ. 1939 กองทัพญี่ปุ่นส่งเครื่องบินรบสุ่มทิ้งระเบิดถล่มทั่วนานกิงแบบปูพรม ถึง 100 เที่ยว                โดยเฉพาะวันที่ 25 กันยายน 1939 วันเดียวกันนั้นปรากฏว่ามีฝูงบินญี่ปุ่นแบบทิ้งระเบิดปูพรมถึง 5 เที่ยวใหญ่ๆปล่อยตรงจุดที่มีจำนวนมากๆ เช่น หน่วยรักษาคนเจ็บ ค่ายผู้อพยพ ส่งผลให้มีคนตายในที่เกิดเหตุทันที่กว่าหนึ่งร้อยศพ มีคนบาดเจ็บนับไม่ถ้วน                สถานีวิทยุ การประปา แหล่งเพาะปลูก กระทั้งโรงพยาบาล ถูกกองทัพญี่ปุ่นทิ้งระเบิดใส่จนพังพินาศหมด                เท่านี้ นานกิงก็ตัดขาดโลกภายนอกโดยสมบูรณ์แบบ                 บั่นคอผู้ต่อต้านอย่างเลือดเย็น                             ระส่ำหนัก                ล่วงเข้ามาถึง วันที่ 20 พฤศจิกายน รัฐบาลก๊กมินตั๋ง ได้ประกาศย้ายเมืองหลวงไปยัง ชองกิง ในขณะเดียวกันนานกินนั้นก็ระส่ำระสายแทบควบคุมสถานการณ์ไม่อยู่ บรรดาราชการ คนชั้นสูง คนรวย ต่างเผ่นหนีออกจากเมือง โดยปล่อยพวกชาวบ้านนานกิงจนๆ ผู้อพยพ และบรรดาพ่อค้าที่ห่วงของซื้อของรอเคยชะตากรรมกันเอาเอง                "ตัวใครตัวมัน"                เมืองนานกิงก่อนที่ทหารญี่ปุ่น มีประชากรราวหนึ่งล้านคน พวกเขายังไม่หนีหายไปไหน แต่กลับหาที่ซ่อนตัวไม่ไกลนัก เพราะทุกคนต่างหวังว่าทหารก๊กมินตั๋งจะมาช่วยต้านทหารญี่ปุ่นไว้ได้                แต่พวกเขาคิดผิดถนัด!                เพราะคณะกรรมาธิการนานาชาติได้ตั้งให้นานกิงเป็นเขตปลอดภัย หรือเซฟตี้ โซน โดยไม่จำเป็นต้องให้ส่งทหารมาดูแล                โดยรับความเห็นชอบจากรัฐบาลก๊กมินตั๋ง                ความหวังสุดท้ายของชาวนานกิง! ริบหลี่เต็มที่                              เมืองถูกเผาตัวใครตัวมัน                             นำเชลยศึกไปฆ่าทิ้งนอกเมือง                         ก่อนนานกิงแตก                ราวบ่าย 2 โมงของวันที่ 12 ธันวาคม ค.ศ. 1937  แม้ทหารของจีนจะต่อต้านญี่ปุ่นจนสุดฤทธิ์ แต่น้ำน้อยย่อมแพ้ไฟ ในเวลาไม่นานนัก ทหารญี่ปุ่นได้ยึดเมืองนานกิงได้สำเร็จ และต่างบุกทะลึกเข้ามาในเมืองหลวงอย่างไม่ขาดสาย ทหารจีนพยายามสกัดแต่ไม่เป็นผล จนกระทั้งราวๆ ห้าโมงเย็น นายพล ตัง เชง ไซ นายทหารชั้นสูงที่เป็นคนบังคับบัญชากองพลทหารก๊กมินตั๋งในการต้านทหาร ญี่ปุ่นก็ได้หนีข้ามแม่น้ำไปอีกคน                ความสับสนทวีมากขึ้นเมื่อญี่ปุ่นยึดนานกิง ประชาชนนานกิงจำนวนมากยังคงหลบที่ร้านค้าและบริษัทเพื่อทำหน้าที่ปกป้อง ทรัพย์สินตัวเอง หรือตามคำสั่งของเจ้านาย ทำให้ถนนหนทางแทบจะเป็นถนนร้างเพราะผู้คนพากันหลบหนีไม่ออกมาเดินให้เห็นบน ถนน                เวลาเดียวกัน ก็มีผู้อพยพมาจากส่วนนอกตัวเมืองที่ยังละล้าละลัง จำนวนคนพวกนี้ มีทั้งบรรดาทหารจีนที่ได้รับบาดเจ็บมากบ้างน้อยบ้าง รวมทั้งคนแก่ และ เด็กๆ ที่ทะลักเช้ามาสู่ตัวเมืองเป็นจำนวนมาก                อีกอย่างหนึ่ง ที่พวกเขาต่างเข้ามาในตัวเมืองกันก็เนื่องจากได้รับข่าวว่าตอนนี้นานกิง เป็นเขตปลอดภัย ตามประกาศของรัฐบาล                แต่ภายหลังผู้อพยพเหล่านี้ไม่สามารถหนีออกจากเมืองได้เพราะทหารก๊กมินตั๋ง ปิดประตูด่านต่างๆ เพื่อสกัดการบุกทหารญี่ปุ่นที่จะผ่านมาทางนี้                "พวกเขาจึงตกเป็นเหยื่อการสังหารโหดของทหารญี่ปุ่นในเวลาต่อมา!"                             ชาวเมืองจำนานมากตายเพราะแรงระเบิด                ชาวนานกิงที่น่าสงสาร                สถานการณ์ที่คับขันของนานกิงในช่วงเวลาหัวค่ำของวันที่ 12 ธันวาคม 1937 นั้นเริ่มจะหฤโหดของเรื่อย แทนที่จะเป็นการสู้รบระหว่างทหารญี่ปุ่นกับทหารรัฐบาลก๊กมินตั๋งของจีน กลับกลายเป็นการสังหารชาวบ้านนานกิงที่อพยพตามถนนหนทางของญี่ปุ่นแทน                ดังนั้น บรรดาทหารที่ได้รับบาดเจ็บ คนแก่ เด็กๆ ทั้งหลายตกอยู่สภาพสิ้นหวัง ช่วยตัวเองไม่ได้ ทางเดียวที่จะพอทำได้ในตอนนี้คือหลบภัยจากญี่ปุ่นภายในบริเวณรอบๆ เท่านั้น จากคุณ : SilentPower2 - [ 9 มิ.ย. 52 10:06:26 ]

ความคิดเห็นที่ 54 ผู้ชนะ คือผู้ที่เขียนประวัติศาสตร์ ครับ คนลาว ทุกวันนี้ก็ยังไม่พอใจไทย ที่เขียนประวัติศาสตร์สมัยท้าวสุรนารี  ว่า คนลาว ทหารลาว ถูกแม่ญิงไทยมอมเหล้า จนเสียท่า แพ้คุณหญิงโม ครับ คนพม่า ก็ไม่ค่อยชอบสมเด็จพระนเรศวรของเรา และเขียนในประวัติศาสตร์ว่า สมเด็จพระนเรศวรของเรา เนรคุณบาเยงนองของเขา ที่เอามาชุบเลี้ยงเป็นอย่างดี สุดท้ายก็ตีหงสาวดี เอาเมืองไปปกครอง ครับ ไม่ได้ตอบกระทู้ให้เป็นชนวนทะเลาะกันนะครับ  เพียงแต่เอามุมมองของประเทศเพื่อนบ้าน มาให้สะท้อนให้เห็น ว่าประวัติศาสตร์แต่ละที่ ย่อมเขียนไปตามมุมมองของคนแต่ละประเทศ ครับ  ไม่มีอะไรที่เป็นกลางจริงๆหรอกครับ จากคุณ : ดาวตก@ผีเสื้อ@กระบี่ - [ 9 มิ.ย. 52 10:07:00 ]

ความคิดเห็นที่ 55 ทุกชนชาติมีประวัติเป็นเหยื่อและเป็นผู้ล่าทั้งนั้นค่ะ ไม่งั้นจะเกิดเป็นชนชาติขึ้นมาไม่ได้ ต้องย่อยสลายไปเป็นแค่กลุ่มชน...จีนเองก็ทำกับธิเบตไว้เยอะมาก ญี่ป่นก็โดนชาติอื่นทำไว้เยอะ ....ไม่มีชาติไหนมือสะอาดปราศจากเลือดหรอกค่ะ..... จากคุณ : ash the best - [ 9 มิ.ย. 52 10:15:56 ]

ความคิดเห็นที่ 56 จีน มันก็เคยมาข่มขืน-ฆ่าคนไทย พม่าก็เคย คนไทยก็เคยไปทำเค้า  สงครามที่ใหนๆ มันก็มีเรื่องแบบนี้ทั้งนั้น  คนยิวที่โดนฮิตเลอร์ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์เองก็ใช่ย่อยซะที่ใหน  เขาอยู่ของเขามาเป็นพันๆปี อยู่ๆไปไล่ที่แล้วอ้างว่า พระเจ้าสั่งมาว่ายกให้พวกกุ แล้วซะงั้น ไม่เห็นมีใครด่าอิสราเอล ทหารอเมริกา ก็อ้างว่า อิรัก ผลิตอาวุธชีวภาพ ยกกองทัพไปยึด สุดท้ายก็ไม่เจอ ทหารอเมริกาก็ไปข่มขืน สาวอิรัก เรื่องนีเป็นข่าวอยู่พักนึงสุดท้ายก็เงียบ สงครามไม่ว่าครั้งใหนๆก็โหดร้ายทั้งนั้น แต่ก็แปลกที่ทั้งที่สงครามจบไปนานแล้วแต่ก็ยังมีพวกไม่ยอมจบ ยกข้ออ้างว่า ตนเองถูกกระทำ  แล้วก็ก่อฉนวนสงครามครั้งใหม่ขึ้นมาซะงั้น แล้วอย่าว่าแต่คนญี่ปุ่นที่ไม่สอนเรื่องนานกิงเลย  คนจีนกว่าครึ่งประเทษก็ไม่รู้ว่า เกินอะไรขึ้นที่ จตุรัส เทียนอันเหมินเหมือนกัน แก้ไขเมื่อ 09 มิ.ย. 52 10:28:58 จากคุณ : ดาวซัลโว - [ 9 มิ.ย. 52 10:24:22 ]

ความคิดเห็นที่ 57 อากงเราที่เสียไปก็ไม่ชอบคนญี่ปุ่น จำได้ว่าสมัยเด็กเราเลือกเรียนภาษาญี่ปุ่น ตอนช่วงที่เราว่าง ๆ ซึ่งสมัยนั้นญี่ปุ่นกำลังมาแรงเหมือน กับกระแสเกาหลีในขณะนี้ ปรากฏว่าอากงเราไม่ค่อย ชอบที่เราจะไปเรียนสักเท่าไหร่ เราลืมนึกถึงไปว่า อากงเราคงเคยรับรู้อะไรเกี่ยวกับประวัติศาสตร์มาบ้าง ก็เลยไม่อยากให้หลานตัวเองไปเรียนภาษาของชาติที่ เคยทำร้ายประเทศของอากง เฮ้อ !คิดถึงอากงจัง จากคุณ : รักอากงค่ะ - [ 9 มิ.ย. 52 10:27:18 A:124.120.204.137 X: TicketID:132478 ]

ความคิดเห็นที่ 58 ของจริงเป็นเช่นไรพูดยากเพราะรายละเอียดต่างๆก็ไม่ได้มีหลักฐานชัดเจนนอกจากคำบอกเล่าหรือบันทุึกจากคำบอกเล่าทั้งนั้น เราควรมองในแง่ที่เราต่างก็เป็นประชากรโลกด้วยกันมากกว่าจะมาคอยแบ่งชนชาติกัน ทำให้บาดหมางกันเปล่าๆ ตั้งแต่โลกนี้กำเนิดมาไม่มีใครตีเส้นแบ่งว่าใครอยู่ตรงไหน แต่มนุษย์เองที่มาตีเส้นแบ่งนั้นและผลักดันให้มนุษย์ด้วยกันเองเป้นคนแปลกหน้าเป็นศัตรู เพียงเพราะความต้องการอำนาจของใครสักคน ส่วนตัวผมชอบอ่านเรื่องสงครามนะ แต่ก็ไม่ได้เข้าข้างว่าใครถูกใครผิดแต่มองและเรียนรู้ความโหดร้ายที่มนุษย์เคยมีต่อกัน กลโกงของผู้มีอำนาจในการหลอกใช้คนหมู่มาก  เราควรจะรับรู้และคิดตามมากกว่าปล่อยให้อารมณ์ครอบงำแล้วโกรธเกรี้ยวไปกับสิ่งที่เกิดขึ้นมานานมากๆแล้วและเปลี่ยนแปลงไม่ได้ จากคุณ : Desolation Angel - [ 9 มิ.ย. 52 10:35:31 ]

ความคิดเห็นที่ 59 หากสงครามจะพอมีข้อดีบ้าง.... ก็คงเป็นอุทธาหรณ์ให้เราเรียนรู้ว่าเคยเกิดอะไรขึ้นบ้าง และจะทำอย่างไรไม่ให้เกิดการสูญเสียเช่นนั้นอีก ไม่ใช่การท่องไปในอดีตว่าเคยเกิดอะไรขึ้นบ้าง และจะเอาคืนหรือเกลียดชังอีกฝ่ายอย่างไรให้สาสมกัน จากคุณ : ร่าเริงเบิกบานสำราญอุรา - [ 9 มิ.ย. 52 10:50:06 ]

ความคิดเห็นที่ 60 ^ ของจริงเป็นเช่นไรพูดยากเพราะรายละเอียดต่างๆก็ไม่ได้มีหลักฐานชัดเจนนอกจากคำบอกเล่าหรือบันทุึกจากคำบอกเล่าทั้งนั้น ??? ลองไปศึกษาดูใหม่นะคะว่าตรงไหนไม่ชัดเจน จากคุณ : Jaded Nomad - [ 9 มิ.ย. 52 10:54:06 ]

ความคิดเห็นที่ 61 คนจีนแผ่นดินใหญ่หัวเก่าจึงเกลียดญี่ปุ่นมากจนทุกวันนี้ค่ะ เรียกว่าเป็นรอยแผลเป็นที่ใหญ่มากและไม่เลือนหาย ผลของสงครามและความบ้าคลั่งมันทำร้ายคนจนชั่วลูกชั่วหลานจริงๆ จากคุณ : pyramidas - [ 9 มิ.ย. 52 10:55:22 ]

ความคิดเห็นที่ 62 คนที่ก่อกรรมคือพวกทหารนะคะ คุณไปเหมารวมด่า เกลียดญี่ปุ่นทุกคนมันใช่เหรอ? เคยอ่านเจอมาว่า คนญี่ปุ่นเองก็ไม่ชอบทหารของเค้าเหมือนกัน ที่เป็นคนก่อสงคราม แล้วทำให้บ้านเมืองต้องล่มจมในช่วงสงครามนั้น ดังนั้นทหารญี่ปุ่นเลยไม่ค่อยถูกกับชาวบ้านเท่าไหร่ และอีกอย่างเรื่องนี้มันก็ผ่านมานานแล้วนะ ขุดกันมาคุยกันไม่รู้จบแบบนี้ ก็คงจมกันอดีตไม่มีวันได้ลืมตามองไปข้างหน้ากันหรอก คนที่ทำกรรมไว้ก็รับกรรมกันไปแล้ว ไปนรกกันหมดแล้ว จะรื้อฟื้นทำไม แล้วจาก คห.16 ถ้านั้นคือผลกรรมที่เค้าได้รับ แล้วประเทศเค้าทำไมรุ่งเรือง กว่าประเทศสารขัณฑ์ที่่ดูบริสุทธิ์แถวนี้หว่า? แล้วทีทำไมประเทศที่ก็รุกราน ประเทศอื่นเหมือนกัน อีกหลายๆประเทศไม่โดนผลกรรมอะไรบ้าง เห็นเจริญเอ๊า เจริญเอา จากคุณ : น้ำพริกกินกะปลาทู - [ 9 มิ.ย. 52 10:57:23 ]

ความคิดเห็นที่ 63 ซื้อดีวีดี หนังเรื่องนี้มานานแล้ว แต่ยังไม่กล้าดู ....... จากคุณ : landon - [ 9 มิ.ย. 52 10:57:26 ]

ความคิดเห็นที่ 64 ออกไปฟัดกันกลางทะเลเช่นเคย...เหอๆ จริงๆ ในฐานะห้องเฉลิมไทย คุยกันในแง่มุมการตีความของหนังที่นำเสนอ น่าจะดีกว่า เหตุการณ์พวกนี้มันเป็นอุทาหรณ์ให้มนุษยชาติหันมามองเรื่องสิทธิมนุษยชนมากขึ้น   ไอ้ที่เรามาทะเลาะกันเรื่องอดีตเนี่ยนะ จริงๆ ก็ยังเกิดขึ้นในโลกนี้อยู่  ไม่ว่าในทวีปแอฟริกา หรือประเทศที่มันยังรบกันทุกวันนี้  เพียงแต่เบื้องลึกมันยังไม่ถูกเอามาตีแผ่เท่านั้น มาช่วยกันถกปัญหาในเชิงสร้างสรรค์ เพื่อแก้ไขปัจจุบันให้ดีที่สุด..น่าจะดีกว่า จากคุณ : Bkkbear - [ 9 มิ.ย. 52 11:02:49 ]

ความคิดเห็นที่ 65 เราเคยไปนานกิงและไปดูพิพิธภัณฑ์ที่ว่านี้จริง ๆ ค่ะ พิพิธภัณฑ์น่ากลัวมาก มีแต่รูปขาวดำที่แสดงการทรมานของมนุษย์ต่อมนุษย์ แล้วก็มีห้องจำลองที่ใช้หุ่นจำลองเท่าคนจริงแสดงให้ดูว่าคนจีนเคยถูกทรมานยังไงบ้าง ไม่ว่าจะเป็นการเอาคนเป็น ๆ มาผ่าสด ๆ เพื่อดูอวัยวะภายในและทดลองอาวุเคมีชีวภาพ จากคุณ : SnOwY~SeAsOn - [ 9 มิ.ย. 52 11:08:30 ]

ความคิดเห็นที่ 66 อย่าว่าอย่างนั้นอย่างนี้เลย   ไปดูเหตุการณ์ 14 ตุลา ของบ้านเรา  ก็โหดไม่แพ้กันนะครับ  ข่มขืน ฆ่าตัดหัวประจาณ กันแบบโหดๆ  ขนาดชาติเดียวกันเองนะ แต่เหตุการณ์ที่นานกิง ถือว่าโหด เพราะคนจีนตายไปเยอะมากๆ แต่อาจจะไม่เท่ากับที่ เยอรมัน ฆ่า ยิว เป็นล้านๆ  หรือ เขมรฆ่ากันเอง เป็นล้านๆ คนเหมือนกัน จากคุณ : KennyK - [ 9 มิ.ย. 52 11:09:26 ]

ความคิดเห็นที่ 67 สงครามมันไม่มีคนถูกหรอก มีแต่คนผิดทั้งนั้นแหละ แต่ที่ผิดมาอย่างต่อเนื่อง และให้อภัยได้ยากยิ่งสำหรับญ๊ปุ่น คือการบิดเบือนประวัติศาสตร์แก่เยาวชนในประเทศของเขาเอง ลองไปดูหลักสูตรวิชาประวัติศาสตร์ของประเทศเขาสิ พูดถึงสงครามนานกิงน้อยมาก และ ไม่กล่าวอ้างถึงการฆ่าอย่างโหดเหี้ยม ทารุณ ต่างๆเหล่านั้นเลย... เด็กที่โตมา ก็รับรู้เพียงผิวเผิน และ คิดแค่ว่าประเทศเขาไม่ผิด จากคุณ : chabby ----------------- เห็นด้วยค่ะ อย่างน้อยก็น่าจะให้คนญี่ปุ่นรุ่่นหลังรับทราบประวัติศาสตรที่แท้ที่จริงว่าบรรพบุรุษของพวกเค้าได้ ทำการทารุณกรรม เข่นฆ่า ข่มขืน เด็กสตรีคนชราอย่าง "โหดเหี้ยมผิดมนุษย์" จะได้เป็นอุทราหรณ์ ์แก่คนรุ่นลูก ว่าเพราะเหตุใดจีนถึงได้โกรธนายกญี่ปุ่นที่ไปเคารพศพทหารญี่ปุ่นเหล่านั้น และสำนึกว่าสงครามที่เค้าก่อได้ให้ผลกระทบอะไรกับประเทศอื่นมากกว่าที่เค้าได้จาก ระเบิดปรมาณู 2 ลูก เหรียญมีสองด้านคนญี่ปุ่นรุ่นหลังควรรับทราบทั้งสองด้านค่ะ แก้ไขเมื่อ 09 มิ.ย. 52 11:29:50 จากคุณ : Pnatt_nara - [ 9 มิ.ย. 52 11:28:24 ]

ความคิดเห็นที่ 68 ชีวิตคนเรามันสั้นนะ ความจริงบางเรื่องในอดีต อาจทำให้ รู้สึกแย่หรือเจ็บปวด ถ้าลืมมันไม่ได้ก็จดจำไว้เป็นบทเรียน เพื่ออยู่กับปัจจุบันให้ได้ "พวกเรามาช่วยกันทำแต่สิ่งดีๆเพื่อให้เกิดสันติสุขกับโลกใบนี้กันเถอะ" จากคุณ : เม็ดทรายสีขาว - [ 9 มิ.ย. 52 11:35:41 A:125.25.75.171 X: TicketID:217451 ]

ความคิดเห็นที่ 69 ในสมัยนั้นจากสงคราม เรียกว่าเกิดการละเมิดสิทธิมนุษยชนและ เข่นฆ่ากระทำกันโดยขาดมนุษยธรรมกันแทบทั่วโลก แล้วมนุษย์ก็ได้บทเรียนครับ  มีการออกกฏหมาย กฏบัตร ต่างๆมากมาย จากเหตุการณ์ในครั้งนั้น จนทุกวันนี้หลายภูมิภาคในโลกเกิดความสงบ (เท่าที่มนุษย์พึงได้รับ) และสอนให้ความเอื้ออาทรแก่เพื่อนมนุษย์ไม่ว่าชาติพันธุ์ใดๆ ผมว่าเรื่องนี้ควร/ต้อง ให้อนุชน รุ่นหลังได้ศึกษาเรียนรู้กันไว้เยอะๆนะครับ หากหลงลืมหรือปล่อยปะ ละเลยไปแล้ว มันก็จะหวนกลับมาอีกครั้งครับ จากคุณ : Dalre2006 - [ 9 มิ.ย. 52 11:35:49 ]

ความคิดเห็นที่ 70 สงคราม ไม่มีไครถูกหรือผิด มีแค่ ผู้ชนะ กับผู้แพ้เท่านั้น ผู้แพ้ ไม่มีสิทธ์เลือก ว่าจะประท้วงกรรมการ ว่าผู้ชนะฟาลว์ หรือเล่นโกง หรอกครับ นั่นเรียกว่าพาล คนตาย ก็ตายกันไป หากไม่หลุดพ้น เที่ยวเจ็บแค้นกัน กี่ปีกี่ชาติ มันก็ใด้แค่ย่ำต๊อกอยู่ตรงนี้แหละน๊อ จีน เกาหลี จากคุณ : mitman - [ 9 มิ.ย. 52 11:37:44 A:222.123.207.229 X: TicketID:161534 ]

ความคิดเห็นที่ 71 การฆ่าล้างที่นานกิง ถูกจัดว่าโหดเหี้ยมอำมหิตที่สุดแล้วครับ เพราะก่อนฆ่ามีการทรมานก่อนอย่างแสนสาหัส และฆ่าด้วยวิธีที่ทรมานเจ็บปวดแบบสุดๆ ปล่อยให้ค่อยๆตายอย่างช้าๆ ไม่ผิดหรอกครับที่คนจีนจะเกลียดคนญี่ปุ่น เพราะบรรพบุรุษและคนรุ่นก่อนๆของเขาถูกกระทำอย่างทารุณขนาดนี้ คิดดูขนาดอเมริกาไม่เคยมาทำอะไรคนไทยเลย เต็มที่ก็แค่โซรอสมาทุบค่าเงินบาทไทย คนไทยบางคนยังเกลียดอเมริกาขนาดนี้ อเมริกาไปบอมอิรัก คนไทยก็เกลียดอเมริกา ทั้งๆที่อิรักมันก็ไม่ได้เป็นอะไรกับเราเลยด้วยซ้ำ นับประสาอะไรกับคนจีนครับ เวลาจะมองอะไรก็ต้องใจเขาใจเราครับ ถ้าผมเป็นคนจีนผมก็เกลียดญี่ปุ่นครับ แต่ทั้งนี้ต้องแยกแยะว่าทหารชุดนั้นมันตายไปหมดแล้ว คนญี่ปุ่นปัจจุบันเขาก็ไม่ได้รู้เรื่องแล้ว เกลียดได้ แค้นได้ แต่ไม่ใช่ไปล้างแค้นกับคนที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่ จากคุณ : คาร์บอม - [ 9 มิ.ย. 52 11:55:15 A:125.25.122.17 X: TicketID:212419 ]

ความคิดเห็นที่ 72 เรื่องนี้เรารู้มานานแล้ว และไม่ได้ทำให้เกลียดญี่ปุ่นแต่อย่างใด แค่รับรู้ว่า สมัยก่อนทหารญี่ปุ่น โหดร้าย พฤติกรรมไม่เหมือนมนุษย์ ป่าเถื่อน แค่นั้นแหละ สำหรับเรื่องนี้ ที่เรารู้สึก ที่โหดร้ายกว่านี้ยังมีอีกเยอะ แค่มันไม่แพร่หลาย หรือหลายๆคนไม่ได้สนใจ อินเดียนแดง หายไปไหน ทำไมตอนนี้แทบหาไม่เจอ ประเทศไหนล่ะ ไปขโมยแย่งชิง แผ่นดินเขามา   ยังอ้างได้อีกว่า เป็นผู้ค้นพบแผ่นดิน เพราะงั้นเลยเป็นเจ้าของ เข่นฆ่า(แทบจะล้างโคตร)เผ่าพันธ์เขา เพื่อแย่งเอาที่ดิน ก็อย่างว่า ผู้ชนะ คือผู้เขียนประวัติศาสตร์ สำหรับเรา ประวัติศาสตร์มีไว้ศึกษา วิเคราะห์ ไม่ได้มีไว้เป็นเครื่องมือโจมตีใคร หรือมีไว้เกลียดใคร เรื่องที่ทำให้เรารู้สึกไม่ดีกับญี่ปุ่น ไม่ใช่เรื่องที่หนานจิง ไม่ใช่เรื่องเล่าจากประวัิติศาสตร์ที่ผ่านมานาน เรื่อง สมุนไพรไทย ที่ญี่ปุ่นเอาไปจดสิทธิบัตรต่างหาก ที่ทำให้เรารู้สึกไม่ชอบญี่ปุ่น มีใครยังคิดจะจำเรื่องนี้ไว้บ้าง  นั้นมันเกิดกับประเทศเราเอง และเป็นปัจจุบัน เป็นเรื่องที่เราเกิดทัน คนไทยหลายคนหลงลืมเรื่องนี้ไปทั้งๆที่มันเพิ่งเกิดไม่นาน และเกิดกับประเทศเราเองด้วย จากคุณ : เทมปุระ - [ 9 มิ.ย. 52 11:59:50 ]

ความคิดเห็นที่ 73 ใช่  ถูกต้อง เป็นเป็นเรื่องของอดีต แต่ ปัจจุบัน  พวกญี่ปุ่น ก็ยังยกย่องกราบไว้ พวกทหารชั่วพวกนั้น ไม่เคยขอโทษ หรือยอมรับในสิ่งที่ตัวเองเคยทำ แล้วคุณจะให้เขาลืม หรือให้อภัยคุณเหรอ จากคุณ : Gabi - [ 9 มิ.ย. 52 12:17:37 ]

ความคิดเห็นที่ 74 แค่วันเดียวความเห็นทะลุเป้าแฮะ ..... จำอตีดไปเป็นบทเรียนสำหรับอนาคตครับ .... จากคุณ : จอบบ้อน - [ 9 มิ.ย. 52 12:17:47 ]

ความคิดเห็นที่ 75 แอฟริกา อินเดียนแดง อโบริจิ้น จีน ญี่ปุ่น เกาหลี สารพัดชาติ ประวัติศาสตร์โลกเรื่องความขัดแย้งของชาติต่างๆ มีกันมานานเต็มไปหมด ญี่ปุ่นเองคนเฒ่าคนแก่ก็เคยเล่าให้ฟังเรื่องจับคนไทยมาผูกกับรางรถไฟ หรือเอาน้ำมันกรอกปาก สมัยก่อนโน้นก็เกลียดญี่ปุ่นกันพอควร แต่อะไรๆ มันผ่านไปแล้ว ลืมคงลืมไม่ได้ แต่อย่าไปยึดติดน่าจะดีที่สุด จากคุณ : แมวหลงทาง - [ 9 มิ.ย. 52 12:56:24 ]

ความคิดเห็นที่ 76 นี่มันห้องหนัง งั้นก็แนะนำหนังล่ะกัน เรื่องแรก ตรงประเด็นเลย Don't Cry Nanking เรื่องที่สอง เรื่องนี้ผมชอบมาก ใครหลายคนอาจจะบอกว่า เรื่องผ่านมานานแล้ว ทำไมความเกลียดชังยังคงอยู่ ทำไมคนจีนจึงยังไม่ลืม ให้ดูเรื่องนี้ครับ นี่คือมุมมองคนจีนต่อคนญี่ปุ่น ซึ่งมันคงจะเป็นแบบนี้ไปอีกตลอดกาล Davil on The Door Step แค่ืชื่อเรื่องก็บ่งบอกได้หลายอย่างล่ะ จากคุณ : แอคโจนบริเค - [ 9 มิ.ย. 52 13:00:26 ]

ความคิดเห็นที่ 77 74 ใช่ คนผิวขาวอเมริกัน ได้เข่นฆ่าชาวอินเดียแดงเป็นล้านๆ ปฏิบัติกับพวกเขาราวกับสัตว์ คาวบาวสมัยนั้นนิยมตัดหน้าอกของชาวอินเดียงแดงหญิงเพื่อมาทำเป็นถุงใส่ของเพราะมันนุ่ม กวาดต้อนพวกเขา ฆ่าล้างบางพวกเขา และกักบริเวณให้พวกเขาอยู่แต่ในที่ๆกำหนดไว้ ห้ามไปใหน ในขณะที่ตนเองสูบทรัพยากรที่เป็นของบรรพบุรุษชาวอินเดียแดง แต่ชาวอเมริกันไม่เคยออกมาขอโทษ ไม่เคยยอมรับในสิ่งที่พวกเขาทำ ส่วนนี้ในประวัติศาสตร์หายไปจากหน้าหนังสือของเขาเฉยๆ แต่ไม่เคยเห้นใครลุกขึ้นมาต่อว่าอเมริกา........ อย่าดับเบิลแสตนดาร์ดครับ เพราะไอ้ความคิดที่ว่า "ประเทนั้นประเทศนี้:-)เลว ในอดีตไปทำเลวทรามไว้ ไม่ต้องไปให้อภัยมัน" ความคิดแบบนี้เป็นชนวนของความขัดแย้ง ก่อสงครามมานับไม่ถ้วน ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ชาวเยอรมันก็คิดแบบนี้ "ชาวยิวแมร่งเลว ในอดีตมันทำเลวทรามกับประเทศชาติเราไว้ แล้วยังลอยหน้าลอยตาอยู่อีก" ผลก็คือ กองทัพนาซีเยอรมันสังหารหมู่ชาวยิว ตามด้วย "พวกพันธมิตรมันเลว ในอดีตมันทำให้เราลำบาก รังแกเรา" สงครามโลกครั้งที่ 2 จึงอบัติ ไอ้ความคิดอคติใจแคบแบบนี้ ทำร้ายดลกมานักต่อนัก มันไม่ต่างจากความคิดเกรียนๆของพวกช่างกลที่ยกพวกตีกัน "พวกอุเทนฯแมร่งเลวทราม มันทำให้รุ่นพี่เราเจ็บแค้นมานักต่อนัก อย่ายกโทษให้มัน" แล้วก็ไปยกพวกตีกันไม่รู้จบ ทุกคนจะลืมไปแล้วล่ะมั้ง ว่าศาสนาพุทธสอนว่าอย่างไร เวรย่อมไม่ระงับด้วยการไม่จองเวร แต่ทุกคนคงลืมไปหมดแล้ว......... จากคุณ : ซามาโนสุเกะ - [ 9 มิ.ย. 52 13:11:02 ]

ความคิดเห็นที่ 78 ผู้ชนะเขียนประวัติศาสตร์ ผู้ชนะเขียนประวัติศาสตร์ ผู้ชนะเขียนประวัติศาสตร์ ผู้ชนะเขียนประวัติศาสตร์ เบื่อแล้วครับ ทำไมต้องอ้างแบบนี้ ในเมื่อ สิ่งที่ผู้ชนะ เขียน มันคือเรื่องจริง ไม่ใช่ว่า ผู้แพ้ไม่มีประวัติศาสตร์ ต่างฝ่ายต่างมีประวัติศาสตร์ของตนเอง มันก็แค่ อยู่ที่ว่าคุณจะเชื่อใคร เราคนไทย เราเชื่อในประวัติศาสตร์ของเรา แต่ประเทศเพื่อนบ้านไม่เชื่อ เพราะเค้ามีประวัติศาสตร์ของเค้า (และเราก็บอกว่าของเค้ามั่ว) ไม่ว่าคุณจะแพ้ หรือจะชนะ ถ้าทำผิดก็ต้องยอมรับผิดครับ ไม่ใช่พยายามชำระความแล้วทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ และอ้างว่าไอ้พวกชนะเป็นคนเขียนประวัติศาสตร์ จากคุณ : tolstoy - [ 9 มิ.ย. 52 13:25:43 ]

ความคิดเห็นที่ 79 คุณคาร์บอมแสดงคห.ได้ดีค่ะ จากคุณ : เสียงจากบ้านนา - [ 9 มิ.ย. 52 13:39:45 ]

ความคิดเห็นที่ 80 เฮ้ออออ ในสงครามไม่เคยมีผู้ชนะจริงๆ หรอก ไม่ว่าจะสงครามรูปแบบไหน ประเทศไหน ก็ตาม จากคุณ : Miss perjer_123 - [ 9 มิ.ย. 52 13:40:52 ]

ความคิดเห็นที่ 81 คห.73 นายกญี่ปุ่นเคยขอโทษแล้วครับ เป็นทางการด้วย แต่วันต่อมา สส.ญี่ปุ่นจำนวนหนึ่งก็ไปเคารพศพทหาร จีนก็เลยประท้วงขึ้นมาอีก http://www.nidambe11.net/ekonomiz/2005q2/article2005may06p7.htm ตอนนั้นก็ต้องโทษผู้นำจีนด้วยที่ประเมินกำลังญี่ปุ่นผิดไป พอสู้กันแพ้ขาดรอยแล้วก็หนี หวังแต่ไห้เมกากับยุโรปช่วย คนที่ต้องรับทุกข์ก็ประชาชน ถ้าจะเป็นแบบนั้น โอนอ่อนแบบคนไทยยังจะดีซะกว่า เสียน้อยดีกว่าเสียมาก และอย่าคิดว่าถ้าเค้ารบด้วยนิวเครียส์ขึ้นมาไทยจะไม่ได้รับผลไปด้วยน่ะ คิดเด็กๆเกินไป จากคุณ : Cosplay - [ 9 มิ.ย. 52 13:59:08 A:114.128.21.81 X: TicketID:165031 ]

ความคิดเห็นที่ 82 ตอนนี้ญี่ปุ่นเองก็ทำหนังเรื่องนึงขึ้นมาชื่อว่าThe Truth of Nanking http://www.irishtimes.com/newspaper/world/2008/1112/1226408552500.html โดยผู้กำกับบอกว่าเหตุการณ์ในนานกิงเป็นการใส่ร้าย และเรื่องการเมือง จริงไม่จริงคงไม่ใช่คำตอบ ที่น่าสนใจคือความคิดของคนญี่ปุ่นในเรื่องนี้มากกว่า ว่าคนญี่ปุ่นส่วนใหญ่เชื่อยังไง มีใครได้ดูเรื่องนี้มั่งยัง? จากคุณ : Cosplay - [ 9 มิ.ย. 52 14:12:55 A:114.128.21.81 X: TicketID:165031 ]

ความคิดเห็นที่ 83 กว่าจะเกิดเป็นคุณในทุกวันนี้คุณต้อง"ฆ่า"และ"กิน"อะไรเข้าไปบ้างล่ะครับ ฉันใดก็ฉันนั้น คุณคิดว่ากว่าจะก่อร่างสร้างสร้างประเทศขึ้นมาได้คิดว่าประเทศนั้นต้อง"ฆ่า"และ"กิน"อะไรเข้าไปบ้างล่ะครับ อนึ่ง ประเทศยิ่งใหญ่ ยิ่งเจริญยิ่ง"กินจุ" คนที่มีชีวิตอยู่ไม่มีใครไม่"ฆ่า"และไม่"กิน"ครับ จากคุณ : กห - [ 9 มิ.ย. 52 14:13:02 A:222.123.59.192 X: TicketID:179472 ]

ความคิดเห็นที่ 84 อ้อ เคยดูโอชิน คนญี่ปุ่นก็น่าสงสารนะคะ ประชาชนทั่วไป ลำบากมาก แต่สงครามก็พรากลูก พรากสามีของเค้าไป เด็กญี่ปุ่นยุคนั้นถูกเพาะบ่มในโรงเรียนให้ยอมตายเพื่อประเทศชาติจนฝังหัว ไม่งั้นจะมีนักบินกามิกาเซ่มากมายขนาดนั้นได้ไง เกือบทั้งหมดสมัครเข้ามาตายด้วยซ้ำ สงสารพ่อแม่ที่อยู่เบื้องหลัง จากคุณ : pyramidas - [ 9 มิ.ย. 52 14:28:19 ]

ความคิดเห็นที่ 85 ขออกตัวก่อนว่าเมื่อก่อนผมก็มีอารมณ์ร่วมกับนานกิงเหมือนกัน  ญี่ปุ่นมันเลวแบบนั้นแบบนี้  แต่คุณลองไล่ดูตั้งแต่ยุคกลางซิครับ ฝรั่งมันโหดน้อยกว่าญี่ปุ่นหรือ  การที่เหล่าอัศวินอ้างพระเจ้าแล้วไล่ยกทัพไปไล่ฆ่ามุสลิม ฆ่าแบบเผาทั้งเป็นในมัสยิด   ในสงครามครูเสด สมัยสเปนไปไล่ฆ่าชนพื้นเมืองที่เป็นบรรพบุรุษคนเม็กซิกัน เปรู บราซิล   ในอเมริกาใต้    ไม่เห็นสเปนมันขอโทษ หรือจ่ายค่าเสียหาย เลย หรือสมัยฝรั่งเศสที่มาไล่ฆ่าคนเวียดนาม คนแอฟริกัน พอเกิดสงครามโลก  มันเรียกพวกอาณานิคมไปช่วยมันรบ พอสงครามเลิกยังจะกลับมายึดอาณานิคมและกดหัวคนเหล่านี้ให้เป็นทาสมันอีก   ทุกวันนี้ฝรั่งเศสได้จ่ายค่าเสียหาย   และได้ขอโทษประเทศเหล่านี้มั้ย วัีนหน้ามีคนลาว คนเขมร มาชี้หน้าด่าคุณซึ่งเป็นคนไทยว่า ให้อเมริกาใช้สนามบินไปทิ้งระเบิดฆ่าปู่ย่าเขา (ระเบิดที่อเมริกาทิ้งในสงครามเย็นแถวบ้านเรามากกว่าที่ใช้ทิ้งใส่ญี่ปุ่นในสงครามโลกนะครับ) รัฐบาลไทยต้องขออภัยอย่างเป็นทางการ  แล้วจ่ายค่าเสียหายมา    คุณจะว่าไงครับ จากคุณ : Ninjax - [ 9 มิ.ย. 52 15:11:25 ]

ความคิดเห็นที่ 86 คห.60 ผมไม่ได้หมายถึงเหตุการณ์นี้ครับแต่พูดถึงการบันทึกประวัติศาสตร์โดยทั่วๆไป ขออภัยที่พิมพ์ไม่เคลียร์  บันทึกทางประวัติศาสตร์หลายๆอย่างมักมาจากคำบอกเล่าและบันทึกโบราณที่ไม่ชัว์ว่าจะจริง 100% หรือไม่ แต่ในเมื่อมันเป็นหลักฐานเดียวที่หาได้บางครั้งก็ต้องเชื่อตามนั้นไปก่อน เอาง่ายๆอย่างประวัติศาสตร์ไทยว่า พม่าชอบมาตีเมืองเรา ลองไปถามคนพม่าดูเขาก็บอกไม่รู้เรื่อง เพราะประวัติศาสตร์เขาก็ไม่ได้บันทึกว่าอย่างนั้น แบบนี้ใครจะพูดจริงล่ะ จากคุณ : Desolation Angel - [ 9 มิ.ย. 52 15:17:37 ]

ความคิดเห็นที่ 87 อ่านกระทู้นี้แล้ว สงสัยจะหวังมนุษยชาติเลิกก่อสงครามกัน คงเป็นไปได้ยาก ก็ขนาดแค่คนไทยด้วยกัน โพสต์กระทู้เดียวกัน ยังตีกันได้ จากคุณ : Bowling Bash - [ 9 มิ.ย. 52 16:04:58 ]

ความคิดเห็นที่ 88 คห.87 แต่เราอ่าน เรากลับว่าสนุกดีนะคะ ถกความคิดเห็นกันนี่ต้องนับว่าตีกันด้วยเหรอ จากคุณ : ปลายลมหนาว - [ 9 มิ.ย. 52 16:51:17 ]

ความคิดเห็นที่ 89 ยาวได้อีก จากคุณ : aonton - [ 9 มิ.ย. 52 17:36:48 ]

ความคิดเห็นที่ 90 ก็ถูกต้องแล้วนี่คะ ผู้ชนะคือผู้เขียนประวัติศาสตร์ มันผิดตรงไหนเหรอ ประวัติศาสตร์ชาติเรา ก็ใช่จะถูกต้องตรงเผงไปซะทุกอยา่งนี่ หลายๆเรื่องเราก็เขียนว่าเราดี  ลองไปอ่านเรื่องที่ชาติอื่นเค้าเขียนดูบ้างสิ เรื่องเดียวกัน เหตุการณ์เดียวกัน เขียนเหมือนกันรึเปล่า เราไม่เคยไม่เชื่อประวัติศาสตร์ของชนชาติไหน นอกจากจะมีหลักฐานว่าบิดเบือนชัดเจน เราจึงพูดได้เต็มปากว่าไม่เชื่อ ประวัติศาสตร์แต่ละชาติ เขียนไม่เหมือนกัน ดังนั้นเราจึงแค่ศึกษาและเรียนรู้มันไป ไม่ได้คลั่งขนาด อ่านอะไรมา ก็รีบเกลียดๆๆ เดี๋ยวตามเทรนไม่ทัน บางคนสนใจประวัติศาสตร์ชาติอื่นมากกว่าชาติตัวเองเสียอีก เพราะเดี๋ยวเอาไปคุยไม่ได้ ไม่เท่ห์ สิ่งที่ผู้ชนะเขียน คือเรื่องจริง? คิดงั้นจริงเหรอ งั้นแสดงว่า ชนเผ่าโบราณที่อยู่ในอเมริกา อินเดียนแดง คนพวกนี้ที่โดนทำร้ายเป็นคนผิด อเมริกา ผู้ชนะ เขียนให้คนพวกนั้นเป็นคนไร้อารยะธรรม ป่าเถื่อน จึงต้องกำจัด อเมริกาเขียนว่า ตัวเองเป็นคนค้นพบแผ่นดิน แล้วไปเจอผู้ไร้อารยธรรมอยู่ เลยต้องจัดการอบรมสั่งสอน เรื่องนี้ อเมริกาทำถูก อเมริกาเขียนว่าตัวเองดี เพราะงั้น อเมริกาเลยดี คนอินเดียแดง ชนเผ่าที่โดนทำร้าย  เป็นผู้แพ้ ไม่มีโอกาสได้เขียนประวัติศาสตร์ เลยกลายเป็นคนผิด งั้นใช่ไหม? ผู้ชนะไม่ได้ถูกเสมอไปหรอกค่ะ เขียนมา ไม่ได้จะเถียงกับใคร แค่อยากให้เข้าใจ ว่าผู้ชนะมันไม่ได้ดีถูกต้องไปซะทุกอย่าง โลกนี้มันไม่ได้เหมือนในการ์ตูนฮีโร่ ที่จะมีคนดีเลิศเฟอร์เฟคทุกอย่างมาคอยผดุงความยุติธรรม โดยที่ฮีโร่คนนั้นไม่เคยทำอะไรผิดเลย จากคุณ : เทมปุระ - [ 9 มิ.ย. 52 18:02:36 ]

ความคิดเห็นที่ 91 ไม่ได้มีผลอะไรกับชีวิตเลย ถ้าว่างมากก็เอาเวลาไปใส่ใจเรื่องโลกร้อนเถอะ ไม่เห็นค่อยมีใครมาตั้งกระทู้แนว.. คุณหมอผู้เสียสละ ได้รางวัลโนเบล คนที่บำเพ็ญประโยชน์ต่อโลก มาชื่นชมสรรเสริญกันเถอะ อะไรเทือกนี้เลย  ถ้าคิดว่าอยากให้คนรักกันมากขึ้น ไม่แบ่งแยก มันก็ควรจะคุยกันถึงเรื่องดีๆที่คนอื่นทำมากกว่านะ แต่ตอนนี้ โลกมันแย่ เพราะคนลืมหน้าที่ของตัวเอง มัวแต่ไปว่างวิจารณ์คนอื่น จับผิดคนอื่น จนไม่รู้ว่าจริงๆแล้วตัวเองควรจะทำอะไร หรือจะทำอะไรเพื่อคนอื่นได้เท่าไร แก้ไขเมื่อ 09 มิ.ย. 52 19:13:28 จากคุณ : ninoshingo - [ 9 มิ.ย. 52 19:09:27 ]

ความคิดเห็นที่ 92 ยังอ่านไม่ครบทุกความเห็นนะคะ แต่เราเห็นด้วยกับความเห็นนึงที่บอกว่า ควรเรียนรู้ประวัติสาสตร์ร่วมกัน โดยเฉพาะประเทศที่เคยระรานประเทศอื่น ควรให้ลูกหลานได้เรียนรู้ความโหดร้ายของประเทศตัวเองในประวัติศาสตร์ ไม่ใช่เพื่อตัดสินว่าใครผิดหรือถูก แต่เพื่อให้เกิดความเห็นอกเห็นใจประเทศที่ด้อยกว่าเพราะพิษสงครามที่ประเทศตนเคยไปก่อกรรมทำเข็ญไว้ค่ะ ถ้ามัวแต่แต่งประวัติศาสตร์โทษกันไปมา สุดท้าย มันก็ไม่เกิดผลอะไร นอกจากเป็นการเสี้ยมให้คนรุ่นหลังเคียดแค้นกันเสียเปล่าๆ ไม่เห็นได้อะไรเลย อย่างญี่ปุ่น เราแอบประนามเหมือนกัน ไม่ใช่เพราะคนรุ่นก่อนโหดร้าย แต่เราประนามที่ปิดหูปิดตาคนรุ่นใหม่ คนญี่ปุ่นปัจจุบันส่วนใหญ่ไม่ได้รู้เรื่องรู้ราวเลยค่ะว่าบรรพบุรุษตัวเองไปทำอะไรมาบ้าง พวกที่หลับหูหลับตาชาตินิยมก็เลยคิดว่าตัวเองเป็นที่หนึ่ง ดูถูกประเทศอื่นๆ แต่ก็ชื่นชมคนญี่ปุ่นอีกหลายกลุ่มนะ โดยเฉพาะกลุ่มอาสาสมัครที่เข้าไปช่วยพัฒนาถิ่นทุรกันดารของประเทศต่างๆ ประเทศไทยก็เหมือนกันค่ะ ถ้าเราและประเทศเพื่อนบ้านได้เรียนประวัติศาสตร์อย่างเป็นกลาง เราคงจะเกิดความเห็นอกเห็นใจและลดความขัดแย้งกันได้มากกว่านี้ เรื่องบุญคุณแผ่นดินกับเรื่องยึดติดในเชื้อชาติและประวัติสาสตร์เรามองว่ามันเป็นคนละเรื่องกันนะ เราภูมิใจในความเป็นคนไทย แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะปิดหูปิดตาคิดว่าประเทศตัวเองดี ส่วนประเทศอื่นที่เป็นฝ่ายตรงข้ามแย่ไปหมด เอาภายในประเทศตัวเองให้รอดก่อนดีกว่า พวกทรยศ โกงกิน ระรานคนในบ้านเดียวกันเองยังมีอยู่เกลื่อนกลาดเหมือนขยะสังคม ทีงี้เห็นปล่อยให้ลอยนวล ซ้ำยังยกย่อง เคารพนับถือกันดีนักแล เฮ้อ ข่มขืนคนในชาติด้วยกันเองแท้ๆ จากคุณ : nazonazo - [ 9 มิ.ย. 52 19:40:02 ]

ความคิดเห็นที่ 93 เราว่า. .ประวัติศาสตร์ มีให้รู้ความผิดพลาดไม่ใช่แค้นย้อนหลัง อีกอย่าง เวลาสงคราม จะฝ่ายแพ้ หรือ ชนะ มือก็เปื้อนเลือดด้วยกันทั้งนั้น มันคือความอยู่รอด ก่อนยุคสมัยที่ความเจริญจะมาถึง ปล. เรากลับอ่านเรื่องสงครามโลกที่ฮิโรชิมาโดนระเบิดลงแล้วร้องไห้แฮะ คนญี่ปุ่นรุ่นหลังก็สำนึกผิดถึงผลสงครามมากไม่แพ้กับความหดหู่ใจของคนที่ได้อ่านหรอกนะคะ เพราะว่าหลังจากสงครามครั้งนั้น ความดื้อและชาตินิยมของญีป่น ทำให้ประชาชนของตัวเองเสียชีวิตทั้งทรัพย์สินแบบประเมินค่าไม่ได้เช่นกัน จากคุณ : Froid_1991 - [ 9 มิ.ย. 52 19:56:32 ]

ความคิดเห็นที่ 94 ยาวมาก แต่ก็อ่านจนหมด... เอ่อ แล้วก็นะ เราว่าถกความเห็นในนี้ มันได้หลายมุมมองดีออก ใครคิดแบบไหน อะไรยังไง ยกเหตุผลมาอ้างกัน ได้ความรู้ใหม่ๆ มันเถียงกันเองยังไงคะ? แบบนั้นก็ไม่ต้องมีแล้วพันทิปเนี่ย จากคุณ : Pisaj-Elf - [ 9 มิ.ย. 52 20:51:28 ]

ความคิดเห็นที่ 95 ความเป็นจริง ก็คือ คนจีนที่ตายด้วยน้ำมือทหารญี่ปุ่น คือ ชาวบ้านคนจีนที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่อะไรเ้ลย และคนญี่ปุ่น ที่ตายด้วยระเบิดปรมาณูของอเมริกา คือ ชาวบ้านญี่ปุ่นตาดำๆ แต่ึคนที่กระทำ คือ กองทัพ และเหล่าผู้นำ ที่มีคำสั่งให้กระทำการ ถ้าจำไม่ผิด จักรพรรดิ์ของญี่ปุ่น เคยออกมาแสดงความเสียใจกับการกระทำทารุณกรรม ของทหารญี่ปุ่นช่วงสงครามโลกแล้ว แต่ไอ้ที่น่ารังเกียจก็คือ รัฐบาลญี่ปุ่น ไม่เห็นด้วย และพยายามจะยัดเยียดในบทเรียน และปั่นสมองเยาวชนรุ่นใหม่ของตัวเองว่า สิ่งที่เกิดที่นานกิง เป็นเรื่องโกหกที่ชาวจีนแต่งขึ้น และสิ่งที่ทหารญี่ปุ่นทำเป็นเรื่องชอบธรรม จะบอกว่าคนเลวจริงๆ มีอยู่ไม่กี่หยิบมือหรอกครับ แต่ไอ้ที่ทิ้งมรดกความเลวให้เยาวชนรุ่นหลังน่ะ เลวซะยิ่งกว่าเลว เยอรมันยังยอมรับว่านาซีของตัวเองเลว ประนามการกระทำของนาซี และให้ถือเป็นความผิดอาญา หากมีการสรรเสริญการกระทำของนาซี รัฐบาลญีั่ปุ่นต่างหากที่น่าประนาม ไม่ใช่คนญี่ปุ่นทั่วไป (ซึ่งก็เครียด ฆ่าตัวตายไปก็เยอะแยะ) จากคุณ : Holocaust - [ 9 มิ.ย. 52 23:03:02 A:93.97.151.99 X: TicketID:212327 ]

ความคิดเห็นที่ 96 ประวัติศาสตร์ อ่านแล้วเพลินจริงๆค่ะ บางอย่างก็ไม่เคยรู้เรื่องมาก่อน ได้ความรู้เพิ่มเติมเยอะเลย ขอบคุณทุกท่านที่เสียสละเวลาพิมพ์นะคะ^^ จากคุณ : นมปั่นกับมันบด - [ 10 มิ.ย. 52 00:01:04 ]

ความคิดเห็นที่ 97 ปู่ของเราเกลียดคนญี่ปุ่นมากๆ เพราะท่านเป็นคนจีน ที่อพยพมาทางเรือเพราะหนีทหารญี่ปุ่น ทหารญี่ปุ่นโหดมากๆ โยนเด็กผู้ชายขึ้นไป แล้วใช้ดาบปลายปืนเสียบ ปู่เราเห็นกับตา จากคุณ : shoucream - [ 10 มิ.ย. 52 07:16:35 ]

ความคิดเห็นที่ 98 ในเมื่อเห็นบทเรียนจากสงครามครั้งก่อนแล้ว ก็ภาวนาว่าอย่าได้มีใครอุตริสร้างสงครามครั้งใหม่อีกเลย ทุกที่ที่ผ่านสงครามมา  ย่อมผ่านความโหดร้ายมาแล้วทั้งสิ้น เราทำได้เพียงจดจำไว้เป็นบทเรียน แต่อย่าไปคั่งแค้นเอาจิตวิญญาณผูกไว้กับอดีต จากคุณ : Makit - [ 10 มิ.ย. 52 08:02:20 ]

ความคิดเห็นที่ 99 ความคิดเห็นที่ 90 ลองคิดดูดี ๆ สิครับ ว่า แล้วข้อมูลอีกด้าน ที่คุณนำมาแย้ง หรือเอ่ยถึงอย่างเหตุการณ์ ฆ่าอินเดียนแดง คุณได้มาอย่างไร ข้อมูลนั้นไม่ได้สูญหาย มันคือความจริงที่ ใช่ครับ ผู้่กระทำอย่างสหรัฐพยายามลบทิ้ง แต่อย่างน้อย ๆ คำว่าผู้ชนะเขียนประวัติศาสตร์(ฝ่ายเดียว) มันไม่ถูกนะครับ หรือ เหตุการณ์ รัสเซีย ฆ่านาซี จีนฆ่าชนกลุ่มน้อย มันต่า่งไม่ได้ถูกลบทิ้ง มันถูกบันทึกไว้อยู่ส่วนหนึ่งในหน้าประวัติศาสตร์ ไม่งั้นคุณ ๆ ท่าน ๆ ในที่นี้ คงไม่ทราบเรื่องเหล่านั้นหรอกครับ คุณจะเอามาเปิดเผยก็ได้นี่ครับ แต่อย่าพยายามใช้คำว่า ผู้ชนะเขียนประวัติศาสตร์เลยครับ เพราะคุณก็มีข้อมูลประวัติศาสตร์ของอีกฝ่ายหนึ่งอยู่ในมือ จากคุณ : tolstoy - [ 10 มิ.ย. 52 09:57:46 ]

ความคิดเห็นที่ 100 ในอดีต พญาช้างสาร ต่อสู้กัน ฆ่ากัน ปัจจุบัน ลูกหลานมดตะนอยน้อย แห่ออกมาทะเลาะ โชว์รอบรู้กัน ตลกดี จากคุณ : หลานมดตะนอย - [ 10 มิ.ย. 52 13:36:30 A:115.84.65.12 X: TicketID:198023 ]

ความคิดเห็นที่ 101 เราว่าเรื่องมันผ่านมานานแล้วนะ ไม่ควรจะไปตัดสินอะไรหรือว่าประนามใคร  เพราะมันก้อไม่ได้เกิดกับเราเอง ส่วนกรรมของใครก้อของคนนั้น เค้าก้อรับรู้กันเองแหละ เราไม่ได้มีหน้าที่ไปตัดสินนี่นา ไม่มีใครไม่เคยทำร้ายใครหรอก จีนเองก็ทำกะธิเบตไว้เยอะเหมือนกันแหละ พอพูดขึ้นมา เค้าก็ต้องพยายามไม่รับรู้เหมือนกะญี่ปุ่นนั่นแหละ เวลาเราทำให้ใครเจ็บ  เราจำไม่ค่อยได้หรอก แต่ว่าถ้าใครทำเรา เราชอบนึกถึงอยู่เสมอ จากคุณ : haibara_i (haibara_i) - [ 10 มิ.ย. 52 16:11:45 ]

ความคิดเห็นที่ 102 เราเคยชวนสาวญี่ปุ่นไปเที่ยวเมืองกาญ เธอถามเราว่า เมืองที่มีทางรถไฟใช่ไหม เราตอบว่า ใช่ๆ เธอบอกว่าไม่ไปหรอก เราถามว่าทำไม เธอตอบว่า...คุณตาเป็นทหาร  คุณตาเคยไปที่นั่นเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา  แล้วยืนร้องไห้ตรงนั้น สงครามมันก็เป็นแผลกับทุกชีวิตที่มีส่วนร่วมแหล่ะ จากคุณ : เมษาพาเพลิน - [ 10 มิ.ย. 52 19:30:19 ]

ความคิดเห็นที่ 103 เรื่องขอเรื่องก็คือ คนในบอร์ดนี้เข้าข้างญี่ปุ่นเพราะเสพย์ญี่ปุ่นจนเกินพอดีไปแล้ว โพสไปงั้นแหละ ไม่มีใครมารู้หรอก พอดีเซิร์จกาอ่างอื่นแล้วคำค้นมันมาโดนกระทู้นี้เข้า (เลยได้รูว่ามีพวกคลั่งญี่ปุ่นอยู่มากขนาดนี้) จากคุณ : Red Quartz (Red Quartz) - [ 19 มิ.ย. 52 16:19:24 ]