ความคิดเห็นที่ 1 เตรียมอุดมไงครับ มีรับน้องทุกปี จากคุณ : สัมผัสที่ 99 - [ 10 มิ.ย. 52 18:51:08 ]

ความคิดเห็นที่ 2 มันเปงประเพณี มานมนาน ไม่ทำจะต้องตายครับ จากคุณ : ผมก็ยังคิดว่าผมหล่อ - [ 10 มิ.ย. 52 18:52:42 ]

ความคิดเห็นที่ 3 รร เราก็มีรับน้อง พอเป็นพิธี อบอุ่นดี ^^ จากคุณ : ani_MC - [ 10 มิ.ย. 52 18:56:42 ]

ความคิดเห็นที่ 4 เตรียมอุดมไงครับ มีรับน้องทุกปี จากคุณ : สัมผัสที่ 99 ---------------------- กำลังจะเข้ามาตอบแบบนี้พอดี 555+ ว่าแต่ ทุกวันนี้ก็ยังมีรับน้องอยุ่ใช่ปะ (ไม่ได้กลับไปโรงเรียนซะนาน ออกแนวผ่านบ่อยแ่ต่ไม่ค่อยแวะ) จากคุณ : sirpass - [ 10 มิ.ย. 52 18:59:18 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ผมโครตเกลียดเลยรับน้องเนี่ย ถ้าเลี่ยงได้ผมก็จะเลี่ยง สัญญาว่าถ้าเป็นรุ่นพี่ผมจะไม่พาตัวเองไปยุ่งกับการรับน้องเลย เพราะผมเองก็เกลียดการถูกรับน้อง จากคุณ : คนขวางโลก - [ 10 มิ.ย. 52 19:00:02 A:124.122.168.164 X: TicketID:189678 ]

ความคิดเห็นที่ 6 แสดงให้เห็นความเป็นผู้ใหญ่ จากคุณ : เด็กหญิงฟ้าใส - [ 10 มิ.ย. 52 19:00:18 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ร.ร.เราก็มีรับน้อง แต่เราก็ไม่อยากให้มีหรอก ก็ไม่เห็นจะผูกพันธ์อะไรกัน รับน้องเสร็จก็เลิกกันไป จากคุณ : Metaphysics - [ 10 มิ.ย. 52 19:01:57 ]

ความคิดเห็นที่ 8 คห.4 ยังมีอยู่ครับ ผมเพิ่งเข้าไปปีนี้เอง โดนรับซะอ่วมเลยแต่ก็สนุกดี จากคุณ : Sernmath - [ 10 มิ.ย. 52 19:02:22 ]

ความคิดเห็นที่ 9 มันเป็นความสนุกของคนบางกลุ่มครับ ที่ต้องการให้คนบางกลุ่มสนุกไปกับเค้าด้วย จากคุณ : uNderworLd - [ 10 มิ.ย. 52 19:03:52 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ลองมองหลายๆ มุมนะคะ ทุกเรื่องมีข้อดี ข้อเสีย เหมือนสองด้านของเหรียญ เราต้องเป็นฝ่ายเลือกถ่วงดุล เลือกหยิบมาใช้ให้เหมาะสมพอดีกับตัวเอง ระยะนี้อาจได้ยินแง่มุมลบของกิจกรรมรับน้อง กิจกรรมซ้อมเชียร์กันมาพอสมควร มุมหนึ่งอาจเนื่องด้วย การเลือกกิจกรรม และระดับความรุนแรงของการดำเนินการ ถ้าถามว่า ทำไมต้องมีกิจกรรมเชียร์ ประโยชน์ของมันก็พอมีให้เห็นอยู่ ถ้ารุ่นพี่ และผู้เกี่ยวข้องเลือกใ้ช้ เลือกปฏิบัติอย่างเหมาะสม เพราะการเรียนในระดับอุดมศึกษามีนักศึกษาต่อชั้นปีจำนวนมาก อาจเป็นร้อย หรือหลายร้อย มากกว่าการเรียนในระดับอื่นๆ ที่ผ่านมา เพราะวิธีการเรียนต่างจากเดิม นักศึกษาแต่ละคนอาจลงวิชาเรียนต่างๆ กัน บางสถาบันไม่จำเป็นต้องเข้าชั้นเรียน (อาจารย์ไม่เช็คชื่อ หรือไม่ให้น้ำหนักกับการเข้าชั้นเรียน) ทำให้เวลาที่เพื่อนร่วมชั้นจะใช้ร่วมกันน้อยกว่าการเรียนในโรงเรียน การพยายามจัดกิจกรรมร่วมระหว่างกันจึงสามารถช่วยให้รู้จักกัน และเพื่อให้ใช้เวลาน้อย คือให้รู้จัก (หรือไปจนถึงรักและสามัคคีกัน) กันเร็วๆ อาจมีวิธีการมากมายหลากหลาย แต่ในบ้านเรานิยมเลือกใช้กิจกรรมที่สร้างความกดดันให้เด็กใหม่ ประมาณว่า สร้างความกดดัน ความกลัว หรือความเกลียดชัง เพื่อให้เด็กใหม่รวมตัวกันเพื่อต่อสู้ หรือเพื่อยอมปฏิบัติตามกฎ กติกาที่สร้างขึ้นให้เหมือนๆ กัน (ความเหมือนกันของเด็กใหม่ เช่น แต่งตัวคล้ายกัน ทำให้สังเกตได้ง่ายว่าเป็นเด็กใหม่ คณะอะไร ทำให้รุ่นพี่ หรือรุ่นเดียวกันดูออก การเข้าไปพูดคุย หรือดูแลก็จะทำได้ง่าย เป็นต้น) ไม่รู้ว่า เหตุผลพอจะฟังขึ้นไหมคะ จากคุณ : เที่ยงวัน - [ 10 มิ.ย. 52 19:08:53 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ทำไมมัธยมจะไม่มีรับน้อง หลายโรงเรียนก็มีนะ อย่างโรงเรียนเรา มีรับน้อง ซ้อมเชียร์ ว๊าก เข้าค่าย ฯลฯ ตั้งแต่ ม 1 แล้ว แต่ก็ไม่มีอะไร จบกิจกรรมก็รักกันดี ไม่มีอะไรป่าเถื่อน จากคุณ : คิดถึงมันผิดไหม - [ 10 มิ.ย. 52 19:09:04 ]

ความคิดเห็นที่ 12 เป็นเรื่องของคนบ้าอำนาจ บางคน ที่ทำให้มันไม่น่ามี ถ้าทำดีๆใครบ้างจะไม่ชอบ จากคุณ : ผีเสื้อสมุทรประเภท2 - [ 10 มิ.ย. 52 19:11:28 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ร.ร.ผมมีทั้งม.ต้นม.ปลายเลยล่ะ ของม.ต้นมีพี่รหัสน้องรหัสด้วยครับ จากคุณ : Chordate - [ 10 มิ.ย. 52 19:13:18 ]

ความคิดเห็นที่ 14 รร เก่า ผมมีตอน ม. 1 นะครับ จากคุณ : BIZZARE - [ 10 มิ.ย. 52 19:13:57 ]

ความคิดเห็นที่ 15 อยากโชว์พาวมั่งครับ จากคุณ : Cheetahman - [ 10 มิ.ย. 52 19:14:19 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ม ปลาย ห้องเราเองก็ยังรับน้อง ม4 เลย จากคุณ : Fuya - [ 10 มิ.ย. 52 19:15:36 ]

ความคิดเห็นที่ 17 เตรียมอุดมศึกษา มีทุกปีค่ะ สนุกมากกกกเลยนะ พึ่งเข้าไปปีแรก รับน้องแบบสร้างสรรค์ ยิ่งวันร้บน้องใหญ่นะ มีทุกอารมณ์เลย มันส์มากกกก จบรับน้องมา รุ่นพี่รุ่นน้องก็ยังคุยกันตลอด ทักทายกัน ไหว้กัน จากคุณ : พอใจจะเป็นต่อ - [ 10 มิ.ย. 52 19:19:47 A:124.120.199.14 X: TicketID:170446 ]

ความคิดเห็นที่ 18 โรงเรียนผมก็มีครับ ทั้งม.ต้น ม.ปลาย ยังจำคำนี้ได้ติดหัวใจ      หนึ่งศรีศตวรรษจำรัสหล้า            หนึ่งภูเก็ตวิทยาสง่าศรี     หนึ่งสถาบันดลสร้างคนดี     หนึ่งมณีน้ำเพชรภูเก็ตนิรันดร์   อาจารย์ เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ แต่งให้โรงเรียนผม แก้ไขเมื่อ 10 มิ.ย. 52 19:24:15 จากคุณ : เจ้าสมุทร - [ 10 มิ.ย. 52 19:21:47 ]

ความคิดเห็นที่ 19 อือ แปลกดี  ผมดันไม่มีรับน้อง ม.ปลาย ซะงั้น  edit : มีแต่ ปฐมนิเทศแค่วันเดียว แก้ไขเมื่อ 10 มิ.ย. 52 19:23:47 จากคุณ : ปิดบริการ - [ 10 มิ.ย. 52 19:23:16 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ระบบรับน้องครับ แต่อยู่ที่รุ่นพี่บ้าอำนาจ ที่ไม่เข้าใจเหตุผลของการรับน้องแล้วเอามาใช้ผิดๆต่างหาก ที่มหาวิทยลัยผมก็มีรับน้องนะครับมีวิ่ง วิดพื้น ลุกนั่งเหมือนกัน แต่มีกฎอยู่ว่า ห้ามรุ่นพี่ถูกตัวรุ่นน้องเด็ดขาด และการรับน้อง ต้องไม่มีคำหยาบออกมาด้วย ผ่านมานานมากเแล้วตอนนี้คณะก็มีผู้หญิงเยอะ คงรับไม่หนักเหมือนเดิมแล้วก็ได้ รับน้องหอที่ชีมะโด่งน่าจะหนักเหมือนเดิมมั้ง พูดแล้วคิดถึงตอนเรียนอยู่จัง จากคุณ : หนุ่มหนิงโป - [ 10 มิ.ย. 52 19:28:44 ]

ความคิดเห็นที่ 21 เพราะ มหาลัยจะไม่ค่อย่มีกิจกรรมที่ได้ทำร่วมกัน กับเพื่อนๆคุณเหมือน ม ปลาย ไงครับ ชีวิต มหาลัยมันสั้น ควรหาโอกาสไว้  ไม่เเน่เพื่อนๆคุรที่อยู่ ปี 1 จะไม่อยู่กับเราตอน ปีต่อๆไปก็ได้ จากคุณ : SpingZ - [ 10 มิ.ย. 52 19:28:45 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ม.ปลายโรงเรียนผมก็มี ... เเต่ไม่รุนเเรงมากมาย(ไม่รุนเเรงเลยสักนิด) จัดเเค่ตอนบ่ายช่วงเดียว   เเละที่สำคัญต้องอยู่ภายใต้กฎระเบียบของโรงเรียน จากคุณ : SIRTS - [ 10 มิ.ย. 52 19:28:49 ]

ความคิดเห็นที่ 23 รร.เราก็มีน๊าาาาา ตอนรับน้อง รุ่นพี่สุดโหดบังคับให้รุ่นน้องกิน ขนมปังทากระปิ บร๊ะเจ้า!!!! อร่อยสุดยอด ปัจจุบันนี้ยังติดใจอยู่ 555+ จากคุณ : คุณหนูปึกน้อย - [ 10 มิ.ย. 52 19:33:41 ]

ความคิดเห็นที่ 24 การรับน้อง คือการที่ รุ่นพี่มาเล็งรุ่นน้องที่สวยๆไว้ก่อน จากคุณ : kittipatr - [ 10 มิ.ย. 52 19:35:42 ]

ความคิดเห็นที่ 25 โรงเรียนผมยังมีเลย ตอน ม.4 แต่ไม่ได้เหมือนมหาวิทยาลัย ก็มาเล่นเกมเล่นอะไรขำๆ  ก็ทำให้ผมรู้จักรุ่นพี่แล้วครับ จากคุณ : อินจอง - [ 10 มิ.ย. 52 19:56:26 ]

ความคิดเห็นที่ 26 โรงเรียนเราไม่มีอะค่ะ! เห็นเล่าแล้วน่าสนุกดีนะ :) จากคุณ : groofy1620 - [ 10 มิ.ย. 52 20:06:22 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ข้อดีก็มีนะ เพราะที่คณะรับไม่โหด ส่วนมากจะเป็นการแนะนำการใช้ชีวิต ที่กินอร่อยๆ ให้หัดร้องเพลงคณะ กับเรื่องระเบียบนิดหน่อย มีอยู่รุ่นนึงยกเลิกรับน้องกลางคัน เพราะปีนั้นมีเด็กตาย ปรากฎว่ารุ่นนั้นเหมือนขาดๆ อะไรไปอะ ไม่ค่อยมีมารยาท พูดอะไรก็ไม่ค่อยมีสัมมาคารวะ จากคุณ : Aria-sama - [ 10 มิ.ย. 52 20:07:05 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ม.ปลายที่โรงเรียนชื่อดัง อ.ศรีราชา ผมรุ่น 58 / 42 ตอนขึ้น ม.4 มีรับน้อง ซึ่งทำให้จำฝังใจเลยว่า รุ่นพี่รับน้อง เพื่อเอาคืนที่เคยโดนและเพื่อความสะใจจริงๆ เสร็จแล้วไม่มีความผูกพันธ์ หรือ เพิ่มความสามัคคีอะไรเลย ขนมสาคูราด กินก๋วยเตี๋ยวหลอกพริก ให้จูบปากผ่านแผ่นใส แล้วแกล้งเอาออก คลานที่โคลน ขนมปังทาวาซาบิ มดแดง และอื่นๆ อีกมาก จากคุณ : ยำยำรสหอยลายผัดฉ่า - [ 10 มิ.ย. 52 20:11:54 ]

ความคิดเห็นที่ 29 รร.ผมก็มีนะ มีตั้งแต่ ม.ต้นเลย ที่มัธยมไม่ค่อยมีรับน้อง เพราะยังไงคุณก็ต้องเรียนห้องเดียวกันไปตลอด 3 ปี ยังไงก็สนิทแน่ๆ แต่มหาลัยมันไม่ใช่อย่างนั้น บางคนเราเจอตัวเฉพาะตอนสอบเท่านั้น หรือบางคนนี่เราไม่รู้ด้วยซ้ำว่าอยู่คณะเรา รับน้องก็มีทั้งข้อดีและข้อเสีย คำถามคือเราจะลบข้อเสียเพื่อคงข้อดีไว้ หรือว่าจะยกเลิกรับน้องไปโดยไม่คำนึงถึงข้อดีเลย เป็นที่น่ายินดีว่าถึงแม้คณะผมจะมีรับน้อง แต่ก็ไม่ได้รุนแรงเหมือนอย่างที่เป็นข่าว และคณะผมค่อนข้างให้อิสระว่าใครจะเข้าร่วมกิจกรรมรับน้องหรือไม่ก็ได้ เลยไม่ค่อยมีปัญหาเท่าไหร่ จากคุณ : เซียวเล้ง - [ 10 มิ.ย. 52 20:15:59 ]

ความคิดเห็นที่ 30 คุณก้อลองคิดดูสิคะว่า ตอนคุณอยู่มใปลายคุณเรียนแต่ละวิชากับเพื่อนห้องเดียวกันตลอด  แต่สำหรับมหาลัยมันไม่ใช่ค่ะ เรียนเป็น section อ่ะ  บางวิชาเราอาจจะจะไม่ได้ลงกับเพื่อนเมเจอร์ คระเดียวกันก้ได้ ทำให้ไม่สนิทใจกันเท่าตอนม.ปลายค่ะ จากคุณ : SURATTANALAI - [ 10 มิ.ย. 52 20:19:44 ]

ความคิดเห็นที่ 31 เป็นความโง่เง่าของพวกที่เรียกตัวเองว่าปัญญาชนครับ บางประเทศปล่อยกันอิสระ ยังเจริญกันได้ นี่รับกันทุกปี ประเทศเสื่อมลงทุกปี ไม่สร้างไรเลยนอกจากเส้นสายที่ฉุดประเทศลง จากคุณ : NKL - [ 10 มิ.ย. 52 20:19:59 ]

ความคิดเห็นที่ 32 อยู่ที่รุ่นพี่อยากจะให้อะไร แกรุ่นน้องครับ เอาประเด็นนี้เป็นหลักจะไม่มีปัญหาตามมาครับ แต่ไม่ใช่ว่าโดนรุ่นที่แล้วแกล้งมา ปีนี้ตูต้องแกล้งรุ่นน้องต่อ  ขอให้เปิดใจหน่อยครับ รับน้อง ประชุมเชียร์หลายๆที่ได้ดีมากครับ อยากให้ดูกันที่จุดประสงค์มากกว่า ก็ถูกของหลายๆคนไม่รับก็ไม่ตายหรอกแต่อยากให้ดูที่ประเด็นหลักที่ถ้าเข้าประชุมเชียร์แล้วพี่เขาจะให้อะไร กับเรา ถ้าเห็นว่าเป็นอันตรายก็อย่าไปทำมันครับ เราเยาวชนไทยมีหัวคิดอยู่กันแล้ว ผมเคยอยู่ในฐานะ น้องที่ถูกรับและเคยอยู่รุ่นพี่ที่รับน้อง ประชุมเชียร์เสร็จแล้วจะรู้ว่าพี่เขาก็รักน้องๆเหมือนกันนะครับ อยากให้เปิดใจบ้าง อย่าเหมารวมเลยนะครับ จากคุณ : หล่อแต่โง่ - [ 10 มิ.ย. 52 20:28:12 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ตอน ม.ปลายเคยโดนรับน้องนะ แต่แบบขำๆๆ ไม่ได้คิดอะไรกันมากมาย แต่ว่าทำไม เพื่อน ม.ปลายเราถึงสนิทและรักกันมากกว่ามหาวิทยาลัย.. เพราะเราใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันเกือบทั้งวันมากกว่าอยู่ที่บ้านอีกค่ะ แต่มหาวิทยาลัย เพื่อนในเอกบ้างทียังไม่เคยเห็นหน้าเลย.. ลงวิชาไม่เหมือนกันบ้าง ทำให้ไม่ค่อยได้เจอกัน มันก็เป็นอีกเหตุผลที่ไม่ค่อยสนิท ส่วนการรับน้องในหมาวิทยาลัย มันอยู่ที่กิจกรรมที่รุ่นพี่จะเลือก... แต่อีกอย่าง ทำให้เราได้รู้จักเพื่อนต่างเอกต่างคณะ.. ถ้ากิจกรรมดูสร้างสรรค์ไม่โหดเกินไป มันก็คง..ดีเน๊อะ เหตุผลดูฟังขึ้นไหมนะ ฮ่าๆๆ จากคุณ : yuwon_muika - [ 10 มิ.ย. 52 20:29:05 ]

ความคิดเห็นที่ 34 เีราอยู่ม.ปลายก็มีค่ะ รับน้องม.1 กับ ม.4  มีพี่รหัส-น้องรหัส แบ่งตามคณะสีบ้าง แบ่งตามสายการเรียนบ้าง กิจกรรมก็เล่นเกมกันเอาสนุกเฉยๆ แต่จะบอกว่า...ไม่ได้ทำให้สนิทกันเลยนะ ถ้ารุ่นพี่รุ่นน้องจะสนิทกันนี่ จะสนิทกันตอนทำกีฬาสีมากกว่า จากคุณ : = Un Insomnia = - [ 10 มิ.ย. 52 20:30:31 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ม.ปลาย โรงเรียนเราก็มีนะ ! :) จากคุณ : มู๋น้อยขี้วีน - [ 10 มิ.ย. 52 20:37:48 ]

ความคิดเห็นที่ 36 โรงเรียนเก่าของเรามีตั้งแต่ ม 1 เลยค่ะ รับน้องเดินขึ้นดอย จากคุณ : สาวหน้าใส - [ 10 มิ.ย. 52 20:40:23 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ที่จริงการรับน้องนี่มันมาจากคณะแพทย์จุฬากับแพทย์ศิริราชค่ะ ^^ เอาตำนานรับน้องมาให้อ่านกันนะคะ  การรับน้องครั้งแรกในประเทศไทย ที่พิพิธภัณฑ์ประวัติการแพทย์ ในโรงพยาบาลศิริราช มีบอร์ดแผ่นหนึ่งจารึกการกำเนิดต้นแบบประเพณีรับน้องใหม่ในประเทศไทยที่เริ่มขึ้นโดยนิสิตแพทย์ศิริราชไว้ว่า "สาเหตุประเพณีรับน้องใหม่นี้เกิดจากการแข่งขันฟุตบอลระหว่างคณะแพทยศาสตร์กับ คณะวิทยาศาสตร์และอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2475 ผู้เล่นคนหนึ่งของคณะแพทย์ถูกฝ่ายตรงข้ามสองคนรุมชกต่อยโดยไม่มีเหตุยั่วยุ แต่อย่างใด ฝ่ายสโมสรสาขาศิริราชสืบทราบว่า ฝ่ายตรงข้ามได้มีการนัดหมายกันไว้ก่อนว่าจะเก็บตัวผู้เล่นคนนั้น นายกสโมสร (นายสรรค์ ศรีเพ็ญ) จึงได้มอบหมายให้เลขานุการของสโมสร (นายอวย เกตุสิงห์) ทำคำฟ้องยื่นต่อคณะกรรมการสโมสรจุฬาฯ แต่บรรยเวกษ์ (หม่อมเจ้าไวทยากร วรวรรณ) ทรงระงับคดีเพราะไม่ทรงเชื่อว่ามีการนัดหมายกัน ฝ่ายแพทย์โกรธยิ่งขึ้นเมื่อรู้ว่าตัวการเป็นเตรียมแพทย์ ซึ่งจะข้ามฟากไปเรียนที่ศิริราชในพ.ศ. 2475 นั้น คณะกรรมการได้ประชุมหาทางลงโทษเสียให้หายแค้น บ้างก็ให้จับโยนน้ำ บ้างก็ให้คลานขึ้นจากท่าน้ำมาขอโทษ บ้างให้คว่ำบาตร แต่เลขานุการได้ให้ความเห็นว่า การแก้แค้นจะทำให้ผูกใจเจ็บและเสียความสามัคคี ทางที่ดีควรยกโทษให้รุ่นน้อง และแสดงน้ำใจด้วยการต้อนรับอย่างอบอุ่น ที่ประชุมเห็นชอบด้วย ผู้ที่ถูกต่อยตีก็ไม่ติดใจแก้แค้นอีกต่อไป พิธีรับน้องใหม่เริ่มด้วยรุ่นพี่แจวเรือข้ามไปรับน้องใหม่มาจาก ท่าพระจันทร์ พอถึงฝั่งศิริราชก็มีรุ่นพี่กลุ่มใหญ่มาต้อนรับ แห่พาน้องไปกราบพระพุทธรูปที่หน้าหอพัก เป็นการอโหสิกรรม หลังจากสังสรรค์และลบรอยร้าวในหัวใจแล้ว รุ่นพี่กับรุ่นน้องก็รับประทานข้าวราดแกงด้วยกัน มีอนุสาสก (จ.อ.นพ.แดง กาญจนารัณย์) เป็นประธาน พวกน้องแสดงตนเป็นรายตัว ลงท้ายดัวยการร้องเพลงปลุกใจให้รักหมู่คณะเป็นการเชื่อมความสามัคคี รอยช้ำในดวงใจทุกคนก็เหือดหาย คณะแพทย์ศาสตร์ก็เป็นปึกแผ่นแน่นเหนียวดังประเพณีที่มีมาแต่เดิม งานรับน้องใหม่ครั้งนี้สร้างความประทับใจให้กับทุกคน ในปีต่อ ๆ มาจึงได้จัดขึ้นอีกแม้จะไม่มีเหตุการณ์กระตุ้นให้จัด จนเป็นประเพณีสืบมาและค่อย ๆ กระจายไปทั่วประเทศ" ที่มา http://th.uncyclopedia.info/wiki/%E0%B9%84%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%A2:%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87 ปล.ที่จริงเรื่องนี้ก็มีอยู่ในหนังสือที่แจกให้ในวันรับน้องที่มหาลัยเราด้วยน่ะค่ะ จากคุณ : pinkurabbit - [ 10 มิ.ย. 52 20:46:05 ]

ความคิดเห็นที่ 38 สำหรับเรา การรับน้องมีประโยชน์มากมาย ที่เห็นชัดเจนเลยก็เรื่องของสังคม รุ่นเรามีกันอยู่ห้าร้อยนิด ๆ ส่วนใหญ่เป็นผู้ชาย เขาก็รับกันแบบผู้ชาย แต่ก็ไม่ได้หนักเกินไปสำหรับผู้หญิง กล้าพูดได้เลยว่า รู้จักเพื่อนเกือบหมดทั้ง บางคนเก่งขนาดรู้จักเพื่อน ๆ หมดทุกคนทั้งรุ่นอ่ะ แต่เราได้แค่เกือบ ๆ เรื่องที่รุ่นพี่เราสอนบ่อยที่สุด เห็นจะเรื่องระเบียบวินัย และการให้ความนับถือคนอื่น และคนสูงวัยกว่า (เน้นว่านับถือนะคะ หวังว่าคงเข้าใจ) ถามว่าที่บ้านเราไม่สอนเหรอ ก็ตอบว่าสอนค่ะ แต่ไม่เหมือนกันนะ สายงานที่เราทำ มันต้องเจอะเจอกับคนมากมาย หลายระดับ มีตั้งแต่คนดีมีวัฒนธรรมสุด ๆ ไปจนถึงคนที่ถ่อยเลยก็ว่าได้ ก็ได้พี่ ๆ ที่จบไปแล้วกลับมางานรับน้องนี่แหละ ที่มาคอยบอก คอยเล่าให้ฟัง ตอนนั้นก็ฟัง ๆ ไปงั้นแหละ มารู้ว่ามันดีจริง ๆ เอาตอนที่จบมาทำงานแล้วนี่แหละ ยิ่งตอนที่ต้องมาทำงานที่ญี่ปุ่น ไอ้ที่เจอตอนรับน้องเป็นเรื่องขี้ผงไปเลย ทำงานกับคนญี่ปุ่น ใช้ความอดทนมากกว่าไปประชุมเชียร์เป็นร้อยเท่า ส่วนความสัมพันธ์กับรุ่นพี่ ก็ดีมาก ๆ ค่ะ หลังจะเชียร์ กะรับน้อง พี่ ๆ เขาก็เหมือนจะผูกพันธ์กับเรา ซึ่งก็มีประโยชน์มาก ๆ สำหรับเรื่องงานหลังจากที่เรียนจบ (ไม่ได้ใช้เส้นหรอกค่ะ แต่ก็ได้พึ่งพาอาศัยกัน) แต่ตอนที่เราเป็นรุ่นพี่ เราก็ไม่ได้ไปมีส่วนร่วมกับงานรับน้องมากนัก เพราะมัวแต่ไปบ้ากิจกรรมอย่างอื่นอยู่ แต่ละประเทศมันก็ไม่เหมือนกัน การที่ประเทศหนึ่งประเทศใดจะเจริญ หรือไม่เจริญ มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับเรื่องหนึ่งเรื่องใดเพียงเรื่องเดียว มันมีองค์ประกอบอีกมากมาย แต่ละที่ก็มีกิจกรรมแตกต่างกันไป เรามีสิทธิ์เลือก ว่ากิจกรรมไหนดีไม่ดีสำหรับตัวเรา ก็เลือกไปตามใจชอบ แต่มันก็ดูจะใจแคบไปซะหน่อย ที่จะเอาประสบการณ์ที่ตัวเองเจอมา เป็นเครื่องตัดสินคนอื่น คนที่รู้สึกไม่ดีและเคยเจอประสบการณ์ไม่ดีกับงานรับน้อง ก็ขอแสดงความเสียใจด้วยค่ะ ต่างคนต่างประสบการณ์ ต่างคนต่างความคิด เราไม่คิดจะดูถูกความคิด ความรู้สึกใครอยู่แล้ว แก้ไขเมื่อ 10 มิ.ย. 52 21:00:17 จากคุณ : สมัครกี่ที ก็ไม่มีชื่อที่ตรงใจ - [ 10 มิ.ย. 52 20:50:10 ]

ความคิดเห็นที่ 39 เป็นความสุขของรุ่นพี่ค่ะ พอได้มาเปนรุ่นพี่บ้าง ความรู้สึกช่างแตกต่างค่ะ +5555 จากคุณ : แก้วกุ - [ 10 มิ.ย. 52 20:55:28 ]

ความคิดเห็นที่ 40 ม.ปลาย โรงเรียนผมก้มีนะ รับน้องตามสาย วิทย์ ศิลป์ ก็รับน้องกันปกติ รุ่นพี่บางทีก็รับกันเอง สนุกสนาน แก้ไขเมื่อ 10 มิ.ย. 52 20:59:44 จากคุณ : เดฟจ้า - [ 10 มิ.ย. 52 20:59:21 ]

ความคิดเห็นที่ 41 การรับน้องมีประโยชน์นะครับ...ทำให้รักสถาบัน จบไปสมัครงานก็สามารถเข้าที่ทำงานที่มีรุ่นพี่อยู่ได้ แต่ข้อเสียอย่างมากที่สุดเลย... หลังจากเรียนจบแล้วไปทำงาน บางแห่งจะถามคุณ ว่ารู้มั้ย ที่นี่ไฟมีควันสีอะไร (เอามาจากห้องสีลม) เลิกระบบไปให้หมดทั้งประเทศเลยก็ดีนะ..เวลาสมัครงานได้ไม่ต้องแบ่งพรรคแบ่งพวก ได้รับคนที่คุณภาพจริงๆ มากกว่ารับคนที่สถาบัน..ไร้สาระ จากคุณ : ทะเลสีดำ หัวใจสีชมพู - [ 10 มิ.ย. 52 21:02:18 ]

ความคิดเห็นที่ 42 ม.ปลาย มีนะ เคยรับ คลานหมอบใต้โต๊ะ ล้วงถังเฉาก๊วยย จากคุณ : joinen - [ 10 มิ.ย. 52 21:04:15 ]

ความคิดเห็นที่ 43 มหาวิทยาลัย มีมากกว่า คำว่า เรียน ครับ เกรดทำให้คนมีงานทำ กิจกรรมทำให้คนทำงานเป็น ครับ จากคุณ : นักสืบแต๋ว (นักสืบจิ๋ว) - [ 10 มิ.ย. 52 21:04:34 ]

ความคิดเห็นที่ 44 #43 ต้องแยกกิจกรรมห่วยๆ ทำแล้วเสียเวลาชีวิต ออกจากกิจกรรมดีๆด้วยครับ จากคุณ : powerconduit - [ 10 มิ.ย. 52 21:21:38 ]

ความคิดเห็นที่ 45 ม.ปลายโรงเรียนเราก็รับน้องทุกปีค่ะ เป็นโรงเรียนประจำ มีให้กินข้าวเย็นที่แสนจะจืดชืดกับส้มเปรี้ยมจี๊ด มีว๊ากด้วยนิดหน่อยอ่ะ แบบให้น้องช่วยกันกินข้าวและกับให้หมด บางทีก็โดนยึดช้อนไป ก็ต้องหาวิธีกินให้ได้ เราต้องเอาทัพพีตักข้าวมากิน แล้วเพื่อนก็ให้ยืมช้อน บางคนก็ใช้ส้อมกิน เช้ารุ่งขึ้นก็เดินขึ้นเขาวงพระจันทร์(เขาที่สูงที่สุดในจ.ลพบุรี) มีฐานของพี่ม.6 ให้ช่วยกันหาอาซี ตอนบ่ายก็ลงมาเข้าฐานของพี่ๆต่อ ส่วนใหญ่ก็คล้ายกับมหาลัยนะ ตกเย็นก็กินข้าวร่วมกันแล้วมีการแสดงสนุกๆของพี่ๆแต่ละชั้นเป็นการต้อนรับน้อง พอเรามาอยู่มหาลัยเราก็เลยชินกับการรับน้อง อาจโดนอะไรๆมากกว่า โดนพี่ว๊ากทุกวัน ความจริงโดดก็ได้ แต่เราไม่เคยโดดซักวันเลย ทั้งที่สุดจะเบื่อเลยนะ แต่รู้สึกว่ามันเป็นหน้าที่ ในที่สุดเราก็ได้รู้จักเพื่อนทั้งต่างเอก ต่างคณะ รู้จักการเข้าหาผู้คน แต่จริงๆแล้วคณะและมหาลัยที่เราเรียนก็รับน้องไม่โหดมาก แค่โดนว๊ากเพื่อฝึกระเบียบวินัย พี่ว๊ากก็ไม่เคยพูดจาไม่เพราะ ผมกับคุณทุกคำ โดนทำโทษนิดหน่อย โดนสอนให้เคารพพี่และอาจารย์ รักเพื่อน มันจะทำให้เรารู้จักกันมากขึ้นจริงๆนะ ฉะนั้น การรับน้องไม่ใช้กิจกรรมไร้สาระ แต่มันอยู่ที่วิธีการรับน้อง ถ้ามีวิธีที่สร้างสรรค์และไม่ใช่การล่วงเกินที่มากเกินไปก็ควรจะมี แต่วิธีที่ทำแล้วมันละเมิดสิทธิมนุษยชนเกินไปอย่างในข่าวทุกวันนี้ มันก็ทำให้ประเทศชาติเสื่อมด้วยความป่าเถื่อนได้ จากคุณ : ลิงยามดึก - [ 10 มิ.ย. 52 21:39:10 A:202.28.78.139 X: TicketID:208419 ]

ความคิดเห็นที่ 46 เคยโดนรับน้องตอนปี 1 และเคยทำกิจกรรมรับน้อง ตอนนี้เป็นปีแก่แล้ว และรู้สึกว่า เสียเวลาสุดๆไปเลย ทำทำไม? จากคุณ : Hypocritus - [ 10 มิ.ย. 52 21:46:24 ]

ความคิดเห็นที่ 47 ผมโดนตั้งแต่ ม. 1 เลยครับ โหดประมาณมหาลัยยุคก่อนโดนแบนเลย ถามว่าไปเอามาจากไหน คำตอบ ไปเอามาจากคณะวิศวะฯ ที่ตั้งอยู่ตรงข้ามฝั่งถนนนั่นเอง (เป็นโรงเรียนสาธิตในมหาวิทยาลัยรัฐครับ) ผลคือไม่มีอะไรเิกิดขึ้นเลย เพราะเด็กแค่นั้นมันไม่พร้อมจะรับอะไรหรอกครับ รู้แค่ว่าโดนแกล้ง แล้วก็แค่นั้นแหละ จากคุณ : Mikamura Kaoru - [ 10 มิ.ย. 52 21:51:53 ]

ความคิดเห็นที่ 48 ทำไมอุดมศึกษาต้องมีรับน้อง แล้วม.ปลายไม่มี ยังอยู่กันมาได้ ก็ถ้าคุณเรียนระดับอุดมศึกษาแบบม.ปลาย นั่งประจำห้อง อยู่ด้วยกัน 50-100 คนตลอด 4 ปี วิชาเรียนก็ไม่ต้องเลือก เขากำหนดมาให้หมด เรียนเหมือนๆ กัน อันนั้น การรับน้องก็ไม่จำเป็น แต่ในเมื่อคุณต้องกระเสือกกระสนทำรายงาน นัดติว เลือกวิชาเรียนลง ซึ่งคุณก็มีโอกาสไปลงกับคนอื่นๆ นอกกลุ่มสนิท การรับน้องที่ทำให้คุณได้มีโอกาสพบปะรู้จักคนหลากหลายก็ควรจะมีประโยชน์ ส่วนเรื่องการว๊าก เำื่พื่อหัดให้คุณรู้จักชีวิตทำงาน ว่ายังมีเจ้านายบ้าอำนาจมากมาย ที่รอคอยจะด่าคุณโดยที่คุณคิดว่าคุณไม่ได้ทำอะไรผิดสักนิด รออยู่ที่โลกภายนอก ทั้งนี้ ไม่เกี่ยวกับเรื่องการทำกิจกรรมอันตราย งี่เง่า เสี่ยงต่อสุขภาพทั้งหลายแหล่นั่น จากคุณ : ทุกอย่างมันมีข้อดีข้อเสีย (picmee) - [ 10 มิ.ย. 52 21:59:30 ]

ความคิดเห็นที่ 49 ตอนนี้ผมเข้ามาเป็นพี่ ปี2 ที่จะเป็นตัวหลักในการจัดกิจกรรมรับน้อง ของมหาวิทยาลัยรับแห่งหนึ่ง ก่อนหน้านี้ ผมเคยอยู่ ปี1 มา 2 ปี ช่วงเวลาที่ผมเป็นน้อง ผมก็รู้สึกสนุกไปกับมัน ประเทศไทย ใช้ระบบอาวุโส เราทักคนข้างบ้านว่า พี่ ลุง ป้า น้า อา ทั้งๆที่เราไม่ได้มี สายเลือดอะไรเกี่ยวกับเค้า ในมหาวิทยาลัย ถ้าคุณคิดเพียงเข้ามาเรียน คุณก็เรียนได้ แต่จะมีค่าอะไร ถ้าคุณไม่รู้จักเรียนอย่างอื่น นอกตำรา กิจกรรมเป็นเหมือนวิชาสอนชีวิต กิจกรรมที่ไม่ดีก็สอนให้เรารู้จักสิ่งที่ไม่ดี กิจกรรมกับการเรียน ผมว่าเป็นเหมือน สองด้านของเหรียญเดียวกัน แยกจากกันไม่ได้ ต้องไปควบคู่กัน สมมติ คนสองคน คนหนึ่งมาเรียน เลิกเรียนไปเที่ยวห้าง ตกดึกไปผับ กับอีกคน เรียน เลิกเรียนไปเข้าเชียร์ ตกดึกไปกินข้าวกับเพื่อน ฟังดู เหมือนผมจะเสนอแต่ด้านดี แต่ ด้านดีมีจริง ไม่ใช่มีแต่ ด้านเลว การว๊าก คืออะไร?? การว๊าก ไม่ใช่เพียงการตะคอก แล้วบังคับ ให้รุ่นน้องทำ การว๊าก อาจจะเป็นการสร้างแรงกดดันมากกว่า ในโลกจริงที่ไม่ใช่โลกจำลองแบบมหาวิทยาลัย การที่เจ้านาย บ่น ด่า อาจจะหนักกว่า ว๊าก เสียด้วยซ้ำ ตอนนี้ ผมก็เจอบ้าง รุ่นน้องที่ต่อต้านการว๊าก แต่สิ่งหนึ่งที่ผม บอกน้องก่อน คือ ให้น้องรู้จักก่อน แล้วค่อยตัดสินใจ ไม่ใช่ ไม่รู้จัก แต่บอกไปแล้ว ว่าเลว ขอให้ ทุกคน คิดก่อน ว่า กิจกรรมมันไม่สำคัญเชียวหรือ อย่างน้อย ผมว่า มันก็ดีกว่า ไปทำชั่ว ไม่ใช่หรือ?? จากคุณ : จากใจ ปี2 คนหนึ่ง - [ 10 มิ.ย. 52 22:03:54 A:125.25.19.212 X: TicketID:203084 ]

ความคิดเห็นที่ 50 อยากให้ทุกสถาบันมาดูการรับน้องที่เอแบคครับ ที่นี่รับน้อง ไม่รุนแรงเลย สนุก แล้วก็สร้างสรรค์ด้วย เหตุผลที่ไม่รุนแรงเลยก้เพราะมีนร.ต่างชาติด้วย ทำอะไรต้องดูความเหมาะสมมาก่อน แล้วก็นศ.ที่นี่ แรงนิดแรงหน่อยก็เป็นเรื่องแล้วจริงๆ คำหยาบไม่ต้องพูดถึง ในฐานะเด้กกิจกรรม ผมได้ข่าวพวกนี้แล้ว แบบว่า เฮ้ย ไม่ต้องแรงขนาดนั้น งานมันก็ออกมาดีได้ว่ะ พูดตรงงๆ กิจกรรมรับน้องที่ดีๆแล้วก็สร้างสรรค์ยังมีอีกเยอะครับ ผมกล้าีรับประกันเลย อย่าให้ภาพการรับน้องๆเก่าๆ แรงๆ มาชี้นำให้คุณทำอะไรผิดๆ ปล.สถาบันไหนที่รับน้องดีๆ น่ารักๆ มาแนะนำกันได้ครับ จากคุณ : Happy Member - [ 10 มิ.ย. 52 22:06:30 A:113.53.43.236 X: TicketID:217920 ]

ความคิดเห็นที่ 51 ไม่ขัดข้องถ้าจะรับน้อง แต่ทำไมต้องหลอก ต้องกดดัน ต้องบังคับ ให้รับน้องด้วยฟระ ใครอยากได้ข้อดีของรับน้องก็รับไป ใครไม่ต้องการกรุณาอย่ายัดเยียด จากคุณ : DevilDoll - [ 10 มิ.ย. 52 22:17:47 ]

ความคิดเห็นที่ 52 ลองไปอ่านที่นี่ดูครับ http://shuu.exteen.com/20080619/entry-1 ปัญหาคือ รอบข้างมักจะกดดันให้เข้า คำว่าเข้าไม่เข้าก็ได้เสรี เป็นแค่ขี้ปากของพวกรุ่นพี่กากๆเกรียนๆเท่านั้น ส่วนใหญ่อ้างว่าไม่บังคับ แต่จริงๆบังคับทุกที่ อนาถมาก แก้ไขเมื่อ 10 มิ.ย. 52 23:04:01 จากคุณ : NKL - [ 10 มิ.ย. 52 23:01:01 ]

ความคิดเห็นที่ 53 ผิดกับ ผม แฮะ ตอน ม.ปลาย มีรับ น้อง พอข้า มหาลัย ไม่มีแฮะ จากคุณ : OFFBASS - [ 10 มิ.ย. 52 23:09:14 ]

ความคิดเห็นที่ 54 เหมือนคุณข้างบนเลยค่ะ ตอนม.ปลายมีรับน้อง แต่เล่นแบบขำๆ พี่ๆน้องๆ (สนุกดี) ตอน มหาลัย ไม่มี :-p จากคุณ : เบลอร์-โด๊ะ - [ 10 มิ.ย. 52 23:23:02 ]

ความคิดเห็นที่ 55 ที่เชียงใหม่ก็มีค่ะ วิทย์ 5 ห้อง ศิลป์ 1 ห้อง แต่ปีนี้มี 2 ศิลป์ ใช้วิธีเข้าฐานค่ะ รุ่นพี่ไม่มีคำว่าว๊าก เด็ดขาด ถึงแม้วิธีจะแอบแจ๊ะๆไปก็ตาม เช่นปีของเรา เอาข้าวต้มมาให้น้องเลือกท็อปปิ้ง เช่น เขียวใสแสงมรกต คือวาซาบิ เป้ย ตอ... คือแยมสตรอเบอร์รี่ แล้วก็เอามาผสมกัน ให้น้องกิน แล้วปลายปีน้องๆ ม.5ก็จะมาทำพิธีกู๊ดบาย ซีเนียร์ อำลาพี่ม.6 แล้วจะติดดอกไม้ให้พ่ในวันแบคฯ(พิธีจบหลักสูตร) คงรู้กันแล้วนะคะ ว่าร.ร.ไหน ถ้ามีศิษย์เก่าอยู่ในนี้มาตอบหน่อยเร้ว จากคุณ : ยูคาริ (ยูคาริ) - [ 10 มิ.ย. 52 23:24:36 ]

ความคิดเห็นที่ 56 ตอนม.ปลาย ของเราก็มีนะ แต่รู้สึกสนุก ฮาๆอ่ะ แบบทำให้รู้จักเพื่อนด้วย ไม่ต้องกดดันบ้าบอเหมือนมหาลัย ส่วนมหาลัย มี แบบต้องเข้าห้อง ให้รุ่นพี่ว้าก ตอนนั้นก็งงมาก ตรูทำไรผิดมากมาย ต้องมาตะคอกบ้าบออะไรก็ไม่รู้ แต่ไม่มีไรมากนะ แค่รุ่นพี่ตะคอก ให้วิ่งขึ้นบันไดห้าชั้น วิ่งรอบสระหน้าคณะ แล้วก็เล่นละครดราม่าเล็กน้อย จบ ตอนนั้นนี่กดดันสุดๆ แต่พอมาฟังของคนอื่น ของเรานี่เด็กๆเลยอ่ะ จากคุณ : hikawa - [ 10 มิ.ย. 52 23:30:47 ]

ความคิดเห็นที่ 57 มัธยม ผมมีนะ มีว้ากเกอร์ด้วยนะเอ่อ เอาสิ สนุกดีนะ ขำๆ รุ่นพี่รุ่นน้องสนิทกัน (แต่เกลียดกันก้อมีบ้าง ตามประสา) จากคุณ : [C]haruru - [ 10 มิ.ย. 52 23:40:07 ]

ความคิดเห็นที่ 58 พูดถึงที่รับน้องดีๆนะ ที่เราเห็นด้วย มหาลัยกับมัธยม มันไม่เหมือนกันตรงที่ มัธยมยังไงก็เรียนห้องเดียวกัน เจอหน้ากันทั้งวันตลอดเวลา แต่มหาลัยมันแล้วแต่เราจะลง มันก็อาจจะไม่ได้รู้จักใครนานๆ สำหรับเรา เราชอบมาก สนุกดี จากคุณ : V R Sicks - [ 10 มิ.ย. 52 23:45:12 ]

ความคิดเห็นที่ 59 เราว่าการรับน้องบางทีก็มีผลดีนะ  ตอนเราเข้าปี 1 มหาลัยทางภาคใต้  มีรับน้องเยอะมากกกก  รับน้องมหาลัย  รับน้องคณะ   รับน้องเอก  รับน้องหอ คิดว่าน่าจะเยอะกว่าที่อื่นๆเลยด้วย   รับน้องมหาลัย กับ รับน้องคณะนี่จะออกแนวน่ารักนิดนึง  มีการคล้องมาลัยต้อนรับ  ทำกิจกรรมประแป้ง   เล่นเกมสันทนาการ  แกล้งกันบ้างพอหอมปากหอมคอ  แล้วก็ทำความรู้จักกันทุกคน  อ้อ ...มีกิจกรรมคู่ไบท์ ด้วย ให้ผู้ชาย ไปขอผู้หญิงเป็นคู่ไบท์  แล้วไปปั่นจักรยานซ้อนท้ายกัน ช่วยเหลือกัน เป็นคล้ายๆแข่งปั่นจักรยานแต่ไปตามสถานที่ท่องเที่ยวสวยๆ กลับมาก็สนิทกัน  บางคู่ก็เป็นแฟนกันไปเลยก็มี รับน้องเอก ก็แล้วแต่ว่าเอกไหนพี่จะให้ทำอะไร  จะสรรหาอะไรมาแกล้งน้อง  อย่างเรา โดนให้กินขนมปังสอดไส้กะปิ (แหวะ)  พอจะดื่มน้ำรุ่นพี่ก็รีบส่งน้ำมาให้ นึกว่าน้ำเปล่า ดื่มไปอึกใหญ่ ที่ไหนได้  น้ำเกลือ  เค็มมากก  แต่ก็โอเค  ขำๆกันไป  ตกกลางคืน มีกิจกรรมอีก โดนเรียกลงมารวมกัน พี่ก็ว้ากเอาๆ  ทำหน้าโหดสุดฤทธิ์  ไม่รู้จะสรรหาอะไรมาด่าน้องก็มั่วๆทู่ซี้ด่ามันไป (แต่เราไม่กลัว  แค่อึดอัดแทนที่ต้องเก๊กซะขนาดนั้น 555)   ตอนหลังให้ปิดตาล้วงไห แล้วใส่ลอดช่องไว้ แต่เราดั๊นได้กลิ่นหอมใบเตยจากลอดช่อง  เลยล้อวงไปแบบยิ้มๆ  พี่เค้าก็ว้ากว่ายิ้มอะไร ไม่กลัวเหรอ  เราก็ว่าทำไมต้องกลัว ก็มันลอดช่องอ่ะ   พี่ก็ยังจะแถอีกว่าเป็นหนอน  แต่เรารู้แล้วว่าเป็นลอดช่อง ก็มันได้กลั่นชัดซะขนาดนี้อ่ะ  พี่เค้าคงเซ็งเลยช่างหัวมัน  ก๊ากกก ส่วนรับน้องหอ อันนี้ก็แล้วแต่หอ ว่าจะมีแผนการอะไรกัน  หอชายอาจจะหนักหน่อย  ได้ข่าวจากเพื่อนว่ายังกับฝึกทหาร  แถมตอนเช้าก็ต้องมายืนตากหน้าที่หอหญิง แล้วร้องตะโกนว่า "ขอน้ำหน่อยครับ"  ผู้หญิงบนหอก็ตื่นมาดู บางคนก็เอาน้ำซักผ้า น้ำแช่ผ้าเทลงไปเต็มๆ ทั้งกะละมัง  ก็เปี่ยกกันไป  แล้วก็กลับหอตัวเอง 555 เราว่าก็โอเคนะ  รู้จักกันทั้งมหาลัยเลย  ใครอยู่เอกไหน คณะอะไร ชื่ออะไร บางทีเป็นแฟนกับใคร ยังรู้กันทั่วเลยอ่ะ  เจอหน้าถ้าไม่สนิทก็ยิ้ม ทักทายกัน  ดีออก จากคุณ : Me & My dog - [ 10 มิ.ย. 52 23:46:26 ]

ความคิดเห็นที่ 60 รับน้อง แม้จะมีว้ากแต่ัมนไม่ได้โหดร้ายถึงขั้นทำร้ายร่างกายแบบทุกที่หรอกค่ะ อย่ามองเลยว่ารับน้องที่มีว้ากดูเสื่อม ดูไร้อารยธรรม หรือแค่เพื่อความสุขของรุ่นพี่ เรารับมา เราผ่านมา 80เปอร์เซนต์ในรุ่นรับได้ สนุก รู้จักกันกระทั่งนามสกุล ที่อยู่ ทุกอย่าง ความโหดแบบมีลิมิตกับมีขั้นมีตอนมันส่งผลทางจิตวิทยาจริงๆ โปรดอย่าเพิ่งดูถูกหรือฟังแต่ฝ่ายเด็กปี1ที่รับไม่ได้เลย****(ไม่นับกรณีล่าสุดที่ทำร้ายร่างกายกับพกอาวุธจริงนะ)****  ฟังจากปากรุ่นพพี่บ้าง เราอยู่เราทำเราเข้าใจกันมาหลายรุ่น เพียงแต่คุณไม่เข้าใจหรืออคติอย่าเพิ่งด่าว่าระบบนี้เลย ปัญหาอยู่ที่ "คน" "รุ่นพี่" ส่วนตัวมากๆ ไม่ใช่ระบบ จริงจังนะเนี่ยยยย จากคุณ : Galwithred เด็กแดง - [ 11 มิ.ย. 52 01:02:16 ]

ความคิดเห็นที่ 61 แล้วหาวิธีอื่นนอกจากว้ากไม่ได้หรอครับ ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ระบบอยู่แล้ว แต่คนที่ใช้ระบบที่เป็นปัญหาเพราะวุฒิภาวะยังไม่พอ ใครมีอำนาจในมือ ก็จะรู้สึกลำพองตัวเป็นเรื่องธรรมดา อย่ามาอ้างเรื่องทำงาน เจ้านายอะไรเลย คุณก็ยังเรียนอยู่ คุณรู้ได้ยังไง ถึงได้มาเป่าหูเด็กปีหนึ่งให้เขาเชื่อคุณทุกอย่าง ยังมีอีกหลายวิธีที่จะทำให้เด็กสนิทกัน หรือบรรลุเป้าหมายต่างๆนะครับ แต่พวกคุณกล้าที่จะเสียอำนาจกันหรือเปล่า เท่านั้นแหละ จากคุณ : shinn.negi - [ 11 มิ.ย. 52 01:39:34 ]

ความคิดเห็นที่ 62 ของเราตอน ม ปลายก็มีเหมือนกันน้า แต่เป็นแบบขำๆนะ พอเข้ามหา'ลัย ก็เพิ่งมีรับน้องแบบโหดขึ้นมานิดนึงนี่แหละ ซึ่งจริงๆมันอาจจะไม่ได้โหดอะไรมากมายก็ได้ ถ้าเทียบกับที่อื่นๆ แต่พอดีที่ๆเราเรียน จะขึ้นชื่อว่ารับน้องไม่โหดอะไรเท่าไหร่ไง เค้าไม่เรียกว่า "รับน้อง" ด้วยซ้ำ แต่เค้าเรียกกันว่า "รับเพื่อนใหม่" เพราะเค้าถือว่าทุกคนที่นี่เท่าเทียมกัน ไมมีระบบอาวุโส ประมาณนี้ พอมาเจอแบบโหดๆก็เลยอึ้งหน่อยๆ... แต่จะบอกว่า จากประสบการณ์ส่วนตัวนะ การรับน้อง จะโหดรึไม่โหด แต่ถ้ามันมีจุดมุ่งหมาย ไม่ใช่เอามันแค่อย่างเดียว มันก็มีประโยชน์อยู่นะ อย่างของเรา นอกจากเรื่องที่พื้นฐานทั่วไป อย่างการได้รู้จักเพื่อนใหม่ การละลายพฤติกรรม ความรู้สึกรักและเคารพในสถาบัน etc. สิ่งหนึ่งที่ได้มาก็คือ เพื่อนๆที่ไปรับน้องด้วยกัน จะสนิทกันเร็ว สนิทกันมาก แล้วก็รักกันมากเลยน้า ไม่รู้ดิ คือเราว่าเราผ่านสถานการณ์ที่กดดันมาด้วยกัน ลำบากมาด้วยกัน ถึงจะเป็นเวลาสั้นๆ แต่ก็ร่วมทุกข์มาด้วยกัน ละลายพฤติกรรมมาด้วยกัน ซึ่งเป็นประสบการณ์อีกรูปแบบหนึ่งซึ่งคงหาไม่ได้ในระหว่างเรียนอ่ะ และกับรุ่นพี่ ต่อมาก็สนิทและรักกันมากๆเลย เฮฮาปาร์ตี้กันไป ซึ่งพอผ่านจุดนั้นมา พวกเราก็เข้าใจสิ่งที่พี่ๆเค้าทำไปนะ บางอย่างอาจไม่เข้าใจในทันที แต่พอซักพัก ทุกอย่างกลับมีเหตุผลหมดเลย คิดถึงตอนนั้นแล้วก็อิ่มใจมากๆเลยน้า ซึ่งพอมาเจอข่าวรับน้องแบบเอาสะใจนี่ก็เลยรู้สึกแย่ สงสารน้องๆเฟรชชี่น่ะ แล้วก็สงสารสถาบันอีกหลายๆที่ที่เค้ารับน้องกันแบบใช้มันสมองคิดด้วย ต้องมาโดนเหมารวมว่ามันเป็นเรื่องที่แย่เพียงเพราะรุ่นพี่สิ้นคิดแค่ไม่กี่คน... เฮ่อออ (-*-) จากคุณ : แฟนพี่บีม - [ 11 มิ.ย. 52 03:01:09 ]

ความคิดเห็นที่ 63 เตรียมน้อมฯ มีเค้าวันนึงเอาเด้กใหม่ไปรวมกัน เรียกว่าค่ายกลุ่มสัมพันธ์ ร้อง เล่น เต้นกัน  ไม่รู้ผ่านมาทุกวันนี้ยังมีหรือเปล่า  เหอๆ จากคุณ : Hernf@ - [ 11 มิ.ย. 52 14:08:06 ]

ความคิดเห็นที่ 64 เหมือนคห.11 กับ 14 ค่ะ รับน้องตอนม.1 ให้ไปลุยน้ำลุยโคลน กินpepsiใส่น้ำปลา ทาสีโรยแป้งใส่เม็ดแมงลัก เข้าห้องเชียร์ โดนว๊าก สนุกดีค่ะ จากคุณ : phungsilly - [ 11 มิ.ย. 52 14:28:43 ]

ความคิดเห็นที่ 65 ความคิดเห็นที่ 36   คุณสาวหน้าใส ความคิดเห็นที่ 47   Mikamura Kaoru   เกรงว่าเราจะสถาบันเดียวกันนะเนี่ย ^^ จากคุณ : Blueberry Bear - [ 11 มิ.ย. 52 19:30:12 ]

ความคิดเห็นที่ 66 ^ ^ สวัสดีค่ะ   จากคุณ : สาวหน้าใส - [ 11 มิ.ย. 52 20:42:47 ]

ความคิดเห็นที่ 67 เราโชคดีค่ะ ที่มีประสบการณ์ที่ดีๆเกี่ยวกับการรับน้องทั้งนั้นเลยตั้งเเต่ สมัย ม 4 เเละมหาวิทยาลัย  ข้อดีของการรับน้องสำหรับเราค่ะ -ทำให้มีเพื่อนเยอะขึ้น ต่างห้อง ต่างคณะ(จากการทำกิจกรรม) -ตื่นตัว พร้อมที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ -มีระเบียบ วินัย มีความอดทน  มีน้ำใจ และปลูกจิตสำนึกที่ดีๆหลายอย่าง -ทำให้มี รุ่นพี่ รุ่นน้อง มีสายรหัส อบอุ่นดีค่ะ -มีความทรงจำดีๆมากมายที่หาจากที่ไหนไม่ได้ค่ะ เพราะปีต่อไปต้องเป็นพี่ ที่ต้องรับ รุนน้องเเล้วอ่ะค่ะ^_^ จากคุณ : ลอยคอ รอคอย - [ 11 มิ.ย. 52 22:26:34 ]

ความคิดเห็นที่ 68 จะว่าเป็นแค่ตัวคนไม่ได้ครับ ถ้าว่า เกม หนัง การ์ตูน หรือ ระบบการศึกษา มีผลต่อคนได้ ตัวระบบก็ส่งผลได้เหมือนกัน แต่คนส่วนมากพยายามPurify ระบบ เลยโบ้ยไปที่ตัวคนไว้ก่อน จากคุณ : NKL - [ 11 มิ.ย. 52 23:33:38 ]

ความคิดเห็นที่ 69 เตรียมอุดมศึกษา ครับ มีรับน้องทุกปี แต่จะต่างจากมหาวิทยาลัยตรงที่ไม่มีรับน้องรวมทั้งโรงเรียน จะมีแค่รับน้องสาย(การเรียน) และ รับน้องห้อง(เรียน) เท่านั้น แล้วก็เป็นกิจกรรมรับน้องจริงๆนะครับ คือ ใช้ระยะเวลาหลายวัน แล้วก็เป็นกิจกรรมที่มีจุดประสงค์หลักแบบเดียวกับรับน้องของมหา'ลัย คือ ให้เพื่อนๆสนิทกัน และ ให้พวกเรารู้จักรุ่นพี่ครับ ไม่ได้รับเอาสนุกเอามันเพียงอย่างเดียว หรือจัดเป็นกิจกรรมต้อนรับน้องใหม่แค่วันสองวันแล้วก็จบไป ตอนรับน้องที่เตรียมฯ สนุกดีครับ ตอนนั้นรับ 2 สัปดาห์เต็มๆเลย มีมารับน้องใหญ่ในวันเสาร์ของสัปดาห์ที่สองด้วย ก็ไม่เห็นมีเล่นแรงมากมายอะไร กิจกรรมก็มีน่าเบื่อบ้าง แต่มันก็ทำให้เราได้กล้าแสดงออก ได้เพื่อน ได้รุ่นพี่ ได้รู้จักสายที่ตัวเองเรียนอยู่ ห้องที่ตัวเองเรียนอยู่ และ โรงเรียนที่ตัวเองเรียนอยู่ รวมถึงมีความภาคภูมิใจมากขึ้นด้วยครับ โดยรวมเป็นประสบการณ์ที่ดีครับ ในกิจกรรมก็จะคล้ายๆรับน้องมหา'ลัยแหละครับ คือ มีร้องเพลง เต้น เล่นเกม ว้าก ถ้ารับใหญ่ก็จะมีเข้าฐานต่างๆ ตัวเปียก เอาสีเอาแป้งทาหน้าทาแก้ม มัดผม ฯลฯ ซึ่งทุกอย่างก็มีจุดประสงค์ในตัวมันน่ะครับ นอกจากนี้ยังมีการจับพี่รหัส และ รุ่นพี่พาไปเลี้ยงอาหารด้วยครับ เวลาจบรับน้องไปความเป็นพี่น้องมันก็ยังอยู่ครับ เจอกันทักทาย ช่วยเหลือกัน คุยกันบ้าง แล้วแต่ความสนิทสนมครับ แล้วมันจะตอกย้ำให้เรามีกิจกรรมทำร่วมกันโดยเฉพาะอีกคือ งาน Home ครับ อันนี้คล้ายๆว่ารุ่นพี่รุ่นน้องมาทำกิจกรรมร่วมกันโดยเฉพาะเลย แบบกิจกรรมนี้มีมาเพื่อให้รุ่นพี่รุ่นน้องที่รับน้องกันมาทั้งหมดมาทำอะไรร่วมกัน ซึ่งไม่ใช่แค่รุ่นพี่รุ่นน้องด้วยครับ แต่รวมถึงรุ่นพี่ๆขึ้นไปอีกก็จะมากัน(จริงๆส่วนหนึ่งก็มาตั้งแต่รับน้องแล้วครับ) แล้วก็ถึงพี่ๆนักเรียนเก่านะครับ โรงเรียนเรายังคงรักษาประเพณีรับน้องสืบเนื่องมาจนถึงวันนี้ครับ เพียงแต่รูปแบบและระยะเวลาของกิจกรรมอาจจะเปลี่ยนแปลงไปบ้างตามดุลยพินิจของผู้บริหารในช่วงเวลานั้นๆครับ การรับน้องในแต่ละสมัยของเตรียมฯจึงไม่่ค่อยเหมือนกัน ถ้าเปรียบเทียบกับรับน้องมหาวิทยาลัย(จุฬาฯ) ผมก็คิดว่ารับน้องเตรียมอุดมฯอบอุ่นกว่ามากครับ แต่ข้อเสียคืออาจจะไม่สามารถเล่นเกมแรงๆ ร้องเพลงหรือเต้นลามกๆ รวมถึงรับเละๆ หรือเลิกเย็นๆได้เท่ากับรับน้องมหา'ลัย(ช่วงไม่กี่ปีให้หลังมานี้โรงเรียนเข้มงวดกับรับน้องขึ้นจากเดิมมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆเลยครับ -   -) ก็เลยอาจจะทำให้ความสนุกไม่ถึงใจเท่ากับตอนรับในมหา'ลัย เพราะตอนนี้รับน้องมหา'ลัยอยู่ครับ รู้สึกว่าได้ใจกว่าตอนรับน้องม.ปลายเยอะเลย สนุก 555 จริงๆมีข้อดีอีกอย่างที่สังเกตเห็นคือ มหา'ลัยจะปลูกฝังความเป็นคณะค่อนข้างแรงพอสมควร แล้วก็เป็นการเรียนช่วงที่จบไปแล้วทำงานพอดี ก็อาจจะได้รับอานิสสงค์ในด้านการงานหรือคอนเนคชั่นที่น่าจะมีมากกว่าตอนม.ปลายครับ ก็นะครับ ข้อดีข้อเสียแตกต่างกันไป ตอนนี้ก็ยังเสียดายอยู่อย่างว่าถ้ารับน้องเตรียมฯ อาจารย์(ระดับรองผู้อำนวยการ)ไม่มาก้าวก่ายมากแบบสมัยก่อน คงจะสนุกไม่แพ้มหา'ลัยแน่นอน เพราะรุ่นพี่ก็จะเล่าให้ฟังบ่อยครับว่าเมื่อสมัยก่อน รับน้องเตรียมฯอิสระในทุกเรื่องๆมากกว่านี้เยอะมาก สามารถรับน้องได้หยั่งกะที่ระดับมหา'ลัยเขาทำกัน แต่เดี๋ยวนี้อาจารย์(ระดับรองผู้อำนวยการ)เข้ามาก้าวก่ายเยอะมากครับ แก้ไขเมื่อ 12 มิ.ย. 52 02:51:15 แก้ไขเมื่อ 12 มิ.ย. 52 02:46:50 แก้ไขเมื่อ 12 มิ.ย. 52 02:36:56 จากคุณ : 69 (Keichun) - [ 12 มิ.ย. 52 02:31:19 ]

ความคิดเห็นที่ 70 เด็กเตรียมเยอะอยู่เหมือนกันนะเนี้ย หุหุุ ตอนรับน้องก็สนุกดี เหมือนได้คุยกันมากขึ้น เพราะถ้าอยู่ดีๆจะให้ไปคุยเลยก็ดูจะขัดเขิน เราว่ารับแต่พอดีๆๆก็สนุกดี เยอะไปนานไปก็น่าเบื่อ เดินทางสายกลางละกัน จากคุณ : 68 ([R]-ocking Doll) - [ 12 มิ.ย. 52 16:24:25 ]