ความคิดเห็นที่ 1 UP ผมว่าบทมันให้มากเลยนะกับแนวการเดินทางรอบโลกอ่ะ ตอนไปดูนี่คิดว่าจะได้ดูการผจญภัยไปยังดินแดนต่างๆมากมาย ต้องสนุกแน่ แต่พอดูแล้วเลย สงสัยว่าทำไมเค้าไม่ให้ไปหลายๆที่อ่ะครับ พอฉากซ้ำมันก็ทำให้เบื่ออ่ะครับ -*- แต่หนังก็สนุกดีครับ เหอๆ จากคุณ : Chordate - [ 14 มิ.ย. 52 01:07:03 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ผมกลับคิดว่า บท หนังเรื่อง UP นี้เนียนมากกกเลยนะครับ จากคุณ : BIZZARE - [ 14 มิ.ย. 52 01:11:01 ]

ความคิดเห็นที่ 3 เห็นด้วยครับว่า Rattatouille นี่บทสุดยอดจริงๆ UP กับ WAll-E เนื้อเรื่องดี ตัวละครน่ารัก แต่ตอนจบมันไม่อิ่มเท่า Rattatouille, The incredibles จริงๆ (คห. ส่วนตัว) แต่ปีหน้า Toy Story 3 ผมว่าก็คงเยี่ยมสุดๆ เหมือนกัน (อ่านเรื่องย่อมาแล้ว ที่เด็กโตจนเลิกสนใจของเล่น แล้วเอาไปบริจาคหมดเนี่ย ดูทีมงานกล้าแหวกแนวมากเลยครับ ท่าทางเนื้อเรื่องจะเข้มข้นทีเดียว) จากคุณ : Snicket - [ 14 มิ.ย. 52 01:11:46 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ^ ^ ^ UP ยังไม่ได้ไปดู แต่คิดว่าถ้า UP ไปหลายๆที่ทั่วโลกก็คงไม่ต่างอะไรมากมายกับ Around the word in 80 days ดีไม่ดีอาจจะหาว่าลอกมาเลยก็ได้ เห็นด้วยกับจขกท.ในเรื่อง Wall-E ตอนต้นเรื่องสนุกดี ตอนกลางเรื่องผมเกือบจะหลับแล้ว แล้วเพิ่งมาสนุกอีกทีตอนท้ายเรื่องตอนคนอ้วนกลิ้งไปกลิ้งมาบนยาน - -*  แต่ Rattatuille นี่สิ เพลงเพราะ ภาพเยี่ยม เนื้อเรื่องดีๆของหนูและคนคนนึง  มันมีพลังแฝง 55+ จากคุณ : ซูชิปลาหางนกยูงไส้ช็อคโกแลต - [ 14 มิ.ย. 52 01:12:39 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ตรงใจเลย อยากดูแบบ แรททาทูอี้ หรือ กังฟูแพนด้าอีก จากคุณ : blueboyhub - [ 14 มิ.ย. 52 01:14:51 ]

ความคิดเห็นที่ 6 น้ำตา ที่เสียให้ อัพ คงจะแทนคำพูดของผมได้ว่า มัน ดราม่า มากๆ จากคุณ : THADHA - [ 14 มิ.ย. 52 01:23:54 ]

ความคิดเห็นที่ 7 เฉยๆกับ WALL-E เหมือนกันนะครับ งงว่าคำวิจารณ์ดีสุดๆแบบนั้นได้ไง เหมือนหนังตั้งใจยัดเยียดมากเกินไป โดยเฉพาะในตอนครึ่งหลัง แต่รู้สึกสนุกกับ UP นะครับ โดยเฉพาะตอนต้นเรื่อง ก่อนบ้านจะลอยอ่ะครับ ให้ความรู้สึกถึงคนแก่ได้ดีทีเดียว ยังไม่ได้ดูเรื่อง Cars กับ Rattatuille เลย ว่างๆจะหามาดู แก้ไขเมื่อ 14 มิ.ย. 52 01:31:35 จากคุณ : moviem - [ 14 มิ.ย. 52 01:30:53 ]

ความคิดเห็นที่ 8 เพิ่งดูมาครับ เห็นด้วยกับจขกท.มาก เพราะรู้สึกว่าบทมันเฉยๆมาก ออกแนวคิดมาน้อยด้วยซ้ำ จากคุณ : อยากจะบอก - [ 14 มิ.ย. 52 01:34:29 ]

ความคิดเห็นที่ 9 เห็นด้วยว่า Wall-E ช่วงแรกเจ๋งมาก แต่ช่วงหลังมันง่ายไปนิด นอกจากนี้ อีกเรื่องที่ผมคิดว่าบทต่ำกว่ามาตราฐานพิกซาร์คือ Cars ครับ เรื่องการพัฒนาบทยกให้ The Incredibles เป็นเรื่องแรกที่แปลงบทเป็นการ์ตูนผู้ใหญ่ Up ยังไม่ได้ดู แต่ขอให้ตัวเองชอบเถอะ :) จากคุณ : มันเยี่ยมจริงๆเลยครับจอร์จ - [ 14 มิ.ย. 52 04:33:07 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ยกให้ The Incredible เหมือนกัน ...การ์ตูนต้องสนุกมากก่อน สาระเป็นเรื่องรอง ..ไม่ได้จะมาดูดราม่าที่นำเสนอในลักษณะภาพ Animation ซักกะหน่อย.. อีกเรื่องที่ส่วนตัวคิดว่ามันพอจะกลมกล่อมลงตัวน่าจะเป็น Nemo นะ ..อันนั้นรู้สึกมันจะครึ่งๆ พอดี ไม่ค่อยจะขาดหรือเกินไป รู้สึกคล้ายกับไปดู Little Mermaid เลย จากคุณ : _K_F_C_ - [ 14 มิ.ย. 52 06:20:15 ]

ความคิดเห็นที่ 11 สำหรับผม Wall-E ดูได้ 10 นาทีก็หลับแล้ว แต่เห็นหลายคนบอกช่วงแรกสนุก ไว้คงต้องลองกลับไปดูใหม่ แก้ไขเมื่อ 14 มิ.ย. 52 06:59:08 จากคุณ : depend ayu - [ 14 มิ.ย. 52 06:58:15 ]

ความคิดเห็นที่ 12 อย่าคิดมากๆ คนดูบางคนก็ต้องการความสนุกกับการพักผ่อนในการดูหนังแค่นั้นเอง อย่าซีเรียสกับชีวิตครับ จากคุณ : peachba1 - [ 14 มิ.ย. 52 06:58:27 ]

ความคิดเห็นที่ 13 เข้าใจสิ่งที่ จขกท ต้องการนำเสนอคับ แต่สำหรับผมแล้ว Pixar ยังคงมาตรฐานที่ดีเยี่ยม ทิ้งห่างคู่แข่งอื่นๆ อยู่ดีคับ บางที ถ้าเราไม่ยึดติดกับอะไรแบบเดิมๆ เราน่าจะเข้าใจผู้สร้างที่มีความคิดสร้างสรรค์ไม่หยุดนิ่งอย่าง Pixar นะคับ ปล. เรื่อง Wall E ที่ จขกท ว่าบทไม่แน่น ถ้าจำไม่ผิด ได้เข้าชิงบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยมทั้งจาก Golden Globe และ Oscars นะคับ จากคุณ : Nobody loves me. - [ 14 มิ.ย. 52 07:13:39 ]

ความคิดเห็นที่ 14 Wall-E ผมว่าบทดีมากนะครับ ส่วน UP แม้ว่าบทจะหลวมๆไปบ้างแต่ช่วงดรามาก็ทำได้ดีมาก แต่ก็ยอมรับว่าตอนแรกที่ได้ยินเนื้อเรื่องของ UP ก็คิดว่าหนังน่าจะทำได้ดีกว่านี้ จากคุณ : paramedian - [ 14 มิ.ย. 52 07:20:38 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ค่ายที่มีแต่หนังดี ก็จะเจอปัญหาเช่นนี้แล เมื่อเกิด gap เล็กๆน้อยๆระหว่างหนังดีด้วยกัน ผมว่าผู้กำกับแต่ละคนในค่ายนั้น ล้วนมีสไตล์เป็นของตัวเองนะ จากคุณ : *omega* - [ 14 มิ.ย. 52 07:28:37 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ตอบคุณ Nobody loves me. ความคิดเห็นที่ 13 ผมก็คิดอย่างนั้นครับ ว่ายังไงซะมาตรฐาน Pixar ก็ยังนำค่ายอื่นๆอยู่ (แต่ก็ไม่หลายช่วงตัวหรอกครับ เพราะอย่าง Kung Fu Panda และ Ice Age ทั้ง 2 ภาค นั้น ก็เข้าขั้นเทพเหมือนกัน) ส่วนเรื่องบทได้เข้าชิงทั้ง Oscar และ Golden Globe นั้น มันคือการแข่งขันปีต่อปีครับ แต่ถ้าเอามาเทียบกันในหมู่เทพแล้ว ผมไม่คิดว่า Wall-E จะได้ไปนะครับ (แต่ปีนั้น ผมเชียน Kung Fu Panda นะครับ กลมกล่อมกว่ากันเยอะแยะ) จากคุณ : คนไทยในต่างมุม - [ 14 มิ.ย. 52 07:45:04 ]

ความคิดเห็นที่ 17 เห็นด้วยคับว่า up บทไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แต่ออกมาก็เจ๋งงโพดอยู่ดี แต่ wall-e ผมว่าบทดีจัดๆเลยนะ ไม่นึกว่าจะสอดแทรงอะไรมาได้ขนาดนั้น พูดตามตรง pixarไม่เคยได้ใจผมมาก่อนเลยตั้งแต่ toy story มา ผมว่ามันเด็กๆ ง่ายๆ เกินไปหน่อยอะ ดูจบก็รู้สึกว่า เออ หนุกดี แต่ไม่เคยรู้สึกดีมากหรือกินใจอะไรซักนิดเลย ขนาด nemo หรือ incredible ที่คนชอบกัน ผมก็ว่าดีแบบเฉยๆคับ ไม่รู้สึกว่ามันมีอะไรให้คิดตามเท่าไหร่ แต่ตั้งแต่ ratatouille พิกซ่าเริ่มทำให้ผมรู้สึกได้ว่า เชดด เด็ดหวะเห้ย ชอบการแฝงอะไรให้คิดที่ทำให้รู้สึกว่าเป็นกนังสำหรับผู้ใหญ่ขึ้น พอมา wall-e นี่แบบว่า สุดยอดหวะ pixar ไม่ใช่แค่ที่รายละเอียดภาพ แต่เป็นที่ตัวของ wall-e เองและเนื้อเรื่องรวมสิ่งที่แฝงไว้ แม้แต่ up ที่ผมว่าบทมีโหว่ๆ แต่ก็แฝงอะไรเจ๋งๆให้คิดเยอะพอดูคับ ผมว่าถ้าแบบนี้เรียดว่าบทไม่ค่อยดี ผมก็ยอมให้บทไม่ดีแบบนี้ละคับ เพราะอย่างน้อยมันเข้าถึงผมได้คนนึง จากคุณ : บรึ๋ยศักดิ์ - [ 14 มิ.ย. 52 07:46:55 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ตอบ คห.ที่ 12 คุณ  peachba1 สำหรับคนที่ดูหนังอะไรก็สนุกไปโหม้ดดดด มันก็น่าอิจฉาน่ะสิครับ แต่ถ้าคนที่ชอบดูหนังเป็นชีวิตจิตใจอย่างผม (และเพื่อนๆอีกหลายคน) ก็มีสิทธิ์ตั้งความหวัง และวิพากษ์วิจารย์ได้นี่ครับ ถ้าให้ดูฟรี ผมก็คงไม่คิดอะไรมากหรอก แต่หนังคือสินค้าที่เราเสียเงินเข้าไปดูนี่นาครับ เงินร้อยมันไม่น้อยนา คนดูหนังอย่างผมก็หวังว่าหนังทุกเรื่องที่ดู มันจะสนุกและน่าประทับใจแหละครับ แต่ถ้ามันไม่เป็นไปตามนั้น มันก็ต้องออกมาคอมเม้นเป็นธรรมดา ขอคิดมากหน่อยนะครับ คนที่ดูหนังแล้วสนุกประทับใจไม่คิดมากกับทุกๆเรื่อง ผมว่าคือคนที่โชคดีที่สุดแล้วล่ะ จากคุณ : คนไทยในต่างมุม - [ 14 มิ.ย. 52 07:50:18 ]

ความคิดเห็นที่ 19 Pixar  น่าจะมาจ้าง จขกท ไปเกลาบทก่อนนะ จะได้ เก๋าขึ้น จากคุณ : x-cool-sive - [ 14 มิ.ย. 52 08:16:03 ]

ความคิดเห็นที่ 20 แต่ผมกลับชอบ Up นะ น่าจะประทับใจสุดจากทั้งหมดเลยก็ว่าได้ จากคุณ : unicorn-k - [ 14 มิ.ย. 52 09:51:09 ]

ความคิดเห็นที่ 21 UP ซึ้ง แต่ไม่ลึก ดูไปเสียน้ำตาและเสียงหัวเราะ แต่ออกจากโรงแล้วจบกัน enjoy your day จากคุณ : Holden Caulfield - [ 14 มิ.ย. 52 10:49:55 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ... up ผมว่าบทดีนะครับ เล่นแง่มุมลึกๆของ 'ความเป็นมนุษย์' มากกว่าเรื่องก่อนๆ โดดเด่นในด้านการใส่ปมทางจิตวิทยาของตัวละคร มีจินตนาการหลากหลาย และ มีรายละเอียดปลีกย่อยมากกว่าหลายเรื่องของ Pixar แล้วเล่าออกมาเนียนๆ เหมือน เรื่องเบๆ ประมาณ ปู่ซ่าอารมณ์เสียกับเด็กหน้าเหมือนโหน่งสามช่า จะอ่อนก็คงเป็นความกลมกล่อม ที่เกลาออกมาแล้วยังไม่ลงตัวให้ เมพขิงๆ ระดับเดียวกับ หนูก้นครัว ที่ผมยกให้เป็น บทหนังระดับห้าดาวของ Pixar (แต่ความยอดเยี่ยม ก็ยังไม่กระทบใจชวนให้รัก เท่ากับ Up ที่รู้สึกว่าใกล้ตัวมากกว่า) เริ่มต้น เหมือนจะมีแค่ ปู่ซ่า กับ อดีตรัก แต่เมื่อหนังย้อนอดีตมันก็จะเริ่มมีเรื่องของ - ความฝันของคนสองคน ที่ไปไม่ถึงเป้าหมาย (การเดินทาง , การมีลูก) ซึ่งจุดนี้ทำให้หลายชีวิตคู่ต้องเลิกรา แต่สุดท้าย ทั้งคู่ก็อยู่อย่างมีความสุข เพราะมี ความรักประคับประคอง - ความเจ็บปวดหลังสูญเสีย เปลี่ยน คนหนุ่มใจดี เป็น ปู่ซ่า ขวางโลก ที่ไม่มีความสุขและยึดติดกับอดีต ก่อนที่การเดินทาง จะทำให้เขาค้นพบ การปล่อยวาง และ อยู่กับปัจจุบัน - การมีชีวิตอย่างมีความทุกข์ เพราะ เลือกจะยึดติดกับอดีต จนมองไม่เห็นความสุขตรงหน้า และ แทนที่มีโอกาสจะช่วยให้คนอื่นมีความสุข คนอื่นก็หมดโอกาสนั้น เพราะ ความทุกข์ฝังใจของตัวเอง(โอกาสหนึ่งครั้งที่จะช่วยนกเจ็ดสี แต่ปู่ซ่าเลือกบ้านที่ไม่มีใครอยู่แล้ว)   - การเรียนรู้รูปแบบของ ความรัก ที่เปลี่ยนรูปแบบจาก สามี-ภรรยา มาเป็น ความรักในรูปแบบของ ความเป็นพ่อ-ลูก สานต่อความฝันที่เคยผิดหวังไปในอดีต เพราะสุดท้ายแล้ว ฮะโหน่ง นั่นเอง คือ คนที่มาเติมเต็ม ปู่ซ่ากับภรรยา จากโน้ตที่ภรรยาทิ้งท้าย ที่ทำให้ เชื่อว่า สิ่งที่ภรรยาต้องการไม่ใช่ บ้านอยู่บน Paradise fall แต่ อยากเห็นคนที่รักมีความสุข และ ฮะโหน่งก็เป็นเหมือนลูกที่เธอไม่มีโอกาสจะมีตอนยังมีชีวิต ส่วน ปู่ซ่า ก็มาเติมเต็ม พ่อ ที่ฮะโหน่งต้องการ ... การใส่ตัวละคร ก็มีความหมายดี - ด.ช. ฮะโหน่ง มากับ ปูมหลังของครอบครัวแตกแยก กับ ปู่ซ่า ผู้สูญเสีย ต่างฝ่ายต่างโหยหาอะไรบางอย่าง - หนังใส่ นกเจ็ดสี เข้ามาเปิดประเด็น 'ความเป็นพ่อแม่' ซึ่งฮะโหน่ง โหยหา และ ปู่ซ่า เคยอยากจะเป็น - ตัวร้าย ที่เคยเป็นฮีโร่ แต่กลับกลายเป็น วายร้าย เพียงเพราะ 'ความเจ็บปวด' ที่ถูกสังคมต่อว่า จะว่าไปก็คล้ายๆกับ ปู่ซ่า ที่ถูก ความเจ็บปวด เปลี่ยนนิสัยไปจากเดิม และ หนังเรื่องนี้ไม่มีใครร้ายเพราะขี้โกง แต่ ร้ายเพราะ ความผิดหวัง ความเจ็บปวด ที่ฝังลึกในใจ ... ที่ชอบอีกอย่างคือ ประเด็นใน Up สอดคล้องต่อเนื่องจาก Partly cloudy(ชื่อนี้เปล่าหว่า) หนังสั้นตอนปะหน้า ทั้งในเรื่องของ ความรัก , ความเป็นพ่อแม่ และ มี นกกับเมฆ ต่อเนื่องมาอยู่ด้วย แก้ไขเมื่อ 14 มิ.ย. 52 11:59:04 แก้ไขเมื่อ 14 มิ.ย. 52 10:56:25 จากคุณ : "ผมอยู่ข้างหลังคุณ" - [ 14 มิ.ย. 52 10:51:38 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ชอบหมดแหละครับ อย่างน้อย พอดูจบแล้วรู้สึกสนุกและอิ่มกับความสุขที่ได้รับ มันย่อมคุ้มค่ากับเงินและเวลาที่สูญเสียไป อย่างน้อยก็คิดว่า หนังของค่ายนี้ไม่มีเรื่องที่เรียนกว่า ห่วย เลยสักเรื่อง ถ้าจะให้คะแนนแล้ว อย่างต่ำคงให้สุดแค่ 7 คะแนน ไม่มีเรื่องไหนต่ำกว่านั้น จากคุณ : จอมยุทธกระบี่กุด - [ 14 มิ.ย. 52 10:53:51 ]

ความคิดเห็นที่ 24 เข้ามาเห็นด้วยว่า หนังเรื่องนี้ อยู่ในระดับ ปานกลาง ของคุณภาพพิกซาร์ แต่ยกมือค้าน สำหรับเรื่อง Wall-E .. อยากให้ลองไปหาบทภาพยนตร์ของหนังเรื่อง นี้มาอ่าน มันเยี่ยมยอดจริงๆค่ะพี่น้อง (ความไม่เพอร์เฟกต์ของครึ่งหลังของวอลอี เราโทษการกำกับภาพยนตร์มากกว่า แปลงบทภาพยนตร์ขั้นเทพได้ไม่ถึง..เท่าที่ควรจะเป็น เอาเป็นว่า ลองไปหาบทเรื่องนี้มาอ่านดูแล้วกัน) จากคุณ : จูริง - [ 14 มิ.ย. 52 11:01:17 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ชอบหมดเลยอ่า ป๊ะป๋าก็ชอบ ป๋าพิกซาร์แกแหล่มจริงๆ จากคุณ : Bameesi - [ 14 มิ.ย. 52 11:39:17 ]

ความคิดเห็นที่ 26 เข้าใจ ที่ จขกท กำลังพูดถึงนะคะ แต่ แง๊ๆๆๆ!!   ทำไมเราถึงรู้สึกว่า Rattatuille  นั้น ธรรมดา นะ สงสัยต้องกลับไปดูใหม่อีกรอบ T^T จากคุณ : แพรเพลง - [ 14 มิ.ย. 52 12:35:27 ]

ความคิดเห็นที่ 27 เห็นด้วยกับ จขกท ส่วนนงนะ แต่ Wall•E เราว่า เรื่องบทนี่ไม่รู้ แต่เรื่องการสร้างบุคลิกให้ "หุ่นยนต์มีหัวใจ" นี่ เราว่ามันเป็นอะไรที่สุดยอดมากๆ นะ ส่วนเรื่อง "คุณปู๋ลูกโป่งกับบุรุษไปรษีณีย์เตี้ยป้อม" นี่ ...เรื่องหน้าไม่เอาแบบนี้นะ ยัดเยียดอารมณ์คนดูเกินไป เราเลยไม่ไปตามกับอารมณ์ของหนังเลย จากคุณ : DOGDAG_chy - [ 14 มิ.ย. 52 12:43:32 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ผมว่าเรื่องหลังๆ บทดีมากๆ ดีกว่าการ์ตูนยุคแรกๆ ไปในทางดีขึ้นตลอด สวนทางกับจขกท. จากคุณ : thelegendary - [ 14 มิ.ย. 52 14:58:36 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ยังไม่ได้ดูUpเลย แต่ Wall Eเนี่ย เราว่าตัวหนังมีความเป็นศิลปะมาก และบทก็ดีมากด้วย คือมันยากพอสมควรที่จะสร้างหนังที่แทบจะไม่มีบทพูดและทำให้หุ่นยนต์มีชีวิตไปพร้อมๆกันได้ ฉากที่เราประทับใจที่สุดคือฉากเต้นรำ กินใจจนพูดไม่ออกเลย กลับกันเราคิดว่าratatouilleดูธรรมดากว่า แต่เราชื่นชมฝีมือPixarทุกเรื่อง บทการ์ตูนของPixarเนี่ย เขียนได้ดีกว่าบทหนังหลายๆเรื่องซะอีก นานาจิตตัง จากคุณ : Kikuri - [ 14 มิ.ย. 52 15:55:18 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ความคิดเห็นที่ 19   Pixar  น่าจะมาจ้าง จขกท ไปเกลาบทก่อนนะ จะได้ เก๋าขึ้น จากคุณ : x-cool-sive ================================== พันทิปตั้งมาหลายปีดีดักแล้ว โลกก็พัฒนาไปมาก ยังมีความเห็นแบบนี้หลงเหลืออยู่อีกหรือนี่!!!! ไม่อยากจะเชื่อเลย แต่คนชอบ Wall-E เยอะมากๆเลยแฮะ ตอบ ความเห็น คุณหมอ "ผมอยู่ข้างหลังคุณ" ถ้าจะคิดในแง่นั้น ผมก็ว่าหนังตั้งใจจะสอดแทรกประเด็นเหล่านี้เข้ามาเพื่อเป็นแง่คิด แต่เผอิญมันดูจงใจยังไงก็ไม่รู้นะ ทั้งเรื่องลูกกำพร้า และการมีลูกไม่ได้ ทั้งเรื่องนกที่ต้องปกป้องครอบครัว (ไม่เข้ากันเลยนะครับประเด็นนี้ ไม่รู้ใส่เข้ามาทำไม) วันนี้ดู Monster Inc. ก็รู้ว่า เอ้อ ชอบหนังแบบนี้มากกว่าแฮะ ไม่ต้องตั้งเป้าว่าจะมีสาระโน่นนั่นนี่ แต่ให้คนดูซึมซับเอาเอง แทรกมาแบบเนียนๆหน่อย แต่ผมก็ชอบน่ะ Up น่ะ เดี๋ยวคุยกันไปกันมา จะหาว่าเราตั้งกระทู้มาด่าหนังเรื่องนี้อีก ชอบทุกเรื่องแหละของพิกซ่าร์น่ะ ชอบมากชอบน้อยต่างกัน ก็ขอวิพากษ์วิจารย์ตามประสาคนรักหน่อยหน่อยก็เท่านั้นเองครับ จากคุณ : คนไทยในต่างมุม - [ 14 มิ.ย. 52 18:47:47 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ยังคงกลับเข้ามายีนยันว่า animation ทุกเรื่องของ pixar ทิ้งห่างคู่แข่งอื่นๆ อย่างขาดลอย ในทุกๆ องค์ประกอบคับ จากคุณ : Nobody loves me. - [ 14 มิ.ย. 52 18:58:28 ]

ความคิดเห็นที่ 32 เป็นคนชอบการ์ตูนของ Pixar ครับ ชอบทุกเรื่องด้วย แต่ปฏิเสธไม่ได้เหมือนกันว่าแต่ละเรื่องก็ชอบมากชอบน้อยแตกต่างกันไป และหนัง Pixar ก็ไม่ได้ดีสุด ๆ เหมือนกันทุกเรื่อง ผมชอบความกลมกล่อมของบทหนัง การดำเนินเรื่อง ความสนุก และความอิ่มใจหลังดูหนังจบของ Ratatouille มากครับ ขอใช้คำว่ากลมกล่อมมาก...เหมือนอาหารที่เจ้าหนูเรมี่นั้นปรุงนั่นแหละ รู้สึกกับหนังเรื่องนี้มากเท่า ๆ กับที่ได้จาก Finding Nemo ส่วน Wall-E นั้น เห็นพ้องกับทุกคนว่าในช่วงครึ่งชั่วโมงแรกของหนังนั้นคือการโชว์ของ ของ Pixar อย่างแท้จริง เอาคนดูอยู่โดยที่ไม่มีไดอาล๊อกเลยซักนิด ส่วนต่อจากนั้น ผมไม่ได้รู้สึกว่าหนังหลุด theme ออกไปนะครับ ยังคงอินกับเจ้าหุ่นกระป๋อง Wall-E ที่เปลี่ยนจากอารมณ์สุดเหงา อยู่คนเดียวในโลก (กับแมลงสาปคู่ใจ) เป็นอารมณ์ติดตามสุดขอบฟ้าเพื่อขอความรักจากสาวไอพอดอย่างอีฟ ยอมรับว่าเป็นหนังที่ชอบเรื่องนึง แต่ไม่สุด ๆ ความสนุกน้อยไปนิด ความประทับใจหายไปหน่อย แต่บทภาพยนตร์นั้นเมพขิง ๆ เก่งจริง ๆ ที่เอาคนดูอยู่ มาถึง UP ส่วนตัวแล้ว นี่คือสุด ๆ ของความประทับใจครับ Pixar กลับมาทำหนังที่ทั้งดีและสนุกอีกครั้ง ในด้านความประทับใจ ผมไม่ได้รู้สึกโดนแค่ช่วงต้นเรื่องเท่านั้น แต่ที่โดนจัง ๆ เป็นตอนท้ายเรื่องมากกว่า ตรงจุดหักมุมจากหนังสือดูต่างหน้าที่คุณปู่คงเพิ่งเคยเปิดดูเป็นครั้งแรก ตรงนี้เหมือนหมัดน๊อคที่เล่นเอาผมตายคาเก้าอี้ ประโยคส่งท้ายคำนั้นยังติดตาผมอยู่เลย ชอตนี้เล่นเอาขนลุก น้ำตาปริ่มสุด ๆ ในด้านความสนุก หนังเรื่องนี้เรียกเสียงเฮฮาได้ตลอดเรื่องเลยครับ และในบทก็ไม่รั่วไปไหน หลาย ๆ จุดในต้นเรื่องเก็บเอามาใช้ได้อย่างมีคุณภาพ อีกทั้งยังมีประเด็นให้คนดูเอากลับมาพูดคุยถกเึึถียงกันต่ออีก (หนังแบบนี้มีไม่กี่เรื่อง) สำหรับผม Up เพียบพร้อมไปทั้งบท ความสนุก ประทับใจ และโดนใจ นานมากแล้วครับที่ไม่ได้อินซาบซึ้งสุด ๆ แบบนี้จาก Pixar ถ้าเทียบชอตต้นเรื่องแล้วคงพอ ๆ กับที่เคยประทับใจฉาก When she loved me ใน Toy Story 2 ที่ตุ๊กตาคาวบอยสาว Jezzy ถูกเอาไปทิ้ง สรุปแล้ว ผมชอบ Ratatouille มากครับ แต่ชอบ UP มากกว่า แก้ไขเมื่อ 14 มิ.ย. 52 19:02:55 จากคุณ : ilovesassygirl - [ 14 มิ.ย. 52 18:59:12 ]

ความคิดเห็นที่ 33 "ถ้าจะคิดในแง่นั้น ผมก็ว่าหนังตั้งใจจะสอดแทรกประเด็นเหล่านี้เข้ามาเพื่อเป็นแง่คิด แต่เผอิญมันดูจงใจยังไงก็ไม่รู้นะ ทั้งเรื่องลูกกำพร้า และการมีลูกไม่ได้ ทั้งเรื่องนกที่ต้องปกป้องครอบครัว (ไม่เข้ากันเลยนะครับประเด็นนี้ ไม่รู้ใส่เข้ามาทำไม)" จาก จขกท. อยากบอกว่าร้องไห้ให้กับหนังเรื่องนี้มาตั้งแต่ ALLE ตายแล้วค่ะ สัมผัสได้ถึงความรักและความเหงาที่คุณปู่มี  พอมีเจ้าตัวเล็กมาเติมเต็มสิ่งที่ขาดหาย ได้มีโอกาสทำหน้าที่พ่อ มีโอกาสเป็นหัวหน้าครอบครัวที่มีสมาชิกมากมาย แล้วทุกครั้งที่เจ้าตัวเล็กพูดถึงพ่อมันเป็นความปรารถนาในใจที่อยากให้มีวันคืนเหล่านั้นกลับมาอีก ในฐานะที่เป็นคนครอบครัวไม่อบอุ่นขอบอกว่าเรื่องนี้มันโดนมากๆเลยค่ะ จากคุณ : ก็ฉันนั่นแหละ - [ 14 มิ.ย. 52 19:52:06 ]

ความคิดเห็นที่ 34 เพิ่งไปดู up มาค่ะ ไม่รู้สึกขัด ๆ กับรายละเอียดเลย ทั้งเรื่องปมต่าง ๆ ที่มันบังเอิญมาบรรจบกัน (อดีตของปู่ ปมครอบครัวรัสเซล และความรักของแม่ที่มีต่อลูกของเควิน) แต่รู้สึกว่า หนังเค้าทำออกมาดีอะค่ะ สนุกค่ะ ส่วน Ratatouille ไม่เคยดูสงสัยต้องหามาดูก่อน แต่หนังที่ทำให้ชอบ pixar จริง ๆ ก็คือ มินิการ์ตูน นกกับสายไฟ และก็ monster inc. จากคุณ : tueza - [ 14 มิ.ย. 52 20:02:31 ]

ความคิดเห็นที่ 35 UP มันดีที่ดราม่าครับ แต่ผมว่าเรื่องอื่นๆ มาตรฐานตกลงนะ ทั้งมุข ทั้งลูกล่อลูกชนในเรื่อง จากคุณ : Cookiefish - [ 14 มิ.ย. 52 20:03:43 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ชอบทุกเรื่องของพิกซ่า แต่เราก็ยังไม่รักมากเท่ากับ Finding Nemo ^^ หลายคนเชียร์ Up เยอะมาก เืพื่อนเราคนนึงถึงกับอวก่า ถ้าเอาUpมาเทียบกับ Finding Nemoล่ะก็ Finding Nemo มันอาหารหมูชัดๆ 5555+(มุขนี้คนดูคาบูโตะคงเข้าใจ) แต่ยังไงเราก้ชอบ Finding Nemo มากที่สุดในบรรดาหนังพิกซ่านะ บทอะไรเราก็ไม่ค่อยรู้เรื่องหรอก วิจารณ์ไม่ค่อยเป็น แค่ดูแล้วมันทำให้เราเกิดความประทับใจ แค่นั้นมันก็ทำให้เรารักแ้ล้วละ งงๆไหมที่เราบอก 55+ จากคุณ : ตั๊กจัง - [ 14 มิ.ย. 52 20:32:17 ]

ความคิดเห็นที่ 37 เห็นด้วยกับเจ้าของกระทู้บางส่วน และไม่เห็นด้วยบางส่วน ผมว่าเขามีวิวัฒนาการนะ แต่มันจะไปในทางที่เราชอบหรือเปล่า? ผมยังคงให้ Wall-E เป็นเบอร์หนึ่ง อาจจะเพราะผมว่ามันแหวกแนวกว่าเรื่องอื่นๆ บทที่ดี กราฟฟิกที่ดี แน่นอนว่าครึ่งหลังมันอาจไม่ดีเท่าครึ่งแรก เลยอาจทำให้หลายคนผิดหวัง แต่ผมว่าภาพรวมมันก็ยังดีมาก ส่วนพี่หนูพ่อครัว ก็ให้เป็นเบอร์สอง ทั้งความเนียนและเนื้อหา ดีแทบไม่มีติ แต่พูดถึงความชอบ ผมก็ยังว่ามันไม่แปลกพอ ผมชอบของแปลก ส่วน Up อย่าว่ากันเลยนะ ส่วนตัวผมเป็นคน "เส้นลึก" ผมชอบการเล่าเรื่องในช่วงต้นเหมือนกัน ทำได้ดีไม่มีที่ติ แต่ของดีก็มีไม่ดีซ่อนอยู่ มันทำให้คนเส้นลึกอย่างผมไม่อินไปด้วย มันเร็วเกินไป พอไม่อิน ทั้งในช่วงกลางเรื่องและช่วงท้ายเรื่องก็พลอยไม่อินตามไปด้วย อีกจุดที่จะไม่อินก็เพราะบทมันไม่ค่อยสมจริง ไม่ใช่ชีวิตจริง มันมีคำถามเยอะ เลยไม่อิน (รู้แหละว่ามันเป็นการ์ตูนไม่ต้องสมจริง แต่ถ้าจะให้อินมันต้องสมจริงนี่นา) อ้อ เห็นด้วยว่าธีมหนัง Up ที่มันดีอย่างนี้ น่าจะเล่นกับการผจญภัยได้มากกว่านี้ แต่นี่ พายุพัดแป๊ปเดียวถึงเลย โอ้ เซ็ง แต่ถ้าดูเรื่องที่ก่อนพี่หนูพ่อครัวไปแล้ว ผมว่าบทไม่ได้เด่นไปกว่าอีกค่ายเลย (ยกเว้น cars ไม่รู้ ไม่ได้ดู) ฉะนั้น ไม่ว่าบทหรือกราฟฟิก ผมว่าเขามีวิวัฒนาการ แน่นอนครับ และเห็นด้วยอีกอย่างกับ จขกท ว่า ผมคงจะโชคดีมากๆถ้าชอบหนังได้ทุกเรื่องที่ดู จากคุณ : จุใจ - [ 14 มิ.ย. 52 21:19:42 ]

ความคิดเห็นที่ 38 จริงๆแล้ว มาตรฐานของPixar ไม่ได้ตกลงเลยนะ ถ้าลองเทียบกับเงินที่ได้จ่ายไป คือไม่เสียดายเงินเลยสักครั้งที่เสียให้กับหนังค่ายนี้ อืม....ผมว่าที่ติๆกันนี่ เหมือนกับว่าไม่สนุกดั่งใจมากกว่าน่ะครับ อีกอย่างมันขึ้นอยู่กับว่าเรื่องไหนไปโดนต่อมของคนไหน ไม่รู้เอามาเปรียบเทียบกันทำไม เพราะเนื้อเรื่องก็คนละแบบ ประเด็นก็คนละประเด็น ทีนี้คำว่า"สนุก"มันก็แล้วแต่ว่าใครชอบมุมไหนของหนัง สิ่งที่น่าสนใจคือPixar ไม่ค่อยเดินตามรอยเท้าเดิมของตัวเอง  พยายามหาประเด็นใหม่ๆ เนื้อเรื่องใหม่ๆมาเสนอตลอด (แต่ความที่เป็นหนังHollywood เลยมักจะสอนศีลธรรมแบบเนียนๆ เข้าไปเป็นปกติ)ดังนั้นการดูให้สนุกก็คือ ต้องไม่เอาไปเปรียบเทียบกับเรื่องอื่นๆ จริงๆแล้วUp เป็นหนังรักนะครับ แต่แฝงไว้ด้วยการนำเสนอด้วยแนวผจญภัย + ความตลกโปกฮาของตัวประกอบต่างๆ  Up บอกเราว่าถึงแม้ว่าเราไม่สามารถมีครอบครัวที่สมบูรณ์ ในอุดมคติ(มีพ่อ-แม่-ลูก)ซึ่งนำมาซึ่งความสุขในรูปแบบหนึ่งได้ แต่เราสามารถเผื่อแผ่ความรักให้กับคนอื่นๆ ซึ่งนำมาซึ่งความสุขในอีกรูปแบบก็ได้ ดังนั้นความสำคัญมันอยู่ที่่ทัศนคติต่างหาก สิ่งที่น่าทึ่งสำหรับผมคือความ"แม่นยำ"ของทีมงานPixar ที่ใช้เวลาแค่ 5 นาทีของการ์ตูนปะหัว และ 10 นาทีของช่วงต้นUp ที่กระทบ"ต่อม"ของคนส่วนใหญ่ ครับ จากคุณ : -zzz- - [ 14 มิ.ย. 52 21:24:30 ]

ความคิดเห็นที่ 39 เราว่าสเกลความน่าสนุกของเรื่องของหนัง pixar ลดน้อยลงเริื่อยๆ ที่ได้ใจไปเรื่องหลังสุดก็ the incredible นอกนั้นก็รู้สึกเหมือนกันค่ะว่าได้รับคำชมมากกว่าที่ควร **ความเห็นส่วนตัว จากคุณ : monkeypim - [ 14 มิ.ย. 52 22:01:06 ]

ความคิดเห็นที่ 40 ดีนะเนี่ยที่ผมปล่อยตัวปล่อยใจไปกับหนัง ผมเข้าไปในจอ ไม่ได้นั่งอยู่นอกจอ ทำให้ผมสามารถเสพจินตนาการ ของผู้สร้างได้อย่างเต็มที่และอิ่มเอม ทุกเรื่องผมปลื้มหมด เป็นการ์ตูนที่ Live for Life จริง ๆ ปล. Wall-e กับ Up  นี่ไปดูในโรงเรื่องละ 2 รอบแหนะ จากคุณ : TORUKUNG - [ 14 มิ.ย. 52 22:08:12 ]

ความคิดเห็นที่ 41 เรากลับว่ามาเรื่องหลัง ๆ นี่ ดีขึ้นเรื่อย ๆ นะ up เพิ่งไปดูมา เราก็ว่าสนุกมาก ชอบรองจาก Wall-E เลย แต่ก็ยอมรับว่าฟังเสียงวิจารณ์จากในนี้ไปแล้วคาดหวังมากไปนิด มีหวืดจากที่คิดนิดหน่อย แต่ก็โอเค Wall-E นี่เป็นไรที่เราว่าสุดยอดที่สุดในของ Pixar ในเรื่องของบทนะ แค่จับมือยังโรแมนติดเลย แล้วที่ถูกใจสุด ๆ คือเอาแมลงสาปมาเป็นคู่หูนี่แหล่ะ เพิ่งเห็นแมลงสาปน่ารักก็เรื่องนี้ ส่วน Incredible เนี่ยไม่รู้ว่าเพราะการไปดูคาดหวังไว้เยอะหรือเปล่า ดูแล้วก็สนุกนะ แต่เรากลับรู้สึกว่า มันน่าจะสนุกกว่านี้อ่ะ รู้สึกผิดหวังนิดหน่อย ส่วน toy story เพิ่งได้มาดูหลัง ๆ นี่เอง เรากลับว่าเฉยมาก ๆ rattatuille เราก็ว่าดี แต่ทำไมรู้สึกเหมือนผ่านมาแล้วก็ผ่านไปยังไงก็ไม่รู้ จากคุณ : riamus - [ 14 มิ.ย. 52 23:42:02 ]

ความคิดเห็นที่ 42 แล้วแต่คนชอบ........... จากคุณ : LaPoupee - [ 15 มิ.ย. 52 00:44:11 ]

ความคิดเห็นที่ 43 สำหรับคนที่ดูแล้วคิดไม่เหมือนคนอื่น ไม่ต้องกลับไปดูใหม่ให้คิดเหมือนหรอกครับ แต่ละคนก็มีความชอบของตนเอง ผมชอบ แรททาทุยมากที่สุด รู้สึกว่าดูจบแล้วมันอิ่ม แต่ Up ก็ให้ได้ในระดับที่ใกล้เคียง ผมว่าบทเรื่องนี้มันไม่ได้อ่อนหรืออะไรเลยนะ กลับมีแง่คิดอยู่มากเลยด้วยซ้ำ ส่วน นีโม่ นั้นผมไม่ชอบเลย Wall-E ก็เฉยๆ จากคุณ : ORANZE - [ 15 มิ.ย. 52 03:18:24 ]

ความคิดเห็นที่ 44 ดูเอาเทพแน่ๆๆเลย บทหนังไม่ดีเนี้ย พระเจ้า อย่าง Wall-E โจทย์หนัง หนังรักแทรกด้วยแนวคิดอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ไม่เก่ง + เก๋าจริงเขียนบทอย่างนี้ไม่ได้หรอกครับ ผมไม่เห็นด้วยว่าบทหนังไม่ดี - - ผมว่าหนังค่ายนี้ลึกมากและมีอะไรแฝงอยู่เยอะมากๆๆๆนะครับ จากคุณ : taecu - [ 15 มิ.ย. 52 11:49:48 ]

ความคิดเห็นที่ 45 สร้างเองสิครับ... คนเราจะพัฒนาหรือไม่มันต้องลองทุกอย่างไปเรื่อยๆ ไม่ใช่อยู่กับที่และไม่มีอะไรในโลกสมบูรณ์แบบให้ทุกคนรักและพอใจได้หรอก... จากคุณ : ไม่แปลกใจทำไมประเทศด้อยพัฒนา.. - [ 15 มิ.ย. 52 12:42:42 A:173.69.2.24 X: TicketID:191392 ]

ความคิดเห็นที่ 46 เห็นด้วยกับความเห็นที่ 19 มากๆ ไม่แปลกใจทำไมบางประเทศยังไงก็ยังด้อยพัฒนาอยู่วันยังค่ำ... จากคุณ : คนไร้คุณภาพมันเยอะกว่าที่มี... - [ 15 มิ.ย. 52 13:18:19 A:173.69.2.24 X: TicketID:191392 ]

ความคิดเห็นที่ 47 จขกท.เค้าไม่ได้บอกว่า คนที่ดูหนังแล้วไม่วิเคราะห์ แปลว่าโง่ นะครับ แล้วเค้าก็ไม่ได้บอกว่า คนที่ดูหนังแล้วสนุกได้ทุกเรื่อง ก็แปลว่าโง่อีก นะครับ เค้าแค่บอกว่า อิจฉา แหมโชคดีจัง อยากเป็นคนคิดน้อยๆหยวนๆอย่างงั้นมั่ง และเค้าก็แค่เสนอแนวความคิดว่า ดูหนังแบบมีกึ๋น ต้องวิเคราะห์ให้ลึกซึ้ง เท่านั้นเองครับ อย่าคิดมาก คนเราก็เสนอแนวคิดกันและวิพากษ์วิจารณ์เรื่องต่างๆได้ เช่นเดียวกับที่แนวคิดที่เสนอก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์ได้เช่นกันครับ แต่อย่าให้ถึงขั้นวิจารณ์ซ้อนไปมา จนลืมคิดถึงเรื่องตั้งต้นจริงๆ คือตัวหนังเลยครับ กลับมาที่UP ผมตีกินเอาว่า ถ้าประเมินตามหลักการของ จขกท. ผมคงครึ่งๆกลางๆ เพราะผม ดูแล้วคิดตามนะครับ แต่ดันชอบซะงั้น แต่สำหรับผม มันยากที่จะเอาหนังแต่ละเรื่องของPIXARมาเทียบกัน โดยจัดประเภทโดยรวมว่า หนังPIXARคือ"การ์ตูน"ที่ควรเป็นเหมือนๆกันทั้งหมด เพราะหนังแต่ละเรื่อง เค้าก็พยามเสนอจุดเด่นที่ต่างๆกัน ซึ่งอันนี้ขออนุญาตไม่เห็นด้วยกับที่หลายท่านบอกว่า "การ์ตูน ต้องสนุกก่อน การนำเสนอมาทีหลัง"อะไรทำนองนี้ ผมกลับคิดว่า มันทำได้ร้อยแปดวิธีน่ะครับ เหมือนที่ห้องศุภฯ เค้าชอบติงการเอาศิลปะการต่อสู้แบบต่างๆมาเปรียบเทียบแบบทื่อๆ เค้าว่า มันเหมือนกับเอารถ มาเทียบกับเรือ มาเทียบกับเครื่องบิน ทั้งๆที่วิธีการและความจำเป็นของพาหนะแต่ละอย่างมันต่างกัน ซึ่งอย่างน้อยที่สุด หากจะบีบคอให้"การ์ตูน"ต้องจบด้วยรอยยิ้มร่ำไป เรื่องนี้ คนดูก็ยิ้มอย่างเต็มอิ่มในตอนจบ โดยเสียน้ำตาไปตั้งแต่10นาทีแรกแล้ว อันนี้ ทำให้UPที่ผมดู เป็นงานที่กระโดดไปนำเสนอบทในอีกแบบ คือ เอาวิธีการและไวยกรณ์ของการ์ตูน มาเล่าเรื่องดราม่า ซะงั้น ตลกมั้ย? แน่นอนว่า ดูเสร็จหลายคนก็น่าจะรู้สึกได้ว่า เรื่องนี้เค้าไม่เน้นฮานี่หว่า แต่ก็เห็นได้ชัดว่า มันก็มีมุขฮานะครับ แต่จำนวนมันน้อยหน่อยเท่านั้น ดังนั้น ถ้าแยกวิจารณ์เฉพาะเรื่องความฮา ก็ไม่เท่าอีกหลายๆเรื่องหรอกครับ วิจารณ์เฉพาะความซับซ้อนของเนื้อเรื่อง ก็คงไม่เท่าอีกหลายๆเรื่องอีกเช่นกัน แต่ถ้าดูกันเรื่องการดึงอารมณ์คนดู ผมว่าเรื่องนี้ร้ายกาจมากครับ อารมณ์ที่เราเคยเห็นในToy Story 2 ตอนซีน When she loved me มันกลับมาอีกที แต่คราวนี้พี่แกตั้งใจขยี้จนหัวใจคนดูปี้ป่นที่เดียว ซึ่งก็อาจขัดใจนักดูหนังใจเพชรที่ไม่นิยมการเสียน้ำตาในโรงหนัง สรุปเอาง่ายๆว่า ผมยกย่องUPเป็นพิเศษ ในด้านการเอาวิธีการของหนังแบบหนึ่ง มาเล่าเรื่องอีกแบบหนึ่ง ซึ่งเค้าไม่ได้ทำแบบซัดทั้งเรื่องอย่างนี้มาก่อนครับ ปล.ในทางกลับกัน ผมก็รู้สึกเห็นใจท่านที่เข้าไปดูหนังโดยที่อัดความคาดหวังไว้จนตัวพองคับที่นั่ง เพราะอย่างเก่งสุดก็เสมอตัว ผิดคาดไปนิดเดียวก็ขาดทุน โอกาสกำไรแทบไม่มีเอาซะทีเดียว แต่ทำไงได้ครับ ในโลกที่ข่าวสารและการโฆษณามันมีอยู่รอบตัว บางทีก็เลี่ยงไม่ได้ที่จะโดนสะกดจิต,หรือสะกดจิตตัวเอง, ให้คาดหวังกับหนังครับ ผมก็เคยเป็นแหละ แก้ไขเมื่อ 15 มิ.ย. 52 16:27:32 แก้ไขเมื่อ 15 มิ.ย. 52 16:23:16 จากคุณ : อาจารย์โยดา - [ 15 มิ.ย. 52 14:34:07 ]

ความคิดเห็นที่ 48 ตั้งกระทู้คราวนี้คุ้มแฮะ มีคนเข้ามาแลกเปลี่ยนเยอะเลย แต่โดนล๊อคอินโพสต์ไร้สาระไป 1 (คห.19) แล้วโดนบัตรผ่านด่าไปอีก 2 (คห.45 และ คห.46) ก็ยังถือว่าคุ้มอยู่ (อยากให้มาดูจังว่านอกจากดูหนังแล้ว วันนึงๆผมทำอะไรเพื่อประเทศนี้ไปบ้าง...แล้วจะแปลกใจว่าแต่ละวันมีชีวิตรอดมาได้ยังไง) ตอบคห.47 อันที่จริงตอนท้ายๆของซีนขยี้อารมณ์ในช่วงสิบนาทีแรกของหนัง ผมก็น้ำตารื้นๆ ขึ้นมาอยู่นา ไม่ได้ใจแข็งเป็นหินหรอกครับ ตอนดูคลิปป้าซูซานยังร้องให้ขี้มูกโป่งเลย คนเรามันก็มองต่างมุมกันได้ แหม ผมโพสต์เชียร์หนังตั้งเยอะแยะ จะโพสต์ตินิดติหน่อยก็ไม่เห็นแปลกนี่นา เห็นอย่างนี้ตามดูหนังพิกซ่าร์วันแรกรอบแรกทุกเรื่องนะครับ จากคุณ : คนไทยในต่างมุม - [ 15 มิ.ย. 52 18:40:27 ]

ความคิดเห็นที่ 49 ปีที่แล้ว ผมให้ Kung Fu Panda กับ Wall-e เท่ากันนะครับ ชอบ Kung Fu Panda ทั้งเรื่องเลย ตั้งแต่ต้นจนจบ ทำได้สนุก บทดี ลึกซึ้ง ในขณะที่ช่วงแรกของ wall-e ทำได้เทพมาก ศิลปะการเล่าเรื่องนี้สุดยอดมาก แต่พอช่วงหลังๆ เริ่มธรรมดา พอเฉลี่ยๆ แล้วก็ถือว่าสุดยอดอยู่ดี พอมาดู up ช่วงแรกที่เล่าเรื่องของปู่กับเอลลี่ มันสุดยอดมากครับ เป็นสัมผัสได้ถึงความรักอันยิ่งใหญ่ และการสูญเสียคนที่เรารัก แต่พอปู่เริ่มเอาลูกโป่งลอยขึ้น มันดูโดดไปจากช่วงแรกอย่างแรง ข้อคิดของหนังให้เยอะมาก แต่ดันง่ายจนไม่ลึกกินใจ พอหนังจบเลยไม่ได้ติดใจอะไรมากมาย แอบเสียดายพล็อตดีขนาดนี้ น่าจะทำได้ดีกว่านี้ แต่ up ก็สนุกดีนะครับ จากคุณ : คุณชาย "ไม้แขวนเสื้อ" - [ 15 มิ.ย. 52 22:19:26 ]