ความคิดเห็นที่ 1 2. องค์การอนามัยโลกประกาศระดับpandemicขั้นที่ 6 หมายความว่ามันเป็นโรคที่ร้ายแรงอันตรายถึงตายใช่ไหม ความเข้าใจผิดอย่างนึงที่ได้ยินบ่อยคือ การที่ออกมาประกาศขั้นที่ 6 คือการบอกว่าโรคนี้เป็นโรคที่รุนแรงถึงตาย อันตรายมากๆ คำว่า Pandemic คือการที่ 1. มีโรคเกิดขึ้นใหม่ในประชากร 2.เป็นโรคในมนุษย์และสามารถก่อโรคที่รุนแรงได้ และ3.เป็นโรค"ติดต่อ"ที่กระจายไปในประชากรต่อไปได้เรื่อยๆ ที่ผ่านมา ไวรัสไข้หวัดใหญ่ที่เราเจอกันคือสายพันธุ์เก่าที่ประชากรส่วนหนึ่งมีภูมิคุ้มกันอยู่แล้ว ดังนั้นมันจึงไม่"ใหม่"กับประชากร ... และเมื่อมันติดต่อไปได้สักพักแล้วไปเจอคนที่มีภูมิคุ้มกัน มันก็"ไม่กระจายต่อ" ดังนั้นมันก็ไม่ถือเป็น Pandemic ในทางทฤษฎีไข้หวัดใหญ่ที่เรากลัวกันก็คือไข้หวัดใหญ่ที่มาจากสัตว์ครับ เพราะว่าพวกนี้มีองค์ประกอบครบได้คือ 1. มันเป็นของสัตว์ จึงใหม่ต่อมนุษย์ 2. ไข้หวัดใหญ่เป็นเชื้อที่สามารถทำให้คนตายได้ ... แต่จะมากน้อยแค่ไหนเป็นอีกเรื่อง 3. และถ้ามันติดต่อจากคนสู่คนได้เมื่อไหร่ มันก็จะแพร่กระจายได้ Pandemic Alert ขององค์การอนามัยโลกเลยประกอบไปในส่วนการเฝ้าระวังทั้ง 6 ระดับนั่นคือ Phase 1 no viruses circulating among animals have been reported to cause infections in humans เจอ ไวรัสที่เป็นชนิดใหม่ๆ แต่ไม่สามารถติดมาคนได้ ... อย่างกรณีไข้หวัดนกที่ผ่านมา มีการระวังและเสนอการทำลายนก+ไก่ตั้งแต่ยังไม่มีการติดต่อมาสู่คน Phase 2 an animal influenza virus circulating among domesticated or wild animals is known to have caused infection in humans พบ คนที่ติดเชื้อจากสัตว์ ... การที่เชื้อมันข้ามมาคนได้ แปลว่ามันมีความสามารถในการก่อโรคในคน ดังนั้นมันมีความ"เสี่ยง"ที่จะกระจายจากคนสู่คน Phase 3, an animal or human-animal influenza reassortant virus has caused sporadic cases or small clusters of disease in people, but has not resulted in human-to-human transmission sufficient to sustain community-level outbreaks. เกิดการติดต่อในกลุ่มประชากรเล็กๆ ... ไม่ว่าจะเป็นการติดต่อจากสัตว์มาคนเดี่ยวๆ หรือจากคนสู่คนที่สามารถคุมให้อยู่ในวงจำกัดได้ ... ระดับนี้คือระดับที่จะต้องระวัง เพราะขั้นนี้แปลว่าเชื้อนี้มีความสามารถในการแพร่กระจายได้หากไม่ควบคุมให้ ดี Phase 4 is characterized by verified human-to-human transmission of an animal or human-animal influenza reassortant virus able to cause  community-level outbreaks. เกิด การแพร่กระจายในระดับชุมชน ... เช่นเจอว่าเป็นกันทั้งหมู่บ้าน หรือมีการระบาดในเมือง หรือแม้แต่การระบาดในประเทศหนึ่ง ... ถ้าจะปรับเป็นภาษาไทยก็อาจจะแปลว่าโรคระบาด หรือเท่าๆกับคำว่า Epidemic ในภาษาอังกฤษ Phase 5 is characterized by human-to-human spread of the virus into at least two countries in one WHO region เกิด การระบาดข้ามประเทศ แต่เป็นประเทศในเขตWHOเดียวกัน .... โดยถือกันว่าพรมแดนประเทศ คือส่วนที่มีการควบคุมการข้ามผ่านที่เข้มงวดมากกว่าภายในประเทศ ... ดังนั้นถ้ามันข้ามพรมแดนได้ก็มีความเสี่ยงที่ประเทศนั้นจะติดเชื้อโรคนี้ ทั้งประเทศได้ Phase 6, the pandemic phase, is characterized by community level outbreaks in at least one other country in a different WHO region WHO region ถูกแบ่งได้คร่าวๆด้วยพรมแดนตามธรรมชาติ ... ดังนั้นหากมีประเทศที่อยู่กันคนละเขต(คนละทวีป) ติดต่อเชื้อนี้ได้ ก็มีความเสี่ยงที่มันจะกระจายในทวีปนั้นๆ และถ้ามันข้ามไปได้ 1 เขต ก็มีความเสี่ยงที่มันจะกระจายไปเขตอื่นที่ไม่ติดได้ นั่นแปลว่ามันมีความเสี่ยงที่จะติดต่อกระจายไปทั่วโลก จะเห็นว่าทั้งหมดไม่ได้พูดถึงเรื่องความรุนแรงของโรคเลยนะครับ ... บอกแต่เรื่องการกระจาย http://www.who.int/csr/disease/swineflu/frequently_asked_questions/levels_pandemic_alert/en/index.html linkที่เกี่ยวข้องครับ ... WHO บอกไว้ชัดแยกเรื่อง Pandemic Phase จาก Severity จากคุณ : หมอแมว - [ 15 มิ.ย. 52 21:50:24 ]

ความคิดเห็นที่ 2 3. ไหนหนังสือพิมพ์ออกข่าวปาวๆว่าหวัดมรณะ ... ถ้าบอกว่าของWHOไม่ได้บอกความรุนแรง แล้วอันไหนล่ะที่บอก ใน ขณะที่ของ WHO บอกความเสี่ยงเรื่องการแพร่กระจาย ... ทางCDCหรือหน่วยควบคุมโรคของอเมริกา ก็มีเกณฑ์ความรุนแรงครับ โดยใช้ค่า CFR  Case fatality ratio  หรือค่าที่บอกว่า หากมีคนไข้ที่ได้รับรายงานจำนวนเท่านี้ จะมีคนตายกี่เปอร์เซนต์ ไข้หวัดใหญ่ทั่วๆไปอยู่ในระดับ 1 คือ หากรายงานว่าเป็นไปสัก 1000 คน จะมีคนตายน้อยกว่า 1 คน (น้อยกว่า0.1%) ไข้หวัดสเปนอยู่ในระดับ 5 คือหากรายงานว่าเป็น 1000คน จะมีคนตาย มากกว่า20 คน  (มากกว่า2%) จริงๆคำว่า CFR ก็คล้ายๆกับอัตราตายครับ แต่อาจจะไม่ตรงกันสักทีเดียว ... ถ้าลองคิดคำนวณคร่าวๆจากข้อมูลจาก WHO http://www.who.int/csr/don/2009_06_12/en/index.html มีคนติดเชื้อตัวนี้ 29669 คน ซึ่งตายไป 145 คน จะอยู่ที่ 0.48 % .... จัดอยู่ในความรุนแรงระดับ 2 ซึ่งมีคนเสนอว่าเม็กซิโกตายเยอะผิดปกติ ดังนั้นหากตัดค่าที่รายงานจากเมกซิโกไป มีคนติดเชื้อตัวนี้ 23428 คน ซึ่งตายไป 37 คน จะอยู่ที่ 0.15 % .... ก็จัดอยู่ในความรุนแรงระดับที่ 2 อยู่ดี ก็ต้องไปดูที่มาของค่าตัวเลขครับ Influenza  หรือไข้หวัดใหญ่ โดยเฉพาะในอเมริกา ... จะมีการทำ Throat Swab ตรวจกันบ่อยๆ ... ใครไข้สูงครั่นเนื้อตัวเยอะๆหมอก็จับส่งตรวจ บางคนอาการไม่หนักมากก็ส่ง แต่เจ้าไข้หวัด 2009 ในตอนนี้ยังเป็นระหว่างการระบาด การที่จะส่งมักจะทำในคนที่สงสัย โดยเฉพาะคนที่มีอาการหนัก ... ส่วนคนที่มีอาการน้อยจะไม่ได้ส่งเพราะว่าสิ้นเปลืองทรัพยากรในช่วงระบาด ... ดังนั้นตัวเลขคนที่เป็นไข้หวัด2009จริงๆน่าจะมากกว่านี้ครับ และหากตรวจทั้งหมด ผลที่ออกมานั้นคนที่ตายก็น่าจะมีสัดส่วนที่น้อยลงไปอีก จากคุณ : หมอแมว - [ 15 มิ.ย. 52 21:52:17 ]

ความคิดเห็นที่ 3 4. ตกลงวางใจได้ชิมิ ไม่ได้ครับ ที่จริงเรามีโรคที่อาจจะถือว่าเป็น Pandemic หรือแพร่กระจายทั่วโลกหลายโรคทีเดียว ยกตัวอย่างเช่น มาลาเรีย เอดส์ กับ วัณโรค แต่ว่าโรคเหล่านี้ถือว่าน่ากลัวน้อยกว่าไข้หวัดใหญ่เพราะสามสาเหตุคือ 1. ลักษณะการติดต่อ  2. ระยะเวลาที่ก่อโรค และ 3. การกลายพันธุ์ มาลาเรียกับเอดส์ ไม่ได้ติดต่อทางอากาศหายใจ ... แต่ไข้หวัดใหญ่ติดต่อทางอากาศได้ วัณโรคและเอดส์ดำเนินโรคช้า ... แต่ไข้หวัดใหญ่ได้รับเชื้อแล้วสองสามวันก็ออกอาการ ที่สำคัญ วัณโรคและเอดส์ส่วนใหญ่เวลากลายพันธุ์จะกลายพันธุ์แบบชิวๆ คือแค่ดื้อยา ไม่ทำให้คนตายมากขึ้น ... แต่ไข้หวัดใหญ่เวลากลายพันธุ์จะเปลี่ยนจากความน่ากลัวแบบชิสุไปเป็นน่ากลัวแบบโดเบอร์แมน! โรคจะน่ากลัวเมื่อมีการระบาดครับ  เพราะการระบาดนั่นหมายความว่าจะเกิดโรคขึ้นพร้อมๆกัน เกิดคนป่วยจำนวนมากขึ้นพร้อมกัน ในแง่จิตใจก็ทำให้เกิดความขัดแย้งและไม่มั่นใจในสังคมได้มาก จำนวนผู้ป่วยที่มีมากและมีการออกข่าวในทำนองว่าระบบสาธารณสุขไม่สามารถรองรับได้เต็มที่ จะเกิดการแก่งแย่งกันเพื่อให้ตนเองได้สิ่งที่ตนเองคิดว่าดีที่สุด / รวมทั้งเกิดความขัดแย้งกดดันกับเจ้าหน้าที่ได้ รวมไปถึงขวัญกำลังใจของเจ้าหน้าที่รัฐที่ทำหน้าที่ในระบบต่างๆของรัฐ ที่หากมีสมาชิกในครอบครัวป่วยก็ย่อมจะต้องสนใจสมาชิกในครอบครัวก่อนงาน ทำให้ระบบของประเทศเกิดการสั่นคลอนได้ ไข้หวัดใหญ่2009ในตอนนี้ปัจจุบันอยู่ในระดับที่ก่อการระบาดได้แต่ยังไม่มีความรุนแรงนัก ปัญหาคือเนื่องจากมันเป็นสายพันธุ์ใหม่ คนส่วนใหญ่เลยติดเชื้อนี้ได้ง่าย (จาก http://www.who.int/csr/disease/swineflu/assess/disease_swineflu_assess_20090511/en/index.html ........ 2009 มีโอกาสติดต่อได้ประมาณ 22-33% ในขณะที่เชื้อเดิมอยู่ที่ 5-15%) และความสามารถของไวรัสไข้หวัดใหญ่คือการปรับเปลี่ยนพันธุกรรม ทำให้มันกลายเป็นตัวใหม่ที่รุนแรงกว่าเดิม การปรับเปลี่ยนพันธุกรรมจะเกิดได้ ต้องมีโอกาสมากพอ ... หรือแปลง่ายๆคือ ถ้ามันแพร่กระจายไปมากๆ มีคนติดเชื้อมากๆมันก็จะมีโอกาสมากขึ้นที่จะเปลี่ยนไปเป็นพันธุ์ที่ร้ายแรงได้ง่ายขึ้น ดังนั้นตอนนี้ถ้ามันระบาดมากๆ ก็เสี่ยงครับ หากมันเปลี่ยนความรุนแรงขึ้น (ซึ่งเจอได้เสมอในเชื้อกลุ่มไวรัสไข้หวัดใหญ่) มันจะเปลี่ยนจากไข้หวัด 2009 ตัวหมูๆนี้ กลายเป็นหมูป่าcombo shot supernovaขึ้นมาทันที จากคุณ : หมอแมว - [ 15 มิ.ย. 52 21:55:11 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ขอบคุณคุณหมอเป็นอย่างสูงที่นำเรื่องราวที่เป็นประโยชน์มาบอกให้ทราบกันทั่วๆไปครับ จากคุณ : มิตรต่างแดน - [ 15 มิ.ย. 52 21:56:24 A:91.65.4.123 X: TicketID:173614 ]

ความคิดเห็นที่ 5 เมื่อวานได้ไปอ่านในหว้ากอแล้ว แต่อ่านไม่จบ แฮ่ๆ ขอบคุณ คุณหมอแมวจ้าที่อุส่ามาแปะให้ได้รู้กันทั่วถึง จากคุณ : ร่างทรงเฮี้ยน - [ 15 มิ.ย. 52 21:58:38 ]

ความคิดเห็นที่ 6 มาที่เรื่องในประเทศของเราบ้างครับ เอาแบบสถานการณ์จริง แบบไม่ใช้แสตนทฺ์อิน ไม่เอาสตันท์ ช่วงนี้ผมดูข่าวจากทีวีและัหนังสือพิมพ์แล้วขัดใจมากครับ สิ่งที่ข่าวบอก กับสิ่งที่การสาธารณสุขทำ มันไปคนละทางกัน .... และตามความเห็นผม มันกำลังจะทำให้กระบวนการของโรคระบาดเข้าขั้นคือเกิดความล้าในระบบให้บริการ ทางสาธารณสุข ประโยคนึงที่ผมคิดว่าผิดอย่างมากคือการบอกว่า ' ไม่ต้องตื่นตระหนกกับโรคนี้มากนัก โรคนี้ถ้าไปพบหมอแต่เนิ่นๆสามารถตรวจว่าเป็นหรือไม่และหากไปเร็วทันเวลาก็รักษาหายได้ ' ผมนั่งดูข่าวมาสามครั้งในรอบสัปดาห์นี้ ... บอกแบบนี้ทั้งนั้น และจากคนไข้ที่มาหาเมื่อวานนี้ หลายคนทีเดียว มาเพราะฟังข่าวและได้ยินประโยคนี้ ... คนที่ฟังเค้าเข้าใจว่า 1. โรคนี้หากไปทันเวลาตั้งแต่ระยะแรกรักษาหายได้ (แปลว่าถ้าไปช้าอาจจะรักษาไม่หาย) 2. โรคนี้หมอสามารถตรวจได้ว่าเป็นหรือไม่เป็นถ้าไปแต่เนิ่นๆ (แปลว่าถ้าไปช้า ตรวจไม่เจอ รักษาไม่ถูก ตาย!) 3. ดังนั้นถ้าทำตามสองข้อบนได้ก็ไม่ต้องตระหนก (แปลว่าถ้าตรูไปหาหมอไม่ได้ก็ตายแหงมๆชิมิ โอ้ว) ... อาจจะฟังดูงี่เง่านะครับ แต่ตอนผมฟังข่าวผมรู้สึกอย่างนั้นจริงๆ และคนไข้ที่มาตรวจกับผมหลายคนก็รู้สึกอย่างนั้น และปัญหามันก็เกิดขึ้นเพราะคนที่บอกให้รีบไปตรวจ ดันไม่บอกว่าต้องมีอาการอย่างไรจึงควรไปตรวจ ดันไม่ยอมศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนว่าไปแล้วที่โรงพยาบาลจะตรวจอย่างไรรักษาอย่างไร หรือนักข่าวไปถามหมอ แทนที่จะถามว่า "ควรปฎิบัติตัวอย่างไร" ดันไปถามว่า "โรคนี้อาการอย่างไร" .... (คำถามสิ้นคิด-_-') สุดท้ายก็ไปป้อนข้อมูลที่ก่อความตื่นตระหนกฝังใจว่า "ถ้าไปทันเวลาก็มีโอกาสหาย" เมื่อไปถึงโรงพยาบาลแล้วปรากฎว่าหมอดูแล้วว่าไม่เข้าเกณฑ์ ... คนไข้ก็เกิดความไม่พอใจเพราะมั่นใจมาเต็มที่ว่าตนเองเป็นชัวร์ๆแต่หมอไม่ ตรวจ http://breakingnews.nationchannel.com/read.php?newsid=386991&lang=T&cat= ตัวอย่างข่าวนี้ขนาดคนเป็นหมอเป็นถึงประธานคณะกรรมาธิการสาธารณสุขยังมีความเข้าใจและทัศนคติแบบนี้เลย ดังนั้นถ้าข่าวออกไปไม่ชัดเจน คนทั่วไปจะเข้าใจผิดขนาดไหน จากคุณ : หมอแมว - [ 15 มิ.ย. 52 22:01:20 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ขอบคุณสำหรับความรู้ค่ะ จากคุณ : i am kai - [ 15 มิ.ย. 52 22:03:31 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ก่อนที่จะไปคุยเรื่องการระบาด ก็ต้องมาดูเรื่องความรุนแรงของโรคครับ ถ้าใครลองไปอ่านของWHO จะพบว่าตอนนี้เค้าประมาณการณ์ว่าครั้งนี้อย่างต่ำๆก็อยู่ในระดับความรุนแรงแบบ Moderate Moderate คือ 1. คนส่วนใหญ่ที่ติดเชื้อนี้หายเองได้ โดยไม่ต้องการการพักรักษาตัวในโรงพยาบาลหรือการรับการบริการทางสาธารณสุข 2. ระดับความเจ็บป่วยแบบรุนแรงอยู่ในระดับเดียวกับไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล(แม้ว่าบางที่อาจจะมากหน่อย) 3. ระบบการรักษาพยาบาลยังรองรับได้ แม้ว่าจะแน่นไปสักหน่อย http://www.who.int/csr/disease/swineflu/frequently_asked_questions/levels_pandemic_alert/en/index.html รวมไปถึงหลายส่วนที่บอกไว้ว่าส่วนใหญ่หายเอง ครับ สิ่งที่ผมจะบอกคือไข้หวัดใหญ่และไวรัสหลายชนิดมันมีระดับความรุนแรงของโรคต่างๆกัน คนที่นอนโรงพยาบาลแบบปางตาย อาจจะมีสัก 3 คน คนที่นอนโรงพยาบาลแบบมีไข้ให้น้ำเกลือสองสามวัน อาจจะัมีสัก 30 คน คนที่มารพ.ด้วยไข้สูง ตรวจเจอเชื้อ จากนั้นกลับไปกินยาparaกับยาแก้ไอ อาจจะมีสัก 300 คน คนที่ติดแล้วมีอาการไอ เจ็บคอนิดหน่อย เมื่อยตัวนิดนึง นอนพักคืนเดียวก็หาย อาจจะมีสัก30000คน ไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าเป็น! สิ่ง ที่ควรจะเป็นคือเราอยากให้คนที่มีไข้หรือไข้สูงมาตรวจ เพราะไม่แน่ว่าอาจจะกลายไปเป็นปอดบวม ... ซึ่งหากอาการทำท่าดูไม่ดีเราก็จะได้ให้ยาไปก่อน .... กลุ่มนี้ถ้ามาตรวจอาจจะมีสัก 333 คน แต่สิ่งที่เกิดขึ้นจากการนำเสนอข่าวอย่างไม่ระวังของหนังสือพิมพ์และข่าวทีวีตอนก่อนหน้านี้คือ 333 คนที่เป็นพอประมาณถึงหนักมารพ. 30000 คนที่เป็นก็มารพ. อีก 3 แสนคนที่ไม่ได้เป็นหวัด แต่เป็นภูมิแพ้ก็มารพ. อีก 1 แสนคนเดินผ่านหน้าโรงเรียน เลยมาขอตรวจบ้าง กลายเป็นว่า คนที่เป็นจริงๆมาที่รพ. ... จากนั้นมีคนที่ไม่เป็นมารับเชื้อถึงที่ กลายเป็นว่า คนที่เป็นแบบเบาๆที่ไม่จำเป็ฯต้องมารพ. ก็มารพ.เพื่อมาปล่อยเชื้อที่โรงพยาบาล สุดท้ายหมอต้องมานั่งอธิบายคนที่เป็นแค่ภูมิแพ้ว่าไม่ต้องไปตรวจก็ได้ ... แล้วก็ต้องทิ้งให้คนไข้ที่ป่วยจริงนอนรอตรวจต่อไป ... เดี๋ยวปิดท้ายด้วยว่า แล้วจะไปรพ.ตอนไหนดีครับ .... จากคุณ : หมอแมว - [ 15 มิ.ย. 52 22:03:51 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ดีมากๆ อันนี้ก็พอจะช่วยท่านได้นะ http://cpe17.com/yabb/Attachment/cpe17antiautorun1405.exe จากคุณ : โควี - [ 15 มิ.ย. 52 22:08:03 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ขอบคุณครับคุณหมอ ทำให้ผมเข้าใจมากขี้นมากๆ จากคุณ : HUMAN for SALE - [ 15 มิ.ย. 52 22:08:09 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ขอบคุณครับ กระจ่างเลย ผมเด็กขาสั้นสีน้ำตาล รองเท้าน้ำตาล ครับ = เด็กวัด อิอิ จากคุณ : sidnett - [ 15 มิ.ย. 52 22:08:40 ]

ความคิดเห็นที่ 12 มาถึงจุดที่สำคัญที่สุดที่อยากจะให้ทุกคนทราบครับ สำหรับตอนนี้มีเกณฑ์ในการตรวจซึ่งหลักใหญ่ๆน่าจะเหมือนกันทั่วประเทศครับ 1. มีไข้ 38 ํC ขึ้นไปร่วมกับ 2. อาการอย่างใดอย่างหนึ่งได้แก่ ปวดกล้ามเนื้อ, ไอ, หายใจผิด ปกติ (หอบ, ลำบาก), หรือแพทย์วินิจฉัยว่าเป็นปอดบวม ร่วมกับ 3. อาศัยอยู่หรือเดินทางมาจากพื้นที่ที่พบผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ในระยะ 7 วันก่อนวันเริ่มป่วย 4. มีผู้สัมผัสร่วมบ้านหรือในที่ทำงานป่วยสงสัยไข้หวัดใหญ่หรือปอดอักเสบ ภายใน 1 สัปดาห์ก่อนวันเริ่มป่วย ... ตอนนี้เข้าใจว่าตัดข้อ 3 ไปแล้วครับ เพราะว่าตอนนี้มันเข้าประเทศไทยเรียบร้อย ดังนั้นอาจจะถือไปก่อนว่าน่าจะเสี่ยงข้อนี้ไปเลย หากมีเกณฑ์ครบดังนี้ แพทย์จึงจะพิจารณาตรวจ Throat Swab เำพื่อดูว่าเป็นเชื้อนี้หรือไม่ หลังจากนั้นพิจารณาอาการและความเสี่ยงว่าจำเป็นต้องได้รับยาต้านเชื้อไวรัสหรือไม่ (ถึงเป็น 2009 แต่ถ้าอาการเบาๆ ก็ไม่ให้ยาต้านเชื้อไวรัส) เมื่อนำเอาเกณฑ์เหล่านี้มามองใหม่ ผลที่ได้ก็คือ - การรักษาหรือพิจารณาให้ยาTamiflu ขึ้นกับอาการ ... ต่อให้เป็นเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ธรรมดา แต่มีอาการของปอดบวม ก็จ่ายยาต้านไวรัสและจับนอนโรงพยาบาล - ถ้าไปรพ.แล้ววัดไข้ได้ 38 ํC มีอาการของหวัดหรือสงสัย และมีอาการปอดบวมหรือหลอดลมอักเสบ ก็จะทำ Throat swab และพิจารณาให้ยาตามสมควร - ถ้าไปรพ.แล้ววัดไข้ได้ 38 ํC มีอาการของหวัด แต่เป็นแค่คอกับจมูก ไม่มีอาการของปอด ก็มักจะไม่ทำ Throat swab และไม่ต้องให้ยาต้านไวรัส (แต่วันนี้อาจารย์บางท่านบอกว่าก็ทำได้เหมือนกัน) - ถ้าไม่มีไข้ .... ไม่ให้ยาและไม่ทำ Throat swab Throat swab คือการตรวจด้วยไม้พันสำลีป้ายที่คอแล้วเอาไปตรวจว่าเป็นไข้หวัดใหญ่หรือไม่ครับ แต่ก่อนใช้เวลาวันนึงรู้ผล แต่ตอนนี้มีการตรวจมาก อาจจะสามสี่วันขึ้นไป ยกตัวอย่าง - ถ้ามีไข้ต่ำๆตัวรุมๆ เดินไปเดินมาได้สบายดี ... ก็จะได้ยาลดไข้ลดน้ำมูกแก้ไอกลับไปกินที่บ้าน - ถ้าไม่มีไข้ แต่ไปกินข้าวกับคนที่มีเพื่อนเป็นเด็กเซนต์คาเบรียล หมอก็ไม่ตรวจ - ถ้าไม่มีไข้เลย แต่ไปกินข้าวกับคนที่เป็นเพื่อนกับคนที่ไปเดินผ่านที่หน้าโรงเรียนเซนต์คาเบรียล ... อันนี้ก็ไม่ตรวจ - เป็นภูมิแพ้ กินยาแก้ภูมิแพ้มาปีกว่า ... ตอนนี้ไม่มีไข้แต่มีน้ำมูลไหลเหมือนทุกวัน วันนี้อยากตรวจหวัด2009 ... อันนี้ก็ไม่ตรวจ - ไข้สูง38.9 ไอมาก แต่ไม่ได้ไปเจอเด็กนักเรียนที่ไหนเลย ... อันนี้ไม่อยากตรวจก็ต้องตรวจ เน้นย้ำนะครับ เรื่องไข้ตัวร้อน ... ถ้าคุณไม่มีไข้เลยแม้แต่น้อยและเดินไปเดินมาได้สบายดี ก็ไม่ต้องไปรพ.หรอกครับ คนป่วยหนักๆหลายคนเค้าไม่ยอมใส่หน้ากากอนามัยเพราะว่าเหนื่อย เค้าไอโขลกๆอยู่ ... อยู่บ้านดีๆไม่เจอเชื้อ ดันตามมารับเชื้อที่โรงพยาบาลเชียว ... ปกติหมออยู่เวรก็ยุ่งกันมากอยู่แล้ว ... ลำพังปกติก็ตรวจกันไม่ทัน พอ มีคนไข้ที่ให้ประวัติว่าจะเ็ป็น พยาบาลก็ให้ไปรอที่ตึกที่ห่างออกไปอีก400-500เมตร หมอก็ต้องเดินไปซักประวัติ เพื่อจะรู้ว่าจริงๆเป็นแค่ภูมิแพ้ ... แล้วต้องมานั่งตอบคำถามว่าทำไมหมอพูดไม่ตรงกับนักข่าวในทีวี เสร็จแล้วเดินกลับมาอีก400-500เมตร เพื่อจะมาฟังพยาบาลบอกอีกว่า "หมอ ส่งอีกคนไปที่ตึกแล้ว หมอเดินไปตรวจหน่อยนะ" เมื่อวานซืนคุยกับหมอแผนกเด็กคนหนึ่ง ... เค้าบอกว่าเค้าต้องเดินวนไปวนมาเพื่อตรวจคนที่ถูกคัดกรองมาประมาณ 10-20 คน ... ส่วนใหญ่เป็นคนที่ไม่มีไข้ -_-' และหมอคนนี้ต้องอยู่เวร 24 ชั่วโมง ... คิดว่าเมื่อวานนี้เค้าคงต้องเดินราวๆ 7-8 กิโลเมตร วนไปวนมาในโรงพยาบาล -_-' ดังถ้าไม่มีไข้ อยู่บ้านเถอะครับ -_-' หรือถ้าคุณไม่แน่ใจว่าควรไปหรือไม่ คำแนะนำที่นำไปใช้ได้จริงคือ ... ให้ลองลืมๆไปว่าตอนนี้มีไข้หวัดใหญ่ 2009 ครับ...ดูอาการตนเองเป็นหลัก ถ้าอาการน้อย แบบที่แต่ก่อนพอเป็นประมาณนี้แล้วก็กินยานอนอยู่บ้าน ... ก็ไม่ต้องไป ถ้าอาการเยอะ แบบที่แต่ก่อนพอเป็ฯประมาณนี้ก็จะไปหาหมอ ... ก็ไป reference 1. http://en.wikipedia.org/wiki/Influenza 2. http://en.wikipedia.org/wiki/H1N1 3. http://en.wikipedia.org/wiki/Flu_pandemic 4. http://en.wikipedia.org/wiki/Pandemic_Severity_Index 5. http://www.who.int --> เข้าไปดูเรื่อง Pandemic / influenzaH1N1 ขอให้โชคดีครับ แก้ไขเมื่อ 18 มิ.ย. 52 15:45:13 จากคุณ : จบแล้วครับ (หมอแมว) - [ 15 มิ.ย. 52 22:10:07 ]

ความคิดเห็นที่ 13 "ต่างกันที่ว่าเจ้าไข้หวัดสเปน เป็นเด็กนักเรียนที่พกปืนในกระเป๋า ส่วน2009มันแค่พกสนับมือเท่านั้น" เบากว่า แต่เดี๋ยวก็กลายเป็นโรคประจำถิ่นไป จากคุณ : โควี - [ 15 มิ.ย. 52 22:13:07 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ขอบคุณครับ จากคุณ : กล้วยตานี - [ 15 มิ.ย. 52 22:18:59 ]

ความคิดเห็นที่ 15 คุณหมอขา วันนี้หนูกลับจากไปเรียนที่มหาลัย (อยู่ในกทม.) ต้องอาศัยรถเมล์ รถตู้ สิ่งโดยสารต่างๆที่ต้องพบเจอผู้คนเยอะแยะ โดยส่วนตัวเป็นโรคภูมิแพ้และเป็นหวัดประจำอยู่แล้ว สงสัยมากเลยค่ะว่า คนเป็นโรคภูมิแพ้+เป็นหวัดบ่อยแบบหนูมีโอกาสติดเชื้อไข้หวัด2009ได้ง่ายกว่าคนที่ไม่เป็นโรคภมูแพ้หรือป่าวคะ หรือโอกาสเสี่ยงมันก็เท่ากัน แก้ไขเมื่อ 15 มิ.ย. 52 22:21:02 จากคุณ : คุณหนูแพรวพรรณราย - [ 15 มิ.ย. 52 22:19:41 ]

ความคิดเห็นที่ 16 อ่า ขอบคุณค่ะ กำลังกลัวๆอยู่เชียว เพราะ แถวๆเรามีคนเป็นแล้ว คนนึง จากคุณ : nana_toon - [ 15 มิ.ย. 52 22:23:27 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ขอบคุณครับ ที่มาให้ความรู้ จากคุณ : KTclassic - [ 15 มิ.ย. 52 22:25:45 ]

ความคิดเห็นที่ 18 มีประโยชน์อย่างยิ่งเลยค่ะ อธิบายได้เห็นภาพชัดแจ๋ว แจ่มแจ้ง... ขอบคุณนะคะ ขอโวตให้ค่ะ จากคุณ : แม่หนูบิวด์ (สิริสรา) - [ 15 มิ.ย. 52 22:27:42 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ขอบคุณมากมากค่ะ จากคุณ : ฮารุโนะฮานะ - [ 15 มิ.ย. 52 22:30:02 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ขอบคุณ คุณหมอแมวมากๆ ค่ะ ทำให้เข้าใจเกี๋ยวกับโรคมากขึ้น จากคุณ : JAYYA001 - [ 15 มิ.ย. 52 22:33:57 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ขอบคุณมากคะ อยู่เชียงใหม่ เห็นข่าวว่ากำลังระบาดเลยเชียว ได้อ่านที่คุณหมอเขียยนบอกได้สบายใจขึ้นมากเลยคะ ก่อนหน้านี้แอบกลัว ไม่อยากออกบ้านไปไหนเลย ไปซุปเปอร์มาร์เก็ตก็กลัว จะไปดูหนังก็กลัว ตอนนี้สบายใจขึ้นแล้ว พรุ่งนี้ลุยเลยดีกว่า จากคุณ : KINGKONG's Mom - [ 15 มิ.ย. 52 22:35:16 ]

ความคิดเห็นที่ 22 Approximately what the percentage of the patients who have swine flu but has no fever just cough and don't even have a sore throat? Is it true that once we get the swine flu, we will not get it again? Is it better to get the swine flu now and develop immunity to it before the virus mutates to something more deadly? (Coz I heard that those who survived the spanish flu in 1918 are those who had the flu earlier before it got to be the deadly virus.) จากคุณ : rumiana - [ 15 มิ.ย. 52 22:41:41 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ขอบคุณค่ะ.. ตอนนี้ ที่บ้าน ติดต่อกันเรียบร้อยแล้วค่ะ 3 คน.. ไม่มีใครน้อยหน้า ครบถ้วน อย่างต่อเนื่อง ตามลำดับ เฮ้อ.. จากคุณ : ลำเนา - [ 15 มิ.ย. 52 22:41:41 ]

ความคิดเห็นที่ 24 กรี๊ดดด อีอย่างนี้แหละ .....นักข่าวสิ้นคิดตามเว็บบอร์ดควรจะก๊อบปีี หรือส่งเป็นฟอร์เวิร์ดเมล์เยอะๆ ไม่ใช่ขยันทำแต่ก๊อปปี้อะไรไร้สาระ...ไม่สร้างสรรค์สังคม ฮุ้ว...อ่านง่าย ทำให้รู้สึกปลอดภัย และ ระมัดระวังมากขึ้นในที ...สุดยอดค่ะ จากคุณ : ชีนะ - [ 15 มิ.ย. 52 22:47:01 ]

ความคิดเห็นที่ 25 What about the infant who cannot get the Oseltamivir?  How does the doctor take care of those infants?   Is it true that people who is healthier and has better immunity could get worse symptom from this flu than those who has lower immunity because the defense mechanism that reacts to the virus making those who is stronger sicker than those who has weaker immunity. จากคุณ : rumiana - [ 15 มิ.ย. 52 22:50:47 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ดีใจนะคะที่มีบุคลากรทางการแพทย์เข้ามาให้ข้อมูลที่ถูกต้องและสื่อสารด้วยคำอธิบายให้เข้าใจได้ง่ายๆ ขอแชร์ประสบการณ์ที่ได้สอบสวนโรคไข้หวัดใหญ่ 2009 ในกลุ่มคนไทยมานะคะ ผู้ที่ติดโรคจาก case ผู้ป่วยที่เดินทางมาจากต่างประเทศ ส่วนใหญ่จะเป็นผู้สัมผัสโรค (Contact case) ที่ใกล้ชิดกับผู้ป่วยมาก เช่น สมาชิกในครอบครัว เพื่อนร่วมห้องพัก (นศ.) หรือเพื่อนที่มีกิจกรรมกันใกล้ชิดบ่อยครั้ง โดยเฉพาะการร่วมรับประทานอาหารที่ใช้อุปกรณ์ต่างๆร่วมกัน เช่น แก้วน้ำ หลอดดูดน้ำ ช้อน ฯลฯ ดังนั้น เราป้องกันโรคได้ง่ายมาก ถึงแม้โอกาสติดโรคไข้หวัดใหญ่ 2009 จากคนที่เป็นแล้ว (secondary attack rate) พบ 22-33 % (ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์เดิม พบ 5-15 %) แต่ถ้าทุกคนร่วมกันสร้างสุขอนามัยส่วนบุคคลอย่างเคร่งคัด ปรับปรุงอนามัยสิ่งแวดล้อมของที่พักอาศัย สถานศึกษา ที่ทำงาน สถานที่สาธารณะที่ใช้ร่วมกัน ปัญหาการติดเชื้อที่ทำให้เกิดการระบาดเป็นวงกว้าง ก็จะค่อยๆลดลงค่ะ "ขอบคุณ ศัตรูที่แกร่งกล้า   ที่ทำให้รู้ว่าเรายังไม่ใช่มืออาชีพ ขอบคุณ ความป่วยไข้ ที่ทำให้เราตั้งใจดูแลสุขภาพ" ว.วชิรเมธี แก้ไขเมื่อ 15 มิ.ย. 52 22:58:06 จากคุณ : Health - [ 15 มิ.ย. 52 22:56:20 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ตอบความเห็นที่ 22 25 นะครับ ตอนนี้ยังไม่มีการยืนยันว่าการติดก่อนดีหรือไม่ดีครับ ... ยังไม่มีใครรู้ว่าติดแล้วจะกันการระบาดครั้งต่อไปได้จริงหรือไม่ แต่ธรรมชาติของไข้หวัดใหญ่ ต่อให้เราติดไปแล้ว แต่ถ้ามันไปกลายพันธุ์(ปกติมันกลายพันธุ์ทุกปีอยู่แล้ว) ปีหน้าเราก็เป็นอีก แต่มักจะเบากว่าเดิม ดังนั้นยึดทางสายกลางครับ ดูแลตัวเองเต็มที่ต่อไปดีกว่า ... แต่ถ้าติดก็ไม่เป็นไร ส่วนtamiflu ในเด็ก ผมว่าเขาก็ใช้กันได้นี่ครับ (เห็นมีแบบ suspensionด้วย) แต่ก็ไม่ทราบจริงๆ เพราะว่าไม่ได้แตะด้านเด็กนานพอสมควรแล้ว ส่วนเรื่องคนที่แข็งแรงกว่าจะป่วยกว่า อันนี้ก็ยังไม่แน่ครับ ... ยังไม่มีการยืนยันเหมือนกัน แต่ที่แน่ๆคนที่อ่อนแอก็เสี่ยงเหมือนกัน และจนถึงตอนนี้คนที่ตายจำนวนไม่น้อยก็คือกลุ่มที่ไม่แข็งแรงอยู่ดี จากคุณ : หมอแมว - [ 15 มิ.ย. 52 23:02:13 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ผมว่าการที่บุคคลที่มีความรู้ดานการแพทย์โดยตรงมาให่ข้อมูลเป็นเรื่องดี เพราะอย่างนั้นจะได้ยืนยันได้ว่า ควรปฏิบัติกันอย่างไร จากคุณ : djnyzzz - [ 15 มิ.ย. 52 23:03:54 ]

ความคิดเห็นที่ 29 Thank you for your answers ka.. จากคุณ : rumiana - [ 15 มิ.ย. 52 23:09:04 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ขอบคุณมากๆค่ะ จากคุณ : Yimie - [ 15 มิ.ย. 52 23:27:05 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ขอบคุณมากค่ะ จากคุณ : khun_fah _ja - [ 15 มิ.ย. 52 23:37:43 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ยังอ่านไม่จบครับ มาโหวต+ลงชื่อก่อน อิอิ   ขอบคุณที่นำความรู้มาเผยแพร่ครับ จากคุณ : SamuDi Knight - [ 16 มิ.ย. 52 00:21:46 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ขอบคุณ มากๆๆ คะ ความจริง สื่อน่าจะออกข่าว เรื่องการป้องกัน หรือวิธีตรวจสอบไข้หวัด 2009 กับไข้ธรรมดา นะคะ มัวแต่ประโคมข่าวเรื่องการระบาด แต่ไม่มีบอกวิธีป้องกันหรีือการรักษาด้วยตัวเอง ถึงบอก น่าจะออกข่าวให้ชัดเจน และน่าจะใส่ใจ เรื่องนี้มากกว่า เรื่องพุ่มพวง หรือ เรื่องน้องอัง อะไรนั่น ประชาชนก้อโง่ดักดานกันเข้าไปซิ วิธีป้องกันหรือแนวทางการรักษาด้วยตัวเองก่อนก็ไม่มี ให้ ตูนั่งคิดเองเออเอง รังเกียจคนที่เปนไข้ 2009 ยิ่งกว่าเป็นเอดส์   ไม่พอบางราย กลัวจะเป็นโรคร้ายจากไข้ 2009 อีก เป็นเวรกรรมของหมออีก เวรกรรมสื่อประเทศไทย แก้ไขเมื่อ 16 มิ.ย. 52 00:26:23 จากคุณ : mimi2p - [ 16 มิ.ย. 52 00:25:22 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ขอบคุณมากๆครับ จากคุณ : satoru [Kono-Setsu Club] - [ 16 มิ.ย. 52 00:27:35 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ขอบคุณสำหรับข้อมูลค่ะ ^^ จากคุณ : yamara-tee - [ 16 มิ.ย. 52 00:28:00 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ขอบคุณคะที่นำความรู้มาเผยแพร่ให้ทราบ น่าจะทำ FW-Mail ด้วยนะคะ ข้อมูลแน่นปึ๊ก ยิ่งกว่าพวกหนังสือพิมพ์ที่ลงข่าวเสียอีก จากคุณ : ผู้กอง - [ 16 มิ.ย. 52 00:28:30 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion - [ 16 มิ.ย. 52 00:28:55 ]

ความคิดเห็นที่ 38 โอ๊ะ เหมือนจะไม่สบายแต่กินยาพาราไปแล้ว ถ้ามันหายก็ไม่ต้องไปตรวจใช่มั้ยคะ? จากคุณ : OriGaml - [ 16 มิ.ย. 52 00:38:20 ]

ความคิดเห็นที่ 39 สูบบุหรี่ตัวเดียวกัน มีโอกาสติดเชื้อไหมครับ ดูดกัญชาบ้องเดียวกัน มีโอกาสติดเชื้อไหมครับ จากคุณ : shoothotshot - [ 16 มิ.ย. 52 00:50:18 ]

ความคิดเห็นที่ 40 กรี๊ดหมอแมวของหมี จากคุณ : หมีโหด - [ 16 มิ.ย. 52 01:09:30 ]

ความคิดเห็นที่ 41 ขอบคุณคุณหมอแมวมากๆ ค่ะ อธิบายได้เข้าใจง่ายจังเลย จากคุณ : attanai - [ 16 มิ.ย. 52 01:23:58 ]

ความคิดเห็นที่ 42 กรี๊ดหมอแมวของหมี จากคุณ : หมีโหด ของหมาด้วย กรี๊ดดดด จากคุณ : หมาสายตาสั้น - [ 16 มิ.ย. 52 01:39:54 ]

ความคิดเห็นที่ 43 ขอบคุณพี่หมอแมวมากๆครับ ตอนนี้ กลายเป็นว่า น้ำมูกไหลนิดหน่อย ก็มาตรวจ 2009 กันแล้ว ข่าวอีกข่าวนึงนะครับ ตอนนี้ tamiflu เริ่มจะขาดตลาดแล้ว จากการ over treatment - -" จากคุณ : Nighthawk121 - [ 16 มิ.ย. 52 01:44:10 ]

ความคิดเห็นที่ 44 กรี๊ดหมอแมวของหมี จากคุณ : หมีโหด ของหมาด้วย กรี๊ดดดด จากคุณ : หมาสายตาสั้น เข้ามาฮาอันนี้ งั้นของเป็ดด้วยละกัน 555 จากคุณ : ลูกเป็ดขี้เกียจ - [ 16 มิ.ย. 52 02:03:25 ]

ความคิดเห็นที่ 45 กรี๊ดหมอแมวของหมี จากคุณ : หมีโหด ของหมาด้วย กรี๊ดดดด จากคุณ : หมาสายตาสั้น เข้ามาฮาอันนี้ งั้นของเป็ดด้วยละกัน 555 ของตัวตลกด้วยได้มั้ย ? 555+ ปล. กระทู้จะกลายพันธุ์มั้ยหนอ ? จากคุณ : ตัวตลกจมูกแดง - [ 16 มิ.ย. 52 02:14:58 ]

ความคิดเห็นที่ 46 ผมว่าคนไทยไม่ค่อยรับผิดชอบต่อส่วนรวมเท่าไหร่ คนที่ไอ หรือจาม มักไม่ปิดปาก ปิดจมูก ไม่มีผ้าปิดปาก.........ไม่ใช่ว่าผมไม่ดูตัวเองนะ แต่ดูตัวเองในขณะที่คนที่ป่วย ((ไม่รวมเคสหวัดอันนี้นะ)) ก็ไอเอา จามเอาโดยไม่คิดจะป้องกัน มันก็ไม่ไหว ดูแลตัวเองแล้ว   ดูแลคนอื่นด้วยก็ดีครับ จากคุณ : aka shuri - [ 16 มิ.ย. 52 02:15:42 ]

ความคิดเห็นที่ 47 น่าจะมีสื่อไทยสักสื่อเอากระทู้ของคุณหมอแมวไปออก เห็นสื่อมาหาข้อมูลในนี้เยอะมาก  กระทู้ดีๆ แบบนี้ ก็น่าจะมาเอาไปด้วย  ขอบคุณมากเลยค่ะ เป็นประโยชน์จริงๆ   อ้อ ถ้ามีสื่อเอาไปจริง  อย่าลืมให้เครดิตหมอแมวด้วยนะคะ จากคุณ : Ms. Kim - [ 16 มิ.ย. 52 02:30:09 ]

ความคิดเห็นที่ 48 หมอขากราบงามๆกระจายเลยค่ะ จากคุณ : วันๆเอาแต่เล่นเกมส์ - [ 16 มิ.ย. 52 02:45:08 ]

ความคิดเห็นที่ 49 หมอแมวเยี่ยมจริง จากคุณ : ป้าซื่อตรง - [ 16 มิ.ย. 52 03:59:59 ]

ความคิดเห็นที่ 50 ขอบคุณหมอแมวมากๆเลยค่ะ พอดีเพิ่งหายจากไข้หวัดมาสองสามวัน กำลังกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่พอดี เพราะตอนนี้ทั้งพ่อแม่พี่ติดกันหมด เพื่อนๆที่มหาลัยก็เป็นกันแทบทุกคน ได้อ่านกระทู้นี้ก็สบายใจค่ะ เพราะไม่มีใครอาการหนักซักคน ^________^ จากคุณ : บุบิบินแมน - [ 16 มิ.ย. 52 04:39:21 ]

ความคิดเห็นที่ 51 โหวตจ๊ะ น่ากลัวจัง ชั้นไอมาหลายวันละยังไม่หายเลย แต่ยังดีที่ไม่มีไข้!!กรี๊ดดดดดดดดดดด!! จากคุณ : หนูน้อยบนยอดเขาอันหนาวเหน็บ - [ 16 มิ.ย. 52 06:08:31 ]

ความคิดเห็นที่ 52 กระทู้ดีสุดเลยขอรับ ให้ความรู้ได้อย่างเยี่ยมยอด ^^ จากคุณ : ladydunce - [ 16 มิ.ย. 52 06:35:04 ]

ความคิดเห็นที่ 53 ขอบคุณ คุณหมอมากค่ะ วันนี้ลูกสาวไม่สบายเหมือนกัน ตอนแรกกังวลว่าจะพาลูกไปหาหมอ ดีหรือเปล่า กลัวหมอให้นอนโรงพยาบาลเฝ้าระวังเพราะบ้านอยู่ ปทุมธานี ตอนนี้มีผู้ติดเชื้อแล้ว แต่พอได้อ่านคำแนะนำของคุณหมอแล้ว..จะทำตามคำแนะนำค่ะ ดูอาการน้องอยู่ที่บ้านก่อน.......แล้วค่อยว่ากันทีหลัง เห็นใจคุณหมอทุกท่านที่ทำหน้าที่ค่ะ...... จากคุณ : แพรวซ่าส์ - [ 16 มิ.ย. 52 07:34:05 ]

ความคิดเห็นที่ 54 ตื่นมาแต่เช้า กำลังมึนๆ อ่านแล้วตื่นเลยค่ะ ขอบคุณมากค่ะ คุณหมอคิตตี้ อยากให้กิ๊ฟนะ แต่หมดแล้ว แหะๆ จากคุณ : ฉีดน้ำหอม4ฟืด - [ 16 มิ.ย. 52 07:43:11 ]

ความคิดเห็นที่ 55 ขอบคุณมากค่ะ จะได้ระมัดระวังตัว เป็นความรู้ที่ดีมาก  ๆเลยค่ะ จากคุณ : ก็ว่าจะไม่รัก - [ 16 มิ.ย. 52 07:45:56 ]

ความคิดเห็นที่ 56 ขอบคุณสำหรับความรู้ค่ะ จากคุณ : 2fast2farious - [ 16 มิ.ย. 52 08:21:22 ]

ความคิดเห็นที่ 57 ขอบคุณคุณหมอแมวมากๆเลยค่ะ เป็นกระทู้ที่ช่วยชีวิตคนจริงๆค่ะ (อย่างน้อยๆก็รักษาอาการวิตกจริตของหนูไปได้มาก) จากคุณ : bluesherbet - [ 16 มิ.ย. 52 08:23:44 ]

ความคิดเห็นที่ 58 ตรวจ คนไข้ก็ระวังตัวด้วยนะครับ จากคุณ : โลมาจิ๋ว - [ 16 มิ.ย. 52 08:48:08 ]

ความคิดเห็นที่ 59 ขอบคุณครับ >< ~ จากคุณ : MoMoJunG_4_FouR - [ 16 มิ.ย. 52 09:15:15 ]

ความคิดเห็นที่ 60 ผมหาข้อมูลแบบนี้จากทางราชการ หรือข่าว   มันหาไม่เจอสิน่า ไม่ได้ของหมอแมว นี่ก็คงยังมืดตึบ ต่อไป จากคุณ : Memory Stick Duo Pro - [ 16 มิ.ย. 52 09:15:15 ]

ความคิดเห็นที่ 61 ขอบคุณมากๆครับ สำหรับข้อมูลที่ช่วยให้เข้าใจมากขึ้นครับ เพราะจริงๆแล้วไม่เคยได้ข้อมูล ที่เข้าใจจากข่าวในทีวีเลยสักครั้งเดียว รักษาสุขภาพด้วยครับ จากคุณ : mouse4006 - [ 16 มิ.ย. 52 09:24:34 ]

ความคิดเห็นที่ 62 กรี๊ดหมอแมวของหมี จากคุณ : หมีโหด ของหมาด้วย กรี๊ดดดด จากคุณ : หมาสายตาสั้น เข้ามาฮาอันนี้ งั้นของเป็ดด้วยละกัน 555 ของตัวตลกด้วยได้มั้ย ? 555+ ปล. กระทู้จะกลายพันธุ์มั้ยหนอ แฮ่ๆ...ของหอยด้วยคน จากคุณ : หอยหลอดดอนหอย - [ 16 มิ.ย. 52 09:24:54 ]

ความคิดเห็นที่ 63 ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ อยากได้ข้อมูัลชัดๆแบบนี้มานานแล้ว จากคุณ : ข้าวปั้นหน้าปลาดิบ - [ 16 มิ.ย. 52 09:25:44 ]

ความคิดเห็นที่ 64 ขออนุญาตเอาไปทำFw.mail เพื่อกระจายความรู้นะครับ ขอบคุณครับ จากคุณ : kunomasa - [ 16 มิ.ย. 52 09:27:07 ]

ความคิดเห็นที่ 65 ทู้ดีๆ แบบนี้ควรเผยแพร่ในรูปแบบอื่นด้วยนะคะ จากคุณ : ban_ri - [ 16 มิ.ย. 52 09:41:03 ]

ความคิดเห็นที่ 66 เข้ามาลงชื่อโหวตกระทู้หมอแมว ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆมีประโยชน์ค่ะ จากคุณ : สาวน้อยฮอลลี่ - [ 16 มิ.ย. 52 09:42:06 ]

ความคิดเห็นที่ 67 หมอแมว ระวังนะ เดี๋ยวจะมีผู้ตั้งตนเป็นผู้รู้กว่า เข้ามาขวางโลก ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีดีค่ะ หาที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว จากคุณ : ใจใส่ (ใจใส่) - [ 16 มิ.ย. 52 09:43:16 ]

ความคิดเห็นที่ 68 สุดยอดเลยค่ะ ขอบคุณคุณหมอมากเลยค่ะ เข้าใจได้ง่าย และค่อยสบายใจหน่อย จากคุณ : s_solar - [ 16 มิ.ย. 52 09:58:48 ]

ความคิดเห็นที่ 69 ขอบคุณค่ะ ตอนนี้ไปส่งลูกเรียนพิเศษที่สยามทางสถาบันเขาก็ให้ผ้าปิดปากปิดจมูก แต่ลูกบอกว่าปิดบ้างไม่ปิดบ้างเพราะว่ามันหายใจไม่ออก เฮ้อ ก้อเพราะว่ามีเด็กจากโรงเรียนที่เสี่ยงมาเรียนในห้องรวมกันเยอะค่ะ จากคุณ : tugsinat - [ 16 มิ.ย. 52 10:05:47 ]

ความคิดเห็นที่ 70 ขอบคุณค่ะ วันนี้เพิ่ง เถียงกันกับคุณแม่เลย คะ เพราะจะพาคุณหลาน เข้าไปตรวจพัฒนาการที่กรุงเทพ แม่ก็ไม่อยากให้เอาหลานเข้ากรุงเทพ เพราะเห็นข่าวว่ากำลังระบาดอยู่ ตัวหนูก็เคยๆถามหมอมาว่า ไม่มีอะไรน่าห่วงมาก แค่ไข้หวัด ไม่อันตราย พอมาได้อ่านวันนี้ อืม สว่าง ค่ะ ขอบคุณค่ะ ( ยกมือไหว้งามๆ ^^ ) แก้ไขเมื่อ 16 มิ.ย. 52 10:13:41 จากคุณ : FaLiOnA - [ 16 มิ.ย. 52 10:12:47 ]

ความคิดเห็นที่ 71 save&vote ka ^-^ จากคุณ : booklovers - [ 16 มิ.ย. 52 10:13:45 ]

ความคิดเห็นที่ 72 ขอบคุณหมอแมวค่ะ จากคุณ : นินจาน้อย - [ 16 มิ.ย. 52 10:15:52 ]

ความคิดเห็นที่ 73 เป็นแล้ว จะเป็นอีกครั้งหรือเปล่าคะ ถ้าไม่เป็นอีกจะได้รีบเป็นก่อน ;) จากคุณ : peachpeach - [ 16 มิ.ย. 52 10:16:15 ]

ความคิดเห็นที่ 74 ขอบคุณคุณหมอแมวมากๆ   เหมือนทุกๆ คนค่ะ  กำลังกังวลอยู่ มีหลานอยู่อัสสัมฯ  ซึงเขาไม่ปิด แต่โรงเรียนอื่นปิดไปแล้ว หลานไม่สบายไอ  มาหลายวันแล้วค่ะ  แต่ไม่มีไข้ ตัวเองก็ไม่สบาย  เจ็บคอมา2-3วันแระ แต่ไม่มีไข้นะคะ  เลยกังวลมากๆ  ว่าจะเอาไงดี งี้ก็  ทำตัวปกติไปก่อนแล้วกันเนอะ   ยังไม่มีไข้นี่คะ ขอ FW ไปให้เพื่อนๆ อ่านด้วยนะคะ ขอบคุณมากค่ะ จากคุณ : ชมะฯ - [ 16 มิ.ย. 52 10:17:33 ]

ความคิดเห็นที่ 75 ขอบคุณมากๆ ค่ะ จากคุณ : nong_PAB - [ 16 มิ.ย. 52 10:20:50 ]

ความคิดเห็นที่ 76 ขอบคุณค่ะคุณหมอแมว ตามมาให้ข้อมูลถึงในเฉลิมไทยเลย ห้องนี้คนเข้าเยอะ คงจะได้ความเข้าใจกันไปมากทีเดียว จากคุณ : กบข้างกะลา - [ 16 มิ.ย. 52 10:29:33 ]

ความคิดเห็นที่ 77 ขอบคุณนะคะ ที่มาให้ความรู้ จะได้ไม่ตื่นตระหนกเกินไป และก็จะได้ไม่ต้องไปรบกวนคุณหมอด้วยค่ะ จากคุณ : ท้องฟ้าอันกว้างใหญ่ - [ 16 มิ.ย. 52 10:29:40 ]

ความคิดเห็นที่ 78 ขอบคุณคุณหมอแมวนะครับ จากคุณ : หมื่นเทพยุทธจอมราชันณ์ - [ 16 มิ.ย. 52 10:41:05 ]

ความคิดเห็นที่ 79 ต้องขอขอบคุณ คุณหมอแมวมากๆ เลยคะ ที่ให้ความรู้แบบแจ่มเลย....แต่มีข้อสงสัยขอถามตอนท้ายด้วยนะคะ ...เมื่อวันศุกร์พาตัวเองและเจ้าลูกชายซึ่งมีอาการไอ มีไข้ ไปพบหมอที่สถานพยาบาลแห่งหนึ่ง บอกอาการเสร็จพร้อมกับแจ้งว่าอยู่โรงเรียนเซนต์คาเบรียล เท่านั้นแหล่ะพ่อเจ้าประคุณเอ้ยยยย โกลาหนกันทั้งห้อง หมอบอกไม่ตรวจอะไรแล้วส่งไปห้อง Lab เลย จากนั้นก็โดนแยกตัวออกนอกอาคาร ให้ไปนั่งผึ่งลมอยู่ตรงทางเดินด้านนอก แล้วก็เห็นเจ้าหน้าที่วิ่งวุ่นกันไปหมดรีบหา Mask มาปิดปากปิดจมูกกันหมด เราและลูกก็ใส่ Mask ไปจากที่บ้านแล้วนะ ...เพราะกลัวเหมือนกัน ว่าจะเป็นจะได้ไม่แพร่เชื้อให้คนอื่น ....หลังจากเตรียมทีมงานอุปกรณ์เสร็จก็โดนหมอเอาไม้จิ้มจมูกไปคนละทีทั้งแม่และลูก แล้วก็รอผลจากห้อง Lab ผลออกมาว่าเป็นหวัดธรรมดา แต่ระหว่างที่นั่งรอฟังผลอยู่นั้นก็ได้ยินประกาศจากระบบเสียงตามสายว่า ขณะนี้ไข้หวัด 2009 ใกล้เข้ามาแล้ว ดังนั้นจึงขอห้ามไม่ให้พาบุตรหลานที่เรียนอยู่โรงเรียนเซนต์คาเบรียลกับโรงเรียนเซนฟรังค์ เข้ามาในที่ทำงานเพื่อป้องกันการแพร่เชื้อ....แป่วววว ทำคนอื่นเดือดร้อนจนได้เรา   ....วันรุ่งขึ้นได้รับแจ้งจากผู้ปกครองในห้องเรียนเดียวกับลูกว่ามีเพื่อนในห้องลูกติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ 2009 แล้วนะ ส่วนลูกเราก็ยังมีไข้ทุกวัน แถมท้องเสียด้วย จนคืนวันเสาร์ก็ได้รับแจ้งอีกว่าเพื่อนลูกได้รับเชื้อเพิ่มอีก 2 รายนะ รวมเป็น 3 รายแล้ว ที่เหลือกำลังรอผลอยู่...เอายังไงดีหว่า ลูกเราจะใช่มั้ยเนี้ย (ยังไม่คลายกังวล) ก็อาการมันเหมือนที่เค้าบอกเลยนี่ แต่ก็ไม่ได้กลับไปหาหมออีก ได้แต่โทรคุยกับเพื่อนที่เป็นหมอเค้าก็บอกว่ารอเช้าวันจันทร์ถ้าไข้ไม่ลดให้พาไปหาเค้าก็แล้วกัน...ปรากฏว่าเช้าวันจันทร์ไม่มีไข้แล้ว มีแต่อาการไอมาจนถึงวันนี้ ก็เลยให้นอนดูการ์ตูนอยู่บ้านมันส์ไปเลย ....คำถามที่ขอถามคุณหมอแมวคือ...ผู้ปกครองของเพื่อนลูกที่ติดเชื้อไข้หวัด 2009 ทั้ง 3 คน เล่าให้ฟังว่าตอนที่ไปพบหมอๆ ฉีดวัคซีนไข้หวัดนกให้ทั้ง 3 คน.....วัคซีนมันใช้แทนกันได้เหรอคะ จากคุณ : Mae Tha - [ 16 มิ.ย. 52 10:47:21 ]

ความคิดเห็นที่ 80 กระทู้เลอค่า จากคุณ : moshita - [ 16 มิ.ย. 52 10:55:01 ]

ความคิดเห็นที่ 81 ขอบคุณนะค่ะคุณหมอแมวที่มาให้ความรู้ ตอนนี้เป็นหวัดอยู่พอดีเลย แค่มีไข้นิดๆหน่อยๆ (ไม่ถึง 38 มั้ง-.-") (ไอ้คุณน้องชายมันก็บ่นๆอยู่ว่าไปหาหมอเหอะ ตรูไม่อยากติดหวัด 2009 นะ -*- ) พออ่านของคุณหมอแล้วอุ่นใจ เราคงไม่เป็นอ่ะเนอะ ^^ ปล.อยากให้กิ๊ฟคุณหมอแมวซัก 50 อันไปเลย โห๊ะๆ ^^ จากคุณ : FRoM OuR EyES_To OuR DReaM - [ 16 มิ.ย. 52 11:02:00 ]

ความคิดเห็นที่ 82 มีประโยชน์จริงๆค่ะ กระทู้นี้ (ถึงจะไม่ตรงห้องก็เถอะ) สงสัยอย่างค่ะ ว่าทำไมสื่อถึงไม่กระจายข้อมูลที่ถูกต้อง ให้ประชาชนทั่วไปรับรู้คะ? (ใครจะไปตอบเราได้เนี่ย) แล้วทำไม นายแพทย์ระดับ ปธ.กมธ. ไรนั่น ถึงไม่ทราบข้อมูลที่แท้จริงคะ? งงอ่ะ... เราอยู่นิวซีแลนด์ มีข่าวก่อนประเทศไทยด้วยซ้ำ เค้าก็ไม่เห็นตื่นตระหนกอะไรกันมากมายนะ โรงเรียนที่มีเด็กมีอาการ ก็ไม่ได้สั่งปิด.. แค่กักตัวนักเรียนที่มีอาการบางคนไว้ที่บ้านตัวเอง เฝ้าดูอาการ ไรเงี้ย แล้วข่าวก็ออกชัดเจนว่า อาการของโรคเป็นยังไง กระทรวงสาธารณะสุข มีนโยบายยังไง สกรีนคนยังไง ปชช.ควรทำตัวยังไง สื่อไทยน่าจะทำแบบนี้บ้างนะคะ เรื่องบางเรื่องเช่นเรื่องครอบครัวคนดัง เรื่องส่วนตัวดารา เรื่องเด็กตามหาพ่อ หมีน้อยแพนด้า นักเรียนตีกัน เพลาๆลงบ้างก็ดีค่ะ ออกข่าวที่เป็นความรู้แก่ประเทศชาติ แก่ปชช.บ้าง สงสารคุณหมอ คุณพยาบาลบ้างเถอะ จากคุณ : ขอโทษทีที่บ่นยาว (นางมารร้ายผู้ใจดี) - [ 16 มิ.ย. 52 11:04:34 ]

ความคิดเห็นที่ 83 ขอบคุณค่ะ จากคุณ : efselon - [ 16 มิ.ย. 52 11:31:16 ]

ความคิดเห็นที่ 84 หมอระบาดฯมาเอง -___-" ขออนุญาตเอาไป fwd นะครับ จากคุณ : don_custom - [ 16 มิ.ย. 52 11:31:39 ]

ความคิดเห็นที่ 85 คุณหมอแมวคะ......ขอเรียนถามหน่อยค่ะ . . . เรื่องวัคซีนล่ะคะ ป้องกันได้หรือเปล่า ที่รพ.เอกชน บุคลากรทางการแพทย์ แนะนำให้ฉีดวัคซีนหวัดใหญ่ พ่อแม่หลายคนแห่จะพาลูกหลานไปฉีดวัคซีนป้องกันหวัดใหญ่ 2009 มันป้องกันได้จริงหรือเปล่าคะ แล้วมันเป็นวัคซีนตัวไหน ป้องกัน 2009 ได้โคยตรงหรือคะ หรือว่าเป็นวัคซีนแบบเหวี่ยงแห ปกติวัคซีนหวัดใหญ่ รพ.เอกชนก็ประณ 1000 บาท คุณหมอแมวช่วยแนะนำหน่อยค่ะว่าควรรับวัคซีนหวัดใหญ่หรือไม่ (เด็ก) ขอบคุณค่ะ จากคุณ : สรณธรรม - [ 16 มิ.ย. 52 11:35:07 ]

ความคิดเห็นที่ 86 เป็นความรู้มากเลยครับ ขอบคุณที่เขียนให้ได้อ่านนะครับ จากคุณ : Firepocket - [ 16 มิ.ย. 52 11:55:33 ]

ความคิดเห็นที่ 87 ขอบคุณสำหรับกระทู้ดีๆนะคะ คุณหมอแมว ^^ เพราะส่วนตัวก็ไอ จาม แต่ยังไม่มีไข้ โชคดีที่ว่าคนในบ้านไม่แตกตื่น เพราะตัวเองก็ไม่คิดว่าจะเป็นด้วย แต่เข้ามาอ่านแล้วเข้าใจโรคนี้ขึ้นเยอะเลยค่ะ จากคุณ : พัดลมตราเรือบิน - [ 16 มิ.ย. 52 12:02:30 ]

ความคิดเห็นที่ 88 เข้ามาเก็บความรู้ ขอบคุณ คุณหมอแมวมากครับผ้ม จากคุณ : ยำยำรสหอยลายผัดฉ่า - [ 16 มิ.ย. 52 12:02:51 ]

ความคิดเห็นที่ 89 ขอบคุณค่ะ  ที่ให้ " ความรู้ " และ ขอส่ง " แรงใจ "  ให้คุณหมอ ( ทุกๆคน) ที่กำลังปฎิบัติหน้าที่กันอยู่อย่าง ..เหน็บเหนื่อย จากคุณ : som_o_oh - [ 16 มิ.ย. 52 12:42:51 ]

ความคิดเห็นที่ 90 -/\-  ขอยกมือไหว้ขอบคุณคุณหมอแมวค่ะ เพราะว่าตอนนี้อยู่อเมริกากำลังจะกลับเมืองไทย แม่ก็กลัวจะติดเชื้อแล้วโดนกักตัวเพราะว่าไม่สบายเจ็บคอ ตอนนี้เลยเอากระทู้ขอคุณหมอไปให้คุณแม่อ่าน คุณแม่ก็ใจชื้นขึ้นเยอะเลยค่ะ ขอบคุณจริงๆคะ ยังไงก็ขออนุญาตเอากระทู้ไปเผยแพร่ต่อน่ะคะ  คนอื่นเค้าจะได้เลิกตื่นตูมกันสักที ขอเป็นกำลังใจให้คุณหมอทุกท่านที่ทำงานกันอย่างเหน็ดเหนื่อยค่ะ จากคุณ : เจ้าหญิงเดียวดาย - [ 16 มิ.ย. 52 13:14:40 ]

ความคิดเห็นที่ 91 ความรู้แน่นปึก จากคุณ : clubspanky - [ 16 มิ.ย. 52 13:48:30 ]

ความคิดเห็นที่ 92 ขอบคุณคุณหมอมากนะคะ กระทู้นี้แค่กระทู้เดียว กระจ่างหมดเลยค่ะ โดยส่วนตัวก็งงอยู่นานว่าต้องมีอาการขนาดไหนถึงควรจะไปหาหมอ เพราะปกติ เวลาไม่สบาย จะทานยาแล้วพักอยู่บ้าน ถ้าทานยาติดกัน 2-3 วันแล้วยังไม่หาย ถึงจะไปหาหมอ แต่เพราะความที่ไม่รู้ว่าโรคหวัด 2009 มันร้ายแรงขนาดไหน เลยยังคิดอยู่ว่าถ้าไม่สบายอีก ควรจะไปหาหมอตอนไหนดี เป็นกำลังใจให้คุณหมอแมว รวมถึงคุณหมอทุกท่านนะคะ ช่วงนี้คงต้องทำงานหนักขึ้นกว่าเดิมอีกหลายเท่าแน่ๆ คงต้องเจอคนไข้เยอะขึ้น แถมไข้หวัดมันเป็นโรคติดต่อด้วย รักษาสุขภาพกันด้วยนะคะ ^^ จากคุณ : ตุ๊กตาไขลาน - [ 16 มิ.ย. 52 13:56:19 ]

ความคิดเห็นที่ 93 ขอบคุณนะคะสำหรับข้อมูลดีๆ เข้ามาบอกรักคุณหมอโดยเฉพาะเลยค่ะ............. จุ๊บบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบ จากคุณ : คุณนายแสนดี - [ 16 มิ.ย. 52 13:57:04 ]

ความคิดเห็นที่ 94 ขอบคุณคุณหมอแมวมากค่ะ จากคุณ : โครโมโซม X - [ 16 มิ.ย. 52 14:43:18 ]

ความคิดเห็นที่ 95 ขอบคุณค่ะ จากคุณ : สมาชิกเจ้าเก่า - [ 16 มิ.ย. 52 15:13:17 ]

ความคิดเห็นที่ 96 ขอบคุณนะคะ ฟังแล้วรู้สึกดีขึ้นเยอะเลย จากที่ยังก้ำกึ่งไม่แน่ใจ ก็ความรู้สึกมันขัดแย้งกันอ่ะค่ะ ดูข่าวแต่ละช่อง เวลามีคนไหนเป็นหวัดปุ๊บ เขาแทบจะเอาแอลกอฮอล์ไปราดตามรร. เรียกว่าล้างรร.กันไปเลย มันดูผิดวิสัยจากสมัยก่อน ที่เวลาเป็นหวัด เรายังไม่เคยมีหน่วยงานไหนที่จะมาฉีดยาฆ่าเชื้อโรคกันขนาดนี้ (แต่หลังจากฟังที่คุณหมออธิบาย เราเริ่มเข้าใจแล้วค่ะ) อึม นี่อาจจะเป็นสิ่งนึงที่ทำให้คนสับสนนะคะ ไม่ได้บอกว่า ไม่ให้ราดนะ แต่ภาพที่เจ้าหน้าที่ไปล้างรร. ฉีดยาฆ่าเชื้อ มันทำให้คนตระหนก ภาพมันขัดแย้งกันกับที่หน่วยงานรัฐออกมาบอกว่า โรคนี้ไม่ต้องตื่นตระหนก คนอย่างเราๆ ก็เลยสงสัย อ้าว แล้วทำไมเจอเด็กป่วยคนเดียว ถึงกับต้องปิดรร. หรือล้างรร.เลยล่ะ หากเป็นแค่ไข้หวัดธรรมดาทั่วๆไป ก็ไม่น่าจะต้องทำขนาดนี้ พวกเราก็เป็นชาวบ้านธรรมดา คงไม่รู้หรอกว่า ระดับไหนมันคืออะไร ฟังแค่ตัวเลขเยอะๆ ก็หนาวแล้ว ยิ่งพวกฟังข่าวมั่ง ไม่ได้ฟังมั่ง เปิดข่าวตอนกลับบ้าน ก็ยิ่งจับนั่นผสมนี่ปนกัน ส่วนมากมีแต่ภาพฉีดน้ำยาฆ่าเชื้อโรค -_-" สมองเลยคิดออกอย่างเดียว ฮา จากคุณ : ไกลนั้น - [ 16 มิ.ย. 52 16:02:16 ]

ความคิดเห็นที่ 97 ขอบคุณคุณหมอแมวมากค่ะ วันนี้หลังเลิกงานว่าจะไปหาหมอพอดี โชคดีที่ได้อ่านกระทู้นี้ก่อน ไม่งั้น จากเจ็บคอ ไอนิดหน่อย สงสัยจะได้ติดหวัด 2009 จริงๆ ขอบคุณมากนะคะ^0^ จากคุณ : แชยอง (naya_chan) - [ 16 มิ.ย. 52 16:10:23 ]

ความคิดเห็นที่ 98 ขอบคุณคุณหมอแมวมากๆสำหรับข้อมูลดีๆที่มาแบ่งปันค่ะ และยังเวลาที่มีค่าของคุณหมอด้วย เชื่อว่าต่อให้ฟังข่าวทุกช่องก็ไม่ได้ข้อมูลแท้ๆแบบนี้ จากคุณ : @^^@ (nubube) - [ 16 มิ.ย. 52 16:13:03 ]

ความคิดเห็นที่ 99 กระทู้แนะนำเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว มีข้อมูลการป้องกันตัวเองเยอะเลยค่ะ http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A7963192/A7963192.html จากคุณ : Pat :o) - [ 16 มิ.ย. 52 16:20:28 ]

ความคิดเห็นที่ 100 เป็นข้อมูลที่ดีมากค่ะ ขอปรบมือให้เจ้าของกระทู้ จริงๆแล้วครอบครัวดิฉัน คือพ่อกับลูก ๓ ขวบ ก็เป็นไข้ที่ว่าค่ะ ทั้งพ่อและลูกนอนซมกัน ๒ วีค เหลือดิฉันคนเดียว เราอยู่ที่ต่างประเทศ ดิฉันได้บอกคุณสามีว่าระวังนะมันจะเป็นแบบที่ข่าวกำลังฮือฮา ....เขาไม่ยอมไปพบหมอ ใช้วิธีกินพารา แต่คนที่ไปพบหมอคือดิฉัน เพราะอะไร เพราะว่าจะหยุดงานนานติดต่อกันสามวันไม่ได้ (ดูแลลูกป่วย) ถ้าเกินสามวันคุณต้องไปพบแพทย์ ใช่ว่าเพื่อเอาใบรับรองแพทย์ แต่จะเป็นที่รู้กันว่า ลูกป่วยและดูแลลูกจริง แต่ตอนที่คุยกับคุณหมอ เขาบอกว่าไม่มีอะไรที่อันตรายถึงชีวิต แค่คอยวัดไข้อย่าให้ไปถึง ๔๐ เพราะว่าถ้าไข้สูงผู้ป่วยอาจเกิดอาการช็อคได้ ....และหมอบอกดิฉันว่าอย่าตระหนกเกินเหตุ แต่เขาก็ยอมรับว่าปีนี้หวัดใหญ่แข็งแรงขึ้น .ลูกป่วยแค่ ๔ วันตอนนี้ไป รร แล้วค่ะ จากคุณ : นันช่า - [ 16 มิ.ย. 52 16:23:05 ]

ความคิดเห็นที่ 101 ขอบคุณมากๆ นะค่ะ ทำให้รู้ข้อเท็จจริงๆ จากผู้รู้จริงๆ ชอบอันนี้ค่ะ ยกตัวอย่าง - ถ้ามีไข้ต่ำๆตัวรุมๆ เดินไปเดินมาได้สบายดี ... ก็จะได้ยาลดไข้ลดน้ำมูกแก้ไอกลับไปกินที่บ้าน - ถ้าไม่มีไข้ แต่ไปกินข้าวกับคนที่มีเพื่อนเป็นเด็กเซนต์คาเบรียล หมอก็ไม่ตรวจ - ถ้าไม่มีไข้เลย แต่ไปกินข้าวกับคนที่เป็นเพื่อนกับคนที่ไปเดินผ่านที่หน้าโรงเรียนเซนต์คาเบรียล ... อันนี้ก็ไม่ตรวจ - เป็นภูมิแพ้ กินยาแก้ภูมิแพ้มาปีกว่า ... ตอนนี้ไม่มีไข้แต่มีน้ำมูลไหลเหมือนทุกวัน วันนี้อยากตรวจหวัด2009 ... อันนี้ก็ไม่ตรวจ - ไข้สูง38.9 ไอมาก แต่ไม่ได้ไปเจอเด็กนักเรียนที่ไหนเลย ... อันนี้ไม่อยากตรวจก็ต้องตรวจ จากคุณ : Jaekan - [ 16 มิ.ย. 52 16:25:31 ]

ความคิดเห็นที่ 102 อ่านเข้าใจและอ่านสนุก คุณหมอเขียนได้น่ารักมากค่ะ จากคุณ : lovekun - [ 16 มิ.ย. 52 16:43:13 ]

ความคิดเห็นที่ 103 คุณหมอแมวขา... ตอนนี้ที่โรงเรียนของหนูก็มีเด็กนักเรียนป่วยเป็นไข้หวัดกันเยอะ วันนี้ขอกลับบ้านไปหลายราย.... ตัวหนูเองก็เป็นไข้ ปวดหัว ไอ  นักเรียนในห้องก็เป็นกันเกือบทั้งห้อง ช่วงนี้ใกล้กีฬาสี...ทุกคนในห้องเลย สรุปกันได้ว่า...เราควรจะ ทำร่างกายให้แข็งแรง ซ้อมกีฬา และซ้อมเชียรืกีฬา...ขับไล่ไข้หวัด 2009 กัน ค่ะ จากคุณ : คุณครูก็ป่วยเป็น (แม่ต้นหอม) - [ 16 มิ.ย. 52 17:20:23 ]

ความคิดเห็นที่ 104 เรื่องหนักแค่ไหนไม่เป็นไร แต่โรงเรียนผมไม่ปิดอะ จากคุณ : jalop - [ 16 มิ.ย. 52 17:28:20 ]

ความคิดเห็นที่ 105 ขอบคุณคุณหมอมากนะคะ ถ้าไม่ได้มาอ่านกระทู้ี้นี้นี่.... อาจจะเป็นเผลอเดินเข้าโรงพยาบาลกะเค้าเหมือนกัน ตอนนี้ เหมือนเป็นโรคจิตแล้วล่ะค่ะ ถ้าแค่ระวัง ก็คงจะดี แต่ถ้าระแวงด้วยนี่...เหนื่อยใจเหลือเกินค่ะ ยังไงจะขอนำความรู้เหล่านี้ไปเผยแพร่นะคะ วอนสื่อ  หรือเพื่อนสื่อ ช่วยทำให้ประชาชนเข้าใจหน่อยนะคะ เข้าใจหัวใจของหมอเหลือเกินค่ะ จากคุณ : ยัง..เฮฮา (ZaaHaHa) - [ 16 มิ.ย. 52 17:49:32 ]

ความคิดเห็นที่ 106 อืม ช่วยเรื่องวิตกจริตของเรา(และคนอื่นๆ)ได้เยอะเลยนะเนี่ย...... ช่วงนี้ฝนตกด้วย อาจจะเป็นหวัดธรรมดาก็ได้เนอะ ก่อนอ่านกระทู้นี้ ถ้าเกิดเป็นหวัดเฉยๆ คงวิ่งไปหาหมอนานแล้วมั้งเนี่ย ฮี่ ฮี่ จากคุณ : นางสาวเปอร์เซีย (yanori) - [ 16 มิ.ย. 52 17:53:48 ]

ความคิดเห็นที่ 107 เข้าใจง่ายดีจัง ขอบคุณมาก ๆ ค่ะ  ^^ จากคุณ : acha-p - [ 16 มิ.ย. 52 18:13:38 ]

ความคิดเห็นที่ 108 .. โหวตให้ขึ้นไปนานๆเลยครับ ขอบคุณ คุณหมอมากๆ .. จากคุณ : POGGHI - [ 16 มิ.ย. 52 18:26:45 ]

ความคิดเห็นที่ 109 ผมอยู่ ร.พ. วันละ 12 ชม. เจอผู้คนมากมาย ทั้งผู้ป่วย ทั้งพนักงาน  ตอนนี้ไม่สบายซะแล้ว ไม่รู้ติดใครรึปล่าว แต่ขอวัดใจไม่ไปหาหมอก่อน เห็น กระทรวงสาธารณสุขบอกว่าหากพักผ่อนเพียงพอ ทานอาหารผัก ผลไม้ หายเองได้90-95% เพราะผมไม่อยากมีชื่ออยู่ในข่าว ตอนนี้ก็ใส่ผ้าปิดปากไปก่อน อ้อ ผมไม่ไอนะครับ จแค่าม และมีน้ำมูก แสบจมูกเล็กน้อย แก้ไขเมื่อ 16 มิ.ย. 52 18:39:56 จากคุณ : ฟา (Lecouxy) - [ 16 มิ.ย. 52 18:38:19 ]

ความคิดเห็นที่ 110 รอกระทู้แบบนี้มาหลายวันละ ขอบคุณค่ะ กำลังกังวลอยู่เลย ค่อยเข้าใจมากกว่าเดิมแล้วค่ะ จากคุณ : วัตถุ22ให้ความหวานแทนน้ำตาล - [ 16 มิ.ย. 52 19:10:19 ]

ความคิดเห็นที่ 111 รบกวนถามโอกาสในการกลายพันธ์กับหมอแมวครับ ว่ามีโอกาสมากน้อยเท่าไหร่ คุยกับพรรคพวกที่พิจิตรเห็นคุยเรื่อง โอกาสที่ไข้ 2009 จะไป + กับไข้หวัดนกที่ระบาดทุกปีในโซนควบคุม หมอแมวคิดว่าไงบ้างครับ http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A7980288/A7980288.html ดูข่าววันนี้ เขาก็ว่ามีโอกาสเป็นไปได้ เพราะเรื่องกลายพันธ์สำหรับไวรัสเป็นเรื่องธรรมดา จากคุณ : djnyzzz - [ 16 มิ.ย. 52 20:02:39 ]

ความคิดเห็นที่ 112 วันนี้ไปห้องพยาบาลด้วยความรู้สึกว่าตัวเองตัวร้อน เป็นไข้ พยาบาลจับปรอทยัดใส่ปาก แล้วบอกว่าไม่มีไข้ บอกพยาบาลว่าเจ็บคอ พยาบาลเลยให้มาสก์มา เพราะถือว่าเป็นโรคทางทางเดินหายใจ เหอๆ ตัวร้อน ทำไมไม่วัดตัว แต่วัดใต้ลิ้นเนี่ย -"- จากคุณ : ToMO Chan - [ 16 มิ.ย. 52 20:20:12 ]

ความคิดเห็นที่ 113 ^ ^ ใต้ลิ้นก็ใช้วัดอุณหภูมิได้ค่า ^^ ไม่รู้ว่าอุปาทานไปเองหรือเปล่า แต่ช่วงนี้คนเห็นเป็นหวัดกันเยอะมากเลยค่ะ ทั้งไอ ทั้งจาม ทั้งตัวรุมๆกัน คนรอบข้างเป็นกันหมด(ตัวเองก็เกือบๆเป็นแฮะ) แต่จริงๆว่ากินยาแล้วนอนพักคืนเดียวก็หายแล้วแฮะ =w=;; ขอบคุณคุณหมอสำหรับข้อมูลมากๆค่า จากคุณ : Cheriez - [ 16 มิ.ย. 52 21:10:53 ]

ความคิดเห็นที่ 114 คุณCheriez แบบว่าเล่นมุกน่ะค่ะ ฮ่าๆ แต่ก็ขอบคุณนะคะ ที่อุตส่าห์ตอบ แบบว่าชอบรู้สึกว่าตัวเองตัวร้อน แต่พอไปวัดทีไรก็ปกติทุกที สงสัยจะสำออยไปเอง คุณหมอแมวคะ เดี๋ยวขอเอาข้อมูลไปเผยแพร่ที่ทำงานหน่อยนะคะ ขอบคุณมากค่ะ จากคุณ : ToMO Chan - [ 16 มิ.ย. 52 21:21:59 ]

ความคิดเห็นที่ 115 love หมอแมวจัง ที่มาให้ความรู้กับเรื่องที่หลายๆคนกังวล จากคุณ : กวางดาวน้อย - [ 16 มิ.ย. 52 22:21:13 ]

ความคิดเห็นที่ 116 ขอรบกวนถามคุณหมอเพิ่มครับ ถ้าคนที่ตั้งครรภ์อยู่เกิดไปติดเชื้อเข้า จะมีความรุนแรงหรือความเสี่ยงมากกว่าคนทั่วไปรึเปล่า แล้วที่สำคัญจะมีผลกระทบกับเด็กในท้องมากน้อยแค่ไหนครับ พอดีภรรยาท้องอยู่ ซึ่งเจ้าหล่อนวิตกจริตไปเรียบร้อย จากคุณ : Lost Lollipop - [ 16 มิ.ย. 52 23:03:53 ]

ความคิดเห็นที่ 117 ที่อเมริกาถ้าตรวจพบผู้ที่คิดว่าจะติดเชื้อตัวนี้ โรงเรียนจะปิดประมาณ๑อาทิตย์ มีการฆ่าเชื้อทั้งโรงเรียนค่ะ ลูกสาวเรียนโรงเรียนประจำ ทางโรงเรียนอีเมลบอกผู้ปกครองว่า ถ้าพบว่ามีคนป่วยแม้แต่๑คน ไม่ว่าจะเป็นครู นักเรียน หรือเจ้าหน้าที่ โรงเรียนจะปิด ส่งเด็กกลับบ้าน ตอนที่เพิ่งเป็นข่าวนั้น โรงเรียนงดกิจกรรมนอกสถานที่ทุกอย่าง เพื่อความปลอดภัย ตอนนี้โรงเรียนปิดเทอม ค่อนยังชั่ว ไม่งั้นต้องลุ้นว่าลูกจะถูกส่งตัวกลับบ้านหรือเปล่า เพราะตั๋วเครื่องบินก็ซื้อไว้แล้ว ถ้าเปลี่ยนก็ยุ่งเหมือนกัน สาเหตุที่ต้องมีการฆ่าเชื้อ เพราะไวรัสตัวนี้จะมีชีวิตอยู่ได้นานหลายชั่วโมงค่ะ ถ้าคนที่ติดเชื้อไอหรือจามแล้วไปจับลูกบิดประตู ราวบันได แป้นคอมพิวเตอร์ เชื้อไวรัสก็จะอยู่ที่นั่นอีกหลายชั่วโมง เราไปจับเข้าก็มีโอกาสติดเชื้อด้วย วิธีป้องกันคือคนที่ไอหรือจามไม่ควรใช้มือปิดปาก ควรใช้กระดาษทิชชู่ปิดปาก เวลาไอหรือจาม แล้วทิ้งเลย สำหรับพวกเราก้ยากเหมือนกันที่จะรู้ว่าที่สาธารณะที่ไหนไม่ควรไปจับต้อง วิธีป้องกันคือล้างมือบ่อยๆด้วยสบู่ที่มีตัวยาฆ่าแบคทีเรีย ถ้าไม่มีก็ล้างมือด้วยสบู่ธรรมดา แล้วใช้เวลานานหน่อย ถ้าไม่มีน้ำก็ล้างมือด้วยสบู่ฆ่าเชื้อแบบไม่ใช้น้ำ แต่ไม่ควรเกิน๓ครั้ง หลังจากนั้นควรล้างมือด้วยน้ำ ดูข่าวอุปกรณ์เครื่องใช้ที่เสี่ยงกับการติดเชื้อสูงคือแป้นคอมพิวเตอร์ค่ะ คนเราเวลาไอหรือจาม ก็จะใช้มือปิดปาก จากนั้นก็พิมพิ์คอมต่อเลย ไม่ได้ล้างมือ เชื้อไวรัสก็จะติดอยู่ที่แป้น เวลาใช้คอมสาธารณะเพื่อนๆระวังด้วยนะคะ จากคุณ : wheel of forture - [ 16 มิ.ย. 52 23:07:00 A:68.127.175.10 X: TicketID:048459 ]

ความคิดเห็นที่ 118 เคยเห็นบอร์ดตามคณะ ติดเรื่องการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ฟรี แก่ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง 7 โรค   สปสช.แจ้งข่าวดีผู้ป่วยด้วยโรคเรื้อรัง ทุกสิทธิการรักษา 1.8 ล้านคน มีสิทธิได้รับการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ฟรี ดีเดย์ 1 ก.ค.นี้   สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติแจ้งข่าวดีผู้ป่วยด้วยโรคเรื้อรัง ทุกสิทธิการรักษา 1.8 ล้านคน มีสิทธิได้รับการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ฟรี ดีเดย์ 1 ก.ค.นี้ พร้อมกันทั่วประเทศ นายแพทย์จักรกริช โง้วศิริ ผู้จัดการกองทุนสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรค ผู้รับผิดชอบโครงการวัคซีนไข้หวัดใหญ่ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า สปสช. ทุ่มงบประมาณ 357 ล้านบาท เตรียมขยายสิทธิประโยชน์การให้วัคซีนไข้หวัดใหญ่แก่กลุ่มเสี่ยงที่ป่วยด้วยโรคเรื้อรั้ง 7 โรค คือ หอบหืด ปอดอุดกั้นเรื้อรัง โรคหัวใจ ไตวาย หลอดเลือดสมอง โรคมะเร็งที่ได้รับยาเคมีบำบัด และเบาหวาน ในทุกกลุ่มอายุ ทุกสิทธิการรักษาพยาบาล ไม่ว่าจะเป็น สวัสดิการข้าราชการ ประกันสังคม และบัตรทองของ สปสช. ซึ่งมีจำนวนประมาณ 1 ล้าน 8 แสนคน ให้ได้รับวัคซีนฟรีพร้อมกันทั่วประเทศ 1 ก.ค.นี้ หลังจากเมื่อปีที่ผ่านมา สปสช.ได้ขยายสิทธิประโยชน์นี้ให้แก่กลุ่มเสี่ยงที่ป่วยด้วยโรคเรื้อรังทั้ง 7 ที่มีอายุมากกว่า 65 ปี จำนวน120,000 คนไปแล้ว และหากการดำเนินการได้ผลดี สปสช.จะพิจารณาขยายการฉีดให้แก่ผู้สูงอายุตั้งแต่ 65 ปี ทุกคนฟรีโดยไม่จำเป็นต้องเป็นโรคเรื้องรังทั้ง 7 ทั้งนี้การฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ถือเป็นการป้องกันความเสียหายที่เกิดจากเชื้อไข้หวัดใหญ่ได้ดีที่สุด ซึ่งแต่ละปีไทยมีผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่ 7-9 แสนราย ในจำนวนนี้มีภาวะแทรกซ้อนรุนแรง อาทิ ปอดบวม ซึ่งโรงพยาบาลต้องรับไว้รักษา 12,000-75,000 รายต่อปี โดยอัตราการป่วยตายของโรคไข้หวัดใหญ่ที่มีภาวะแทรกซ้อนอยู่ที่ร้อยละ 2.5 ซึ่งก่อให้เกิดความสูญเสียทางเศรษฐกิจปีละ 913-2,453 ล้านบาท   http://thainews.prd.go.th/previewnews.php?tb=NEWS&m_newsid=255205070296 จากคุณ : meolucky - [ 17 มิ.ย. 52 00:09:34 ]

ความคิดเห็นที่ 119 ขอบคุณคุณหมอแมวมากๆค่า ใช้คำเปรียบเทียบแบบว่านึกภาพออกเลย ^^ จากคุณ : shiro-chan - [ 17 มิ.ย. 52 00:27:22 ]

ความคิดเห็นที่ 120 ขอบคุณมาก ๆ นะคะ เป็นประโยชน์มากเลย น่าเห็นใจคุณหมอและคุณพยาบาลจัง แต่ว่า สู้ สู้ นะคะ คนไทยที่ยังขาดความรู้เรื่องโรคมีอีกเยอะ ถ้าพวกเราช่วยกันอธิบายให้คนรอบข้างเข้าใจได้ ก็น่าจะช่วยคุณหมอคุณพยาบาล และแน่นอน ช่วยเพื่อน ๆ และคนรอบข้างของเรานั่นแหละ ได้อีกเยอะเลยค่ะ ^^ จากคุณ : น้ำตาลครีม - [ 17 มิ.ย. 52 00:43:25 ]

ความคิดเห็นที่ 121 ขอบคุณค่ะ คุณหมอแมว จากคุณ : ลูกหมูหวาน - [ 17 มิ.ย. 52 00:52:43 ]

ความคิดเห็นที่ 122 ขอบคุณคุณหมอมากๆนะคะ ได้ความรู้ไปเยอะเลย ^^ แอบสงสารคุณหมออ่ะ...ท่าทางตอนนี้งานคงจะหนักเพิ่มมากขึ้นจากเดิมอีกเยอะ พักผ่อนด้วยนะคะ ^_______^ จากคุณ : i*cotton - [ 17 มิ.ย. 52 02:35:25 ]

ความคิดเห็นที่ 123 ขอบคุณสำหรับความรู้มากๆค่ะ จากคุณ : เพลงพันทาง - [ 17 มิ.ย. 52 06:49:07 ]

ความคิดเห็นที่ 124 ขอบคุณค่ะ ได้ความรู้ขึ้นกระจ่างชัดขึ้นมากค่ะ จากคุณ : อนุมานน้อย - [ 17 มิ.ย. 52 07:25:17 ]

ความคิดเห็นที่ 125 ขอบคุณคุณหมอแมวมากเลยค่ะ เมื่อวานไปศูนย์แพทย์มา.. ทั้งคุณหมอและพยาบาลใส่หน้ากากกันทั่วหน้า แต่คนไข้ไม่มีใครคาดกันสักคน เราไปรออยู่สองชั่วโมง....นั่งรอไปก็หวาดระแวงไป ไม่รู้ว่าท่ามกลางคนไข้...มีใครจะเป็นหวัด2009 แล้วแพร่เชื้อให้เราบ้าง วันนี้ต้องไปฟังผลอีก......เราเลยเตรียมผ้าคาดไว้แล้ว ถ้าเป็นไปได้..... สถานพยาบาลทุกแห่งน่าจะแจกให้คนที่เข้าไปในโรงพยาบาลทุกคน แล้วบังคับให้คาดกันเลย.... อาจจะดูว่าสิ้นเปลืองสักหน่อย....กระต่ายตื่นตูมไปนิด แต่ก็ดีกว่าให้แพร่เชื้อกันไปเรื่อยๆ เพราะมันไม่มีสัญญลักษณ์แปะไว้ที่หน้าผากซะด้วยสิว่าใครเป็นใครไม่เป็น จากคุณ : PI-TA - [ 17 มิ.ย. 52 09:19:13 ]

ความคิดเห็นที่ 126 ขอบคุณคุณหมอมากค่ะ เราจะได้รู้จักและป้องกันได้มากขึ้น จากคุณ : hey_happy - [ 17 มิ.ย. 52 09:24:50 ]

ความคิดเห็นที่ 127 มาโหวตให้นะคะ ขอบคุณมากๆ ค่ะ ปกติ ฟังผ่านๆ ข่าวเยอะจนตามไม่ไหว เข้ากระทู้นี้ได้ครบๆ ขอบคุณค่า ^^ จากคุณ : -‘•[I]dentity•’-[22] - [ 17 มิ.ย. 52 09:34:34 ]

ความคิดเห็นที่ 128 เข้ามาอ่านและเห็นด้วยกับคุณหมอแมวมากๆ ทำไมกระทรวงไม่ประกาศแบบนี้ให้เข้าใจกันซะที สื่อก็ยังออกข่าวออกแนวน่ากลัวอยู่นั่น ทำให้ประชาชนตื่นตระหนก ต้องเสียทรัพย์โดยไม่จำเป็น และเพิ่มโหลดบุคคลากรที่เกี่ยวข้องมากๆ จากคุณ : หมออีกคน (N_Bi_K) - [ 17 มิ.ย. 52 10:59:25 ]

ความคิดเห็นที่ 129 ขอบคุณคุณหมอแมวมากๆ  อ่านได้ความรู้ และเข้าใจง่ายดีค่ะ.. ว่าแต่ หมอเป็นของหลายคนจัง งั้นขอแจมด้วยคนนะคะ หมอของซันนี่... จากคุณ : อยากมีส่วนร่วมค่ะ (sunnypool) - [ 17 มิ.ย. 52 11:07:00 ]

ความคิดเห็นที่ 130 ตอนนี้เจ็บคอมาก แทบกลืนอาหารไม่ได้ แล้วเหมือนจะมีไข้ จะไปหาหมอดีไหมเนี่ยะ จากคุณ : วันๆเอาแต่เล่นเกมส์ - [ 17 มิ.ย. 52 11:28:07 ]

ความคิดเห็นที่ 131 ขอบคุณที่ให้ความกระจ่างค่ะ ^^ ชอบประโยคนี้มากเลยค่ะ "แต่ไข้หวัดใหญ่เวลากลายพันธุ์จะเปลี่ยนจากความน่ากลัวแบบชิสุไปเป็นน่ากลัวแบบโดเบอร์แมน! " 55 จากคุณ : blissfully cherry blossoms - [ 17 มิ.ย. 52 12:35:46 ]

ความคิดเห็นที่ 132 ขอบคุณคุณหมอแมวมากๆครับ เข้าใจขึ้นเยอะเลยส่วนตัวแล้วมีคนใกล้ตัวเป็นหวัดเลยกังวลแทนเค้า..ได้อ่านแบบนี้ค่อยสงบลงหน่อย ขออณุญาติส่งต่อให้เพื่อนๆรับทราบด้วยน่ะครับ จากคุณ : PandoraBox - [ 17 มิ.ย. 52 12:56:19 ]

ความคิดเห็นที่ 133 ขอบคุณค่ะ.... ตอนนี้ที่รพ. มีแต่คนโทรมาถามเกี่ยวกับเรื่อง ไข้หวัด 2009 ทั้งนั้นเลยค่ะ... จากคุณ : narusaru - [ 17 มิ.ย. 52 13:51:19 ]

ความคิดเห็นที่ 134 ...ขอบคุณมากกกกก..ค่ะ... ...เพิ่งมีประสบการณ์ตรงเกี่ยวกับเรื่องนี้ไปหมาดๆ...(เมื่อวานนี้เอง!!) ...อ่านรายละเอียดที่คุณหมออธิบายได้กระจ่างแจ้งมากๆเลย..เพิ่งเข้าใจว่าทำไมเค้าถึงปฏิบัติต่อเราแบบนั้น..อ๋อออออ..เหมือนๆกันทุกที่เลย(ชิมิ!!)... ...โรงเรียนลูกเพิ่งสั่งปิดและให้รับเด็กกลับบ้าน(รร.ประจำฯ)..แล้วเจ้ากรรมลูกก็ดั๊นนนน!!เป็นไข้หวัดกลับบ้านมาด้วย..จากที่เคยคิดว่าโรคนี้มันไกลตัวมากกก(อยู่ต่างจังหวัด)พริบตาเดียว!!!มันมาเคาะประตูบ้านของเราแล้ว... ...ต้องรีบแจ้นพาลูกไปตรวจ(ถึงบ้านปุ๊ปพาไปปั๊ป..ประมาณนั้น)..พาไปโรงพยาบาลเอกชน(ใหญ่มากที่สุดของจังหวัด)เค้าแตกตื่นกันใหญ่..แล้วรีบหาหน้ากากมาใส่กัน แล้วคุณหมอก็มาเชิญญาติไปพบ(โดยที่ไม่เรียกเด็กที่ป่วยไปดูหน้าค่าตาซักนี๊ดดดด)ให้เราใส่หน้ากากก่อนเข้าไปด้วยนะ..แล้วก็ถามๆๆแล้วก็บอกเราว่าที่โรงพยาบาลไม่สามารถตรวจให้ได้..ให้เราไปโรง'บาลประจำจังหวัด เดี๋ยวเขียนจดหมายให้... ...เราก็ไป...แบบไม่เคยไปไม่เคยใช้บริการ(คนล้นหลามมากเลย..เข้าใจคุณหมอแมวแล้วหละ)..ทำไรไม่ถูกก็เดาสุ่มไปเรื่อยยยย..จนได้เจอพยาบาลหน้าห้องฯส่งจดหมายให้..เท่านั้นแหละ!!!ความกังวลก็ปรากฏบนสีหน้าคุณพยาบาลทันที..แล้วถามเราอย่างละเอียดเราก็ตอบอย่างละเอียดทั้งเรื่องที่ถามและยังไม่(ทัน)ถาม..ถามไปถามมาแกถามว่า"ทำไมพาตรวจที่นี่"..เราก็อ้าวววว(ในใจ)ก็บ้านอยู่ที่นี่สิคะคุ้ณณณณ...(สงสัยแกจะสับสนจนเบลอ) ...จากนั้นเราก็เข้ากระบวนการทั้งหลายแหล่นั่นเลย...อย่างแรกก็คือถูกแยกจากชาวบ้านเค้าไปเลย(ได้อารมณ์สังคมรังเกียจมากๆ)..จากนั้นเราก็รอๆๆและรอ..กว่าคุณหมอจะมาถามไถ่และบอกว่าต้องกักตัวไว้ที่โรง'บาลนะต้องAdmit.หละ...เราก็อืมม!!ต้องนอนเหรอไม่นอนไม่ได้เหรอ..ตรวจเสร็จแล้วเราไปขังตัวเองที่บ้านได้มั๊ยอ่ะ^_^!!!..หมอก็บอกไม่ได้ค่ะตามขั้นตอนต้องเป็นอย่างนี้..อืมมมมม...โอเค!!..รับสภาพ(ก็ได้ฟระ!!)... ...รอจนสองทุ่ม(ไปถึงหกโมงกว่านิดๆ)..หมอก็มาเตรียมตัวจะตรวจ..แต่เอ๊ะ!!มีคนมาคุยกะหมอกันใหญ่คุยกันไปกันมา..หมอมาบอกไม่ต้องแระ...ดูจากอาการไม่น่าใช่..คุณหมอใหญ่(ผอ.โรง'บาล)บอกว่าไม่ต้องตรวจขนาดนั้นก็ได้..ให้รอดูอาการไปก่อน...ให้เอกซ์เรย์ดูปอดหน่อยละกัน...เฮ่ออออ..กว่าจะสรุป!!... ...ส่งไปเอกซ์เรย์เสร็จดูผลเสร็จ..คุณหมอก็สั่งยาให้กลับบ้าน..ทั้งหมดทั้งสิ้นใช้เวลาไปเกือบสามชั่วโมง(ก้าวขาออกจากโรง'บาลสามทุ่มพอดี)...(ลูกบอกหนูหิวข้าวแย่ละเนี่ยยย)...จ่ายค่ายากับค่าเอ็กซ์เรย์ไปนิดหน่อย..ไม่เคยใช้บริการโรงพยาบาลของรัฐฯบัตรอะไรก็ไม่มีนอกจากประกันฯของเราเอง(แอบสงสัยเรื่องบัตรอะไรต่อมิอะไรที่เค้าใช้กันว่าเด็กๆนักเรียนนี่เค้ามีกันมั๊ย..รัฐฯทำให้หรือเราต้องไปติดต่อทำให้ลูกแล้วเค้าทำหันที่ไหนบ้างงง)แต่ก็ต้องชมบุคลากรของโรงพยาบาลนะคะ..ถึงจะสับสนไปบ้างแต่ก็ปฏิบัติต่อเราดี..พูดดีน่าฟัง(ผิดจากที่คิดไว้)และพยายามทำหน้าที่ของตัวเองกันอย่างดีที่สุด... ...อ้ออออ..ลืมบอกไปก่อนปล่อยกลับมีเจ้าที่มาซักประวัติอีกชุดใหญ่..เราก็บอกไปจนหมดใส้หมดพุง..แล้วต้องพยายามบอกไปซ้ำๆว่า..ที่เรามาตรวจเพราะเราไม่แน่ใจ..จริงๆเราก็คิดว่าไม่น่า!!!แต่ประเด็นก็คือที่รร.ลูกมีคนเป็นเราก็ไม่รู้ว่าลูกไปติดเค้ามารึเปล่า(เป็นพี่ม.6ที่ดูแลรุ่นน้องป.6(เป็นพรีเฟคน่ะคะ)แล้วน้องป.6ก็มีคนเป็นแต่คนละกลุ่มเค้าไม่ได้ดูแลกลุ่มนั้น(ตามข่าวที่รู้กันมา))..ที่เรามาตรวจเพราะเราเป็นห่วงบุคคลรอบข้าง(กลัวลูกเอาเชื้อมาปล่อยคนที่บ้านและคนใกล้เคียง)อยากรับผิดชอบสังคม(ว่างั้น!!)... ...ถ้าได้อ่านบทความคุณหมอแมวซะก่อน..เราอาจยังไม่ไปโรงพยาบาลก็ได้... ...ขอบคุณความรู้ดีดีค่ะ... ปล.มาอ่านข่าวตอนเช้านี้ถึงรู้ว่างบประมาณตรวจโรคหวัด2009ใช้เงินและเวลามากมายแค่ไหน...ถ้าตรวจซะทุกคนไปคงแย่เนอะ... จากคุณ : s.sunsun - [ 17 มิ.ย. 52 14:40:11 ]

ความคิดเห็นที่ 135 ขอบคุณมากค่ะ ได้ความรู้ละ เลิกกังวลกะหวัดซะที จากคุณ : เนื้อคู่ประตูถัดไป - [ 17 มิ.ย. 52 14:46:26 ]

ความคิดเห็นที่ 136 ขอบคุณมากค่า   เดี๋ยวมันต้องเข้าไปอยู่ในบทเรียนของนู๋แน่ๆ เลยค่ะ  มาเก็บข้อมูลเอาไปเถียงกะเพื่อนๆ ก่อน  อิอิ จากคุณ : Queen_Devil - [ 17 มิ.ย. 52 15:17:57 ]

ความคิดเห็นที่ 137 ขอบคุณค่ะ คุณหมอ ตอนนี้เราก็เจ็บคอมาได้ระยะหนึ่งแล้ว กังวลเหมือนกัน เพราะ office ข้างๆก็ดันเป็นไข้หวัด 2009 ทำไงดีเนี่ยยยยย T______T จากคุณ : vnv - [ 17 มิ.ย. 52 15:26:39 ]

ความคิดเห็นที่ 138 ขอบคุณ คุณหมอแมวค่ะ ได้นำความรู้ไปใช้ได้ทันทีเลยค่ะ จากคุณ : Oases - [ 17 มิ.ย. 52 15:56:33 ]

ความคิดเห็นที่ 139 ขอบคุณค่ะสำหรับความรู้ที่ถูกต้อง ตอนนี้ ใครไอ ๆ กลายเป็นคนสังคมรังเกียจไปซะงั้น จากคุณ : เต่าสีเขียว - [ 17 มิ.ย. 52 17:14:45 ]

ความคิดเห็นที่ 140 ขอบคุณค่ะ ได้ความรู้มากเลย ขออนุญาตนำไปเผยแพร่กระจายต่อนะคะ (เผยแพร่กระจายข้อความค่ะ  ไม่ใช่กระจายไข้หวัด 2009) จากคุณ : น.ส.พังพอน - [ 17 มิ.ย. 52 18:38:32 ]

ความคิดเห็นที่ 141 ขอบคุณสำหรับข้อมูลนะคะ แต่สงสัยว่าระบบคัดกรองที่ รพ.เป็นยังไงอ่า ได้คนไม่เป็นไข้มารอหมอตรวจเนี่ย เหนื่อยตายเรยยังงี้ จากคุณ : แมวเก้าแต้ม - [ 17 มิ.ย. 52 18:55:01 ]

ความคิดเห็นที่ 142 ขอบคุณหมอแมวมากเลยครับ สำหรับข้อมูลการแพทย์ในแบบชาวบ้าน ๆ ช่วงนี้ผมน้ำมูกไหลฟึดฟัดบ่อยมาก ๆ จนบางทีนึกว่าหวัด 2009 ป่าวฟะ พอฟึดทีก็กลัวคนรอบข้างแขยง เลยต้องแอบฟึดฟัดอยู่เงียบ ๆ ช่วงนี้ทั้งผมทั้งคนรอบข้างเหมือนกลายเป็นโรคอุปทานหมู่กันไปแล้ว - -" จากคุณ : lotviler - [ 17 มิ.ย. 52 20:21:12 ]

ความคิดเห็นที่ 143 ขอบคุณสำหรับข้อมูลที่เป็นประโยชน์นะคะ ทราบข้อเท็จจริงขึ้นอีกมากเลย ตอนนี้เป็นหลอดลมอักเสบอยู่ แต่เป็นอย่างเดียว ไม่มีไข้ ไม่มีน้ำมูก...คงไม่เข้าข่ายเนอะ... ^^" จากคุณ : sweetinromance - [ 17 มิ.ย. 52 20:22:28 ]

ความคิดเห็นที่ 144 ขอบคุณคุณหมอแมวมากนะครับ กำลังกังวลอยู่เชียว เริ่มมีอาการเจ็บคอ ไอแบบระคายคอ แต่ยังไม่เป็นไข้ เพราะนอนตากพัดลม กำลังกังวลเรื่องไข้หวัดใหญ่นี้พอดี แต่ได้ความกระจ่างและหายกลัวไปเปราะหนึ่ง ช่วงนี้ก็เลยต้องดูแลรักษาตัวดีๆ แล้วรอดูอาการ...ตามที่หมอ(แมว)บอก ^^ จากคุณ : fastfolk - [ 17 มิ.ย. 52 21:16:43 ]

ความคิดเห็นที่ 145 ข้อมูลดีๆ แบบนี้สมควรทำเป็น Forward Mail อย่างยิ่งค่ะ และแน่นอนว่าไม่ลืมใส่ชื่อหมอแมวเป็นเครดิตด้วย จากคุณ : ว่านน้ำ - [ 17 มิ.ย. 52 22:31:41 ]

ความคิดเห็นที่ 146 สองอาทิตย์ก่อนไปปเจอะเลือด หมอบอกว่าอาจเป็นไข้ไทฟอยด์ ให้ยามากิน เจาะเลือดอีกทีก็ดีขึ้น แต่หมอก้เตือนว่าช่วงนี้ให้ระวังไข้หวัด เพราะจะเป็นง่ายกว่าคนอื่นเขา ตอนนี้มีไข้อยู่ค่ะ เป้นมาสองสามวันแล้ว แต่กินพาราเข้าไปก็ดีขึ้น คิดว่าพรุ่งนี้คงหายดี ถ้าไม่ดีก็จะต้องไปหาหมอละ จากคุณ : padme' amidala - [ 17 มิ.ย. 52 22:50:19 ]

ความคิดเห็นที่ 147 เจอเต็มรพ.เลยรุสึกเริ่มครั่นเนื้อตัวนิด ๆ แล้ว จากคุณ : Dr.boyze - [ 17 มิ.ย. 52 22:55:04 ]

ความคิดเห็นที่ 148 ผมเนี่ยซวยเป็นชิกุนคุนย่าอยู่แล้ว แถวๆบ้านดันมีคนเป็น 2009 อีก ถ้าเป็นทั้ง2โรคจะตายมั้ยเนี่ย จากคุณ : รอมาสิบปีแล้วสินะ - [ 17 มิ.ย. 52 23:00:01 ]

ความคิดเห็นที่ 149 Thx u I get it ! จากคุณ : avee92 - [ 17 มิ.ย. 52 23:16:50 ]

ความคิดเห็นที่ 150 ขอบคุณครับคุณหมอ จากคุณ : Sa-Cool - [ 18 มิ.ย. 52 01:16:35 ]

ความคิดเห็นที่ 151 ขอบคุณมากคับคุณหมอ  สำหรับสาระดีๆอย่างนี้ จากคุณ : คิมบอม - [ 18 มิ.ย. 52 02:07:28 ]

ความคิดเห็นที่ 152 ขอบคุณมากค่ะ คุณ หมอแมว ขอให้คุณหมอแมวและครอบครัวหายจากการป่วยและสุขภาพแข็งแรงในเร็ววันนะคะ :) แก้ไขเมื่อ 18 มิ.ย. 52 02:25:53 จากคุณ : our time in a bottle - [ 18 มิ.ย. 52 02:23:34 ]

ความคิดเห็นที่ 153 เห็นบางคนยังมีคำถามเพิ่มเติมกันอยู่นะครับ เช่นวัคซีนไข้หวัดใหญ่จะช่วยได้มั้ย ลองไปอ่านเพิ่มเติมได้ที่กระทู้นี้ครับผม http://www.pantip.com/cafe/wahkor/topic/X7982890/X7982890.html แก้ไขเมื่อ 18 มิ.ย. 52 03:52:33 จากคุณ : เซล - [ 18 มิ.ย. 52 03:51:56 ]

ความคิดเห็นที่ 154 ขอบคุณคุณพี่หมอแมวที่ช่วยกันให้ความรู้ที่ถูกต้องแก่บุคคลทั่วไปนะคะ วันก่อนอยู่เวรห้องฉุกเฉิน มีหมออยู่สามคนคนไข้หนักเป็นสิบ แถมยังมีคนมาตรวจด้วยอาการประมาณ เจ็บคอ มีนำมูกอีกประมาณเกือบร้อย ไม่ไหวล่ะค่ะ ปล่อยให้รอกันไปก่อนเลย ใครรอไม่ไหวก็กลับกันไป ช่วยไม่ได้จริงๆ นี่ห้องฉุกเฉินนะคุณ ไม่ใช่ OPD นอกเวลา พี่พยาบาลที่ขึ้นเวรด้วยกันถึงขั้นลาหยุดวันรุ่งขึ้นเลยล่ะ จากคุณ : ยำใหญ่ใส่สารพัด - [ 18 มิ.ย. 52 04:45:07 ]

ความคิดเห็นที่ 155 555 มาให้กิฟท์หมอแมวด้วยคน เพราะเรื่องนี้ทำให้แตกตื่นกันเป็นแชร์ลูกโซ่(ของแม่ชม้อย)เลย จากคุณ : เฒ่าไม่เก่า - [ 18 มิ.ย. 52 10:06:16 ]

ความคิดเห็นที่ 156 ขอบคุณคุณหมอแมวด้วยคนคะ น้องสาวเรียนอยู่สาธิตประสานมิตร มีนักเรียนป่วย2-3คนแล้ว แต่รร.ไม่แจ้งผู้ปกครองเลย เด็กๆเอามาบอกถึงรู้ เป็นห่วงน้องอยู่เหมือนกัน จากคุณ : hiphappy - [ 18 มิ.ย. 52 10:42:13 ]

ความคิดเห็นที่ 157 ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆนะคะ จากคุณ : เอื้อมดาว - [ 18 มิ.ย. 52 10:42:40 ]

ความคิดเห็นที่ 158 ขอบคุณมากค่ะ สำหรับความรู้ดีดี ^_^ จากคุณ : M_pat_M - [ 18 มิ.ย. 52 11:23:22 ]

ความคิดเห็นที่ 159 มาสาธุหมอแมวค่ะ จากคุณ : chaosy - [ 18 มิ.ย. 52 11:30:42 ]

ความคิดเห็นที่ 160 ขอบคุฯสำหรับข้อมูลดีๆค่ะ วันนี้เพิ่งไปตรวจมา หมอบอกว่าเป็นไข้หวัดใหญ่ เรามีไข้ 39 ตั้งแต่วันอังคาร ก้กินยาแก้ไข้ปกติ ไข้ก็ขึ้นๆลงๆ แต่ปวดตัวมากก ถึงมากที่สุด ก็ยังทนทำงาน เพื่อนยังแซวกันเล่นๆว่าเป็น 2009 ป่าวเนี่ย วันพุธนี่ถึงขั้นเป็นลม ก็ยังวางใจ เออ สงสัยหิวข้าว ตื่นสาย แต่เดินไม่ได้ ไปไหนใกล้บ้านต้องขึ้นสามล้อ ตลอด วันนี้เลยไปตรวจ ปรากฏว่าเป็นไข้หวัดใหญ่ หมอบอกว่าตอนนี้ยังแยกไม่ออก ไว้รอดูอาการถึงวันเสาร์แล้วค่อยมาตวจใหม่ เราไปตรวจคลินิคประจำ หมอจากโรงบาลใหญ่ เรพาะสะดวกกว่า โรงบาลคนต้องเยอะ ถ้าเราไม่เป็นไรมาก เด๊วเขาจะว่ากระต่ายตื่นตูม แต่เราเป็นแต่ไข้อย่างเดียวนะคะ ไม่ไอ ไม่มีน้ำมูก ไม่รู้เพราะเรากินวิตตามิน ซี มาตลอดหรือเปล่า ฝากให้เพื่อนๆระวังตัวนะคะ เราขายของที่สยาม ต้องเจอคนเยอะมากๆโดยเฉพาะต่างชาติ ยิ่งตอนนี้คนจีนเยอะมากๆค่ะ ใส่ผ้าปิดปากไม่รู้ช่วยได้ไหม แต่เป็นแล้วทรมาณมากค่ะ เดินแทบไม่ได้ ปวดกระดูกไปหมด จากคุณ : LadySDB - [ 18 มิ.ย. 52 11:32:34 ]

ความคิดเห็นที่ 161 แนะนำว่า งานบริหาร วิชาการ และ ปชส. มีความแตกต่าง หมอ   วิชาการ นายก  บริหาร สื่อ ปชส. ซึ่ง คนเป็นนายก รัฐบาล ก็ ต่องการไม่ให้เกิดความเลวร้าย ในภาพรวมทั้งหมด ซึ่งความรู้ของหมอ และทำงานวิชาการเพียงอย่างเดียว ไม่พอ ครับผม จากคุณ : supanut01 - [ 18 มิ.ย. 52 12:36:03 ]

ความคิดเห็นที่ 162 ขอบคุณสำหรับข้อมูลที่อ่านแล้วเข้าใจได้ง่ายครับ ชอบประโยคนี้ ไข้หวัดใหญ่เวลากลายพันธุ์จะเปลี่ยนจากความน่ากลัวแบบชิสุไปเป็นน่ากลัวแบบโดเบอร์แมน! เข้าใจเปรียบเทียบครับ เห็นภาพเลย จากคุณ : Kisugi - [ 18 มิ.ย. 52 13:32:15 ]

ความคิดเห็นที่ 163 ไม่เคยอยากโหวตกระทู้เท่านี้เลย ขอบคุณคุณหมอมากๆ จากคุณ : The Different light - [ 18 มิ.ย. 52 15:54:56 ]