ตอนนี้เป็นตอนที่เราจะได้เห็นความสามารถ "ปืนคู่" ในขั้นต้นของดาบเตารีดกันแล้ว แถมยังอาจจะพ่วงความสามารถที่นึกไม่ถึงของใครอีกคนมาให้เห็นด้วยอีกต่างหาก
ซึ่งจะเป็นอะไรนั้น เชิญติดตามอ่านใน Spoil ได้เลยครับ :)
เปิดตอนมาต่อจากตอนที่แล้วที่สตาร์คปลดปล่อยดาบออกมาสู้กับชุนซุย โดยหลังจากปลดปล่อยดาบเสร็จ สตาร์คก็ค่อยๆ ยันตัวขึ้นยืนผงาดเต็มส่วนสูงให้เห็นร่างในสภาพปลดปล่อยแบบชัดๆ (จากตรงนี้จะเห็นว่า เสื้อชายยาวที่เห็นอยู่ในตอนที่แล้วจริงๆ เป็นเสื้อนอก ส่วนข้างในสวมเสื้อติดกระดุมเป็นแถบๆ แบบคาวบอย แถมตรงเข็มขัดด้านหน้ายังติดพู่ 2 อันคล้ายหางหมาป่าอีก...อิเมจนักเลงปืนตะวันตกสุดๆ)
เอสปาด้าลำดับ 1 ยกปืนในมือซ้ายขึ้นมอง แล้วพึมพำกับปืนนั้นเบาๆ "เอาละ...ไปลุยกันเลย ลิลิเน็ต"
พูดจบก็ชะงักอยู่ท่าเดิมเช่นนั้นครู่หนึ่งเหมือนจะรอคำตอบของ "อีกฝ่าย" ครั้นไม่ได้รับคำตอบ สตาร์คก็หงุดหงิด เฮดบัตใส่ปืนซ้ายของตัวเองเสียงดังก๊อง
"โอ๊ย เจ็บนะ!!" เสียงร้องโวยวายของลิลิเน็ตดังออกมาจากปืนกระบอกซ้ายทันควัน "ถ้าหัวข้าแบะไปจะทำไงยะ สตาร์คงี่เง่า"
"หนวกหูเฟ้ย" สตาร์คตะโกนใส่ "ถ้าเจ้าไม่มีกะจิตกะใจจะร่วมมือก็แย่สิ ว่าแต่ร่างกายเป็นแบบนั้นจะไปรู้ได้ไงฟะว่าตรงไหนหัวตรงไหนหาง!!"
"ก็บอกไปตั้งกี่ครั้งแล้วไม่ใช่เรอะยะว่าตรงปากกระบอกเป็นหัว...โอ๊ยยยยย!!!!!" ท่อนท้ายร้องเสียงหลงด้วยความเจ็บปวดเพราะโดนสตาร์คเอานิ้วหยิกๆ บิดๆ ตรงฐานนกปืนเข้าให้ "ตรงนั้นมันก้นข้านะเฟ้ย!! นี่รู้แต่จงใจใช่มั้ย ห๊าาาาาาาาา!!!"
จังหวะนั้นเองที่มีอะไรบางอย่างพุ่งเข้าใส่ สตาร์คปรายตามองตามทันเห็นแต่เงาดำวูบวาบ...ซึ่งแท้จริงคือหมวกงอบที่ชุนซุยปามาบังหน้าสตาร์คเพื่อบดบังการเคลื่อนไหวของตัวเอง ก่อนจะเจ้าของหมวกจะฉวยโอกาสที่สตาร์คมัวแต่งง กระโจนเข้าหาพร้อมเงื้อดาบฟันใส่เต็มเหนี่ยว
แต่สตาร์คก็ไวทายาด พลิ้วตัวหนีฉากออกไปตั้งหลักในระยะห่างออกไป พร้อมหันมาพึมพำอย่างไม่พอใจนักที่ชุนซุยฉวยโอกาสที่คู่ต่อสู้ไม่ทันตั้งตัว (กำลังทะเลาะกับอาวุธตัวเองอยู่) เข้าเล่นงาน แต่ชุนซุยไม่รอให้สตาร์คบ่นจบ เขาตวัดดาบคู่วาบ ซัดบางอย่างคล้ายม่านควันไปล้อมร่างคู่ต่อสู้ แล้วดีดตัวกระโจนขึ้นสูงพร้อมตั้งดาบไขว้กันเป็นรูปกากบาท พร้อมขยับปากประกาศชื่อท่าไม้ตาย
"ทาคาโอนิ" (อสูรภูผา)
ยังไม่ทันที่ชุนซุยจะปล่อยไม้ตาย สตาร์คกลับสะบัดแขนวาบ เล็งปืนในมือขวาตรงมายังชุนซุย แล้วยิงคลื่นพลังขนาดใหญ่ลักษณะคล้ายซีโร่จากปืนนั้นเข้าใส่ทันที ลำแสงซีโร่กลืนทุกสิ่งในรัศมีเบื้องหน้า...รวมทั้งร่างของชุนซุย...หายไปในพริบตา
แต่สตาร์คมองออกว่าชุนซุยไม่ได้โดนกลืนหายไปในแสงนั้นจริง เขาชี้ปากกระบอกปืนในมือซ้ายออกไปข้างตัวอย่างรวดเร็ว ณ ตำแหน่งที่ดูเผินๆ เหมือนไม่มีใครอยู่
ทว่าในชั่ววินาทีต่อมา ชุนซุยผู้น่าจะถูกซีโร่กลืนหายไปแล้วกลับใช้ก้าวพริบตาหายตัววับมาปรากฏ ณ ตำแหน่งนั้นพอดี ไม่มีคลาดเคลื่อนไปแม้แต่นิดเดียว ร่างกายของหัวหน้าหน่วยเจ้าสำอางค์ยังคงเรียบร้อยเหมือนเดิม ไม่มีร่องรอยบุบสลายที่ตรงไหน... ยกเว้นแขนเสื้อข้างซ้ายที่เป็นรอยไหม้จากซีโร่เล็กน้อย
"...ขอพูดต่อจากที่โดนขัดตะกี้หน่อยนะ" เอสปาด้าอันดับ 1 เอ่ยปากทั้งๆ ที่ยังจ้องปืนเล็งไว้ "เร่งไปหน่อยแล้วมั้ง ทำแบบนี้ไม่เข้ากับเจ้าเลยนะ คุณหัวหน้าหน่วย"
"แหมๆๆ" ชุนซุยตอบกลับแย้มยิ้ม ไม่นำพาต่ออาการบาดเจ็บที่แขนเลยสักนิด "จริงๆ กะจะฉับเดียวร่วงตั้งแต่ดาบแรกเลยนะนั่น... ต้องมาวิ่งหลบไอ้นั่นไปมาหลังปลดปล่อยดาบแล้วมันไม่ค่อยเท่เท่าไหร่น่ะ ที่สำคัญ...ไอ้ที่ปืนนั่นยิงออกมา... ใช่ 'ซีโร่' รึเปล่า?"
สตาร์คนิ่งเงียบไปครู่หนึ่งจึงตอบรับ "...ใช่"
"งั้นถ้าข้าจะคิดว่าปืนนั่น 'ยิงอย่างอื่นนอกจากนั้นออกมาได้อีก' ล่ะ จะเป็นไรมั้ย?" ชุนซุยถามรุกต่อทันที
"...ได้ซะที่ไหน"
"โกหกไม่เก่งเลยน้า" ชุนซุยย้อนเรียบๆ สไตล์มีดโกนอาบน้ำผึ้ง "ไหนๆ ก็ลุยกันมาขนาดนี้แล้ว ปิดไว้ก็ไม่ช่วยอะไรหรอกมั้ง"
"...นั่นมันคำพูดของข้าต่างหาก" คราวนี้สตาร์คเป็นฝ่ายย้อนบ้าง เขาลดปืนในมือซ้ายลง แล้วเปลี่ยนเป็นยกปืนในมือขวาขึ้นเล็งแทน "ถึงต้องบังคับกัน ข้าก็จะทำให้เจ้าต้อง 'ปลดปล่อยสวัสดิกะ' ออกมาสู้ให้ได้"
พูดจบก็รวมพลังวิญญาณมาไว้ที่ปืนเตรียมยิงกระสุนซีโร่ต่อทันที ชุนซุยเห็นดังนั้นก็ร้องเตือนด้วยความหวังดี (?) ทันทีว่า อย่าดีกว่าน่า ถึงปลดปล่อยดาบแล้วจะเก่งขึ้นขนาดไหน ยิงแต่ซีโร่ธรรมดาอย่างเดียวก็เอาชนะไม่ได้...
ทว่า คำเตือนของนายเหนือแห่งหน่วย 8 กลับต้องชะงักค้างอยู่แค่นั้น รอยยิ้มกึ่งล้อเลียนเปลี่ยนไปเป็นยิ้มค้างโดยพลัน เมื่อสัมผัสได้ถึงพลังกดดันวิญญาณอันมหาศาลเหนือกว่าซีโร่ธรรมดาลิบลับ
"ซีโร่ เมทราเญ็ตต้า" (กระสุนซีโร่ไร้ขีดจำกัด)
สิ้นเสียงประกาศชื่อท่าไม้ตาย ก็บังเกิดเสียงตูมสนั่นอันเป็นลักษณะเดียวกับยามฮอลโลว์ระดับเมนอสยิงซีโร่ ต่างกันที่คราวนี้เสียงนั้นไม่ได้ดังขึ้นครั้งเดียวอย่างปกติ แต่ดังขึ้นถี่ยิบติดกันหลายสิบครั้ง ชนิดที่เสียงแรกยังไม่ทันจาง เสียงที่สองเสียงที่สามก็ดังตามมาเป็นทอดๆ ไม่ทิ้งช่วงห่างกันเลยแม้แต่น้อย
แทบจะจังหวะเดียวกัน ลำแสงสีเข้มนับสิบๆ สายก็พุ่งออกไปจากปากกระบอกปืนของสตาร์คอย่างต่อเนื่องราวกับรัวปืนกล ราวกับคลื่นพลังที่ต้องใช้เวลาชาร์จนานแสนนานกว่าจะยิงออกอย่างซีโร่เป็น "บาล่า" วิชายิงกระสุนพลังวิญญาณขนาดเล็กแบบเดียวกับซีโร่แต่ยิงรัวได้ยังไงยังงั้น
หากเป็นซีโร่แค่นัดเดียว แม้จะเป็นซีโร่ของเอสปาด้าอันดับ 1 ชุนซุยคงพอมั่นใจว่าเกร็งพลังต้านเอาไว้อยู่ แต่อีกฝ่ายเล่นยิงมาเป็นชุดๆ เหมือนรัวปืนกลทีละเป็นสิบๆ นัด แถมแต่ละนัดยังแรงพอๆ กับซีโร่ธรรมดา (หรือเหนือกว่าซีโร่ธรรมดา) อีกต่างหาก เจอแบบนี้ต่อให้ชุนซุยแกร่งยิ่งกว่านี้ก็ไม่มีทางต้านรับเอาไว้ได้ จำต้องใช้ก้าวพริบตาชิ่งหลบห่ากระสุนซีโร่ที่สาดเข้ามาออกไปด้านข้าง
แต่สตาร์คไม่ยอมเปิดโอกาสให้คู่ต่อสู้หนี เขากราดปืนตามยิงซ้ำทันที เล่นเอาชุนซุยตีหน้าเป๋อเหลอร้องเสียงหลงว่าแบบนี้โกงกันนี่นา
หากพริบตาก่อนที่ห่ากระสุนซีโร่จะตามชุนซุยทัน...
"โซเกียวโนะโคโตวาริ" (ครรลองมัจฉาคู่)
เสียงประกาศชื่อดาบดังก้อง พร้อมกับร่างปราดเปรียวของอุคิทาเกะพุ่งตัดเข้ามาระหว่างชุนซุยกับสตาร์คอย่างรวดเร็ว ดาบฟันวิญญาณ "โซเกียวโนะโคโตวาริ" ในสภาพปลดปล่อยขั้นต้นชี้ตรงไปยังสตาร์ค พริบตานั้น ก็มีคลื่นพลังลักษณะคล้ายคลื่นพลังซีโร่ของพวกฮอลโลว์พุ่งจากปลายดาบเข้าใส่สตาร์ค ทำเอาสตาร์คใจหายวาบ จะกราดปืนมายิงสวนให้หายไปก็ไม่ทัน จำต้องหยุดยิงแล้วใช้โซนีดก้าวหลบพ้นไปได้ฉิวเฉียด
หลังก้าวหลบพ้นแล้ว สตาร์คก็หันมาเผชิญหน้ากับอุคิทาเกะ แล้วถามด้วยน้ำเสียงเอาเรื่องว่า
"...อะไร...!? เมื่อกี้มัน...ซีโร่งั้นรึ...!?"
"ยิงชาร์จช็อต (ซีโร่) รัวติดกันได้แบบไม่จำกัดจำนวนครั้ง" ...คือความสามารถแรกของปืนคู่ของดาบเตารีดครับ ท่านผู้อ่านทางบ้าน...(ฮา) อยากรู้แฮะว่านอกจากซีโร่แบบรัวไม่นับแล้ว ไอ้ปืนคู่กระบอกนี้ยังยิงอะไรได้อีกบ้างแฮะ เพราะดูจากความเป็นเอสปาด้าอันดับ 1 + ความเท่ที่สุดแสนจะกินขาดแล้ว การให้ปืนคู่มีความสามารถแค่ "ยิงซีโร่รัว" ยังออกจะธรรมดาไปนิด
อนึ่ง อ่านตอนนี้แล้วต้องบอกเลยว่าชุนซุยแสบจริงๆ ทั้งกระโจนเข้าเล่นงานโดยที่ศัตรูยังไม่ทันตั้งตัว (ซึ่งข้อนี้จะว่าขี้ขลาดไม่ได้ เพราะในสนามรบใครเปิดช่องว่างหมายถึงเชื้อเชิญให้ประเคนท่าใส่นั่นแล) ทั้งลุยแหลกไม่ฟังคู่ต่อสู้พูดพล่ามมากความ (อันนี้ไม่รู้จารย์แกจงใจล้อเลียนตัวเองในตอนเก่าๆ ที่ให้ตัวละครมาพล่ามโน่นพล่ามนี่ระหว่างสู้เยอะเกินไปรึเปล่า) แถมลูกล่อลูกชนยังแพรวพราวอีกต่างหาก
ที่น่าตกใจอีกเรื่องก็คือ "อุคิทาเกะปล่อยท่าไม้ตายคล้ายซีโร่ได้ด้วยเรอะ" จะเกี่ยวข้องอะไรกับคำประกาศปลดปล่อยยาวเฟื้อยของพี่แกที่ว่า "จงเป็นโล่ให้ข้าดุจเกลียวคลื่น จงเป็นดาบให้ข้าดุจสายฟ้า" กับความสามารถดาบธาตุน้ำ + สายฟ้าของแกรึเปล่า เพราะเท่าที่เคยเห็นในเกมก็แค่ซัดน้ำปล่อยสายฟ้า ไม่ก็ใช้ร่วมกันแค่นั้นเอง ไม่เคยเห็นความสามารถนี้เลยแฮะ (หรืออาจจะเป็นแค่ท่าสะท้อนลำแสงกลับธรรมดาๆ อย่างที่หลายท่านทั้งในญี่ปุ่นและบอร์ดต่างประเทศอื่นๆ ตั้งข้อสังเกตกันไว้ อันนี้ก็มีลุ้นนะ)
รอดูตอนหน้าโลดครับ :)
ปล. ภาษาสเปนวันนี้
เมทราเญ็ตต้า...มาจากคำ "Metralleta" แปลว่า "ปืนกล" ครับ
แก้ไขเมื่อ 18 มิ.ย. 52 22:21:21
แก้ไขเมื่อ 18 มิ.ย. 52 22:09:26