ความคิดเห็นที่ 1 การแพร่เชื้อทางอากาศเกิดขึ้นได้ยังไง เวลาเราหายใจ พูด ไอ หรือจาม จะมีละอองฝอยของหยดน้ำลอยออกมาจากร่างกายของเราครับ (Droplets) หยดน้ำเล็กเหล่านี้สามารถลอยฟุ้งไปในอากาศได้และในระหว่างที่มันยังไม่ระเหยไป เชื้อโรคที่อยู่ในนั้นก็ยังสามารถแพร่ไปยังคนรอบข้างได้อยู่ ระยะอันตรายคือ 1 เมตร ส่วนระยะสำหรับการจามอาจจะไกลถึง 3 เมตร ดังนั้นถ้าอยู่ในกรุงเทพฯก็แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยครับที่เราจะหลีกเลี่ยงละอองเหล่านี้ หากมันลอยออกมาจากปากของคนที่ป่วยแล้ว จากคุณ : หมอแมว - [ 21 มิ.ย. 52 22:39:08 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ถ้าไม่มีหน้ากากล่ะ ทำอย่างไร ถ้าไม่มีหน้ากาก ให้จามใส่ทิชชู่ครับ จากนั้นก็ทิ้ง ถ้าไม่มีจริงๆก็ควรจะใช้อะไรมาบังปากไว้ .... แต่ปัญหาคือถ้าเราใช้มือ พอเราเดินไปก็จะเอาน้ำลายไปป้ายที่อื่นๆได้ ดังนั้นจึงขอแนะนำว่าเวลาไอจามให้ไอจามใส่ข้อพับแขน เป็นคำแนะนำที่กองควบคุมโรคของอเมริกาแนะนำกันครับ ภาพจาก http://askdrc.missouri.edu/prevention.php จากคุณ : หมอแมว - [ 21 มิ.ย. 52 22:44:34 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ใส่หน้ากากอย่างไร วิธีการใส่หน้ากากอนามัยอย่างถูกต้องก็คือ การใส่แล้วทำให้อากาศผ่านตัวหน้ากากครับ เพราะหน้ากากจะได้กรองเอาละอองไป ส่วนการใส่หน้ากากที่ไม่มิดชิดหรือมีรูรั่วจะไม่เกิดประโยชน์ในแง่การกรองเลย(อาจจะแค่ป้องกันละอองใหญ่ๆที่กระเด็นมาโดนหน้าเท่านั้น ภาพตัวอย่าง 1. ใสN95 แต่ใส่ไม่มิด .... ป้องกันละอองไม่ได้ ไม่เท่ห์ 2. หน้ากากทักซิโด้ ไม่คลุมจมูก ... ป้องกันไม่ได้ ... แต่เท่ห์ 3. หน้ากากแสงจันทร์ ... โอเคครับ คลุมมิด พอป้องกันได้ ... ดูไม่เท่ห์เท่าไหร่ แต่เลือกเท่ห์หรือเลือกติดหวัดก็ต้องเลือกเอาล่ะครับ ภาพจากinternet จากคุณ : หมอแมว - [ 21 มิ.ย. 52 22:46:12 ]

ความคิดเห็นที่ 5 สำหรับคนที่ไปซื้อหน้ากากอนามัยมาจากร้านต่างๆ แล้วไม่แน่ใจว่าใส่ถูกหรือไม่ ผมทำเป็นคลิปมาให้ดูครับ แก้ไขเมื่อ 21 มิ.ย. 52 23:11:10 แก้ไขเมื่อ 21 มิ.ย. 52 23:10:44 จากคุณ : หมอแมว - [ 21 มิ.ย. 52 22:46:49 ]

ความคิดเห็นที่ 7 เรื่องต่อไปคือเรื่องของการล้างมือครับ บางคนอาจจะสงสัยว่าเชื้อหวัดมันมากับอากาศนี่นา แล้วเราจะล้างมือไปทำไม ช่วยอะไรได้หรือ .... ต้องย้อนกลับไปดูที่ภาพในความเห็นที่ 1 ครับ จะเห็นว่าขนาดของอนุภาคที่ออกมามีตั้งแต่เล็กไม่กี่ไมครอน ไปจนกระทั่งถึง 1000 ไมครอน เมื่ออนุภาคลอยออกมา พวกที่เล็กมากๆ จะระเหยไปและเชื้อก็ตายไป พวกที่เล็กปานกลางลอยไปได้ประมาณ1-3เมตร และลอยเข้าจมูกไปได้ ส่วนพวกที่ขนาดใหญ่ๆ บางทีจะติดตามมือที่เอาไปบังปากเวลาไอ จากนั้นก็ไปจับลูกบิดประตู จับโต๊ะ ทำให้เชื้อไปเปื้อนตามพื้นผิว คนที่เดินตามมาทีหลังจับเข้าไป เชื้อก็ไปอาศัยความชื้นจากเหงื่อในมือทำให้อยู่ได้นานขึ้น สุดท้ายพอเอามือไปขยี้ตา แคะจมูก หรือหยิบของเข้าปาก เชื้อโรคก็แล่นเข้าได้อย่างรวดเร็ว ภาพความเห็นที่ 1 มาจาก http://www.camfilfarr.com/cou_camfil/industries/care/images/SneezeCoughTalkGraph.gif เว่อร์ไปหรือเปล่า เชื้อมันจะติดตามมือได้เลยหรือไง บางคนอาจจะมองว่าเว่อร์เกิดไปหรือมาทำให้ตระหนก ... งั้นมาฟังเรื่องนี้ครับ ชาย พิการแขนขาขยับไม่ได้คนนึงไปรพ.เพื่อไปตรวจร่างกายตามนัดปกติ เมื่อไปถึงเจ้าหน้าที่ก็ได้ตรวจหน้าท้องของชายคนนั้น เป็นหน้าท้องแห้งๆไม่ได้สกปรกอะไร คุณคิดว่าจะต้องล้างมือหรือไม่ ... ทั้งที่ไม่มีอะไรเปียกชื้น คำ ตอบอยู่ในภาพครับ ... ชายพิการคนนั้นมีการตรวจพบว่ามีเชื้อMRSAซึ่งเป็นเชื้อโรคดื้อยา อยู่ในช่องจมูก ... และเมื่อเอามือเจ้าหน้าที่ที่ตรวจหน้าท้องไปป้ายเจลเพาะเชื้อ ก็พบว่ามีเชื้อ MRSA ซึ่งเป็นเชื้อดื้อยาอยู่จริงๆ ดังนั้นหวัด แม้ว่าจะเป็นไวรัสซึ่งแตกต่างจากMRSA แต่ว่ามันก็มีความเสี่ยงที่จะติดได้ครับ ที่ สำคัญ ... ที่เราเน้นกัน เราไม่ได้ป้องกันแต่หวัดอย่างเดียว ... เราต้องการป้องกันโรคอื่นๆไปด้วยพร้อมกัน ซึ่งการล้างมือนั้นช่วยได้ ภาพจาก   http://content.nejm.org/cgi/content/full/360/3/e3 จากคุณ : หมอแมว - [ 21 มิ.ย. 52 22:50:07 ]

ความคิดเห็นที่ 8 การล้างมือที่ถูกวิธีมีอย่างไร จากการรณรงค์ให้ล้างมือเป็นเวลา 10 กว่าปี อุปสรรคสำคัญคือจำไม่ได้ว่าต้องล้างอย่างไรครับ สมัยสัก 10 ปีก่อน มีการล้างมือ 7 ขั้นตอน ซึ่งพอสอบแบบให้ท่องผมก็จำไม่ได้หรอกครับ (แต่ทำเป็น) และคิดว่านั่นคือสาเหตุนึงที่คนอาจจะยังไม่ชอบการล้างมือให้ถูกวิธี เพราะคิดว่ายุ่งยากจนเกินไปกับการมานั่งจำว่าต้องล้างอย่างไร ภาพจากlinkนี้เป็นภาพที่ผมเห็นภาพแรกๆเมื่อสัก 10 ปีก่อน และค่อนข้างชัดเจนครับ อาจจะนำไปลองหัดกันได้ แต่ถ้ารู้สึกว่ายังมากวิธีเกินไป เดี๋ยวเรามาดูวิธีอื่นกันครับ ที่มาภาพใส่ไว้ในรูป จากคุณ : หมอแมว - [ 21 มิ.ย. 52 22:51:30 ]

ความคิดเห็นที่ 9 การล้างมือ 6 ขั้นตอน การล้างมือ 6 ขั้นตอนนี้เป็นวิธีที่ทางผมรู้มาจาก วิทยาลัยแพทยศาสตร์กรุงเทพมหานครและวชิรพยาบาล  ครับ รายละเอียดคือ กระทรวงสาธาณสุข วิทยาลัยแพทยศาสตร์กรุงเทพมหานครและวชิรพยาบาล และหน่วยงานที่รับผิดชอบด้านสาธารณสุขได้ประชาสัมพันธ์ให้ทุกคนล้างมือให้ ครบ 6 ขั้นตอนเพื่อลดการติดเชื้อ วิธีจำการล้างมือ 6 ขั้นตอนแบบใหม่ง่ายมาก ๆ    * หน้ามือ 2 ถูฝ่ามือซอกนิ้ว ปลายนิ้ว และลายเส้น    * หลังมือ 2 ถูหลังมือ ซอกนิ้วเน้น ข้อต่าง ๆ    * หมุน 2 หมุนหัวแม่มือ และข้อมือ อย่างเบาบาง จริงๆพออ่านเข้าแล้ว มันมีแค่สามขั้นตอนเท่านั้นเองครับ เพียงแต่ว่าเค้านับมือทั้งสองข้างแยกขั้นตอนกัน ดังนั้นง่ายมากๆเลยจริงๆ รายละเอียดเข้าไปดูได้ที่link http://www.vajira.ac.th/kt/modules.php?name=News&file=article&sid=254 มีfile PDF ด้วย ถ้ายังไม่แน่ใจว่าล้างยังไง เรามาดูคลิปตัวต่อไปกันครับ วิธีการล้างมือแบบ 6 ขั้นตอน จากคุณ : หมอแมว - [ 21 มิ.ย. 52 22:52:17 ]

ความคิดเห็นที่ 10 และคลิปนี้เป็นการล้างมือแบบเดิม แต่ผมทำเน้นๆให้ดูมือเดียว เห็นกันจะๆครับ จำง่ายๆครับ ส่วนที่จะเข้ามามีปัญหาคือส่วนที่แคะแกะเกาหรือปลายนิ้วนั่นเอง ... ดังนั้นเวลาล้างทุกครั้งต้องใช้ปลายนิ้วถูลงไป จำอะไรไม่ได้เลย ก็ล้างเน้นปลายนิ้วมือครับ ... ส่วนสิ่งที่บางคนอาจจะสังเกตเห็น เวลาสาธิตล้างมือผมไม่ใส่แหวนครับ ...  จริงๆทำเฉพาะเวลาเข้าห้องผ่าตัด เวลาเข้าห้องน้ำขืนถอดอาจจะหายได้ ดังนั้นอนุโลมไม่ต้องถอดแหวนก็ได้ครับ ปล. การแนะนำว่าไม่ต้องถอดแหวน ทำให้กระทู้นี้ไม่สามารถเข้าห้องสวนลุมได้ครับ ... มันผิดหลักวิชาการทฤษฎี   อย่างที่บอกครับ วันนี้เราสอนแบบบ้านๆ จากคุณ : หมอแมว - [ 21 มิ.ย. 52 22:53:14 ]

ความคิดเห็นที่ 11 สรุปแล้ว มาตรการแบบบ้านๆในการป้องกันเชื้อหวัดและเชื้อโรคที่มากับอากาศ มีดังนี้ครับ 1. ไอจามใส่ผ้าหรือกระดาษทิชชู่ (ใช้แล้วทิ้งให้เป็นที่) 2. ถ้าไม่มีจริงๆ ให้ไอจามใส่ข้อพับแขน 3. ถ้ามีหน้ากากอนามัย ก็ให้คนที่ไอใส่ 4. ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ หรือน้ำ+สบู่ โดยล้างตามขั้นตอนทั้ง6 ง่ายแค่นี้เองครับ ความจริงแล้วเรื่องการรณรงค์การรักษาสุขอนามัยในการล้างมือและการสวมหน้ากากอนามัยนี้ ได้มีมานานแล้วครับ เมื่อประมาณ 10 ปีก่อน โรงพยาบาลรัฐขนาดใหญ่หลายแห่งได้ติดป้ายรณรงค์การล้างมือและวิธีล้างมือไว้ ... แต่หลังจากนั้นไม่นานมีหนังสือพิมพ์บางฉบับนำข่าวไปลงว่าที่คนป่วยติดเชื้อในกระแสเลือดตายในรพ.กันมากเพราะหมอไม่ยอมล้างมือ ?!? แล้วข่าวก็เงียบหายไป เมื่อหลายปีก่อน คุณหมอ นพ.มนูญ ลีเชวงวงศ์ (ที่รักษาBigD2B) ได้รณรงค์เรื่องการล้างมือและการใช้หน้ากากอนามัยในผู้ที่เป็นหวัด ... และก็เช่นเดิมคือขนาดทำเป็นโครงการมีนักร้องมาประชาสัมพันธ์ สุดท้ายก็เหมือนเดิม ... ช่วงไข้หวัดSARS ไข้หวักนก การประชาสัมพันธ์ทางพื้นที่ข่าวทำให้มันกลายเป็นโรคที่รุนแรงน่ากลัว ... จนคนป่วยหลายคนก็ไม่ยอมใส่หน้ากากเพราะกลัวถูกรังเกียจ มาครั้งนี้ไข้หวัด 2009 จึงถือเป็นโอกาสที่ดีที่เราจะมาเริ่มต้นกัน ล้างมือให้สะอาด ใส่หน้ากากอนามัยกันเถอะครับ จากคุณ : หมอแมว - [ 21 มิ.ย. 52 22:57:39 ]

ความคิดเห็นที่ 12 เป็นกระทู้ที่ดีมากๆเลยคะ ขอบคุณคุณหมอแมวนะค่ะ จังซี่มันต้องโหวตตตตต จากคุณ : juri_gal - [ 21 มิ.ย. 52 23:00:45 ]

ความคิดเห็นที่ 13 โหวตตตตตตตตตตตต จากคุณ : จ่าพิชิต ขจัดพาลชน - [ 21 มิ.ย. 52 23:12:39 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ขอบคุณค่ะคุณหมอแมว.... ขอโหวตสำหรับความรู้ดีๆแบบนี้ ^___^ จากคุณ : pimanpui (pimanpui) - [ 21 มิ.ย. 52 23:21:43 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ขออนุญาตนำบทความไปลงที่เวบร้านเรานะ ^^ (จริงๆเอาไปตั้งแต่บทความที่แล้วแล้วล่ะ อิอิ) http://icare-health.goodbb.net/forum.htm จากคุณ : sirpass - [ 21 มิ.ย. 52 23:26:26 ]

ความคิดเห็นที่ 16 แขนขาวจัง~ จากคุณ : ไอ้แอนนนนน - [ 21 มิ.ย. 52 23:34:06 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ขอบคุณนะค้า จากคุณ : JJคุง - [ 21 มิ.ย. 52 23:43:48 ]

ความคิดเห็นที่ 18 เข้ามาโหวตครับ เห็นที่หว้ากอแล้ว ที่เฉลิมไทยควรจะมีเหมือนกัน จากคุณ : djnyzzz - [ 21 มิ.ย. 52 23:56:55 ]

ความคิดเห็นที่ 19 มีประโยชน์มากเลยค่ะ โดยเฉพาะ วิธีการล้างมือและการจาม เคยเห็นพวกหมอๆเค้าทำกัน เพิ่งรู้นะเนี่ย ว่ามันมีวิธีเป็นขั้นตอนแบบนี้ จะเอาไว้ไปสอนลูกค่ะ จากคุณ : นานๆมาที - [ 22 มิ.ย. 52 00:08:40 ]

ความคิดเห็นที่ 20 เข้ามาโหวต กระทู้มีประโยชน์ จากคุณ : samapapa - [ 22 มิ.ย. 52 00:37:04 ]

ความคิดเห็นที่ 21 โหวตๆๆๆๆ จากคุณ : หมื่นเทพยุทธจอมราชันณ์ - [ 22 มิ.ย. 52 00:39:06 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ขอบคุณ หมอแมว สำหรับบทความดี ๆ ครับ จากคุณ : Nemo2004 - [ 22 มิ.ย. 52 02:50:42 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ขอบคุณหมอแมวด้วยคนค่ะ..... จากคุณ : i'm sad - [ 22 มิ.ย. 52 07:18:08 ]

ความคิดเห็นที่ 24 โหวต!!!!! จากคุณ : Akaba - [ 22 มิ.ย. 52 07:29:51 ]

ความคิดเห็นที่ 25 มือสวยจังค่ะ ^๐^ จากคุณ : ohhiroki - [ 22 มิ.ย. 52 08:01:02 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ขอบคุณ หมอแมวค่ะ   ตอนนี้ยังล้างมือไม่ครบ 6 ขั้นตอนนะเรา จากคุณ : เจี๊ยบใจ - [ 22 มิ.ย. 52 08:03:34 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ช่วงนี้ถ้าไม่แน่ใจจะใช้ข้อศอกแทนมือ สงสัยต้องจามใส่หัวเข่า จากคุณ : just kidding - [ 22 มิ.ย. 52 08:09:11 A:58.64.51.58 X: TicketID:000386 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ที่ Office มีคนนึง เห็นแก่ตัวมาก เค้าป่วยและไอจาม ตลอดเวลาและไม่เคยปิดปาก ทุกคนรังเกียจ พอมีคนไปบอกให้ใส่หน้ากาก หรือปิดปาก เค้าบอก เค้าไม่ปิด ใครกลัวติดก็ไม่ต้องมาทำงาน ใครอยากใส่หน้ากาก ก็ใส่กันเอาเอง แต่เค้าไม่ทำ และไม่สน ++ หมอแมวคะ มีเชื้อตัวไหนฉีดให้คนพวกนี้สมองฝ่อตายบ้างคะ ไม่ไหวจะเคลียร์จริง ๆ ++ จากคุณ : Bubbly - [ 22 มิ.ย. 52 08:20:05 ]

ความคิดเห็นที่ 29 หมอแมวเป็นผู้ชายที่แต่งงานแล้วสินะ จากคุณ : sassathx - [ 22 มิ.ย. 52 08:25:32 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ขอบคุณหมอแมวค่ะ จากคุณ : Suomi - [ 22 มิ.ย. 52 08:57:27 ]

ความคิดเห็นที่ 31 โหวตๆ จากคุณ : p_n - [ 22 มิ.ย. 52 08:58:48 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ขออนุญาต print ออกมาทำเป็นเอกสารแจกลูกค้าที่ร้านยานะครับ จากคุณ : อาว์เอ็ด - [ 22 มิ.ย. 52 09:04:26 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ขอบคุณมากคับพ้ม จากคุณ : หลงรักโกเบมาตลอด (DO is On The WAY) - [ 22 มิ.ย. 52 09:14:55 ]

ความคิดเห็นที่ 34 อ่านแล้ว ต้องพยายามทำตาม และเผยแพร่ความรู้นี้ ต่อๆกันด้วย ^^ จากคุณ : โควี - [ 22 มิ.ย. 52 09:16:03 ]

ความคิดเห็นที่ 35 มีประโยชน์มากมายครับ จากคุณ : Batty_Bounce - [ 22 มิ.ย. 52 09:39:09 ]

ความคิดเห็นที่ 36 เยี่ยมมากเลยค่ะ ขอบคุณคุณหมอแมวมากๆ ทำให้เรานึกถึงวิธีการล้างมือที่เราลืมไปนาน - -" เมื่อวานนี้ไปนั่งรถตู้กลับบ้าน เรายังแอบกลัวๆ เพราะมีคนข้างหลังไอจามอยู่บนหัวเราซะงั้น... เราก็พลอยจามไปด้วย T T แต่ดันไม่มีทิชชู่ซะนี่ ต้องใช้มือปิดปากไปก่อน เง้อออออออ จากคุณ : pae_ya - [ 22 มิ.ย. 52 09:41:11 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ขอบคุณมากค่ะ  เป็นกระทู้ที่ประโยชน์มากๆ จากคุณ : ซาตานซานต้า - [ 22 มิ.ย. 52 09:54:38 ]

ความคิดเห็นที่ 38 เป็นโรคบ้าล้างมืออยู่แล้ว แต่บางทีสบู่ในห้องน้ำห้างหมด ล้างแค่น้ำเปล่าเฉยๆแต่ล้างนาน...ก็ไม่รู้ว่า มันไม่พอ เมื่อคืนได้ดูช่อง 11 หมอๆผู้ใหญ่(ที่พูดให้ฟังง่ายๆไม่เป็น)ออกมาสอนเรื่องการดูแลสุขอนามัย ...เลยตัดสินใจว่า จะพกเจลแอลกอฮอลล์เลยมั่นใจที่สุด (คุณหมอในทีวี บอกว่ามันฆ่าเชื้อโรค ได้ 99% ชัวร์) แต่เซ็งมนุษย์ประเภทเป็นหวัดแล้วไม่ปิดปากหรือใช้หน้ากากมาก....เมื่อไหร่ อิพวกนี้จะรู้รับผิดชอบสังคมซะที เฮ่อ...... ปูลู. ขอบคุณหมอแมวค่ะ ที่มาให้ความรู้   @^-^@ จากคุณ : maddcoco - [ 22 มิ.ย. 52 10:22:16 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ขอบคุณ คุณหมอมากครับ กระทู้ดีมีสาระครับ จากคุณ : red_devil - [ 22 มิ.ย. 52 10:43:21 ]

ความคิดเห็นที่ 40 ขอบคุณมากค่ะคุณหมอแมว ^^ วันนี้จะพยายามกระจายลิงค์แข่งกับการแพร่กระจายของเชื้อนะคะ ช่วงนี้ไม่ค่อยได้ออกจากบ้านเลย ก็เลยไม่ได้เตรียมที่ครอบจมูกเอาไว้ ชอบที่ครอบจมูกของหน้ากากแสงจันทร์จังเลยค่ะ 555 เข้าใจเปรียบเทียบจริงๆ จากคุณ : กระต่ายน้อยแดนเถื่อน - [ 22 มิ.ย. 52 11:04:29 ]

ความคิดเห็นที่ 41 ขอบคุณมากค่ะ ขอนุญาตไปแปะที่บอร์ดหน่อยนะคะ จากคุณ : บทเพลงปีศาจ - [ 22 มิ.ย. 52 11:12:17 ]

ความคิดเห็นที่ 42 ขอบคุณหมอแมวคร้าบบบบบบ จังซี่มันต้องโหวตตตตตตตตตตตต จากคุณ : HanaToKaze - [ 22 มิ.ย. 52 11:12:27 ]

ความคิดเห็นที่ 43 ขอบคุณสำหรับกระทู้ดีๆมีประโยชน์แบบนี้ค่ะ จากคุณ : แครอทเค้ก - [ 22 มิ.ย. 52 11:14:19 ]

ความคิดเห็นที่ 44 ขอบคุณหมอแมวด้วยนะคะ ^^ จากคุณ : มิคิ_วาซาม่อน - [ 22 มิ.ย. 52 11:18:14 ]

ความคิดเห็นที่ 45 ฮาหน้ากากแบบต่างๆ สุดๆ ครับ ;) จากคุณ : ตัวตลกจมูกแดง - [ 22 มิ.ย. 52 13:37:54 ]

ความคิดเห็นที่ 46 ขอขอบคุณด้วยคนค่ะ เอาไปสอนลูก และลูกน้องพร้อมกันไปเลย มีประโยชน์มากค่ะ จากคุณ : Mother J (Mother J) - [ 22 มิ.ย. 52 13:42:01 ]

ความคิดเห็นที่ 47 แจ่มมากๆ จากคุณ : the author - [ 22 มิ.ย. 52 14:17:05 ]

ความคิดเห็นที่ 48 ขอบคุณหมอแมวค่า ก๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกก หน้ากากทักซิโด้(ทำไปได้) ก๊ากกกกกกก จากคุณ : ข้าวเหนียวไหม้ - [ 22 มิ.ย. 52 14:18:56 ]

ความคิดเห็นที่ 49 ขอบคุณค่ะ ^^ จากคุณ : kungko - [ 22 มิ.ย. 52 14:35:22 A:75.36.166.252 X: TicketID:195523 ]

ความคิดเห็นที่ 50 หน้ากากแบบนี้ก็ไม่เลวนะ จากคุณ : Thadias - [ 22 มิ.ย. 52 15:00:29 ]

ความคิดเห็นที่ 51 หน้ากากทักซิโด้ หน้ากากแสงจันทร์ ???????? จากคุณ : supertarokung - [ 22 มิ.ย. 52 16:31:39 ]

ความคิดเห็นที่ 52 ขอบคุณมากๆครับ จากคุณ : faimink - [ 22 มิ.ย. 52 17:27:58 ]

ความคิดเห็นที่ 53 ยอดเยี่ยมไปเลยครับ give ทันที จากคุณ : TTL - [ 29 มิ.ย. 52 12:53:37 ]

ความคิดเห็นที่ 54 โหวตให้แล้วนะครับ เอานี่มาเพิ่มให้ จาก reply 9  ในกระทู้ก่อนของคุณหมอแมว http://www.pantip.com/cafe/wahkor/topic/X7973976/X7973976.html แล้วถ้าเป็นหวัดแล้วให้ทำไงล่ะ????????? ตอนนี้มีเกณฑ์ในการตรวจซึ่งหลักใหญ่ๆน่าจะเหมือนกันทั่วประเทศครับ 1. มีไข้ 38 ํC ขึ้นไปร่วมกับ 2. อาการอย่างใดอย่างหนึ่งได้แก่ ปวดกล้ามเนื้อ, ไอ, หายใจผิด ปกติ (หอบ, ลำบาก), หรือแพทย์วินิจฉัยว่าเป็นปอดบวม ร่วมกับ 3. อาศัยอยู่หรือเดินทางมาจากพื้นที่ที่พบผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ในระยะ 7 วันก่อนวันเริ่มป่วย หรือ 4. มีผู้สัมผัสร่วมบ้านหรือในที่ทำงานป่วยสงสัยไข้หวัดใหญ่หรือปอดอักเสบ ภายใน 1 สัปดาห์ก่อนวันเริ่มป่วย เน้นย้ำนะครับ เรื่องไข้ตัวร้อน ... ถ้าคุณไม่มีไข้เลยแม้แต่น้อยและเดินไปเดินมาได้สบายดี ก็ไม่ต้องไปรพ.หรอกครับ คนป่วยหนักๆหลายคนเค้าไม่ยอมใส่หน้ากากอนามัยเพราะว่าเหนื่อย เค้าไอโขลกๆอยู่ ... อยู่บ้านดีๆไม่เจอเชื้อ ดันตามมารับเชื้อที่โรงพยาบาลเชียว ... ถ้าไม่มีไข้ อยู่บ้านเถอะครับ -_-' และจาก reply 44 ในกระทู้เดียวกัน โดย คุณ Geneticist 1) ไข้หวัดใหญ่เป็นไวรัส  ก็ต้องรักษาตามอาการ ให้ร่างกายกำจัดไวรัสเอาเอง ดังนั้นกินพาราเป็นการบรรเทาอาการครับ จะช่วยฆ่าไวรัสต้องใช้ Antiviral drug ราคาแพง เช่น ทามิฟลูช่วยไปก่อกวนการแบ่งตัวของไวรัสครับ กินยาอื่นไม่ช่วยอะไรเลย แค่รักษาอาการไม่ให้รุนแรง 2) กรณีหวัดตัวนี้สายพันธุ์เดิมในเม็กซิโก คนที่จะติดแล้วตายส่วนใหญ่ไม่ใช่เด็ก หรือคนแก่เหมือนโรคหวัดใหญ่อื่นๆ แต่เป็นคนหนุ่มสาวอย่างที่เข้ามา Pantip นี่แหละ สาเหตุสันนิษฐานว่า Antigen ใหม่มาก ไม่คล้ายของหวัดใหญ่ตัวอื่นที่ร่างกายเคยเจอมา การสร้าง Adaptive immunity คือการสร้าง Antibody นั่นแหละจะช้ากว่าปกติ ทำให้หน้าด่านคือ Innate immunity ต้องรับหน้าไปก่อน Innate immunity คือ อะไร ก็ตัวอย่างเช่น อาการไข้ขึ้น อักเสบ จะโชคดี หรือร้ายไม่รู้ Innate immunity ในคนหนุ่มสาวแข็งแรงมาก มันก็เลยทำงานเก่งเกินไป Innate immunity ไม่ค่อยจำเพาะเจาะจง นอกจากฆ่าเชื้อโรค ยังทำร้ายเซลล์ของเราไปพร้อมๆ กัน ถ้ายิ่งเกิดมากๆ ก็ทำให้ถึงช็อค และตายได้ครับ ส่วนสายพันธุ์ที่ไปทั่วโลก เท่าที่รู้มันไม่แรงเท่าที่เม็กซิโก เลยไม่รู้ว่าจะยังเหมือนกันหรือเปล่า 3) ขอเตือนคนที่ป่วยน้ำมูกไหลนิดๆ หน่อยๆ หรือไม่ได้เป็นอะไรเลย แล้วไปโรงพยาบาล เพราะตระหนกเกินเหตุ มีตัวอย่างจากโรค SARS ครับว่าสถานที่ ที่แพร่โรคได้ดีที่สุดที่หนึ่งคือโรงพยาบาล!!!!!!!! จากที่ไม่ได้เป็นจริงๆ พอไปโรงพยาบาลก็เลยติดจริง แต่ถ้าไข้สูงอย่างหมอแมวบอก ไม่อยากไป ก็ต้องไปครับ~!! 4) ตอนนี้ที่ผมกลัวถ้าป้องกันการแพร่โรคไม่ดี ก็คือจะทำให้ระบบสาธารณสุขเราเป็นง่อยได้ ต่อให้คุณติดโรคนี้ไม่ตาย แต่ก็ต้องเข้า รพ. อยู่ดีใช่ไหมครับ ถ้าเกิดติดกันเยอะๆ พร้อมๆ แล้วอัดเข้า รพ. พร้อมๆ กันเนี่ย ไม่อยากนึกสภาพของหมอแมวเลย และจาก reply 74 ของคุณ  Bassism ต้องมีอาการอย่างไรจึงควรไปตรวจที่รพ.? 1. มีไข้ 38 ํC ขึ้นไปร่วมกับ 2. อาการอย่างใดอย่างหนึ่งได้แก่ ปวดกล้ามเนื้อ, ไอ, หายใจผิด ปกติ (หอบ, ลำบาก), หรือแพทย์วินิจฉัยว่าเป็นปอดบวม 3. อาศัยอยู่หรือเดินทางมาจากพื้นที่ที่พบผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ในระยะ 7 วันก่อนวันเริ่มป่วย   หรือ 4. มีผู้สัมผัสร่วมบ้านหรือในที่ทำงานป่วยสงสัยไข้หวัดใหญ่หรือปอดอักเสบ ภายใน 1 สัปดาห์ก่อนวันเริ่มป่วย หรือ - ไข้สูง38.9 ไอมาก แต่ไม่ได้ไปเจอเด็กนักเรียนที่ไหนเลย ... อันนี้ไม่อยากตรวจก็ต้องตรวจ จากคุณ : หล่อใสไร้รัก - [ 1 ก.ค. 52 10:12:54 ]

ความคิดเห็นที่ 55 ขอคุณคุณหมอมากๆ เลยนะคะที่ให้ความรู้อย่างละเอียด และขออนุญาตนำข้อมูลไปอัพบล็อคเพื่อเก็บเป็นความรู้ให้กับเพื่อนๆ คนอื่นๆ ด้วยนะคะ คุณหมออธิบายเข้าใจง่ายและมีความตั้งใจในการให้ความรู้มากๆ เลยค่ะ ขอบคุณอีกครั้งค่ะ จากคุณ : แป๋วภูเก็ต - [ 10 ก.ค. 52 14:24:58 ]

ความคิดเห็นที่ 56 ขออนุญาต นำข้อมูลไปเผยแพร่เด้อครับเด้อ ทุกอย่างเลยนะครับ จากคุณ : ลุงหื่น - [ 10 ก.ค. 52 14:53:08 A:124.121.140.163 X: TicketID:207948 ]

ความคิดเห็นที่ 57 ขอบคุณคุณหมอมากครับ ที่เอาคลิปมาทำให้ดูแบบเข้าใจง่ายๆ จากคุณ : bam-NY - [ 10 ก.ค. 52 15:23:53 ]

ความคิดเห็นที่ 58 ขอบคุณคุณหมอสำหรับข้อความดีๆๆที่เอามาให้ความรู้ ขอถามคุณหมอหน่อยนะค่ะ แล้วถ้ามีความจำเป็นต้องขึ้นเครื่องบิน (จะเดินทางกลับเมือไทยเดือนพฤศจิกายนอ่ะค่ะ) แล้วก็เดินทางกับเด็กอายุ 3 ขวบ ไม่ทราบว่ามีวิธีปฏิบัตตัวไงค่ะเพื่อเป็นการป้องกันไข้หวัด 2009อ่ะค่ะ แก้ไขเมื่อ 10 ก.ค. 52 16:16:18 จากคุณ : Miss MJ (Miss MJ) - [ 10 ก.ค. 52 16:14:39 ]

ความคิดเห็นที่ 59 ขอบคุณ คุณหมอค่ะ จากคุณ : ~ทับทิมกร๊อบกรอบ~ - [ 10 ก.ค. 52 16:53:52 ]

ความคิดเห็นที่ 60 ขอบคุณหมอแมวมากค่ะ จากคุณ : pumpkin&blackbeauty - [ 10 ก.ค. 52 19:32:15 ]

ความคิดเห็นที่ 61 ขอบคุณคุณหมอมากค่ะ ไปเข้าห้องน้ำที่ซีคอนไม่นานมานี้ สังเกตเห็นคนเดินออกมาจากห้องปลดทุกข์ แล้วเดินไม่สนใจใครออกห้องน้ำไปเลย ไม่ล้างมือด้วยแหละ ตั้ง 2 คน ผู้หญิงทั้งนั้น นี่ขนาดเราเข้าไปแป๊บเดียวนะเนี่ย ทั้งวันจะขนาดไหน คุณเธอช่าง...มากๆ เลย ไม่รู้จะอธิบายยังไง จากคุณ : cremeo - [ 11 ก.ค. 52 12:07:43 ]

ความคิดเห็นที่ 62 ขอบคุณมากค่ะ จากคุณ : Toon16 - [ 11 ก.ค. 52 20:22:53 ]

ความคิดเห็นที่ 63 คุณหมอแมวค๊าบบบ มาฟ้องงง เมื่อเช้าตื่นมาพบว่าผมเป็นหวัดเจ็บคอ ปวดหัว ตัวร้อน  พอใกล้เที่ยงจะออกไปทานข้าว ก็ตระหนักว่าควรป้องกันไม่ให้ไปแพร่เชื้อใส่ผู้อื่นเค๊า ก็เลยขับรถไปตะเวนซื้อหน้ากากอนามัยก่อนไปทานข้าว แต่...ร้านขายยา 3 ร้าน แฟมมิลี่ มาร์ท 3 ร้าน เซเว่น 2 ร้าน สรุปผมเข้าๆออกๆหาหน้ากากอนามัยอยู่ 8 ร้าน ไม่มีเลยซักร้านครับ ==" ผมเลยมาคิดๆดูว่า มาตรการป้องกันง่ายๆ ที่เป็นเรื่องพื้นฐานอย่างนี้ ยังกระจายไม่ทั่วถึงเลยครับ เกิดผมเป็นหวัด 2009 ขึ้นมาไปพ่นใส่ผู้อื่นจะทำยังไงละหว่า วันนี้ผมเลยต้องขังตัวเองอยู่ในห้องทั้งวันเลย T^T จากคุณ : ZZsassyZ - [ 11 ก.ค. 52 20:50:21 ]

ความคิดเห็นที่ 64 ขออนุญาตนำเนื้อหาที่คุณหมอแมวให้เป็นวิทยาทาน ไปเผยแพร่ให้กับนักศึกษาและบุคลากรของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ หาดใหญ่ จากคุณ : ซำแก้ว (ซำแก้ว) - [ 12 ก.ค. 52 06:25:54 ]

ความคิดเห็นที่ 65 ขอบคุณค่ะ จากคุณ : lovehappiness - [ 12 ก.ค. 52 21:14:27 ]

ความคิดเห็นที่ 66 ขอบคุณคุณหมอค่ะ เพื่อนส่งลิงค์มาให้อ่าน จากคุณ : vnv - [ 13 ก.ค. 52 09:13:25 ]

ความคิดเห็นที่ 67 ^ ^ 63 หาซื้อไม่ได้ก็ทำใช้เองเลยครับ คลิก  http://women.sanook.com/fashion/trend/ftrend_55394.php จากคุณ : หล่อใสไร้รัก - [ 13 ก.ค. 52 10:08:04 ]

ความคิดเห็นที่ 68 เป้นประโยชน์จริงๆค่ะ ขอบคุณมากเลยนะ หมอแมว จากคุณ : cozydooz - [ 13 ก.ค. 52 19:53:35 ]

ความคิดเห็นที่ 69 ขอบคุณค่ะ มีประโยชน์ดีคะ จากคุณ : วันฟ้าสดใส - [ 13 ก.ค. 52 23:10:04 ]

ความคิดเห็นที่ 70 ขอบคุณ ครับ จากคุณ : rp3hs - [ 14 ก.ค. 52 00:41:02 ]

ความคิดเห็นที่ 71 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion - [ 14 ก.ค. 52 22:29:51 ]

ความคิดเห็นที่ 72 เจ๋งเลย... ขอบคุณนะคะ จากคุณ : sorry about that - [ 15 ก.ค. 52 15:33:48 ]

ความคิดเห็นที่ 73 ขอบคุณนะคะ จากคุณ : prisoner of love (<< Prisoner of Love >>) - [ 15 ก.ค. 52 23:18:35 ]

ความคิดเห็นที่ 74 ขอบคุณครับ จากคุณ : arrthai - [ 16 ก.ค. 52 23:06:17 ]

ความคิดเห็นที่ 75 ข้อมูลมีประโยชน์มากค่ะ ขอบคุณ จขกท จากคุณ : very good tonight - [ 18 ก.ค. 52 19:07:27 ]

ความคิดเห็นที่ 76 ขอบคุณมากครับ ... จากคุณ : ๛แบกเป้...ไปส่องโลก๛ - [ 19 ก.ค. 52 01:32:52 ]

ความคิดเห็นที่ 77 ขอบคุณมากๆเลยค่ะ แล้วก็มีคำถามนิดหน่อยค่ะ คือ วัดไข้ได้ 39.5 องศา(เอง.....)ค่ะ แล้วมันก็ลดไปเหลือ 38 แล้วก็เพิ่มอีก แล้วมันก็ลดอีกจนเหลือปกติ แล้วมันก็ดั้นเพิ่มอีกแหนะ... ขึ้นๆลงๆแบบนี้ตลอดน่ะค่ะ เรื่องไข้มันขึ้นๆลงๆมาหลายปีแล้ว แต่ช่วงนี้มีไอรุนแรงด้วย เคยเป็นแบบนี้แล้วเมื่อประมาณ 2 สัปดาห์ที่แล้ว แล้วก็หายภายใน 1 สัปดาห์ แล้วตอนนี้มันก็เป็นอีกแล้วค่ะ.... ต้องไปตรวจไหมคะเนี่ย ...... ? ช่วงนี้สอบมิดเทอมด้วย ไม่อยากไป |||orz ขอบคุณล่วงหน้านะคะ : > จากคุณ : Thingthgii (Thingthgii) - [ 19 ก.ค. 52 16:44:18 ]

ความคิดเห็นที่ 78 ขอบคุณสำหรับข้อมูล ดีๆ ครับ จากคุณ : กาแฟรสร้อนแรง - [ 20 ก.ค. 52 10:30:14 ]

ความคิดเห็นที่ 79 คุณหมอค่ะแล้วแบบนี้ จะให้คิดอย่างไร 1.วันที่1 เป็นไข้อย่างเดียวแค่ 38.3 เอง(ปกติคุณลูกจะเป็น ได้ 39-40 จนชิน) กินยาลดไข้ ไข้ก็ลดลง เหลือ 37.5 2. วันที่ 2 เริ่ม ไอนิหน่อย ทั้งวันไม่ถึง 5 ครั้ง แล้วเสียงไอ ก็ดูว่าไอแบบไม่มีเสหะ ไข้ 38.3 กินยาลดไข้พบแพทย์ (รพ.รัฐบาล) ได้พบว่าคอแดง ได้ยา Amoxcy มากิน  ตอนเย็น ไข้เริ่ม ไม่ลด พารา กับ เช็ดตัว ก็ตามเถอะ 3.วันที่ 3 ไข้ 39 กินยาพาราไข้ไม่ลด ก็หมดปัญญาแล้วสงสัยไม่ธรรมดา พบแพทย์ รพ.เอกชน ตรวจ หาพบว่าเป็น ไวรัสชนิด A  ตรวจแล้วเลือดพบว่าเกล็ดเลือดต่ำ กินยา ทามิฟู  ประมาณ 8 ชม. ไข้ลดได้ ที่สงสัยทำไมไม่มีออกข่าวว่า ว่าไข้หวัด 2009 สามารถ โจมตีได้หลายระบบ เพราะที่อ่านเจอมา ไม่ปอดบวม หลอดลมอักเสบ จนเข้าใจผิด เพราะของลูกเป็นที่เลือด ทำให้เกล็ดเลือดต่ำ ทำไมไม่ออกข่าวมาว่า ร่างกายไม่แข็งแรงตรวจไหนก็อาจจะเป็นตรงนั้น เช่นเป็นโรคไต ทำให้ไตวาย  ก็ไม่รู้ว่าเข้าใจผิดไปเองหรือเปล่านะ ตอนนี้ก็รอว่าจะเป็น 2009 หรือเปล่า(มีสิทธิ์นะ ถามครูประจำชั้นบอกว่าวันนั้นหยุดเรียนประมาณ 10 คนได้)   แปลกใจ  ผล จากคุณ : ซนคุง - [ 20 ก.ค. 52 18:47:14 ]

ความคิดเห็นที่ 80 ถึงคุณ ซนคุง คะ เราเป็นไข้หวัดใหญ่ 2009 เมื่อวันที่ 5 ก.ค. 52 ที่ผ่านมาน่ะค่ะ ออกจากโรงพยาบาลได้วันที่ 16 ก.ค.52 ของเราอาการเกร็ดเลือดต่ำ อยู่ที่ 30000 น่ะค่ะ แต่ปอดปกติ ทุกอย่างปกติหมด ไข้ขึ้น 39.5 องศาแค่คืนวันที่ 4 ก.ค.52 คืนเดียว กินพาราไป เช้ามาไข้ลด แต่แม่ไม่ไว้ใจเลยพาไปโรงพยาบาล เราเจาะเลือดทุกวันแต่มันอยู่ที่ 28000-38000 ตลอด ช่วงอยู่โรงพยาบาล หมอก็ไม่แน่ใจว่าเกิดจากไวรัสหรือเราเป็นตั้งแต่กำเนิดน่ะค่ะ ยังหาสาเหตุไม่ได้ แต่วันที่ 18 ก.ค. 52 เราไปตรวจอีกโรงพยาบาลนึง เกร็ดเลือดขึ้นมาอยู่ที่ 50000 แล้ว เลยสงสัยว่าจะเกิดจากไวรัสน่ะค่ะ ลูกคุณซนคุง เกร็ดเลือดอยู่ที่เท่าไหร่คะ เพราะตอนนี้เราก็ยังไม่ค่อยแน่ใจว่าถ้าหายไข้หวัด 2009 แล้วต้องใช้เวลาอีกเท่าไหร่เกร็ดเลือดถึงจะเพิ่มขึ้นเป็นปกติ จากคุณ : ขุงขิงจัง - [ 20 ก.ค. 52 22:55:32 ]