ถึงสื่อมวลชนทุกท่าน ผมจะบอกความจริงเรื่อง ไข้หวัด 2009 ให้ทราบ
พวกคุณงง และสับสนกับเจ้าหน้าที่และหมอหลายคนที่ให้ข่าวไม่ค่อยตรงกันใช่มั้ยครับ?
ผมจะบอกข้อมูลอะไรให้ฟัง ซื่งคุณสามารถตรวจสอบได้เอง จากแพทย์ผู้เชื่ยวชาญด้าน ไวรัสวิทยา หรือ จุลชีววิทยา ตามภาควิชาจุลชีววิทยา คณะแพทย์มหาลัยใหญ่ๆนะครับ
(กรุณาเลิกสัมภาษณ์นักการเมืองได้แล้ว ไม่มีอะไรคืบหน้าเลย ควรสัมภาษณ์อาจารย์ที่เขารู้จริง ทำงานเรื่องนี้จริงๆดีกว่า)
ครับรู้ครับ ว่าผิดห้อง
แต่ไม่โพสในลุมพินีล่ะ เดี๋ยวโดนเกรียนลบ ขนาดหมอแมว ความรู้วิชาการหลักฐานแน่นปึ้กยังต้องหนีตายมานี่กับหว้ากอ เลย ไปดูเนื้อหาวิชาการแน่นๆได้ที่
http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A7977288/A7977288.html
http://www.pantip.com/cafe/wahkor/topic/X7973976/X7973976.html
http://www.pantip.com/cafe/wahkor/topic/X8049629/X8049629.html
วิธีปฏิบัติป้องกันตัว
http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A7998624/A7998624.html
หมอไก่ก็ไประบายในสินธร http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/topic/I8040314/I8040314.html
นับประสาอะไรกับหมอบ้านนอกอ้างตำราไม่ค่อยเป็นอย่างผม
เมื่อคืนนี้คืนเดียว รพ.ที่ผมอยู่เวร รับคนไข้ใหม่สงสัยหวัด 2009 เข้านอนรพ. 4 คน (เฉพาะเวรดึก)
อะไรกันจ๊ะ ไหนบอกไม่น่ากลัว ไหนบอกควบคุมได้ แล้วตัวเลขการแพร่ระบาดขนาดนี้มันอะไรกัน??
มาดูสรุปความจริงกันอีกที (อันไหนซ้ำกับหมอแมวขอโทษด้วยครับ)
(กรุณาทนอ่านให้ถึงข้อ 4.2)
( เครดิตรูปประกอบทั้งหมด จากคุณ อันปังแมน)
ภาพข้อมูลการระบาดจาก องค์การอนามัยโลก ณ วันที่ 3 กรกฎาคม 2552
(เห็นความสยองมะคับ??)
แก้ไขเพิ่มเติม
ใครมีคนรู้จัก ทำงานสื่อมวลชน ได้โปรด copy ข้อความ หรือ link ในกระทู้นี้ไปถึงเขาด้วยนะครับ ผมไม่ได้อยากดัง ไม่อยากเปิดเผยตัว(ให้ภัยมาถึงตัว) แต่ทนไม่ไหวแล้ว ที่คนไทยอยู่ท่ามกลางหายนะ แต่ไม่มีใครรู้ร้อนรู้หนาวแบบนี้
แก้ไขเพิ่มเติมอีกครั้ง
เห็นมีคนมาขออนุญาตไปเผยแพร่เยอะเหลือเกิน ตอบตรงนี้เลยนะครับ ว่า เชิญ!!!!!!!
ยิ่งเยอะยิ่งดีด้วย
เมื่อไหร่จะมีคนมาโพสบอกว่า "ส่งเมล์ให้นักข่าวแล้วจ้า" บ้างนะ?
เพิ่มเติมอีกแล้ว
(Special สำหรับความเห็นว่าผมใช้คำรุนแรงจนอาจก่อกระแส"ตื่นตระหนก")
ที่ผมตั้งกระทู้นี้เพราะเห็นความแตกต่างระหว่าง
ความเพิกเฉย ไม่รู้ร้อนหนาว --> ความตระหนัก --> ความตื่นตระหนก
ผมเห็นการรายงานข่าว พยายามเน้นไปที่ "อย่าตื่นตระหนก" ซึ่งคงเป็นความตั้งใจดี ว่าอยากให้ประชาชน "ตระหนัก" เฉยๆ
แต่ผลที่ได้ตรงกันข้ามครับ คือ ประชาชน "เพิกเฉย ไม่ใส่ใจ" เพราะคิดว่าไม่เป็นไร
(ซึ่งที่จริงเป็นเพราะข้อมูลสับสนไม่ชัดเจน ผมว่านักข่าวเองยังงงเลย )
ผมจึงหวังว่ากระทู้นี้จะสร้าง "ความตระหนัก"ได้ ด้วยการพูดความจริงตรงๆ ไม่ต้องรักษามารยาท ไม่ต้องอ้อมค้อมแล้ว
แต่ถ้ามันผิดจุดประสงค์จริงๆ กลายเป็นกระแสความตื่นตระหนก......
ผมว่า "ตื่นตระหนก" ก็ยังดีกว่า "เพิกเฉย" อยู่อย่างนี้ (อะไรมันจะเสี่ยงกว่ากัน???)
ผมมันคนหยาบๆครับ อาจพูดไม่ไพเราะอย่างหมอแมว
แต่พูดตรงๆ หงุดหงิดครับ เห็นหมอแมวให้ความรู้แน่นปึ้กเป็นเหตุเป็นผลขนาดนั้น แต่ก็ไม่ค่อยเห็นมีใครจะตื่นตัว ป้องกันอย่างจริงจัง
เลยขอใช้ลีลาบ้านๆ หยาบๆ แบบนี้แหละ คิดว่าความจริงในภาษาชาวบ้านน่าจะปลุกกระแส"ความตระหนัก"ได้บ้าง
แก้ไขเพิ่มเติม (ขออภัยที่ครั้งนี้ยาวมากกก)
1. ผมบอกจุดประสงค์ชัดเจนไปแล้วในแก้ไขข้างบน ว่าตั้งกระทู้นี้เพื่อแสดงความจริง แต่ก็มีคนมาต่อว่าสิ่งที่ผมเขียนว่าไม่จริง และพยายามหาเหตุผลมาอ้างทุกอย่าง ไม่เว้นแม้แต่การใช้ไวยากรณ์ผิดของผม????
(ไม่เกี่ยวกับคห 464 นะครับ อันนั้นผมพลาดเอง ขอบคุณหมอแมวมากครับ)
ที่ฮาก๊าก คือมีการนำเสนอว่า น่าจะให้ทุกคนติดหวัดไปเลยจะดีกว่าจะได้มีภูมิคุ้มกันต่อการระบาดระลอกสอง ...............กร๊ากกกกกกกกกกกก.......
... ให้ติดทุกครัวเรือนเลยดีมั้ยครับ? คนจะตายระลอกแรกคงไม่กี่หมื่นคนหรอก ...สำคัญกว่านั้นคือ ตอนไข้หวัดนกมันระบาด มันจะได้ไม่ลำบากตามหาเชื้อไข้หวัด2009 ไง.... เพราะลงพื้นที่ไหนก็มีไข้หวัด2009 รออยู่แล้ว จะได้กลายพันธุ์ง่ายๆไง ....ถึงตอนนั้นอย่าโวยวายว่าวัคซีนที่เพิ่งจะพัฒนาสำเร็จทำไมไม่ได้ผลแล้วนะครับ????
แล้วคนเสนอไอเดียนี้ จะบอกว่าออกกำลังกายให้แข็งแรงทำไมครับ ? อ่อนแอหน่อยจะได้ติดไข้หวัด2009 ง่ายๆดีกว่ามั้ยครับ? เสนอไอเดียที่มันขัดแย้งกับการกระทำของคุณเองทำไมครับ?
เอาอย่างนี้ดีกว่า แฟร์กับทุกฝ่าย...
ที่จริงก็ไม่มีใครรู้หรอกว่าผมเป็นหมอจริงรึเปล่า คนที่มาโต้แย้งผมเป็นใครมีความรู้จริงรึเปล่าก็ไม่มีใครรู้
ผมเสนอว่า "ทุกข้อโต้แย้ง น่าสนใจ มาผลักดันให้มีการพิสูจน์ความจริงดีมั้ย? ง่ายๆ"
ผมขอเรียกร้องให้สื่อมวลชน ช่วยทำสกู๊ป สัมภาษณ์ผู้รู้จริงว่าสิ่งที่ผมเขียนมามันจริงมั้ย ผู้รู้นั้น คือ
- อาจารย์ ภาควิชาจุลชีววิทยา คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยใดก็ได้
- อาจารย์แพทย์ หน่วยโรคติดเชื้อ(Infectious diseases) ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยใดก็ได้
อาจารย์เหล่านี้เป็นหนังหน้าไฟของจริง เป็นผู้กำลังวิจัยต่อสู้กับเชื้อนี้จริงๆ รู้จริงรู้ลึกยิ่งกว่าหมอในพื้นที่
ความจริงทุกอย่างจะได้ปรากฏต่อประชาชน เลิกถกเถียงกันซะที
2. เรื่องหน้ากาก มีดีกว่าไม่มีนะครับ ไม่มี N95 ก็หน้ากากกระดาษ ไม่มีหน้ากากกระดาษ ก็หน้ากากผ้า ไม่มีหน้ากากผ้า ก็ผ้าเช็ดหน้าก็ยังดี ยังไงก็ลดโอกาสติดเชื้อได้ดีกว่าเดินหน้าเปลือยๆนะครับทุกท่าน
หาซื้อไม่ได้ก็ทำใช้เองเลยครับ วิธีทำคลิก
http://women.sanook.com/fashion/trend/ftrend_55394.php
3. และขอร้องอีกครั้งนะครับ ถ้าคุณอ่านกระทู้นี้แล้วคิดว่ามีประโยชน์ อยากให้กระทู้นี้อยู่นานๆให้คนอื่นได้อ่านบ้าง ก็กรุณาอย่าโยงกระทู้นี้ไปเข้าเรื่องการเมือง เดี๋ยวจะอยู่ไม่ยืด แทนที่คนในสังคมจะได้รู้กันทั่ว จะกลายเป็นดับดิ้น เพียงเพราะความสะใจของพวกเรากันเอง
(ขออภัยที่แก้ไขเพิ่มเติมบ่อย เพราะคิดว่าไปตอบอยู่ข้างล่าง จะได้อ่านกันไม่ทั่วถึงครับ)
แก้ไขเพิ่มเติม 15กค 52
++++ ช่วยกัน Forward กระทู้นี้ไปเรื่อยๆนะครับ ( มี update ข้างล่างตลอด ตามอ่านด้วยนะครับ) คนไหนไม่ใช้เมล์ ก็ปากต่อปาก บอกกันต่อไปเรื่อยๆ
ตอนนี้ พวกเราจะรอดกันหรือไม่? ขึ้นกับว่ามีคนรู้ความจริงมากแค่ไหนเท่านั้น
เรื่องอื่นคงหวังไม่ได้แล้ว!!!!!!!!! ++++++
แก้ไขเมื่อ 15 ก.ค. 52 16:20:34
แก้ไขเมื่อ 13 ก.ค. 52 10:10:09
แก้ไขเมื่อ 11 ก.ค. 52 00:42:02
แก้ไขเมื่อ 11 ก.ค. 52 00:40:22
แก้ไขเมื่อ 10 ก.ค. 52 12:54:42
แก้ไขเมื่อ 10 ก.ค. 52 11:37:44
แก้ไขเมื่อ 10 ก.ค. 52 11:36:16
แก้ไขเมื่อ 10 ก.ค. 52 08:37:03
แก้ไขเมื่อ 10 ก.ค. 52 08:02:38
แก้ไขเมื่อ 10 ก.ค. 52 07:19:37
แก้ไขเมื่อ 09 ก.ค. 52 11:28:38
แก้ไขเมื่อ 09 ก.ค. 52 09:54:16
แก้ไขเมื่อ 09 ก.ค. 52 09:09:50