ความคิดเห็นที่ 1 คนญี่ปุ่นเดินกันเยอะค่ะ เค้าเดินได้เป็นกิโลๆๆ เดินเร็วด้วย ปกติเค้าจะเดินทางโดยการนั่งรถไฟ แล้วก็เดินแหละค่ะ แม้แต่พวกคนทำงานแก่ๆๆ ผู้บริหาร ก็ยังเดินกัน 555 เลิกเรียนก็คง ประมาณ 3 โมง พอๆกะบ้านเราแหละค่ะ จากคุณ : Kotoko_ChaN เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 52 23:04:56

ความคิดเห็นที่ 2 ตามที่เราเคยไปเรียนนะคะ มีบ่ายสอง กับบ่ายสาม สลับวันกันค่ะ ถ้าไม่มีชมรม ก็กลับบ้านได้เลย ส่วนมากแต่ละบ้านก็จะไม่ได้อะไรกับเวลากลับบ้านมาก แค่กลับมาทันกินข้าวเย็นก็พอไรงี้ ส่วนทำไมเดิน? รถเมล์มีน้อย แถมแพงด้วย สำหรับในเมืองขึ้นทีนึง 200เยน นอกเมืองคิดตามระยะทางเริ่มต้นที่ 140 เยน คนส่วนมากจึงเดิน ไม่ก็ปั่นจักรยานไปบ้าน ไม่ก็ไปต่อรถที่สถานีรถไฟ ทำไมในละครถึงชอบวิ่ง? คงให้อารมณ์รีบร้อนมากกว่าไปยืนรอรถที่ป้ายรถเมล์ละมั้งคะ แท๊กซี่ก็แพงเกิ๊นนนนนน ขึ้นไม่ไหว จากคุณ : แดงตะวันตก เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 52 23:28:04

ความคิดเห็นที่ 3   รู้สึกว่าเค้าจะชอบเดินกันนะคะ...อากาศบ้านเค้าดีด้วยมั๊ง เลยเดินกันได้ ลองมาเดินบ้านเรา...ตับแตกกันพอดี ฮ่าๆ จากคุณ : เต่าคุง in the sky เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 52 23:31:13

ความคิดเห็นที่ 4 อีกเหตุผลหนึ่งคือไม่ค่อยใช้รถส่วนตัวกัน  รถถูกแต่ที่จอดแพง+รถติด ถ้ารถติดไปทำงานหรือนัดสายก็ซวยดังนั้นเดินดีกว่า ใช้รถไฟ+เดินจะสะดวกกว่า  แต่ถ้าดูหนังหรือละครแบบชานเมืองๆ จะใช้รถเยอะนะ  แถมบ้านหลังใหญ่โต  สไตล์ยุโรปหรือแบบญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม เราว่าบ้านนอกของญี่ปุ่นต้องเป็นอะไรที่น่าอยู่มากๆ  55+ อีกอย่างที่เดินๆเยอะๆในละคร  จริงๆมันเป็นการเปลี่ยนฉากจากจุดหนึ่งไปจุดหนึ่ง แล้วตัวบทไม่ได้บอกว่าเดินทางมาอย่างไร  จึงทำให้เราเข้าใจไปเองว่าเดินมา แต่เราว่าจริงๆก็คงไม่เดินกันโหดขนาดนั้นหรอกนะ จากคุณ : aonton เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 52 00:15:36

ความคิดเห็นที่ 5 ผมก็ชอบเดินครับ ประหยัดตังค์ดี (เอ๊ะ หรือติดมาจากหนังญี่ปุ่นหว่า 555+) จากคุณ : Baritoreca เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 52 02:22:17

ความคิดเห็นที่ 6   อ้อ !! อย่างนี้นี่เอง รู้สึกอยากไปเดินที่ญี่ปุ่นบ้างจัง หุหุ ^^ จากคุณ : มะกอกสีชมพู เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 52 11:16:38 A:124.120.34.50 X: TicketID:129126

ความคิดเห็นที่ 7   เคยคิดเหมือน จขกท เหมือนกัน ยิ่งตอนดู tatta Hitotsu ยิ่งสงสัยเลย พระเอก นางเอกจะวิ่งไปวิ่งมาหากันทำไมไมไม่นั่งรถไป 555 ก็ดีนะออกกำลังกาย จากคุณ : kungisking เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 52 11:47:20

ความคิดเห็นที่ 8 มายืนยันค่ะว่า คนญี่ปุ่นชอบเดินกันจริงๆ ทั้งเด็ก วัยรุ่น ผู้ใหญ่ ไปถึงคนชรา... สังเกตได้ว่าเค้าเดินเร็ว มีระเบียบ และเดินทนดีจริงๆ (แต่ก็สังเกตอีกสาวๆญี่ปุ่นขาใหญ่555) ไปหาโรงแรมที่ญี่ปุ่นลายแทงบอกเดินจากสถานีเพียง 2 นาที สำหรับคนไทยต้อง 5 นาทีขึ้นค่ะ นอกจากเดินก็ขี่จักรยาน โดยเฉพาะโรงเรียนที่อยู่บนเนิน นับถือ จากคุณ : เจ้าแก้วพิสดาร ณ เมืองปาย เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 52 12:15:38

ความคิดเห็นที่ 9   สมมติว่าปกติคุณเป็นคนเดินช้าแต่ถ้าไปเที่ยวญี่ปุ่นแค่ 1-2 วันแรกคุณจะต้องเดินเร็วตามคนที่นั่นครับ สภาพแวดล้อมมันพาไป จากคุณ : Furusato เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 52 12:27:35

ความคิดเห็นที่ 10 บัสรอนานกว่าเดินค่ะ ค่าโดยสารแพงกว่ารถไฟด้วย มีแต่คนแก่ๆจะนั่งกันค่ะ เดินเร็วกว่า ไม่ก็ปั่นจักรยานเอา แรกๆมาเดินเยอะทำเอาปวดแข้งขา เดี๋ยวนี้เดินไกลๆไม่เป็นไรเลย จากคุณ : i_am_redangel เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 52 12:33:48

ความคิดเห็นที่ 11 ด่านแรกเลยคือ ต้องเดินไปขึ้นรถไฟ ตอนเราไปเที่ยวก็เดินๆๆๆ เหมือนกันค่ะ จากคุณ : redpink เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 52 12:47:49

ความคิดเห็นที่ 12 สรุปคือคนญี่ปุ่นเค้าเดินกันเป็นนิสัยค่ะ จากคุณ : meritiana (Meritiana) เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 52 14:07:34

ความคิดเห็นที่ 13 ผมว่าไม่เฉพาะญี่ปุ่นหรอกครับ ประเทศที่เจริญแล้วหลายที่ก็นิยมเดินกัน ค่านิยมหรือวัฒนธรรมนี้น่าจะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ประเทศเหล่านั้นเจริญ เพราะการเดินเป็นการใช้พลังทำให้เหนื่อย เป็นการปลดปล่อยพลังรุนแรงในตัวเองอย่างหนึ่ง (มนุษย์เราทุกคนมีความรุนแรงอยู่ภายในตัว) เมื่อร่างกายขยับ จิตใจก็สงบ เพราะผมเชื่อว่า "จิตใจที่สงบนิ่งอยู่ในร่างกายที่เคลื่อนไหว" แล้วก็จะทำให้เกิดการพัฒนาความคิดตามมา ตรงนี้จะต่างจากประเทศไทยที่มีค่านิยมว่าต้องมีรถ หรืออย่างน้อยก็มอเตอร์ไซค์เพื่อหวังเชิดหน้าในสังคม ทุกวันนี้ถึงได้มีแต่พวกอวดรถ หรือเด็กแว๊นเต็มประเทศไปหมด สร้างค่านิยมโอ้อวดกันในทางที่ไม่ได้ช่วยให้ประเทศพัฒนาเลย "ประเทศเรายังผลิตรถเองไม่ได้เลย และน้ำมันก็ไม่มีเป็นของตัวเอง ระบบการจัดการมลภาวะทางอากาศ ทางเสียงที่เกิดจากปริมาณรถที่มากมาย (โดยเฉพาะมอเตอร์ไซค์เสียงดังน่ารำคาญ) รวมถึงการวางแผนในการสร้างเส้นทางไม่ให้รถติดก็ยังไม่มีประสิทธิภาพ" แล้วอย่างนี้จะไม่ให้ประเทศอื่นดูถูกได้ยังไงว่าไทยมีดีแค่ผู้หญิงอย่างว่ากับสนามกอล์ฟ แก้ไขเมื่อ 13 ก.ค. 52 17:19:05 จากคุณ : The Cosmos เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 52 17:05:56

ความคิดเห็นที่ 14 เอ่อ....ความคิดเห็นส่วนตัวเราคือ ประเทศญี่ปุ่นหรือตะวันตกถึงการคมนาคมจะสะดวกแต่มูลค่าแพงค่ะ คนเลยเลือกเดินมากกว่า และเป็นเมืองหนาวสภาพบ้านเมืองเหมาะกับการเดิน บ้านเราเดินไปแค่ป้ายรถเมล์เดียว เหงื่อออกมาก แต่งหน้าเช้าไม่ทันไรหายหมดเป็นมันเยิ้ม อีกทั้งราคาคมนาคมของเราถูก (ทำให้ความปลอดภัยของชีวิตเราพลอยถูกไปด้วย) มันจึงง่ายที่เราจะใช้บริการรถมากกว่า และง่ายที่จะตัดสินใจซื้อรถเพื่อความสะดวก... ซีรีย์ญี่ปุ่นบางเรื่องให้เราดูความเป็นอยู่ในด้านบวกของญี่ปุ่น แต่ในความเป็นจริงญี่ปุ่นไม่สวยงามนักหรอกค่ะ จากคุณ : เจ้าแก้วพิสดาร ณ เมืองปาย เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 52 18:41:36

ความคิดเห็นที่ 15 เดินชมวิว บรรยากาศดีๆ ผมว่าก็น่าเดินจริงๆ แหละ จากคุณ : i'mDOZENIST เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 52 20:59:40

ความคิดเห็นที่ 16 ให้กิ๊ฟ คห.13 สำหรับประโยคนี้ค่ะ ทุกวันนี้ถึงได้มีแต่พวกอวดรถ หรือเด็กแว๊นเต็มประเทศไปหมด สร้างค่านิยมโอ้อวดกันในทางที่ไม่ได้ช่วยให้ประเทศพัฒนาเลย "ประเทศเรายังผลิตรถเองไม่ได้เลย และน้ำมันก็ไม่มีเป็นของตัวเอง ระบบการจัดการมลภาวะทางอากาศ ทางเสียงที่เกิดจากปริมาณรถที่มากมาย (โดยเฉพาะมอเตอร์ไซค์เสียงดังน่ารำคาญ) รวมถึงการวางแผนในการสร้างเส้นทางไม่ให้รถติดก็ยังไม่มีประสิทธิภาพ" ที่ญี่ปุ่นใช่ว่าอากาศจะดี หรืออากาศจะหนาวตลอดไปซักหน่อย ร้อนตับแตกก็มีนี่ เราว่าไม่ต้องขนาดเดินเอาอย่างเดียวแบบเค้าก็ได้ แต่เราเห็นด้วยกับการใช้บริการขนส่งของรัฐมากกว่าที่จะใช้รถยนต์ส่วนตัว มันเหมือนไม่ใช่แค่เพื่อสะดวกสบายเฉยๆอ่ะ เหมือนมีไว้อวดๆกันด้วย ซึ่งมันไม่ค่อยจะเกิดประโยชน์ซักเท่าไหร่อ่ะนะ เราว่า แก้ไขเมื่อ 13 ก.ค. 52 22:45:58 จากคุณ : น้ำพริกกินกะปลาทู เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 52 22:44:47

ความคิดเห็นที่ 17 หลายคนก็ช่วยกันตอบไปหมดล่ะ ขอพูดถึงอีกมุมหนึ่งแล้วกัน คือทั้งๆที่คนญี่ปุ่นชอบเดินกันเป็นนิสัย เดินได้เป็นหลายร้อยเมตร แต่แปลกคือ พวกคนญี่ปุ่นที่ทำงานอาศัยอยู่ในไทย กลับไม่ค่อยเดินกันเลย ใกล้ๆก็นั่งมอเตอร์ไซท่าเดียว สงสัยว่าเป็นเพราะอากาศบ้านเรามันร้อนรึเปล่า เค้าถึงไม่เดินกัน หรือว่าเพราะค่าครองชีพบ้านเรามันถูก สิบบาท ความรู้สึกเหมือน สิบเยน จากคุณ : ปีกแห่งความฝัน เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 52 23:13:03

ความคิดเห็นที่ 18 ส่วนตัวคิดว่า   ที่ญี่ปุ่น การเดินทางด้วยระบบขนส่งมวลชน อย่างรถไฟ เป็นอะไรที่สะดวกมาก  เพราะไปได้เกือบทุกที่ ขณะที่ รถบัส มีน้อย ไม่ค่อยเป็นเวลา เลยไม่สะดวก แท๊กซี่ก็แพง และ ถ้าจะขับรถเอง ก็เหมือนอย่างที่ทุกคนบอกคือ ค่าที่จอดรถแพง มาก จะเป็นการเปลืองมาก ถ้าจะขับรถไปไหนๆ เพราะงั้น วัยรุ่นญี่ปุ่น ถ้าไม่ร๊วย รวย หรือมีอาชีพ ธุระปะปัง ต้องไปไหนมากๆ ก็คงไม่ต้องขับรถกันหรอก แต่ในไทย เนี่ยมันร้อน เดินมากๆก็ร้อนนะ มันก็ขึ้นอยู่กับว่าจะไปไหนมากกว่า แล้วมีที่จอดรถไม๊ อะไรงี้ สำหรับประเทศอื่นๆ ที่เจริญแล้วหรือยังไม่เจริญก็ตาม  เราว่าก็แล้วแต่ความสะดวกของระบบขนส่งมวลชนของประเทศนั้นๆ อย่างอเมริกา ถ้าเป็นในเมืองใหญ่แบบนิวยอร์ก รถไฟ ก็คงเป็นการเดินทางที่สะดวก แต่ถ้าเป็น ลอสแองเจอลิส  ก็คงไม่ใช่รถไฟ และเราว่าที่อเมริกา ในหลายเมืองคนก็นิยมใช้รถส่วนตัวกัน  เพราะรถยนต์ที่นั่นถูกมาก และบ้านส่วนใหญ่ก็อยู่ในเขตนอกเมือง ถึงจะมีสถานีรถไฟก็ก็ไกลจากบ้านมากอยู่ดี จนเดินไม่ไหว และบางรัฐในอเมริกา ก็สามารถสอบใบขับขี่ได้ตั้งแต่เด็กๆ จะเห็นว่ามีหนังวัยรุ่นหลายเรื่องที่เค้าขับรถไปโรงเรียนกันตั้งแต่ ม.ปลาย ก็แสดงให้เห็นว่ารถส่วนตัวก็เป็นที่นิยมเหมือนกัน และอีกอย่างประเทศไทยก็ผลิตรถได้เองนะ แต่ไม่มีแบรนด์เป็นของตัวเองแค่นั้นเอง สรุป ตอบกระทู้ แค่ 8 บรรทัดแรก ที่เหลือเวิ่นเว้อ เหอ เหอ เหอ จากคุณ : berry shortcake เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 52 13:14:10

ความคิดเห็นที่ 19 รับฟังทุกความคิดเห็นนะครับ แต่ไม่ว่าจะเพราะระบบขนส่งมวลชน สภาพอาศ หรืออะไรก็แล้วแต่ที่ความเห็น 18 มองว่าเป็นเหตุในการตัดสินใจในการเดินหรือใช้รถส่วนตัว แต่ในความคิดของผมแล้ว "ค่านิยม" ของคนในสังคมนั้นๆ เป็นหนึ่งในสาเหตุหลักที่สมาชิกในประเทศนั้นๆ จะเดินทางอย่างไร ตัวอย่างก็เห็นได้จากในกรุงเทพฯ ทั้งที่ระบบขนส่งมวลชนทั้งทางรถเมล์ รถไฟ เรือ ก็ครอบคลุมทุกที่ แต่ก็ยังรถติดได้ตลอด และพวกแว๊นก็ยังบิดมอเตอร์ไซค์ให้หนวกหูอยู่แทบทุกที่ "และก็ดูเหมือนบางคนจะไม่ได้ตระหนักถึงเรื่องนี้เลยว่าจะเอารถออกมาบนท้องถนนที่รถติดอยู่แล้วทำไม? จะมาร่วมสร้างมลภาวะเพิ่มขึ้นทำไม?" และถ้าใช้รถด้วยความจำเป็นจริงๆ ก็ไม่เป็นไร แต่ถ้านั่งชูคอในรถเพื่อโอ้อวดบารมีจอมปลอมที่ไม่ได้ช่วยให้ประเทศก้าวไปข้างหน้าเลย ก็คงไม่น่าดูนัก ส่วนเรื่องรถผมว่าผมพูดไม่ผิดหรอก ประเทศเรายังผลิตรถขายเองไม่ได้ด้วยเทคโนโลยีของเราเอง ด้วยการวางแผน ด้วยสมองของเราเองโดยไม่ต้องพึ่งพาต่างชาติเลย ที่เห็นโรงงานผลิตรถต่างๆ นั้น การออกแบบรถ เทคโนโลยีในรถ การออกแบบโรงงาน หุ่นยนต์ เทคโนโลยีในการสร้าง การวางระบบการผลิต ทุน สมองเขาจัดการมาทั้งหมด แล้วมาจ้างเราเป็นลูกน้องแรงงาน ก็อาจจะมีบ้างที่เขาถ่ายทอดความรู้ให้แล้วช่วยกันออกแบบ แต่ถ้าพูดกันตรงๆ ก็คือถ้าไม่มีต่างชาติเหล่านี้ เราก็ยังผลิตรถที่มีประสิทธิภาพเพื่อแข่งขันกับยี่ห้อต่างๆ ขายเองไม่ได้ แก้ไขเมื่อ 14 ก.ค. 52 15:06:58 แก้ไขเมื่อ 14 ก.ค. 52 15:04:20 แก้ไขเมื่อ 14 ก.ค. 52 14:54:16 จากคุณ : The Cosmos เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 52 14:49:58

ความคิดเห็นที่ 20 ประเทศที่เจริญแต่มีขนาดไม่ใหญ่นัก อย่างญี่ปุ่น อังกฤษ อิตาลี่ เค้านิยมเดินกันนะคะ มันมีหลายๆปัจจัยที่เอื้อให้เดินด้วยค่ะ เช่น อากาศดี ไม่มีฝุ่นละอองมาก ไม่ร้อน ทัศนีภาพดี ผังเมืองดี ถนนหนทางดี จากคุณ : NoMerzi เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 52 15:49:43

ความคิดเห็นที่ 21   ความเห็น17 ค๊า...ถูกใจใช่เลยจริงๆ คือเพื่อนเราที่เป็นคนญี่ปุ่นเค้ามาทำงานที่นี่ เราจะพาเค้าขึ้นรถเมล์(ย้ำกับเค้าแล้วว่ารถแอร์)เค้าไม่ยอมขึ้นอ่า...ไม่รู้ทำไม T___T จากคุณ : เต่าคุง in the sky เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 52 19:00:57

ความคิดเห็นที่ 22 แต่ก่อนก็สงสัยอยู่ว่า ทำไมขยันกันเดินจัง จนได้ไปสัมผัสจริงๆ รู้แล้วว่าทำไมถึงเดินกัน เอาแค่ทางเท้า ก็สะอาด สบายตากว่าบ้านเราแล้วครับ แถมสภาพอากาศก็ดีมากๆ ด้วย ขนาดวันฝนตกยังรู้สึกเย็นสบายเลย วันที่ร้อนก็ไม่ถึงกับร้อนจนเผาแบบเรา มันไม่ใช่เลย นอกจากนี้สภาพแวดล้อมเขาไร้มลพิศด้วย เลยสบายใจเลย จากคุณ : MobMan เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 52 20:48:32

ความคิดเห็นที่ 23 ฟุตบาททางเท้าเมืองไทยนี่ไม่ไหวจริงๆ ทั้งแตกทั้งทรุด มีสารพัดของมาตั้งขายกีดขวางทางเดิน เดินอยู่มีโต๊ะข้าวมันไก่จากรถเข็นมาตั้งขวางกลางฟุตบาทก็มี ต้องหลบทั้งโต๊ะที่ลูกค้านั่งกินอยู่ หลบทั้งคนเสิร์ฟข้าวมันไก่กับน้ำซุปร้อนๆ คนขายก็จะเอาแต่เงินมาตั้งได้ ลูกค้าก็ไม่มีวิจารณญาณเห็นว่าตั้งกีดขวางบนฟุตบาทก็ยังจะไปอุดหนุนกิน พอกัน หรือบางทีก็อาจจะมีเด็กแว๊นอยากโชว์รถหรือไงไม่รู้เอามอไซค์มาจอดกีดขวางทางเดินบนฟุตบาท หรือบางทีมันก็ขี่กันบนฟุตบาทเลย ไร้จิตสำนึกและวุฒิภาวะทางความคิดจริงๆ  ตำรวจหรือเจ้าหน้าที่ๆ เกี่ยวข้องกับเรื่องเหล่านี้ก็ไม่จัดการตามกฎหมายที่ว่าห้ามนำสิ่งของใดๆ มากีดขวางทางเดิน ไม่รู้ฟุตบาทมีเอาไว้ทำอะไร สงสัยเอาไว้เก็บส่วยหรือเปล่า ก็ยอมรับครับเดินในเมืองไทยไม่ค่อยมีความสุขจริงๆ คุณภาพชีวิตของคนไทยไม่ดีเอาเลย เละเทะยังไงไม่รู้ ต้องปรับปรุงในอีกหลายๆ ด้าน หรืออาจต้องปฏิวัติทางความคิดและการปฏิบัติกันเลย และที่ผมบอกไปว่าเดินแล้วทำให้ใจสงบน่ะ ไ่ม่ใช่ไปเดินในสถานที่ๆ ผมยกตัวอย่างไปข้างบนนะ แบบนั้นสงบยาก จากคุณ : The Cosmos เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 52 01:55:05

ความคิดเห็นที่ 24 คิดว่าเพราะสภาพแวดล้อม ความสะดวกและค่าโดยสารน่ะค่ะที่มีส่วน อย่างในอเมริกา ถ้าอยู่ในเมืองที่มีระบบขนส่งมวลชนที่ดี ก็ไม่ค่อยซื้อรถกัน ใช้วิธีขึ้นรถไฟ รถใต้ดิน หรือรถเมล์แล้วเดินต่อเอา สะดวกและประหยัดกว่า แต่ในบางรัฐ บางเมืองที่ไม่ใหญ่นัก ถ้าไม่มีรถนี่จะแย่เอา ไปไหนมาไหนทีลำบาก ที่มันกว้าง เดินกันน่องปูด รถเมล์ก็ไม่เยอะ รถใต้ดินก็ไม่มี จะขี่จักรยานเจอหิมะทีก็จบแล้ว จากคุณ : NAJ เขียนเมื่อ : 16 ก.ค. 52 22:17:24

ความคิดเห็นที่ 25   เมืองไทยน่าจะรณรงค์ไห้เดินเหมือนกันน่ะ รัฐน่าจะกั้นพื้นที่ไห้เดินโดยเฉพาะ สร้างหลังคามาคลุมกันร้อนไห้ ยังไงซักวันมันก็ต้องทำ น่าจะสร้างเอาไว้ก่อน จากคุณ : call เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 52 07:21:55 A:222.123.226.170 X: TicketID:165031