ความคิดเห็นที่ 3 |
กรณีที่สาม
เป็นกรณีที่ผมคิดว่าเป็นเรื่อง การใช้บล็อกเกอร์เพื่อสร้างเรื่องราวในเชิงการ ตลาดแบบแอบแฝงที่เรียกว่า Advertorial Ad แบบผิดๆ จนเกิดเรื่องเกิดราวกระหึ่มหน้า "มาบุญครอง" ของ www.pantip. com ทำให้เกิดการสูญเสียศรัทธาต่อบล็อกเกอร์คนนั้นอย่างที่เจ้าตัวคงไม่ได้คิด ว่าจะมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับตนเอง
บล็อกเกอร์รายนั้นมีนามแฝงว่า cookiecompany ซึ่งเป็นบล็อกเกอร์ที่มีชื่อเสียงมากในการทำบทวิจารณ์โทรศัพท์ มือถือ สร้างรายได้ให้เขาตั้งแต่ยังเป็นนักศึกษา จนมีแฟนคลับกลุ่มใหญ่ที่ใช้เนื้อหาบทความในบล็อกของเขาเพื่อใช้เป็นข้อมูลใน การตัดสินใจซื้อโทรศัพท์มือถือสักเครื่อง
เรื่องราวเกิดขึ้นเมื่อ cookiecompany ได้โพสต์กระทู้หัวข้อ "เกือบทิ้งชีวิตไว้ที่ป่าริมทะเลสาบข้างภูเขาฟูจิเมื่อคืน... ตีหนึ่ง กับความช่วยเหลือของคุณอมราภรณ์ DTAC 1678" ในช่วงกลางเดือนพฤษภาคม ที่ผ่านมา เรื่องราวสรุปได้ว่า cookiecompany ไปเที่ยวญี่ปุ่น แล้วเข้าพักโรงแรมแห่งหนึ่งบริเวณภูเขาฟูจิ จากนั้นเขาก็ได้ออกไปวิ่งจ๊อกกิ้งในช่วงสี่ทุ่มเศษๆ แล้วเกิดการหลงป่าบริเวณนั้นไม่สามารถที่จะกลับมายังโรงแรมได้ ต่อจากนั้นก็เป็นเรื่องราวของการโทรศัพท์มือถือเพื่อทำให้ตนเองรอดจากการหลง ป่าครั้งนี้ โดยการโทรศัพท์ไปที่เบอร์ของผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือรายหนึ่ง ซึ่งปลายสายเป็นพนักงาน Call Center ชื่อว่า อมราภรณ์ จากนั้นทางอมราภรณ์ก็ได้สอบถามถึงชื่อโรงแรมและจะติดต่อกับทางโรงแรมให้ จากนั้น cookiecompany ได้เดินต่อมาเรื่อยจนกระทั่งเจอสี่แยกแห่งหนึ่ง แล้วเขาก็ถ่ายรูปนี้ส่งกลับมาให้ทาง Call Center เพื่อให้รู้ว่าตอนนี้เขาอยู่ที่ไหน ทาง Call Center ก็พยายามช่วยเหลือโดยโทรไปหาไกด์ของการเดินทางครั้งนี้และจากนั้น cookie company ก็รอการช่วยเหลือจนเกือบถึงตีสาม จนกระทั่งไกด์มาพบและช่วยเหลือ cookiecompany จากการหลงป่าครั้งนี้
เรื่องราวนี้ของ cookiecompany พยายามเน้นถึงการให้บริการของ Call Center ของผู้ให้บริการรายนี้ พร้อมเน้นเนื้อหาในเชิงลึกลับ จนดูเหมือนเรื่องราวเป็นเรื่องแต่งมากกว่าที่จะเป็นเรื่องจริง อีก ทั้งมีกระทำการหลายๆ อย่างที่ดูเหมือนว่า cookiecompany พยายามให้คนเข้ามาอ่านกระทู้นี้ให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ ไม่ว่าจะเป็นการเขียนว่าให้ผู้อ่านพยายามช่วยกดกระทู้โหวต การพยายามโพสต์กระทู้ในหลายๆหน้าของ www.pantip.com ซึ่งนอกเหนือจากหน้ามาบุญครองแล้ว จะไปโพสต์ที่ หน้าหว้าก้อและโต๊ะเครื่องแป้ง รวมถึงพยายามแนะนำเนื้อหาของกระทู้นี้ผ่านทางระบบหลังไมค์ เพื่อกระจายข่าวไปยังสมาชิกรายอื่นๆ
เรียกว่าทำแทบทุกวิธีเพื่อให้ คนเข้า มาอ่านเนื้อหาที่โพสต์มากๆ ซึ่งวิธีการนี้ก็ส่อพิรุธบางประการแล้วว่า ทำไมถึงต้องพยายามขนาดนี้ หากเป็นเพียงกระทู้ธรรมดากระทู้หนึ่ง
เรื่องราวมาเข้มข้นทะลุจุด แตก เมื่อ ว่านน้ำ สมาชิกคนหนึ่งของห้องมาบุญครอง ซึ่งถือเป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องเกี่ยวกับประเทศญี่ปุ่นและทำการตรวจสอบ เนื้อหาของ cookiecompany โดยอาศัยหลักฐานจาก ภาพของ GPS ที่มาจากโทรศัพท์มือถือของ cookiecompany พบว่ามันไม่ใช่เส้นทางในป่า แต่กลับเป็นเส้นทางของถนน เลียบหาดในเมือง จึงสามารถสรุปได้ว่าการ หลงป่าฟูจิครั้งนี้ก็เป็นเพียงการกล่าวเท็จเท่านั้น
ผลการพิสูจน์ของคุณว่านน้ำครั้งนี้ ทำให้ชีวิตของคุณ cookiecompany เรียกได้ว่าไม่มีทางเหมือนเดิม
จากบล็อกเกอร์ที่มีคนติดตามจำนวนมาก กลับเป็นว่าแฟนคลับเข้าร่วมประณามการกล่าวเท็จครั้งนี้ และก็ลามไปถึงความน่าเชื่อถือของบทความในอดีตว่าที่วิพากษ์วิจารณ์โทรศัพท์ มือถือไปนั้น เขียนโดยสุจริตใจหรือมีอามิสสินจ้างใดที่ทำให้ได้เขียนถึงหรือไม่
แน่ ละครับ บางครั้งดูกลายเป็น การมองโลกในแง่ร้ายและเป็นการเหยียบซ้ำ cookiecompany แต่นั่นคือผลที่เกิดขึ้นคือชื่อเสียงที่สะสมมานาน ถูกทำลายป่นปี้ไม่มีเหลือ จนหลายคนใช้คำว่า cookie-company แทนคำว่าโกหก เหมือนกรณีของสมพงษ์ เลือดทหาร หากคุณผู้อ่านยังพอจะจำกันได้
ผม เคยเขียนบทความ "บล็อกเกอร์ เสียงใหญ่จากคนตัวเล็ก" ฉบับเดือนมิถุนายน 2551 โดยเนื้อหาได้เน้นถึงความสำคัญของบล็อกเกอร์ที่ทวีความสำคัญในฐานะ "Market Influencer" และผมได้ติดตามกระแสเรื่องนี้มาเรื่อยๆ สิ่งหนึ่งยืนยันได้ว่า มีการใช้บล็อกเกอร์เป็นเครื่องมือทางการตลาดกันมากจริงๆ
ผมเคย เขียนในบทความว่า การรักษาความน่าเชื่อถือของตนเองนั้นเป็นจุดเป็นจุดตายของบล็อกเกอร์ เพราะหากไม่มีใครเชื่อเสียแล้ว ย่อมยากที่จะทำตามคำแนะนำที่ให้ และอิทธิพลทางการตลาดที่เกิดขึ้นมาย่อมเสื่อมสูญสลายไป
แน่ละ กรณีนี้ถือเป็นอุทาหรณ์ของบรรดาบล็อกเกอร์ทั้งหลายว่า อยากจะเป็น เสรีชนที่มีคนเชื่อถือหรือเป็นเพียงมือรับจ้าง ที่รอวันถูกจับได้
ด้วยสายลับออนไลน์ที่พร้อมจับคนโกหก
จากคุณ |
:
ระริก~ระริก~
|
เขียนเมื่อ |
:
23 ก.ค. 52 16:05:55
|
|
|
|