 |
ความคิดเห็นที่ 22 |
คือ หนังมันเดาไม่ได้หรอกครับว่า หนังเรื่องไหนจะได้ตัง
เราและนายทุนก็ได้แต่สันนิษฐานเอาเองตามสถิติว่า หนังแบบนี้จะได้ตัง หนังแบบนั้นจะได้ตัง ใครบอกว่าหนังผีได้ตัง ก็ลองไปสืบหาหนังผีตั้งแต่ก่อนจนบัดนี้ ที่จริงมีไม่กี่เรื่องนะที่ได้ตังจริงๆน่ะ มีก็แค่ Shutter, 4 แพร่ง, The Eye นอกนั้นก็แค่พอหอมปากหอมคอ หลายเรื่องก็ขาดทุนด้วยซ้ำ
หรือหนังแอ็คชั่น ก็มีแค่หนังของจา พนม จีจ้า ที่ได้ตัง นอกนั้นก็ไม่เห็นได้ตังอะไร ขาดทุนอีกต่างหาก จะมีก็หนังตลกน่ะ เห็นได้ตังเอาๆ ทำมากี่เรื่องก็ได้ตัง ถ้าไม่ห่วยขนาดรับไม่ได้จริงๆก็ได้ตังเห็นๆ
สรุปแล้ว ถ้าเอากันตามสถิติรายได้หนังบ้านเรา ถ้าคุณอยากจะทำหนังให้ได้กำไรจริงๆ ไปเอามาเลยครับ พี่หม่ำ พี่เท่ง เฮียจาตุรงค์ หนังตลก เอามุขระดมเข้าไป ตัวอย่างตลกไว้ก่อน ยังไงคนก็แห่มาดูกันแน่ ถ้าคิดจะเอาแต่เงินเลย หนังไทยจะทำได้แนวเดียวจริงๆคือ "หนังตลก" แนวอื่นจะดับและไม่มีทางได้ทำ
-----------------------------------------------------------------------------
เพราะฉะนั้น ผมว่าตรรกะแนวหนังมันใช้ไม่ได้ที่บ้านเราหรอกครับ ในที่สุดก็ตกมาที่หนังดีไม่ดีอยู่ดี คือ ถ้าหนังมีจุดประทับใจ ไม่ว่าจะหนังแนวไหน ในที่สุด "พลังปากต่อปาก" จะทำหน้าที่สร้างรายได้เอง แล้วหนังจะได้กำไรจากตรงนั้น สังเกตสิครับ หนังที่ได้เงิน กระแสปากต่อปากจะแรงมาก คนจะพูดตลอด คือ จะมาวัดกระแสในพันทิปไม่ได้นะครับ ต้องวัดที่คนข้างนอกเขาพูดกันหรือเปล่าหลังหนังเข้าฉาย ถ้ามีพูดกันตลอด "เฮ้ย หนังนี่ดีนะแก" "โคตรซึ้งเลยว่ะ" "มันส์มาก" ฯลฯ อย่างนี้ก็รอรับทรัพย์ได้
คือ นอกจาก "หนังตลก" ที่เป็นของตายของหนังไทยแล้ว นอกนั้นต้องกระแสปากต่อปากครับ ถ้าคนไม่พูดถึงหนังข้างนอก หรือพูดในทางลบหรือเป็นกลางไม่ค่อนไปทางไหน หนังเรื่องนั้นก็ดับครับ
แก้ไขเมื่อ 26 ก.ค. 52 14:22:18
จากคุณ |
:
อายานุ
|
เขียนเมื่อ |
:
26 ก.ค. 52 14:21:04
|
|
|
|
 |