 |
ความคิดเห็นที่ 1 |
ปัญหาพื้นฐานทาง ศก. คือ "ความต้องการของคนไม่จำกัด แต่ทรัพยากรมีจำกัด"
จึงเกิดทฤษฎีบริหารจัดการทรัพยากรขึ้นมาหลักๆ สาม ทฤษฎี คือ ทุนนิยม --- บริหารและแจกจ่ายทรัพยากรด้วยกลไกตลาด ทรัพย์สินและปัจจัยการผลิตทุกอย่างเป็นของเอกชน สังคมนิยม --- บริหาร, แจกจ่ายทรัพยากร และถือครองปัจจัยการผลิตโดยรัฐส่วนหนึ่งและเอกชนส่วนหนึ่ง คอมมิวนิสต์ --- บริหารและแจกจ่ายแบ่งงานโดยรัฐทั้งหมด รัฐถือเป็นเจ้าของปัจจัยการผลิตทั้งหมด
จะเห็นว่าทั้งสามทฤษฎีข้างต้น เน้นการ "ัจัดการกับทรัพยากร" ซึ่งต่างก็มีจุดแข็งจุดด้อยต่างกันไป
ส่วน"ทฤษฎีเศรษฐกิจพอเพียง" เน้นไปที่ "การควบคุมความต้องการของมนุษย์"
หลักการ "คิดก่อนซื้อ" "ใช้สิ่งที่มีอยู่ให้เป็นประโยชน์และคุ้มค่าที่สุดก่อน" "ใช้เหตุและผลในการตัดสินใจใช้จ่ายอุปโภคบริโภค" ก็เป็นการ "ควบคุมความต้างการของมนุษย์ที่มีไม่จำกัด" นั่นเอง
ในครั้งแรกเมื่อปีราวสิบกว่าปีก่อน พระองค์ท่านเสนอหลักการพื้นฐานของ ศก.พอเพียง แล้ว "ยกตัวอย่าง" ว่า "การทำเกษตรทฤษฎีใหม่หรือไร่นาสวนผสม" เป็น "ทางออก" หรือตัวอย่างหนึ่งของ ศก.พอเพียง สำหรับเกษตรกรทีต้องการใช้ที่ดินให้เกิดประโยชน์คุ้มค่าสูงสุด ไม่ใช่การเกษตรแบบ "เชิงเดี่ยว (เน้นปลูกพืชผลเพียงชนิดเดียว)" ที่ก่อหนี้สินให้เกษตรกร ดังนั้น เกษตรทฤษฎีใหม่หรือไร่นาสวนผสมเป็นเพียง "ส่วนหนึ่ง" ของ "ศก. พอเพียง"
น่าตกใจคนกลับแปลความว่า "ศก. พอเพียง = ไร่นาสวนผสม" เสียอย่างนั้น
ปล. Edit เพิ่มหน่อย
ดังนั้นไม่ว่าใครเราก็อยู่กันแบบพอเพียงได้
สิ่งที่ปรากฎในคลิป เป็น "วัฒนธรรมชาวบ้าน" นอกจากนี้วัฒนธรรม "ชาวบ้าน" เช่น การปลูกพืชผลไว้แลกเปลี่ยนกัน แบ่งปันทรัพยากร การปลูกผักสวนครัวพืชสมุนไพรไว้ในบ้าน การต่อรอง แบ่งสรรทรัพยากรน้ำระหว่างหมู่บ้านผ่านตัวแทนหมู่บ้านอย่าง "แก่ฝาย" "การประชุมที่ข่วงใจบ้าน(ลานเอนกประสงค์กลางหมู่บ้าน)เพื่อแก้ไขข้อพิพาทและหาทางออกของปัญหา"
เหล่านี้ถือเป็น "หลักประกันปากท้อง" "หลักประกันสุขภาพ" "หลักประกันความมั่นคงทางทรัพยากร" ที่มีมาก่อนการเข้ามาของการเกษตรเพื่อส่งออก
รัฐไทยในยุคเกษตรเพื่อส่งออก กลับส่งเสริมให้ประชาชนทำเกษตรเชิงเดี่ยว ปลูกอยู่อย่างเดียวทั้งไร่ทั้งสวน แล้วสอนว่า "เงิน" คือหลักประกันต่างหาก ไม่ใช่ข้าวปลา ปลูกพืชผลให้ได้เยอะๆ แล้วค่อยเอาิ "เงิน" ไปแลกเป็นอย่างอื่น ง่ายกว่าเก็บข้าวปลาไปแลกกันเยอะเลย - ปลูกพืชให้ได้ผลผลิตต่อไร่เยอะๆ - เดี๋ยวเอาข้าวดีๆ มาให้จะได้ปลูกได้เยอะๆ (ทำลายความหลากหลายของพันธุ์ข้าวพื้นเมือง เพราะให้ - ปลูกแต่ข้าวที่ส่วนกลา่งวิจัยมาให้) - ใส่ปุ๋ยเคมีเข้าไปสิจะได้เยอะๆ - ยาฆ่าแมลงก็ฉีดเข้าไปสิจะได้ผลผลิตเยอะๆ อยากทำงานเร็วก็ใช้รถไถสิ ฯลฯ ไม่มีเงินซื้อปุ๋ยซื้อยาฆ่าแมลงซื้อรถไถหรือ???? ธกส. จัดให้ เป็นหนี้รัฐฯ เถอะนะ
ปีไหนลมฟ้าอากาศ ศัตรูพืชไม่ลำบากก็ำกำไรไป แต่ปีไหนลมฟ้าไม่เป็นใจ ก็ล่มจมทั้งสวนทั้งไร่ นี่แหละเกษตรเชิงเดี่ยวเพื่อผลกำไร ไม่กระจายความเสี่ยงไปที่พืชชนิดอื่นด้วย วันดีคืนร้าย ก็โดน "พ่อค้าคนกลาง" กดราคาเข้าไปอีก
ระบบสหกรณ์ หรือการรวมกลุ่มของเกษตรกรในรูปแบบต่างๆ เช่นเพื่อต่อรองกับพ่อค้าหรือขนสินค้าไปขายเอง กับ เกษตรแบบผสมจึงเป็นทางรอดทางหนึ่งของเกษตรกรไทย
แก้ไขเมื่อ 26 ก.ค. 52 17:00:20
จากคุณ |
:
Zenithius
|
เขียนเมื่อ |
:
26 ก.ค. 52 15:44:27
|
|
|
|
 |