ความคิดเห็นที่ 1 งดเข้าโต๊ะแป้งช่วงกลางปี และ ปลายปี ก็น่าจะพอช่วยได้นะ ฮ่าๆๆๆ จากคุณ : Phmatzue เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 52 23:16:24

ความคิดเห็นที่ 2 มาเล่าประสบการณ์ให้ฟังค่ะ ครั้งหนึ่งออกพื้นที่ทำงานบริการชุมชน (อ.หนึ่งในเขตพื้นที่ภาคเหนือ)  สังเกตเห็นเด็กผู้หญิงของตำบลนั้นใส่กางเกงลายดอก บานๆ หูรูด  เป็นกางเกงประเภทที่สาวห้องแป้ง คงใส่สำหรับเป็นชุดอยู่บ้าน ล้างชาม หรืออื่นๆ   แต่ขอบอกว่าเด็กที่นั่นใส่กันเป็นชุดสวยงามสำหรับพวกเค้าเลยนะเพื่อมาร่วมงานกับ หน่วยบริการชุมชนของมหาวิทยาลัย แล้วใส่กันเกือบทั้งหมู่บ้าน  วันนั้นกลับบ้านพร้อมกับความสำนึกผิดในความฟุ่มเฟือยของตัวเองในการซื้อเสื้อผ้ามากๆ   หลังจากนั้น ก็เปลี่ยนนิสัยประหยัดขึ้นมากมาย แล้วบริจาคมากขึ้น        ที่เล่ามานี้เพื่อเป็นข้อคิดให้สาวนักช้อปทั้งหลาย ได้คิดถ้าหากหยุดซื้อไม่ได้ให้ลองคิดถึง เด็กผู้หญิงที่ไม่มีแม้แต่เสื้อผ้าดีๆใส่เถอะค่ะ เพราะเรามีเด็กกลุ่มนี้อีกมากมายในสังคมไทย *หมายเหตุ ไม่ต้องการเล่าเพื่อแสดงตัวว่าเป็นคนดี หรือยกตัวเองใดๆทั้งสิ้นแต่เป็นประสบการณ์จริง ที่เปลี่ยนแปลงการใช้ชีวิตไปได้อย่างไม่น่าเชื่อ** จากคุณ : karita (karita) เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 52 23:58:41

ความคิดเห็นที่ 3 เวลาเจอเสื้อผ้าหรือของแพงๆที่อยากได้ เราจะยังไม่ซื้อทันทีอ่ะ กลับบ้านก่อน คราวหน้ามาใหม่ ถ้าตอนนั้นยังอยากได้อยู่ก็ค่อยซื้อ เพราะบางทีเราก็แค่วูบวาบไป ไม่ได้อยากได้จริงๆหรอก แต่ถ้ากลับไปอีกทีแล้วมันไม่อยู่แล้ว ก็ถือซะว่ามันไม่มีบุญได้มาอยู่บนเรือนร่างของเราละกัน 555+ ปล. แต่กรณีนี้ใช้ไม่ค่อยได้ผลในกรณีที่มันลดกระหน่ำซัมเมอร์เซลล์ ประมาณ 50% ขึ้นไป จากคุณ : แฟนพี่บีม เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 52 00:21:33

ความคิดเห็นที่ 4 555 จริงด้วยค่ะ คุณ Phmatzue เราก็ออกมาซักพักละ มาสิงอยู่ห้องแมว ก็อยากเลี้ยงแมวอีกละ เฮ้อออ ตอนนี้ตระเวนดูหนัง หาซื้อdvdมาเก็บ จากคุณ : PusZehCat เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 52 00:29:18

ความคิดเห็นที่ 5 ที่เราทำ -ไม่พกเครดิตการ์ด ไม่ซื้อของเงินผ่อน -ถ้าไปชอป จำกัดวงเงินไว้ ไปพร้อมเงินจำนวนนั้น -เดินดูของให้ครบทุกอย่างเพื่อดูของที่ถูกใจที่สุด และคำนวนราคาไว้ -ตัดสินใจซื้อแค่บางอย่างที่ดูแล้วคุ้มค่า บางอย่างเก็บไว้เจอที่ถูกใจคราวหน้า แต่ก็ยอมรับนะว่าส่วนใหญ่เป็นคนที่หมดเงินไปกับ "หนังสือ" ส่วนเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายๆ หมดไปน้อยมาก ทั้งๆ ที่แต่งตัวก็แปลกกว่าชาวบ้าน (แนวโกธิคโลลิหน่อยๆ แล้วแต่งไปทำงานด้วย) แต่เพราะชุดพวกนั้นประยุกต์เองจากชุดราคาถูกๆ ก็เลยไม่เปลืองเท่าไหร่ จากคุณ : por_kk เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 52 00:39:20

ความคิดเห็นที่ 6   เก็บบัตรเครดิตทุกใบไว้ที่บ้าน กำหนดเงินที่จะใช้ในแต่ละครั้ง อย่าสงสารหรือคล้อยตาม BA เครื่องสำอางค่ะ เหตุการณ์นี้ทำให้เราต้องเปลี่ยนวิธีการใช้เงินค่ะ  55 จากคุณ : LadyPARIS เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 52 00:40:07

ความคิดเห็นที่ 7 ไม่ไปเดินห้าง หรือที่ ที่คิดว่าไปแล้วมันต้องเสียทรัพย์ค่ะ จากคุณ : pikmy_sweety เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 52 01:45:08

ความคิดเห็นที่ 8 ต้องพบจิตแพทย์ฮะ หากเพื่อนคุณมีคนที่อาการหนักถึงขั้นยอมเป็นหนี้ เพราะแสดงว่าครอบครัวเค้าอาจจะเอาไม่อยู่ ... มันเป็นอาการแก้ทางความเครียดด้วยการปลดปล่อยความกดดันออกมาในรูปแบบของการปลดปล่อย "เงิน" .. จิตใต้สำนึกเค้าอาจจะกำลัง anti พวกทุนนิยมโดยไม่รู้ตัว ...อะไร อะไร ก็ต้องทำเพื่อเงิน แต่ชั้นต้องการสิ่งอื่นที่ชั้นชอบ ไม่ใช่เงิน ฉะนั้น เงินจงไปเอาสิ่งที่ชั้นชอบมาเดี๋ยวนี้ ! ประมาณนี้... ข้าเจ้าไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญ คงได้แต่คาดเดาว่าให้ลองดูเพื่อนคุณเค้าชอบซื้ออะไร ส่วนใหญ่มันจะเป็น Group สิ่งของประเภทเดียวกัน เช่น ชุดของเสื้อผ้า, กลุ่มของเครื่องสำอางค์, เครื่องประดับ เป็นต้น ... อาจจะเป็นการชดเชยปมด้อยอะไรซักอย่างที่เค้าไม่มี ...คงต้องลองแก้ด้วยการหาให้เจอว่าเพื่อนคุณเค้าเก็บกด น้อยใจในความไม่มีอะไร หรือเครียดเรื่องอะไร ค่อยไปจี้ตรงนั้น ... จะไปด่าให้ระวังเรื่องการใช้เงิน อาจจะเกาไม่ถูกที่คัน... หากเพื่อคุณชอบจ่าย แล้วคุณรักเพื่อน อาจจะต้องหลอกล่อให้จ่ายเป็นเรื่องการลงทุนมากกว่าจ่ายเพื่อเป็นค่าเสื่อมไปกับสิ่งของ... จ่ายในหุ้นเงี่ย หรือซื้อพวกอะไรที่งอกเงยได้ ทำยังไงก็ได้ให้มันมี Pay back period ที่เป็นบวก แล้วก็... เรื่องที่อาจจะแก้ยากที่สุด คือ ถ้ามันไม่ได้เข้าข่ายอย่างข้างบนที่ว่า ข้าเจ้าว่าอาจจะเป็นอาการย้ำคิดย้ำทำเบื้องต้น ...จริงๆ พวกนี้ศาสนาพอจะช่วยได้ฮะ... ไม่งั้นก็จิตแพทย์โลด... ข้าเจ้าก็ช่วยได้แค่นี้ฮะ.. เพราะไม่ได้เรียนมา แค่อาศัยว่าชอบอ่านหนังสือจิตวิทยาเท่านั้น... ยังไงลองหลังไมค์ถามพี่หมอ login "ผมอยู่ข้างหลังคุณ" ดูฮะ เพื่อพี่เค้าจะช่วยแนะนำได้ แก้ไขเมื่อ 28 ก.ค. 52 02:08:23 จากคุณ : _K_F_C_ เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 52 02:06:59

ความคิดเห็นที่ 9 ไม่ให้ตังอยู่ในกระเป๋า ไม่มีบัตรเครดิตอยุ่ติดตัว มันหมดแ้ล้ว หมดตรูดแล้ว จะจ่ายได้ไง มันจ่ายไม่ได้ Shopaholic ไม่ได้แล้ว !!!~ จากคุณ : ying_aui เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 52 02:17:45

ความคิดเห็นที่ 10 ท่องไว้เลยครับ "ไม่จำเป็น มีอยู่แล้ว" ซ้ำไปซ้ำมา.. จากคุณ : JamesBond เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 52 02:33:51

ความคิดเห็นที่ 11 ตกใจคุณแฟนพี่บีม ตรงมากเลยคร้าบบบบบ พึ่งโดนไปหยกๆ กับร้านที่ลดราคา 50% กระเป๋าตังกลวงโบ๋เลย 555 จากคุณ : lonely alien เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 52 04:46:02

ความคิดเห็นที่ 12 ล่ามโซ่กับเตียง   ฟังดูลามกนะคับ - -' จากคุณ : บรึ๋ยศักดิ์ เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 52 05:05:23

ความคิดเห็นที่ 13 ไม่ต้องทำบัตรเครดิตเลย จากคุณ : Cigarette Smoking Man เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 52 09:28:09

ความคิดเห็นที่ 14 ไม่ทำบัตรเครดิต .. โทรมาชวนตลอด ไม่รู้ไปสรรหาเบอร์จากไหน น่าเบื่อมาก พอบอกทำไมไม่ทำคะ เผื่อกรณีฉุกเฉิน บอกไม่ชอบพกบัตรเครดิต เงินสดก้ไม่ค่อยพก มีแต่บัตร atm เพราะชอบทำเงินหายบ่อย พี่แกก้อ้างนู้นอ้างนี้ เรียกให้ทำจนได้ รำคาญมากบางทีกดตัดสายทิ้ง ผิดไหมเนี้ย ... จากคุณ : MaENi~ เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 52 09:59:54

ความคิดเห็นที่ 15 #14 ... คราวหน้าคุณก็ต้องอ้างว่าตกงานอยู่ไปเลยฮะ..พวกนี้มักจะไม่มารบกวนอีก ถ้า... - เป็นบริษัทบัตรเครดิต แล้วเจอลูกค้าบอกว่ามีอยู่แล้ว หรือว่าบ้านจน ตกงาน - เป็นบริษัทประกัน ถ้าประกันสุขภาพ มันจะไม่ยุ่งกับพวกเป็นโรครักษายาก อย่างเก๊าท์ หรือโรคเรื้อรังอื่นๆ จากคุณ : _K_F_C_ เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 52 10:16:28

ความคิดเห็นที่ 16 คุณจขกท. ต้องเอาชนะใจตัวเองให้ได้จ้ะ พูดง่าย แต่ทำยากเนอะ อิอิ คห.14 และ 15 อืม..เรื่องโทรมาชวนทำประกันเนี่ย.. เมื่อก่อนเจอประจำ -_-" แต่ตอนหลังๆนี่หายเกลี้ยง!! ไม่ทราบว่าเขาส่งข้อมูลถึงกันหรือเปล่า ? เพราะบอกไปตามความจริง(ปนเบื่อ)ว่า เป็นมะเร็งจ้ะ ตั้งแต่วันนั้น ก็ไม่มีโทรศัพท์จากบ.ประกันอีกเลย เหอ..เหอ จากคุณ : แมวดำ_โดนสาป เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 52 11:44:21

ความคิดเห็นที่ 17 ช่วงนี้นี่เป็นเต็มๆเลยค่ะ แต่สามารถยับยั้งได้บ้าง เดินดู เดินลอง แต่ไม่จ่าย ชอบดูค่ะ เพลินดี เห็นเพื่อนสาวลองแล้วมันก็สนุกอ่ะนะคะ ถ้าไม่ได้ชอบมากๆๆๆๆ ไม่จำเป็น ไม่มีแรงยุมากๆนี่ไม่จ่ายค่ะ จากคุณ : ohdennis เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 52 11:50:26

ความคิดเห็นที่ 18 ลองเปรียบเทียบกับของอย่างอื่นที่จะซื้อ ผมเองก็ใช้อยู่บ่อยๆ เช่นถ้าซื้อกางเกงสแลคตัวละ 1200 ไปซื้อเก้าอี้เบาะนวมตัวใหญ่ๆไว้นั่งเล่นคอม ได้เก้าอี้นิ่มๆตัวนึงเลยนะ (รำพึงในใจ) แถมเหลือเงินซื้อกางเกงตัวละร้อยกว่าบาทได้อีกสองตัวเลย บางทีใช้เงินแบบนี้ก็สนุกกว่า คิดซะว่ามันท้าทาย แถมได้ของหลายอย่างไว้ใช้งานอีกด้วย ~ แก้ไขเมื่อ 28 ก.ค. 52 12:52:16 จากคุณ : มณีเล้ง เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 52 12:51:38

ความคิดเห็นที่ 19 มีแฟนงกๆดิคับ เค้าจะช่วยห้ามคุณเอง จากคุณ : seebyfly เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 52 13:47:34

ความคิดเห็นที่ 20 ไปช็อปกับแม่ แม่จะบ่นให้หายอยากไปเองค่ะ แต่ถ้ามัน sale แม่จะไม่ว่าอะไรเลย จากคุณ : หวานเย็นโมจิ เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 52 15:23:27

ความคิดเห็นที่ 21 เจอนางเอกเรื่องนี้แล้ว(ช่วงแรก) ปวดตับจริงๆ ผมว่าเมืองไทย สินค้าในไทยเรามีดี สาวไทยบ้าช๊อป ไปJJหรือสวนลุมไนท์ ก็ของดีไม่ต่างกัน ไม่ต้องแบรนด์เนมนอก ผมเองนานๆซื้อที แต่ก็เอาของดีหน่อยเพราะกะใช้นาน จากคุณ : ขอเอาชื่ออากงเป็นเดิมพัน เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 52 16:49:36

ความคิดเห็นที่ 22 #16... เฮ้ย! เอาจริงดิ ... หายไวๆ นะฮะ ...ข้าเจ้าว่าเป็นเก๊าต์ตั้งแต่ยังวัยรุ่นเนี่ยก็ซวยพอแล้วนะ เจอคุณเค้าไปเนี่ย... เซ็งแทนเลย หายไวๆ ฮะ ส่วนเรื่องข้อมูลส่งถึงกันเนี่ย พวกนี้เค้าจะมีโคกัน (ถ้าอย่างไม่เป็นทางการเราเรียกว่ามีใต้โต๊ะกัน) เกี่ยวกับเรื่องข้อมูลคนทำบัตรเครดิตฮะ ..มันมักโคกับโรงหมอบ้าง ไม่ก็ทางห้างบ้าง ...พวกยี่ห้อบัตรทั้งหลายก็จะได้ประวัติการใช้จ่ายที่เกิดจากการรูดบัตรของเราทีมีอยู่ (ไม่ว่าจะเดบิตหรือเครดิต) หรือถ้ามีการใช้จ่ายมูลค่าสูงๆ สะดุดตา (ตามเกณฑ์การประเมินที่เค้าตั้งไว้) ...พวก sale เหล่านี้ก็จะพยายามตาม list ชื่อเพื่อไล่โทรทำยอดกันให้ได้ฮะ.. จากคุณ : _K_F_C_ เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 52 17:41:43