Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
จาก " ผู้หญิง ถึง ผู้หญิง "...และถึงแม้ว่าคุณไม่ใช่ผู้หญิง ก็ขอร้องให้เข้ามาเถอะค่ะ !!  

หลังจากที่ได้ชมรายการ ผู้หญิงถึงผู้หญิง วันนี้ ในช่วงสองเบรคแรก..

โดยเริ่มจากหนึ่งในสี่พิธีกร คือคุณไก่ มีสุข กล่าวนำถึงเรื่องของวันที่ 1สิงหาคม ซึ่งเป็น"วันสตรีไทย" ในเบรคแรก เรื่อยไปจนถึงเบรคที่สอง พิธีกรอีกคนหนึ่งคือ คุณปุ้ย พิมลวรรณ ได้เล่าถึงเรื่องราวของหญิงสาว ที่มีความทรงจำเลวร้าย จากผู้ชาย ซึ่งเป็นคนในครอบครัว

เรื่องความรุนแรงต่อสตรีไทยนั้น เกิดขึ้นบ่อย และได้ยินกันมานานแสนนาน จนแทบจะกลายเป็นความเคยชิน ถึงแม้จะมีหลายหน่วยงานออกมารณรงค์อย่างต่อเนื่อง หรือแม้กระทั้งการกระตุ้นเตือนด้วยการแจ้งยอดของผู้หญิงที่ถูกทำร้ายว่า ผู้หญิงกว่า 80เปอร์เซ็นที่ถูกทำร้าย ทั้งร่างกายและจิตใจนั้น มาจากบุคคลใกล้ชิดในครอบครัว โดยเฉพาะ พ่อ สามี และแม้แต่ลูกของตนเองก็ตาม

ผลที่ได้รับก็แค่ไฟไหม้ฟาง..

แต่สิ่งที่สะกิดใจเรา จากรายการผู้หญิงถึงผู้หญิงในวันนี้คือ ประโยคสั้นๆ จากภาพรายงานการสัมภาษณ์หญิงสาวที่ถูกสามีตัวเองทำร้ายร่างกาย จนนำไปสู่การสูญเสียคนหนึ่ง กล่าวกับทีมงานที่ไปพูดคุยกับเธอ ประโยคที่เราตั้งคำถามกับมันทุกครั้งที่ได้ยิน

"...พอเกิดเรื่องขึ้น(ถูกสามีทำร้าย) แม่ก็บอกว่าให้อดทน ทำไงได้ มีลูกด้วยกันแล้ว เราไม่ห่วงลูกเหรอ ลูกสาวด้วยนะ ถ้าเลิก(กับสามีคนที่ทำร้ายร่างกายเธอ)ไป แล้วแต่งงานใหม่ ลูกก็ต้องมีพ่อใหม่ ไม่กลัวพ่อใหม่ข่มขืนลูกสาวเราเหรอ "

เมื่อเล่ามาถึงตรงนี้ หญิงสาวก็บอกทั้งน้ำตาว่า เธอจึงฉุกคิดขึ้นมา และคิดว่าไม่อยากให้ลูกต้องขาดพ่อ จึงยอม"ทน"ต่อไป จนในที่สุด เธอก็พลั้งมือ ฆ่าสามีของตัวเองเสียชีวิต หลังจากที่สามีเมาสุรา แล้วตรงเข้ามาทำร้ายเธอ ก่อนที่เธอจะคว้ามีดทำครัวขึ้นมาป้องกันตัว จนเกิดเหตุการณ์น่าเศร้าขึ้น


...ทนเถอะลูก แต่งกันไปแล้วก็ต้องทน...

...ทนเถอะลูก เห็นแก่ลูกเรายังเล็ก เราต้องอดทน...

..ทนเถอะลูก เราต้องพึ่งเขาเลี้ยงดู เราต้องทน..

หรือแม้กระทั้ง ทนเถอะลูก..เพื่อหน้าตาทางสังคม  เราก็ต้องอดทน..

อีกหลายต่อหลายเหตุผล ที่ถูกหยิบยกขึ้นมาเพื่อบอกให้ผู้หญิง ต้อง "ทน" รับกับสภาพความเป็นอยู่ที่ทำให้เธอต้องบอบช้ำวันแล้ววันเล่า ทั้งกายและใจ

เราเองก็เป็นผู้หญิงคนหนึ่งค่ะ และเราก็มีแฟนที่เรารักมาก แม้จะยังไม่ได้แต่งงานกัน แม้จะยังไม่อาจเข้าใจถึงความผูกพันอันลึกซึ้ง ระหว่างสามีภรรยา

แต่ประโยคที่น้องคนนั้นพูดว่า..ทนเถอะลูก..มันสะกิดใจเราจริงๆ

ทำไม ผู้หญิงถึงต้องเป็นฝ่ายทน???

ทำไมสังคมไทย ถึงทำเหมือนผู้หญิงคือเพศที่จำยอม ต้องรับทุกสภาพที่ถูกยัดเยียดให้ต้องเผชิญ?

ทำไม พ่อ แม่ พี่น้อง ของหญิงสาวรายใดก็ตามที่ถูกกระทำแบบนี้ ถึงไม่บอกกับเธอว่า "กลับมาอยู่บ้านเราเถอะลูก เอาหลานกลับมาอยู่บ้านเรา ถ้าต้องให้เด็กเติบโตมาในสภาพครอบครัวที่มีพ่อแบบนั้น พาลูกกลับมาหาตายาย ที่พร้อมจะรักและดูแลแกจริงๆไม่ดีกว่าหรือ? เพราะแม่กับพ่อเชื่อว่า หนูจะทำหน้าที่ทั้งพ่อและแม่ให้กับลูกของหนูได้เป็นอย่างดีแน่นอน"

หรือ "หนูต้องเข้มแข็ง หนูต้องอยู่ต่อไปให้ได้ เพื่อหนูและลูกของหนู จะผ่านความเจ็บปวดเสียใจ และได้ก้าวออกจากนรกบนดินขุมนี้ไปให้ได้สักที"

แต่ทำไมต้องบังคับให้เธอต้องทน...

เพียงเพราะเป็นเรื่องในครอบครัวของเธอ คนอื่นไม่เกี่ยว
(เหมือนเวลาโจรฉุดผู้หญิงแล้วตะโกนว่า เรื่องผัวเมีย พวกเมิงอย่ายุ่ง)

เพียงเพราะคิดว่า เขาจะกลับตัวได้ในสักวัน
(ซึ่งเราไม่มีทางรู้ได้ว่าวันไหน)

หรือเพียงเพราะ ยอมทนเพื่อประคับประคองชีวิตครอบครัว ให้ลูกได้มีพ่อแม่พร้อมหน้าพร้อมตา
(โดยให้ลูก ซึมซับภาพที่แม่ถูกทารุณโดยพ่อตัวเองทุกวันๆ และไม่รู้ว่าการกระทำรุนแรงนั้น จะเผื่อแผ่มาถึงลูกของเราวันไหน)

เมื่อไหร่สังคมไทย จะคิดว่า " การทำร้ายร่างการผู้หญิงซึ่งเป็นลูก หรือภรรยาตนเองนั้น เป็นสิ่งที่น่ารังเกียจ น่าละอาย ยอมรับไม่ได้ และต้องได้รับการแก้ไข หรือลงโทษ" เราพ้นยุคของนางทาสมานานแค่ไหน แต่ทำไมสังคมไทยยังมีค่านิยมว่าผู้หญิงต้องเป็นฝ่ายรองรับทุกสิ่งอย่างอยู่เสมอ

แล้วเมื่อไหร่ ผู้ชาย" บางคน "จะคิดได้ว่า..

การที่ผู้หญิงสักคน ตัดสินใจรักคุณ เลือกคุณ แต่งงานกับคุณนั้น...
คงไม่ใช่แค่เธอคนนั้น ต้องการออกจากงานมานั่งสบายๆอยู่ที่บ้านหรอกมั้ง!!

แต่เป็นเพราะ เธอเชื่อมั่นในตัวคุณ เธอพร้อมจะฝากทั้งชีวิตของเธอไว้ในกำมือคุณ และเธอพร้อมจะยอมทิ้งทุกสิ่ง ยอมแลกทุกอย่าง ก็เพื่อคุณคนเดียวเท่านั้น

พวกเธอเหล่านั้น อาจต้องอดตาหลับขับตานอน รอคุณกลับบ้านทุกคืนทุกวัน เพียงเพื่อจะได้ถามคุณว่า "หิวมั้ยค่ะ คุณทานอะไรมาหรือยัง?"
ได้เห็นคุณกลับถึงบ้านอย่างปลอดภัย ล้มตัวลงนอนอย่างสบายข้างกายเธอเท่านั้น เธอก็สุขใจแล้ว

คุณค่ะ!! ยังจำวันแรกที่คุณรักเธอได้มั้ยค่ะ..

ยังจำคำสัญญาที่ให้ไว้กับตัวเองในใจว่า เราจะดูแลเธอคนนี้ให้ดีที่สุดได้หรือเปล่า?

วันที่คุณแต่งงาน..

วันที่ลูกสาวคุณคลอด..

วันที่คุณกราบเท้าแม่ของคุณครั้งแรก..


แค่เสี้ยววินาทีเท่านั้น ก่อนจะเงื้อมือขึ้นตบ ก่อนจะง้างเท้าขึ้นเตะ....

ขอแค่ให้พวกคุณ ยังหวนคิดถึงความรู้สึกในวันนั้นได้บ้าง ก็เพียงพอแล้ว..


....เพราะพวกเราเองก็เจ็บได้ ร้องไห้เป็น เหมือนพวกคุณนั่นล่ะค่ะ.......

...

แก้ไขเมื่อ 30 ก.ค. 52 13:04:11

 
 

จากคุณ : ตุ๊กตาหมีกับดอกลิลลี่สีขาว
เขียนเมื่อ : 30 ก.ค. 52 10:22:40




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com