 |
ความคิดเห็นที่ 1 |
ลอกมาให้อ่านกัน....
สามชุก หนังสนุก
ซึ้ง
กินใจ
ตัวเก็งภาพยนตร์ยอดเยี่ยมสุพรรณหงษ์ แน่นอน!
สามชุก หนังไทยเรื่องแรกที่ กระทรวงวัฒนธรรมแนะนำให้คนไทยดู ประโยคนี้แหละที่ทำให้คนส่วนใหญ่มีความคิดว่าหนังเรื่องนี้คงไม่สนุก แล้วทำให้ไม่อยากไปดู เพราะภาพพจน์ของกระทรวงวัฒนธรรมกับหนังไทย เป็นภาพของการควบคุมให้อยู่ในกฎระเบียบ เป็นภาพที่ต่อต้านความบันเทิง แล้วยิ่งมารวมกับการตอกย้ำทางการโฆษณาประชาสัมพันธ์ ที่เน้นว่าเป็นหนังเพื่อแก้ปัญหายาเสพติด รวมถึงการตั้งชื่อเรื่อง ขอโอกาสอีกครั้ง มันยิ่งทำให้หนังถูกจัดวางตำแหน่งในความคิดของคนว่า เป็นหนังที่ทำมาเพื่อมุ่งหวัง การสะท้อนสังคม มุ่งหวังสั่งสอนคนดูซึ่งคงน่าเบื่อเหมือนแบบเรียน ทั้งๆที่จริงแล้วในตัวหนังเป็น ดรามา วัยรุ่นที่สนุก สนุกแบบดราม่า สนุกแบบซึ้งกินใจ หัวเราะทั้งน้ำตา แม้จะไม่ใช่ดราม่าชั้นครูแบบน้ำพุ แต่ก็เป็นดราม่าแบบไทยๆที่มีความโดดเด่นในเรื่องรายละเอียดของชีวิต บรรยากาศและอารมณ์หนัง ที่ใช้ความซื่อ ความเป็นชนบท ความเป็นวัยรุ่นต่างจังหวัดแบบไทยๆมาเสนอได้ดีที่สุดเรื่องนึงเลย
หนังเล่าเรื่องเด็ก 7 คน ที่เริ่มติดยาบ้าแล้วมีครูคนหนึ่งรู้เรื่องเข้า จึงพยายามซักถามถึงสาเหตุแล้วก็ได้รู้สาเหตุ ว่าส่วนใหญ่มาจากปัญหา ไม่ว่าปัญหากับทางบ้าน ปัญหาที่โรงเรียน ปัญหาความรักวัยรุ่น แต่มีบางส่วนที่ติดยาตามเพื่อน เมื่อเด็กบอกจนหมดก็ขอร้องครูว่าอย่าบอกพ่อแม่ แต่ด้วยความเป็นครูจึงพยายามจะช่วยเหลือแก้ไขปัญหา เอาเข้าที่ประชุมครูในที่สุดมีผลออกมาว่า ให้ทำทัณฑ์บน และ แจ้งผู้ปกครอง เด็กหลายๆคนสำนึกและรับปากจะไม่เล่นยาอีก แต่ก็มีปมไม่ไว้ใจครูที่ไม่รักษาสัญญา แต่หลังจากนั้นเรื่องก็เริ่มไปกันใหญ่ เพราะเรื่องการติดยาบ้าของเด็กกลุ่มนี้เป็นที่รู้กันไปทั้งตลาด เด็กบางคนถูกพ่อเกลียดมากขึ้น เด็กบางคนถูกแฟนเลิก เด็กบางคนถูกแม่ห้ามคบเพื่อนกลุ่มนี้อีก คนในตลาดและในโรงเรียนเริ่มมองเด็กพวกนี้เป็นตัวประหลาด ยิ่งสร้างความกดดันให้เด็กกลุ่มนี้ จนพวกเขาคิดจะกลับมาใช้ยาอีก เรื่องราวต่อไปจะเป็นอย่างไรให้ติดตามดูกันเอาเองเพราะไม่อยากเล่า plot หนังจนหมด
เมื่อฟังเรื่องแล้วตัว plot อาจไม่ใช่อะไรที่ใหม่ แล้วมันจะสนุกตรงไหน หนังสนุกตรงรายละเอียด ปัญหาชีวิตของเด็กแต่ละคน ซึ่งเขียนบทในส่วนของปัญหาและกำกับการแสดงได้ดีมาก ความรักแม่ของวาล การรักเพื่อนของยอด ความรักของแฟนสาวที่มีต่อปอด และแง่มุมชีวิตวัยรุ่นหลายๆอย่างถูกถ่ายทอดออกมาอย่างงดงาม ใสซื่อ ไม่มีกลิ่น เกาหลี ญี่ปุ่น การทำเท่ห์ใดๆมาปะปน มีแต่ชีวิตวัยรุ่นพูดเหน่อๆ แบบสามชุก สุพรรณที่จริงใจ ตรงไป ตรงมา แต่ก็ไม่ได้ดูเชยเลย มันดูจริงจนน่าทึ่ง และด้วยความใสซื่อจริงใจตรงนี้แหละที่ทำให้หนังสนุก มันทำให้เราเชื่อในตัวละครและชีวิตของพวกเขา พอเราเชื่อเราก็จะคล้อยตามจนมีอารมณ์ร่วมไปในหลากอารมณ์ ทั้ง ยิ้ม, หัวเราะ, เศร้า, น้ำตาซึม, จุกอก, ประทับใจ เป็นเพราะเราได้เห็นความงดงามของความเป็นมนุษย์ ความรักที่มีต่อพ่อแม่ ความรักที่มีต่อเพื่อน ความรักที่มีต่อแฟน ความรักของครูที่มีต่อลูกศิษย์ มันเป็นความอิ่มเอมใจซาบซึ้ง แบบที่เราหาไม่ค่อยได้ในหนังไทยอีกแล้ว ถ้าถามความรู้สึกตัวผมเองหนังที่ทำให้รู้สึกอิ่มเอมใจแบบนี้ก็ O negative หรือ แฟนฉัน นั่นเลย
แต่ต้องบอกก่อนว่าหนังไม่ได้มีไวยากรณ์ภาพยนตร์ชั้นครู หรือ มุมมองเท่ห์ ช่างคิด แปลก หรือ โดดเด่นในการเล่าเรื่องในแนวทางใหม่ เพราะบอกแล้วว่าเป็นหนังดราม่าไทยๆ ทั้ยไทย แต่ในความเป็นทั้ยไทยนั้นมีความงดงามอยู่เพียงพอ
แก้ไขเมื่อ 08 ส.ค. 52 04:19:13
จากคุณ |
:
LaZyDaizY
|
เขียนเมื่อ |
:
8 ส.ค. 52 04:17:30
|
|
|
|
 |