ความคิดเห็นที่ 1 เรื่องอะไร เง็งจริง? จากคุณ : luckna เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 52 10:51:21

ความคิดเห็นที่ 2 งงด้วยคน จากคุณ : the hulk เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 52 10:53:07

ความคิดเห็นที่ 3 สื่อควรทำอย่างไร ????    นะหรือ เค้าก็รายงานชื่อนามสกุล ให้คนทั่วไปรู้อย่างชัดเจนหมดแล้ว   คราวนี้ก็ขึ้นอยู่กับวิจารณญานของคนรู้จัก  และ บุคคลที่ต่อ ๆ ไปจะรู้จักเค้า   ว่าจะหยุด หรือต่อ ต่อ กันไปยังไง .. จากคุณ : สามทับหนึ่ง เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 52 10:54:25

ความคิดเห็นที่ 4 ตามจริงควรจะ 1 จากคุณ : CuteBaby เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 52 10:55:58

ความคิดเห็นที่ 5 รายงานตามความเป็นจริง ไม่ต้องใส่ความเห้นส่วนตัว หากใส่ความเห้นส่วนตัวหากเอียงไปด้านใดก็คงโดนรุม จากฝั่งตรงข้ามหรืออาจจะโดนทั้งสองข้าง หากเป็นอาชีพอื่น จะไม่วาเลยครับ แต่ นี่เป็นแพทย์ หากทำใจไม่ได้ ผมว่า หยุดตรวจไปเลยดีกว่าครับ เสียจรรยาบรรณ ทำใจได้แล้ว ค่อย มาปฏิบัติหน้าที่ จากคุณ : Wastrel เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 52 10:57:17

ความคิดเห็นที่ 6 แม้เราจะไม่ชอบสีแดง แต่คุณหมอก็ทำไม่ถูกนะคะ เห็นใจอยู่ว่าอายุน้อย เลยวู่วาม แถมงานหนักเหนื่อยเครียด อดลงกะคนไข้ไม่ได้ แต่มันไม่ถูกจริงๆนะคุณหมอจ๋า คุณหมอต้องทำใจล่ะ เค้าเป็นเพื่อนมนุษย์น่ะค่ะ จากคุณ : พฤหัส เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 52 11:02:46

ความคิดเห็นที่ 7 เขาใส่เสื้อ ความจริงวันนี้ ไม่ใช่เสื้อกีฬาสี ขนาด จขกท. ยังได้ข้อมูลมาผิดๆ อย่าไปว่าสื่อเขาเลย ดูตัวเองก่อนดีกว่า จากคุณ : ฮวกใช้ เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 52 11:05:16

ความคิดเห็นที่ 8 ไม่มีทางเห็นบนสื่อหลัก ... รับรอง จากคุณ : หมู4X เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 52 11:06:38

ความคิดเห็นที่ 9 แม้แต่ข้าศึกเขายังไม่เลือกรักษา..ไม่แบ่งแยกว่าศัตรูหรือมิตร แต่แค่นี่คุณหมอยังบอกรับไม่ได้..โลกเปลี่ยนไปแล้วจริงๆ จากคุณ : pompoo เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 52 11:08:26

ความคิดเห็นที่ 10 ต้องรายงานตามความเป็นจริงเพราะถ้าใส่ความคิดเห็นลงไปมันจะไม่ใช่หน้าที่ของนักข่าวเพราะนักข่าวมีหน้าที่ในการนำเสนอข่าวไม่ใช่โน้มน้าวให้ผู้ฟังคล้อยตามมันเป็นเรื่องของผู้ฟังเองที่จะใช้วิจารณญาณของตัวเองเป็นตัวตัดสิน ส่วนหมอต้องมีจรรยาบรรณไม่เลือกที่รักมักที่ชั่งเพราะเป็นหน้าที่ของตัวเอง ถ้าไม่ทำผมว่าควรพิจารณาตัวเองดีกว่า จากคุณ : Don't try this at home. เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 52 11:10:43

ความคิดเห็นที่ 11 ไม่มีจรรยาบรรณ ผมว่าอย่าเสล่อมาเป็นหมอเลยครับ เปลืองภาษีชาวบ้านน่ะครับ จากคุณ : เด็กเซเว่น เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 52 11:11:12

ความคิดเห็นที่ 12 ความคิดเห็นที่ 7     เขาใส่เสื้อ ความจริงวันนี้ ไม่ใช่เสื้อกีฬาสี ขนาด จขกท. ยังได้ข้อมูลมาผิดๆ อย่าไปว่าสื่อเขาเลย ดูตัวเองก่อนดีกว่า เอ่อ...คุณคะ มันเป็นมุขน่ะ คุณช่วยเก็ตหน่อยจิ เฮ้อ จากคุณ : พี่สาวซิปโป้ เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 52 11:20:01

ความคิดเห็นที่ 13 มันกรณีเดียวกับ racist หรืออะไรทำนองนี้เลยนะสำหรับเรา ที่อเมริกามีแบ่งแยกผิวดำ-ผิวขาว ที่เมืองไทย สีผิวปะปนกันไปหมดก็จริง แต่ก็จะมีแบ่งแยกสีเสื้อแล้วใช่ไหมเนี่ย :( จากคุณ : ปลายลมหนาว เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 52 11:28:59

ความคิดเห็นที่ 14 คิดตามหลักเหตุผล ก็ต้อง ข้อ 1 นั่นแหละ ถ้าคิดซะว่า กลัวคนแตกแยก โกรธกัน เกลียดกัน ไม่ต้องเสนอข่าว แบบนี้ก็ไม่รู้ว่าจะมีสื่อไปทำไม จรรยาบรรณของสื่อ ต้องเสนอข่าวไปตามจริง ไม่บิดเบือน ไม่ใส่อารมณ์ส่วนตัว จรรยาบรรณของหมอ ก็ต้องรักษาคนไข้ทุกคน ไม่แบ่งแยก เลือกสี มันก็แค่นี้เอง จากคุณ : ซินเดอเรล่า เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 52 11:31:32

ความคิดเห็นที่ 15 จริงด้วยแม้เราก็ไม่ค่อยชอบสี...แต่แบ่งแยกแบบนี้ไม่ดี                       เขามาในฐานะคนไข้ เราไม่ควรเลือกปฏิบัตินะ ยังไงก็ใจเย็น ๆ นะ จากคุณ : sugar-mt เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 52 11:37:38

ความคิดเห็นที่ 16 "เมื่อไหร่ที่หมอ ปฏิเสธการรักษาคนไข้ที่อยู่หน้า คนๆนั้นก็หมดคุณสมบัติที่จะเป็นหมอแล้ว" จำมาจากหนังเรื่องไหนก็ไม่รู้ จากคุณ : Stryder เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 52 11:41:39

ความคิดเห็นที่ 17 หมอก็คน มีจิตใจเหมือนกัน ถ้ามีอคติต่อคนไข้ก็ควรปล่อยให้หมอคนอื่นรักษาไปจะดีกว่า และคนไข้คนนั้นก็ไม่ได้ต้องได้รับการรักษาอย่างเร่งด่วน (ถ้ายายแกอาการหนักแล้วหมอปฏิเสธอันนี้น่าโมโหครับ) ผมว่าปฏิเสธไปก็ยอมรับได้นะ ดีกว่าจำใจรักษาไปงั้นๆ สุดท้ายแล้วผลเสียมันก็ตกที่ตัวคนไข้เองนั่นแหละ หมอบางคนยังไม่อยากผ่าตัดให้ญาติตัวเองหรือคนรู้จักเลยครับ  เพราะเรื่องอคตินี่แหละ   แก้ไขเมื่อ 18 ส.ค. 52 11:48:18 จากคุณ : AnaKim เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 52 11:45:56

ความคิดเห็นที่ 18 เค้าอาจจะมีเหตุผลอย่างอื่นที่เราไม่รู้รึเปล่าครับ!?? อย่างเมื่อก่อน ถ้าได้ยินข่าว หมอไม่รับคนไข้รักษา ก็จะรู้สึกเลยว่าหมอแย่ว่ะ แต่เดี๋ยวนี้ พอได้รู้กระบวนการในการทำงานของเค้าบ้างก็เลยพอเข้าใจอะไรขึ้นบ้าง คือหมอก็คนอ่ะนะ มีดี มีไม่ดี แต่ขอให้แน่ใจก่อนล่ะกันว่าเค้าไม่ดีจริงๆ จากคุณ : -ATICUS_T- เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 52 11:55:05

ความคิดเห็นที่ 19 ถ้าจริง ก็หมอเลว จากคุณ : Edna Mode เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 52 11:57:32

ความคิดเห็นที่ 20 เลวจริง จรรยาบรรณอยู่ตรงไหน ร่ำเรียนมาก็ตั้งหลายปี อย่างนี้ถ้าคนเคยเป็นศัตรูคู่อาฆาตมารักษา มิฉีดยาให้ตายหรอกหรือ จากคุณ : ใจใส่ เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 52 12:05:50

ความคิดเห็นที่ 21 อ้างถึง 15   สิงหาคม   2552   14:48:43 ม็อบ เสื้อแดงลำปาง 200 คน บุกปิด ร.พ.งาว หลัง สมาชิกถูกแพทย์ปฏิเสธการรักษา แค่สวมเสื้อความจริงวันนี้อ้าง ทำใจไม่ได้ เพราะไม่ชอบ พ.ต.ท.ทักษิณ เมื่อ สักครู่ที่ผ่านมา ชาวบ้าน พร้อมด้วย กลุ่มคนเสื้อแดง ใน อ.งาว จ.ลำปาง กว่า 200 คน เดินถือป้ายร้องเรียนพร้อมเครื่องขยายเสียง มาชมนุมปิดทางเข้าโรงพยาบาลอำเภองาว และนำพวงหรีดมาวางไว้ที่ป้ายด้านหน้าโรงพยาบาล เพื่อขับไล่ แพทย์หญิงเบญจวรรณ ไม้รอด แพทย์ประจำห้องตรวจ โรงพยาบาลอำเภองาว หลังนางสศิรส ผาสมุทร อายุ 33 ปี ราษฏร อ.งาว จ.ลำปาง พา นางยอด ศรีนวล ผู้เป็นแม่ เข้าไปรักษาด้วยโรคปวดศรีษะและจะขอใบส่งตัวไปรักษาที่ โรงพยายบาลศูนย์ลำปาง แต่กลับถูกแพทย์หญิงเบญจวรรณ ต่อว่าเนื่องจาก นางสศิรส ใส่เสื้อสีแดงความจริงวันนี้ไปส่งแม่ เพื่อตรวจรักษาและแพทย์หญิงเบญจวรรณ กล่าวคำพูดที่ไม่เหมาะสมว่า ใส่เสื้อแดงมาทำไม เพราะตนนั้นเกลียด พ.ต.ท.ทักษิณ ก่อนจะเขียนลงในสมุดตรวจว่า ทำใจตรวจคนไข้ใส่เสื้อแดงทักษิณไม่ได้ ซึ่งทางแพทย์และเจ้าหน้าที่ของ ร.พ.งาว ก็ได้ออกมาพูดคุยกับกลุ่มคนเสื้อแดงและชาวบ้านว่า จะรับเรื่องดังกล่าวไว้และจะรายงานให้ สาธารสุขจังหวัดลำปาง ได้ทราบเรื่อง ก่อนที่ชาวบ้านจะแยกย้ายกันออกไปแล้ว http://www.innnews.co.th/local.php?nid=185370 อ้างถึง   15 สค. 2552 18:13 น.    ชาวบ้านใน 3 ตำบลของ อ.งาว จ.ลำปาง ได้แก่ ต.บ้านแหง หลวงเหนือ และปงเตา และกลุ่มคนเสื้อแดงจาก อ.งาว ที่ได้สวมเสื้อสีแดงกว่า 200 คน พามาชุมนุมประท้วงกันที่หน้าโรงพยาบาลอำเภองาว จังหวัดลำปาง โดยได้ชุมนุมปิดประตูทางเข้าโรงพยาบาล พร้อมตั้งเครื่องขยายเสียง และมีการพูดเพื่อขับไล่ แพทย์หญิงเบญจวรรณ ไม้งาม แพทย์ประจำห้องตรวจโรคทั่วไปโรงพยาบาลอำเภองาว    สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2552 ที่ผ่านมา นางสศิรส ผาสมุทร อายุ 33 ปี อสม.ประจำหมู่บ้าน ได้พานาง ยอด ศรีนวล ผู้เป็นแม่ เข้ามารับการตรวจรักษาร่างกาย เนื่องจากป่วยเป็นโรคเก๊าปวดที่ขาทั้ง 2 ข้าง แต่หลังจากยื่นบัตร ปรากฏว่าในขณะที่นางสศิรส เข็นรถที่ผู้เป็นแม่นั่งเข้าห้องตรวจ ปรากฏว่า แพทย์หญิง เบญจวรรณ ได้เห็นนางสศิรส สวมใส่เสื้อแดง จึงชี้หน้า พูดออกมาอย่างเสียงดังว่า ทำไม่ นางสศิรส ถึงใส่เสื้อสีแดงมา ซึ่งตนไม่ชอบกลุ่มคนเสื้อแดง โดยเฉพาะ พ.ต.ท. ทักษิน ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ทำให้บ้านเมืองวุ่นวาย    จากนั้นแพทย์หญิงคนดังกล่าว ได้เขียนข้อความลงใบปะหน้าใบรับการตรวจรักษาว่า ขอให้ส่งผู้ป่วยรายนี้ไปพบแพทย์ท่านอื่น เนื่องจากทำใจตรวจคนใส่เสื้อสีแดงไม่ได้ หลังจากนั้นหลังได้รับใบส่งตัว นางสศิรส จึงพาแม่กลับบ้าน ก่อนจะปรึกษาหารือ กับญาติพี่น้อง ว่าจะเอาอย่างไรกับเรื่องที่เกิเดขึ้น จึงพากันมารวมตัวขับไล่แพทย์หญิงเบญจวรรณ    นาย สมเจตต์ เปลื้องนุช นายอำเภองาว และนายแพทย์ ธนวัฒน์ วงศ์ชัย ผู้อำนวยการโรงพยาบาล ได้เข้ามาพบปะกลุ่มผู้ชุมนุม เพื่อรับทราบเหตุผลของการชุมนุม โดยเบื้องต้นทางกลุ่มผู้ชุมนุมเรียกร้องให้ย้ายแพทย์หญิงออกนอกพื้นที่ภายใน 24 ชั่วโมง เนื่องจากเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ มีหน้าที่รักษาคนไข้ และทำไมต้องแสดงความแบ่งแยก และให้ออกมาแสดงความรับผิดชอบ และชี้แจงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น    ด้านนายแพทย์ ธนวัฒน์ วงศ์ชัยอุดมโชค ผู้อำนวยการโรงพยาบาลอำเภองาวจังหวัดลำปาง กล่าวว่า ได้มีการพูดคุย และได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงแล้ว ในส่วนของแพทย์หญิงเบญจวรรณ ได้แสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และยินดีแก้ไขข้อบกพร่อง ซึ่งหากผิดจริงก็จะถูกสอบสวนและลงโทษทางวินัยและ ทางโรงพยาบาล ไม่ได้มีการแบ่งแยกคนไข้ คนไข้ก็คือคนไข้ที่ต้องได้รับการรักษาคนไข้ก็ต้องทำตามหน้าที่    ขณะนี้ได้รายงานให้ทาวงจังหงัดและผู้ใหญ่ทราเรื่องแล้วและกำลังมีการดำเนิน การอยู่ โดยทางราชการกำลังดำเนินการตรวจสอบตามระบบขอทางราชการ และจะไม่ปล่อยให้เรื่องเงียบเพราะว่าเป็นบุคลากรของทางราชการ เบื้องต้นจากการสอบสวนของกรรมการตรวจสอบทราบว่า แพทย์หญิงเบญวรรณ นั้นอาอยุยังน้อย ตกใจ และเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และไม่อยากเหตุนี้เกิดขึ้น ที่ผ่านมาแพทย์หญิงเบญวรรณ ไม่มีปัญหาเกี่ยวกับการรักษาคนไข้ ซึ่งทางนายอำเภองาว และผู้อำนวยการโรงพยาบาลงาว ได้เชิญตัวแทนของผู้ชุมนุมเข้าหารือถึงข้อสรุปในเรื่องนี้แล้ว หลังจากรับปากว่าจะย้ายแพทย์หญิงคนดังกล่าวออกจากพื้นที่ภายใน 3 วัน เพื่อยุติปัญหา ก่อนจะเจรจากันภายในห้องประชุมของโรงพยาบาลงาว เพื่อหาข้อสรุปอีกครั้ง http://breakingnews.nationchannel.com/read.php?newsid=399684&lang=T&cat= ข่าวสองที่ไม่เหมือนกัน อันนึงปวดศ๊รษะขอใบส่งตัว อีกอันนึงบอกเป็นเก๊าท์ จากที่เห็นรูปใน http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P8204775/P8204775.html จะเห็นว่ามีสั่ง C-spine หรือเอ็กซ์เรย์กระดูกคอ แล้วจากนั้นก็เขียนว่าไม่ตรวจ ให้ส่งคนไข้ไปหาหมออีกคน เนื่องจากทำใจตรวจคนเสื้อแดงไม่ได้ จขกท.ต้องตั้งคำถามตัวเองครับว่า ข่าวลงตามความจริงแน่รึเปล่า แล้วลงครบรึเปล่า จากที่ลองอ่านๆดูผมว่ามันมีอะไรแหม่งๆอยู่ และคงมีเหตุผลหรือปัจจัยอื่นนอกจากเสื้อแดงที่ทำให้ไม่อยากตรวจมากกว่าซึ่งสุดที่จะคาดเดาครับ อาจเป็นเหตุผลที่พอฟังขึ้นเช่น ส่งต่อให้หมออีกคนที่เชี่ยวชาญกว่า หรืออาจจะดูฟิล์มแล้วไม่แน่ใจขอsecond opinionจากหมออีกท่าน หรืออาการของคนไข้ไม่จำเป็นต้องเขียนใบส่งตัวแต่คนไข้ต้องการจะขอใบส่งตัวให้ได้จึงให้คุยกับหมออีกคนดีกว่า หรือเหตุผลที่ไม่น่าจะฟังขึ้นเลย เช่น เกลียดขี้หน้า เหม็นแดง หรือเคยทะเลาะกับคนไข้หรือญาติคนนี้มาก่อน อันนี้ความเห็นส่วนตัวนะครบั ผมว่าเรื่องจริงมันมีข้อมูลอีกหลากหลายที่เราไม่รู้อ่ะครับ คนเป็นหมอจะเกลียดขี้หน้าคนไข้ไม่ยอมรักษาเพราะแค่เสื้อเหลืองเสื้อแดง ผมว่าไม่น่าจะเป็นไปได้นะครับ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าการปฏิเสธคนไข้เป็นเรื่องสมควรนะครับ ยิ่งโดยเฉพาะเหตุผลเรื่องส่วนตัวหรือการเมือง เหมือนตอนที่มีข่าวว่าอาจารย์คณะแพทย์จุฬาปฏิเสธไม่รักษาตำรวจในเครื่องแบบที่มารพ.จุฬา ผมก็ไม่เห็นด้วยนะครับ โถ่อาจารย์ ทำดีมาตลอด ไม่น่าทำพลาดเรื่องแบบนี้เลย จากคุณ : MFBooBoo เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 52 12:17:47

ความคิดเห็นที่ 22   อายุยังน้อย..? น้ำมนต์ไอ้เเป๊ะมันขลังจริงๆ จากคุณ : อิอิ เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 52 12:26:54 A:203.156.91.94 X: TicketID:229334

ความคิดเห็นที่ 23 ต้องรู้รายละเอียดที่แท้จริงจึงตัดสินคนคนนึงได้ค่ะ คุณรู้แค่ไหนถึงด่าว่าหมอเลว สภาพจิตใจที่ไม่พร้อม หรือเหตุผลใดก็ตาม ที่ทำให้หมอไม่สามารถรักษาคนไข้ได้ และมีการส่งต่อเพื่อให้หมอ หรือ รพ ที่พร้อมกว่ารักษา เป็นเรื่องที่เป็นผลดีต่อคนไข้ค่ะ การรักษาทั้งๆที่รู้ว่าไม่พร้อม และไม่ส่งต่อให้ผู้อื่นรักษา แบบนี้ค่ะพวกคุณทั้งหลายค่อยว่าหมอ กว่าจะเรียนจบหมอได้ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ คนทุกคนมีเหตุผล ถ้ายังไม่เข้าใจเหตุผลที่แท้จริง ก็อย่าเพิ่งว่าเค้าเลววว เลย บาปกรรมค่ะ ถ้าปฏิเสธทั้งๆที่คนไข้รอไม่ได้ และตัวเองรักษาได้  **ก็ผิดเป็นครู เหตุการครั้งนี้ ทำให้หมอคงเรียนรู้ที่จะปฏิบัติตัวใหม่  คงใช่วิชาที่เรียนมาเป็นประโยชน์กว่านี้ จากคุณ : แกงส้มปลาทอด เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 52 12:27:02

ความคิดเห็นที่ 24 2. ผู้ป่วยมีสิทธิที่จะได้รับบริการจากผู้ประกอบวิชาชีพด้านสุขภาพโดยไม่มีการเลือก ปฏิบัติ เนื่องจาก ความแตกต่างด้าน ฐานะ เชื้อชาติ สัญชาติ ศาสนา ลัทธิการเมือง เพศ อายุ และลักษณะ ของความเจ็บป่วย จากคุณ : greeny pony เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 52 12:30:27

ความคิดเห็นที่ 25 ........อยากฟังคำชี้แจงจากฝ่ายคุณหมอมากกว่า  (มากกว่าความเท็จวันนี้) จากคุณ : เด็กผีบ้าบอล เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 52 12:46:19

ความคิดเห็นที่ 26 ใช่ๆ อยากฟังจากปากหมอคนนี้จริงๆ อยากรู้ว่า ถ้าจริง ทำไปได้งัย  แล้วถ้าไม่จริง ทำไมปฎิเสธคนไข้รายนี้ จากคุณ : ใจใส่ เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 52 12:55:10

ความคิดเห็นที่ 27 เห็นในรายการ เรื่องเล่าเช้านี้ ก็เป็นลายมือหมอ เขียนไว้อย่างนั้นจริงๆไม่ใช่เหรอ??? แบบนี้ ไม่ต้องมาอ้าง ไม่ต้อง แ ถ แล้ว พิจารณาย้ายตัวเองไปได้ก็สมควรแล้วละ จากคุณ : ลูกจ้างดีเด่น เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 52 12:57:06

ความคิดเห็นที่ 28 หมอ รับว่าทำจริง และมีหลักฐานเป็นใบปะหน้าแฟ้มคนไข้ที่หมอเขียนค่ะ ตอนนี้โดนย้ายแล้ว ห่วงก็แต่ทางโรงพยาบาล เพราะ อ.งาว เป็น อ.เล็กๆ นะ หมอมีน้อย จะหาหมออื่นมาเสริม หรือย้ายมาแทนได้เมื่อไหร่? จากคุณ : หนูนากระป๋อง เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 52 13:06:26

ความคิดเห็นที่ 29   ก็เหมือน กัปตันการบินไทย ที่ไม่ยอมขับเครื่องบิน เพราะ สหภาพการบินไทยแค้นเรื่องแปรรูป และเรื่องที่สายการบินอื่นมาแข่ง แล้วก็เหมือน สหภาพการรถไฟ ที่หยุดงานประท้วง เวลาคนจะแปรรูป (ล่าสุดจำได้ สหภาพไม่ยอมให้ตั้งบริษัทเดินรถ เพราะกลัวตัวเองเสียผลประโยชน์ เลยไม่ยอมบริการประชาชนเหมือนกัน) จากคุณ : NormalHuman เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 52 13:08:04

ความคิดเห็นที่ 30 รายงานไปตามความเป็นจริงสิคะ จากคุณ : เสียงจากบ้านนา เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 52 13:11:41

ความคิดเห็นที่ 31 คงอ้างว่าสภาพจิตใจไม่พร้อมอะไรอย่างนั้นไม่ได้หรอกครับ เพราะนี่เป็นการรักษาโรคทั่วไปนะครับ ไม่ใช่ผ่าตัด การอ้างว่าไม่พร้อม นั่นก็คือการปฏิเสธคนไข้แล้วครับ หรือคุณหมอจะบอกว่า "พอเห็นคนใส่เสื้อแดงแล้ว จะลืมวิชาแพทย์ที่มีในสมองทั้งหมดเลย" ถ้าจะทำกันขนาดนั้น ก็เอาเถิด ขนาดในสนามรบ หน่วยแพทย์ยังรักษาทหารผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งสองฝ่าย โดยไม่เลือกเลยครับ เพราะหน้าที่ของหมอคือช่วยเหลือคนเจ็บ แล้วนี่อะไร แค่ความคิดเห็นทางการเมืองแตกต่างกันแค่นั้น ก็ทำตัวน่ารังเกียจใส่คนไข้เสียแล้ว อนาคตคุณหมอยังอีกไกล เปลี่ยนทัศนคติซะ คุณหมอจบมาได้ด้วยเงินภาษีประชาชนไม่ใช่หรือครับ จากคุณ : The Ghost Buster เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 52 13:23:08

ความคิดเห็นที่ 32 เปลี่ยนอาชีพไปดีสุด ความอคติมันคงอยู่ในหัวไปแล้ว ต่อไปก็คงรักษาใครไม่ได้หรอก เพราะใจก็จะคิดตลอด คนนี้สีไร ยิ่งชาวบ้านตามต่างจังหวัดก็รู้อยู่สีอะไร จบหมอมาซะป่าว แต่ไม่มีหัวคิด แบบนี้มันเรียนเพื่อมาหาเงินเท่านั้นจริงๆ ใจไม่ได้เป็นหมอด้วย จากคุณ : The Avengers เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 52 13:28:18

ความคิดเห็นที่ 33   เอาแค่อย่าเสี้ยม อย่ายุให้คนไทยตีกันยิ่งกว่าเดิม เสนอข่าวไปตามเรื่องที่เกิดขึ้นจริง ไม่ต้องตีไข่ ใส่สี จากคุณ : ดำ เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 52 13:29:48 A:125.25.78.200 X: TicketID:155125

ความคิดเห็นที่ 34 เลือกข้อ 1 ค่ะ รายงานไปตามความเป็นจริง ส่วนตัวคิดว่าหมอเองก็ทำไม่ถูก ขาดวุฒิภาวะ เห็นควรที่จะถูกย้าย ไม่ใช่เป็นการลงโทษ แต่อยู่ไปก็จะเกิดปัญหาตามมาอีก คนที่โชคร้ายกลายเป็นผู้ป่วยในจังหวัดนั้น เพราะหมอขาดแคลน ขอให้ได้หมอใหม่มาแทนเร็ว ๆ นะคะ ขอให้เป็นหมอที่สามารถแยกแยะความรู้สึกส่วนตัว กับ หน้าที่ออกจากกันด้วยนะ จากคุณ : ปกีรณัม เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 52 13:32:50

ความคิดเห็นที่ 35 เห็นใจคุณหมอ เค้าด้วยสิ ยอมรับว่าคุณหมอ มีส่วนผิด แต่ไม่น่าจะเอามาเป็นประเด็นใหญ่โต กันขนาดนั้น แก้ไขเมื่อ 18 ส.ค. 52 13:36:02 จากคุณ : ตระกูลA เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 52 13:34:27

ความคิดเห็นที่ 36 หมอผิดค่ะ ไม่ว่าจะเกลียด จะชัง จะเคยฆ่าพ่อ แม่ยังงัย คุณเป็นหมอ ก็ต้องรักษาไปตามจรรยาบรรณค่ะ และถ้าคุณหมอไม่สะดวกใจรักษาจริงๆ ไม่จำเป็นต้องป่าวประกาศโดยการเขียนใบปะหน้าหรือพูดจากับคนไข้ค่ะ เพียงแค่ เขียนคำสั่งโอนคนไข้ให้แพทย์ท่านอื่นช่วยดูแลแทน ก็เท่านั้น ดีกว่าทำอะไรคิดสั้นๆ แบบนี้ จากคุณ : chabby เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 52 13:34:48

ความคิดเห็นที่ 37 รายงานตามความเป็นจริงครับ แม้ในใจผู้สื่อข่าวจะรู้สึกไปทางไหนก็ตาม ส่วนเรื่องหมอ ผมก็ขอประนาม   ขนาดในสนามรบ คนละชาติกันเกลียดกันกว่านี้ เค้ายังรักษาให้เลย   แต่นี่คนชาติเดียวกันแท้ๆ ไม่รู้จักแยกแยะ ไม่สมควรมาเรียนหมอตั้งแต่แรก  หรือจะออกไปทำอาชีพอื่นก็ได้   วันดีคืนดีรักษาโรคผิดๆให้เพราะเกลียด คนไข้คงตายฟรี จากคุณ : seven-elephant เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 52 13:36:16

ความคิดเห็นที่ 38 เรียนมาสูงเสียเปล่า..วิชาที่ร่ำเรียนกันมาแทบตาย มันไม่ได้ช่วยยกระดับจิตใจคนได้เลยหรือครับ..คนที่เป็นหมอ อย่ามาอ้างเลย ว่าสภาพจิตใจไม่พร้อม.. ชีวิตคนไม่ใช่ของเล่น  ถ้าหากหมอสภาพจิตใจไม่พร้อม และสะกดคำว่าจรรยาบรรณไม่เป็น ไม่รู้จักแยะแยะ อะไรถูกอะไรควร... ก็ไม่ต้องเรียกตัวเองว่าหมอดีกว่านะ.. ลาออกไปเถอะ  ไปสงบจิต..อยู่ที่บ้านที่กว่านะ อย่าเอาอคติส่วนตัวมาลงกับคนไข้เลย จากคุณ : เด็กชายแตงกวา เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 52 13:36:33

ความคิดเห็นที่ 39 อ้อ คุณหมอควรออกไปประจำ ที่ ASTV คงจะเหมาะที่สุด จากคุณ : chabby เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 52 13:37:41

ความคิดเห็นที่ 40 ถึงคุณข้าง บน ลองนึกถึงตัวเอง สิ ถ้าคุณเป็นคุณหมอ จริงๆๆ นะ ถ้าเกลียดชัง หรือ ไม่ชอบ คนนั้นจริงๆๆ คุณยังเต็มใจ จะรักษา เค้าอีกหรือเปล่า แล้วถ้าคุณต้องรักษา คนที่ฆ่าพ่อแม่ ญาติ พี่น้อง คุณ จริงๆ คุณยังเต็มใจ รักษา จริงๆ อย่างที่เขียนไว้ หรือเปล่า จริยธรรม คิดว่า คุณหมอ ต้องมี ไม่งั้น คง รักษา อย่างขอไปทีแล้วล่ะ จากคุณ : ตระกูลA เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 52 13:39:32

ความคิดเห็นที่ 41 ข้อ1 แน่นอน จากคุณ : LAPD21 เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 52 13:39:51

ความคิดเห็นที่ 42 รายงานไปตามความเป็นจริง ถ้าสื่อมีจรรยาบรรณพอ จากคุณ : dkik เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 52 13:42:38

ความคิดเห็นที่ 43 ความคิดเห็นที่ 40 ถ้าผมเป็นหมอเต็มใจรักษาครับ   เพราะจรรยาแพทย์เป็นแบบนั้น   หมอไม่ได้เหมือนอาชีพอื่น   เค้ามีจรรยาแพทย์อยู่ผมว่าคนเรียนหมอก็น่าจะรู้ดี กรณีจริงๆก็มีคือหมอในสนามรบ เกลียดกันแทบตาย แต่เวลาเจ็บป่วยก็รักษาศัตรูให้นะครับ ทหารคนนั้นอาจฆ่าเพื่อนเค้ามาไม่รุ้กี่คน เค้าก็เต็มใจรักษานะครับ ประวัติศาสตร์มีครับ ส่วนกรณีเค้าฆ่าพ่อแม่พี่น้องเรา ก็ให้กฎหมายจัดการไปครับ   ถ้าทำใจรักษาไม่ได้ ก็มีวิธีครับ คือลาออกไปทำอย่างอื่นดีกว่าครับ แปลกใจที่ยังมีคิดว่าหมอที่ทำแบบนี้ ยังมีจริยธรรมอยู่ จากคุณ : seven-elephant เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 52 13:49:37

ความคิดเห็นที่ 44 แย่จัง ตัวเองเกลียดใครต้องบังคับให้คนอื่นเขาเกลียดด้วยหรือ แล้วนี่คุณอยู่ในหน้าที่นะ เป็นเวลาที่คุณกำลังได้เงินจากภาษีของชาวบ้านทั้งนั้น แล้วหมอแต่ละคน รัฐต้องออกเงินสนับสนุนอีกเท่าไหร่กว่าจะจบมาได้ จากคุณ : เอ๋จังตัวน้อย เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 52 13:49:40

ความคิดเห็นที่ 45 โทษทีมันซ้ำครับ แก้ไขเมื่อ 18 ส.ค. 52 13:51:51 จากคุณ : seven-elephant เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 52 13:50:21

ความคิดเห็นที่ 46   สงสัยหมอลืมที่เขาให้ท่องตอนจบหมดแล้ว อาผมนี่เสื้อเหลืองเข้าไส้เลย เขายังไม่เคยไปเลือกรักษาคนไข้เลย แยกแยะให้ออกด้วยก็ดี นับแต่เวลาที่ข้าฯได้เข้าเป็นสมาชิกแห่งวิชาชีพแพทย์ ข้าฯ ขออุทิศชีวิตของ ข้าฯ เพื่อรับใช้มนุษย์ชาติ ข้าฯ ขอมอบความเคารพบูชาและความกตัญญูแด่ครูของข้าฯ ข้าฯ จะปฏิบัติวิชาชีพของข้าฯ ด้วยมโนธรรมและด้วยศักดิ์ศรี ข้าฯ จะคำนึงถึงสุขภาพของผู้ป่วยเหนือสิ่งอื่นใด ข้าฯ จะรักษาความลับทั้งปวงที่มอบไว้แก่ข้าฯ ข้าฯ จะพิทักษ์เกียรติยศและรักษาประเพณีอันสูงส่งแห่งวิชาชีพแพทย์ เพื่อนร่วมวิชาชีพของข้าฯก็ คือพี่น้องร่วมสายโลหิตของข้าฯ ข้าฯ จะไม่ยอมให้ความแตกต่างทางศาสนา เชื้อชาติ ชาติพันธุ์ อุดมการณ์ทาง การเมือง หรือฐานะทางสังคมมาเป็นเครื่องกีดขวางหน้าที่ที่ข้าฯ พึงมีต่อผู้ป่วย แม้จะอยู่ในภาวะถูกข่มขู่ ข้าฯ ก็จักยึดมั่นในคุณค่าแห่งชีวิตมนุษย์ ตั้งแต่เกิดจนตาย ข้าฯจะไม่ใช้ความรู้แห่งวิชาชีพในทางที่ขัดกับกฎแห่งมนุษยธรรม ข้าฯ ขอให้คำปฏิญาณนี้ด้วยความถ่อมสุภาพ ด้วยอิสระ และด้วยเกียรติยศของข้าฯ ใครอยากเห็นหน้าคุณหมอเชิญ ผมไม่ถือว่าเป็นการประจาน แต่เป็นการบอกต่อ เพราะเราก็มีสิทธที่จะรู้ ว่าหมอคนไหนเป็นยังไง และควรจะรู้ว่าหมอคนไหนบกพร่องต่อหน้าที่ จะได้ไม่พลาดไปรักษาด้วย ชวิตเราๆควรมีสิทธิจะรู้เรื่องของคนที่จะมรักษา เราจะได้เลือกหมอที่เชื่อใจได้มารักษาเราได้ เหมือนผมเห็นแล้วก็จะได้รู้ไว้ เวลาป่วยถ้าบังเอิญไปเจอเธอจะได้ขอเปลี่ยนแพทย์ เพราะผมไม่มั่นใจในวุฒิภาวะของเธอ http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P8205781/P8205781.html#14 จากคุณ : เสียดายสมอง เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 52 14:09:41 A:124.121.187.248 X: TicketID:221887

ความคิดเห็นที่ 47 ใครมีหน้าที่อะไรต้องปฏิบัติก็ทำตามหน้าที่ ไม่ควรแบ่งแยกครับ พลาดไปก็แก้ไขใหม่คราวต่อไป ถือเป็นบทเรียน ไม่งั้นถ้าทำตามความรู้สึกโดยไม่คำนึงถึงหน้าที่แบบนี้ เกิดเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่สีนึง  แล้วมีคนใส่เสื้อสีนึงโดนกระชากกระเป๋า เจ้าหน้าที่ตำรวจเห็นต่างสีเลยละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ไม่ช่วย แบบนี้มีหวังป่วนกันทั้งเมืองถ้าหลายๆ อาชีพต่างทำแบบนี้กัน หน้าที่มีอะไรทำตามนั้นดีที่สุดครับ อยากให้แตกมากกว่านี้เลย สื่อก็ทำตามหน้าที่ไปตามความเหมาะสม แบบสมเหตุสมผล จากคุณ : แมวหลงทาง เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 52 14:20:44

ความคิดเห็นที่ 48   สื่อควรรายงานตามความเป็นจริง ส่วนหมอเลวมากเลิกทำอาชีพนี้เถอะ เสียดายภาษีที่ทำให้จบมา จากคุณ : ไทคูน เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 52 14:36:31 A:125.24.211.243 X: TicketID:221516

ความคิดเห็นที่ 49   เห็นด้วยกับ คห.23 แต่อย่างไรก็ตาม ต้องรู้จักแยกแยะ จากคุณ : ดำ เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 52 14:42:44 A:125.25.78.200 X: TicketID:155125

ความคิดเห็นที่ 50 แพทย์ปฏิเสธการรักษาคนไข้   ถือว่าไม่มีจรรยาบรรณแพทย์ รึเปล่าคะ   แล้วแพทย์ที่ไม่มีจรรยาบรรณนี่... สมควรที่จะเป็นแพทย์ต่อไปรึเปล่าคะ   ท่านสมศักดิ์ โล่ห์เลขา  (ยังเป็นคนนี้อยู่รึเปล่าคะ) จากคุณ : Eink เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 52 14:58:21

ความคิดเห็นที่ 51 ให้กลับไปดูหมอโฮจุนอ่ะครับ  นั้นคือหมอที่แท้จริง หมอที่คนไข้ต้องการ หมอก็ควรพิจารณาตัวเองด้วยนะว่าที่ร่ำเรียนมาน่ะ ได้เข้าถึงการเป็นหมอที่แท้จริงหรือเปล่า ไม่อยากซ้ำเติม ชีวิตอีกไกล เป็นบทเรียนเริ่มต้นของการเป็นหมอ จากคุณ : 007 (panaratb) เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 52 15:03:24

ความคิดเห็นที่ 52 เราก็ว่าหมอทำไม่ถูก อ้างว่าอายุยังน้อย คือแบบเรียนหมอจบมาอย่างต่ำ อายุก็น่าจะ25แล้วอ่ะ ไม่น้อยแล้วนะ คือเราว่าถ้าวุฒิภาวะไม่ถึงก็อย่ามาเป็นหมอเลยค่ะ สงสารคนไข้ ปล.ความเห็นส่วนตัวค่ะ จากคุณ : Baby_I Know_U Know เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 52 15:11:09

ความคิดเห็นที่ 53 จากที่อ่านมาหลายๆที่ มีผู้ที่ตั้งข้อสังเกตได้น่าสนใจว่า คุณหมอประจำที่นี่มาหลายเดือนแล้วและก็คงได้ตรวจคนเสื้อแดงมาหลายคนแล้วเช่นกัน แต่ที่มีเหตุเพราะอาจจะสาเหตุจากทำงานหนักทำให้เกิดอารมณ์ร้อนขึ้นได้ ก็ต้องฟังไว้ก่อน น่าเสียดายที่สื่อเผยชื่อจริงไปเรียบร้อยแล้ว ทีนี้ครอบครัวคุณหมอก็คงไม่เป็นสุขล่ะ อย่างน้อยๆ ห้องการเมืองในนี้ก็ไปสาวประวัติมาวิจารณ์กันเรียบร้อยแล้ว ไงๆก็วิจารณ์พฤติกรรมว่าเหมาะสมไม่เหมาะสมเพียงใด เพราะคนๆนึงคงไม่ทำแต่เรื่องไม่ดีหรอก เรื่องดีๆเค้าก็มีเยอะ ย้ายท่านนี้ออกแล้วจะหาท่านอื่นมาทดแทนในพื้นที่เช่นนี้ได้อย่างไร สงสารชาวบ้านเค้า จากคุณ : ไข่เจียวมิชิลิน เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 52 15:46:49

ความคิดเห็นที่ 55   ดีเนอะ ถ้าหมอคนไข้อยากย้ายจากรพ.ที่มันกันดารทางภาคเหนือก็ใช้วิธีนี้ได้สิ จะได้เข้ามากระทรวง ก็เป็นความคิดที่น่าจะนำไปช้ได้ จากคุณ : chartodeworld เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 52 16:05:51

ความคิดเห็นที่ 56   คนไปแทนมีอยู่แล้วครับ หมอที่ลงพื้นที่ต่างจังหวัดไกลๆนี่ส่วนมากหมอใหม่ทำงานเพราะต้องใช้ทุนรัฐ น่าให้ยึดใบประกอบโรคศิลปเลยซ้ำ ไม่พร้อมทางร่างการหรือเครียดก็ควรจะลาพัก ถ้ามามันก็ต้องทำหน้าที่ให้ดีที่สุด จากคุณ : ไร้สติ เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 52 16:15:31 A:124.121.187.248 X: TicketID:221887

ความคิดเห็นที่ 57 รอข้อเท็จจริง จากคุณ : นับเราด้วยคนนึง เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 52 16:26:55

ความคิดเห็นที่ 58 ไม่มีจรรยาบรรณ อย่าเป็นหมอเลยค่ะ ขาดจริยธรรมมากๆ จากคุณ : นาฬิกาเดินไม่ตรง เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 52 16:42:13

ความคิดเห็นที่ 59 เลือก ข้อ 2.รายงานใส่ควรรู้สึก นึกคิด อารมณ์ร่วมเข้าไป จากคุณ : ทำไงได้เกิดมาหล่อ เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 52 17:10:26

ความคิดเห็นที่ 60 เวลาเพ่งโทษคนอื่นมันง่าย ดีนะที่ไม่ได้เรียนหมอ หุหุ ตอนเลือกคณะก็คิดเหมือนกันว่าตัวเองคงไม่มีจรรยาบรรณพอแน่ๆ แต่พอมาเรียนทางวิศวะ ตอนทำงานก็เจออะไรแย่ๆเยอะ สมัยโน้นแค่รถปูนคันดตๆวิ่งเข้าไซด์งานก็จะมีตำรวจขี่มอเตอรืไซด์เข้ามาไถเงินแล้ว เป็นค่าอำนวยความสะดวก เลยหนีมาทำทีวี สนุกไปวันๆ ก็โดนหาว่าทำแต่รายการไร้สาระอีก แค่สงสัยว่าคนที่บอกว่าหมอไร้จรรยาบรรณนี่ทำอาชีพอะไรกันบ้างนะ คงเป็นคนที่ดีมากๆแน่ๆเลย จากคุณ : พ่อมดหมอดู เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 52 18:15:40

ความคิดเห็นที่ 61   ขนาดในสงคราม หมอยังต้องรักษาเชลยสงครามจากฝั่งศัตรูเลย...........จรรยาบรรณแพทย์ไปใหนหมด........ปล่อยให้อารมณ์ ความรู้สึกส่วนตัวมาครอบงำ คนเราทุกคนมีสิทธิ์ที่จะเห็นต่าง คิดต่าง หรือต่างความเชื่อและศรัทธา........จะให้ทุกคน คิดเหมือนเรา ชอบเหมือนเราไม่ได้............ถ้าเลือกปฏิบัติอย่างนี้ ก็ไม่ต้องมาเป็นหมอแล้ว.........ไปทำอาชีพอื่นเถอะ จากคุณ : เป็นไปได้ เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 52 18:39:29 A:58.136.98.59 X: TicketID:162223

ความคิดเห็นที่ 62 หมอก็แค่คน ***ไม่ได้เรียนจบหมอ แล้วได้วุฒิเทวดา*** ให้โอกาสหมอได้มีที่ยืนอยู่บนโลกนี้เถอะค่ะ บางคนทำผิดเป็น ร้อยๆ คดี ยังมีการล่ารายชื่อขออภัยโทษเลย นี่หมอเค้าก็สำนึกรู้สึกผิดแล้วนิค่ะ (จากเนื้อข่าว)ทำไมไม่อภัยกัน แต่สำหรับคนที่ยังไม่สำนึกอะไร ทำไมมีคนเป็นล้านๆ ให้อภัยละคะ ไม่อยากจะโยงอะไร แต่อดเปรียบเทียบไม่ได้ ทุกอาชีพมีกฎเกณฑ์ ทุกวิชาชีพมีจรรยาบรรณ คนทุกคนมีด้านมืดในตัว ย่อมเคยผิดพลาด แต่ถ้าเกิดความสำนึก เราควรให้โอกาสเค้ามั้ยคะ ถ้าไม่สำนึกค่อยประณาม ดีมั้ยคะ จากคุณ : แกงส้มปลาทอด เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 52 18:45:45

ความคิดเห็นที่ 63   นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่หมอปฏิเสธไม่ัรับรักษาคนไข้ คนเจ็บที่ตัวเองคิดว่า อยู่อีกสีนึง ตอนที่มีเหตุปะทะกัน ก็เคยปรากฏข่าวที่ว่า หมอไม่รับ อะไรแบบนี้ ซึ่งเท่ากับเป็นการตอกลิ่มให้กับความแตกแยกเพิ่มมากขึ้น แล้วถ้ามันลามไปถึงอาชีพอื่นล่ะครับ มีการแบ่งไม่ทำหน้าที่ถ้าอีกสีนึง เข้ามาเกี่ยว อันตรายไม่ว่าจะเลือกที่จะรัก หรือเลือกที่จะชัง ใจผมอยากให้เสนอข่าวนี้แต่พอประมาณ เชื่อว่าหมอคนนั้นคงจะรู้สึกได้แล้ว ไม่อยากให้ตอกย้ำมากจนเดี๋ยวหมอสีเหลืองก็จะออกมาทวงสิทธิอะไรกันวุ่นวายอีก ผมเชื่อว่าหมอก็มีทั้งสองสีนั่นแหละ จากคุณ : ขี้หมูราขี้หมาแห้ง เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 52 19:16:51

ความคิดเห็นที่ 64 ในฐานะที่เรียนมาทางนี้เหมือนกัน ขอบอกว่า หากเรื่องนี้เป็นดังว่า หมอนั้นผิดเต็มๆ อย่างแถไม่ขึ้นเลยล่ะครับ หมอไม่ใช่เทวดา หมอมีสิทธิที่จะเหนื่อยล้า มีิสิทธิที่จะแบ่งฝ่าย อาจทำชั่วทำเลวอะไรก็ตามเหมือนคนอื่นๆทั่วไป   แต่ตอนรักษาคนไข้ต้องเก็บไว้ใจทั้งหมด!! และต้องทำในสิ่งที่ควรทำ ไม่ใช่ทำในสิ่งที่อยากทำ เขาสอนกันมาอย่างนี้ การไปแสดงออกแบบนั้นต่อหน้าคนไข้ ไม่คำนึงถึงฐานะตัวเอง สุดท้ายก็โดนเละ (อย่างที่สมควรจะโดน) คุณเหนื่อย คุณจะบ่น จะด่าอย่างไรก็เชิญตามใจ แต่ไม่ใช่การเขียนลงบนเอกสารผู้ป่วยแบบนั้น ยิ่งเอกสารเกี่ยวกับคนไข้ เช่น ใบประวัติต่างๆ  ถือเป็นเอกสารทางราชการ หมอจะมาเขียนความรู้สึกส่วนตัวยังกะไดอารี่ได้อย่างไรกัน! สุดท้ายก็กลายเป็นหลักฐานมัดตัวเอง โดนทั้งขึ้นทั้งล่อง คุณหมอคงจะเผลอไป ลืมสิ่งที่ได้ร่ำเรียนกันมา ก็เลยเอาอารมณ์ตัวเองเป็นใหญ่ น่าเสียดายจริงๆครับ แต่คุณหมอเขาก็คงได้รับบทเรียนที่หนักเลยล่ะ งานนี้ จากคุณ : ธัมมนันทิ เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 52 19:28:04

ความคิดเห็นที่ 65 ความคิดเห็นที่ 60 คุณก็ไม่เข้าใจอยู่ดี  คุณอย่าไปเปรียบเทียบอาชีพอื่นๆเพราะมันไม่เหมือนกัน   และไม่ต้องยกอาชีพคุณมาหรอกไม่เกี่ยวกันซักนิด คนอื่นๆเค้าไม่ได้อยู่สถานะของหมอไง  หมอเป็นอาชีพที่เกี่ยวพันกับชีวิตคนโดยตรง ผมจะเปรียบให้เข้าใจ  คนเราทุกคนจะเปรียบเหมือนสภาพคุณหมอก็ได้ กรณีไหนรู้มั้ยครับ เช่นกรณี คุณเห็นคนจมน้ำ และคุณว่ายน้ำเป็นหรือคุณมีเรือ   คุณจะปล่อยให้เค้าจมน้ำตายเพราะเค้าอุดมการณ์การเมืองต่างจากคุณแค่นั้นเหรอ อาชีพหมอก็เหมือนความสามารถในการว่ายน้ำหรือมีเรือนั่นแหละ หมอมีความรู้ที่จะช่วยชีวิตคน  แต่หมอปฎิเสธที่จะทำเพราะเรื่องอุดมการณ์ทางการเมืองแบบนี้   ผมอาจไม่ใช่คนดีก็ได้ ทำอาชีพแย่ๆก็ได้  แต่ถ้าเกิดผมมีโอกาสที่จะช่วยชีวิตคน ผมก็จะช่วย ผมว่าหมอเป็นอาชีพ ที่ได้บุญสูงมาก  ในกรณีนี้ว่าไม่มีใครอยากเหยียบหมอให้จมดินหรอก เธอก็ยังเป็นทรัพยากรมนุษย์ที่มีค่าของบ้านเราอยู่ เพราะอาชีพนี้ยังขาดแคลนอยู่มากๆ  ก็แสดงความคิดเห็นกันก็เท่านั้น  คงแค่ไม่อยากให้เกิดกรณีนี้เกิดขึ้นอีก ถ้าคุณหมอท่านนั้นเธอสำนึกผิด และต่อไปเธอจะรักษาคนไข้โดยไม่แบ่งแยกอีก ก็ไม่มีใครว่าเธอหรอกครับ   ไม่ใช่เธอจะไม่มีที่ยืนซักหน่อย ปกติเราไปรักษากับหมอผมก็ไม่ค่อยจำชื่อหมอเท่าไหร่  วันนี้คืนดีอาจไปรักษากับเธอโดยไม่รุ้ก็ได้  ไม่มีที่ยืนยังไงตรงนี้ผมไม่เข้าใจ(อันนี้ตอบคุณ62) แก้ไขเมื่อ 18 ส.ค. 52 20:05:23 จากคุณ : seven-elephant เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 52 20:02:17

ความคิดเห็นที่ 66   เห็นด้วยกับคุณ คห.๖๒ ครับ.... คิดว่าเป็นบทเรียนสำหรับคุณหมอจบใหม่ก็แล้วกันนะครับ ประเทศยิ่งขาดแคลนหมออยู่ด้วย ใจร่มๆกันเถอะครับ.... ปล.ที่ได้ติดตาม กท.เกี่ยวกันเรื่องนี้มา ผมรู้สึกว่ามีคนพยายามจะ ลากเข้าไปเป็นเรื่องการเมืองเยอะมากเลยครับ ให้อภัยได้ก็ให้อภัย กันเถิดครับ จากคุณ : พ่อปุย เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 52 20:04:30 A:124.120.116.104 X: TicketID:222176

ความคิดเห็นที่ 67   โถ รู้จักคำว่าจรรยาบรรณมั้ยจ๊ะ ีคนประกอบอาชีพ  ถ้าผิดเพราะรู้เท่าไม่ถึงการณ์  ให้อภัยได้ครับ แต่ถ้าผิดเพราะไม่มีจรรยาบรรณ  ให้อภัยไม่ได้ เหมือนถ้าคุณไปกินข้าว  แล้วพ่อครัวเกิดไม่ชอบขี้หน้า  เขาฉี่ใส่อาหารแล้วมาให้คุณกิน   คุณจะให้่อภัยมั้ล่ะ แยกแยะกันหน่อย  ผิดเพราะอะไร จริงๆก็แค่หาเหตผลโน่นนี่  น่าจะบอกตรง ๆ นะ  ว่าไม่ชอบสีแดง แล้วก็บอกว่า  อุ๊ย  ไม่ชอบสีเหลืองด้วยค่ะ จากคุณ : ตีสี่ เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 52 20:10:10

ความคิดเห็นที่ 68 ภาพซึ้งๆ ทหารอเมริกัน ช่วย ทหารนาซี จากคุณ : planoy_nat เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 52 20:16:58

ความคิดเห็นที่ 69 1. รายงานตามควรจริง ใคร ทำอะไร ที่ใหน เมื่อไหร่ อย่างไร จบ (โดยรายงานถึงที่มาที่ไปทั้ง 2 ฝ่าย เพื่อให้ผู้ชมตัดสินใจเอง ว่าเลือกเชื่อฝั่งไหน) ส่วนหน้าที่ใส่อารมณ์ เป็นของผู้ชมเท่านั้น **************************************************** เป็นหมอ ต้องรักษาได้ทุกคน..........เมื่อรักษาเขาหายแล้ว  ค่อยไปแช่งกันนอกรอบ เมื่อถอดชุดหมอออกแล้ว แก้ไขเมื่อ 18 ส.ค. 52 20:28:58 จากคุณ : Blue apple เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 52 20:24:47

ความคิดเห็นที่ 70 ตามจรรยาบรรณแพทย์ควรรักษาโดยไม่แบ่งว่าผู้ป่วยเป็นใครครับ แต่ดูตามเนื้อข่าว กับอ่านจากนู่น จากนี่นิดหน่อย นี่ก็เป็นความเห็นผมนะ คิดว่าหมอคนนั้นเค้าปฏิเสธการรักษา เพราะเจตนาที่ดี นั่นก็คือ ตนเองนั้น เกลียดสีแดงเข้าเส้น เกลียดเอามาก ๆ จนมิอาจแน่ใจตนเองได้ว่า คนไข้จะได้รับการรักษาจากตน ได้ตามมาตรฐานปกติ หรือมาตรฐานแพทย์ที่ควรจะปฏิบัติต่อคนไข้ได้ จึงได้บอกปัด และส่งต่อคนไข้ไปให้แพทย์คนอื่นรักษาแทน เพราะเจตนาดี มิใช่ปฏิเสธ เพราะต้องการให้ผู้ป่วยต้องทนทุกข์กับโรคแต่อย่างใด แต่สรุปแล้ว ก็ควรรักษานั่นแหละครับ จรรยาบรรณแพทย์ ไม่ว่าจะอ้างว่าทำใจไม่ได้ ก็ไม่ควรหรอกนะ และผมก็คิดว่า ถ้าคนไข้ คนนั้นป่วยหนักจริง ๆ เค้าก็รักษานะ เพราะ 1 ชีวิตตรงหน้า อยู่ในมือเค้า เค้าไม่ปล่อยไว้หรอก จากคุณ : มะนาวต่างดุ๊ดvPT เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 52 21:08:48

ความคิดเห็นที่ 71 อย่าอ้างเรื่องอายุเลยครับ.......ขำไปป่ะ ส่วนสื่อควรตรงไปตรงมาครับ ไม่เช่นนั้นคุณก็ไม่ต่างจาก หมอ ที่เป็นข่าวหรอกครับ บ้านเมืองที่มันวุ่นวายส่วนนึงก็มาจากสื่อที่ไม่มีจรรยาบรรณนั่นล่ะครับ อ่านข่าวใส่ คคห. ของตัวเองมอมเมาประชาชน ถ้าวางตัวเป็นสื่อที่มีจรรยาบรรณ ประเทศไทยเจริญกว่านี้เยอะ นักการเมือง หรือ ข้าราชการ จะโกงอย่างไร หากเรามี สุนัขเฝ้าบ้านที่ซื่อสัตย์กับเจ้าของบ้านมีจรรยาบรรณ พวกมันก็โกงลำบากครับ แต่นี่อะไรกัน เล่นเกมแห่งอำนาจกะเขาด้วยบ้านเมืองก็มอดม้วยสิครับ ทุกคนต้องทำหน้าที่ของตัวเองใหดีก่อนครับ บ้านเมืองมันจะสงบได้เอง แต่ทุกวันนี้ ดีแต่ อ้าง ให้คนโน้นคนนี้ ทำอย่างนั้นอย่างนี้ แต่ตัวเองยังขับรถฝ่าไฟแดงทุกวัน ลัดคิวคนอื่นทุกวัน หาทางเลี่ยงภาษีกันทุกรูปแบบ แบบนี้ก็ต้องอย่าไปว่าคนอื่นครับ มนุษย์มีโอกาส ในการทำบุญ และ หนักเบาไม่เท่ากัน เพราะสภาพแวดล้อมแห่งตนครับ วันนี้ทำได้แค่นี้วันหน้ามีโอกาสมันก็จะทำหนักขึ้นเรื่อยๆล่ะครับ .......ไปละ แค่นี้ก็คงโดนตำหนิไล่หลังมาเพียบแหงๆ 5555555555 จากคุณ : ผีเพื่อนหงส์ เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 52 21:36:17

ความคิดเห็นที่ 72 เคยได้ยินพระราชดำรัสของในหลวง ท่านกล่าวว่า ...ถ้าทุกคนต่างคนต่างทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุดแล้ว สังคมจะร่มเย็นเป็นสุข ก็จริงดังคำพระองค์ท่านนะคะ ต่างคนต่าง "อ้าง" เพื่อไม่ทำหน้าที่ของตัวเองกันเยอะ เลยวุ่นวายกันแบบนี้ จากคุณ : เจ้าหญิงอารมณ์ดี เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 52 01:12:41

ความคิดเห็นที่ 73 มีคุณหมอชื่อ "หมูเหมียว" จากห้องลุมพินีแสดงความเห็นไว้ดีมากค่ะ จากคุณ : มนต์สวรรค์ เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 52 15:00:42

ความคิดเห็นที่ 74 หมอที่ไม่รักษา คนไข้ใส่เสื้อกีฬาสี 2 จากคุณ : planoy_nat เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 52 16:51:28

ความคิดเห็นที่ 75 ข้อมูลน้อยเกินกว่าจะตัดสินครับ ว่าถูกหรือไม่ถูก เหตุผลที่อ้างว่าเป็นเสื้อแดง คือเหตุผลจริงๆ หรือแค่การประชดประชัน แต่มาจากเหตุอื่นๆก็เป็นไปได้ ส่วนตัวยังเชื่อว่าคนเป็นหมอ ถ้ามีใครลำบากจนต้องมาถึงมือ มนุษยธรรมย่อมมากกว่าอคติใดๆ จึงอยากฟังเหตุผลของหมอให้ชัดเจนกว่านี้ ไม่ใช่เหตุผลที่เขียนขึ้นข้างเดียว และคนเอาไปพูดขยายต่อๆกันไปเรื่อยๆ วิชาชีพแพทย์ ไม่ใช่จะผ่านการหล่อหลอมมาได้อย่างง่ายๆ แล้วการควบคุมอารมณ์กับเรื่องแค่นี้ ผมว่ามันจิ๊บจ๊อยที่น้อยกว่าการเรียนตั้งมากมาย คนเป็นหมอ คงไม่พลาดง่ายๆอย่างนั้น จากคุณ : I'm wu เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 52 18:15:33

ความคิดเห็นที่ 76 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 52 19:38:10

ความคิดเห็นที่ 77   นี่คือผลของการปล่อยให้อารมณ์  และอคติส่วนตัว  มาอยู่เหนือเหตุผลและจรรยาบรรณ แม้ว่าบางที...ก่อนหน้าที่จะปฏิเสธการรักษา  อาจจะมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นรึเปล่า?   ...หลานยาย  เจ้าหน้าที่  อสม. ประจำหมู่บ้าน  สาวอายุ 33 หัวใจสีแดงและใส่เสื้อแดง....กับคุณหมอสาวหัวใจสีเหลืองแต่สวมเสื้อขาว เจ้าหน้าที่อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านอาจจะเคยทำงาน  หรือ  เจอกับคุณหมอมาก่อนรึเปล่า? อาจจะเคยรับรู้ว่าอยู่คนละฝ่ายหรือเปล่า? เคยคุย  เคยอะไรกันมาก่อนหรือเปล่า? หรือ.... เราก็คงได้แต่คาดเดา... ก็คงไม่ได้ยินหมอออกมาเล่าเหตการณ์....ว่าอะไรคือเหตุผลที่แท้จริง  ที่ทำให้หมอต้องถึงขนาดเขียนสิ่งที่ไม่ควรเขียน....ซะขนาดนั้น ไม่ว่าจะอย่างไร....จรรยาบรรณหมอ  คือ  สิ่งที่คุณหมอต้องนึกถึงก่อนเรื่องใดๆ เหตุการณ์นี้เรียกว่า..."ผิดเป็นหมอ"...ซะแล้ว จากคุณ : rottheeb เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 52 20:02:41