ความคิดเห็นที่ 1   ที่ประเทศอังกฤษ ไมเคิล ได้เข้าเฝ้าเจ้าฟ้าชายชาร์ลและได้มอบเช็คมูลค่ากว่า 200,000 เหรียญ เพื่อเป็นสินส่วนพระองค์ เมื่อ กลับมาอเมริกา ที่สนามบินนิวยอร์ก เขากำกับการขนส่งสิ่งของน้ำหนัก 43 ตัน ประกอบด้วย ผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ ผ้าห่ม เสื้อผ้า และ รองเท้า เพื่อส่งมอบให้แก่เด็กๆใน ซาราเยโว  นอกจากนี้ มูลนิธิ ฮีลเดอะเวิร์ลของเขา ร่วมกับองกรณ์การกุศลอื่นๆได้ส่งความช่วยเหลือไปยูโกสลาเวียอีกด้วย ใน เวลาเดียวกันนี้ โครงการ Michael Jackson scholarship program ยังได้ให้ความช่วยเหลือ ชายหญิงชาวผิวดำ อีกจำนวนนับไม่ถ้วนในการที่จะให้พวกเขาได้มีการศึกษาที่ดี (จขกท) แม้จะเหนื่อยกายขนาดไหน แต่ไมเคิลก็มีความสุขบ้าง อย่างน้อยโลกก็ยังสวยงามสำหรับเขา จนกระทั่ง..ไม่กี่เดือนหลังจากนั้น เดือนสิงหาคม ปี 1993 ไมเคิล เปิดการแสดงทัวร์คอนเสิร์ตทั่วเอเชีย บางอย่างเกิดขึ้นและกลายเป็นข่าวพาดหัวตามสื่อต่างๆทั่วโลก ไมเคิล แจ๊คสัน ถูกกล่าวหา ว่ากระทำอนาจารทางเพศเด็กอายุ 13 ปี  ถึงกระนั้น ไมเคิลยังคงเปิดการแสดงต่อไป เขานอนใจว่า มันเป็นแค่อีกข่าวลือหนึ่ง ที่เดี๋ยวก็คงจางหายไปในไม่ช้า เฉกเช่นเดียวกันกับข่าวลือต่างๆ ที่เขาเคยเผชิญมาตลอดชีวิต...น่าเสียดายที่ครั้งนี้..มีคนหวังผลมากกว่านั้น แถมเป็นคนที่เขาไว้ใจและให้ความช่วยเหลือมาตลอดอีกด้วย หลายวัน ต่อมา เขาอาการไม่ดี คอนเสิร์ตรอบแรก ต้องเลื่อนออกไป ร่างกายไมเคิลขาดน้ำอย่างรุนแรง และไม่สามารถทำการแสดงได้ตามกำหนดการเดิม(ไม่แน่ใจว่า เป็นที่ประเทศไทยหรือเปล่านะคะ/จขกท) ที่สิงคโปร์ เขาล้มลงด้านหลังเวที ไม่กี่นาทีก่อนการแสดง เขาถูกจู่โจมด้วยอาการไมเกรน แต่เขาก็ยังฝืนขึ้นเวทีแสดง...และถ้าคุณสังเกตุดีๆ คุณจะเห็นคราบน้ำตาบนใบหน้าของเขา  ว่ากันว่าเขาต้องรับอ๊อกซิเจนตลอด เพื่อให้สามารถแสดงจนจบ ... จากคุณ : Better Off เขียนเมื่อ : 24 ส.ค. 52 16:18:45

ความคิดเห็นที่ 2   ไมเคิลจำต้องอาศัยยาคลายเครียด(tranquilizer) และยาแก้ปวด มากขึ้น มากขึ้น เพื่อที่จะทำการแสดงทั้งหมด และ เพื่อทำให้จิตใจเขาสงบ ขณะ อยู่ตามลำพังในห้องพักของโรงแรมที่มอสโคว เขาได้เขียนเพลงขึ้นมาเพลงหนึ่ง ต่อมาเพลงนี้ได้กลายมาเป็นเพลงฮิตชื่อ Stranger in Moscow. ที่มีเนื้อหาบอกถึงความเปล่าเปลี่ยวอ้างว้างของเขาได้เป็นอย่างดี แม้นในยามที่เขาพบกับความทุกข์อันหนักหน่วง ไมเคิลยังไม่ลืมหน้าที่ที่เขาทำด้วยความเต็มใจ... "การให้" อีกครั้งที่มูลนิธิ Heal the World ของเขา ส่งของบริจาคไปยัง ซาราเจโว ในขณะที่สภาพร่างกายของเขาอ่อนล้าลงเรื่อยๆ เขามักเป็นลมบ่อยๆ รับประทานได้น้อย ที่แย่ที่สุดคือ สภาพจิตใจ ที่ตกต่ำถึงที่สุด เขารู้สึกโดดเดี่ยว และรู้สึกถูกทอดทิ้งจากคนทั้งโลก โฆษกของเขาเผยว่า "ไมเคิลเค้าไม่ทราบว่าตอนนี้ สถานการณ์ที่อเมริกาไปถึงไหนแล้ว แต่แค่สิ่งที่เค้ารู้มาก่อนหน้านี้ ก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้เขาแย่จนถึงที่สุด..." ปลายเดือน พฤศจิกายน เขายกเลิกทัวร์คอนเสิร์ตในที่สุด  พร้อมทั้งออกมายอมรับอย่างเป็นทางการว่า เขาติดยาแก้ปวดและจำเป็นต้องเข้ารับการบำบัดอาการดังกล่าว จากคุณ : Better Off เขียนเมื่อ : 24 ส.ค. 52 16:23:22

ความคิดเห็นที่ 3   The King of Pop หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย และการตามล่าหาตัวเขาของบรรดาสื่อก็เริ่มขึ้น และเพราะการยกเลิกการแสดง ทำให้ทางบริษัท เป๊ปซี่ ประกาศความสิ้นสุดการร่วมงาน และหยุดการให้ความสนับสนุนแก่นักร้องดังทันที ด้วย ความเข้มแข็งทั้งหมดที่ยังพอหลงเหลือ ไมเคิลตัดสินใจพาตัวเองหายหน้าไปจากสื่อ และหาสถานที่บำบัดอาการติดยาแก้ปวดของเขา เขาเข้ารับการรักษาตัวในกรุงลอนดอนอย่างลับๆ แม้สื่อจะพยายามไล่ล่าหาตัวเขาอย่างบ้าคลั่ง ถึงขนาดตั้งรางวัลผู้แจ้งเบาะแสที่อยู่ของเขา เป็นเงินรางวัลสูงถึง 50,000 ปอนด์ จากคุณ : Better Off เขียนเมื่อ : 24 ส.ค. 52 16:26:23

ความคิดเห็นที่ 4   ...โชคชะตาดูเหมือนจะยิ่งโหดร้ายสำหรับเขา แม้ การบำบัดจะลุล่วงไปด้วยดี แต่ไมเคิลก็ไม่สามารถกลับมายืนได้อย่างแข็งแรงอีกแล้ว เมื่อเขาต้องเผชิญกับเหตุการณ์เลวร้ายระลอกใหม่...หมายเรียกตรวจค้นร่างกาย จาก Santa Barbara County Sherrifff's Department ช่วงปลายปี ไมเคิลต้องกลับไปยัง สหรัฐอเมริกา เพื่อเข้าสู่ กระบวนการที่น่าขายหน้าที่สุด "การสำรวจร่างกายทั้งหมดทุกส่วน" โดยผู้สำรวจจะทำการสำรวจรอยด่างบนผิวหนังของเขา ซึ่งเป็นผลมาจากโรคผิดปกติทางผิวหนังชื่อ Vitiligo  เนื่องจากเด็กชายได้บรรยายถึงลักษณะของพื้นที่สงวนของเขาเอาไว้ ในการกล่าวอย่างเป็นทางการของเขา ไมเคิลไม่สามารถระงับน้ำตาได้ "(...) มันเป็นสิ่งที่น่าอับอายที่สุดในชีวิตของผม เรื่องแบบนี้ไม่ควรจะเกิดขึ้นไม่ว่ากับใครก็ตาม แม้หลังจากปล้นศักดิ์ศรีจากการตรวจค้นอันน่าอับอายนั้นแล้ว พวกเขาดูเหมือนจะยังไม่พอใจ...พวกเขายังต้องการจะถ่ายรูปให้มากที่สุด มันเป็นฝันร้าย..ฝันร้ายอันน่าสยดสยอง แต่ถ้านี่เป็นสิ่งที่ผมต้องจำทนเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของผม บริสุทธิ์อย่างไร้ข้อกังขา ผมก็ต้องจำทน(...)" นอกจากนี้ บ้านของเขายังถูกค้นอีกด้วย สิ่งของส่วนตัวบางอย่างของเขาถูกริบ เทปวิดิโอ หนังสือ ทุกอย่าง แต่ถึงขนาดนั้น ก็ไม่มีสิ่งใดอันจะเป็นหลักฐานแห่งการกระทำผิด เด็กผู้ชายหลายสิบคนที่เคยมาเล่นที่บ้านกับไมเคิลถูกเรียกสอบ พวกเขาต่างยืนยัน ว่าไม่เคยมีสักครั้ง ที่ไมเคิลจะแตะต้องพวกเขาในทางอนาจาร ... จากคุณ : Better Off เขียนเมื่อ : 24 ส.ค. 52 16:28:15

ความคิดเห็นที่ 5   ธันวาคม ปี 1993 ไมเคิลได้รับทั้งความเจ็บปวดและอับอายที่สุดในชีวิต.. และ ช่วงเดียวกันนี้เอง  อีกครั้งที่ มูลนิธิ Heal the World  ของไมเคิล ได้สนับสนุน เด็กที่ต้องผ่าตัดในช่วงคริสมาสต์ และ เครื่องบินที่จุไปด้วยของเล่นขนม และของขวัญเต็มลำก็บินไปหาเด็กๆในยูโกสลาเวีย ... จากคุณ : Better Off เขียนเมื่อ : 24 ส.ค. 52 16:29:44

ความคิดเห็นที่ 6   ทุกครั้งที่เขาเจ็บปวด เขาจะมอบสิ่งดีๆให้ผู้อื่นเสมอ โดยเฉพาะมอบความสุขให้กับเด็กๆที่กำลังป่วย หิวโหย ยากไร้ ดิฉัน(จขกท)ยังจำได้ว่า หลังประสบอุบัติเหตุไฟไหม้บริเวณศีรษะตอนถ่ายโฆษณาเป๊ปซี่ ไมเคิลได้รับบาดเจ็บรุนแรงระดับ2 เขาคงเจ็บปวดมาก แต่เขากลับไม่ถือโกรธโทษใคร สิ่งที่เค้าเรียนรู้จากความเจ็บปวดนี้ก็คือ ความเจ็บปวดนี้ไม่ควรเกิดขึ้นกับใคร และเมื่อมันเกิดขึ้นแล้ว มันควรได้รับการเยียวยารักษาอย่างดีที่สุด และเมื่อทาง บ.เป๊ปซี่ จ่ายค่าทำขวํญให้กับเขาเป็นเงินถึง 1.5ล้านเหรียญ เขานำเงินทั้งหมดนั้น บริจาคให้กับสถาบันการแพทย์บรอทแมน เพื่อพัฒนาให้ความช่วยเหลือผู้อื่นต่อไป... ... จากคุณ : Better Off เขียนเมื่อ : 24 ส.ค. 52 16:31:21

ความคิดเห็นที่ 7   และก็อีกเรื่องหนึ่งที่หลายคนไม่รู้... ไมเคิล แจ๊คสัน มอบรายได้ส่วนของเขาทั้งหมด (ประมาณห้าร้อยล้านเหรียญสหรัฐ) จากการแสดง Dangerous Would Tour ของเขาให้กับการกุศลทั้งหมด (หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ได้ซื้อตั๋วชมหนึ่งในคอนเสิร์ตชุดนี้ละก็ ภูมิใจได้เลย คุณได้ทำบุญร่วมกับเขาแล้วล่ะค่ะ/จขกท) ... จากคุณ : Better Off เขียนเมื่อ : 24 ส.ค. 52 16:32:38

ความคิดเห็นที่ 8   เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย จุดเริ่มต้นแห่งความสุข ในการเป็นผู้ให้ของไมเคิล ย้อนกลับไปในปี 1977 แม้เขาจะเป็นเพียงแค่เด็กวัยรุ่นคนหนึ่ง แต่ความคิดความอ่านของเขานั้น เกินตัวมากนัก เขาเคยกล่าวไว้ว่า "ผม ได้พบเจอผู้คนมากมาย ทั้งคนจน และคนรวย แต่ส่วนใหญ่ผมมักให้ความสนใจคนจนเสมอ (...)ผมรู้สึกพอใจในสิ่งที่ผมมี และอยากที่จะช่วยเหลือผู้อื่นด้วย เวลาที่ได้ไปต่างประเทศ ผมมักใฝ่หาส่วนที่ยากจนของประเทศนั้นๆ ผมอยากทราบถึงความอดอยากว่าเป็นยังไง ผมไม่อยากเพียงแค่ได้ยินหรือได้อ่านเกี่ยวกับเรื่องนี้ ผมต้องการได้ไปเห็นกับตาตัวเอง มันต่างกันมากเมื่อคุณได้ไปสัมผัสด้วยตัวคุณเอง (...)คุณต้องเรียนรู้ให้มากขึ้นอีก" ไมเคิล ต้องทนทุกข์จากผลลัพธ์ ที่เกิดจากความสำเร็จตั้งแต่อายุยังน้อยของเขา "ผู้คน ไม่พูดกับผมเหมือนที่เขาพูดกับคนอื่น  เหมือนเวลาพวกเขาคุยกับเพื่อนบ้าน ผู้คนทำให้ผมรู้สึก แปลก ผมรู้สึกอย่างนั้นจริงๆ...จนบางครั้ง ผมเดินออกไปนอกถนน หาใครซักคน ใครก็ได้ ที่จะคุยกับผม(เหมือนคนปกติ)"  แต่ทุกครั้งที่เขาทำแบบนั้น เขาจะพบว่า เป็นความพยายามที่สูญเปล่า... ไมเคิล รักเด็กๆ และสัตว์ มากกว่าสิ่งใดในโลก เพราะกับสองสิ่งนี้เท่านั้น ที่เขาอยู่ด้วยแล้วรู้สึกสบายใจ ชื่อเสียงของเขาไม่เป็นสิ่งสำคัญอีกต่อไป.. ... จากคุณ : Better Off เขียนเมื่อ : 24 ส.ค. 52 16:35:02

ความคิดเห็นที่ 9   "แผลใจของไมเคิล บำบัดด้วยการ"ให้" และ มอบความสุขให้ผู้อื่น..." แต่เมื่อคิดในทางกลับกับ นั่น....ดิฉันอาจคิดในแง่ร้ายเกินไปสักหน่อย เพราะ หากการให้ของเขาเป็นแค่การบำบัดความเจ็บปวดทางใจของเขาจริง... เขาคงเป็นศิลปินที่ทุกข์ทนที่สุดในโลก เพราะ ไมเคิล แจ๊คสัน ได้รับการบันทึกใน Guinness book of World Records เมื่อปี ค.ศ. 2000 ว่าเป็นศิลปินที่บริจาคมากที่สุดในโลก จนถึงขณะนี้ ก็ยังไม่มีใครทำลายสถิติได้... ความจริง สิ่งเหล่านี้ อาจเกิดขึ้นเพียงเพราะมโนสำนึกของเขาเอง ความรักต่อเพื่อนร่วมโลก ความปราถนาดีต่อผู้อื่นอย่างจริงใจ ซึ่งเหล่านี้มันคงเป็นสิ่งที่ติดตัวเขามาตั้งแต่เกิด   ประสบการณ์ อันเลวร้ายในวัยเด็ก...ความกักขฬะรุนแรงที่เขาเคยได้รับในช่วงวัยเยาว์ ไม่ได้กลายเป็นเบ้าหลอมให้เขาสืบต่อ และไม่อาจทำลายสิ่งงดงามที่เติบโตอยู่ภายในจิตใจของเขาได้เลย.. ... จากคุณ : Better Off เขียนเมื่อ : 24 ส.ค. 52 16:38:37

ความคิดเห็นที่ 10   Credit to : http://www.mjfriendship.de/en/index.php?option=com_content&task=view&id=8&Itemid=10 ------ จากคุณ : Better Off เขียนเมื่อ : 24 ส.ค. 52 16:39:41

ความคิดเห็นที่ 11   จากคห.1 ไปเช็คดูแล้วเพิ่มเติมเป็นคอนเสิร์ตที่ประเทศไทยจริงๆด้วยค่ะ ไมเคิลเสียใจมากที่ต้องเลื่อนการแสดงออกไป แต่เขาคงไม่ไหวจริงๆค่ะ ถ้าไหวเขาคงฝืน เหมือนที่สิงคโปร์ จขกท เคยดูสัมภาษณ์ ผู้บริหารของโรงแรมโอเรียนเต็น ที่ดูแลไมเคิลตอนมาไทย เค้าเล่าว่า วันนั้น ไมเคิลนอนซม บอกว่า ปวดหัวมาก หัวผมจะระเบิด แล้วยังส่งเสียงร้องครวญครางตลอดเวลาด้วย เขาคงทรมาณมากๆ แต่พอถึงวันที่เขาแสดง พอขึ้นเวทีปุ๊บ เขานิ่งมาก ไม่มี sign บอกเลยว่าเขาป่วยอยู่... พอเขาทราบว่า มีสื่อและคนไทยบางคนไม่พอใจมากที่เขาเลื่อนการแสดง(บางคนว่าเขาแรงมากๆ)เขาก็เสียใจมาก... จากคุณ : Better Off เขียนเมื่อ : 24 ส.ค. 52 16:42:38

ความคิดเห็นที่ 12 มาให้กิ๊ฟ จากคุณ : JohnHenry เขียนเมื่อ : 24 ส.ค. 52 16:47:51

ความคิดเห็นที่ 13 อยากให้กิ๊ฟจังเลย จากคุณ : บ้านนอกตั้งแต่เกิด เขียนเมื่อ : 24 ส.ค. 52 17:08:40

ความคิดเห็นที่ 14 ให้กิ๊ฟค่ะ จากคุณ : คุณเชื่อในพรหมลิขิตไหม? เขียนเมื่อ : 24 ส.ค. 52 17:32:26

ความคิดเห็นที่ 15   ชีวิตนี้มีแต่ให้ ผลบุญคงส่งให้เขาไปอยู่บนสวรรค์แล้วละ จากคุณ : Kentuck เขียนเมื่อ : 24 ส.ค. 52 18:23:24 A:124.120.145.124 X: TicketID:094046

ความคิดเห็นที่ 16 จากคุณ : มินเอง เขียนเมื่อ : 24 ส.ค. 52 19:17:28

ความคิดเห็นที่ 17 พระเจ้าอาจอยากรู้ว่า.. ถ้ามีมนุษย์คนนึงจะต้องทำให้ดีที่สุด หากถ้าจะต้องเจอ วีถีชีวิตแบบนี้ มนุษย์คนนั้นจะทำให้ดีที่สุดได้อย่างไร...พระองค์จึงส่ง เค้ามา แล้วค่อยๆ ทดสอบเค้า  เหตุการณ์แล้วเหตุการณ์เล่า  และเค้าคนนี้ได้ผ่านบททดสอบของพระองค์ไปหมดแล้ว  ...   พระองค์ทราบแล้วว่านี่คือการทำสิ่งที่ดีที่สุดเท่าที่มนุษย์จะำทำบททดสอบนี้ได้ จากคุณ : ที่ปรึกษาสาว เขียนเมื่อ : 24 ส.ค. 52 19:17:37

ความคิดเห็นที่ 18 รักไมเคิล อ่านจบแล้วยิ่งรักมากขึ้นไปอีก จากคุณ : ไมเคิลแฟนคลับ (ดำรงมั่น) เขียนเมื่อ : 24 ส.ค. 52 19:24:16

ความคิดเห็นที่ 19 ขอบคุณคุณAofอีกครั้ง.... จากคุณ : RockwithU เขียนเมื่อ : 24 ส.ค. 52 19:51:18

ความคิดเห็นที่ 20 คิดถึงไมเคิลค่ะ Q_Q จากคุณ : RockwithU เขียนเมื่อ : 24 ส.ค. 52 19:52:42

ความคิดเห็นที่ 21 น้ำตาไหล T___________T จากคุณ : Hermione Granger เขียนเมื่อ : 24 ส.ค. 52 20:00:52

ความคิดเห็นที่ 22 มันจุกอยู่ในอก พูดไม่ออกเลย อยากเป็นคนดีสักครึ่งนึงของเค้า ตอนนี้ก็พยายามทำความดีอยู่ แต่บางครั้งก็แอบแตกแถวบ้างอ่ะ จากคุณ : NattMJ (jian1975) เขียนเมื่อ : 24 ส.ค. 52 20:30:14

ความคิดเห็นที่ 23   ขอบคุณคุณ Aof อีกครั้งนะคะ ... ต่อไปคงไม่มีใครตามไปทำร้ายเค้าได้อีกแล้วล่ะค่ะ จากคุณ : P.S.T. (Pretty Small Thing) เขียนเมื่อ : 24 ส.ค. 52 21:22:47

ความคิดเห็นที่ 24 This topic is so touchin', makin' me cry a lot. I've been a real big fan of him for almost 10 years and will never stop, the sad childhood background he has been through for all his life was somewhat I can relate to mine. Life is great but also hurts like hell. Last to say, I always wish him now restin' in peace. No more hurt and pain to down his heart, body and soul anymore, my beautiful mind true angel, is you, MJ. .... จากคุณ : white lion เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 00:46:23

ความคิดเห็นที่ 25 ขอบคุณ คุณAof มากๆเลยค่ะ ... ยิ่งอ่านยิ่งรัก ยิ่งอ่านยิ่งคิดถึงไมเคิลเหลือเกิน .... จากคุณ : บวรจ้า เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 01:01:49

ความคิดเห็นที่ 26 ขอบคุณที่แบ่งปันค่ะ ไมเคิลทำให้เราเห็นถึงความดีงาม และคุณค่าของการมีชีวิตอยู่ จากคุณ : ExtraOrdinary Girl เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 01:11:17

ความคิดเห็นที่ 27 คน ๆ นี้ยิ่งกว่าซานตาคลอสอีกล่ะมั้งผมว่า สุดยอดจริง ๆ จากคุณ : มะนาวต่างดุ๊ดvPT เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 03:11:40

ความคิดเห็นที่ 28 น่าชื่นชมมากค่ะ จากคุณ : มารุโกะจัง (กองกำลัง12วานร) เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 09:47:12

ความคิดเห็นที่ 29 มีนักร้องที่เทียบเท่าไมเคิล ก็คือมาดอนน่าอีกคน จากคุณ : มารุโกะจัง (กองกำลัง12วานร) เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 09:50:06

ความคิดเห็นที่ 30 thanks for this kratoo ka... จากคุณ : rumiana เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 10:56:46

ความคิดเห็นที่ 31 อยากาจะเป็นคนนดีคนนึงในสังคม แต่ก้อจมลงดิน เพียงเพราะแค่คำคน แงแง จากคุณ : bjinui เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 11:48:29

ความคิดเห็นที่ 32 โอ๊ว ไมเคิล จงเจริญ จากคุณ : joe_micro เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 12:42:54

ความคิดเห็นที่ 33   ตามมาเชียร์ค่ะ จขกท. ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆ จากคุณ : Giftpun เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 18:37:08

ความคิดเห็นที่ 34 ขอโทษค่ะ ไมเคิล ที่ตอนที่คุณมีชีวิตอยู่ เราแคร์คุณน้อยไป เราสนใจอ่านแต่ข่าวด้านลบของคุณ ที่สื่อพยายามเสนอ RIP หลับให้สบายในสวรรค์นะคะ จากคุณ : ส่าหรี สีรุ้ง (ส่าหรี สีรุ้ง) เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 20:34:01

ความคิดเห็นที่ 35 แผลกายนี่คือการที่เขาไปทำศัลยกรรมจนเป็นเอเลี่ยนใช่ไหมครับ ส่วนแผลใจคือการที่เขามีปัญหากับเด็กผู้ชายไช่ไหมครับ ช่วยให้ความกะจ่างกับผมที เขามีอายุรุ่นราวคราวเดียวกับพี่สาวคนรองของผม อยากรู้จริงๆ จากคุณ : อติวิชญ์ เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 20:37:35

ความคิดเห็นที่ 36 คห 35 หัดอ่านข่าวบ้างนะ ไม่ใช่อ่านแต่โปรยหัว อ่านหนังสือพิมพ์เยอะๆ หัดเข้าเวป ตปท ซะบ้าง จะได้ฉลาดๆ ข่าวเค้าออกจะดังทั่วโลก ไปอยู่ไหนมา ศัลยกรรมเพราะอะไร อุบัติเหตุเยอะแยะ ทำให้เค้าต้องทำ (เข้าใจซะทีนะ ..) คดีเรื่องเด็ก เค้าตัดสินไปไหนต่อไหนแล้ว (พ้นผิดไปแล้ว.. หลายปีแล้วด้วย ) ถ้ายังสงสัย หลังมือมา จะตอบตัวต่อตัว โอเค๊ !!!!??? !!! จากคุณ : i can't do it !! เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 21:51:31

ความคิดเห็นที่ 37 คห.35 ค่ะ สิ่งที่คุณตอบมาเป็นความเข้าใจผิดของคนส่วนใหญ่ ที่ได้รับข้อมูลข่าวสารจากสื่อ (เลว ๆ) เพียงด้านเดียว ทั้งที่ทุก ๆ สิ่งทุก ๆ อย่างมีคำตอบจากเจ้าตัวและคนรอบข้างอยู่แล้ว แต่สื่อ (เลวๆ) พวกนี้ก็ไม่ได้ใส่ใจ หวังแต่จะขายข่าวกันอย่างเดียว โดยไม่ได้มองถึงความเป็นจริง กรณี แผลทางกายในที่นี้ ไม่ใช่เพราะการทำศัลยกรรม คุณคงไม่ทราบว่าต้นเหตุของการทำศัลยกรรมมากมายมันมาจากอุบัติเหตุตอนถ่ายทำโฆษณา Pepsi เหตุการณ์ครั้งนั้น ถ้าคุณอยากรู้ เชิญหาได้จากคลังกระทู้เก่ามีคลิปให้ดูค่ะ บาดแผลในครั้งนั้นทำให้เขาได้รับความเจ็บปวดอย่างมาก ต้องทำศัลยกรรมพลาสติกเพื่อรักษา การทำศัลยกรรมจมูกเริ่มต้นจากอุบัติเหตุจากการซ้อมเต้น การมีผิวสีขาวไม่ได้เกิดจากการอยากเป็นคนขาวอย่างที่หลายคนเข้าใจที่เขาเป็นแบบนั้นเพราะเขาเป็นโรคด่างขาว ขั้นรุนแรง ถ้าอยากรู้รายละเอียด อันนี้มี คลิปอยู่ใน คลังกระทู้เก่า อีกเช่นกันค่ะ หรือจะหาดูใน Youtube ก็ได้ค่ะ แล้วคุณจะกระจ่างมากกว่านี้ค่ะ ส่วนบาดแผลทางใจ ปัญหากับเด็ก (เวร) คนนั้นเป็นจุดเริ่มต้นของบาดแผลทางใจน่าจะใช่ค่ะ และเมื่อไมเคิลได้จากไป เด็ก (เวร) คนนี้ก็ได้ออกมายอมรับแล้วว่าที่ทำไปทั้งหมดเพราะพ่อบังคับให้ทำเพราะต้องการเงินและต้องการทำให้ไมเคิลเสื่อมเสียชื่อเสียง และทุก ๆ คดีก็ผ่านพ้นไปหมดแล้วด้วยคำตัดสินที่ว่า เขา "บุริสุทธิ์" เข้ามาบอกคุณ "อติวิชญ์" เท่านี้ละค่ะ คนดี ๆ แบบไมเคิล หาได้ยากมาก ๆ นะค่ะ ในโลกนี้ สำหรับเราคนคนนี้ เป็นสิ่งมีชีวิตที่ทำให้โลกที่โหดร้ายใบนี้ดูสวยงามขึ้นเยอะเลยค่ะ เพราะในความโหดร้ายของสังคม เราก็ยังได้เห็นคน ๆ นึง ใช้วิธี "การให้" เป็นยาบำบัดในการรักษาอาการทางใจ ถ้ามีคนคิดและทำได้แบบเขาซัก 1 ล้านคน ก็น่าจะดี โลกเราจะได้น่าอยู่มากขึ้นกว่านี้ จากคุณ : ลูกโป่งสีน้ำเงิน เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 21:57:12

ความคิดเห็นที่ 38 ^ ^ ใจเย็นๆค่ะ คุณ i can't do it !! คุณอติวิชญ์ อาจจะไม่รู้จริงๆก็ได้ แผลกายเกิดจากการบาดเจ็บเพราะอุบัติเหต แผลใจเกิดจากการโดนทำร้ายจากสื่อ โดนคนเข้าใจผิด คล้ายๆที่คุณกำลังเข้าใจผิดแบบนี้แหล่ะค่ะ จากคุณ : habibe เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 21:59:17

ความคิดเห็นที่ 39   ทะ ทะ ทำไม ต้องถามว่า แผลกายนี่คือการที่เขาไปทำศัลยกรรม"จนเป็นเอเลี่ยน"ใช่ไหมครับ ทำร้ายจิตใจจังเลย TTTTTTT^TTTTTTT การที่เค้าไปศัลยกรรมแต่ละครั้งเนี่ย มันมีที่มาที่ไปนะคะ ไม่ใช่ว่า นึกอยากศัลก็ศัลเลย ใครจะอยากเจ็บตัวบ่อย ๆ อย่างเช่น ไปศัลยกรรมจมูก ก็เพราะ เกิดการผิดพลาดตอนโชว์น่ะค่ะ จมูกหัก แล้วก็คงเป็นเพราะเค้าเป็นคนเก่ง คนดี และที่สำคัญคือ เด่นและดัง ทำให้หลายคนจ้องจับผิด ไม่ว่าเค้าจะทำไร จริง ๆ ศัลยกรรมก็เป็นเรื่องธรรมดาแล้วนะ ดูอย่างนักร้องสมัยนี้ ใครบ้างที่ไม่ศัลยกรรมคะ ไม่เห็นมีใครพูดถึงเลย แล้วทำไมกะไมเคิล ต้องพูดถึงเรื่องนี้ตลอด เดี๋ยวนี้ใคร ๆ ก็ศัลยกรรมทั้งนั้นแหละค่ะ หรือว่าคุณหลุดมาจากโลกเมื่อหลายปีที่แล้ว ถึงเห็นว่าศัลยกรรมเป็นเรื่องแปลก จนต้องถามแบบนี้ ทำลายบรรยากาศดี ๆ ในกระทู้หมด   จะให้ดี อย่าใช้คำว่าเป็นเอเลี่ยนเลยค่ะ เสีย ความ รู้ สึก สุด ๆ "ส่วนแผลใจคือการที่เขามีปัญหากับเด็กผู้ชายไช่ไหมครับ" คือว่า ติดตามข่าวบ้างสิคะ ศาลก็ตัดสินว่าเค้าไม่ผิด ยังพูดถึงเรื่องนี้กันอยู่ได้ ลองตามอ่านเรื่องของไมเคิลในแง่มุมดี ๆ บ้างนะคะ จะได้รุ้ว่า คนอย่างไมเคิล ไม่กล้าทำร้ายใครหรอก   ไม่รู้ว่าแกล้งถาม หรือ อยากรู้จริง ๆ นะคะ แต่ควรใช้คำที่ดีกว่านี้นะ ถ้าอยากรู้จริง ๆ อ่ะ ใช้คำแบบนี้ทำร้ายความรู้สึกคนอื่นมากกกกกกกกกกกกกกกก เข้าใจแล้วใช่มั้ยคะ จากคุณ : sunblind เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 21:59:33

ความคิดเห็นที่ 40   *35 คำว่า "เอเลี่ยน" แรงนะคะ!! คุณพี่ เอล่ง เอเลี่ยน อะไรจะ "หล่อ" ขนาดนี้คะ คู๊ณณณ~~ คนเราจะ "หล่อ" ก็ไม่ใช่แค่ที่หน้าตานะคะ มันก็ต้อง "หล่อ" ออกมาจากจิตใจด้วย เคิลคนนี้นี่แหละค่ะ ที่หล่อทั้งหน้าตา และจิตใจ ฮิฮิ ^_____^,, ลองหาเรื่องเคิลมาอ่านดูนะคะ คุณพี่จะได้รู้เรื่องจริงกับเขาสักที จากคุณ : พี่ชายชื่อฮิเดะ เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 22:10:31

ความคิดเห็นที่ 41 เรารู้ว่าไมค์คงไม่สบายใจที่จะเห็นแฟนเพลงของเค้า ร้องไห้ โกรธแค้นเกลีบดชัง แต่..เราอดไม่ได้จริงๆที่จะรู้สึกอยากสาปแช่งคนพวกนั้นที่คิดแต่จะกอบโกยผล ประโยชน์ให้ตัวเองโดยไม่คำนึงถึงจิตใจคนอื่นบ้างเลย ไมค์เป็นคนอ่อนโยนเกินไป จึงทำให้เค้าเป็นเป้าหมายที่ดีที่สุด คิด กันแบบเป็นเหตุเป็นผล ถ้าไมค์มีรสนิยมทางเพศแบบนั้นจริงๆ มันคงไม่ได้มีเหยื่อแค่สองรายแน่นอน เด็กหลายสิบคนยืนยันว่าไมค์ไม่เคยแสดงออกในด้านนั้นเลย แต่กับเด็กสองคนนี้ ซึ่งคดีระยะห่างกันตั้ง 10 ปี ทั้งสองรายผู้ปกครองมีประวัติเป็นหนี้เป็นสินมากมาย แค่นี้ยังคิดกันไม่ออกอีกเหรอว่า คนพวกนี้มารีดไถเงินเท่านั้น เวลา เราถามคนเมกันบางคนว่าทำไมถึงปักใจเชื่อแบบนั้น เค้าตอบแค่ว่า เค้ามองว่าการนอนกับเด็กที่ไม่ใช่ลูกหลานของตนเป็นเรื่องแปลกมาก อย่างนี้คนในบ้านเราคงโดนคดีเพียบ เราก็นอนกับเด็ก มันหมายความว่าเราล่วงละเมิดทางเพศเด็กด้วยเหรอ ชีวิตผู้ชายคนนี้พังด้วยสื่อและผู้คนที่มักง่ายเห็นแก่ตัว และคนอเมริกันที่ตัดสินคนง่ายจนเกินไป (อย่างคุณคห.35 เป็นต้น) จากคุณ : rpgqueenii เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 22:11:16

ความคิดเห็นที่ 42 คหนี้ สำหรับไมค์นะคะ เผื่อว่าไมค์จะอ่านอยู่ข้างบนนั้น baby...you are always innocent...I believe in you always ..you are nothing but a kind, noble and beautiful human being....shame on those damm haters who made your life miserable !! I just HATE THEM so much!! :'( We your loyal fans will love you and keep you in our hearts forever! You are an irreplaceable genius.The one and only! I love you Mike.you truly are the King of pop!! :'( จากคุณ : rpgqueenii เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 22:21:05

ความคิดเห็นที่ 43 พยายามตอบ #35 อย่างข่มใจสุดๆแล้วนะคะ แต่เราแอบเคืองกับคำว่าเอเลี่ยนของคุณนะ สำหรับเราไมเคิลคือ Angel ค่ะ แผลทางกายเนี่ย มันเริ่มมาจากอุบัติเหตุที่เขาถ่ายทำโฆษณาเป๊ปซี่นั่นแหละค่ะ ไมเคิลโดนไฟคลอกที่ศรีษะและที่หน้า จนต้องใช้ศัลยกรรมเข้าช่วย ต่อมาเป๊ปซี่ได้ชดเชยค่าเสียหายให้ M.J ซึ่งเขาก็เอาไปบริจาคจนหมด (นี่คือสิ่งที่เราเรียกเขาว่า Angel ค่ะ ไม่ได้มาจากหน้าตาของเขา แต่มาจากจิตใจของเขามากกว่า) ต่อมาเขาเกิดอุบัติเหตุตกเวที ก็เลยต้องไปศัลยกรรมจมูกอีกรอบ ซึ่งการศัลยกรรมครั้งนี้มีปัญหาเหมือนกัน (อ่านเจอว่าทำไปสองรอบนะ) จน M.J ออกมาแสดงความกังวลว่า มันจะส่งผลต่อเสียงร้องเพลงของเขา (จนเขาต้องไปทำอีกรอบ เป็นรอบที่ 3) ส่วนเรื่องผิวของเขา เราว่าตั้งแต่ M.J จากไป เขารู้กันทั่วโลกแล้วนะคะว่า M.J เป็นโรคด่างขาว ซึ่งโรคนี้มันจะทำลายสีผิวของเขา เปลี่ยนเป็นขาวซีด Oparh เคยถาม M.J เรื่องนี้ในการสัมภาษณ์ ซึ่งเขาก็บอกไปแล้วว่า เขาเป็นโรคนี้ ช่วงแรกๆพยายามใช้ make up กลบ แต่ระยะหลังเป็นมาก จนใช้รองพื้นกลบไม่ไหว และถ้าคุณตามข่าวหน่อย คุณจะทราบว่า M.J เขาอับอายที่เขาเป็นโรคผิวหนังชนิดนี้มาก พยายามไม่ให้คนอื่นๆเห็นร่างกายของเขา M.J ได้ยอมรับเรื่องศัลยกรรมเหมือนกันว่า เขาไปทำมาสองครั้ง และถามกลับไปว่า ถ้าเขาให้คนในฮอลีวู๊ดที่เคยทำศัลยกรรมลาพักร้อนให้หมด คุณจะพบว่าไม่มีใครอยู่เดินอยู่บนถนนเลย ซึ่ง Oparh ก็ยอมรับว่าเห็นด้วย นอกจากนั้น M.J ถามกลับไปบ้างว่า เขาเป็นโรคด่างขาว แต่ทุกคนมองว่าเขาไม่ภูมิใจในชาติกำเนิดของตัวเอง ทั้งๆที่เขาบอกว่าคำพูดนี้มันทำร้ายเขา เขาภูมิใจที่เป็น Black American แล้วคนที่พยายามไปตากแดดเพื่อเปลี่ยนผิวให้กลายเป็นสีแทนล่ะ หมายความว่าไง ส่วนบาดแผลทางใจก็เรื่องคดีเด็กนั่นแหละ เรื่องนั้นเป็นการฆ่า M.J ให้ตายทั้งเป็นเลยทีเดียว และบทสรุปก็คือ ศาลตัดสินแล้วว่า M.J ไม่ผิด อธิบายมาตั้งยืดยาว หวังว่าคุณคงจะเข้าใจนะคะ จากคุณ : wanvisa เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 22:21:23

ความคิดเห็นที่ 44   ตั้งแต่เกิดมาเรายังไม่เคยเห็นใครที่ทำเพื่อคนอื่นได้เท่านี้มาก่อนเลย ไมเคิลเป็นผู้ชายที่งดงามทั้งภายนอกและภายในอย่างแท้จริง คิดถึงเสียงพูดเพราะๆนุ่มๆของเค้าจังเลย อยากย้อนเวลาได้จังเลยค่ะ จากคุณ : angelpuyin เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 22:26:27

ความคิดเห็นที่ 45   ขอบคุณสำหรับบทความนะค่ะ คุณ อติวิชญ์  ไปอยู่ถ้ำไหนมาค่ะ เรื่องศัยกรรมนี้ที่เค้าเริ่มทำเพราะเค้าเกิดอุบัติเหตุนะค่ะ แต่เราไม่ขอเถียงเรื่องนี้ เราคิดมันเป็นเรื่องส่วนตัวนะค่ะถ้าเค้าอยากจะทำมันก็เป็นเรื่องของเค้า คนที่ชอบว่าไมเคิลว่าทำศัลยกรรมจนหน้าเกลียดอยากให้คิดนิดนึงว่าเค้าอายุ50แล้วนะค่ะ จะให้หน้าเหมือนเมื่อก่อนคงเป็นไปไม่ได้ เราว่าหน้าเค้าก็เปลี่ยนไปตามอายุไข มีใครแก่แล้วหน้าตาดูดีขึ้นบ้าง แต่เรื่องละเมิดเด็กนี้ ศาลตัดสินว่าเค้าไม่ผิดทุกข้อหาเลย ปล อธิบายไปคุณก็ไม่เชื่ออยู่ดี ยังไงคุณลองลดอคติแล้วลองตามอ่านข่าวเค้าดูนะค่ะ จากคุณ : abc (catky) เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 22:33:32

ความคิดเห็นที่ 46   ทุกอย่างเป็นอย่างที่ทุกความเห็นข้างบนอธิบายค่ะ อยากให้เปิดใจรับฟังกันบ้าง จะเชื่อไม่เชื่ออยู่ที่วิจารณญาณของคุณเอง โตๆกันแล้ว สรุปว่าที่คุณ Better Off อุตส่าห์หามาให้อ่านนั้นไม่ได้ทำให้คุณอติวิชญ์รู้สึกเข้าใจไมเคิลมากขึ้นเลย ก็ไม่เป็นไรค่ะ มีคนอีกมากมายที่เข้าใจและเชื่อมั่นในตัวเค้า ดังที่มีหลายคห.ที่ post ก่อนคุณ ก็ไม่น่าทำร้ายจิตใจคนอื่นเลยค่ะ อันนี้พูดจริงๆ แล้วอีกอย่างเค้าเสียชีวิตไปแล้วค่ะ ขึ้นชื่อว่าผู้จากไปแล้ว เค้าก็ควรได้รับเกียรติ ไม่น่าไปใช้คำพูดที่ไม่ดีกับเค้าเลยค่ะ เมื่อวานเราฟังข่าวนักโทษประหาร เรายังรู้สึกแย่เลยค่ะ แล้วนี่ MJ เค้าเป็นคนดีค่ะ ดีจริงๆ แล้วก็ยิ่งใหญ่มากกว่าที่คุณสบประมาทเค้าเยอะ อยากบอกว่าคุณใจร้ายที่สุดเลย... จากคุณ : MyMike เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 22:59:29

ความคิดเห็นที่ 47 ไมเคิล เขาคือ ฮีโร่ ตัวจริง ฮีโร่ที่เราเคยมองหา เคยคิดว่านอกจากในหนังแล้ว ฮีโร่จะมีตัวตนจริง ๆ ไหม แล้วเราก็ได้พบว่า เขานี่แหละคือ ฮีโร่ในแบบที่เราตามหา ทั้งความเก่ง จิตใจ และพลังอันมหาศาล พลังที่ต้องการช่วยเหลือทุก ๆ คนบนโลกเท่าที่เขาจะสามารถทำได้ ทำโดยไม่ได้หวังคำสรรเสริญเยินยอ หน้าตาก็ดี เสียงพูดกับเสียงร้องเพราะเหลือเกิน พรสวรรค์ พรแสวง ความเป็นอัจฉริยะที่อีกกี่ร้อยปีจะได้เจอกับคนแบบนี้ อย่าว่าแต่เจอเลยจะมีหรือเปล่ายังไม่รู้เลย แม้เขาจะจากไปแล้ว แต่ความดีของเขาจะยังคงอยู่ เขาทำเพื่อโลกและทุก ๆ คนมามากพอแล้ว  ถึงเวลาที่เขาจะต้องกลับไปพักแล้ว นับจากนี้ไปพวกเราจะเป็นคนสานต่อสิ่งที่เขาได้ทำเอาไว้ และปรารถนาให้ทุก ๆ คน ทำนั่นคือ "การให้" การรู้จักแบ่งปัน การช่วยเหลือกัน การรวมเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน เพื่อให้โลกและสังคมของเราน่าอยู่ และเพื่อเป็นการตอบแทนไมเคิล ตอบแทนในสิ่งที่เขาเพียรพยายามทำมาโดยตลอด  รักคุณนะ MJ แก้ไขเมื่อ 25 ส.ค. 52 23:24:44 แก้ไขเมื่อ 25 ส.ค. 52 23:22:48 แก้ไขเมื่อ 25 ส.ค. 52 23:21:00 จากคุณ : ลูกโป่งสีน้ำเงิน เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 23:16:30

ความคิดเห็นที่ 48 *35 แนะนำนะคะ วันหลังถ้าคุณไม่รู้อะไรจริงๆ ก็ถามตรงๆเฉพาะที่ไม่รู้ก็ได้ ไม่จำเป็นจะต้องเสริมแต่งอะไรที่มันไม่น่าฟังและดูเหมือนจงใจแบบนี้ ว่าแต่ คุณได้อ่านรึเปล่า??? เพราะสิ่งที่คุณอยากรู้ มันก็บอกอยู่ในบทความนี้แล้วนะ... จากคุณ : RockwithU เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 23:19:58

ความคิดเห็นที่ 49 ฝากกระทู้นี้ด้วยค่ะ อยากให้อ่านกันเยอะ ๆ นะคะ ถ้าหากใครอ่านแล้วยังมีอคติกับไมเคิลอยู่ ก็แล้วแต่ค่ะ คงไม่ไหวจะอธิบายแล้ว http://www.pantip.com/cafe/chalermkrung/topic/C8204967/C8204967.html จากคุณ : NattMJ (jian1975) เขียนเมื่อ : 26 ส.ค. 52 00:51:20

ความคิดเห็นที่ 50 #35  คุณตัดสินไมเคิลไปแล้วค่ะ  คุณตัดสินที่จะเชื่ออย่างที่คุณพิมพ์ออกมา ทุกคำที่คุณพิมพ์มันบ่งบอกอยู่แล้วว่าคุณคิดยังไง  เราเองก็คงไม่แน่ใจว่าคุณอยากจะรู้จริงๆหรือเปล่าตามที่พิมพ์ไหม  เพราะถ้าคุณอยากรู้จริงมีหลายความเห็นได้อธิบายเรื่องการศัลยกรรมไปแล้ว รวมทั้งคดีตุ๋ยเด็กด้วย เราคงไม่ขอร้องให้คุณเชื่อในสิ่งที่หลายๆคนพยายามจะอธิบาย เพราะมันเป็นสิทธิของคุณ  แต่ถ้าคุณอยากจะรู้จักหรือ"รัก"ใครสักคนให้ลึกซึ้ง  คุณก็ควรที่จะศึกษาเค้าอย่างแจ้งชัด  แล้วค่อยมาตัดสินที่จะเกลียดหรือว่ารักค่ะ ***ปล*** เรารู้ว่าคุณกำลังติดตามอ่านอยู่ใช่ไหมค่ะ จากคุณ : Cat_eyes เขียนเมื่อ : 26 ส.ค. 52 01:50:29

ความคิดเห็นที่ 51   เฮ้อ...คุณ อติวิชญ์ จริงๆไม่ต้องเข้ามาก็ได้นะคะ ไม่รู้ไปอยู่ไหนมา สงสัยมีข่าวสารแต่ไม่เคยอ่าน ทั้งๆที่เขาก็มีให้อ่านเยอะแยะ จากคุณ : mindfields เขียนเมื่อ : 26 ส.ค. 52 01:54:53

ความคิดเห็นที่ 52 เศร้ากับการที่ต้องมารับรู้เรื่องราวดีๆ ของเค้า ว่าแ่ต่คุณคนนั้นอะ มาทำไมเนี่ย มาผิดห้องป่าวคะ ข่าวดีๆมีตั้งเยอะนะ หาอ่านง่ายออก  อย่าตัดสินใครเพียงเพราะแค่คุณฟังมา แก้ไขเมื่อ 26 ส.ค. 52 02:42:41 จากคุณ : goldenfish (goldenfisho) เขียนเมื่อ : 26 ส.ค. 52 02:37:40

ความคิดเห็นที่ 53   ความห็น 35 ทัศนคติของคุณนี่มันแย่มากๆ จากคุณ : แม่น้ำนิรันดร์ เขียนเมื่อ : 26 ส.ค. 52 09:00:19

ความคิดเห็นที่ 54   คห 35 ผมจะบอกเพื่อนๆ ว่า ไม่ต้องเสียเวลาไปอธิบายอะไรให้เขาฟังหรอก เพราะถ้าใครได้เห็น คุณ อติวิชญ์ ตอบกระทู้ที่ห้อง เฉลิมไทย ก็จะเห็นว่าเอาแต่เหน็บ ประชด ประชัน แดกดัน คนอื่น มันสันดานที่จะยากขุดซะแล้ว อย่าเสียเวลาไปกับคนที่จิตไม่ปกติแบบนี้เลยดีกว่า จากคุณ : แมวละเมอ เขียนเมื่อ : 26 ส.ค. 52 11:22:06

ความคิดเห็นที่ 55 อ่านแล้วเศร้าหนักไปอีก .... จากคุณ : zeasky เขียนเมื่อ : 26 ส.ค. 52 11:43:57

ความคิดเห็นที่ 56 อ่านมาดีๆ สะดุดที่ 35   นี่ยังมีึคนบ้าหลุดมาเพ่นพ่านที่นี่อีกเหรอเนี่ย จากคุณ : แก้มน้อยกลอยใจ เขียนเมื่อ : 26 ส.ค. 52 12:46:00

ความคิดเห็นที่ 57 กลับมาอ่านคห.17 อีกที รู้สึกอยากร้องไห้อ่ะค่ะ จากคุณ : rpgqueenii เขียนเมื่อ : 26 ส.ค. 52 22:29:30

ความคิดเห็นที่ 58 #35 คุณหมายถึงบท Agent M ใช่มั้ยคะ พยายามมองคุณในแง่ดีนะ ^^ จากคุณ : ตุ๊งเหน่งเต็งนุ้ง (ปานิปานิ) เขียนเมื่อ : 26 ส.ค. 52 22:46:14

ความคิดเห็นที่ 59   ไม่ชอบคห.35 เลย.. จากคุณ : NUI+MJ เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 52 22:21:16 A:125.26.219.192 X: TicketID:228993

ความคิดเห็นที่ 60   Love MJ ครับผม จากคุณ : FiRSTKUNGO (first900) เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 52 14:07:21

ความคิดเห็นที่ 61   คห. 35 ไร้สมอง!! ถึงคุณจะมีอคติกับไมเคิลก็ไม่สมควรมาพาลกันให้มันเสียบรรยากาศ ถ้าบอร์ดเป็นสถานที่นะ ผมว่าคุณคงจมกองเท้าคนทั้งโลกไปแล้วหละ จากคุณ : QiA (first900) เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 52 14:16:56

ความคิดเห็นที่ 62   อยากรู้ว่าที่mj เลิกกับลิซ่า มีผลกระทบกับ mj อย่างไรบ้างเพราะดูเค้าก็รักกันมากน๊ะ ใครรู้ช่วยบอกที จากคุณ : korn เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 52 20:39:43 A:114.128.136.151 X: TicketID:234734