Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
<<<<< ดูแล้วมาคุยกัน ... Inglourious Basterds , ความเด็ด 7 ประการที่ผมปลื้ม ก๊วนไอ้ตัวแสบ กับ นักล่ายิว >>>>>  

  ชอบมาก ห้ามพลาด (60 คน)
  ชอบ (15 คน)
  เฉยๆ (6 คน)
  ไม่ชอบ (0 คน)
  ไม่ชอบมาก เสียดายตังค์ (1 คน)

 73.17%
  ชอบมาก ห้ามพลาด (60 คน)
 18.29%
  ชอบ (15 คน)
 7.32%
  เฉยๆ (6 คน)
 0.00%
  ไม่ชอบ (0 คน)
 1.22%
  ไม่ชอบมาก เสียดายตังค์ (1 คน)

จำนวนผู้ร่วมโหวตทั้งหมด 82 คน


เลือกอ่านบทความนี้พร้อมรูป + อ่านความเห็นอื่นๆ + ชวนมาแสดงความเห็นกันต่อที่ http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=aorta&month=08-2009&date=24&group=14&gblog=176



... ชื่อ Inglourious Basterds ไม่ได้สะกดผิด คำแรก เควนตินบอกเป็นศัพท์เฉพาะภาษาหนัง ส่วนคำหลังเขาก็ตั้งใจ เปลี่ยนจาก a เป็น e เพื่อล้อ หนังอิตาลี Inglorious Bastards ที่เกี่ยวกับ ทหารกลุ่มหนึ่งสู้กับนาซี แต่มีพล็อตไม่เหมือนกัน

Inglourious Basterds เปิดฉากที่ฝรั่งเศสในยุคนาซีครองเมือง กองทัพนาซีส่ง นายทหารเจ้าของฉายา นักล่ายิว ไล่จับยิวที่เล็ดรอด กาลครั้งนั้นยังมีกลุ่มคนที่ใช้ชื่อกลุ่มว่า Inglourious Basterds และ หน้าที่ของพวกมันคือ ไล่ฆ่าแล้วถลกหนังหัวนาซี



rocks Chapter one : หนังเควนติน


... ความฉลาด-แสบ- กวน-มันส์ , บทพูดพล่าม กับ วิธีการเล่าเรื่องแบบไม่เรียงลำดับตามสูตรสำเร็จ รวมกับเป็นความสนุกถึงใจ คือ เอกลักษณ์ของหนังเควนตินที่แฟนๆชื่นชอบ

Inglourious Basterds เก็บองค์ประกอบข้างบนได้ครบ ถูกส่งขึ้นหิ้งเดียวกับหนังเควนตินในอดีตกาลที่ผมชอบอย่าง Pulp fiction , Reservoir Dogs , Kill Bill 2 และ Death Proof

สองเรื่องแรกคงไม่ต้องพูดถึงความเยี่ยมยอดที่ใครๆก็พูดกัน แต่ที่ตัวเองแหกคอกมาชอบ Death Proof เพราะถึงหนังมัน พูดมากกกกกก จริงๆในครึ่งแรก แต่ หลายฉากก็ถ่ายทำได้อย่างเจ๋งเป้งเช่น ฉากประสานงา

และ ถ้าสามารถอดทนดูจนจบ ยี่สิบนาทีสุดท้ายของการเอาคืนเหมือนการได้ระบายความสะใจที่เก็บกดมาอย่างเต็มที่ ทำให้เกิดบรรรยากาศ คนในโรงผิวปากตบมือ ที่ไม่ได้เจอในโรงหนังมาตั้งนานแล้ว

ส่วนที่ไม่ได้ปลื้ม Kill Bill ภาคแรกมากเท่าสี่เรื่องข้างต้น เพราะมันยังไม่ให้อารมณ์ดิบแรงๆสะใจได้มากพอ บวกกับ เนื้อเรื่องเป็นเส้นตรงที่ยังเดาได้ ผิดกับทุกเรื่องๆของหนังเควนติน ที่คนดูจะสนุกเพราะมันไม่ได้ตามสูตร

เราเดาไม่ได้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เดาไม่ได้ว่าใครจะอยู่หรือจะตาย ทั้งตัวร้ายกับตัวดีมีโอกาสพอๆกัน บางเรื่องตัวละครเด่นสูสีมีทั้งดีทั้งชั่วจนแยกไม่ได้ชัดๆว่าพระเอกคือคนไหน

และ การเดาไม่ได้นี่เอง ทำให้ Inglourious Basterds เป็นหนังเกี่ยวกับแผนโค่นล้มนาซี ที่ฉีกตัวต่างจากเรื่องอื่นๆที่ทุกคนรู้ตอนจบของเหตุการณ์นี้ดี ซึ่งปัจจัยนี้มีส่วนให้สนุกน้อยลง เช่น Valkyrie ที่ถึงจะกำกับฉากช่วงแผนสังหารท่านผู้นำได้อย่างลุ้นแทบหยุดหายใจ แต่มันก็ลดทอนความน่าสนใจไปประมาณหนึ่งจากการที่เรารู้บั้นปลายไปแล้ว

แต่ เมื่อเป็น เควนติน ทำหนังสงครามนาซี-ยิว แล้วคุณพี่ฉีกประวัติศาสตร์สร้างบทละครชีวิตขึ้นมาใหม่ ทุกอย่างจึงเกิดขึ้นได้โดยทุกตัวละครมีสิทธิตายเท่าเทียมกัน ทุกฝ่ายมีสิทธิแพ้หรือชนะเหมือนกัน จึงทำให้เราสนุกลุ้นไปกับมันด้วย

(หมายเหตุ:ท่านผู้นำใน Inglourious Basterds กับ Valkyrie เหมือนมาจากคนละโลกกันอย่างสิ้นเชิง)

 
 

จากคุณ : "ผมอยู่ข้างหลังคุณ"
เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 11:03:48




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com