|
<<<<< ดูแล้วมาคุยกัน ... Inglourious Basterds , ความเด็ด 7 ประการที่ผมปลื้ม ก๊วนไอ้ตัวแสบ กับ นักล่ายิว >>>>>
|
|
| | | | | | | | | ไม่ชอบมาก เสียดายตังค์ (1 คน) |
|
| |
| | | | | ชอบมาก ห้ามพลาด (60 คน) | | | | ชอบ (15 คน) | | | | เฉยๆ (6 คน) | | | | ไม่ชอบ (0 คน) | | | | ไม่ชอบมาก เสียดายตังค์ (1 คน) | | | จำนวนผู้ร่วมโหวตทั้งหมด 82 คน |
เลือกอ่านบทความนี้พร้อมรูป + อ่านความเห็นอื่นๆ + ชวนมาแสดงความเห็นกันต่อที่ http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=aorta&month=08-2009&date=24&group=14&gblog=176
... ชื่อ Inglourious Basterds ไม่ได้สะกดผิด คำแรก เควนตินบอกเป็นศัพท์เฉพาะภาษาหนัง ส่วนคำหลังเขาก็ตั้งใจ เปลี่ยนจาก a เป็น e เพื่อล้อ หนังอิตาลี Inglorious Bastards ที่เกี่ยวกับ ทหารกลุ่มหนึ่งสู้กับนาซี แต่มีพล็อตไม่เหมือนกัน
Inglourious Basterds เปิดฉากที่ฝรั่งเศสในยุคนาซีครองเมือง กองทัพนาซีส่ง นายทหารเจ้าของฉายา นักล่ายิว ไล่จับยิวที่เล็ดรอด กาลครั้งนั้นยังมีกลุ่มคนที่ใช้ชื่อกลุ่มว่า Inglourious Basterds และ หน้าที่ของพวกมันคือ ไล่ฆ่าแล้วถลกหนังหัวนาซี
Chapter one : หนังเควนติน
... ความฉลาด-แสบ- กวน-มันส์ , บทพูดพล่าม กับ วิธีการเล่าเรื่องแบบไม่เรียงลำดับตามสูตรสำเร็จ รวมกับเป็นความสนุกถึงใจ คือ เอกลักษณ์ของหนังเควนตินที่แฟนๆชื่นชอบ
Inglourious Basterds เก็บองค์ประกอบข้างบนได้ครบ ถูกส่งขึ้นหิ้งเดียวกับหนังเควนตินในอดีตกาลที่ผมชอบอย่าง Pulp fiction , Reservoir Dogs , Kill Bill 2 และ Death Proof
สองเรื่องแรกคงไม่ต้องพูดถึงความเยี่ยมยอดที่ใครๆก็พูดกัน แต่ที่ตัวเองแหกคอกมาชอบ Death Proof เพราะถึงหนังมัน พูดมากกกกกก จริงๆในครึ่งแรก แต่ หลายฉากก็ถ่ายทำได้อย่างเจ๋งเป้งเช่น ฉากประสานงา
และ ถ้าสามารถอดทนดูจนจบ ยี่สิบนาทีสุดท้ายของการเอาคืนเหมือนการได้ระบายความสะใจที่เก็บกดมาอย่างเต็มที่ ทำให้เกิดบรรรยากาศ คนในโรงผิวปากตบมือ ที่ไม่ได้เจอในโรงหนังมาตั้งนานแล้ว
ส่วนที่ไม่ได้ปลื้ม Kill Bill ภาคแรกมากเท่าสี่เรื่องข้างต้น เพราะมันยังไม่ให้อารมณ์ดิบแรงๆสะใจได้มากพอ บวกกับ เนื้อเรื่องเป็นเส้นตรงที่ยังเดาได้ ผิดกับทุกเรื่องๆของหนังเควนติน ที่คนดูจะสนุกเพราะมันไม่ได้ตามสูตร
เราเดาไม่ได้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เดาไม่ได้ว่าใครจะอยู่หรือจะตาย ทั้งตัวร้ายกับตัวดีมีโอกาสพอๆกัน บางเรื่องตัวละครเด่นสูสีมีทั้งดีทั้งชั่วจนแยกไม่ได้ชัดๆว่าพระเอกคือคนไหน
และ การเดาไม่ได้นี่เอง ทำให้ Inglourious Basterds เป็นหนังเกี่ยวกับแผนโค่นล้มนาซี ที่ฉีกตัวต่างจากเรื่องอื่นๆที่ทุกคนรู้ตอนจบของเหตุการณ์นี้ดี ซึ่งปัจจัยนี้มีส่วนให้สนุกน้อยลง เช่น Valkyrie ที่ถึงจะกำกับฉากช่วงแผนสังหารท่านผู้นำได้อย่างลุ้นแทบหยุดหายใจ แต่มันก็ลดทอนความน่าสนใจไปประมาณหนึ่งจากการที่เรารู้บั้นปลายไปแล้ว
แต่ เมื่อเป็น เควนติน ทำหนังสงครามนาซี-ยิว แล้วคุณพี่ฉีกประวัติศาสตร์สร้างบทละครชีวิตขึ้นมาใหม่ ทุกอย่างจึงเกิดขึ้นได้โดยทุกตัวละครมีสิทธิตายเท่าเทียมกัน ทุกฝ่ายมีสิทธิแพ้หรือชนะเหมือนกัน จึงทำให้เราสนุกลุ้นไปกับมันด้วย
(หมายเหตุ:ท่านผู้นำใน Inglourious Basterds กับ Valkyrie เหมือนมาจากคนละโลกกันอย่างสิ้นเชิง)
จากคุณ |
:
"ผมอยู่ข้างหลังคุณ"
|
เขียนเมื่อ |
:
25 ส.ค. 52 11:03:48
|
|
|
| |