|
ความคิดเห็นที่ 57 |
คุณพี่ข้างบน ใช่เลยเจ้าค่ะ ขอบคุณมากๆเลยที่เอามาแปะ อิอิ เด๋วหนูขึ้นไปแก้ข้างบนเน้อ . ต่อๆพิมพ์ไปแปะไป อิอิ . เดือนกันยาแปลความหมายของเพลงหวานหูที่ได้ฟังมาแต่ครั้งยังเยาว์ก็ให้ได้ซาบซึ้งกับความหมายหวานๆที่ซ่อนอยู่ เธอสะดุดหูกับเพลงท่อนหนึ่งที่เอ่ยถึงใบโครเว่อร์ I'll love you 'til the bluebells Forget to bloom I'll love you 'til the clover Has lost its perfume And I'll love you 'til the poets Run out of rhyme Until the Twelfth of Never And that's a long, long time ฉันจะรักเธอจนกว่าดอกบลูเบลจะลืมบาน ฉันจะรักเธอจนกว่าใบโคลเว่อร์จะสุญเสียความหอม ฉันจะรักเธอจนกว่าบทกวีจะสิ้นความคล้องจอง จนกระทั่งกาลเวลาที่ไม่สิ้นสุด นั่นหมายถึงตราบนานเท่านาน........ . ครั้งแรกเดือนกันยายังนึกว่าเป็นเพลงที่บอกความนัยถึงหญิงสาวซึ่งเป็นรักแรกของผู้เป็นพ่อ เพราะเมื่อถามถึงที่มาของเพลงก็ไม่เคยได้รับคำตอบใดๆนอกจากสีหน้าครุ่นคิดและสำนึกผิด แต่เธอก็ไม่ได้ใส่ใจนัก ต่อเมื่อได้ศึกษาเนื้อเพลงก็พบว่าใบโคลเว่อร์มีอยู่ในไทย นั่นคือพืชตระกูลผักแว่นนั่นเอง ตามความเชื่อของฝรั่ง เชื่อว่าหากเก็บใบโคลเว่อร์สีแฉก (ซึ่งปกติมีสามแฉก)ได้จะโชคดี เดือนกันยาเพียรไปหาใบโคลเว่อร์สี่แฉกมาเก็บไว้จนได้หนึ่งใบ เธอเก็บด้วยการเคลือบและพกติดตัวด้วยเชื่อว่าใบไม้สีเขียวใบเล็กๆนี้จะนำโชคมาแก่เธอ โชคที่จะพาเธอหลุดออกไปจากแรงเหวี่ยงของระบบสุริยะจักรวาลของผู้เป็นแม่ . อีกฟากหนึ่งของประเทศ หลังจากที่ภรรยาคุณสมหมายคลอดลูกชายหน้าตาหล่อเหลาคมคายแล้วก็เสียชีวิต ทิ้งไว้แต่ลูกชายรูปหล่อให้คุณสมหมายไว้ดูต่างหน้า ก่อนจะสิ้นใจภรรยาคุณสมหมายได้บอกเล่าความจริงต่อคุณสมหมายว่า ได้รับเงินทำคลอดและเงินตั้งตัวจำนวนหนึ่งจากคุณสมศักดิ์ ทำให้คุณสมหมายละอายใจที่เข้าใจผิดคุณสมศักดิ์มาแสนนานเรื่องที่ว่าคุณสมศักดิ์ไม่มีน้ำใจ คุณสมหมายทำอาชีพเปิดอู่ซ่อมรถเล็กๆที่ลุ่มๆดอนๆ ยิ่งหลังจากเสียภรรยาไปก็ยิ่งกลายเป็นคนขี้เมาหนักเข้าไปใหญ่ อาศัยว่าเป็นอู่ๆเดียวในหมู่บ้าน จึงอยู่รอดมาได้จนทุกวัน อาทิตย์ ลูกชายของคุณสมหมาย ถูกเลี้ยงมาด้วยความยากลำบากแร้นแค้น อาทิตย์เป็นเด็กหนุ่มที่มีความรับผิดชอบและวุฒิภาวะเกินตัว เค้าตั้งใจเรียนและพยายามถีบหนีชีวิตอย่างที่ผู้เป็นพ่อเผชิญอยู่ พ่อผู้ซึ่งมีเหล้าหล่อเลี้ยงชีวิต และร้องไห้ทุกครั้งเมื่อเปิดเพลง เดอะ ทเวลฟ์ ออฟ เนเว่อร์ ของดอนนี่ ออสมอนด์ คุณสมหมายผู้ซึ่งไร้ซึ่งแรงจูงใจที่จะมีชีวิตอยู่ พยายามอย่างที่สุดที่จะมีชีวิตอยู่เพื่อที่จะได้เอ่ยขอโทษกับคุณสมศักดิ์เพื่อนรักซักครั้ง อาทิตย์ทำงานซ่อมรถที่อุ่และงานอีกสารพัดเพื่อส่งเสียตัวเองเรียน เพราะจะหวังพึ่งพ่อคงยากลำบาก หลังๆกลายเป็นว่าอาทิตย์ทำงานจุนเจือครอบครัวด้วยซ้ำ (พระเอกเป็นหนุ่มสู้ชีวิตนะคะ) เค้าจะไม่จบความปรารถนาที่จะเรียนแค่ชั้น ปวช.วิทยาลัยเทคนิค เค้าจะต้องไปให้สุงกว่านั้น อาทิตย์จึงเข้าไป เอ็นทรานซ์ ที่กทม.(ไม่รู้สมัยนี้ยังเป็นหรือเปล่านะคะ แต่สมัยอิฉัน ถ้าจะสอบวิชาเฉพาะ ต้องเข้าไปสอบที่ กทม.เท่านั้นอะ และก็ตอนนี้จากพศ.2499 เรื่องดำเนินมาจนถึงพศ.2540แล้วนะเออ)โดยเลือก คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยใกล้บ้าน ในระหว่าเข้าไปสอบ อาทิตย์ก็ไปเป็นมาเร็วขับมอเตอร์ไซด์ส่งคนขึ้นตามสถานีรถไฟสำหรับผู้ตกรถไฟที่หัวลำโพงอีกด้วย(รายได้งามเชียวค่ะ อันนี้ประสบกับตัวเองเมื่อครั้งตกรถไฟไปเชียงใหม่มาหมาดๆ ได้ไปขึ้นอีกทีที่สถานีบางเขนค่ะ สามร้อยห้าสิบบาทถ้วนค่ะ) ในขณะที่เดือนกันยาถูกคุณรัศมีบังคับให้เลือกเอ็นทรานซ์เข้าคณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ ด้วยเหตุผลที่ว่า คุณหญิงคนใหนๆก็เรียนคณะนี้กันทั้งนั้น สเดือนกันยาได้แต่เบ้ปากและรับปากกับแม่ว่าจะลงสอบวิชานี้ให้ได้ แต่เธอแอบสมัครเอ็นท์ฯในคณะสถาปัตย์ฯในมหาวิทยาลัยต่างจังหวัดทั้งสิ้นสี่อันดับ โดยไม่ให้คุณรัศมีรู้
แก้ไขเมื่อ 30 ส.ค. 52 15:42:54
จากคุณ |
:
หางเปีย หูหมา
|
เขียนเมื่อ |
:
30 ส.ค. 52 15:04:43
|
|
|
|
|